คำตอบที่ 1
       ไม่มีครับ...

ตัวเลขหน้า w เป็นตัวบอกเกณฑ์อุณหภูมิทำงาน และ ตัวเลขหลัง w เป็นค่าความหนือดของนำมันหล่อลื่น ว่าตามว่า ดีเซลหมุนเร็วกับเครื่องเล็กๆ อย่าง รถปิคอัพ ผมถือหาง 10W30 มากกว่า 20W40 น่ะครับ... ตัวหลังน่าจะเหมาะกับ พวก 6 ล้อมากกว่า..

ส่วนเรื่องเจาะรายละเอียด ผมคงมิอาจเทียบทั้ง พี่หนุ่ม และอาจารย์วอน ..ที่ผมว่าอีกประเดี๋ยว ท่านทั้งสองคงมาขยายความให้กระจ่างมากว่านี้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ใช้ได้ครับ ไม่มีปัญหา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ขอบคุณครับ..ค่อยสบายใจหน่อย
แล้วคราวหน้าผมต้องเปลี่ยนกลับมาใช้เบอร์เดิมหรือว่าใช้แบบไหนก็ได้(ผมหมายถึงทั้ง2เบอร์)
ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ตัวเลขนี้เป็นไปตามมาตรฐาน SAE (The Society of Automotive Engineers) ครับ
เลขหน้า W เป็นตัวเลขเบอร์สำหรับเมืองหนาว คือวัดความหนืดที่อุณหภูมิ 0 องศาฟาเรนไฮต์ (-18 C)
ดังนั้นเมืองร้อนอย่างเราไม่ต้องไปสนใจ เพราะคุณสมบัตินี้แทบไม่มีประโยชน์สำหรับเมืองเรา

ส่วนตัวเลขหลัง W เป็นเบอร์ที่วัดที่อุณหภูมิ 212องศาฟาเรนไฮต์ (100 C) เลขนี้ถึงเป็นเลขที่เราสนใจต่างหาก

เลขน้อยจะได้ฟิล์มน้ำมันที่บางกว่าเลขเยอะ คราวนี้เราก็มาเลือกเอาว่าจะเลือกใช้เลข 30 , 40 , หรือ 50 ดีกว่ากัน

ก็มีเรื่องของเครื่องยนต์มาให้คิดกันเล่น ๆ ครับ ว่าไอ้เครื่องโบราณน่ะ เทคโนโลยีโลหะวิทยา ยังไม่ดีนัก
ระยะระหว่างแหวนกับกระบอกสูบมันมีช่องว่างมาก ก็ต้องใช้ฟิล์มน้ำมันที่มันหนาซักหนอ่ย
ส่วนไอ้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ ๆที่ทำมาปีหลัง ๆ หรือพวกเครื่องคอมมอนเรล เทคโนโลยีมันดีขึ้นไอ้ช่องว่างนี้มันก็แคบลง

เราก็ต้องใช้ น้ำมันเครื่องที่ฟิล์มมันบาง ๆ สังเกตุได้ว่าพอมีเครื่องคอมมอนเรลออกมา ปตท ก็ทำน้ำมันเครื่อง เบอร์ 30 ออกมา
เมื่อซักสิบกว่าปีที่ที่แล้วเบอร์ 30 ไม่ค่อยจะมีขาย สมัยนี้หาซื้อได้สบาย ๆ

รถผมมันเครื่องโบราณ ผมก็ยังเลือกใช้เบอร์ 40 อยู่ทั้งสองคันครับ

ส่วนถ้าคุณใช้เบอร์ 30 ซักพักถ้ารู้สึกว่าน้ำมันเครื่องมันหายมากกว่าปกติ เที่ยวหน้าก็กลับมาใช้เบอร์ 40 เหมือนเดิมแล้วกันครับ

นี่แหล่ะ คนที่รอ ....อิ อิ จาก : kz wanzer(kz wanzer) 29/7/2554 14:36:47 [125.27.110.91]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ผมเข้าใจแล้วครับ เครื่องผมมันโบราณ แล้วก็อายุการใช้งานก็เยอะอยู่ การสึกหรอก็สูง ช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนก็สูง
อย่างนี้ถ้าลูกสูบ แหวน เสื้อสูบ มีการสึกหรอมากๆ แล้วใช้นำ้มันเบอร์ตำ่ ก็มีโอกาสที่นำ้มันเครื่องจะรุดเข้าไปในห้องเผาไหม้ได้สิครับ
อย่างนี้คราวหน้าผมใช้เบอร์ 20w40+ จะดีกว่า ถูกต้องไหมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ถ้ารู้สึกว่าน้ำมันเครื่องมันพร่องไปมากกว่าปกติ ค่อยเพิ่มเบอร์ครับ
หรือใช้เบอร์เดิมแต่เปลี่ยนเป็นเปลี่ยนเป็นกึ่งสังเคราะห์ ถ้าใช้กึ่งสังเคราะห์ก็เปลี่ยนเป็นเบอร์เดิมแต่แบบสังเคราะห์

