WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


สามวันที่นครศรีธรรมราช
baron
จาก von Richthofen
IP:125.24.51.45

อาทิตย์ที่ , 27/5/2550
เวลา : 23:18

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       เที่ยวฉลองเสร็จงานไปชิ้นหนึ่งที่กินเวลานั่งโต๊ะอยู่เกือบห้าเดือน ห่างหายจากหน้าเวปที่ผมเข้ามาพาเที่ยวในแบบประจำของผมไปหลายเดือน

ผมเลยพาเพื่อนเที่ยวนครฯในแบบของผมครับ ผมจะพาไปดูเมืองนครฯในมุมมองของคนไม่เคยเดินเที่ยวแบบเจาะรายละเอียดเมืองนครฯ ขับรถไปเรื่อยๆ เจออะไรชอบแวะนานหน่อย มีเรื่องเล่าความเชื่อและตำนานของคนนครฯและเกร็ดประวัติศาสตร์แบบมาตราฐานหอพระสมุดและแบบพงศาวดารกระซิบตามแบบของผม

เริ่มเดินทางย้อนเวลากลับไปเมืองศรีวิชัย นครแห่งแรกของสุวรรณภูมิได้เลยครับ








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

คำตอบที่ 1
       เที่ยวครั้งนี้ไม่มีเจ้าปาคู่ใจไปด้วยเนื่องจากไม่อยากขับรถเป็นพันกิโลเมตรและเวลามีน้อยเลยต้องพึ่ง Boeing 737 ม้าแก่ข้ามจังหวัดที่คุ้นเคยกันดีมาเกือบยี่สิบปี

นั่งประจำที่แต่เช้าตรู่วันฝนตกปรอยๆรอดูดวงอาทิตย์ขึ้นข้างหน้าต่าง บรรยากาศต่างจากชีวิตประจำวันไปอีกแบบหนึ่ง

ย้อนนึกถึงตอนสมัยอยู่ไกลบ้านนั่งเจ้าเครื่อง Dornia รถทัวร์ติดปีกสายระหว่างเมืองหรือเรียกกันว่า City hopper ดูดวงอาทิตย์ขึ้นและตกประจำวัน เที่ยวบินตอนเช้าตรู่และเย็นเกือบค่ำมันราคาถูกกว่านั่งรถไฟ นั่งนึกถึงบ้านคนเดียวบนเครื่องบินมันแสนจะว้าเหว่ใจ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:19  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4521

คำตอบที่ 2
       ดีใจจังเลยที่ได้ใช้ดอนเมืองอีกครั้ง ผมเกลียดสุวรรณภูมิที่เป็นชื่อของสนามบิน อาจจะเป็นอารมณ์เดียวกับคนญี่ปุ่นเกลียดนาริตะสองเพราะต้องนั่งรถไปกลับมากกว่าเวลาบินเสียอีก

บินตีวงเห็นคลองรังสิตยามเช้าแล้วคิดถึงอีแดงซ่า ปาเจโรคันแรกของผมที่จบชีวิตในคลองรังสิตพร้อมกับเพื่อนขี้เมาที่โทรมาหัวเราะว่าเอารถไปจมน้ำเรียบร้อยแล้ว

ผมว่าคลองรังสิตนี่เป็นผลมาจากแนวการพัฒนาพื้นที่สมัยยุควิคตอเรียที่เข้ามาพร้อมกับพระองค์เจ้าต่างๆที่เรียนจบจากยุโรปเมื่อร้อยกว่าปีก่อน เป็นที่ดินจัดสรรในยุคแรกของสยามประเทศเลยทีเดียว

การพัฒนาทุ่งรังสิตเป็นที่ดินให้เช่าทำการเกษตรสมัยรัชกาลที่ห้าเป็นเหตุให้เราเสียเนื้อสมันกวางชนิดเดียวของโลกที่เขาสวยที่สุดไปตลอดกาล







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:20  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4522

คำตอบที่ 3
       ดวงอาทิตย์ทอแสงแรกที่ปากน้ำ เรือประมงเริ่มกลับฝั่งหลังจากออกไปทั้งคืนกับปลาในอ่าวที่น้อยลงไปทุกที

เราไม่เอาจริงกับการรักษาจำนวนปลาในอ่าว ขาดการจัดการทรัพยากรที่ดีมาตั้งแต่นักการเมืองที่มีผลได้เสียกับหัวคะแนนนายทุนอวนลาก

