WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ถามเรื่องการตรวจสอบ Batteries Isolator หน่อยครับ

จาก Supermop
IP:58.8.138.220

พฤหัสบดีที่ , 26/7/2550
เวลา : 18:00

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ขอถาม เรื่องการตรวจสอบ Batteries Isolator หน่อยครับ....คือว่าผมซื้อของมือสองมา (ฝากเค้าซื้ออีกที คนไม่รู้จักกันด้วย เลยไม่รู้ประวัติ) จากนั้นก็ให้ช่างติดตั้งให้ พร้อมกับซื้อแบตลูกที่สองมาวางเพิ่ม..........ตานี้อยากรู้ว่าวิธีตรวจสอบว่ามันทำหน้าที่สลับการชาร์จ ลูกที่ 1 กับลูกที่ 2 ตามหน้าที่ของมันรึเปล่า ?????

ตอนนี้รถก็ใช้งานได้ตามปกติ (เพราะว่าแบตลูกที่ 1 เรายังปกติดีอยู่)....เลยอยากรู้ว่า เราจะต้องเอา แอมป์มิเตอร์ หรือ โวล์ทมิเตอร์ ไปวัดเจ้าแบตฯ ลูกที่ 2 ตอนไหน ถึงจะรู้ว่าเจ้า Isolator มันเริ่มทำการสลับการชาร์จแบตฯ แล้วครับ...?????

ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าครับ

เอาดอกบัวมาฝากเพื่อน ๆ ด้วยครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 1
       ยี่ห้ออะไรครับ กี่ขา มีขั้ว LED Test Lamp หรือเปล่า มีขา OverRide หรือเปล่ามี Manual Switch หรือเปล่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 222.123.197.199 พฤหัสบดี, 26/7/2550 เวลา : 20:18  IP : 222.123.197.199   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10915

คำตอบที่ 2
       ยี่ห้อ Warn ครับพี่ อ.von Richthofen

ตอนนี้มีเพื่อน ๆ บอร์ด JUC ให้คำแนะนำตามนี้ครับ

http://jeep.thailandoffroad.com/board/Question.asp?ID=J27387

รบกวนท่าน อ.von Richthofen ช่วยแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Supermop 58.8.136.113 ศุกร์, 27/7/2550 เวลา : 06:44  IP : 58.8.136.113   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10941

คำตอบที่ 3
       Battery Isolator ที่ใช้ต่อกับแบตเตอรี่สองตัว มี 4 ขั้ว ปกติจะต่อแบบนี้ครับ

1 ต่อกับ แบตเตอรี่ตัวหลัก (1)
2 ต่อกับแบตเตอรี่ตัวรอง(2)
3 ต่อกับไฟที่ออกมาจากไดชาร์จ (เขียนว่า A)
4 ต่อกับสัญญาณจาก Regulator (R) ถ้าศัพท์เทคนิคเรียกว่า Remote Sening Terminal

ถ้าเป็นแบบสามขั้วจะไม่มีขั้ว R

ถ้าต่อแบบปกติจะต้องแบ่งโหลดคือขั้วแบตสองตัวนี้จะแยกกันโดยเด็ดขาดไม่ใช้อุปกรณ์ร่วมกันครับ

การวัดก็ใช้โอห์มมิเตอร์ตั้งที่ Rx10000
1 วัดระหว่างขั้ว 1 กับ A แล้วสลับสาย เข็มจะขึ้นข้าง ไม่ขึ้นข้าง(หรือขึ้นแต่น้อยมาก ๆ)
2 และก็วัดระหว่าง 2 กับ A แล้วสลับสาย เข็มจะขึ้นข้าง ไม่ขึ้นข้าง เช่นเดียวกัน
3 วัด 1 กับ 2 ไม่ว่าจะสลับสายอย่างไรก็ไม่ขึ้นครับ

อ้อก่อนวัด ปลดสายออกให้หมดก่อนนะครับ

ถ้ามีขั้ว (3) ก็แสดงว่าต่อแบตได้สามลูกครับ การวัดก็ทำเช่นเดียวกัน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.19.200 ศุกร์, 27/7/2550 เวลา : 15:30  IP : 202.91.19.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10970

คำตอบที่ 4
       http://www.warn.com/corporate/images/90/UserManualSRC.US.readers.pdf



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก itti 61.19.33.186 ศุกร์, 27/7/2550 เวลา : 15:55  IP : 61.19.33.186   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10974

