WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


น้ำมันเครื่องผสมกัน
b.chavana
จาก ตึ๋ง IZU 335
IP:58.8.155.174

เสาร์ที่ , 20/10/2550
เวลา : 18:06

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       รบกวนเรียนถาม อ.วอน และท่านที่ทราบคับ ว่าน้ำมันเครื่องคนละยี่ห้อแต่เกรด 15W - 40 เหมือนกันนำมาผสมกันแบบ 50% - 50% แล้วนำมาใช้ได้หรือเปล่าคับ ขอบคุณสำหรับคำตอบคับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 1
       แก้ขัดพอได้ ใช้ถาวรมิสมควร



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.18.192 เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 18:31  IP : 202.91.18.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13876

คำตอบที่ 2
       ขอบคุณคับ พี่หนุ่มกระโทก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

b.chavana จาก ตึ๋ง IZU 335 58.8.155.174 เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 18:34  IP : 58.8.155.174   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13877

คำตอบที่ 3
       วัตถุดิบมาจากที่เดียวกัน สารเคมีที่ใช้มาจากที่เดียวกัน กรรมวิธีการกลั่นเหมือนกัน การตรวจสอบวัสดุคุณภาพเดียวกัน เพียงแต่กลั่นกันคนล่ะที่ นานาจิตตัง ผสมหรือไม่ก็แล้วแต่คนจะเลือกเอาครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก 0 117.47.7.201 เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 19:21  IP : 117.47.7.201   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13878

คำตอบที่ 4
      

" เห็นด้วยกับ คุณหนุ่มกระโทกครับ"









 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kupree จาก kupree เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 21:46  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13896

คำตอบที่ 5
       โปรดทราบ

BASE OIL น่ะใช่

ADDITIVE สูตรใครสูตรมัน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.19.204 เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 21:52  IP : 202.91.19.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13897

คำตอบที่ 6
       ใช้ได้ครับเครื่องไม่พัง แต่จะใช้ดีหรือเปล่าไม่อาจจะเดาได้ ผสมแล้วอาจจะดีกว่าครึ่งกระป๋องแรกแต่ด้อยกว่าครึ่งกระป๋องหลังก็เป็นไปได้


ผมอยากถามอะไรกลับหน่อยครับ


ตอนเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใช้ยี่ห้อเดียวกันเบอร์เดียวกันหรือเปล่า
แล้วถ้าใช้ต่างยี่ห้อกันต้องล้างภายในเครื่องยนต์และกรองเครื่องถ้าไม่ได้เปลี่ยนทุกครั้ง รวมถึงไล่น้ำมันตกค้างในออยคูลเลอร์ เพื่อไม่ให้น้ำมันเก่าที่ตกค้างในเครื่องผสมกับของใหม่หรือเปล่า

ถ้าคำตอบว่าเปล่าทำ แล้วผมถามว่าที่มันค้างในสองสามรายการที่บอกเกือบลิตรมันทำให้น้ำมันเครื่องใหม่มันเสื่อมหรือเปล่า

ตอบผมหน่อยซิครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.183.33 เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 22:00  IP : 125.24.183.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13898

คำตอบที่ 7
       ประเภทน้ำมันเครื่อง

โดยแยกย่อยออกเป็น 5 กลุ่มด้วยกัน


ตั้งแต่ Group 1 - 3 เป็นน้ำมันเครื่องที่ทำมาจาก น้ำมันดิบ หรือ น้ำมันตามธรรมชาติ


Group 1 - น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา (Base Oil)
- เป็นน้ำมันพื้นฐานที่ใช้กันทั่วไป อายุการใช้งานประมาณ 5,000 กม.

Group 2 - น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ( Semi Synthetic)
- เป็นการนำน้ำมันสังเคราะห์ (Synthetic) มาผสมกับ Base Oil โดยมีส่วนผสมของสารสังเคราะห์โดยเฉลี่ยไม่เกิน 10 - 15 %

Group 3 - น้ำมันเครื่องสังเคราะห์(เทียม) (Synthetic)
- น้ำมันสังเคราะห์เทียม หรือ ที่แปะที่กระป๋องว่า (Synthetic) เพราะยังมีส่วนผสมของ Base Oil อยู่

เนื่องจากตัวทำละลายสารเพิ่มคุณภาพมีราคาแพง จึงเอาน้ำมันปิโตรเลียมมาใช้เป็นตัวทำละลาย อาจจะมีส่วนผสมของ Base Oil อยู่ 10 – 15 % ในแต่ละยี่ห้อก็มีการผสมแตกต่างกันออกไป ซึ่งทำให้ราคาไม่สูงมากนัก แล้วอ้างว่าเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ หรือ น้ำมันเครื่อง Synthetic และบางทีก็หาทางออกโดยใช้คำว่า Synthetic Technology หรือใช้คำ Synthetic ร่วมกับคำอื่นๆ เป็นน้ำมันสังเคราะห์ส่วนใหญ่ที่วางขายในบ้านเรา




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.183.33 เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 22:03  IP : 125.24.183.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13899

