คำตอบที่ 31
       เอกสารพวก ที่ทดสอบกับหน่วยงานต่าง ๆ ค่ะ

ปลาไม่ได้นำขึ้น Web ปลา เพราะไฟล์ค่อนข้างใหญ่ กลัว Web จะมีปัญหา ต้องขออภัย

http://sapite.4shared.com/

ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือ ต้องพิจารณากันเองนะค่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 32
       เรื่องอุปกรณ์หรือ ADDITIVE ประหยัดน้ำมัน ผมคิดว่าผมได้ศึกษาเรื่องนี้มานานพอสมควร
และได้เคยเขียนเอาไว้ตอนเริ่มเปิดบอร์ดนี้ใหม่ๆ

มันอาศัยหลักการลดแรงตึงผิวของน้ำมัน เพื่อที่จะให้น้ำมันระเหยได้เร็วเพื่อจะได้ไปจับตัวกับอากาศตอนเผาไหม้

ปริมาณที่ใส่เมื่อเทียบกับน้ำมันในถังน้ำมันเชื้อเพลิง ผมไม่เชื่อว่า จะมีอานุภาพพอที่จะลดแรงตึงผิวของน้ำมันทั้งถังได้
และการลงโฆษณาต่าง ๆ ก็อ้างโน่นอ้างนี้ ถึงทฤษฎีต่าง ๆ จริงบ้างไม่จริงบ้าง ตลอดจนอาจารย์ตามสถาบันต่าง ๆ

การทดสอบที่ยุติธรรมจะต้องมีตะว Dummy ใส่ลงไปเช่นเดียวกับการทดลองใช้ยา ที่เป็นแค่แป้งเท่านั้น
ไม่ให้คนที่ทดลองรู้ตัวว่าใส่อะไรเข้าไป เพื่อที่จะไม่ให้เกิด BIAS หรือ อคติต่อ ตัวใดตัวหนึ่ง
การทดสอบที่เห็นได้ชัดเป็นอย่างมากคือการเอาน้ำมัน ออกเทน 91 เขียนว่า 95 แล้วไปเติมในรถที่ใช้ออกเทน 91
หลายคนบอกว่ารถแรงขึ้นกว่าเดิมทั้ง ๆ ที่ เป็นน้ำมันตัวเดียวกัน

ถ้าให้ซื้อมาลองคงจะไม่ทำเพราะเหตุและผล ยังยอมรับไม่ได้ แต่ถ้าจะให้ทดสอบผมยินดีที่จะทดสอบให้
แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องให้ผมทดลองไม่ต่ำกว่าสามเดือน แล้วผมจะแสดงผลการใช้งานตามความเป็นจริง
ให้อย่างละเอียด

เอกสารที่คุณทำลิ้งก์มาผมอ่านจบตั้งแต่ผมทำงานอยู่ระนองเมื่อสองวันที่แล้ว
ไม่มีส่วนใดเลยบอกว่านาซาค้นคว้าตัวไอ้นี่ครับ

การประหยัดไม่ได้หมายความว่าระยะทางเพิ่มขึ้นเท่านั้น
เชื้อเพลิง,ระยะทางเท่าเดิม แต่ใช้เวลาน้อยลง ก็คือการประหยัดเหมือนกัน

ผมขอแนะนำคุณปลา ว่าให้เอาไปทดสอบที่ ปตท. แล้วเอาผลการทดสอบออกมาจะดีกว่า
อากาศที่นั่น อัดถังสั่งมาจากนอก อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ถูกควบคุม ให้เท่ากันทุกครั้ง

หรือเอาไปขึ้นไดโนเทสต์เพื่อทดสอบว่ามันได้แรงม้าแรงบิดเพิ่มขึ้นไหมโดยที่อัตราสิ้นเปลืองเท่าเดิม


ผมเรียนด้านนี้มาน้อยแต่อาศัยว่าพอมีรุ่นพี่ รุ่นน้อง อยู่บ้าง ได้พอสอบถามความรู้ประดับใส่สมองเอาไว้บ้าง
คนที่ทำงานด้านเชื้อเพลิงหรือใช้เชื้อเพลิง เช่นป๋า ETHAN_HUNT รู้ดีเพราะเกียวข้องกับเรื่องนี้มาหลายสิบปี