คำตอบที่ 5
       ลิงก์ที่ให้มา มันเป้นเทคนิคการใช้วินส์ มิใช่หรือครับ

ไม่เกี่ยวกะ Battery Isolator แต่อย่างใด

อ้อ มีอีกอย่างครับพี่ป้อม

ตัว Isolator จะ Drop ไฟไปประมาณ 0.7 โวลต์ ดังนั้นตะต้องปรับตั้ง Regulator ควบคุมไฟที่ชาร์จเข้าแบตใหม่ด้วยครับ
เดี๋ยวไฟจะชาร์จเข้าไม่พอครับ

ผมไม่มีรถจี๊ปใช้ เลยไม่ทราบว่ามันปรับตรงไหน และปรับได้หรือเปล่าแต่ถ้าไอ้เสือแก่ของผมมันอยู่ใกล้หม้อลมเบรค

สำหรับรถรุ่นใหม่ ๆ เช่น วีโก้ ไอ้ตัวนี้มันไม่มี



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.19.200 ศุกร์, 27/7/2550 เวลา : 16:15  IP : 202.91.19.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10978

คำตอบที่ 6
       ขอบคุณ คุณหนุ่มกระโทก จด ๆ ๆ ๆ ....มีโอกาสเมื่อไหร่คงต้องเลี้ยงเย็นตาโฟ + ชาดำเย็น ชื่นใจ...เพื่อขอบคุณบ้างแล้ว....เสร็จแล้วค่อยใช้ให้รื้อรถทำให้ด้วย





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Supermop 58.8.146.213 ศุกร์, 27/7/2550 เวลา : 21:09  IP : 58.8.146.213   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11008

คำตอบที่ 7
       มีอีกวิธีครับพี่ป้อมใช้กรณีที่ไม่มีมิเตอร์วัด เอาแบบลูกทุ่งครับ
พอได้เหมือนกันคือ ใช้หลอดไฟ 12 V ธรรมดานี่แหละ

1 ต่อขาไฟข้างหนึ่งกับขั้วแบต สมมุติว่าจ่อกับขั้วบวกนะครับ
2 คราวนี้จะมีขั้วเหลือแค่สองขั้วนะครับคือขั้วแบตที่เหลือข้างหนึ่ง กับ ขั้วไฟอีกขั้วหนึ่ง
เอาไปต่อระหว่าง A กับ 1 และลองกลับข้าง ไฟจะติดข้างหนึ่งและไม่ติดข้างหนึ่งครับ
3 ทำแบบเดียวกับขั้ว A กับ 2 ด้วย ทดลองแบบเดียวกัน ถ้ามีขั้ว 3 ก็ทำแบบนั้นเช่นกันครับ ผลออกมาจะต้องเหมือนข้อ 2
4 การทดสอบระหว่าง 1 กับ 2 , 1 กับ 3 , 2 กับ 3 ไม่ว่าจะกลับขั้วอย่างไรไฟก็ไม่ติดครับ

สำหรับเย็นตาโฟ ขอเป็นอาหารลาวได้ไหมขอรับ พวกส้มตำ ข้าวเหนียว ลาบ น้ำตก
ส่วนการรื้อ ถ้าให้ผมรื้อแล้วห้ามบ่นเป็นเด็ดขาด เพราะผมประกอบไม่เป็น

อ้อ ต้องปลดสายก่อนนะครับ

รูปที่แนบมาเป็นวงจรภายในของ Battery Isolator โดยทั่วไปครับ
ใครมีพื้นความรู้ทางไฟฟ้าเห็นแล้วก็ร้องอ๋อเลยครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.19.200 ศุกร์, 27/7/2550 เวลา : 21:44  IP : 202.91.19.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11009

คำตอบที่ 8
      
" อยู่ป่ามันยังไม่เบื่อลาบ ส้มตำดอกรึทั่น"



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kupree จาก kupree ศุกร์, 27/7/2550 เวลา : 22:31  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11012

คำตอบที่ 9
      
กลับมาอีกทีคุณหนุ่มตอบไปหมดแล้ว

ผมมักจะไม่ค่อยชอบ Isolator แบบนี้มากนักเนื่องจากต้องรบกับปัญหาเรื่องแรงดันตกที่ขั้วเกือบหนึ่งโวลท์และอีกเรื่องคือมันโง่เกินไปที่จะรู้ว่าแบ็ตเตอรี่ตัวไหนเต็มแล้วตัวไหนยังหิวอยู่ มันจับอย่างเดียวคือตัวไหนแรงดันต่ำกว่าก็อัดเข้าไปเรื่อยๆ

ผมชอบแบบ Relay Isolator มากกว่าเพราะแรงดันไม่ตก มันบังคับไฟได้ และยังแสดงถึงสภาวะแต่ละลูกได้ด้วย ถ่ายไฟสลับไฟได้ตามใจนึกเลยครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen เสาร์, 28/7/2550 เวลา : 00:05  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11016

