คำตอบที่ 29
ผีสุดยอด!ดวลโทษบี้สิงห์ผงาดคว้าเจ้ายุโรปสมัย3!
"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผงาดครองเจ้ายุโรปอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อจัดการพิชิต "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ในการด้วยจุดโทษ 6-5 หลัง 90 นาทีและต่อเวลาพิเศษเสมอกัน 1-1 ส่งให้ ปีศาจแดง คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้เป็นสมัยที่ 3 ของประวัติศาสตร์สโมสร และ เป็นดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ ส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คว้าดาวซัลโวสูงสุดจำนวน 8 ประตู
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2007/2008)
(วันพุธที่ 21 พฤษภาคม 2551)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 1 - เชลซี (อังกฤษ) 1
(ต่อเวลาพิเศษ120นาทีเสมอ 1-1, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะจุดโทษ 6-5)
สนาม :ลุซนิกิ สเตเดี้ยม (มอสโก, รัสเซีย)
ผู้ชม : 70,000 คน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ปะทะ เชลซี รองแชมป์พรีเมียร์ ลีก ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2007-2008 โดยแข่งขันกันที่ ลุซนิกิ สเตเดี้ยม กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย โดย ผีแดง ครองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาแล้ว 2 สมัย ขณะที่เชลซี เข้าชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นสมัยแรก ซึ่งก่อนเกมเริ่มขึ้นมีการแสดง ประมาณ 10 นาที และ ไรนาต ดาซาเยฟ อดีตนายทวารชื่อดังของสหภาพโซเวียต ถือถ้วยเข้ามาในสนาม ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาในสนาม
เกมนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดส่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์ และ คาร์ลอส เตเวซนำทัพ แต่ไม่มีชื่อของ พาร์ค จี-ซอง สตาร์เกาหลีใต้ แม้ กระทั่งในรายชื่อตัวสำรอง ส่วนอัฟราม แกร้นท์ กุนซือเชลซีได้ แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายหายเจ็บข้อเท้าขวาที่เกิดขึ้นระหว่างฝึกซ้อม ลงเล่นได้ ส่วนปีกซ้ายเป็นหน้าที่ของ ฟลอร็องต์ มาลูด้า สตาร์ ทีมชาติฝรั่งเศส และมี ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา เป็นกองหน้าตัวเป้า
ครึ่งแรกเริ่มต้นขึ้น นาทีที่ 5 โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ มิดฟิลด์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่ปีเตอร์ เช็ก นายทวารสาธารณรัฐเช็กของเชลซีเซฟไว้ได้อย่างไม่มี ปัญหา
เชลซี ยังเจาะเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษไม่สำเร็จ เมื่อเกมผ่านไป 10 นาที และนาที 15 โอกาสเป็นของผีแดง ในจังหวะที่ ปาทริซ เอวร่า เปิดบอลยาวให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พาบอล หนี มิชาแอล เอสเซียง แบ็กขวาเชลซี ก่อนจ่ายให้ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ยิงที่เสาสองติด ปีเตอร์ เช็ก
และแล้วนาที 21 โคล้ด มาเกเลเล่ มิดฟิลด์เชลซีขึ้นโหม่งแย่งบอลกับ พอล สโคลส์ จน สโคลส์ บาดเจ็บมีเลือดออกที่จมูก ซึ่งมาเกเลเล่ โดนใบเหลือง ขณะที่ สโคลส์ โดนใบเหลือง เช่นเดียวกัน จากจังหวะปะทะกันดังกล่าว
จนกระทั่งความพยายามของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นผลเมื่อได้ประตูนำ 1-0 นาที 26 พอล สโคลส์ ไหลบอล เวส บราวน์ เปิดด้วยเท้าซ้ายจากริมเส้นฝั่งขวา ไปที่เสาสองให้ คริ สเตียโน่ โรนัลโด้ เทคตัวโหม่งสะบัดเบียดเสาเข้าไปตุงตาข่าย อย่างสวยงาม นับเป็นประตูที่ 8 ของโรนัลโด้ ในการเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ 11 ในฤดูกาลนี้