การเผาไหม้ของของทุกชนิดจะต้องเป็นไอก่อนเสมอ แม้แต่การเผาศพเผาขยะ อย่างน้อย ต้องมีสองขั้นตอน
คือความร้อนครั้งแรกคือ ให้เป็นไอ และมีการเผาไอทิ้ง เป็นครั้งที่สอง

การจะขายของสิ่งใดควรจะมีความเข้าใจ สามารถอธิบายเหตุและผลได้ อย่างละเอียดครบถ้วน
ตลอดจนดูถึงการอ้างอิงของข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้นว่า เป็นจริงแค่ไหน สถาบันหรือบุคคลเหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือเพียงใด
ไม่ใช่ว่าเขาว่าอย่างงั้น เขาว่าอย่างงี้ เซลล์ขายรถ ขายประกันเสร็จผมมาหลายรายแล้ว

บางคนยกตัวเองเป็นอาจารย์ มาขายของ ผมยังสงสัยว่าเป็นหมอดู หรือว่าเป็นคนสอนแต่งหน้าทำผม
หรือหากินส่วนตัวแต่เอาสถาบันที่ตัวเองทำงานอยู่มาอ้าง ไม่ดีเป็นอย่างมาก

จ้างคนทำงาน แต่ไม่จ่ายเงินเดือน ใครจะทำให้ เอาพลังงานออกมาใช้ ก็เช่นเดียวกันครับ

โทรทัศน์รอบดึกก็จะมีการโฆษณาอุปกรณ์หรือสารเคมีพวกนี้ออกมาเกือบทุกคืน ใครนอนดึก ๆ ก็ลองคอยดูกัน


http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/Question.asp?ID=34

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 33
       ผมขออนุญาตเพื่อนๆลบลิ้งค์แรกแต่ยังเก็บลิ้งค์สองเอาไว้เนื่องจากยังไม่ค้าขายโดยโจ่งแจ้ง

วันนี้วันหยุดมีฝนตกน่านอนผมขออ่านเรื่องราวในลิ้งค์ให้เพื่อนๆฟัง แก้ง่วงครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 34
       เรื่องแรก เป็นเรื่องทดสอบแกสพิษที่รถปล่อยออกมาโดยมีการวัดสองครั้งห่างกันประมาณสี่เดือน ตัวอย่างเป็นรถใช้วิ่งบริการซ่อมบำรุงอาคาร ผลออกมาว่าทุกคันไอเสียน้อยลง แต่ไม่ได้บอกว่า ทดสอบอย่างไร ทดสอบโดยหน่วยงานใด ทดสอบโดยใช้มาตราฐานใด เป็นเพียงตัวเลขลอยๆ

เรื่องที่สอง เป็นการทดสอบไดโนเทส ทั้งเครื่องเบ็นซินและดีเซล ทดสอบโดยแลปเอกชน ผลการทดสอบออกมาว่าใช้เม็ดที่คุณหอมจันทร์ขายแล้วได้ผลดีกินน้ำมันน้อยลง

แต่ผมมีข้อสังเกตุว่า การทดสอบมีการตั้ง A/F ต่างกันมาก ตัวอย่างดังนี้ครับ ตอนใช้เม็ดและไม่ใช้เม็ดจะตั้งไว้ที่แถวๆ 14 กว่าๆถึง 15 แต่บางขณะจะโดดกลุ่มข้อมูลไปถึง 16-25 ซึ่งการแช่ A/F ในเวลาที่ต่างกันและเชื้อเพลิงบางกว่ากันเกือบสองเท่าย่อมให้ผลต่างกันอยู่แล้วไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้เม็ด

และข้อมูลของA/F สูงๆทำให้เห็นภาพได้ว่าได้มีการบันทึกข้อมูลตอนถอนคันเร่ง แต่ขณะที่ A/F ต่ำๆคือการเดินเครื่องปกติเป็นครั้งๆไปแล้วจึงเอาข้อมูลมารวมกันเนื่องจากความเร็วรอบคงที่ไม่เปลี่ยน แต่ A/F เปลี่ยนไปจนสุดกู่แล้ว แต่แรงม้าและแรงบิดไม่ตกเลย