คำตอบที่ 10
       โอวว....ความรู้ทั้งนั้น เรื่องระบบไฟผมบอดสนิทเลย แต่อย่างไรก็ยังดี เก็บเอาไว้ไปแนะนำให้ช่างเค้าทำดีกว่า...ถ้าเห็นคำตอบที่ 9 ก่อนผมไม่ซื้อแล้วเจ้า Isolator นี่

เห็นมีเพื่อนเค้าเล่นต่อแบตฯ 2 ลูกเลย เค้าว่าใช้มานานแล้วไม่เห็นไปไรเลยครับ....ระยะยาวเป็นไงครับ

ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง สำหรับความรู้ที่มอบให้

คุณหนุ่ม กระโทก มีโอกาสเมื่อไหร่ จะเลี้ยง ไก่ย่างหนังกรอบ แกงผักหวานไข่มดแดง แกงคั่วเห็ดเผาะ ไม่รู้จะถูกใจรึเปล่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Supermop 58.8.134.89 เสาร์, 28/7/2550 เวลา : 05:53  IP : 58.8.134.89   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11021

คำตอบที่ 11
       อยากให้อาจารย์วอน ช่วยอธิบายหลักการทำงานแบบคร่าวๆให้ฟังครับ ดูแล้วมันงง อธาบายตัวตัวไหนจ่ายไปชาจท์ แล้วตัวไหนทำหน้าที่เลือกชาจท์ ตัวไหนแสดงผล และอื่นๆครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก .... 124.157.129.191 เสาร์, 28/7/2550 เวลา : 13:33  IP : 124.157.129.191   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11026

คำตอบที่ 12
       ในวงจรที่แสดงในรูปยังไม่มีตัวแสดงผลครับส่วนมากจะซื้อแยกมาคล่อมขั้วแบตเอาเองมีทั้งของแพงของถูกให้เลือกใช้

ในรูปเป็น Isolator ของระบบเครื่องเสียงในรถที่ใหญ่จนต้องใช้แบตสองลูก จะใช้แบบที่คุณป้อมซื้อมาก็คงไม่ดีเท่าไรเนื่องจากจะมีแรงดันตกคล่อมขั้วสูงและมันรับกระชากแรงๆแบบเบสหนักไม่ได้ดีและจะออกอาการเสียงบวมเหมือนแอมป์งานวัด

สวิทซ์A เป็นตัวต่อหรือตัดแบตลูกที่สองเข้าระบบไฟรวม ตัวนี้จะใช้ Under voltage สองระดับคุมอัตโนมัติก็ได้ พอไฟมันตกมันจะต่อเข้าระบบชาร์ทเองพอแรงดันขึ้นสูงพอก็ตัดตัวเองทิ้งพอปิดสวิทซ์กุญแจมันก็ตัดตัวเองขาดจากกัน ตัวนี้ของ Omron ก็มีขายไม่แพง ถ้าเงินน้อยก็เอาคัทเอาท์ไฟชาร์ทใส่แทนก็พอกล้อมแกล้มไหว

สวิทซB เป็นตัวต่อ แบตลูกที่สองเข้าแอมป์ตัวที่กินไฟมหาศาล หรือเป็นรถของพวกเราก็ตรงเข้าวินซ์ได้เลย ถ้าไม่ใช้ก็ตัดเอาไว้และใช้สวิทซ์A เพื่อเลือกใช้แบตลูกเดียวหรือสองลูกกับไฟทั้งคันรถ

เนื่องจากระบบนี้ใช้ Solenoid เป็นตัวคุมดังนั้นต้องมี Diode คล่อมแบบ Reverse ที่ขั้วของ Coil เสมอเนื่องจากเวลามันตัดหรือต่อมันจะสร้าง Back EMF แรงดันเป็นร้อยโวลท์ไปทำลายอุปกรณ์อีเล็คโทรนิกได้อย่างง่ายๆ ตัวนี้สำคัญมากถ้าไม่ต่ออุปกรณ์อีเล็คโทรนิกอาจจะวอดวายทั้งคัน

วงจรไฟเลี้ยงทั้งคันรถในรูปไม่ได้แสดงไว้ให้นึกเอาเองว่ามีสายพวงใหญ่ๆมาต่อที่ขั้วแบตลูกแรกครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.52.232 เสาร์, 28/7/2550 เวลา : 14:47  IP : 125.24.52.232   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11029

