คำตอบที่ 1
       กระเดืองวาลด์ สูบ 3 ตัวนี้ ลองโยกๆ ดู ออกคลอนๆ ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       เปิดฝาสูบ แล้ว พลิกออกมาดู มี รอย จุด-บุ๋ม ครับ ที่สูบ 3 ทั้ง และที่ หัวลูกสูบ ....แต่ ถอดฝาสูบออกมาแล้ว พบแต่คราบเขม่าดำ กับ รอย บุ๋ม ครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       อันนี่ที่หัวลูกสูบครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       วัตถุที่ เจอ หลังเปิดฝาครอบวาล์ด นับได้เท่าที่หาพบ 9 อัน แต่มันรู้ ว่ามันจะไหลไปที่ไหนอีก เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะไหลไปยังส่วนต่างๆ และลงไปด้านล่างของเครื่อง ผมต้องยกเครื่องใหม่เลยไหมครับ เคสนี้
อันนี้......งานกร่อยเลยครับ......งานเข้า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ชำแหละขนาดเปิดฝาสูบดูแล้วน่าจะพบปัญหาแล้วครับ แต่ผมดูแล้วคงไม่ถึงขนาดยกเครื่องหรอก ปัญหาไม่มากอะไรหลายๆคันก็เจอกับปัญหาลูกปืนราวกระเดื่องแตกแค่เปลี่ยนลูกปืนไล่เศษโลหะให้สะอาดก็หาย

มาร์คสามจุดนั่นเป็นมาร์คบดวาวล์ครับ ตอกไว้เพื่อเรียงวาวล์ให้ตรงตามสูบแสดงว่าเครื่องตัวนี้เคยเปิดเปลี่ยนแหวนบดวาวล์มาแล้ว ไม่ใช่มันโดนอะไรหรอก

ส่วนรอยบนฝาสูบกับหัวนั่นคงไม่ใช่ลูกปืนที่สงสัยตกลงไปหรอกครับมันคนละส่วนกันมันลงมาไม่ถึงหรอกครับมันอาจจะเกิดมานานแล้ว ลูกปืนที่เห็นมันน่าจะมาจากราวของกระเดื่องแคมตัวยึดฝามันคนละส่วนกับห้องเผาไหม้

ถ้านัตถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นแบบแม่เหล็กมันน่าจะเก็บที่หลุดลงไปในแคล้งน้ำมันเครื่องได้หลายตัวพอสมควร แม้ไม่มีนัตแม่เหล็กมันก็นอนใต้ก้นอ่างคงไม่ถึงกับลงไปทำลายส่วนล่างของเครื่องแต่ไหนๆก็เปิดฝาสูบแล้วก็เปิดแคล้งล้างก็ดีครับจะได้สบายใจว่ามันหมดชิ้นส่วนจริงๆ

ปัญหานี้ไม่ถึงกับเปลี่ยนเครื่อง ไปเปิดฝาสูบทำไมก็ไม่รู้ไม่จำเป็นเลยสักนิด เปิดแคล้งน้ำมันเครื่องไล่เศษโลหะเสียยังดีกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       อารายกัน แค่นี้ทำใจเสาะ จะเปลี่ยนเครื่องเชียวเหรอ

รถผมโดนขนาดวาล์วคดยังรอดเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ขอบคุณครับอาจารย์วอน ด้วยความเกรงใจละครับ เลยไม่กล้าโทรไปรบกวน ....เปิดดูแล้วไม่เจออะไร ได้แค่ความสบายใจ แล้วก็ต้องเปลี่ยนปะเก็นใหม่ ....ไล่ขันฝาสูบกัน เหงื่อหยด...

