WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


PPP ขอความช่วยเหลือจาก อ.วอน ครับ PPP

จาก Pom Cronos
IP:58.181.157.122

พฤหัสบดีที่ , 11/6/2552
เวลา : 10:02

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ตรวจเช็คหลายอย่างแล้ว โครโนสก็ยังสตาร์ทไม่ติด ???

รถผม โครโนส ปี 93 5 ป. 4 สูบ เกียร์ออโต้ ใช้น้ำมันอย่างเดียว มีอาการดังนี้ครับ

เช้าวันพฤหัสฯ ขับรถไปทำงานจอดรอไฟแดง เครื่องดับ สตาร์ทใหม่ติดทันที วิ่งได้ปกติ ถึงที่ทำงาน เดินหน้า - ถอยหลัง เข้าที่จอด เครื่องดับและสตาร์ทใหม่ติด 2 - 3 ครั้ง
เย็นขับออกจากที่ทำงานประมาณ 200 เมตร เครื่องดับ สตาร์ทใหม่ติด ขับถึงบ้าน

เช้าวันศุกร์ ขับออกจากบ้าน รอลูกปิดประตูบ้าน เครื่องดับสตาร์ทไม่ติด เดินไปส่งลูกขึ้นมอเตอร์ไซค์ปากซอย กลับมาสตาร์ทติด จึงขับรถเข้าบ้าน ลองดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ ติดประมาณ 30 วินาที แล้วดับ สตาร์ทไม่ติดอีกเลย

การแก้ไขขั้นแรก
คิดเอาเองว่ากรองเชื้อเพลิงอาจตัน เพราะซื้อรถมา 2 ปีกว่าแล้ว ยังไม่เคยเปลี่ยน
จึงไปซื้อของเทียบมาเปลี่ยน เพราะร้านแถวบ้านไม่มีของแท้ขาย
ราคา 200 บาท หน้าตาไม่หล่อเหมือนของแท้
เปลี่ยนเสร็จ สตาร์ทไม่ติดเหมือนเดิม

ขั้นที่สอง
โทรหาช่าง ประภาส ดอนเมือง
ช่างประภาส บอกให้ลองเช็คปั๊มติ๊กดู โดยคลายน๊อตเเบอร์ 17 ที่รางหัวฉีดออกนิดหน่อย
แล้วจั๊มสายไฟที่ปลั๊กตรวจสอบเครื่องยนต์ (ภาษาอังกฤษจำไม่ได้ครับ) ข้างกล่อง FUSE BOX ที่ขั้ว F/P กับ GND บิดสวิทช์กุญแจที่ ON ปรากฎว่ามีน้ำมันพุ่งออกมาจากรอบๆ น๊อตเบอร์ 17 ที่คลายไว้อย่างแรง แสดงว่าปั๊มติ๊กไม่เสีย

ขั้นที่สาม
ช่างประภาส บอกให้ลองเช็ค ไฟที่หัวเทียน
โดยถอดปลั๊กหัวเทียนออก นำไขปลายควงแหย่เข้าไปในปลั๊ก สวมถุงมือหนัง แตะไขควงกับฝาครอบวาวล์
สตาร์ทเครื่อง แล้วดูว่ามีประกายไฟสปาร์คที่ฝาครอบวาวล์หรือไม่
ปรากฎว่าไฟแรง และดูดจนสะดุ้ง ขนาดสวมถุงมือหนังแล้ว

ขั้นที่สี่
เช็คการยกของหัวฉีด
ถอดปลั๊กหัวฉีดสูบที่ 1 ออก
ที่ปลั๊กหัวฉีดมีสายไฟ 2 เส้น
ใช้ไขควง Test Lamp
นำปลายไขควงฯ จี้ที่สายไฟเส้นที่ 1 จั๊มดินที่เครื่อง บิดสวิทช์กุญแจที่ ON ปรากฎว่าไฟติด จึงดับสวิทช์ฯ
นำปลายไขควงฯ จี้ที่สายไฟเส้นที่ 2 จั๊มไฟที่ขั้ว + แบตฯ บิดสวิทช์กุญแจสตาร์ทยาว
ปรากฎว่าไฟกระพริบเป็นจังหวะ
แสดงว่าการยกของหัวฉีดปกติ

ไฟมา - น้ำมันมา ปวดหัว ทำไมสตาร์ทไม่ติด

ขั้นที่ห้า
นำกล่อง ECU ไปเช็คที่ ONE-TECH ปากซอยลาดพร้าว 64
คุณสุรศักดิ์ ใช้เวลาเช็ค 2 วัน
แจ้งค่าใช้จ่ายไว้ 2000 บาท ไม่พบว่าเสีย จึงไม่คิดเงิน