แต่ส่วนตัวผมว่าน้ำมันสังเคราะห์ราคามันแพง เปลี่ยนกึ่งสังเคราะห์สองรอบ ก็ยังถูกกว่าแถมได้น้ำมันใหม่ ๆ ตลอด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       กึ่งสังเคราะห์ ปตท รวมกรองน้ำมันเครื่องไม่ถึงพันบาท ผมใช้้งานหมื่นกิโลเมตรทุกครั้ง เครื่องยนต์รถคันประจำของผมใช้มาสี่แสนกว่าแล้วยังไม่ต้องทำอะไรแม้แต่เปลี่ยนแหวน คันที่เก่าที่สุดวิ่งไปล้านกว่ากิโลเมตรแล้วเครื่องยังติดง่ายไม่มีปัญหา

น้ำมันเครื่องเป็นสารพิษควรใช้ให้คุ้มค่า เปลี่ยนบ่อยๆนอกจากเปลืองเงินแล้วยังทิ้งสารพิษให้ลูกให้หลานด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ขอบคณครับ ...ตอนนี้นำ้มันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ของเชลล์6ลิตรราคาโดดไปแปดร้อยกว่าแล้วครับ..แพงจริงๆครับ
ผมจะใช้ให้คุ้มค่าครับ
ทุกครั้งผมเปลี่ยนที่ 8000กม.ครั้งต่อไปผมจะเปลี่ยนที่10000กม.ครับ
นึกขึ้นได้ผมสงสัยว่าทำไม เปลี่ยนนึ้ามันเครื่องแล้ว ติดเครื่องสักพักแล้วดับเครื่องพอดึงก้านวัด
นำ้มันเครื่องมาดูทำไมมันดำปี๋เลยครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ

 แก้ไขเมื่อ : 2/8/2554 10:18:14

เครื่องดีเซลมันก็อย่างนี้แหละครับ คงเป็นธรรมชาติของมัน ใส่อะไรดีแค่ไหนก็ดำปี๋ 5L ผมก็เป็น จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 2/8/2554 10:22:27 [203.144.184.129]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ดีเซล 5L ผมใช้ ปตท กึ่งสังเคราะห์ CH4/SJ 6 ลิตร แถม 1 ลิตร ราคาประมาณห้าร้อยกว่าบาท เปลี่ยนทุกหมื่นกิโล


ส่วน HONDA ก็ใช้ตัวนี้แหละ CH4/SJ เพราะรถมันใช้แค่ 3.5 ลิตร ซื้อหนึ่งครั้งเปลี่ยนได้ สองรอบ ๆ ละ หมื่นกิโลเมตรเหมือนกัน

โดนช่างที่อู่แย้งมาเหมือนกันว่า มันน้ำมันของเครื่องดีเซลไม่ควรใช้ แต่ผมก็บอกให้เขาทำ ๆ ไปเหอะ
เพราะผมขี้เกียจพูดถึงมาตรฐานของน้ำมันเครือง

พวกเราโดนโฆษณาหลอกมานาน ไอ้เรื่องน้ำมันเครื่องของดีเซลกับเบนซิน

สำหรับเครื่องดีเซล ถ้าชักก้านวัดมาดูแล้วดำ ก็ดีซิครับ แสดงว่า
น้ำมันเครื่องมีการชะล้างทำความสะอาดได้ดี

ถ้าน้ำมันตัวไหนชักมาแล้วใส ก็เลิกใช้ได้เลย

เจ้า 2 บรรทัดล่าง นี่แห่ะครับ ที่ผมบอกชาวบ้านชาวช่อง ...เค้าก็ว่า ผมว่า เมิงบ้ารึเปล่า?? 55++ จาก : kz wanzer(kz wanzer) 3/8/2554 14:50:37 [101.51.138.83] .... ครับ ผมยอมเป็นคนบ้าครับ จาก : kz wanzer(kz wanzer) 3/8/2554 19:15:45 [125.27.94.8] อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างครับพี่หนุ่มฯ... จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 5/8/2554 11:48:26 [203.144.184.129] แต่ว่างงครับว่าทำไมนมค.เครื่องดีเซลกับเบนซินมันเอามาใช้กันได้???? จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 5/8/2554 11:51:08 [203.144.184.129]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       อย่างนี้ก็เอาไปเติม มอเตอร์ไซค์ได้สิครับ เพราะบางที่เหลือเกือบลิตรใช้กับมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กได้สิครับถ้าได้ก็ประหยัดไปอีก