คำตอบที่ 13
       ตัวนี้เป็นระบบใหญ่แบตสี่ชุด ชุดละเป็นร้อยลูก ลูกละ 1000Ah (พันแอมป์-ชั่วโมง) ต้องใช้แบบคล้ายๆที่ผมว่าไว้นี่แหละครับ เพราะไฟที่จะชาร์ทมันเล่นไฟ 380V 3000A สองชุด เฉพาะไฟที่ต้องชาร์ทแบตพอจ่ายไฟให้ชาวบ้านตั้งแต่ท่าน้ำนนท์ถึงสะพานพระนั่งเกล้าได้สบายๆ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.52.232 เสาร์, 28/7/2550 เวลา : 15:17  IP : 125.24.52.232   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11030

คำตอบที่ 14
       Isolator แต่ละตัวเลยต้องใหญ่ขนาดนี้แหละครับเพราะมันจ่ายไฟแบบยกทั้งอำเภอใหญ่ๆได้สบายๆ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.52.232 เสาร์, 28/7/2550 เวลา : 15:23  IP : 125.24.52.232   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11031

คำตอบที่ 15
       ชุดควบคุมก็ไม่ต่างกับรูปแรกที่เป็นระบบไฟฟ้ารถยนต์ที่ผมลงไว้ครับ

เพียงแต่มันใหญ่กว่าและซับซ้อนกว่าเท่านั้น ใหญ่จนต้องใช้แท่งทองแดงต่อไปแบตแทนสายไฟเพราะถ้าใช้สายไฟมันอาจจะต้องใช้สายโตเท่าต้นมะพร้าวก็ได้เพราะต้องรับไฟจากแบตลูกละพันแอมป์เป็นร้อยลูก






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.52.232 เสาร์, 28/7/2550 เวลา : 15:32  IP : 125.24.52.232   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11033

คำตอบที่ 16
       อ.เกียรติ เรียบมาอ่าน แล้วจัดการทำตามที่ อ.วอนบอกเลย.........

และจะทำเมื่อไร แจ้งมาด้วย งานนี้ลูกมือเพียบ.....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

a_anan จาก a_anan 124.121.46.49 อาทิตย์, 29/7/2550 เวลา : 09:59  IP : 124.121.46.49   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11056

คำตอบที่ 17
       โอ้ว้าวววว สุดยอดเทคนิค วิศวกรรมไฟฟ้าเลยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก อั้มดำ 58.8.61.35 อาทิตย์, 29/7/2550 เวลา : 12:43  IP : 58.8.61.35   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11069

คำตอบที่ 18
       ท่าน อ. วอน นี่สมแล้วที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นคลังแห่งความรู้ ......ที่สำคัญที่สุดคือ "รู้แล้วยินดีที่จะแบ่งปัน" ครับอันนี้เรื่องใหญ่

ผมมีคนรู้จักเยอะครับ ที่ฉลาดมาก ๆ เก่ง ๆ ก็เยอะ....แต่....ขี้เกียจที่จะแบ่งปันครับ เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตรู อยากรู้ไปดิ้นรนหา ๆ กันเอาเอง....ไม่ใช่เรื่องของตรู ...บอกแล้วว่า "ขี้เกียจ" อ่ะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Supermop 58.8.138.6 จันทร์, 30/7/2550 เวลา : 08:15  IP : 58.8.138.6   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11081

คำตอบที่ 19
       ถึงหนุ่มกระโทก และท่าน อ. von Richthofen ครับ

วันนี้ถอดแบตลูกแรกออกแล้วลองสตาร์ทไม่ได้ครับ ไฟไม่มา....อย่างนี้แปลว่าเดินไฟถูกต้องรึเปล่าครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Supermop 58.10.96.202 อังคาร, 31/7/2550 เวลา : 17:52  IP : 58.10.96.202   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11123

คำตอบที่ 20
       น่าจะถูกครับพี่ป้อม

ใส่ลูกแรก แต่ถอดลูกสอง ออกแล้ว สตาร์ตได้ แสดงว่าต่อถูกแล้วครับ

เพราะจุดประสงค์ของตัว Battery Isolator คือ แยกแบตหลักที่ใช้สตาร์ตรถออกมา จากอุปกรณ์ที่กินไฟมากเช่นวินส์ เพราะถ้าเราวินส์จนแบตเสริมหมดสภาพ ยังไงเราก็จะยังเหลือแบตที่ใช้สตาร์ตรถได้ครับ

วินส์ไปต่อกับแบตลูกเสริมนะครับ แบตลูกแรกใช้กับอุปกรณ์ที่จำเป็นในรถ เช่นระบบสตาร์ทครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.19.200 อังคาร, 31/7/2550 เวลา : 18:12  IP : 202.91.19.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11124