ขั้นที่หก
คุณสุรศักดิ์ แนะนำให้ลองมาตรวจเช็ค สายไฟ ฟิวส์ ระบบกันขโมย
ตรวจเช็คทุกอย่างแล้ว ปกติ

การตรวจสอบขั้นที่ 7
เช็คว่าสายพานไทมิ่งข้ามร่องหรือไม่
ถอดหัวเทียนสูบ 1 และ สูบ 4 ออก เปิดฝาครอบจานจ่าย ใชไขควงแหย่ไว้ที่หัวลูกสูบ
หมุนเครื่องยนต์ให้สูบ 1 ขึ้นสูงสุด ดูที่หัวนกกระจอก อยู่ตำแหน่งจ่ายไฟของสูบ 1
หมุนเครื่องยนต์ให้สูบ 4 ขึ้นสูงสุด ดูที่หัวนกกระจอก อยู่ตำแหน่งจ่ายไฟของสูบ 4
แสดงว่าสายพานไทมิ่งไม่ข้ามร่อง


ขอเข้ามาแจมหน่อยครับ
ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้ ได้ทำการตรวจสอบระบบจ่ายน้ำมันจากปั้มตื๊ก และระบบไฟที่หัวเทียน พร้อมทั้งได้นำกล่อง ECU ไปให้ช่างทำการตรวจเช็ค ช่างบอกว่าปกติ และประการสุดท้ายได้น้ำกล่อง ECU ไปทดลองใช้กับคันอื่น ยังรอผลวันนี้
เรื่องมันยาวที่จะอธิบายความ อยากรอฟังผลการนำกล่อง ECU ไปทดลองใช้กับคันอื่นเหมือนกันครับ
เพื่อที่จะได้วิเคราะห์ประเด็นอื่นๆให้ทดลองตรวจเช็คดูครับ
เอาอย่างนี้ดีกว่า ให้คุณตรวจเช็คที่ระบบของแอร์โฟลว์ดูว่า มันมีขั่วหลุดหลวมหรือเปล่า หรือจะเข้าไปให้ลึกกว่านั้นก็ต้องตรวจเช็คการทำงานของมันว่าทำงานปกติหรือไม่ หากไม่ใช่ช่างมีความรู้ทางอีเลคโทรนิคส์ก็ลำบากที่จะอธิบาย เอาแบบง่ายๆ ลองขอยืมจากรถเพื่อนฝูงมาทดลอง ถอดชุดกรองอากาศ ที่มีตัวเรือนของแอร์โฟวล์ติดอยู่ มาใส่แทนที่ของรถคุณ แล้วลองสตาร์ทเครือ่งยนต์ดูครับ หากโชคดีก็จะพบสาเหตุ เพราะตัวแอร์โฟวล์เสีย รถยนต์ที่มีระบบแอร์โฟวล์ หากมันเสียก็ไม่สามารถที่จะสตาร์ทเครื่องได้เช่นกัน นี้เป็นกรณีหนึ่งที่อยากจะให้ตรวจสอบ
สำหรับการวิเคราะห์ว่าระบบไฟที่จ่ายให้กับหัวเทียนทำงานหรือไม่ ต้องทราบในหลักการทำงานของระบบเสียก่อนว่ามันทำงานอย่างไร พอจะสรุปให้ฟังเคร่าๆดังนี้ครับ ส่วนประกอบที่จะทำให้เกิดการสร้างไฟสูงที่ป้อนให้กับหัวเทียน ก็คือตัวช่วยจุดระเบิดชุดอินิชั่นคอย แต่การที่จะให้ตัวช่วยจุดระเบิดนี้ทำงานได้ ต้องอาศัยปัจจัย ในการสร้างสัญญาณพัลส์ จากมุมองศาจุดระเบิด ที่มีชุดสสร้างสัญญาณพัลส์ NE ที่อยู่ในตัวเรื่อนจานจ่าย เมื่อเครื่องยนต์เริ่มสตาร์ท และเครื่องยนต์เริ่มหมุน สัญญาณที่ได้รี้จะถูกส่งป้อนให้กับตัว ECU เพื่อที่จะให้ ECU สร้างสัญญาณพัลส์อีกชุดหนึ่ง เพื่อป้อนสัญญาณนี้ให้กับตัวชุดช่วยจุดระเบิด(สร้างไฟสูง) จึงมีไฟสูงออกที่หัวเทียนตามจังหวะองศาการจุดระเบิดแต่ละสูบ
ดังนั้นการที่จะวิเคราะห์หาสาเหตุว่าตัวจานจ่ายเสียจะต้องกระทำการตรวจเช็คสัญญาณพัลส์ NE ว่าถูกจ่ายออกมาจากจานจ่ายหรือไม่ แล้วสัญญาณนี้จ่ายไปถึง input ที่ตัวกล่อง ECU หรือไม่ หรือสายนำส่งขาดระหว่างสายไฟนำสัญญาณ และต้องตรวจเช็คสัญญาณพัลส์พัลส์ ที่ ECU จ่ายไปป้อนให้ ตัวช่วยสร้างไฟสูงสำหรับจุระเบิด แต่เราก็สามารถจะทำการวิเคราะห์ตัวช่วยสร้างไฟสูงว่าทำงานหรือเปล่า แบบตาดูหูฟัง ไม่ต้องสร้างพัลส์จากเครื่องเจนเนอเรเตอร์ ทำพัลส์แทนการจ่ายพัลส์ที่ ECU สร้างขึ้น โดยหาสายไฟที่เป็นตัวจ่ายสัญญาณเข้าอนพุทของตัวช่วยสสร้างไฟสูง มาเขี่ยกับกราวด์ ก็จะมีไฟออกที่หัวเทียน แสดงว่าชุดสร้างไฟสูงโอเค เพื่อตัดปัญหาช่างโมเมทึกทักเอาว่าชุดจานจ่ายเสีย การที่จะวิเคราะห์ว่าตัวจานจ่ายเสียจะต้องตรวจสอบการทำงานของมันด้วย ออสซิลโลสโคป ดูรูปสัญญาณ NE ที่เกิดขึ้น ว่ามีหรือไม่ รวมทั้งสัญญาณที่มาจาก ECU ด้วย
นี้เป็นหลักการตรวจเช็คของระบบการจ่ายไฟสูงให้กับหัวเทียน