" ปัญหานี้ไม่ถึงกับเปลี่ยนเครื่อง ไปเปิดฝาสูบทำไมก็ไม่รู้ไม่จำเป็นเลยสักนิด เปิดแคล้งน้ำมันเครื่องไล่เศษโลหะเสียยังดีกว่า "

ผมสรุปความแล้ว พรุ่งนี้เปิดแคร้งมาดู แล้วทำความสะอาดซะเลย แล้ว ประกอบฝาสูบใส่เข้าไปใหม่ ขันที่ 50-80 และ 100 ปอนด์ ตามลำดับถูกต้องไหมครับ อ.วอน ส่วน วาล์ดนั้น ผมจำไม่ได้แล้วครับว่า ตั้งที่ 0.25 มม. ถุกต้องไหมครับ ......... ขอบคุณ อ.วอน และ คุณหนุ่มกระโทก ที่ให้กำลังใจ.....ผมยังรักปาเฒ่าอยู่เสมอครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       รบกวน อ.วอนอีกนิดครับ ตามที่ผมเข้าใจนะครับ ว่าเศษชิ้นส่วน ตามคำตอบที่ 4 นั้น มันคือ เศษลูกปืนของโรลเลอร์กระเดื่องแคม (ตามรูป) ที่ชี้ ตัวบน นั้นถูกต้องไหมครับ ?....ผมลองโยกดูที่ โรลเลอร์ ทั้งหมดนั้น มีออก หลวมๆ-ฟรีๆ อยู่นิดหน่อย 2 ตัว ... นอกนั้นดูแน่นดี... กรณีการเปลี่ยนซ่อมนั้น ถอดเปลี่ยนเฉพาะขิ้นกระเดี่องแคม หรือ แกะเปลี่ยนเฉพาะโรลเลอร์ที่ชำรุด เป็น แคมๆ ไปละครับ และ ไม่ทราบว่าราคาประมาณกี่บาท .... ถ้าร้านอะไหล่ทางนี้ไม่มีละก็ ...ยุ่งเลยครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       โอ๊ย.... เล่นอะไรตั้งร้อยปอนด์มากไปครับ

วาวล์ 0.25mmหรือ 0.010นิ้ว ตอนเครื่องเร้อนเท่านั้น ฝาสูบ 118Nm หรือ 87 ft-lb ขัน 80% ไล่ทะแยงมุม แล้ว 100% อีกรอบ หมุนตั้งฉากอีกสองรอบ เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว

ผมแถมแคมกับราวกระเดื่องอีกก็แล้วกัน

ราวกระเดื่อง 38Nm หรือ 27ft-lb ราวแคม 20Nm หรือ 14ft-lb ขันไล่หัวท้ายมากลางให้ใช้มือหมุนแกนได้คล่องห้ามสลับตัวเด็ดขาด

มีอะไรก็โทรมาครับ ถ้าผมยุ่งอยู่ก็จะโทรกลับทีหลัง ไม่ต้องเกรงใจกันครับ

ชิ้นส่วนนั่นผมว่าไหนๆรื้อแล้วรูดขลุ่ยมันออกมาให้หมดเลยดูเป็นตัวๆไป อะไหล่เพียบ เล่นของใหม่ไม่กี่ร้อยหรอกครับอย่าไปซื้อราวเก่ามาใช้มันไม่ทนหรอก ใช้ไม่กี่หมื่นกิโลก็แตกอีกแล้ว แล้วรูดแคมมาดูล้างรูน้ำมันเครื่องด้วยก็ดี

ลองโทรถามนำยนต์อะไหล่ที่วรจักรดู บอกว่า อ.วอนให้ถามราคา จะได้ของแท้เบิกห้างราคาลดสามสิบเปอร์เซ็นต์ 022226218

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ขอบคุณในคำแนะนำอีกครั้งครับ อาจารย์ วอน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       หายป่วยเร็ว ๆ นะขอรับคุณ117