คำตอบที่ 8
       ตั้งแต่ Group 4 - Group 5 เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์
เป็นพวก PAO หรือ Polyalphaolefin คือผลิตขึ้นมาจาก สารสังเคราะห์แท้ๆ 100 %


Group 4 - น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Full Synthetic) PAO 100 % ผลิตมาจากสารสังเคราะห์ล้วนๆ โดยไม่มี Base Oil เจือปน แม้แต่น้ำมันพื้นฐานก็ยังเป็นเกรด Synthetic Base Oil ส่วนใหญ่จะเป็นพวก PAO หรือ Polyalphaolefin คือผลิตขึ้นมาจากสารสังเคราะห์แท้ๆ 100 % ให้การหล่อลื่นและปกป้องได้ดียิ่งกว่า เหนือกว่าน้ำมันเครื่องทุกยี่ห้อ ที่มีขายในขณะนี้

Gruop 5 – จะเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ที่มีความคล้ายคลึงกับ Group 4 มีความหล่อลื่นมากและอายุการใช้งานสูงเหมาะสำหรับพวกเครื่องจักร


ดังนั้น น้ำมันเครื่องGroup 4 จึงเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ซึ่งเหมาะสมสำหรับยานยนต์ ให้การปกป้องมีความลื่นและอายุการใช้งานสูง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.183.33 เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 22:04  IP : 125.24.183.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13900

คำตอบที่ 9
       ในการผลิตน้ำมันเครื่องเค้าก็ใช้น้ำมันเครื่องพื้นฐานจาก 1 ใน 5 นี่แหละ แล้วนำเอาพวกสารเพิ่มประสิทธิภาพผสมลงไป

โรงงานที่ผสมหรือผลิตน้ำมันเครื่องในบ้านเรามีอยู่ไม่กี่แห่ง พวกบริษัทน้ำมันเครื่องก็จ้างโรงงานเหล่านี้ผลิตให้ ดังนั้นน้ำมันเครื่องหลายยี่ห้อก็ออกมาจากโรงงานเดียวกัน ด้วยเหตุนี้คุณภาพของน้ำมันเครื่องจึงขึ้นอยู่กับการเลือกใช้น้ำมันเครื่องพื้นฐานกับพวกสารเพิ่มคุณภาพที่เติมผสมลงไป


น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ แท้ /เทียม

น้ำมันเครื่องสำเร็จรูปที่ระบุว่าเป็นชนิดสังเคราะห์ 100% ใช้น้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์ โพลีแอลฟาโอลีฟิน (POLYALPHAOLEFIN-PAO) ซึ่งไม่สามารถละลายสารเพิ่มคุณภาพบางตัวหรือละลายได้ไม่ดี จึงอาจมีการละลายสารเพิ่มคุณภาพด้วยน้ำมันหรือสารอื่นก่อนผู้ผลิตบางรายเน้นความประหยัด โดยนำสารเพิ่มคุณภาพไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นชนิดธรรมดาก่อน เมื่อนำมาผสมกับน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานจึงเกิดข้อกังขาว่า จะเป็นน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปชนิดสังเคราะห์ 100% ได้อย่างไร ในเมื่อมีน้ำมันชนิดธรรมดาผสมอยู่ด้วยจากการช่วยทำละลายสารเพิ่มคุณภาพ

มีผู้ผลิตไม่มากนักที่ยอมลงทุนนำสารเพิ่มคุณภาพไปละลายกับน้ำมันหล่อลื่นชนิดสังเคราะห์อื่นที่มีราคาแพง ไม่เหมาะกับการใช้งานในเครื่องยนต์รถยนต์ แต่ทำละลายได้ดี เช่น น้ำมันหล่อลื่นเครื่องบินเจ็ต (DIBASICESTER) เมื่อนำไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานชนิดสังเคราะห์ ก็จะกลายเป็นน้ำมันเครื่องสำเร็จรูปชนิดสังเคราะห์ 100% ทุกหยดจริงๆ ต่างจากกรณีแรกที่มีน้ำมันชนิดธรรมดาช่วยทำละลายสารเพิ่มคุณภาพผสมอยู่ด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.183.33 เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 22:06  IP : 125.24.183.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13902

คำตอบที่ 10
       Hydro crack คือการเอาน้ำมันเครื่องพื้นฐานจากแร่หรือปิโตเลียม(Mineral Base oil) ไปจัดเรียงโมเลกุลขึ้นมาใหม่(คล้ายกับทำ GMO's ในพืช) แล้วใส่สารผสมเพิ่มคุณภาพเข้าไป(Aditive)

สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหา คือบริษัทที่ทำน้ำมันเครื่องจาก Group 4 อันเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ขนานแท้ เห็นว่ามันไม่ถูกต้องที่นำเอาน้ำมันเครื่อง Group 3 อันเป็นน้ำมันธรรมชาติมาทำเป็นน้ำมันเครื่อง แล้วโฆษณาว่าเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์