แต่เนื่องจากคุณได้บอกว่า ได้ทำการวัดไฟที่หัวเทียนแล้ว ปรากฏว่ามีปกติ ก็พอสรุปได้ว่าชุดสร้างไฟสูงทำงานถูกต้อง แต่ผมจะกล่าวในส่วนที่เกี่ยวข้องในภาคส่วนของตัว ECU ที่ทำหน้าที่สร้างสัญญาณป้อนให้กับตัวช่วยสร้างไฟสูง ว่ามันทำงานผิดพลาดอย่างไร ขอตัดบทสรุปความสั้นๆก็แล้วกัน เพราะอธิบายยาวขี้เกียจพิมพ์ ไม่ค่อยมีเวลาครับ
ปกติแล้วในส่วนของวงจรอีเลคโทรนิคส์ที่ทำหน้าที่สร้างสัญญาณที่ว่านี้จะประกอบไปด้วยวงจรสร้างสัญญาณพัลส์ และตัวบัฟเฟอร์ ขยายกระแสของ Transistor ที่วงจรนี้จะมี Capacitor แบบ อีเลคโตรไลท์ ทำหน้าที่ฟิลเตอร์ไฟ DC ที่เลี้ยงวงจร เกิดการลีคภายในตัวของมัน ทำให้เสมือนมีค่าความต้านทานเกิดขึ้นในตัวของมัน ที่ตัว Capacitor นี้ขาขั่วลบของมันจะลงกราวด์ ดังนั้นหากตัวของมันเปรียบเสมือนค่าความต้านทานที่เกิดขึ้น จึงทำให้โวลเต็จของวงจรนี้ มีกระแสโวลเต็จส่วนหนึ่งไหลลงกราวด์ ทำให้โวลเต็จที่ภาควงจรนี้ลดลงมาก เกินกว่าที่จะทำให้ไฟที่ใช้เลี้ยงวงจรดังกล่าว ทำงานได้ จึงไม่มีสัญญาณพัลส์ไปจ่ายให้กับวงจร ตัวชุดช่วยจุดระเบิด
อาการที่เกิดขึ้นมีมีผลในการสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด หรือบางครั้งติดเดี๋ยวเดียวก็ดับ โดยมากจะเป็นสักสองสามครั้งก็ไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดได้อีก มีท่านเจ้าของรถคันหนึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนผม นำมาให้ทำการตรวจซ่อม ก็มีอาการคล้ายกับของคุณ เข้าไปให้อู่สองสามอู่ตรวจซ่อม แต่ละร้านที่ซ่อมลงความเห็นว่าจานจ่ายเสีย ต้องซื้อจานจ่ายมาเปลี่ยน แต่หลังจากเปลี่ยนแล้วอาการก็ไม่หาย เหมือนเดิม ผมก็จัดการเปลี่ยนเจ้าคาปาซิเตอร์ที่ว่านี้ ก็จบลงด้วยดี
ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้ให้ช่างไปตรวจเช็คกล่อง ECU แล้วบอกว่าปกติ ผมยังแครงใจอยู่นิดๆ เอาเป็นว่าถัไม่เป็นไปตามที่ผมเล่ามา สิ่งที่จะต้องตรวจสอบมีอีกสองสามจุด ยังไงลองตรวจเช็คแอร์โฟวล์ดูก่อนนะครับ หากไม่ได้ผลอย่างไร กรุณาบอกให้ทราบจะช่วยแนะให้ตรวจเช็คในภาคที่เกี่ยวข้องต่อไปครับ ขอให้โชคดี...srithanon