คำตอบที่ 21
      

ปัญหานี้นี่คืออีกอย่างที่ Solidstate Isolator ทำไม่ได้แต่ Solenoid Isolator ทำได้

ถอดแบตหลักตัวที่ 1 ออกไปใช้นอกรถหรือให้เพื่อนยืมใช้ หรือถ้ามันพังระหว่างทางก็ถอดโยนทิ้งเหวไปเลย โยกสวิทซ์ A ไปตำแหน่ง Tie แล้วสตาร์ทด้วยแบตเตอรี่สำรองตัวที่ 2 ให้ใช้งานเหมือนตัวหลัก แถมยังใช้ไฟรถได้ครบทุกอย่างตามปกติอีกด้วย




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.222 อังคาร, 31/7/2550 เวลา : 18:54  IP : 125.24.35.222   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11125

คำตอบที่ 22
       ผู้หวังดีโทรมาหาผมทันทีเลยว่าผมหลุดมุข จะให้เขายืมแบ็ตทำไมไม่เอาลูกที่สองให้เขายืมไปใช้ ถอดหัวใจของรถลูกที่1 ให้เพื่อนไปทำไม

แบตลูกที่2 ที่ใช้กันโหดๆวินซ์กันโคลนกระจาย จะเอาขนาดรถบรรทุก 200Ah ตีกล่องใส่กระบะหลังกันครับ มันเอาให้เพื่อนยืมใส่ถาดโตเท่าใข่แมวในห้องเครื่องได้ที่ไหนกัน

แสดงว่าไม่เคยดูโคโยตี้เต้นหลังรถปิคอัพที่ติดเครื่องเสียงโหดๆตามหน้าร้านเหล้า พวกนี้เล่นแบ็ตเตอรี่สำรองลูกที่2 ของรถบรรทุกตีกล่องหลังกระบะทั้งนั้นไม่อย่างงั้นได้เข็นติดเครื่องภายในสิบห้านาที

หรือว่าแหงนดูแต่ กกน. โคโยตี้แต่ไม่มองระบบไฟฟ้าที่หลังกระบะเลย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.222 อังคาร, 31/7/2550 เวลา : 19:21  IP : 125.24.35.222   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11128

คำตอบที่ 23
       ขอบคุณทั้งสองท่านมากครับ.....

ท่าน อ. von Richthofen นี่สุดยอดจริง ๆ ครับ....ไม่หลุดกระแสโคโยจี้ซะด้วย....เห็นพวกรถเครื่องเสียงในงานโชว์ พี่เค้าเล่นใช้ไฟบ้านกันเลยครับ (บางแห่งเค้าห้ามสตาร์ทเครื่อง)



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Supermop 58.8.134.216 อังคาร, 31/7/2550 เวลา : 22:03  IP : 58.8.134.216   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11134

คำตอบที่ 24
       ...จากคำตอบที่ 9...

วงจรที่นำมานั้น เป็นวงจรใช้สวิทย์เป็นตัวตัดต่อ โซลินอยสวิทย์ซึ่งตัดต่อโดยหน้าสัมผัส มิได้ใช้สารกึ่งตัวนำในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ผมทดลองกับโปรแกรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยเลือกใช้รีเลย์ระหัส 3154-6294 ซื้อเป็นรีเลย์ขนาด15A 12V สามารถสร้างแรงดันไฟกระโดดได้สูงสุดในบรรดารีเลย์ติดรถยนต์ทุกตัว แรงดันคือ 196V ไช้ทดลองกับเฟส IRF3401 ผ่าน OpAmp ตั้งฟันจ์ชั่นเจนที่ ความถี่ 1 Hz

สวิทย์ที่คนใช้ในรถยนต์โดยทั่วไป สามารถทนแดงดันได้ 250V ขึ้นไปอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ สารกึ่งตัวนำจะทนแรงดันไปชั่วขณะ (ค่าPeak) ได้ไม่เกิน 110V

ถ้าโซลินอยนั้นควบคุมโดยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สารกึ่งตัวนำ ไดโอดจะจำเป็นมาก เพราะแรงดันไฟฟ้าอันเกิดจากขดลวดยุบตัวนั้น สูงถึง 196V ซึ่งมีค่าสูงกว่าอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำจะรับได้ จะทำให้เกิดอาการรีเลย์ สั่นตอนที่ปิดแล้วจะได้ยินในช่วงคลื่นความถี่เสียง