ข้อมูลตอนใช้เม็ดไม่มีการแจ้งตัวแปรอื่นที่ต้องพิจรณาเช่นอุณหภูมิและแรงดันอากาศเข้าเครื่องแต่ตอนไม่ใช้เม็ดมีการแจ้งครบถ้วน และพิจารณาจากข้อมูลสภาพแวดล้อมของเครื่องทดสอบไม่ได้ควบคุมสภาพแวดล้อมให้เป็นตามมาตราฐานการทดสอบใดทั้งสิ้นและทั้งสองการทดสอบบอกไม่ได้ว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน

เครื่องดีเซลก็อาการเดียวกัน คือไม่ใช้เม็ดตั้ง A/F เอาไว้ที่ 52-54 ใช้เม็ดตั้งไว้ที่ 99-104 ลดปั้มจ่ายน้ำมันต่างกันเท่าตัวทำให้แสดงผลของการกินน้ำมันชัดเจน ที่น่าแปลกคือแรงม้ากับแรงบิดมันเท่าเดิมขณะที่จ่ายน้ำมันต่างกันเกือบเท่าตัว ทำให้นึกในทางลบว่าน่าจะมุขเดียวกับการเก็บข้อมูลเครื่องดีเซล

ซึ่งทั้งสองการทดสอบใช้เม็ดและไม่ใช้เม็ดตัวเลขแสดงให้เห็นว่ามีการจ่ายน้ำมันเข้าเครื่องต่างกันโดยจงใจทำ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 35
       เรื่องที่สาม เป็นการทดสอบเม็ดและหัวเชื้อน้ำมันโดยใช้เม็ดอย่างเดียวกับใช้เม็ดด้วยให้หัวเชื้อด้วยและทดสอบเทียบกันโดยการลองวิ่งจริง ทดสอบโดยวัดอย่างไรไม่บอก บอกแต่ว่าทดสอบตามคำแนะนำของบริษัทที่ขายเม็ดและน้ำมัน และทดสอบตามคำแนะนำของฝ่ายธุรการบริการทั่วไปที่เป็นของหน่วยงานรัฐ

ผลออกมาใช้ทั้งเม็ดทั้งหัวเชื้อได้ผลดีกว่าใช้เม็ดอย่างเดียวโดยไม่มีการอ้างยืนยันที่มาของการวัดตัวเลข

เรื่องที่สี่บอกว่าได้จดทะเบียนกับกองป้องกันมลพิษสหรัฐไว้แล้ว โดยกองมลพิษได้ให้คำแนะนำว่า ให้ใช้คำพูดเพื่ออ้างเพียงแต่จดไว้แล้วเท่านั้น กองควบคุมมลพิษไม่ได้รับรอง หรือลงนาม หรืออนุมัติ แต่อย่างใดทั้งสิ้น ตัวแทนจำหน่ายมีสิทธิ์อ้างได้เพียงแต่บอกว่าจดทะเบียนไว้เท่านั้นไม่มีการรับรองหรือลงนามจากกองควบคุมมลพิษแต่อย่างใด

ขอมูลประกอบแนบท้ายเป็นเพียงแต่ของบุคคลที่สามเพื่อยื่นประกอบการจดทะเบียนเท่านั้นไม่ใช่การทดดสอบหรือรับรองจากองควบคุมมลพิษ

สรุปแล้วแค่ยื่นจดทะเบียนเท่านั้นแต่กองควบคุมมลพิษไม่ได้รับรองผลิตภัณพ์แต่อย่าใดทั้งสิ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 36
       เรื่องที่ห้าเป็นการทดสอบตัวอย่างน้ำมัน เรื่องนี้ค่อนข้างทำเป็นมาตราฐานดีโดยผลทดสอบบอกเพียงว่าน้ำมันยี่ห้อต่างๆเป็นเช่นไรเก็บตัวอย่างจากรถประเภทไหน ผลออกมาว่าน้ำมันที่เก้บจากรถตัวอย่างอยู่ในมาตราฐานแต่ไม่ได้บอกว่าก่อนใส่เม็ดหลังใส่เม็ดมันต่างกันหรือเปล่าบอกเพียงแต่ว่าน้ำมันในถังของรถได้มาตราฐานเท่านั้น ตอนจบบอกถึงความหนาของน้ำมันว่าใส่หัวเชื้อแล้วมันบางลงเท่านั้น

