คำตอบที่ 1
       18000 พิมพ์ไม่ผิดนะครับ หมื่นแปดพันบาทจ้า ราคาทั้งชุดครับ

คำตอบที่ 2
       แนะนำว่าให้ซื้ออะไหล่ มาจะถูกกว่ามากแล้วให้อู่ที่มีความชำนาญเปลี่ยนให้ ค่าแรงประมาณ 1500-2000บาท ค่าอะไหล่มี โซ่+ ชุดดันโซ่ +เฟืองบน+เฟืองล่าง รวมแล้วไม่เกิน6000บาท(ของแท้) เพราะตอนนี้ผมกำลังนำโซ่ไป
เปลียนอยู่ครับ โทรมาคุยแลกเปลี่ยนความรู้ได้ครับ 0896865880

คำตอบที่ 3
       ตั้งโซ่หรือเปลี่ยนโซ่ครับ ถ้าดังก้อต้องเปลี่ยนอย่างเดียวคับ มันจะมีตัวปรับตั้งอยู่แล้วภายในเครือง

คำตอบที่ 4
       ขับกีโลแล้วครับ ที่ว่ามีเสียงดังเพื่อเปนความรู้ครับ

คำตอบที่ 5
       ขับมาได้จะแสนโลแล้วครับ ต้องเปลี่ยนอย่างเดียวใช่ไหมครับเนี่ย

คำตอบที่ 6
       ปกติคู่มือจะต้องเปลี่ยนที่ระยะ 100000 กม.ครับ แต่ของผมเปลี่ยนตอน 170000 กม. ทั้งๆที่ยังไม่มีเสียงดังหรืออาการอะไรเลย เพื่อความสะบายใจครับ....ค่าใช้จ่ายเฉพาะชุดโซ่(ครบทุกอย่าง ทั้งโซ่ ชุดดันโซ่ เฟืองบน เฟืองล่าง และค่าแรง) ประมาณ15000 บาท แต่ผมถือโอกาศเปลี่ยนปั้มน้ำด้วย ก็บวกไปอีก พร้อมกับเปลี่ยนถ่าย ของเหลวอื่นๆตามระยะครับ....โดยส่วนตัวผมเข้า0 ทุกครั้งเพราะมีการรับประกันเมื่อเกิดปัญหาขึ้น...และมีประวัติของรถชัดเจน ทาง0 จะลงบันทึกไว้ จะให้จำเองว่า จะต้องทำอะไรบ้างในระยะเท่าไหร่...จำม่ายไหวแก่แล้วครับ

คำตอบที่ 7
       ถ้าเอาถูกก็ทำอู่นอกเอาสบายใจได้ประกันก็เข้าศูนย์โซ่มีตัวตั้งออโต้เป็นสปริงดันเมื่อโซ่ยืดสุดก็เปลี่ยนอย่างเดียวครับไม่ต้องตั้งเอง

คำตอบที่ 8
       หมายความว่า ยังไม่ต้องเปลี่ยนที่ 100,000 โล ใช่ไหมครับ รอให้ดังแล้วค่อยเปลี่ยน
อีกคำถาม ถ้าดังแล้วนี้ รถจะวิ่งได้อีกกี่โลครับ ถึงจะขาด

คำตอบที่ 9
      
ผมไปที่ 0 มา 221300โล ทำไป 18500 ทิ้งรถ 1วัน
กลับมาวิ่งเสียงดังเหมือน TFR กลับไปเเก้งาน 3 วัน
ช่างบอกว่าเป็นที่ปั้ม ทั้งที่ผึ่งทำมาไม่ถึงเดือน งง จริง
เกือบไม่มีรถใช้ตอนปีใหม่ ช่างบอกว่าลองเอาไปใช้ก่อน
ไป ภูหินร้องกล้า ขับไปกลัวไป สรุปเเล้วกลับมาเเก้ 4 วัน
เอาช่าง มาจาก 0 นวนคร เวรตอนนี้ ยังไม่หายเลย
เปลี่ยนข้างนอก ไม่เกิน 6500 ครับ