ทำให้มีการฟ้องร้องกันระหว่าง ผู้ผลิตน้ำมัน Group 4 กับผู้ผลิตน้ำมัน Group 3 ก็เพราะว่าในสหรัฐอเมริกา มีบริษัทน้ำมันเครื่องแห่งหนึ่งใช้น้ำมันเครื่องพื้นฐาน Group 3 เอามาผสมสารเพิ่มคุณภาพเข้าไป แล้วประกาศว่าเป็น น้ำมันเครื่องสังเคราะห์หรือน้ำมันเครื่อง Synthetic และบางทีก็หาทางออกโดยใช้คำว่า Synthetic Technology หรือใช้คำ Synthetic ร่วมกับคำอื่นๆ ขายราคาที่ถูกกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ยี่ห้ออื่นๆ

ทำให้คุณสมบัติของ Group 3 ซึ่งยังมี Base Oil ที่เป็น ปิโตรเลียมผสม ไปใกล้เคียงกับน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ Group 4 ที่เป็น PAO 100% หรือ Polyalphaolefin เข้า

ศาลตัดสินให้ ผู้ผลิตน้ำมัน Group 3 สามารถใช้คำว่า Synthetic ถึงแม้จะไม่เป็น Synthetic 100% แต่เนื่องจากส่วนผสมของน้ำมันก็ยังมีสาร Synthetic เป็นตัวหลัก (* เป็นส่วนผสมมากที่สุดในอัตราส่วนต่อ 1 หน่วย) แม้จะมี Base Oil ซึ่งเป็นปิโตรเลียม ผสมอยู่ด้วยในอัตรา 10 – 15 % ก็ตาม



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.183.33 เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 22:08  IP : 125.24.183.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13903

คำตอบที่ 11
       ถึงแม้คุณภาพของน้ำมันเครื่อง Group 3 จะใกล้เคียงกับน้ำมันเครื่อง Group 4


แต่ก็เพียงแค่ใกล้เท่านั้น แต่ความเป็นจริงยังไม่สามารถทัดเทียมได้



ปรกติโดยทั่วไป น้ำมันหล่อลื่นหรือน้ำมันเครื่อง ที่ใช้จะต้องมีคุณสมบัติ ด้านต่างๆ เช่น หล่อลื่น ระบายความร้อน ป้องกันสนิม และชะล้างทำความสะอาด เกี่ยวกับคุณภาพและประสิทธิภาพเกือบทุกด้านจะถูกกำหนดขึ้นจากการทดสอบคุณสมบัติฯลฯ มีหลายสถาบันทั่วโลกทดสอบและตั้งมาตรฐานหรือเกรดคุณภาพของน้ำมันเครื่อง เช่น

API - AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE และ SAE - SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS ซึ่งเป็นที่นิยมใช้เป็นแหล่งอ้างอิง

นอกจากนั้น หลายผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ก็มีการทดสอบและกำหนดมาตรฐานของน้ำมันเครื่องขึ้นเองในการใช้งานสำหรับรถยนต์ทั่วโลก ผู้ผลิตน้ำมันเครื่องและผู้บริโภค นิยมเลือกใช้มาตรฐานหรือเกรดคุณภาพของสถาบัน API - AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE เพราะชัดเจนและสะดวกทั้งในการผลิตหรือเลือกใช้ โดยมีการระบุไว้ข้างกระป๋องน้ำมันเครื่องเสมอ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.183.33 เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 22:09  IP : 125.24.183.33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13904

คำตอบที่ 12
       ขอบคุณน้ำมันเครื่อง Pro syn ที่ให้ข้อมูลมาให้ผมโม้ให้เพื่อนๆฟังครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.55.23 เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 22:19  IP : 125.25.55.23   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13905

คำตอบที่ 13
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kupree จาก kupree เสาร์, 20/10/2550 เวลา : 22:22  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13906

คำตอบที่ 14
       ผมขอถามต่ออีกซักนิดแล้วมีน้ำมันเครื่องยี่ห้ออะไรที่ดีที่สุดในเมืองไทยครับ และที่มีการโฆษณาว่าเติมน้ำมันเครื่องชนิดหนึ่งของเขาผสมกับน้ำมันเครื่องธรรมดาติดเครื่องไว้15-20นาทีถ่ายออกแล้ววิ่งได้โดยสูบไม่ติดไม่มีการสึกหรอของเครื่องยนต์มากเป็นจริงหรือไม่และเขาเติมสารอะไรลงไป



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก นิพล 222.123.146.225 อาทิตย์, 21/10/2550 เวลา : 08:12  IP : 222.123.146.225   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13910

คำตอบที่ 15
       น้ำมันเครื่องที่ดีที่สุดไม่มีครับ มีแต่น้ำมันเครื่องที่คุ้มราคาเท่าที่เงินในกระเป๋าจะอำนวยได้

ผมใช้ วาโวลีนเซมิ คาสตอลเซมิ ปตท.เซมิ บางจากเซมิ ฯลฯ อะไรก็ได้ เลือกเรียงยี่ห้อตามลำดับ กระป๋องละเจ็ดร้อยกว่าบาท ถ่ายออกพร้อมเปลี่ยนกรองทุกหมื่นกิโล