บทนี้ต้องอ่านนานหน่อยเพราะมันเป็นภาษาเบลเยี่ยม

เรื่งที่หกเป็นเรื่องของนายเจอรี่ที่ผมเขียนไปแล้วแต่มีเพิ่มเติมว่าเม็ดที่นายเจอรี่คิดค้นทำงานอย่างไร นายเจอรี่บอกว่ามันจะไปเคลือบหัวเทียนกับลูกสูบแหวนสูบแล้วจะช่วยทำให้ลื่นขึ้นแหวนหลวมก็ทำให้ฟิตขึ้นทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เกินกว่า 99% ทำให้เผาไหม้ได้เร็วขึ้น

นายเจอรี่อ้างถึงการทดลองจากรถเบ็นซ์ S320 ของตัวเองที่ใช้งานวิ่งสองหนแล้วเก็บสถิติพบว่าได้ระยะทางเพิ่มมากขึ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 37
       เรื่องที่เจ็ดเป็นเรื่องของฉลากว่ามันเป็นอย่างไร ใช้อย่างไร ถ้ามันเข้าตา สูดดม หรือกินเข้าไป จะต้องทำอย่างไร เก็บอย่างไร ติดไฟหรือเปล่า ฯลฯ เหมือนฉลากยาครับ

เรื่องที่แปดเป็นเรื่องราคาที่ต้องซื้อเม็ดต่อหีบห่อบรรจุภัณฑ์ ความประหยัดเป็นตัวเงิน ผลการทดสอบน้ำมันก่อนใส่เม็ดหลังใส่เม็ดอันนี้ทำค่อนข้างดีแต่ผลออกมามีทั้งข้อดีข้อเสียตัวเลขส่วนใหญ่ไม่แตกต่างแบบจะมีผลต่อเครื่องยนต์ ตบท้ายด้วยประวัตินายเจอรี่เหมือนเรื่องที่หก

เรื่องที่เก้าเป็นโฆษณาสรรพคุณของเม็ดที่ว่านี้บอกว่าใช้แล้วประหยัด 10.1% มีคุณสมบัติดีอย่างไรเหมือนกับที่คุณหอมจันทร์เคยลงไว้แล้ว

เรื่องที่สิบเป็นเรื่องซ้ำกับเรื่องที่ห้า เป็นการอธิบายผลการทดสอบน้ำมันก่อนใส่หลังใส่

เรื่องที่สิบเอ็ดเรื่องสุดท้านเป็นผลการทดสอบของยูเครนรัสเซียผลออกมาว่ารถวิ่งได้ระยะทางมากขึ้นโดยใช้รถสามคันมี โอเปิล ฮอนด้า และเบ็นซ์ มีผลทดสอยน้ำมันมันว่ามีอ็อกเทนมากขึ้น

น่าสนใจตรงที่ผลของรัสเซียทดสอบมีอ็อกเทนเพิ่มขึ้นพรวดพราดระดับ 5-6 แต่ผลในยุโรปและอเมริกากลับให้ระดับ หลังจุดทำให้เคลือบแคลงในผลทดสอบของรัสเซียทั้งหมด

เพราะในอเมริกาและยุโรปใช้น้ำมันตามปั้มมาทดสอบแต่รัสเซียใช้ Isooctane ผสม n-heptane 70-30 มาเป็นน้ำมันพื้นฐาน แล้วชาวบ้านจะหาน้ำมันอย่างรัสเซียทดสอบมาเติมให้อ็อกเทนพุ่งเหมือนตัวเลขที่แสดงไว้ได้ที่ไหนล่ะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 38
       จบแล้วพร้อมฝนหายพอดี หวังว่าคงเป็นแนวทางพิจารณาทางเท็คนิกว่าจะซื้อเม็ดมาใช้หรือเปล่า