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ยังไม่จบครับ.....หลังจากเคลีย์เศษโลหะที่พบ (ตามคำตอบที่ 4) ใต้ฝาครอบวาล์ด และ อ่างน้ำมันเครื่อง ถอดประกับลูกสูบมาโยคดู ก็มีร่องรอยเสียดสีก็มีบ้าง แค่ดูแล้วยังใช้งานได้ เลยถอดทั้งราวกระเดื่องมาล้าง พบว่ามีโยคได้ระยะฟรี กึก-กัก อยู่ 2 ตัว ณ.ตำแหน่งสูบ 2 กับ 3 เลยซื้อมาเปลี่ยนกระเดื่องวาล์ดไอดี-เสีย อย่างละ 1 ตัวที่ ตรวจเช็คส่วนอื่นดู และถอดทั้งราวมาล้างดูรูน้ำมัน พบมีรอยการสึกหรอที่แกน และที่แกนเพลาลูกเบี้ยว ที่สูบ 3 เล็กน้อยแบบลูบดูรู้สึกได้....อันนี้ ผมลองอนุมาณ ดูว่า น้ำมันเครื่องน่าจะฉีดเลี้ยงแกนและลูกปืนไม่พอไม่พอในรอบเดินเบา เลยทำให้เกิดปัญหาลูกปืนที่กระเดื่องแตก....สุดท้ายประกอบทุกอย่างเข้าที่ตามตำรา ....ติดเครื่องวอร์มเครื่อง-เร่งเครื่อง ได้ประมาณ 20 นาที ความร้อนและแรงดัน นม.เครื่อง ดูปรกติดีครับ.......
.....ลองเอาวิ่งดู....วิ่งไล่เกียร์ตามปรกติ แต่ได้แค่ 2 กม.เอง...เกียร์ 5 ความเร็วแค่ 75 กม./ขม. ดัง เสียงดัง แต็กๆๆ ลั่น...เหมื่อนเดิมเลยครับ.........

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       จากคำตอบที่ 12 ลองสตาร์ทแล้วดับ อยู่ 2-3 ครั้ง ยังไม่หายเลย โทรตามช่างที่อู่ มาดู เปิดฝาวาล์ดดู ไม่มีเศษโลหะ อะไรร่วงอยู่อีก...ลองติดเครื่องดูซิแป็ปนึง เพื่อดูน้ำมันขึ้นมาฉีดเลี้ยงวาล์ดก็ดีอยู่ แต่คราวนี้เสียงดัง แคร็กๆ นั้นกลับดังไปอยู่ด้านล่างซะแล้ว หลังจากที่เปิดฝาครอบวาล์ดแล้วลองสตาร์ท....เลยปิดฝาวาล์ดก่อน ลองพิจารณาเสียงดัง ออกจะดัง แคร็กๆๆ นั้น ดัง ไปตามรอบเครื่องยนต์ ดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างเสียดสีกัน....
จึงลองทดสอบดูดังนี้
- ลองสตาร์ทแบบเหยียบครัชหรือไม่เหยีบบดังเหมือนกัน รถจอดนิ่งอยู่กับที่ / หรือ ลองออกตัว ก็เหมือนกัน
- เข้าเกียร์ 1 สตาร์ในเกียร์ ให้กระตุกเดินหน้าดู 2-3 ครั้ง / แล้วลองสตาร์ทในเกียร์ว่าง ยังไม่หาย
- เข้าเกียร์ถอยหลัง สตาร์ในเกียร์ ให้กระตุกถอยหลัง ดู 2 ครั้ง / แล้วลองสตาร์ทในเกียร์ว่าง อ้าว...หายแล้วครับ...

ลองเร่งรอบเดินเบา และไล่ดูรอบสูง ปรกติแล้ว....เลยขับรถกลับเข้าไปที่อู่อีกครั้ง ระยะทางเท่าเดิม 2 กม. ระหว่างวิ่งลองเบรค แรงๆ อยู่ 2 ครั้ง ก็ ปรกติ...แต่พอเลี้ยวขวาขึ้นตะแกรงทางขึ้นฟุตบาทเข้าอู่ พอล้อหลังตะกายขี้นก็มีเสียงดัง แคร็กๆๆ อีกแล้วครับ สรุปกันอย่างคร่าวๆว่า ปัญหาไม่น่าจะมาจากเครื่องยนต์ แต่อาจจะมาจากชุดส่งกำลัง เช่นหวี หรือ ครัช ก็ได้......แต่วันนี้ 18:20 น. พอก่อน...พักผ่อน นอนคิด ก่อนครับ....