อย่าไปบ้ายี่ห้อ เพราะประสิทธิภาพมันต่างกันไม่ถึง 5% ในสภาพใช้งานปกติของรถบ้าน

ยกเว้นเจ้า EG9 ของผมที่ต้องให้มันซด group3 hydro crack เพราะมันลากได้ชนหมื่นรอบบ่อยๆ พวกเกรดธรรมดาเอาไม่อยู่ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ถึง group4 เพราะมันเกินกำลังเงินในกระเป๋าและมันไม่ใช่รถสนามครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.176.97 อาทิตย์, 21/10/2550 เวลา : 12:36  IP : 125.24.176.97   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13920

คำตอบที่ 16
       ชั้นเกรดคุณภาพน้ำมันเครื่อง สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน

API ได้กำหนดชั้นและเกรดคุณภาพของน้ำมันเครื่อง มีดังนี้

SA - เป็นน้ำมันหล่อลื่นขั้นพื้นฐานล้วนๆ ไม่มีการเติมสารเพิ่มคุณภาพเลย ปัจจุบันยกเลิกแล้ว

SB - ประกาศใช้ปี 1930 เพิ่มเพียงสารเพิ่มคุณภาพบางชนิด เช่น สารป้องกันการสึกหรอ สารป้องกันการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ปัจจุบันยกเลิกแล้ว

SC - ประกาศใช้ปี 1964 เพิ่มสารชะล้าง ป้องกันตะกอนและสนิม

SD - ประกาศใช้ปี 1968 เพิ่มทุกด้านของประสิทธิภาพและสารเพิ่มคุณภาพให้ดีขึ้นจาก SC ไม่ควรเลือกใช้ในปัจจุบัน

SE - ประกาศใช้ปี 1972 เพิ่มทุกด้านของประสิทธิภาพและสารเพิ่มคุณภาพให้ดีขึ้นจาก SD ไม่ควรเลือกใช้ในปัจจุบัน

SF - ประกาศใช้ปี 1980 เพิ่มทุกด้านของประสิทธิภาพและสารเพิ่มคุณภาพให้ดีขึ้นจาก SE และเน้นป้องกันการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนมากขึ้น ไม่ควรเลือกใช้ หากไม่จำเป็น

SG - ประกาศใช้ปี 1988 เพิ่มทุกด้านของประสิทธิภาพและสารเพิ่มคุณภาพให้ดีขึ้นจาก SF เน้นป้องกันการเกิดตะกอนตม-ยางเหนียวเพิ่มขึ้น ลดการเกิดเขม่าบนหัวลูกสูบ-ห้องเผาไหม้ และลดการสึกหรอของวาล์ว ยังพอเลือกใช้ได้ถ้าจำเป็น

SH - ประกาศใช้ปี 1992 เพิ่มทุกด้านของประสิทธิภาพและสารเพิ่มคุณภาพให้ดีขึ้นจาก SG เน้นการลดมลพิษและลดการสึกหรอเพิ่มขึ้น สามารถเลือกใช้ได้

SJ - ประกาศใช้วันที่ 15 ตุลาคม 1996 เป็นน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซินที่มีเกรดคุณภาพสูงสุดในปัจจุบัน เพิ่มทุกด้านของประสิทธิภาพและสารเพิ่มคุณภาพให้ดีขึ้นจาก SH เน้นการระเหยต่ำ ค่าฟอสฟอรัสต่ำ ป้องกันการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนดีขึ้น มีอายุการใช้งานนานขึ้น
ต้องผ่านการทดสอบพิเศษด้วยมาตรฐานเหนือกว่า API SH อีก 7 ประการ คือ
1. จำกัดปริมาณของฟอสฟอรัส
2. ระดับการระเหยต่ำ
3. ทดสอบการเกิดเขม่าในอุณหภูมิสูง
4. ทดสอบการเกิดโฟมในอุณหภูมิสูง
5. ทดสอบการรวมตัวกับน้ำ
6. การรวมตัวได้ของสารหล่อลื่น
7. ความสามารถในการคงสภาพการหล่อลื่นเมื่ออุณหภูมิต่ำ

น้ำมันเครื่องเกรดคุณภาพ SJ มีคุณสมบัติโดดเด่น คือ
1. ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์บำบัดไอเสีย (แคตตาลิติก คอนเวอร์เตอร์) เพราะมีการควบคุมปริมาณของฟอสฟอรัสไว้ต่ำมาก
2. ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
3. ลดการปล่อยมลพิษ
4. คงสภาพทุกช่วงอุณหภูมิได้ดี
5. การใช้น้ำมันเครื่องต่างชนิดต่างรุ่นผสมกันใช้งานด้วยความจำเป็น มีความเสี่ยงต่อการแยกตัวหรือส่งผลลบน้อย

SL - ประกาศใช้ปี 1999 เป็นน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซินที่มีเกรดคุณภาพ เพิ่มทุกด้านของประสิทธิภาพและโมเลกุลในสารเพิ่มคุณภาพยืดหยุ่นตัวใด้ดีขึ้น เน้นการระเหยต่ำ ค่าฟอสฟอรัสต่ำ ป้องกันการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนดีขึ้น มีอายุการใช้งานนานขึ้น และเน้นการลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ เด่นที่สุดในการเลือกใช้