ถ้าถามผมก็คงตอบเหมือนคุณอีธานว่า

"ดูเหมือนจะได้ยินทุกครั้งที่ราคาพลังงานสูงขึ้นแล้วก็มีสินค้าแบบนี้เข้ามาจำหน่าย โดยเฉพาะช่วงนี้สินค้าจากโรงงานห้องแถวจากจีนทะลักเข้ามาจนแทบนับตัวไม่ถ้วน เงิน 100 บาทกับอะไรก้ไม่รู้หนึ่งเม็ดมันมากสำหรับคนหาเช้ากินค่ำแบบพวกเรานะครับ"



เสี่ยอีธานเงินเดือนหกหลักยังถล่มตัวว่าหาเช้ากินค่ำ ผมกับเพื่อนๆมิเป็นยาจกแล้วหรือครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 39
       " ที่กินค่ำเพราะงานมากเลยไม่มีเวลากินหรือเปล่า ขอรับ "

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 40
       คนข้างบนได้ค่าขนมจากแม่บ้านวันละยี่สิบบาท

อย่างงี้กว่าจะซื้อได้คงต้องอดค่าขนมถึง 5 วัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 41
       ผมว่าพี่อีธานน่าจะหาเช้ากินวันยันค่ำแน่ๆเลย ล้อเล่นครับบบบบบบบบบบบบบบบบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 42
       กระทู้ดีมีประโยชน์...ได้เห็นมุมมอง และวิธีคิด ของนักคิดหลาย ๆ ท่าน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 43
       เรื่องแม่บ้าน จ่ายค่าขนมให้พ่อบ้านเหรอครับพี่ป้อม

ใช่ครับ ดีมีประโยขน์ แต่สงสัยพ่อบ้านรายนี้คงจะต้องทำ OT บ่อย ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 44
       ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นเรื่องดีมีประโยชน์จริงๆ ครับพี่หนุ่ม..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 45
      

" มีเเรงทำ OT น่ะดีเเล้วนะ "


ดีกว่าคนหมดเเรง เเล้วเเสร้งนอนดึก--ตื่นเช้า เอาเเต่ไป ตปท. ตจว. ไม่รู้กลับมา จะหาเเรงที่ไหนมาส่ง " ตกเบิก " .....หือ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 46
       เคยได้ยินเพื่อนเล่าให้ฟังว่า ผู้ชายจะมีช่วงวิกฤตอยู่ 3 ช่วง

1. วัยรุ่น แรงดี ไม่มีเงิน (ยังไม่มีงานทำ)

2. วัยกลางคน แรงดี มีเงิน แต่ไม่มีเวลา

3. วัยชรา มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง


ถึงตอนนี้คงรู้แล้วว่า ใครอยู่ช่วงไหนของชีวิต...ฮา...5555

ส่วนผมอยู่นอกเหนือกฏเกณฑ์หน่อยนึงตรง "แรงพอมี เงินพอมี เวลาพอมี" .....จะเข้าข่ายพออยู่พอกินรึเปล่าครับคุณหนุ่ม กรโทก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 47
      

ถ้าเป็นตามนั้นจริง ผมยืนยันว่าอยู่ในวัยวิกฤติที่ ๑ ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 48
       คุณหนุ่มกระโทก จริงหรือที่อยู่ในขั้นที่ 1 ....ฮา

1. วัยรุ่น แรงดี มีเวลา ไม่มีเงิน (ยังไม่มีงานทำ)

ใครบิดเบือนความจริง....จะมีอาการตามมาก็คือ ของที่อยากให้แข็งไม่ยอมแข็ง ของที่ไม่อยากให้แข็งกลับแข็งอย่างที่ไม่ต้องการ....เฮ้อ...นี่แหล่ะน๊า...หาความพอดีมิได้....จิตนิ่งเมื่อไหร่...ใจสงบเมื่อนั้น

พอแล้ว เค้าคุยกันเรื่องลูกเหม็น เราไปชักให้เข้าหาธรรมะ อีกแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 49
       คน ศรีสะเกษเป็นพยานให้ได้ครับ
อ้อมี ป๋า ETHAN อีกคน

ผมไม่มุสาครับ แต่อาจจะมีตอแหล บ้างเป็นครั้งคราว เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง

อาการอย่างที่ว่าผมไม่เคยเป็นซะด้วยซิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 50
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 51
      
เข้าใจว่า " คน ศรีสะเกษเป็นพยานให้ได้ครับ " น่าจะหมายถึงผม งั้นคงต้องตอบ

จากเงื่อนไข 1. วัยรุ่น ... พออนุโลม เพราะหน้าตาอ่อนเยาว์


แรงดี ...... เเต่มักขาดปฎิบัติ อันเนื่องมาจาก....