ผลออกมาคือคนชั้นล่างไม่มีจะกินเพราะผลที่ตัวเองทำไปอย่างไม่รู้อย่างผิดทางหลายสิบปี ทุกวันนี้เรากินปลาอินโดจากกองเรื่อประมงทุนสูงของนายทุนใหญ่ที่ไม่เดือดร้อนมาหลายปีแล้วอย่างไม่รู้ตัวเพราะเราหมดปลาในอ่าวไทย

เรือเล็กของชาวบ้านก็พบกับความอดอยากจากผลของเรืออวนลากขนาดใหญ่กวาดปลาไปหมดอ่าวเมื่อหลายปีก่อน







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:20  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4523

คำตอบที่ 4
       ดวงอาทิตย์เริ่มทอแสงสีแดงสะท้อนปีกเครื่องบินดูสวยที่ความสูงเกินกว่าที่จะเห็นได้ตามยอดเขา

ผมกดชัดเตอร์กล้องไปแล้วนึกไปเรื่อยเปื่อยเหมือนความเวิ้งว้างของทะเลเบื้องล่าง นึกถึงการเดินทางของคนโบราณที่ต้องใช้ชายฝั่งเป็นที่หมายยามเดินทาง การเดินทางมานครศรีฯต้องใช้เวลาหลายวัน

เรื่องการเดินทางของหลวงพ่อทวดมากรุงศรีอยุทธยาเป็นตำนานเรื่องเหยีบน้ำทะเลจืดก็ได้จากเส้นทางนี้และ

ตอนนี้ชั่วโมงเดียวก็ถึงแล้ว ไม่เหมือนสมัยหลวงพ่อทวดหรือศรีปราชญ์ตอนโดนเนรเทศไปนครฯ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:21  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4524

คำตอบที่ 5
       นั่งดูเมฆเหมือนตอนเด็กๆ ต่างกันที่ตอนเด็กนอนหงายดูแล้วจินตนาการไปว่าเป็นอะไรบ้าง เป็นกระต่าย เป็นปลา เป็นม้า ไปตามเรื่อง

ตอนนี้ต้องก้มดูเพราะเพดานบินมันสามหมื่นสามพันฟิต หรือสิบกิโลเมตรจากพื้นดิน คราวนี้ดูแล้วฝันไปต่างกับตอนเป็นเด็ก จิตนาการมันซับซ้อนขึ้นตามเวลาที่สะสมในชีวิต แต่แปลกนะที่มันซับซ้อนกว่าแต่ไม่สุขเหมือนเด็กๆที่ดูเป็นลิงเป็นม้า

ถ้าจะตักตวงความสุขได้ในเวลาที่พร้อมก็จงรีบทำเสีย ทำไปดีกว่าปล่อยให้มันผ่านไป แล้วจะนึกเสียดายม้าและลิงเหมือนที่ผมอยากเห็นเมฆแบบนั้นในตอนนี้






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:22  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4525

คำตอบที่ 6
       เครื่องเริ่มกดหัวลงคงอีกไม่เกินสองร้อยกิโลก็ลงสนามแล้ว ฟ้าสว่างเต็มที่ ความคิดเริ่มวางแผนว่าจะทำอะไรบ้างตอนลงพื้น ท้องฟ้าเริ่มมีอาการไม่ค่อยดีเท่าไรสงสัยจะฝนอีกแล้ว

ผมไม่ชอบท้องฟ้าที่มีฝนตอนลงพื้นเพราะเครื่องเล็กมันออกอาการเหมือนขี่ม้าพยศ นครศรีฯอยู่เบื้องล่างผมตั้งใจจะมาข้ามปีแล้วไม่มีเวลาจะมาวันนี้ได้มาสมใจ มากราบพระธาตุ มากราบพระให้สมใจ







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:23  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4526

คำตอบที่ 7
       เมืองและชายฝั่งเริ่มปรากฎขึ้นมาให้เห็นหลังจากลดระดับลง ล้อกางดังตึงใหญ่เสียงแบบนี้ผมชอบฟังจริงๆเพราะผมจะได้เดินไปไหนต่อไหนแล้ว เสียงลมดังอู้ที่ปีกแฟลบเปิดช่วยการทรงตัวที่ความเร็วต่ำแต่เปิดครึ่งเดียว