ตอนนี้ ทั้งช่าง ทั้งเจ้าของเวียน เฮด แล้วครับ หลงทาง หาอาการกันไม่เจอ แต่ดูจาก ไมล์ นั้นได้เปลี่ยนครัชไปเมื่อครั้งที่แล้ว เมื่อ ปี 2545 ตอนผมซื้อรถมาพอดีครับ (เจ้าของเก่าเค้าบอกไว้) ตอนนี้ วิ่งไปแล้วจากวันที่ซื้อมาได้ประมาณ ประมาณ 138000 กม. รถวิ่งน้อย ใช้งาน รับ-ส่ง นร. วันนึงไม่เกิน 50 กม. ที่เหลือก็ มา กทม. ครับ

***ไม่ทราบว่า อ.วอน พอจะมีข้อคิดเห็น หรือ ข้อแนะนำ อย่างใดแก่ผมบ้างครับ...*****

ปาเฒ่า เค้าไม่ได้ กลับ บ้านกันมา 3 วันแล้ว ....ทุกคนบ้านเค้าคิดถึงกันจะแย่แล้วครับ.....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
      

ไอ้เจ้าเสียงแต็กๆวิ่งได้ เดี๋ยวอยู่ข้างบนเดี๋ยวอยู่ข้างล่าง ขนาดช่างอู่ฟังกับหูรื้อดูกับมือยังหาไม่ได้เลยแล้วผมได้แต่อ่านอยู่กับหน้าจอจะหาอะไรเจอครับ

ให้ช่างเขาหาไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอสักจุดนั่นแหละครับ ยังไงก็รายงานผลมาเรื่อยๆด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       รายงานผล เสียงดัง แคร็กๆ เรียบร้อยแล้วครับ....เช้าเอาขับรถขี้นสแตน ยังดังแคร็กๆ อยู่ เลยมุดไปฟังกันใต้ท้องรถ พอช่างถอดแผ่น ที่ปิดครัช กันน้ำ-กันฝุ่น ที่ใต้ท้องรถ สตาร์ทใหม่หายแล้วครับ นำแผ่นออกมาดูมีรอยเสียดสี ขับรถไปลองอีกรอบ ปรกติดีครับ....ปัญหาอันนี้น่าจะมาจากตอนถอดแคร้ง นม. เครื่องออกมาไปโดนแผ่นดังกล่าว...ตามบทสรุปของช่างเค้า.....เอาแผ่นออกมาเคาะๆ ออก แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ ...ผมไปลองอีกรอบคราวนี้ ลากยาวเลยครับ ดูความร้อน แรงดัน นม.เครื่อง ทำความเร็วระดับใช้งานจริง 80-90-100-110 กม. ระยะทาง 30 + 30 กม. ไปและกลับ .....ความร้อนขี้นที่ขีดเล็ก แรงดัน นม. เครื่องอยู่ เลข 2 + - นิดหน่อย.......ไม่เจอปัญหา แต่อย่างใด
...สรุปว่าน่าจะเจอ ปัญหา ซ้ำซ้อนครับ.. เสียงแรก ดัง แต็กๆๆ อยู่ที่เครื่อง / เสียงที่สอง ดัง แคร็กๆๆ อยู่ ด้านล่าง เลยไม่รู้ว่าผมไปหลงประเด็นแก้ไขหรือเปล่า......
พรุ่งนี้มีธุระ ต้องวิ่งไปตลาดชายแดน ด่านสิงขร ขอดูอาการอีกทีครับ.....