ส่วนสวิทย์นั้นสามารถทนแรงดันได้สูงถึง 250V ซึ่งสูงกว่าแรงดันที่ขดลวดยุยตัว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีไดโอดไว้ป้องกัน ไดโอดนั้นเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สารกึ่งตัวนำ การที่ใส่เข้าไปก็เป็นการเพิ่มโอกาสที่วงจรทำงานผิดพลาดสูงขึ้นครับ

**หมายเหตุ** เหตุที่สารกึ่งตัวนำจะเกิดเสียงเป็นเพราะว่า เมื่อสารกึ่งตัวนำต่อวงจรกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวด ขดลวดจะเป็นการพองตัว เมื่อสารกึ่งตัวนำตัววงจร ขดลวดดจะยุบตัว(คาบเวลาสั่นๆ 10ยกกำลัง-3) ซึ่งมีแรงดันไปสูงเกินกว่าที่สารกึ่งตัวนำรับได้ ทำให้ไฟฟ้ารั่วไปไบอัสสารกึ่งตัวนำให้ต่อวงจรใหม่ เมื่อต่อวงจรขดลวดก็จะพองตัว(คาบเวลาสั่นๆ 10ยกกำลัง -3) ทำให้แรงดันไปลดลงจนไม่สามารถรั่วไปไบอัสให้สารกึ่งตัวนำทำงานได้ สารกึ่งตัวนำก็จะตัดวงจร ขดลวดก็จะยุบตัวสร้างแรงดันไปสูงเกินกว่าที่สารกึ่งตัวนำรับได้ ทำให้ไฟฟ้ารั่วไปไบอัสสารกึ่งตัวนำให้ต่อวงจรใหม่ เมื่อต่อวงจรขดลวดก็จะพองตัว(คาบเวลาสั่นๆ 10ยกกำลัง -3) ทำให้แรงดันไปลดลงจนไม่สามารถรั่วไปไบอัสให้สารกึ่งตัวนำทำงานได้
สรุปมันก็จะวนไปเรื่อยๆแบบนี้ และการวนแบบนี้อย่างรวดเร็วซึ่งการวนรอบนั้นเท่ากันจึงเกิดเป็นความถี่เสียง จึงเสียงดังออกมาจาก Relay ถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประดับยนต์มีระบบ เรกกูเลเตอร์และฟิลเตอร์ไม่ดีนั้น ก็อาจทำให้อปกรณ์นั้นเสียหายได้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เพิ่มเติมเล็กน้อยครับ 124.157.153.11 เสาร์, 4/8/2550 เวลา : 21:06  IP : 124.157.153.11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11235

คำตอบที่ 25
       ขอแสดงความเห็นแทนอาจารย์ Von ครับ

ไดโอดที่ใส่ไปลัดวงจรจากกระแสไฟฟ้าที่เกิดจากแรงแม่เหล็กยุบตัว

ดังนั้นจะช่วยถนอมหน้า Contact ของ
Switch A และ Switch B ให้มีความทนทานขึ้น เพราะจะลดการอาร์คของคอนแทคของ Switch A และ B

วงจรทั่วไปคงไม่ต้อง แต่เนื่องจากเป็น Isolator
กระแสที่ผ่าน Soleniod Coil นี้ค่อนข้างสูง

จะเห็นได้ว่าวงจรตามรูปที่ 9 จึงต้องมี Head unit remote swith เพื่อมาควบคุมอีกที

ดังนั้นมีความจำเป็นต้องใส่ไดโอดแน่นอน
Contact จะพังด้วยกระแสครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.18.200 เสาร์, 4/8/2550 เวลา : 22:34  IP : 202.91.18.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11237

คำตอบที่ 26
       ตอบคุณหนุ่มกระโทกครับ

เรื่องสวิทย์เสียหายเนื่องจากการยุบตัวของขดลวดนั้น เป็นไปได้น้อยมากครับ เพราะกว่าขดลวดจะยุบตัวนั้นต้องใช้เวลา กว่ามันจะปล่อยแรงดันออกมาหน้าสัมผัสก็อยู่ในระยะปลอดภัยแล้วครับ เว้นแต่จะมีคนค่อยๆสับสวิทย์ช้าให้หน้าสัมผัสเกิดประกายไฟเล่น

การป้องกันการยุบตัวของขดลวดนั้น สามารถใช้ได้ทั้ง ไดโอด และ คาปาซิสเตอร์ แต่ถ้าป้องกันหน้าสัมผัสเสียหายเนื่องจากไฟฟ้ากระโดดระหว่างหน้าสัมผ้สนั้น จะใช้ได้เพียงแค่ตัวเก็บประจุคร่อมหน้าสัมผัสสวิทย์ครับ เพราะตัวไดโอด ไม่สามารถเก็บประจะไฟฟ้า เพื่อให้แรงดันลดลงอย่างช้าๆได้ครับ