ที่ความเร็วขนาดนี้เปิดครึ่งดียวหมายถึงจะฟูลแฟลบที่หลังวงเลี้ยวหัวสนามงานนี้ได้นั่งรถมอเตอร์ไซด์ติดปีกสนุกแน่ เอาอย่างไรก็เอาก็คันบังคับอยู่ในมือท่านนี่ครับไม่ใช่มือของผม

นั่งรอฟังเสียงล้อแตะพื้นเปียกๆครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:24  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4527

คำตอบที่ 8
       ผมขอตัวก่อนครับ เอาไว้ต่อคืนนี้

ภาระกิจแรกของการมานครศรีฯคือบ้านของท่านผู้นี้ สภาพในบ้านเป็นอย่างความเป็นอยู่ของท่านเป็นอย่างไรอดใจรอ

ผมจะสวมวิญญานลูกหลานท่านพาเที่ยวบ้านขุนพันธรักษ์ราชเดชผู้เลื่องลือครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:25  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4528

คำตอบที่ 9
       ปู่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ท่านเจ้าของบ้าน รูปนี้แถมก่อนไปทำภาระกิจครับ พบกันใหม่คืนนี้







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:33  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4529

คำตอบที่ 10
       มาต่อแล้วครับ ผมพามาเที่ยวบ้านขุนพันธรักษ์ราชเดชตามสัญญา


บ้านของปู่ขุนพันธฯอยู่ในซอยเล็กๆหน้า สภอ.เมือง เข้าไปกลางๆซอยก็ถึงแล้ว บารมีของปู่ขุนฯสูงมากเพราะในซอยเป็นอิสลามทั้งซอยแต่ก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมาตั้งแต่ครั้งสร้างบ้าน

ปู่ขุนพันธฯเข้ารับราชการตั้งแต่ก่อนเปลี่ยนการปกครอง 2475 จึงมีราชทินนามแบบโบราณ ท่านได้ปราบเสือร้ายโจรสมัยก่อนโดยใช้ทั้งปืนดาบและวิทยาคมที่ท่านมีจนลือชื่อว่าท่านไปอยู่ที่ไหนโจรหนีหมด







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:37  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4530

คำตอบที่ 11
       ท่านได้ย้ายไปประจำหลายจังหวัดจนในที่สุดได้ย้ายกลับบ้านเกิดที่นครฯและอยู่จนเกษียรอายุราชการ ผลงานในการปราบปรามของท่านเลื่องลือจนปัจจุบันนี้

ท่านเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสร้างเสาหลักเมืองนครฯเมื่อปี่ 2530 และสิ่งที่สร้างพร้อมเสาหลักเมืองคือองค์จุตคามรามเทพฯพิมพ์ใหญ่และเล็กที่เรียกว่าสุริยันจันทรา







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:39  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4531

คำตอบที่ 12
       ภายนอกบ้านปู่ขุนพันธฯ สร้างมาหลายสิบปี ท่านอยู่จนเสียที่บ้านหลังนี้เมื่อปีที่แล้วนี้เอง

ผู้ร่วมกันสร้างหลักเมืองที่เป็นแกนนำสำคัญคือ พต.ท สรรเพชร ยศขณะนั้นที่เป็นรองผู้กำกับการได้ทำการสถาปนาหลักเมืองขึ้นใหม่

เรื่องท่านทั้งสองเข้าสัมผัสกับองจตุคามรามเทพฯจนสร้างหลักเมืองเป็นตำนานไปแล้ว แต่เป็นตำนานที่ออกจากปากของคนที่มีชีวิตอยู่คือท่านทั้งสอง ดังนั้นตำนานการสร้างหลักเมืองจึงเชื่อถือได้ถึงเหตุการณ์ต่างของการสร้างและทำไมต้องสร้าง






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:56  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4535

คำตอบที่ 13
       สภาพเดิมๆในบ้านของท่าน (ขอเปลี่ยนรูปเดิมที่ลงสภาพในบ้านเป็นรูปใหม่ด้วยเหตุผลของความปลอดภัย)

ท่านได้เป็นเจ้าพิธีต่างๆระดับชาติหลายงานเนื่องจากวิทยาคมของท่านที่สืบทอดจากสำนักเขาอ้อที่เลื่องชื่อ และการดำรงชีวิตที่น่าเคารพไม่ด่างพร้อย ท่านจึงเป็นที่นับถือไปทั่วประเทศ

