คำตอบที่ 43
โมระปะริตตัง
(เป็นบทสวดเพื่อป้องกันภัยอันตรายที่จะมาถึงตัว และเป็นคาถาของผู้เกิดวันอาทิตย์)
อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา
(พระอาทิตย์เป็นดวงตาของโลกเป็น เจ้าแห่งแสงสว่าง)
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส,
(ดวงเดียว มีสีดังทอง สาดส่องพื้นปฐพี ให้สว่างอยู่)
ตัง ตัง นะมัสสามิ,
(เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าขอนอบน้อมซึ่ง พระอาทิตย์นั้น)
หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง
(ผู้มีสีดังทองสาดส่องพื้นปฐพี ให้สว่างอยู่นั้น)
ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง
(ข้าพเจ้าทั้งหลาย อันท่านคุ้มครองแล้วในวันนี้พึงอยู่เป็นสุข ตลอดวัน)
เย พราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม,
(ท่านผู้ประพฤติธรรมเยี่ยงพรหมเหล่าใด เป็นผู้รู้จบในธรรมทั้งปวง)
เต เม นะโม,
(ขอท่านผู้ประพฤติธรรมเยี่ยงพรหมเหล่านั้น จงรับความนอบน้อมของข้าพเจ้าเถิด)
เต จะ มัง ปาละยันตุ,
(ขอท่านผู้ประพฤติธรรมเยี่ยงพรหมเหล่านั้น โปรดรักษาข้าพเจ้าด้วยเถิด)
นะมัตถุ พุทธานัง,
(ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย)
นะมัตถุ โพธิยา,
(ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ พระโพธิญาณ)
นะโม วิมุตตานัง,
(ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ท่าน ผู้หลุดพ้นแล้วจากกิเลสทั้งหลาย)
นะโม วิมุตติยา,
(ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ วิมุตติธรรม)
อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา
(นกยูงนั้น ได้สวดพระปริตป้องกันตนอันนี้แล้ว)
โมโร จะระติ เอสะนา,
(จึงเที่ยวไปเพื่อแสวงหาอาหาร)
อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา
(พระอาทิตย์เป็นดวงตาของโลกเป็นเจ้าแห่งแสง)
หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส,
(สว่างกำลังลาลับไปจากการส่องแสงแก่ พื้นปฐพี)
ตัง ตัง นะมัสสามิ
(เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าจอนอบน้อมซึ่ง พระอาทิตย์นั้น)
หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง,
(ผู้สาดแสงสีทองส่องพื้นปฐพีให้สว่าง)
ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง,
(ข้าพเจ้าทั้งหลาย อันท่านคุ้มครองแล้วพึงอยู่เป็นสุขตลอดราตรีนี้)
เย พราหมะณา เวทะคุ
(ท่านผู้ประพฤติธรรมเยี่ยงพรหมเหล่าใด)
สัพพะ ธัมเม,
(เป็นผู้รู้จบในธรรมทั้งปวง)
เต เม นะโม,
(ขอท่านผู้ประพฤติธรรมเยี่ยงพรหมเหล่านั้น จงรับความนอบน้อมของข้าพเจ้าเถิด)
เต จะ มัง ปาละยันตุ,
(ขอท่านผู้ประพฤติธรรมเยี่ยงพรหมเหล่านั้น โปรดรักษาข้าพเจ้าด้วยเถิด)
นะมัตถุ พุทธานัง,
(ความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย)
นะมัตถุ โพธิยา,
(ความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่ พระโพธิญาณ)
นะโม วิมุตตานัง,
(ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ท่าน ผู้หลุดพ้นแล้วจากกิเลสทั้งหลาย)
นะโม วิมุตติยา,
(ความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่ วิมุตติธรรม)
อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา
(นกยูงนั้น ได้สวดพระปริตป้องกันตนอันนี้แล้ว)
โมโร วาสะมะกัปปะยีติ,
(จึงพักผ่อนหลับนอนแล)
ผมจะสวดบทนี้เสมอในระหว่างเดินทาง ไม่ว่าขึ้นรถลงเรือ ไปเหนือ ล่องใต้
เป็นที่น่าอัศจรรย์หลายครั้งที่ ขับรถป้ายแดงขึ้นทางด่วนในเวลากลางคืน ตำรวจมองไม่เห็นซะงั้น ในขณะที่คันอื่นโดนจับ
หากยังจำไม่ได้ ก็ท่องแบบย่อ ๆ ไปก่อนดังนี้
นะโม วิมุตตานัง,
(ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ท่าน ผู้หลุดพ้นแล้วจากกิเลสทั้งหลาย)
นะโม วิมุตติยา,
(ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ วิมุตติธรรม)
ดึกแล้วครับพอแค่นี้ก่อน ขอทำงานอาทิตย์นี้ให้เสร็จเสียก่อน
แล้วจะมาต่อบท อาฏานาฏิยปริตต ในวันหลังที่ว่างครับ