ถ้าเราใช้ตัวเก็บประจุคร่อมหน้าสัมผัสสวิทย์ เมื่อเราสับสวิทย์ปิดหน้าสัมผัสจะค่อยๆแยกออกจากกัน ระหว่างนั้นค่าความต้านทานจะสูงขึ้นกระแสไฟฟ้าจะไหลเข้าตัวเก็บประจุแทนซึ่งมีค่าความต้านทานต่ำ ขณะเดียวกันหน้าสัมผัสสวิทย์ก็ห่างจากกันในระยะปลอดภัยแล้ว เวลาเดียวกันตัวเก็บประจุก็จะให้กระแสไหลผ่านไปเรื่อยๆ พอมันเก็บใกล้เต็มกระแสก็จะลดลงอย่างช้าๆ จนหยุดไหล ถ้าเป็นเครื่องเสียงมันจะช่วย แก้อาการเสียงดัง ตุ๊บ ออกลำโพงครับ

ถ้าใช้ไอโอดต่อค่อมหน้าสัมผัสสวิทย์ เมื่อเราสับสวิทย์ปิดหน้าสัมผัสจะค่อยๆแยกออกจากกัน ระหว่างนั้นค่าความต้านทานจะสูงขึ้น ไดโอดที่ต่อแบบย่อนกลับ ไม่สามารถให้กระสไฟ้ไหลผ่านได้ จะทำให้เกิดประกายไฟระหว่างที่หน้าสัมผัสครับ

กระที่หน้าสัมผัสสวิทย์เสียหายนั้น เกิดจากกระแสที่สูง ไม่จำเป็นต้องเป็นขดลวดครับ เพราะถ้าเราสับสวิทย์ด้วยความเร็วตามแบบที่วิญญูชนพึงที่จะสับสวิทย์แล้ว เรื่องเรื่องการยุบตัวของขดลวดก็ไม่มีปัญหาครับ ต่อให้เป็นLoadอื่นที่ไม่ใช้ขดลวด ถ้ามันกินกระแสเท่ากับโซลินอย์ และเราสับสวิทย์ตามแบบที่วิญญูชนพึงจะทำ มันก็จะสร้างความเสียหายได้พอๆกันครับ

การแก้ปัญหาหน้าสัมผัสสวิทย์เสียหาย ต้องใช้ตัวเก็บประจุมาค่อคร่อมสวิทย์ ไดที่มาต่อคร่อมขดลวดนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหน้าสัมผัสสวิทย์ ถ้าหากว่าเราไม่สับสวิทย์แบบพิศดาร

**หมายเหตุ** ในคำตอบที่ 24 ผมอธิบายเกี่ยวกับเหตุผลที่ใช้ไอโอดต่อคร่อมหน้าสัมผัสโซลินอย์ครับ ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการถนอนหน้าสัมผัสสวิทย์ ผมจึงขออธิบายเพิ่มเติมในคำตอบนี้ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เพิ่มเติมเล็กน้อยครับ 124.157.129.198 อาทิตย์, 5/8/2550 เวลา : 10:19  IP : 124.157.129.198   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11251

คำตอบที่ 27
       ขอบคุณครับ สำหรับคำอธิบาย

สงสัยผมอาจจะเป็นหนึ่งใน บุคคลที่ ไม่จัดในกลุ่ม วิญญูชน

ขอแก้คำผิดนิดนะครับ

พิสดาร
สวิทช์



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.18.200 อาทิตย์, 5/8/2550 เวลา : 10:39  IP : 202.91.18.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11252

คำตอบที่ 28
       ขอบคุณ คุณเพิ่มเติมเล็กน้อยครับ ผมจะอธิบายตาม IEEE มี่ฝรังมันโม้ไว้ดีกว่า เพราะทั้งที่คุณเพิ่มเติมเล็กน้อยและคุณหนุ่มเล่ามามันถูกทั้งคู่แต่มองกันที่คนละอุปกรณ์


จุดหมายหลักจริงๆที่ใส่ไดโอดไว้เพื่อป้องกันระบบอีเล็คโทรนิกของรถยนต์เช่นกล่องสมองกลและวิทยุเพราะว่าไมโครโฟรเซสเซอร์ของทั้งสองชิ้นนี้มันใจเสาะกับแรงดันกระชากของโซลีนอยด์และเป็นแรงดันกลับขั้วจาก back EMF เสียด้วย มันอาจจะทน forward ได้สัก 100V แต่ ถ้ามันกลับขั้วมันได้ไม่ถึงครึ่ง ส่วนที่มันใส่แล้วจะถนอมสวิทซ์นั่นเป็นของแถม