งานศพท่านลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเกือบทุกฉบับติดต่อกันหลายวัน ของที่ระลึกงานศพประชาชนถึงกับแย่งกันจนเกิดเรื่องลงหนังสือพิมพ์ว่าจะเหยีบกันตายคาวัด






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 อาทิตย์, 27/5/2550 เวลา : 23:56  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4536

คำตอบที่ 14
       ภาระกิจแรกของครอบครัวที่มาถึงนครศรีฯ คือร่วมเป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่บรรจุอัฐฐิของปู่ขุนพันธฯร่วมกับครอบครัวลูกๆของปู่ขุนฯที่ศาลาหน้าบ้านเพราะท่านไม่อยากไปไหน

นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีของเช้าวันนั้น





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:00  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4537

คำตอบที่ 15
       หลังจากเสร็จแล้ว ปู่ขุนพันธฯและภริยาท่านได้อยู่ในศาลาหน้าบ้านให้คนทั้งหลายได้ไหว้ยามมาเยี่ยมบ้านเหมือนเคยสมัยที่ท่านยังอยู่ที่ท่านจะรับแขกที่ม้าหินหน้าบ้าน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:02  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4538

คำตอบที่ 16
       รูปของท่านถึงกับมีวางขายทุกที่ในนครครีฯ ท่านได้สร้างงานสร้างเงินไปทั้งเมือง นับว่าเป็นบุคคลที่คนทั้งหลายรักและเคารพอีกท่านหนึ่งของเหล่าผู้ที่นับถือองค์จตุคามรามเทพฯในฐานะผู้ร่วมตั้งหลักเมืองและสร้างสุริยันจันทราอันเกรียงไกร






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:03  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4539

คำตอบที่ 17
       สิ่งของเครื่องใช้และเหรียญตราเครื่องยศของท่านได้เก็บไว้ในตู้ในบ้านให้ลูกหลานได้เห็นว่าการที่บุคคลธรรมดาคนหนึ่งได้มีชีวิตมาถึงจุดนี้ย่อมเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดาเหมือนจุดกำเนิด

คนส่วนมากเกิดคล้ายกันแต่จบลงไม่เหมือนกัน จงใช้เวลาทุกวันทำความดีและไม่ควรให้เวลาของชีวิตแต่ละวันเสียไปกับเรื่องไร้สาระจนทำให้ชีวิตทั้งชีวิตไร้สาระตามไปด้วย

ปู่ขุนพันธฯเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้เวลาในชีวิตที่ท่านมีถึง 108ปีของการไม่หยุดนิ่งในการสร้างความดี

(ขอเปลี่ยนรูปเหรียญตราและของใช้ส่วนตัวของท่านเป็นรูปใหม่ด้วยเหตุผลเดิมครับ)






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:04  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4540

คำตอบที่ 18
       (ขอเปลี่ยนรูปห้องของท่านภายในบ้านเป็นรูปนี้ด้วยเหตุผลเดิมครับ)

นับว่ามีน้อยคนที่มีชีวิตเป็นตำนานขณะที่ยังมีชีวิตอยู่

ปู่ขุนพันธฯถือว่าเป็นหนึ่งในนั้น ท่านเป็นคฤหัตถ์ที่ทำตัวเหมือนบรรพชิตตลอดชีวิตที่เหลือหลังจากเกษียรจากราชการ ท่านเป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตที่ดีแก่คนรุ่นหลัง

และสำหรับผู้เลื่อมใสในวิทยาคมท่านเป็นครูและบทสรุปของความมีจริงของศาสตร์ด้านนี้ วิทยาคมมีจริงไม่ใช่เรื่องเล่าในตำนาน ท่านคือตำนานที่เดินได้ที่ไม่ต้องทดสอบความจริงอะไรกับวิทยาคมที่ท่านมีอยู่

นับว่าเป็นวาสนาของผมที่มีโอกาสร่วมเข้าเป็นหนึ่งครอบที่ร่วมกับครัวของลูกๆของปู่ขุนพันธรักษ์ราชเดชในเหตุการประวัติศาสตร์บทหนึ่งของเมืองนครศรีรรมราชในบรรจุอัฐฐิของท่านในวันนั้น







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:05  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4541