SM - ประกาศใช้ปี 2004 มีคุณสมบัติเหนือกว่า SL อยู่หลายด้าน เป็นน้ำมันเครื่องเกรดสูงสุดที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันกับเครื่องยนต์เบนซิน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.176.97 อาทิตย์, 21/10/2550 เวลา : 12:42  IP : 125.24.176.97   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13921

คำตอบที่ 17
       ขอบคุณคุณเต้ วอลโว่ แห่งแกสไทยที่เอื้อเฟื้อรวมข้อมูลให้ผมยืมมาให้อ่านครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.176.97 อาทิตย์, 21/10/2550 เวลา : 12:46  IP : 125.24.176.97   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13922

คำตอบที่ 18
       ผู้จัดการออนไลน์ 7 กุมภาพันธ์ 2548 12:01 น. โดย วรพล สิงห์เขียวพงษ์


ปลายปี 2004 API สถาบันใหญ่ด้านปิโตรเลียมในสหรัฐอเมริกา ประกาศรับรองคุณภาพสูงสุดน้ำมันเครื่องเบนซินเกรดใหม่ SM แค่ช่วงไม่กี่สิบวันแรก มีบริษัทน้ำมันเครื่องขอการรับรองแล้วกว่า 400 ราย ที่สำคัญ...มีบริษัทน้ำมันเครื่องของไทยรวมอยู่ด้วย

พร้อมกับลบความเข้าใจผิดเรื่องสัญลักษณ์วงกลม DONUT และตัวอักษร API บนกระป๋องน้ำมันเครื่องที่หลายคนคิดว่าต้องส่งน้ำมันเครื่องไปและผ่านการทดสอบอย่างละเอียดโดย API ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น!

เกรดคุณภาพน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน หากอ้างอิงตาม API ซึ่งเข้าใจได้ง่าย ก็คือ นำหน้าด้วยตัว S เสมอ ตามด้วยตัวอักษรที่ยิ่งไกลจาก A เท่าไร ก็ยิ่งมีคุณภาพดี ไล่จาก SA SB SC SD SE SF SG SH SJ SL ข้าม SI SK ไปโดยไม่บอกเหตุผล ล่าสุดเพิ่งออก SM

การเลือกใช้น้ำมันเครื่อง ควรใช้ระดับใกล้สูงสุดไว้ ในปัจจุบันแนะนำ SM SL SJ ส่วนเกรดต่ำกว่านั้น ไม่น่าสนใจแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องสูงสุดเสมอไปใกล้ๆไว้เป็นพอ และถึงจะเป็นน้ำมันเครื่องธรรมดาก็ใช้ได้ถึง 10,000 กิโลเมตร ถ้าเป็นสังเคราะห์ก็ทนได้ถึง 15,000-20,000 กิโลเมตร API หรือ AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE จะมีการประกาศรับรองน้ำมันเครื่องเกรดคุณภาพสูงสุดมาตรฐานใหม่ทุกประมาณ 3-5 ปี

ล่าสุดเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2004 คือ API SM สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน โดยระบุคร่าวๆ ว่าดีขึ้นจากเกรดคุณภาพ SL คือปรับปรุงเรื่องต่อต้านการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน, ปรับปรุงเรื่องป้องกันการเกิดตะกอน, เพิ่มการปกป้องความสึกหรอ, พัฒนาให้ทำงานได้ดีตั้งแต่อุณหภูมิต่ำ และคงประสิทธิภาพที่ดีตลอดอายุการใช้งาน

เพียงช่วงแรกที่ประกาศ API SM ก็มีบริษัทน้ำมันเครื่องได้การรับรองไปแล้วกว่า 400 ราย 1 ในนั้น คือ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) น้ำมันเครื่อง PTT PERFORMA SUPER SYNTHETIC เกรดความหนืด 0W-40 และทราบมาว่าอีกหลายยี่ห้อก็กำลังดำเนินการและเตรียมออกสู่ตลาดไทยในปีนี้

บริษัทน้ำมันเครื่องส่วนใหญ่มีเทคโนโลยีใกล้เคียงกัน ดังนั้นการผลิตน้ำมันเครื่องให้มีคุณภาพตามต้องการ
หรือให้ผ่านมาตรฐานการรับรองโดยสถาบันที่ได้รับความเชื่อถืออย่าง API จึงไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถ ประเทศเล็กๆ อย่างไทยก็ทำได้ทัดเทียมต่างชาติ

สิ่งที่ยากกว่า คือ การสร้างความเชื่อถือให้ผู้บริโภค เพราะแม้น้ำมันเครื่องจะมีคุณภาพทุกด้านเกือบเหมือนกัน
มีต้นทุนการผลิตใกล้เคียงกัน แต่ยี่ห้อที่สร้างภาพพจน์ได้ดี จะสามารถตั้งราคาได้แพงกว่า ที่แปลกก็คือ น้ำมันเครื่องระดับคุณภาพเดียวกัน ยี่ห้อที่ไม่ดังและขายถูกกว่า (เพราะต้นทุนจริงไม่แพง และไม่ได้ปั่นราคา) มักถูกมองในแง่ลบว่าด้อยคุณภาพ หลายคนไม่กล้าซื้อใช้ เพราะกลัวใส่แล้วเครื่องโทรมหรือเครื่องพัง