มีเวลา ....... อยู่เเต่กับเวปบอร์ด

ไม่มีเงิน ............ เพราะภรรยาถือกุญเเจเซพไว้

ยังไม่มีงานทำ........... น่าจะถูกมากกว่าทุกข้อ

เเต่หากจะถามเรื่องอ่อน -- เเข็ง ผมคงตอบเเทนไม่ได้เพราะไม่เคยเข้าไปคลุกวงในขนาดนั้นครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 52
      
เห็นด้วยกับ คำตอบที่ 51 ทุกประการ ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 53
       "ผมขอแนะนำคุณปลา ว่าให้เอาไปทดสอบที่ ปตท. แล้วเอาผลการทดสอบออกมาจะดีกว่า
อากาศที่นั่น อัดถังสั่งมาจากนอก อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ถูกควบคุม ให้เท่ากันทุกครั้ง"
ขอบคุณ คุณหนุ่มกระโทก ที่แนะนำนะค่ะ

เรื่องนี้คงจะเกินหน้าที่ของปลาไปหน่อยค่ะ...

ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของสินค้า เนื่องจากยังถือว่าเป็นสินค้าใหม่ อาจมีหลายคงตั้งข้อสังเกตุไปได้หลายทาง บริษัทเองมีหน้าที่ในการสร้างความเชื่อมั่น และความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าของตน

สำนักงานในประเทศไทยจะเปิดทำการเร็วๆ นี้ ปลาคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบริษัท สำหรับเรื่องนี้ต่อไปค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำนะค่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 54
       ยาม้าที่ใส่รถถ้าไปเดินตามร้านแต่งรถ ก็จะเห็นกันบ่อย ๆ ในโคราชก็มี "ร้านโคราชเฮดเดอร์" ผมเห็นมาไม่ต่ำกว่าสี่ปี

หรือที่ขายกันประกาศมานานแล้ว ก็ร้าน "มงคลกิจการยาง" บนถนนราชสีมา-โชคชัย ประมาณ กม 4 ติดกับปั้ม ปตท
ยี่ห้อเดียวกับของที่คุณขายนั่นแหละ มันจึงไม่ได้เป็นของใหม่แต่อย่างใดเลย

เขาประกาศขายเม็ดละ 120 ปกติซื้อขายกันที่ 100 บาท เอาจริง ๆ ถ้าช่วยขาย ได้ราคาลงมาอีก หลายสิบบาท

ยาม้ารถระบาดมาหลายปีในภาคอิสาน เช่นเดียวกับ ยาม้า ที่คนกิน

สมัยนี้ยาม้ามันเป็นยาบ้าผิดกฎหมาย เลยเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น ยาไวอากร้าสำหรับรถ

ไปใต้เที่ยวหน้า จะหาหินน้ำมันที่ขายให้เรือประมง เทคโนโลยี่รัสเซีย มาเปรียบเทียบกับ ยาม้า เทคโน นาซา
ดูว่า ค่ายไหน จะมีเทคโนโลยีสูงส่งกว่ากัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 55
       "ผมเห็นมาไม่ต่ำกว่าสี่ปี"

ปลาว่าถ้า 4 ปี น่าจะคนละยี่ห้อละค่ะ
เพราะตัวนี้ บริษัทเปิดดำเนินการเมื่อ พฤศจิกายน 2005 ยังไม่ถึง 2 ปีเลยค่ะ

และส่วนใหญ่ที่คนไทยรู้จัก ก็รู้จักกันประมาณต้นปีนี้เองค่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 56
       ครับเป็นคนละยี่ห้อ

