คำตอบที่ 151
       แล้วเราก็ขึ้นเขาไปโดยรถกระเช้า

ผมฮัมเพลงเพลง เฟอนิคูลี เฟอนิคูล่า ไปตลอดทาง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 152
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 153
       ในรถกระเช้าเริ่มขึ้นบนเขา วิวข้างล่างเริ่มจางลงจากหมอกที่ยิ่งสูงยิ่งหนา

ข้างบนมีแต่เมฆและหมอกมองลงมาข้างล่างเกือบไม่เห็นอะไรหรอกนอกจากมีลมพัดมันให้บางลงบ้าง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 154
       ในที่สุดเราก็ถึงบนยอดเขา

ข้างล่างว่าหนาวแล้วข้างบนยิ่งหนาวกว่าแถมยังมีแต่เมฆฝนที่ดูเหมือนหมอกหนาๆเต็มไปหมด

ดีแฮะ ขึ้นมาเดินกลางหมอกที่หนาวยะเยือกตอนบ่ายจะหาได้ที่ไหนกันง่ายๆนอกจากที่นี่วันนี้นี่แหละ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 155
       ยิ่งเดินยิ่งเจอหมอกหนาขึ้น ความจริงมันคือเมฆฝนนั่นแหละเราขึ้นมาสูงจนอยู่ระดับเดียวกับเมฆฝน

ทั้งหมอกทั้งฝนทั้งหนาวครบสูตรจริงๆ ยังดีที่ไม่มีลม

ถ้ามีลมเมื่อไรก็ตัวใครตัวมันเผ่นลงจากยอดเขากันไม่ทัน เพราะถ้าลุยด้วยเสื้อผ้าแบบที่เตรียมไปวันนั้นแค่เสื้อหนาวขนสัตว์ถักไม่สู้ลมที่ทะลุเข้าไปได้มันหนาวถึงตายเอาง่ายๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 156
       วันนี้เอาเท่านี้ก่อนครับ

พรุ่งนี้ผมจะพาเดินป่าลงจากภูเขากลางหมอกหนาและฝนตกปรอยๆ เดินจนพลบค่ำถึงจะลงจากป่ามาข้างล่างได้

จะสนุกแค่ไหนติดตามตอนหน้าครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 157
       สุดยอดเลย นะขอรับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 158
      
" ญี่ปุ่นหนาวมากกกก "

(อ่านยังยะเยือกตามเลยครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 159
       CCD ของกล้องมันมีแสงย่านอินฟาเร็ดมาช่วยด้วยทำให้มองได้กระจ่างกว่าตามองตามปกติ แต่ถ้ามองด้วยตาตอนนั้นมันมืดมาก

แล้วตูขึ้นมาหาพระแสงอะไรฟ่ะมองอะไรก็ไม่เห็นทั้งฝนทั้งหมอก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 160
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 161
       ทางเดินเล็กๆจะพาไปไหนก็ไม่รู้แต่ก็ไป

เดินไปสักพักก็พบว่ามันพาเราไปขึ้นเขาต่อมีลานท่องเที่ยวมีร้านค้าของที่ระลึก แต่ผิดวัตถุประสงค์เพราะพวกเราจะเข้าป่าเดินลงชมป่าไปเรื่อยๆ

ดังนั้นเปลี่ยนทิศเดินลงดีกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 162
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 163
       พอเราจับทิศทางได้ถูกต้องทั้งที่เห็นข้างหน้าได้ไม่เกินสิบเมตรด้วยตาเปล่าก็เริ่มเดินไปเร่อยๆ

ทางเดินอีกด้านเป็นเขาตัดลงไปแม้จะไม่น่ากลัวแต่สภาพทางเดินป่าไม่มีคนมาเดินกับเราด้วยเกิดอะไรขึ้นก็ลำบากแน่

ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจทางเดินก็ต้องมองฝ่านเลนส์กล้องเพราะกล้องมันรับแสงอินฟาเร็ดที่ทะลุทะลวงหมอกได้ดีกว่าตามนุษย์ปกติ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 164
       ขนาดมองทะลุได้ดีกว่าตามนุษย์ยังเห็นได้แค่นี้แหละครับ