ยังไงก็ตามขอบพระคุณ อ.วอน มากครับ ที่ให้คำแนะในการแก้ไขปัญหา จนลุล่วงไปได้....ขอบคุณนะครับ....หรือท่านใคผ่านมา อ.เมือง ประจวบฯ แวะทักทายกันได้ครับ 081-8583942 สมศักดิ์ หรือ 145.000 MhZ hs1jsf ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       เย้ๆแฮบปี้แล้วนะครับดีใจด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       ยินดีด้วยครับที่เจอจุดแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ตอนนี้ปัญหาลุล่วงไปแล้ว วิ่งลองไปได้ 85 กม.แล้ว แต่.. ..ยังเหลือสิ่งที่คาใจอยู่ครับ....อาจารย์ วอน
- เพราะเหตุใด ลูกปืนกระเดื่องโรลเลอร์จึงแตก ....
- หรือ นม.เครื่องใช้นั้นใสเกินไป ทุกทีผมใช้ Castroll 15W40 คราวนี้ เปลี่ยนไปใช้ ปตท. 15W40 เหมือนกัน
ใช้ไปได้ 3,000 กม. หรือ 3 เดือนหลังจากที่เปลี่ยน
- หรือว่า น้ำมันที่วิ่งไปตามราวกระเดื่องนั้น ไม่ฉีดไปเลี้ยง ลูกปืนกระเดื่องโรลเลอร์ หรือ ไม่พอ
- หรือว่า การสึกหรอ เป็นไปตามอายุการใช้งาน

- อีกหนึ่งในข้อสงสัย ว่าลูกปืนเข็ม (ตามคำตอบที่ 4) นั้น กระเด็นหลุดออกมาจากจุด (ตามคำตอบที่ 8) นั้นได้หรือ
- คือว่าผมลองจับโยคดู ก็พอมีระยะฟรีอยู่บ้าง แต่ลองเอาไขควงงัดดู เจ้าลูกปืนเข็ม ดังกล่าวมันไม่น่าหลุดออกมาง่ายๆนะครับ อาจารย์ สุดท้าย ต้องตอกสลักออกมาดูว่า มันใช่ลูกปืน ชนิดเดียวกันหรือเปล่า....เพื่อคลายความสงสัย....มันก็ใช่ครับ......ระยะนี้ ขับไป - คิดไป ....ยังหวาดๆอยู่ครับ อาทิตย์หน้า กินเจ แล้ว ...ต้องเดินทางไกลอีกครั้งแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ลูกปืนกระเดื่องแตกนี่เรื่องปกติสำหรับรถที่ไม่เปิดฝาครอบวาวล์ออกมาตั้งวาวล์เลยหลายหมื่นกิโลเมตร ผมถึงแนะนำให้ตั้งวาวล์บ่อยๆสักสามหมื่นกิโลครั้งหนึ่งก็จะได้ตรวจสอบสุขภาพกระเดื่องไปด้วย อ่านกระทู้ DIY วิธีตั้งวาวล์ด้วยตัวเองที่ผมเขียนก็ได้ พอตั้งวาวลบ่อยๆแล้วจะรู้ว่าเครื่องมันเงียบดีเสียด้วยไม่ดังกราวเหมือนรถวาวล์ห่าง

วาวล์ห่างมันกินลูกปืนด้วยครับ ระยะกระแทกมันมากเหมือนตบกบาลเพื่อนยกมือแต่คืบเดียวมันก็ล้อเล่นเบาๆ แต่ตบกบาลวินมอเตอร์ไซด์กวนตีนมันต้องยกมือครึ่งวงให้หัวทิ่มใช่หรือเปล่า วาวล์ห่างระยะกระแทกมันมากขึ้นลูกปืนก็อายุสั้นตามความห่างของวาวล์

อย่าไปโทษน้ำมันเครื่องเลยครับ มันคนละสาเหตุกัน น้ำมันไม่ดีมันพังไปทั้งเครื่องแล้ว