 แก้ไขเมื่อ : 4/8/2554 13:15:45

นมค.รถยนต์ กับ จยย. ไม่น่าจะใช้กันได้นะครับ ได้ยินเขาเตือนกันว่าอย่าเอามาใช้ด้วยกัน... จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 5/8/2554 11:49:30 [203.144.184.129] นมค.จยย.มันเรียกว่า ออโต้ลูพ รอพี่หนุ่มฯ มาแจงความแตกต่างกันครับ จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 5/8/2554 11:50:15 [203.144.184.129]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ก่อนจะพูดถึงน้ำมันเครื่องของมอเตอร์ไซด์ ต้องพูดถึงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซด์ก่อน

เครื่องยนต์มอเตอร์ไซด์ในบ้านเรามันมี 2 แบบ คือ 2 จังหวะ และ 4 จังหวะ

เครื่องยนต์ 2 จังหวะในบ้านเรา ไม่มีวาล์วควบคุมไอดีและไอเสีย แต่อาศัยตัวลูกสูบทำหน้าที่เป็นวาล์ว
ขณะที่มันเลื่อนขึ้นลง ก็จะไปบังช่องไอดี หรือ ช่องไอเสีย ที่เรียกตามภาษาช่างว่า พอร์ตไอดี พอร์ตไอเสีย นั่นเอง
การแต่งแรงแบบสมัยที่ผมทำง่าย ๆ ก็คือ ขัดพอร์ตให้มันลื่น กับปาดฝาสูบ ตามสูตรของแต่ละสำนัก

ในจังหวะอัด ลูกสูบจะเลื่อนไปปิดพอร์ตไอเสีย และ เปิดพอร์ตไอดี ไอดีจะไหลเข้ามาที่ใต้ลูกสูบ ก็อยู่ในห้องเดียวกับเพลาข้อเหวี่ยงนั่นแหละ
ตอนที่จุดจะเบิดลูกสูบก็จะเลื่อนลงมา พอร์ตไอเสียก็เปิด ในขณะเดียวกันไอดีที่อยู่ในห้องเครื่องก็จะเข้าไปในห้องเผาไหม้ด้วย
ไอดีส่วนหนึ่งจะเสียไปเนื่องจากออกไปกับไอเสียด้วย รถมอเตอร์ไซด์สองจังหวะท่อไอเสียมันถึงมีกลิ่นน้ำมันเหม็น ๆ ออกมาด้วยไงล่ะ

ที่ไอดีไม่ย้อนกลับไปที่คาร์บิว เพราะว่าหลังคาร์บิวมันมีวาล์วตัวนึง ที่เรียกกันว่า รีดวาล์ว ถ้าใครเคยรื้อออกมาคงจะนึกภาพออกว่าหน้าตาเป็นยังไง
วาล์วตัวนี้เป็นวาล์วทางเดียว คือไหลเข้าได้ แต่ไหลออกไม่ได้

ระบบนี้ใช้ T2 ผสมกับเชื้อเพลิงเพื่อช่วยหล่อลื่นกระบอกสูบ ไม่ได้ใช้น้ำมันเครื่องเพียงอย่างเดียว


ส่วนเครื่อง 4 จังหวะ ก็คล้าย ๆ กับเครื่องรถยนต์ คือมีทั้งแบบโซ่ราวลิ้น หรือแบบที่ทันสมัยหน่อยเป็นใช้ CamShaft
ในรถเล็กกระเทยก็มี ซูซุกิ Raider 150 ที่เป็นเครื่องทวินแคม

เครื่องยนต์ชนิด 4 จังหวะจึงไม่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่น 2T เหมือนเครื่อง 2 จังหวะ

ระบบหล่อลื่นในมอเตอร์ไซด์เล็ก ๆ ก็ใช้ระบบวิดสาดธรรมดา ไม่ต้องมีปั๊มฉีดน้ำมันเครื่องเหมือนกับเครื่องใหญ่ ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ต่อไปก็เป็นระบบส่งกำลัง ในมอเตอร์ไซด์ใช้แผ่นครัทช์แบบเปียกหลายแผ่น ประกบกัน
ถ้าไปจับดูจะรู้ว่าผิวของแผ่นครัทช์ไม่เรียบ เหตุที่ใช้หลายแผ่นก็เพราะว่าตอนเริ่มจับมันจะได้นิ่ม ๆ ไม่กระโดดแบบม้า
เพราะว่าแต่ละแผ่นมันจะขยับตัวได้บ้าง คราวนี้จะใช้กี่แผ่นก็แล้วแต่ตามที่บริษัทออกแบบมา
อย่างรถ YAMAHA RX-100 มี 5 เกียร์ ใช้แผ่นครัทช์ทั้งหมด 5 แผ่น จำนวนแผ่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเกียร์