คำตอบที่ 19
       แถมรูปสุดท้ายก่อนผมไปทำงานต่อ

รูปปู่ขุนพันธรักษ์ราชเดช และลายมือเขียนให้พรแก่ทุกคนที่เคารพนับถือไปกราบท่านตอนท่านยังมีชีวตอยู่

คืนนี้พบกันใหม่ถ้าผมมีเวลาว่างพอครับ คราวนี้จะพาไปกราบองค์จตุคามรามเทพฯจำลองที่หลักเมืองนครฯ

พูดแบบนี้แสดงว่าต้องมีองค์จริงที่ไหนสักแห่ง ถูกต้องแล้วครับผมพาไปเที่ยวต้องได้กราบองค์จริง อดใจรออีกสองวันได้กราบองค์จริงอายุกว่าพันปีแน่นอน







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:06  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4542

คำตอบที่ 20
       ต่อจากเมื่อตอนกลางวันครับ

ทั้งเมืองนครฯเต็มไปด้วยแผ่นป้ายขายจตุคามฯรุ่นต่างๆ ทั้งเมืองมีรถแห่โฆษณาขายใบจองรุ่นใหม่ๆ เหมือนทั้งเมืองหยุดนิ่งในการทำธุระกิจอื่นๆหมดแล้วขายองค์จตุคามเกือบทุกบ้าน

ผมว่าเรื่องนี้ผิดวัตถุประสงค์ของการสร้างหลักเมืองและองค์จตุคามเมื่อปี2530ของคุณสรรเพชญไปไกลเลยทีเดียว

สำหรับคนเคารพองค์พ่อมาหลายปีแบบตัวผมเองก็รับอะไรสุดกู่แบบนี้ไม่ไหวเหมือนกัน

นายทุนให้วัดสร้างเอามาขายเพื่อตัวเองโดยแบ่งครึ่งๆมีให้ดูเกลื่อนเมืองนครฯ ธุระกิจบนความเชื่อจะมีได้ต่อเมื่อมีคนเดือดร้อน ผมว่ายุคนี้คนเดือดร้อนมีมากพอสมควรถึงได้เห็นอะไรแปลกๆแบบนี้ในบ้านเราเมืองเรา







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:07  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4543

คำตอบที่ 21
       ร้านค้าเคยขายของกินขายขนมขายกาแฟกลายเป็นร้านขายจตุคามฯรุ่นต่างๆกันหมด รถเร่หนังหรือสินค้าราคาประหยัดกลายเป็นรถติดลำโพงประกาศขายใบจอง

เป็นอะไรที่ผมเห็นในสิ่งที่เกินคาด คิดในใจว่าเมืองนครเป็นไปได้ขนาดนี้แล้ว







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:08  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4544

คำตอบที่ 22
       นี่คือสิ่งที่เกินคาดไปอีกขั้น รถบรรทุกใส่จตุคามล้นปรี่จำนวนสิบกว่าคันจอดหลังวัดแล้วโยงสายสิณจ์ไปพันรถต่อไปเป็นช่วงๆเพื่อปลุดเสกจตุคามฯ

จะขนลงจากรถเอาเข้าวัดหน่อยก็ไม่ได้ กลัวเสียเวลาขนาดหนักเอาใส่รถจอดข้างรั้ววัดปลุกเสกเลย

ผมว่าถ้าขี้เกียจขนาดนี้เอาเทปไปเปิดที่โรงงานตอนปั้มเลยจะดีกว่า สะดวกทั้งนายทุนคนสร้างและพระที่ต้องสวดกันทุกวัน

ผมจะเล่าเรื่ององค์พ่อและการสร้างหลักเมืองให้ฟังครับ ผมเล่าแบบคนที่ไม่ใช่คนนครฯแต่เคารพองค์พ่อมาก่อนหน้าคนนครฯแท้ๆอีกเป็นล้านคนมาหลายปี เคารพของผมมันออกจากใจละการกระทำที่ไม่ใช่รูปแบบนี้


ผมไม่ขายองค์พ่อครับ ยกเว้นแต่ท่านจะช่วยให้ผมไม่อดตายเท่านั้น






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:09  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4545

คำตอบที่ 23
       ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชต้นใหม่สร้างเมื่อปี 2530 โดยการริเริ่มของคุณสรรเพชญ ธรรมาธิกุล และขุนพันธรักษ์ราชเดชช่วยสนับสนุนจนแล้วเสร็จ