ลบความเชื่อผิดๆ เรื่อง API และ DONUT

หลายคนคิดว่า น้ำมันเครื่องมีมีตราวงกลมคล้ายโดนัท นั่นคือ ได้ส่งน้ำมันตัวอย่างไปให้ API ทดสอบ และผลต้องผ่าน ในเนื้อน้ำมันเดียวกันกับที่ขาย ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่ และไม่ได้ส่งเนื้อน้ำมันไปทดสอบ เพราะเป็นแค่การขอการรับรอง โดยกรอกรายละเอียด และเหมือนผู้ผลิตหรือจำหน่ายน้ำมันนั้น เป็นการรับรองตัวเอง พร้อมเสียค่าธรรมเนียมให้ API โดยไม่ได้ส่งเนื้อน้ำมันให้ API ทดสอบแต่อย่างไร

ส่วนน้ำมันเครื่องที่ไม่ได้มีตราโดนัทข้างกระป๋อง แต่ระบุเกรดคุณภาพเป็นตัวย่อตาม API ถึงจะไม่ได้ขอการรับรองไป แต่ก็เทียบเกรดเองได้ ไม่ว่าน้ำมันเครื่องนั้นจะได้รับตราโดนัทหรือไม่ ก็มีแค่ความเชื่อใจต่อผู้ผลิตหรือจำหน่ายเท่านั้นว่า เนื้อน้ำมันในกระป๋องที่ขายออกมา จะมีคุณภาพตรงตามที่ระบุไว้

น้ำมันเครื่องที่ขาย = น้ำมันพื้นฐาน + สารเพิ่มคุณภาพ

หลายคุณสมบัติพิเศษสำคัญๆ ของน้ำมันเครื่อง ไม่ได้มาจากน้ำมันพื้นฐานหรือ BASE OIL (MINERAL OIL, PAO-POLYALPHAOLEFIN หรือ HYDROCRACK) และขบวนการผลิตเท่านั้น แต่ต้องมีการผสมสารเพิ่มคุณภาพหรือ ADITIVE ลงไปด้วย

ในอุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่น มีผู้ผลิต BASE OIL และ ADITIVE เพียงไม่กี่ราย (รายใหญ่ของการขาย ADDITIVE ไม่ถึง 10 รายเท่านั้น) โดยเฉพาะผู้ผลิต ADDITIVE รายใหญ่ๆ ล้วนต้องทดลองผสม ทดสอบเอง และส่ง API ทดสอบมาแล้วว่าถ้านำ BASE OIL ชนิดไหน มาผสมกับ ADITIVE ตัวใด (ใช้หลายตัว) แล้วจะได้น้ำมันเครื่องเกรดคุณภาพและเกรดความหนืดใด

เนื่องจากผู้ผลิต ADDITIVE รายใหญ่ๆ ล้วนมีการทดสอบด้วยตัวเอง และส่งตัวอย่างน้ำมันเครื่องให้ API และสถาบันอื่นๆ ทดสอบอย่างละเอียดแล้ว ทั้งในห้องแล็บและการใช้งานจริง ซึ่งต้องใช้น้ำมันเครื่องจำนวนมหาศาล ใช้เวลานาน และมีค่าใช้จ่ายสูงหลายแสนหรือนับล้านบาท เมื่อทดสอบครบทุกขั้นตอนแล้วจึงกำหนดว่า น้ำมันเครื่องนั้นมีเกรดคุณภาพระดับใด

ดังนั้นเมื่อจะขายสารเพิ่มคุณภาพออกมา ก็เหมือนมีสูตรสำเร็จว่า ถ้าซื้อสารตัวใดนำไปผสมตามกำหนดกับน้ำมันพื้นฐานชนิดใด แล้วจะได้เกรดคุณภาพตาม API เป็นอะไร โดยไม่ต้องทดสอบซ้ำอีกแล้ว

มาตรฐานการแบ่งเกรดคุณภาพน้ำมันเครื่อง ไม่ได้มีแต่ของ API เพียงรายเดียว และ API เองก็มีการอ้างอิงจากแหล่งอื่นด้วย จึงเหมือนเป็นข้อตกลงของหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมน้ำมันหล่อลื่น, บริษัทผลิตยานยนต์และเครื่องยนต์ ประกอบด้วย ฟอร์ด เจนเนอรัล มอเตอร์ส และเดมเลอร์ไครสเลอร์, สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น JAMA, และสมาคมผู้ผลิตเครื่องยนต์

ประสิทธิภาพที่ต้องการจากน้ำมันเครื่อง, ขั้นตอนการทดสอบ และข้อจำกัด เป็นการร่วมกันจัดตั้งโดยผู้ผลิตยานยนต์และเครื่องยนต์, สมาคมเทคนิค THE SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS (SAE), THE AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS (ASTM), ชมรมอุตสาหกรรม THE AMERICAN CHEMISTRY COUNCIL รวมทั้ง API

ในเมื่อผู้ผลิต BASE OIL และ ADITIVE ซึ่งมีเพียงไม่กี่ราย ได้ผสมน้ำมันเครื่องหลายร้อยสูตร ทดสอบอย่างละเอียด แบ่งเป็นคุณภาพและคุณสมบัติต่างๆ ไว้แล้ว