แล้วอีกอย่างหนึ่งครับ ถ้าลูกปืนลูกไหนโยกได้นั่นแสดงว่ามันเสียแล้วให้เปลี่ยนทันที ซื้อยกกระเดื่องเลยอย่าไปกระทุ้งแกนมันเปลี่ยนแค่ลูกปืนเพราะแกนลูกปืนมันจะหลุดได้ตอนใช้งาน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       จริงอย่างที่ อาจารย์วอน...ว่าไว้ละครับ ผมอ่านหลายรอบแล้ว หัวข้อเรื่องการตั้งวาลด์... แต่ ใจไม่ถึงไม่กล้าทำเอง..
แล้วปล่อยไว้เนิ่นนาน ก็เห็นมันยังวิ่งได้อยู่ ก็เลยเจอด้วย ประ การ ละ ฉะ นี้....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       รบกวนหน่อยครับ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมารถ Cyclone ผมสายพานขาด รู้สึกจะเป็นตัวล่างนะถ้าจำไม่ผิดสายพานบาล้านซ์ครับ เพราะอาการก่อนหน้าที่มันจะขาดเวลาเร่งเครื่องเกิน 3000 รอบมันจะสั่นถึงคันเร่งเลยครับ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวัน 3 ทุ่ม ของคืนวันที่ 31 สิงหาคมครับ กำลังขับกลับดีที่ใช้ความเร็วไม่มากประมาณเกียร์ 3 (60 KM/h) ได้ยินเสียงสายพานขาดแล้วเครื่องก็ดับเลยครับ ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นเอาเข้าอู่ จัดการเปลี่ยน สายพานใหม่ทั้งหมดเลยเพื่อความสบายใจ รู้สึกว่าจะเปลี่ยนกระเดื่องวาล์วด้วยถ้าจำไม่ผิด แต่คราวนี้เรื่องของเรื่องก็คือว่า วันที่ไปรับรถ ผมก็ไม่ได้สังเกตุอะไรเห็นว่าเครื่องติดก็โอเคแล้ว แต่ทีนี้ใช้รถไปอาทิตย์นึง รู้สึกเสียงเครื่องมันดังผิดปกติจากที่เคยเป็น (อันนี้คนรอบข้างผมก็รู้สึกได้ ไม่ว่า พ่อ แม่ แฟน ครับ) คือมันมีเสียงเข็กๆของเครื่องอะครับหรือยิ่งถ้าลงจากรถไปยืนหน้ารถด้วยนะจะชัดเจนมากครับ ผมรู้สึกได้ถึงความผิดปกติเพราะทุกครั้งที่ขับมันจะไม่มีครับ อยู่ด้วยกันมา 18 ปี ก็ต้องคุ้นเคยเป็นธรรมดา ........ไอ้อาการยังนี้เป็นไปได้มั้ยครับว่า ช่าสงเค้าตั้งมาร์คผิดตำแหน่งหรือปรับตั้งวาล์วผิดหรืออาจจะปรับปั๊มน้ำมันผิดไปจากเดิม เช่น หมุนแก่ขึ้นหรืออ่อนลงอะไรอย่างนั้นเห็นเค้าว่ากันครับ....ยังไงรบกวนชี้แนะด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       อาจจะมีปัญหาเรื่ององศาปั้ม ให้กลับไปตั้งให้อ่อนลงสักนิดก็หายครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       เข้ามารายงานตัว ปาฯเฒ่า ยังอยู่ดีมีสุขตามอัตภาพครับ หลังจากซ่อมเครื่องไปเมื่อ ปี52 ...
ตอนนี้ ปี 55 ก็ได้เวลา เปลี่ยนสายพาน Timing แล้ว จัดเต็ม-ยกชุด ตามอาจารย์ว่า แถมซ่อมแอร์ ซ่อมแผงไดชาร์จ ไปตามประสา ....
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ขอ อ.วอน และ เพื่อนๆ ปาเจโร ฿ โรงรถวันหยุด ... ยังนึกถึงอยู่เสมอครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       ลืมไป....

เพื่อนๆท่านใด ผ่านไป-ผ่านมา อ.เมือง ประจวบฯ แวะทักทายกันได้ครับ 081-8583942 สมศักดิ์
หรือ 145.000 Mhz / 144.625 Mhz hs1jsf ชมรม AR เมืองประจวบสัมพันธ์ ยินดีต้อนรับครับผม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       เสียดายผมเอา 10E 2bay ลงแล้วเพราะอายุมากขึ้นปีนไปทำงานบนยอดเสาไม่ไหวทิ้งเอาไว้กลัวหล่นใส่หัวสักวัน ไม่อย่างนั้นประจวบแค่นี้เองผมไปถึงสบายๆ

HS1LQF

แสดงความคิดเห็นย่อย