คำตอบที่ 33
เรียนท่านพี่ขาลุยที่เคารพ
ผมขออภัยครับที่ตอบคำถามช้าเนื่องจากไม่อยู่บ้าน ใจง่ายไปหน่อย พรรคพวกเรียกไปก็ตามเขาไป
จริงครับแบตราคาขึ้นมาหลายเที่ยวแล้ว ล่าสุดก็ขึ้นมาอีก 15%
ขอตอบคำถามในข้อ 32 ก่อนนะครับ
น้ำกรดที่ซื้อร้านแบตเตอรี่ใช้กันเดี๋ยวนี้เขาผสมน้ำกลั่นเสร็จมาเรียบร้อยแล้วครับ เราไม่ต้องผสมอะไรทั้งสิ้น
ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ซื้อกรดกำมะถันเข้มข้น 98% มาผสมกับน้ำกลั่นเอง ดังนั้นร้านที่รับชาร์จแบตสมัยนี้
ส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยจะใช้หรือมีตัวไฮโดรมิเตอร์กัน เราใช้น้อยคงจะต้องไปขอแบ่งที่ร้านเขามาใช้ครับ
ส่วนตัวผมเองตั้งใจว่าจะผสมเองครับเนื่องจาก ผมซื้อมีน้ำกรดเข้มข้นเอาไว้ยี่สิบกว่าลิตรเนื่องจากใช้ในกระบวนการ
ผลิตไบโอดีเซล ตอนนี้คงจะเหลือซักเกือบ ๆ สิบลิตร ราคาไม่แพงครับ ลิตรนึงราว ๆ หกบาท ( 1.7 กก) แต่ต้องซื้อเยอะ
ถ้าซื่อตามร้านเคมียี่สิบลิตรไม่น่าจะเกินห้าร้อย
ส่วนน้ำกลั่นผมเอาจากห้องแลบทดสอบอาหารของพรรคพวก ก็เลยได้น้ำกลั่นแท้ ๆ มาใช้ ยี่สิบลิตร
ส่วนคำตอบที่ 31 ขอตอบดังนี้ครับ
แบตเก่าที่ทิ้งเอาไว้จนไฟต่ำกว่า 10 V โอกาสรอดยาก คือ รอดน้อยน่ะครับ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ไม่ควรทิ้งแบตเตอรี่
ชนิดตะกั่วกรด ไว้เฉย ๆ ให้ไฟตก โดยที่ไม่ไได้ชาร์จแบบ Trickle Charge เพราะวาแบตจะมีไฟรั่วระหว่างเซลได้
บ้างเล็กน้อยตามธรรมชาติของมันเอง
แต่ชีวิตก็ต้องมีความหวังครับ
ซัลเฟตที่เกาะตามแผ่นธาตุ มันทำให้เซลล์แต่ละเซล มีความต้านทานสูงขึ้น เมื่อความต้านทานภายในสูง
ก็จะจ่ายกระแสไฟฟ้าออกมาได้น้อยครับ และซัลเฟตจากกรด( H2 SO4) หายไปกลายเป็นตะกั่วซัลเฟต
ทำให้ความเข้มข้นของกรดลดลง เราจึงจะต้อวงกำจัดหรือดึงซัลเฟตออกมาให้กลับมาสู่สารละลายให้ได้ครับ
มีการจดลิขสิทธิ์ #3,963,976 ที่อเมริกานะครับ วิธีการกำจัดซัลเฟต โดยใช้กระแสไฟฟ้าช่วงสั้น ๆ ยอดแหลม ๆ โวลต์สูงประมาณ 50 โวลต์
ในการกระตุ้นแบตเตอรี่ครับ กระแสไฟฟ้านี้จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของเซลล์ภายในแบตเตอรี่ จะทำให้ซัลเฟตแตกตัวออกมากลายเป็นอิออนครับ
ดังนั้นจึงจะต้องทำวงจรอิเลคทรอนิคส์สร้างกระแสไฟฟ้าแบบความถี่สูง โวลต์สูง ๆ ช่วงสั้น ๆ ไปชาร์จแบต
ตามลิขลิทธิ์ที่เขาจดไว้ล่ะครับ
ถ้าไม่รอดจริง ๆ ก็คงต้องใช้แผนสำรองแผนที่ห้าครับ คือขายให้ซาเล้ง
ไว้มาลงต่อครับ