ของพวกนี้ ตายแล้วเกิดใหม่ อยู่เรื่อย ๆ ครับ

"เท็จจริงยังไม่มีหน่วยงานใดของรัฐที่ลงนามรับรองอุปกรณ์ประหยัดน้ำมันสำหรับรถยนต์ "


แต่ขึ้นทะเบียนได้ เท่านั้น

http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/Question.asp?ID=34

อยากทดสอบติต่อคุณ ปาฝึกหัด แกทำงานที่หน่วยทดสอบพอดีเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 57
      

เข้าไปอ่าน ดู ฟัง ตามเวปไซท์ที่คุณปลาบอกมาเเล้ว เเละก็ไม่ต่างจากที่ท่านอาจารย์ von เขียนไว้

เวลาที่น้ำมันมีราคาสูงขึ้น มักจะมีสินค้าจำพวกประหยัดน้ำมันออกมาอยู่บ่อย ๆ คำอ้างก็ไม่ต่างกัน อวดอ้างสรรพคุณดีเลิศล้ำ เที่ยวนี้ถึงกับเอาองค์การ NASA มาประกอบ เเต่พอตรวจสอบเเล้วก็ไม่เป็นไปตามอ้างเลย

พอมีคนเขาอยากให้ตรวจสอบ ก็บอกคนขายไม่มีหน้าที่ คำนี้พูดได้ " เเต่อายเเทนจัง " เหมือนเราเดินไปซื้อสินค้าถามที่มาที่ไป คนขายบอกว่าดี มีที่มาอย่างนั้นอย่างนี้ ฯลฯ เผอิญเจอลูกค้าตรวจสอบจริงจัง เลยออกข้างทางว่าไม่ใช่หน้าที่ งั้นคิดอย่างนี้ได้ไหมว่า

" คนขายไม่รู้จริงเกี่ยวกับสินค้า เเค่คิด รู้สึกว่าดี เลยเอามาขาย "

คนซื้อจะได้ตัดสินใจถูกว่า......


" จะยังคงไว้วางใจจ่ายเงินซื้อสินค้าเเบบนี้ต่อไปอีกหรือไม่ ?"

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 58
      

เเถมอีกนิด


" เหมือนอาโกเชียร์เเขกหน้าตู้ น้องคนโน้นก็ดี น้องคนนี้ก็เด็ด เเต่หน้าที่ทดสอบ เป็นของเเขก เสี่ยงดวงเอาเองก็เเล้วกัน "

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 59
       เท่าที่ทราบ และเคยเห็น แต่ไม่เคยใช้เลย ผมว่า เจ้าสินค้าลักษณะเดียวกันนี้ ผมเห็นมานานหลายปีมาแล้ว ครั้งแรกๆ เลยก็น่าเกือบ 10 ปีมาแล้ว ใช้กันในกลุ่ม แมงกะไซร์ นักซิ่ง 2 ล้อทั้งหลาย นะครับ ผิดถูกอย่างไร คงไม่ว่ากัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 60
       เอ... เปรียบเทียบเกินไปหน่อยไหมค่ะ "คุณว่ามั้ย |?|"

เนื่องจากเราไม่ได้เป็นนักขายมืออาชีพ

ที่บอกว่า " คนขายไม่รู้จริงเกี่ยวกับสินค้า เเค่คิด รู้สึกว่าดี เลยเอามาขาย " รู้สิค่ะ ไม่งั้นข้อมูลที่เอาขึ้นมา present ให้ท่านดู จะมายังไง? ...

แต่ข้อมูลมากกว่านี้จริงๆ ก็บอกตรงๆ ว่าไม่รู้...
ไม่จำเป็นที่เราต้องรู้เรื่องทุกอย่าง... รู้เท่าที่จำเป็นก็พอแล้วมั้งค่ะ... (หรือจำเป็น)

ก็เคยบอกไปแล้ว ว่าแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน เรามีหน้าที่เสนอข้อมูลให้ตามที่ได้มา (ไม่ได้มีการปรุ่งแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด)

และของที่นำมาเสนอถ้ามันดีจริงอย่างที่โฆษณาจะเป็นประโยชน์หรือไม่ กับใคร

Attitude... +/-

แสดงความคิดเห็นย่อย