คำตอบที่ 10
       ผมใช้ g-wagon คันนึง กับ dmax อีกคันนึง
เข้าศูนย์ mitsu ช่างบอกว่าต้องเปลี่ยนโซ่ราวลิ้นตอน 100000 km
เข้าศูนย์ isuzu ช่างบอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนโซ่ราวลิ้นตลอดอายุการใช้งาน
ถามที่มิตซูว่าทำไมอีซูซุบอกว่าไม่ต้องเปลี่ยน เค้าทำหน้างงๆ ว่าเป็นไปได้ยังไง
ถามที่อีซูซุว่าทำไมมิตซูบอกว่าต้องเปลี่ยนทุก 100000 km เค้าบอกว่าสงสัยโซ่ของมิตซูคุณภาพต่ำมั๊ง
ตกลงมันยังไงครับใครรู้ช่วยบอกที เพราะ 2 คันของผมเป็นโซ่เหมือนกันไม่รู้จะใช้มาตรฐานไหนดี
หรือคันอีซูซุไม่ต้องเปลี่ยน แต่คันมิตซูต้องเปลี่ยน ก็แสดงว่าโซคุณภาพต่างกันจิงๆเหรอครับ

คำตอบที่ 11
       จากหลายๆ ข้อความที่อ่านมา ผมสรุปเอาเองว่า ถ้ามันดีๆอยู่ ก็อย่าไปยุ้งกับมัน หมั่นดูแลสังเกตุ แสดงอาการเมื่อไหร่ค่อยจัดการ ดีกว่าอยู่ดีๆไปจัดการให้มันเป็นเรื่อง..เนาะ

คำตอบที่ 12
       ผมดูสภาพโซ่ที่ถอดออกมาแล้ว ไม่น่าจะขาดง่ายๆหรอกครับ...แต่การใช้งานจะทำให้มันยืดออกไปเรื่อยๆ...ตัวดันมันก็จะดันให้โซ่ตึงอยู่เสมอ พอถึงระยะหนึ่ง มันก็ไปเสียดสีกับส่วนอื่นๆภายในเกิดเสียงดัง และสึกหรอตามมา....นานแค่ไหน...ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาเครื่องยนต์โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนถ่าย น้ำมันเครื่องที่ตรงเวลา จะช่วยได้มากๆครับ... ส่วนคุณภาพโซ่มิตซู กับอีสุ ไม่ขอวิจารครับ...เดิมผมก็ใช้อีสุมา 10 ปี ไม่ได้เปลี่ยนโซ่เหมือนกัน แต่เครื่อง อีสุจะดังมาก และมากขึ้นตามอายุการใช้งาน อีสุอาจไม่ระบุในเสปคการเปลี่ยนก็ได้ อันนี้เป็นเทคนิคทางการตลาดหรือไม่ผมม่ายทราบจริงๆครับ...

คำตอบที่ 13
       ช่างที่ศูนย์บอกแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ตลอด จะสามารถยืดระยะการเปลี่ยนโซ่ไปจนลืมเลยจนกว่าจะมีเสียงดัง

คำตอบที่ 14
       ขอเสริมนิดนึงครับของผมอีก1000ครบ
2แสน ผมฝังเสียงไม่ออกว่าระหว่างเครื่งกับโซ่มันดังยังไง
อยากรู้คร่าวๆครับ

คำตอบที่ 15
       ผมก็ไม่เคยได้ยินครับคุณแบดแมน...ว่ามันดังยังไง...แนะนำครับถ้าเปลี่ยนโซ่ก็ควรต้องเปลี่ยนปั้มน้ำทีเดียวกันเลยจะดีกว่าครับ...ไม่ต้องรื้อเครื่อง2 ครั้ง...