อุณหภูมิตอนบ่ายยังต่ำขนาดนี้ยังคิดเลยว่าพรุ่งนี้เช้าคงได้เห็นแม่คะนิ้งจับสนามหญ้าหน้าโรงแรมแน่ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 165
       บางช่วงเมฆน้อยพอใช้ตามองได้ดีขึ้น ก็เดินสะดวกแต่มันหวิวหน่อยๆตรงที่อีกข้างของทางเดินมันเหวนี่หว่า

ดีนะตอนเดินมามันไม่เห็นมากเพราะหมอกคลุมเลยเดินแบบไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 166
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 167
       ยิ่งเดินลงยิ่งมืดและฝนเริ่มแรงขึ้นเพราะฝนมันไม่ได้ตกใส่หัวจากข้างบนหรอกเราอยู่กลางเมฆฝนเลยดังนั้นมันเม็ดใหญ่แต่แปลกตรงที่วิ่งใส่หัวเราช้ากว่าที่เเคยเจอกันตามปกติ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 168
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 169
       ตัดสินใจไม่ผิดเลยที่ขึ้นมาเพราะสภาพอากาศแบบนี้มันสวยไปอีกแบบหนึ่ง

มันเงียบสงบไม่มีคนเลยเหมือนป่าเป็นของเราแต่ผู้เดียว อากาศหนาวยะเยือกแบบหาไม่ได้ในบ้างเรา จมูก หู มือ เหมือนไม่รู้สึกอะไร

ทั้งที่ใส่ถุงมือยังหนาวเพราะผมดันเลือกถุงมือมาผิดดันเอาของโอ๊กเล่ย์ตัวที่ใส่เล่นกีฬาแทนที่จะเอาแบบกันหนาวมาแต่ก็ยังดีกว่ามือเปล่าๆน่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 170
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 171
       ฝนถล่มหนักขึ้นเรื่อยจนร่มเริ่มไม่ค่อยจะคุ้มตัวได้

มาดูกันกว่าอีปู่ฟูจิกับนิกค่อนD80 อะไรมันจะสู้ฝนได้ดีกว่ากัน

อีปู่ฟูจิมันสบายอยู่แล้ว เจอมาหนักกว่านี้ยังเฉยๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 172
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 173
       พวกเราเดินแบบไม่ได้เหลือบมองนาฬิกากันเลยทำให้ลืมไปว่าบ่ายสี่โมงกว่าๆมันก็มืดแล้ว

ยิ่งสถาพอากาศแบบนี้มันจะมืดเร็วกว่าบ่ายสี่โมง ตอนนั่นบ่านสามโมงกว่าแล้วสงสัยว่าจะมืดมันในป่านี่แหละ

มากับผมกลัวอะไร สภาพอย่างไรอย่างไรก็พาเดินป่ากลับได้ทั้งนั้นแหละ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 174
       ใบไม้เปียกผมก็เปียกไม่เอาเปรียบกัน ดวลกันด้วยกล้องแฟร์ๆ

เมเปิลต้นนี้มันแดงลอดหมอกออกมาเด่นกว่าต้นอื่น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 175
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 176
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 177
       ยิ่งเย็นใกล้ค่ำแสงยิ่งน้อยลงหมอกยิ่งมากขึ้น

ภาพนี้แหละที่สภาพหมอกมันใกล้ของจริงมากที่สุดคือมองอะไรเกินกว่าสิบเมตรมันไม่มีทางเห็นได้เลย

ถ้าเดินลงให้ต่ำกว่าระยะเมฆฝนน่าจะมีทัศนะวิสัยดีกว่านี้เพราะพวกเราเดินในก้อนเมฆฝน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 178
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 179
       ที่ครึ่งทางลงเขามีศาลาให้นั่งพักดูวิวตัวเมือง

ที่จุดนี้หมอกบางลงไปมากแล้วแต่พบกับปัญหาใหม่คือฝนถล่มอีกระลอกใหญ่

สรุปแล้วทัศนะวิสัยมันก็ไม่ดีขึ้นกว่าเดิมหรอก เราพักที่จุดนี้จนฝนเบาลงแล้วต้องรีบเดินต่อเพราะถ้ามันมืดกลางทางจะเดินลำบากกว่านี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 180
      

แสดงความคิดเห็นย่อย