ผมเรียกว่าต้นใหม่เพราะมีต้นเก่าและไม่ใช่มีต้นเดียว มีหลายต้น

หลายคนบอกว่าผมรู้ได้อย่างไรว่ามีหลายต้น คนนครฯเองยังไม่รู้เลยส่วนมากจะบอกว่าเพิ่งสร้างเมื่อปี 2530นี้เองเพราะหลักเมืองของนครฯไม่ต้องมีคนนครฯมีพระธาตุให้กราบไหว้ ไม่ต้องมีหลักเมือง

คำนี้ผมฟังจากปากคนเก่าแก่ของนครหลายปากกับหูตัวเอง เป็นการเชื่อในสิ่งที่เห็น แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์มียืนยันครับ หลักฐานเป็นสิ่งที่ผมชอบใช้มากกว่าเรื่องเล่า

ตามหลักฐานเสาต้นที่สองเป็นหลักเมืองต้องคำสาปเสียด้วย เรื่องเป็นอย่างไรผมจะเล่าให้ฟัง







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:10  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4546

คำตอบที่ 24
       เมืองนครศรีธรรมราชเดิมมีชื่อว่ากรุงศรีธรรมโศก ดังนั้นพระเจ้าแผ่นดินทุกพระองค์ทรงนามว่าพระเจ้าศรีธรรมโศกราช

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ตามจารึกหลักที่24ได้เรียกว่าเมืองตามพรลิงค์ หลักนี้จารึกเมื่อปี 1773 หรือเมื่อเกือบแปดร้อยปีก่อน แต่ไทยด้านเหนือเรียกเมืองนี้ว่าศิริธรรมนคร ในบาลีคาดว่าน่าจะเป็นฝั่งลังกาเรียกว่ากรุงปาลีบุตร

เมืองที่เจริญมาแต่ครั้งอาณาจักรขอมยังเรืองอำนาจ กรุงสุโขทัยยังเป็นป่าหญ้าไม่มีเมืองจะไม่มีหลักเมืองตามหลักการสถาปนาเมืองตามลัทธิฮินดูได้อย่างไร ในเมื่อเมืองนี้ก่อนศาสนาพุทธได้เข้ามาก็เป็นเมืองที่รับเองฮินดูเข้ามาก่อน รูปสลักเทพฮินดูต่างๆก็มีให้เห็นอยู่เกลื่อนเมือง

นี่เป็นหลักฐานแรกที่บอกได้ว่าเมืองนี้มีหลักเมืองมานานแล้ว






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:11  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4547

คำตอบที่ 25
       ผมคงไม่เอาจารึกหลักที่25 ที่กล่าวถึงพระเจ้าศรีธรรมโศกราชสร้างพระในปี1726 หรือบันทึกราชวงค์ซ้องของจีนที่กล่าวถึงพระเจ้าศรีธรรมโศกราชในปี1711 หรือจารึกหลักที่35ทีเป็นภาษาขอมกล่าวถึง กมรเตงอัญมหาราช มาแจงให้ฟังเนื่องจากต้องปูพื้นกันอีกถึงเมืองจำปา และกัมพุท และอาณาจักรฟูนัน ผมพามาเที่ยวนครฯจะกลายเป็นพาไปเที่ยวเขมรเล่าเรื่องขอมแทน

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห้นความสำคัญของเมืองนครศรีธรรมราชก่อนกำเนิดสุโขทัย ทำให้สรุปได้ไม่ยากว่านี่คือเมืองเอกของอาณาจักรศรีวิชัย

ผมไม่บังอาจสรุปว่าเป็นเมืองหลวงของศรีวิชัย แต่ลังกามาตีศรีวิชัยก็มาตีเมืองนครฯครับ ไม่ตีเมืองหลวงแล้วจะยกทัพข้ามทะเลมาทำไม แต่เป็นการอนุมานตามหลักฐานเท่านั้น

ในใจผมให้คะแนนมานานแล้วว่านี่คือเมืองหลวงของศรีวิชัย ไม่ใช่ที่ไชยาแต่เป็นเพียงคิดในใจเท่านั้น การพันธงต้องมีหลักฐานที่แม่นกว่านี้

ในรูปเป็นเสาหลักเมือง องค์จำลองของจตุคามรามเทพฯที่ทุกคนไปนครฯต้องแวะมากราบขอพรท่าน