เชลซีโต้กลับเร็ว นาที 27 มิชาเอล บัลลัค จอมทัพจากเยอรมัน ยิงไกลระยะ 30 หลา บอลเหินข้ามคานออกไป จากนั้นนาที 33 เชลซีเกือบได้ประตูเมื่อ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา โหม่งย้อน คืนหลัง บอลมาถึง บัลลัค จะโถมขึ้นโหม่ง แล้วไปกดทับใส่ ตัวของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ บอลโดนหัว ริโอ จะเข้าประตูตัวเอง แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังไวปัดไว้ได้ ก่อนที่พอล สโคลส์ โหม่งทิ้งออก หลัง
นาที 34 ผีแดงโต้กลับเร็ว โรนัลโด้ เปิดจากทางซ้ายให้ คาร์ลอส เตเวซทิ้งตัวโหม่งจ่อๆ แต่ปีเตอร์ เช็ก ปัดออกมาได้ ลูกยังมาเข้าทาง ไมเคิล คาร์ริค ยิงซ้ำติด เช็ก ปัดบอลออก เส้นหลัง เป็นลูกเตะมุม ซึ่ง ฮาร์กรีฟส์ เปิดลูกเตะมุมจากทางขวาให้ โรนัลโด้ โหม่งเฉี่ยวเสาออกไป
เกมเป็นของผีแดงตลอด โดยพวกเขามีโอกาสลุ้นทำประตูอีกครั้ง นาที 41 ฮาร์กรีฟส์ เปิดจากทางด้านขวาเข้ามาในเขตโทษ บอลเลย โคล้ด มาเกเลเล่ แต่ เตเวซ เข้าชาร์จไม่ถึง ชวด โอกาสได้ประตูที่สองไปอย่างน่าเสียดาย
จังหวะต่อมา ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังแมนฯ ยูไนเต็ดโดนใบเหลือง นาที 43 หลังจากทำฟาวล์ แฟร็งค์ แลมพาร์ด ทำให้ เชลซี ได้ฟรีคิก แต่ บัลลัค ยิงฟรีคิกข้ามคานออกไป อย่างไม่มีลุ้น
อย่างไรก็ตาม เชลซีมาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 เมื่อ มิชาแอล เอสเซียงยิงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบหลังของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เลยมาเข้าทาง แฟร็งค์ แลมพาร์ดที่สอด เข้ามา เดาะบอลผ่านการป้องกันของ ฟาน เดอร์ ซาร์เข้าประตูไปนาที 45
ในช่วงทดเวลาเจ็บนาที 46 บัลลัค ได้ยิงไกล 30 หลา บอลเหินข้ามคาน และนาที 47 ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เข้าเสียบข้อเท้าโรนัลโด้ อย่างน่าเกลียด จนโดนใบเหลือง จบครึ่งแรก ทั้ง สองทีมเสมอกันอยู่ 1-1
มาถึงครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่เปลี่ยนผู้เล่นสำรองลงสนาม โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า นาที 53 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำชิ่งให้ ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้าย ฝรั่งเศสเปิดบอลเข้ามาหน้าประตู แต่ทั้ง โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ และเวย์น รูนี่ย์ เข้าไม่ถึงบอลอย่างน่าเสียดาย
นาที 54 เชลซีน่าได้ประตูที่สองในจังหวะที่ ฟลอร็องต์ มาลูด้า เปิดบอลเร็วให้ มิชาแอล เอสเซียง ยิงด้วยเท้าซ้ายบริเวณกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไป
เชลซี เริ่มบุกกดดันได้มากขึ้น นาที 57 มิชาเอล บัลลัค ได้บอลหลุดเข้าไปยิงเต็มเท้า ทว่าบอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย และนาทีต่อมา แฟร็งค์ แลมพาร์ดเปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งขวาเข้า มาหน้าประตู ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ขึ้นโหม่งข้ามคาน
แมตช์ต่อจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ดยังไม่ได้บอล โดยเกมเป็นของสิงห์ บลูส์อย่างเห็นได้ชัด แต่เกมมาหยุดชะงักใน นาที 67 เมื่อ ริโอ เฟอร์ดินานด์ เป็นตะคริว แต่หลังจากปฐม พยาบาล เขาสามารถกลับมาเล่นต่อได้ ทว่านาที 70 โคล้ด มาเกเลเล่ มิดฟิลด์เชลซีบาดเจ็บ หลังจากโดน คาร์ลอส เตเวซ ทำฟาวล์ ทว่าหลังจากปฐมพยาบาลเรียบร้อย มาเกเลเล่ สามารถกลับมา เล่นต่อไปได้