ผมรบกวนให้ อ.วอน ช่วยวิเคราะห์อีกครั้งหนี่งครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
      

ป๋าป้อม สวัสดีครับ

หายไปนานเลยสบายดีไหมครับ ถ้าว่างเเวะมาเยี่ยมบ้างนะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kupree จาก kupree 125.26.73.175 พฤหัสบดี, 11/6/2552 เวลา : 10:09  IP : 125.26.73.175   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 42869

คำตอบที่ 2
       พอมันดับแล้ว ใช้ OBD อ่านมันขึ้น Error code อะไรล่ะครับ ตัวนี้มันจะฟ้องว่าเครื่องดับเพราะอะไรจะได้ไม่ต้องงมหาปัญหาผิดจุด

ถ้าไม่มี OBD ตอนที่มันดับแล้วสตาร์ทอีกทีไม่ติด ลองเช็คซ้ำแบบข้างบนอีกทีว่าไฟกับน้ำมันมาหรือเปล่า คลายน็อตและปลดสายหัวเทียนแบบเดิมนั่นแหละจะได้รู่ว่ามันดับเพราะไฟหรือน้ำมัน

อาการแบบนี้คล้ายๆกับรถของเพื่อนผมเลย เขาก็ทำคล้ายๆกับ ป๋าป้อมทำนั่นแหละ ทำสาระพัดเอาเงินไปให้ช่างหมดไปหลายหมื่นก็ยังเหมือนเดิมคือดับกลางอากาศเหมือนเดิม


ดับคาประตูม่านรูดจนผู้หญิงร้องไห้ขึ้นรถเท็กซี่หนี ให้เพื่อนๆเอาไปอำได้ตลอดชีวิต


ตอนหลังผมเลยตัดสินใจขั้นสุดท้ายให้หลังจากไปงมโข่งเชื่อช่างเปลี่ยนทุกอย่างไปหมดแล้ว คือตรวจสอบสายไฟระบบเครื่องยนต์ที่วิ่งเข้ากล่องใหม่ทั้งหมด คือเหมือนกับเบ็นซ์ที่ระบบไฟรวนแล้วทำอย่างไรก็ทำแบบนั้น แต่ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งพวงเหมือนเบ็นซ์

ทำความสะอาดขั้วสายไฟเข้าเครื่องทุกขั้วรวมถึ้งย้ำสายซ้ำอีกทีสำหรับขั้วที่น่าสงสัยหลังจากจัดการหมดทั้งคันทุกจุดปัญหาหายสนิดไปเลย

ขั้วปลั๊กปั้มน้ำมันเชื่อเพลิงหลวมหรือสกปรกก็ดับได้เดี่ยวต่อเดี๋ยวหลวม ปลั๊กแอร์โฟล์หรือหน้าสัมผัสความต้านทานที่ข้างๆที่มันรูปร่างคล้ายกล่องเล็กข้างลิ้นเร่งมันสกปรกก็ดับได้ ปลั๊กสัญญานองศาเพลาข้างเรือนจานจ่ายมันมาๆหายๆก็ดับเหมือนกัน

ลองไล่เหมือนที่ผมบอกนี่แหละ รถมันชราภาพแล้ว อะไรที่มันเป็นพลาสติกก็เริ่มกรอบขั้วสายก็เริ่มมีสนิมหรือคราบสกปรก ทำแบบนี้ ราคาน้อย ไม่แพง ทำเองได้ โซเน็กกระป๋องเดียวกับคีมย้ำสายไล่ทำไปเรื่อยๆวันหยุดเดี๋ยวก็ดีเองครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.24.255 พฤหัสบดี, 11/6/2552 เวลา : 12:31  IP : 125.24.24.255   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 42886