บริษัทน้ำมันเครื่องที่จำผสมออกขาย ก็เพียงเลือกว่าจะทำตลาดด้วยน้ำมันเครื่องชนิดใดและเกรดคุณภาพใด จากนั้นก็สั่งซื้อ BASE OIL กับ ADITIVE ตามสเปค มาผสมและจำหน่ายในยี่ห้อของตนเอง ไม่ต้องทดสอบซ้ำ ก็พอจะเชื่อได้ว่าได้มาตรฐานตามที่เลือกไว้ ซึ่งต้องเชื่อใจผู้ขาย BASE OIL กับ ADITIVE ว่าจะไม่ตุกติกด้วย

หากต้องการให้ API รับรอง (มีสัญลักษณ์ DONUT STARBURST และ API) ก็เพียงกรอกแบบฟอร์มยืนยันส่วนผสมต่างๆ ของน้ำมันเครื่องนั้นส่งให้ API ไม่ต้องส่งตัวอย่างน้ำมันเครื่องให้ เพราะเหมือนทดสอบซ้ำ สิ้นเปลืองทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย รวมทั้ง API ก็ไม่มีเวลาทดสอบได้ครบทุกยี่ห้อ

แบบฟอร์มขอการรับรองจาก API เปรียบเสมือนสัญญารับรองตนเองของผู้ผลิตหรือจำหน่ายน้ำมันเครื่อง ว่าน้ำมันเครื่องมีคุณสมบัติตรงตามที่ให้ข้อมูลไว้จริง โดย API จะมีการสุ่มตรวจเป็นบางรายในภายหลัง ซึ่งก็แทบไม่พบว่ามีการสุ่มตรวจ เพราะมีกว่าร้อยประเทศและมีน้ำมันเครื่องหลายพันรุ่นในโลกที่ขอการรับรอง เทคโนโลยีของน้ำมันเครื่อง มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีเกรดคุณภาพใหม่ๆ กำหนดขึ้นทุก 3-5 ปี เราไล่ตามหาความรู้ได้ไม่ยาก...ถ้าสนใจ ! และไม่จำเป็นต้องรู้ลึก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.176.97 อาทิตย์, 21/10/2550 เวลา : 12:46  IP : 125.24.176.97   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13923

คำตอบที่ 19
       ถึงอ.วอน ไม่ทราบว่าน้ำมันเครื่องยี่ห้อโอเมก้ากระป๋อง6000-7000บาท ดีจริงหรือไม่คุ้มค่าเงินที่เสียหรือไม่รวมถึงพวกจารบีด้วยครับ ขอบคุณครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก นิพล 222.123.146.225 อาทิตย์, 21/10/2550 เวลา : 13:18  IP : 222.123.146.225   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13924

คำตอบที่ 20
       ขอบคุณ อ.วอน อย่างมากเลยคับ..ความรู้ตรึม





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

b.chavana จาก ตึ๋ง IZU 335 58.8.162.113 อาทิตย์, 21/10/2550 เวลา : 13:35  IP : 58.8.162.113   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13925

คำตอบที่ 21
       ไม่เคยใช้กับรถครับ เคยใช้สารหล่อลื่นของโอเมก้าแต่อะไรที่พิเศษเช่น
จาระบีความร้อนสูงระดับเหล็กละลายไปแล้วแต่จาระบียังอยู่ หรือไม่ก็จาระบีกินได้เกรดที่ใช้กับเครื่องจักรผลิตอาหาร น้ำมันเครื่องเกรดที่เป็นน้ำมันพืช หัวเชื้อสำหรับหล่อลื่นอุปกรณ์เกียร์เครื่องจักรกลหนัก

สำหรับรถเคยเห็นพวกเงินเหลือเฟือใช้บ้าง แต่ไม่เคยซื้อใช้เองครับเพราะมันไม่จำเป็นขนาดนั้นสำหรับรถบ้าน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.176.97 อาทิตย์, 21/10/2550 เวลา : 13:58  IP : 125.24.176.97   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13926

คำตอบที่ 22
       ผมใช semi ของบางจาก ปตท. คาสตรอล บีพี แล้วแต่ว่าอย่างไหนที่บ้านเหลือเยอะก็ใช้อย่างนั้นครับ ถ่าย 10,000 โล พร้อมกรองเครื่องของแท้....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Boy_Pajero จาก Boy_Pajero 58.64.121.88 อาทิตย์, 21/10/2550 เวลา : 15:05  IP : 58.64.121.88   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13927

คำตอบที่ 23
      
สงสัยคุณบอย คงมีหลายบ้าน มีหลายยี่ห้อ

สำหรับผมเอาเกรดเดียวกัน ยี่ห้อที่ราคาต่อลิตรถูกทีสุด
ซื้อครั้งละสองลัง

เริ่มจาก BP คราวหลังมันเล่นตัวขึ้นราคา เลยเปลี่ยนมาใช้ ปตท ตอนนี้มาใช้บางจาก SEMI CI-4 ถูกกว่า BP