นาที 77 เชลซีน่าได้ประตูที่สอง เมื่อ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษ บอลชนเสาอย่างจัง
ช่วงท้ายเกมท่านเซอร์เปลี่ยน ไรอัน กิ๊กส์ ลงมาแทน พอล สโคลส์ ส่งให้ กิ๊กส์ ทำลายสถิติของ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน เป็นที่เรียบร้อยแล้วในการเป็นนักเตะที่ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมากที่สุดที่จำนวน 759 นัด แต่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขันทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษ แมนฯ ยูไนเต็ด เดินหน้าบุกเข้าใส่ทันทีนาทีที่ 92 คาร์ลอส เตเวซ ทำชิ่งกับ เวย์น รูนี่ย์ หลุดเข้าไปในเขตโทษแต่ ปีเตอร์ เช็ก ออกมาได้เร็วเซฟไว้ได้
เชลซี พลาดโอกาสได้ประตูอีกครั้งในนาทีที่ 94 แอชลี่ย์ โคล จ่ายให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้โอกาสยิงในเขตโทษแต่บอลพุ่งไปชนคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 97 โซโลมง กาลู จ่ายบอลออกไปทางขวาให้กับ มิชาเอล เอสเซียง ที่เติ่มขึ้นมาล็อกหลบ เวส บราวน์ แต่ ไมเคิ่ล คาร์ริค ยังตามมาสกัดออกหลังได้ทัน
แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสอีกครั้งนาทีที่ 100 ปาทริซ เอวร่า ลุยเข้ามาในเขตโทษไปถึงสุดเส้นหลังก่อนผ่านเข้ามาหน้า ไรอัน กิ๊กส์ ยิงแต่ จอห์น เทอร์รี่ ยังสกัดออกไปได้จากนั้นทั้งสองทีมยังทำอะไรไม่ได้จบการต่อเวลาในช่วง 15 นาทีแรกยังเสมออยู่ 1-1
ครึ่งหลังของการต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 111 เนมานย่า วีดิซ กองหลังแมนฯยู ไปเสียบ อเนลก้า ตัวสำรองของเชลซี จนตัวลอย ผู้ตัดสินให้ใบเหลืองกับ วีดิซ พร้อมเป่าเป็นฟรีคิกของเชลซี ซึ่ง อเนลก้า รับอาสายิงออกไป
เวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ จนครบ 120 นาที เสมอกันไป 1-1 เลยต้องไปตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษชี้ขาด
แล้วก็เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แม่นกว่าเอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 6-5 ผงาดคว้าครองเจ้ายุโรปได้อย่างยิ่งใหญ่เป็นสมัยที่ 3
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิซ, ปาทริซ เอวร่า - โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, พอล สโคลส์, ไมเคิล คาร์ริค, คริ สเตียโน่ โรนัลโด้ - เวย์น รูนี่ย์, คาร์ลอส เตเวซ
สำรอง: โทมัสซ์ คุสซ์แซ็ค (ผู้รักษาประตู) - อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์, นานี่, จอห์น โอเช, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, มิกกาแอล ซิลแวสตร์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - มิชาแอล เอสเซียง, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - โคล้ด มาเกเลเล่ - โจ โคล, มิชาเอล บัลลัค, แฟร็งค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ส, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
สำรอง: คาร์โล คูดิชินี่ (ผู้รักษาประตู) - อังเดร เชฟเชนโก้, จอห์น โอบี มิเกล, ซาโลมง กาลู, อเล็กซ์, ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ, นิโกล่าส์ อเนลก้า
ผู้ตัดสิน: ลูบอส มิเชล (สโลวาเกีย)
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน: โรมัน สลิสโก้ (สโลวาเกีย), มาร์ติน บัลโก้ (สโลวาเกีย)
ผู้ตัดสินที่ 4 : วลาดิเมียร์ ฮรินอัค (สโลวาเกีย)