คำตอบที่ 3
       สวัสดีครับ คุณ kupree
ผมเข้ามาหาความรู้อยู่บ่อยๆ ครับ

ขอบคุณครับ อ.วอน
ผมจะทำตามที่แนะนำครับ

อ้อเรื่องดับคาประตูนี่
เคยเป็นอยู่ครั้งหนึ่งครับ
โชคดีที่เป็นตอนจบ
และยังไม่ทันถอยออกจากซอง




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

metermeter จาก Pom Cronos 58.181.157.122 พฤหัสบดี, 11/6/2552 เวลา : 13:51  IP : 58.181.157.122   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 42888

คำตอบที่ 4
      

ดีเเล้วครับที่เป็นตอนจบ เพราะถือว่า " ข้าวใหม่ ปลามัน "


เป็นตอนจะหักพวงมาลัย 90 องศา ไม่ให้เหยื่อรู้ตัวทันเเล้วดับเนี่ย ... เสียของจริงจิ๊ง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kupree จาก kupree 125.26.68.4 พฤหัสบดี, 11/6/2552 เวลา : 14:24  IP : 125.26.68.4   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 42889

คำตอบที่ 5
       ผมได้ทำตามที่ อ.วอน แนะนำแล้วครับ

1. รื้อสายไฟเครื่องยนต์ออกมาทั้งหมด



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

metermeter จาก POM CRONOS 112.143.1.115 จันทร์, 22/6/2552 เวลา : 22:41  IP : 112.143.1.115   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 43338

คำตอบที่ 6
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

metermeter จาก POM CRONOS 112.143.1.115 จันทร์, 22/6/2552 เวลา : 23:03  IP : 112.143.1.115   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 43339

คำตอบที่ 7
       2. ฉีดล้างทำความสะอาดขั้วไฟทุกจุดด้วยน้ำยาเอนกประสงค์



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

metermeter จาก POM CRONOS 112.143.1.115 จันทร์, 22/6/2552 เวลา : 23:06  IP : 112.143.1.115   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 43340

คำตอบที่ 8
      
การแก้ปัญหาขั้นสุดท้ายครับ

รื้อสายไฟชุดควบคุมเครื่องออกมาทั้งหมด
วันที่: 22 Jun 09 - 09:33




ความคิดเห็นที่: 24 / 25 : 471498

โดย: M5
ใช้น้ำยาฉีดล้างทำความสะอาดปลั๊กไฟ ขั้วไฟ และรีเลย์ทุกตัว

ประกอบกลับเข้าอย่างเดิม

ปรากฎว่าสตาร์ทติดอยู่ประมาณ 2 นาที และดับไป

ผมเริ่มมั่นใจว่าพบสาเหตุแล้วครับ
วันที่: 22 Jun 09 - 09:43




ความคิดเห็นที่: 25 / 25 : 471507

โดย: M5
ผมจึงรื้อสายไฟชุดที่เข้าจานจ่ายทั้งหมดออก

พบว่ามีสภาพย่ำแย่มาก เพราะอายุถึง 16 ปีแล้ว

จับสายไฟแต่ละเส้นแยกออกให้ห่างกันแล้วเสียบกลับเข้าจานจ่ายตามเดิม

ปรากฏว่าสตาร์ทติดและไม่ดับอีกเลย แต่เครื่องยนต์ยังเดินไม่เรียบ

จึงนำรถออกไปทดสอบ โดยเอาคอมฯไปซ่อมที่พันธุ์ทิพย์

ขาไปรถติดมาก แต่วิ่งทางตรงนิ่มและพุ่งดีมาก

เวลาจอดมีอาการให้หวาดเสียวว่าจะดับหรือไม่

ขากลับอาการปกติดี

ผมคิดว่าน่าจะแก้ปัญหาได้ตรงจุดแล้วครับ คงต้องหาชุดสายไฟจากเชียงกงมาเปลี่ยนใหม่

ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยชี้แนะ และเป็นกำลังใจให้ครับ
วันที่: 22 Jun 09 - 10:00




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก POM CRONOS 58.181.157.122 อังคาร, 23/6/2552 เวลา : 07:43  IP : 58.181.157.122   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 43345

คำตอบที่ 9
       ขอขอบคุณ อ.วอน มากครับ

ตอนนี้คอมฯ รวนไปหมด เพิ่งจะแก้หายครับ

ณ วันนี้ รถใช้ได้ปกติแล้วครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

METERMETER จาก POM CRONOS 58.181.157.122 อังคาร, 23/6/2552 เวลา : 07:54  IP : 58.181.157.122   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 43346

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพุธ,4 ธันวาคม 2567 (Online 6948 คน)