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.19.192 อาทิตย์, 21/10/2550 เวลา : 15:15  IP : 202.91.19.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13928

คำตอบที่ 24
       เปลี่ยนมาใช้บางจากSEMI CI-4แล้วรู้สุกว่าลื่นไหลขึ้น คิดไปเองเปล่าไม่ทราบครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Boy_Pajero จาก Boy_Pajero 58.64.121.88 อาทิตย์, 21/10/2550 เวลา : 17:31  IP : 58.64.121.88   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13931

คำตอบที่ 25
       ผมใช้ Mobil 1 + Mobil เกรดรวม มาตลอดเลยขอรับ เปลี่ยนถ่ายที่ 20,000 กม. พร้อมเปลี่ยนกรองเครื่องแท้ ทุกครั้ง ขอรับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Rin จาก Rin จันทร์, 22/10/2550 เวลา : 07:36  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13941

คำตอบที่ 26
       ตอนนี้ผมใช้บีพีอยู่ ตอนเปลี่ยนมาใหม่ตูดหอมอยู่พักนึง พอเกิน 6000 โล แล้วก็กลิ่นไอเสียปกติ

ปกติต้องเปลี่ยนทุกกี่กิโลเมตรครับ ผมใช้ BP-visco 3000 pick-up




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Kobae จาก Kobae 161.200.255.162 จันทร์, 22/10/2550 เวลา : 11:51  IP : 161.200.255.162   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13943

คำตอบที่ 27
       BP 3000 ผมเคยใช้นะ..ลื่นดีกลิ่นหอม..ผมเปลี่ยนถ่ายที่ 7000 ก.ม.คับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

b.chavana จาก ตึ๋ง IZU 335 58.8.157.179 จันทร์, 22/10/2550 เวลา : 17:05  IP : 58.8.157.179   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13959

คำตอบที่ 28
       อยากใช้น้ำมันเครื่อง สังเคราะห์ 100 เปอร์เซ็นต์แท้ๆ สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ ชัยนาทหายากมาก มีที่ไหนแนะนำมั้ยครับ ปตท.ก็มีแต่เซมิ ทั้งนั้น (รถแข่งนะไม่ใช่รถบ้าน) ช่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก พัทร์ 222.123.232.100 ศุกร์, 28/12/2550 เวลา : 10:54  IP : 222.123.232.100   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 17431

คำตอบที่ 29
       มอเตอร์ไซค์ ลองใช้ MOTUL ดูครับ ถ้าจำไม่ผิดจะมีตัวแทนอยู่ที่ลพบุรีครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

never regret จาก Yo 58.8.36.139 ศุกร์, 28/12/2550 เวลา : 22:23  IP : 58.8.36.139   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 17454

คำตอบที่ 30
       สวัสดีครับ รถมอเตอร์ไซค์ของผ SUZUKI Raider 125 รุ่นที่มีออยคูลเลอร์ + ครัชมือ ปกติผมจะใช้น้ำมันเครื่องของศูนย์ แต่ตอนนี้หมดประกันแล้วผมจึงถ่ายน้ำมันเครื่องเอง

ตามคู่มือเขาบอกว่ารถรุ่นนี้ให้ใช้น้ำมันเครื่อง 15W40 ที่อุณภูมิ 0 ขึ้นไป แต่เนืองจากว่ารถผมวิ่งเน้นใช้รอบสูงและอยู่ภาคเหนือ ผมเลยหาน้ำมันเครื่องเกรดความหนืดต่ำๆ แต่หาซื้อไม่ได้ เพราะที่ร้านขายมีเกรดต่ำสุดแค่ 15W40 เท่านั้น ผมเลยเหลือบไปเห็นน้ำมันเครื่องเบนซินของ TOYOTA MOTOR OIL สำหรับเครื่องเบนซิน ซึ่งใช้กับรถ Vios ค่าความหนืด 10W30 พอใส่ไปแล้ววิ่งได้สักพักรู้สึกว่าเกียร์มันแข็งและเข้ายากขึ้น ส่วนครัชมันจับไม่รุนแรงเหมือนตอนแรกครับ ปกติถ้าลากรอบพอเปลี่ยนเกียร์หนึ่งเป็นเกียร์ 2 หน้าแทบยก พอตอนนี้ครัชกลับจับแบบ อืด____ ไม่กระโชกโฮกฮากเหมือนตอนแรกเลยครับ

สาเหตุน่ามาจากน้ำมันเครื่องความหนืดน้อยเกินหรือเปล่าครับ เพราะรถรุ่นนี้เป็นครัชเปียก และตอนที่ผมขับอุณภูมิอยู่ที่ 32 องศา ซึ่งในคู่มือเขาให้ใช้ที่อุณภูมิต่ำกว่า 25 องศาครับ แล้วต้องแก้ปัญหาอย่างไรหรือครับ ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องเปลี่ยนกลับมาใช้ความหนืดเดิมหรือเปล่าครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ต้นครับ 222.123.173.79 อาทิตย์, 30/12/2550 เวลา : 19:15  IP : 222.123.173.79   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 17469

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอาทิตย์,24 พฤศจิกายน 2567 (Online 6072 คน)