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:12  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4548

คำตอบที่ 26
       สาเหตุของการตัดไชยาออกไปจากใจของผมคือชื่อของเมืองไชยาคือเมืองครหิที่จารึกบอกว่าเป็นเพียงเมืองบริวารของนครสรีฯเท่าน้น

เวลานั้นถึงกับส่งกำลังมาตีเมืองละโว้จากขอมเลยทีเดียว ละโว้คือเมืองหลวงของขอมในสุพรรณภูมิหรือตอนนี้ตือลพบุรี

ต่อมากษัตริย์ขอมที่เสียละโว้ให้พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชคือพระเจ้าชัยวรมันที่7ต้องการถ่วงดุลอำนาจของนครฯถึงกับไปผูกสำพันธ์กับศรีสัชนาลัยคือพระยาศรีนาวนำถมหรือที่รู้จักในชื่อของพระราชบิดาของขุนผาเมืองและให้ราชธิดามาอยู่ด้วยพร้อมพระขรรค์ชัยศรีในฐานะราชบุตรเขยของอาณาจักรกัมพุช

ต่อมาในจารึกหลักที่1ของพระเจ้ารามคำแหงได้กล่าวถึงขุนผาเมืองกินเมืองศรีสัชนาลัยและให้เพื่อนนั่งมืองสุโขทัยเป็นปฐมกษัตริย์นามว่าขุนศรีอินทราทิตย์

จะเห็นได้ว่าเมืองนครมีมานานก่อนสุโขทัยหลายร้อยปีมีมาตั้งแต่ครั้งสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัยในสมัยขอมและจามยังครองสุวรรณภูมิ

ในรูปเป็นเศียรหลักเมืองที่ถอดพิมพ์ส่วนพระเศียรจากองค์จตุคามรามเทพองค์จริง







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:13  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4550

คำตอบที่ 27
       อ่านมาถึงตรงนี้เข้าใจแล้วหรือยังว่าเมืองนครศรีธรรมราชต้องเคยมีหลักเมืองมาก่อนแต่ครั้งโบราณตามที่ผมเข้าใจ

หลักฐานของผมไม่มีเนื่องจากอาจจะผุพังตามเวลาหรือไม่ก็ถูกทำลายพร้อมกับการสร้างหลักเมืองที่สอง

ทำลายหลักเมืองเก่าสร้างของใหม่ใครเขาทำกัน อาจจะมีคนแย้งเรื่องนี้

มีครับต้องมี และทำแบบสาปเมืองนครไม่ให้ผุดเกิดมาแข่งรัศมีของกรุงศรีอยุธยาเสียด้วย คงเดาได้ว่าหลักที่สองสร้างโดยกรุงศรีอยุธยา

ถูกต้องครับ เรียกตามหลักโหราศาสตร์ว่าดวงเมืองต้องพิณทุบาทว์ นครศรีฯไม่อาจผุดเกิดได้ต้องเเป็นข้าบริวารกรุศรีอยุธยาตลอดไป

เราก็เคยทำครั้งสุดท้ายกับเมืองเชียงใหม่เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วนี้เอง เอาคุกที่ถือว่าเป็นสิ่งต่ำช้าไปสร้างทับหลักเมืองเชียงใหม่และวังของเจ้าเมืองที่ถือว่าเป็นหัวใจเมือง

เรียกว่าทำลายศิริของเมืองจนสิ้น เชียงใหม่ลดตัวจากประเทศราชเป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของสยามตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:14  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4551

คำตอบที่ 28
       จดหมายเหตุของทูต เดอ ลาลูแบร์ ได้กล่าวถึงวงค์ของศรีธรรมาโศกราชโดยเรียกเมืองว่า ตามพรลิงค์ ก่อนหน้าสืบได้สี่ชั่วกษัตริย์สืบถึงกรุงศรีสร้างโดยพระพระเจ้าอู่ทอง แต่สี่ชั่วกษัตริย์นั้นไม่ใช่นับทางกรุงศรีฯแต่นับตามกษัตริย์เมืองพริบพรี หรือเพชรบุรีนั่นเอง