ที่ต้องเอาแผ่นครัทช์แช่อยู่ในน้ำมันก็เพื่อให้มันช่วยระบายความร้อนนั่นเอง
อาจจะสงสัยว่าเอาครัทช์ไปแช่ในน้ำมัน แล้วมันจะจับได้แน่นหรือ ลื่นตายห่ะ
แผ่นครัชท์มันตะปุ่มตะป่ำ เหมือนผิวกระดาษทรายครับ ไม่ได้เรียบ

เข้าใจถึงการทำงานของมัน คราวนี้ได้คำตอบหรือยังครับว่า น้ำมันเครื่องรถยนต์ใช้กับมอเตอร์ไซด์ได้หรือเปล่า ??

แล้วมันไม่มีมาตรฐานน้ำมันเครื่องของมอเตอร์ไซด์หรืออย่างไร ??

มีครับ มาตรฐานน้ำมันเครื่องสำหรับมอเตอร์ไซด์ ทั้งแบบ 2 จังหวะ และแบบ 4 จังหวะ
วันหลังจะมาเขียนต่อครับ พรุ่งนี้เช้าต้องเดินทาง

สรุปว่านมค.รถยนต์ ใช้ได้กับ จยย.4จังหวะ อย่างนั้นใช่ไหมครับพี่หนุ่มฯ? จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 8/8/2554 16:37:08 [203.144.184.129] ต้องดูระบบคลัตช์ครับ ถ้าเป็นคลัตช์เปียกโดยทั่วไปจะใช้ไม่ได้ครับเพราะน้ำมันเครื่องรถยนต์มีส่วนผสมของ จาก : tae43me(tae43me) 11/8/2554 22:35:13 [124.120.92.111] โมลิบดินั่มทำให้คลัตช์ลื่นแต่ถ้าเป็นพวกคลัตช์แห้งอย่างเช่น Ducati ก็ใช้ได้ครับ จาก : tae43me(tae43me) 11/8/2554 22:36:15 [124.120.92.111] หรืออีกพวกก็จะเป็นรถสกูตเตอร์หรือ รถA/T ที่กำลังนิยมในตลาดบ้านเราครับ จาก : tae43me(tae43me) 11/8/2554 22:37:01 [124.120.92.111]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       อันนี้เป็นมาตรฐานของน้ำมันของเครื่อง 2 จังหวะ หรือน้ำมันที่เรียกว่าออโตลูป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       อันนี่มาตรฐานสำหรับ 4 จังหวะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       จะเห็นได้ว่า น้ำมันเครื่องของมอเตอร์ไซด์กับรถยนต์ ใกล้เคียงกันมาก

มีของแตกต่างที่เห็นได้ชัดตัวเคมีบางตัวที่มีผลต่อครัทช์ คือสารพวก Friction Modifier

ก็ได้แก่พวก กราฟไฟท์ และ โมลิบดินัม

ถ้าขยันอ่าน ไปดูมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่นได้ที่ http://www.jalos.or.jp/onfile/jaso_e.htm

มอเตอร์ไซด์ที่บ้านผม YAMAHA RX-100 ใช้มาตั้งแต่ผมอยู่ ประถม 5 ตอนนี้ก็ยังอยู่
ใช้น้ำมันเครื่องที่เหลือเติมจากรถยนต์ที่แหละครับ เท่าที่จำความได้ กว้านไป 2 ไซด์
เกียร์ไม่เคยซ่อม เปลี่ยนครัทช์ 2 ครั้ง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ด้านซ้ายเป็นมาตรฐานสำหรับเครื่องยนต์แกสโซลีน (วงเขียว)

ด้านขวาเป็นมาตรฐานของเครื่องยนต์ดีเซล ( วงแดง )

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       1 และ 2 คืออะไร ไปอ่านคำตอบที่ 18

3 คืออะไร ให้ไปอ่านคำตอบที่ 9

ผมลงภาพประกอบขนาดนี้แล้ว ผมว่าไม่น่าจะมีคำถามอีกแล้ว
เพราะ 1 ภาพ มันได้ความหมายมากกว่า 100 คำพูด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       ได้ความรู้ดีมาก ขอบคุณครับคุณหนุ่มกระโทก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       ผมไม่ได้เข้ามาอ่านนานติดงานต่างจังหวัด
ขอบคุณครับที่ให้ความรู้

แสดงความคิดเห็นย่อย