ส่วนเรื่องแคปคล่อมหน้าสวิทซ์มันก็ดีสำหรับระบบครับอย่างรถใหม่ๆก็มีมาเลยกับสวิทซ์ไฟหน้าไฟเลี้ยวไฟเบรคสวิทซ์แตร เพราะกล่องสมองสมองยิ่งพัฒนายิ่งใจเสาะกว่าพวกแปดบิตสิบหกบิตสมัยก่อน

แต่คอลย์ใหญ่ขนาดนี้มันมีแกนเหล็กมันมี Hysteresis ค่อนข้างสูงสวิทซ์แยกไปหลายร้อยมิลิเซ็กด์สนามเพิ่งจะยุบตัวแล้วแมนคอนแท็กมันถึงจะแยกตามออกมา แต่ถ้าโยกสวิทซ์แบบแกล้งให้ช้ามันเกิดเอาได้เหมือนกันถ้ามีแคปสัก 0.1ไมโครคล่อมสวิทซ์จะดีมากมันลดการกระพือของแรงดันได้ดี


แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น แบตเตอรี่มันทำหน้าที่เป็นแคปตัวมหึมาอยู่แล้วมันลดปัญหาไปได้มาก จะเห็นว่าเป็นรีเลย์ขนาดเล็กมันไม่ต้องมีก็ได้เพราะกระแสคอล์ยมันต่ำ แต่ถ้าพูดถึง dv/dt ที่เป็นมิลิเซ็กด์ของคอล์ยขนาดใหญ่แบบ Isolator แล้ว ค่า impedance ของระบบมันก่อให้เกิดปัญหาได้ตลอดเวลาครับ


ถูกทั้งคู่แต่คนละมุมมองครับ ขอบคุณในความเห็นทั้งสองท่านครับ




จาก von Richthofen โกเล้งให้คำนิยมว่าเป็นวิญญูชนผู้ไม่หวั่นไหวต่อความงามแห่งอิสตรี




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.98.81 อาทิตย์, 5/8/2550 เวลา : 12:34  IP : 125.25.98.81   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11259

คำตอบที่ 29
       คำว่า "switch" เป็นคำภาษาอังกฤษครับ
ภาษาไทยเรียกว่า "สะพานไฟฟ้า" ครับ

แม่ผมเป็นครูภาษาไทย แม่ผมบอกว่าคำที่เราทับศัพท์มานั้น เราสามารถเขียนอย่างไรก็ได้ครับ ขอเพียงแค่สามารถอ่านออกเสียงได้ใกล้เคียงกับคำภาษาอังกฤษและนำมาใช้สื่อสารกับผู้อื่นได้ ก็ถือว่าเราเขียนถูก

สอบถามคนที่เข้ามาในนี้ครับ
ผมพิมพ์คำว่า สวิทย์ คนในบอร์ดนี้นึกถึงตัวอะไรกันบ้างครับ

ถ้าหากว่าคำตอบ ทุกคนเข้าใจว่าคำว่า "สวิทย์" มีความหมายว่า Switch(ภาษาอังกฤษ) หรือ สะพานไฟฟ้า(ภาษาไทย) ก็แปลว่าคำที่ผมพิมพ์นั้นใช้ได้ (มันเป็นคำทับศัพท์ ผมไม่ได้พูดว่าถูกหรือผิด แต่พูดว่ามันใช้ได้หรือไม่ครับ)



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เพิ่มเติมเล็กน้อยครับ 58.147.120.230 อาทิตย์, 5/8/2550 เวลา : 19:00  IP : 58.147.120.230   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11266

คำตอบที่ 30
       ขอโทษนะ คุณเพิ่มเติมเล็กน้อย ขอตอบหน่อย

คำว่า Switch ภาษาไทยสะกด สวิทช์ ch = ช

ถูกล่ะเราออกเสียงเหมือนกัน แต่เราควรจะสะกดให้ถูกด้วย ไม่ว่า คำภาษาไทย หรือ คำทำศัพท์

มาช่วยกันห่วงลูกหลานให้ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ดีกว่ามาตั้งแง่กัน เชื่อว่าท่านๆทั้งสองก็วุฒิภาวะสูงทั้งคู่

ขอบคุณมาณ. ที่นี้






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Ruj จาก Ruj อาทิตย์, 5/8/2550 เวลา : 19:47  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 11267

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอาทิตย์,24 พฤศจิกายน 2567 (Online 2381 คน)