เพรชบุรีเป็นเมืองหลวงของอโยธยามาก่อนครับ ก่อนสร้างกรุงศรีอยุธยานานเลย แต่ไม่มีในหลักสูตรการเรียนประวัติศาสตร์ของนักเรียน เราเริ่มนับเมืองหลวงที่สุโขทัย แต่ก่อนหน้านั้นเหมือเอาสีดำป้ายประวัติศาสตรไว้ทั้งหมด

อยากรู้ต้องอ่านจารึกตามหลักศิลาเอาเอง

ในรูปเป็นจตุรทิศรอบองค์ประธานหลักเมือง







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:15  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4552

คำตอบที่ 29
       ต่อมาได้เกิดโรคระบาดตามจารึกเรียกว่าไข้ยมบนลงทั้งเมือง ในสมันพระเจ้าจันทรภาณุขึ้นเป็นพระศรีธรรมโศกราช ต้องทิ้งเมืองหนีตายทั้งเมืองจึงกลายเป็นเมืองร้างไป

กรุงศรีอยุทธยาขณะนั้นคือพระเจ้าอู่ทองจึงส่งพระศรีมหาราชและนายศรีทูนมายึดเมืองที่ร้างไว้และบูรณะองค์พระบรมธาตุจนสำเร็จ

ปูมโหรแจ้วว่า สถาปนาเมื่อ แรม12ค่ำเดือน3ปีเถาะ จศ.649 หรือปีพศ. 1830

ในเวปโรงรถนี้คนที่มีความรู้โหราศาสตร์แบบฉกาจมีสามท่าน งูๆปลาๆหลายท่าน คงเห็นว่า

เสาร์เพ่งลัคน์ จันทร์เล็งราหู อาทิตย์อังคาร อยู่ภพห้าลัคนากำเนิด ดวงพินทุบาศว์แบบนี้แช่งเมืองให้ไม่ต้องผุดเกิดเป็นข้ากรุงศรีตลอดกาลนี่นา

ทางออกทางเดียวคือต้องลบดวงเมืองทิ้งแล้วเริ่มใหม่ คือต้องตั้งหลักเมืองใหม่ เหมือนเกิดใหม่อีกครั้ง


คนที่เริ่มสร้างหลักเมืองใหม่พร้อมผูกดวงเมืองคือ พันตำรวจโท สรรเพชญ ธรรมาธิกุล รองผู้กำกับสมัยนั้นเป็นคนผลักดันและทำพิธีโดยจอมขมังเวชขุนพันธรักษ์ราชเดช


ท่านรองฯไม่เชื่อเรื่องนี้ในตอนแรก แต่เหตุการณ์ที่เกิดติดต่อกันจนท่านเชื่อว่าองค์จตุคามรามเทพรอท่านทั้งสองให้ปลดคำสาปเมืองนครฯอยู่


โดยการชักนำให้ท่านรองฯได้พบกันกับขุนพันธรักษ์ราชเดชเพื่อทำการใหญ่ในการปลดคำสาปเมืองนครโดยบัญชาขององค์พ่อจตุคามรามเทพปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรศรีวิชัย

เรื่องเป็นอย่างไร ท่านทั้งสองพบกันได้โดยอำนาจบารมีองค์จตุคามรามเทพกันอย่างไรไปอ่านตอนหน้าครับ

ผมจะพิจรณาดูก่อนว่าเหมาะหรือไม่ เรื่องแบบนี้เล่าแล้วถ้าไม่คนเล่าบ้าก็คนฟังบ้าครับ ผมชอบเรื่องมีเอกสารอ้างอิงแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของความทรงจำของท่านทั้งสอง

ผมขอคิดดูก่อนครับว่าจะบ้าเล่าเรื่องแบบนี้ดีหรือเปล่า






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:16  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4553

คำตอบที่ 30
       คืนนี้เอาเท่านี้ก่อน

สมองผมจะทำงานเบาลง ถ้าได้เขียนเรื่องแบบนี้ให้เพื่อนๆอ่านกัน การเล่าเรื่องแบบนี้ผมถือว่าเป็นการพักสมองอย่างหนึ่ง

ทนอ่านเอาใจผมหน่อยครับ เพราะชีวิตช่วงนี้หาคนเข้าใจผมได้ยากเย็นเข็นใจขึ้นทุกทีแล้ว






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.51.45 จันทร์, 28/5/2550 เวลา : 00:17  IP : 125.24.51.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 4554

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอาทิตย์,24 พฤศจิกายน 2567 (Online 3006 คน)