คำตอบที่ 31
       สมน้ำหน้าตัวเอง ที่เคยเรียนมาแล้วแต่เสือกไม่จำเอง

ต่อไปจะเป็นข้อมูลที่เป็นตัวเลข พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ครับ

ผมขอปูพื้นฐานนิด ๆ หน่อย ๆ จะได้ตามกันได้ทัน
น้ำ มีสูตรทางเคมีว่า H2O คือ ใน 1 โมเลกุลของน้ำจะประกอบไปด้วย H สองอะตอม และ O หนึ่งอะตอม

โมล เป็นหน่วยวัดจำนวนโมเลกุลของสารประกอบหรือธาตุที่มีจำนวนเท่ากับเลข อาโวกาโร คือ 6.023 x 10^23 ตัว
การจะรู้ว่า 1 โมลมีน้ำหนักเท่าไหร่นั้นง่ายมาก คือ นำน้ำหนักอะตอมซึ่งดูไดจากตารางธาตุเอามารวมกัน

ตามตารางธาตู H มี นน.อะตอม 1.008 , O มี นน อะตอม 16
H2O จึงมี นน. โมเลกุล = 1.008x2 + 18 = 18.004 ===> Approx 18

นั่นหมายถึง น้ำ 1 โมล มีน้ำหนัก 18 กรัม จะประกอบไปด้วยไฮโดรเจน 2 กรัม และ ออกซิเจน 1 กรัม

ต่อไปขอพูดถึงค่าพลังงานของพันธะ(Bond Energy)ซักหน่อย
การจะแยกโมเลกุลออกมาต้องใส่พลังงานเข้าไปเพื่อให้อะตอมแตกตัวออกมา
ในวิชาเคมีมัธยมปลายก็เคยมีสอนไว้ ว่า สร้างคาย สลายดูด คือถ้าสร้างพันธะใหม่จะคายพลังงานออกมา
ถ้าต้องการสลายพลังงานต้องใส่พลังงานเข้าไผ

O-O มีค่าพลังงานพันธะ 118.3 Kcal /mole
H-H ค่าพลังงานพันธะ 104.2 Kcal /mole
H-O ค่าพลังงานพันธะ 101.5 Kcal /mole
H-OH ค่าพลังงานพันธะ 119.7 Kcal/mole

ดังนั้นการจะแยกน้ำออกมาเป็นแกส ต้องใส่พลังงานเพื่อสลายพันธะดังนี้

1 แยก H-OH ===> 119.7
2 แยก H-O ===> 101.5

รวมเป็น 119.7 + 101.5 = 221.2 Kcal/mole

เมื่อแยกออกมาแล้ว H ก็จะรวมกับ H เป็น H2 จะคายพลังงานออกมา 104.2
O ก็จะรวมกับ O เป็น O2 คายพลังงานออกมา 118.3/2 = 59.15
รวมการคายพลังงานออกมา 104.2+ 59.15 = 163.35

พลังงานที่คายนี้หายไปไหน ???

หายไปในรูปความร้อนครับ เซลแยกน้ำ จะต้องร้อนเสมอเพราะสาเหตุนี้ครับ
อย่า อย่าเพิ่งแย้งเรื่อง H-H ครับ ผมยังเขียนไม่จบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 32
       ความร้อนที่คายออกมาในคำตอบที่แล้วเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ
คือ ถ้าจ่ายไฟเข้าไปในเซลล์ที่แยกน้ำอย่างไรก็ต้องมีความร้อนเกิดขึ้นเสมอ
ถ้าแยกน้ำ 18 กรัมออกไปเป็นแกสได้ จะมีความร้อนเกิดขึ้นประมาณนั้น
ถ้ามากกว่านั้นหมายถึงอะไร ???



หมายถึงพลังงานส่วนที่ใส่เข้าไปนั้นไม่ได้แยกน้ำเป็นแกสครับ แต่กลายเป็นไป
เป็นการ "ต้มน้ำ" นั่นเอง

ใส่พลังงานเข้าไป 221.2 Kcal แต่โดนโยนทิ้งไปเฉย ๆเป็นความร้อน 163.35
พลังงานโดยรวมเหลือ 221.2-163.35 = 57.85 Kcal

เมื่อหารด้วย น้ำหนักของน้ำคือ 18 กรัม จะเป็นค่า 3.2 Kcal/กรัม

ค่านี้หมายถึงอะไร ???

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 33
       หมายถึงทุก ๆ 1 กรัมของน้ำที่ถูกแยกสลายกลายเป็นแกสแล้วนำแกสไปเผา
จะได้พลังงานออกมา 3200 แคลอรี คือสามารถทำให้น้ำ 1 กก อุณหภูมิสูงขึ้นไป 3.2 C

ในขณะที่พลังงานขาเข้าคือ 221.2 / 18 = 12.28 Kcal/กรัม
ทำให้น้ำ 1 กก อุณหภูมิสูงขึ้นได้ถึง 12.28 C

หายไปถึง 12.2 - 3.2 = 9 องศา คิดเป็น 3.2/12.2 x100 = 26% เท่านั้น


มาดูในแง่ของไฟฟ้าบ้าง

มันเป็นกฏครับของฟาราเดย์ กฏคือกฏ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ต่างกับทฤษฎีที่เปลี่ยนได้
ผมสรุปให้แล้วกันนะครับ

ไฟฟ้า 1 ฟาราเดย์ สามารถแยกน้ำได้จำนวน 1 โมล
1 ฟาราเดย์คือจำนวนประจุทั้งหมด 96,500 คูลอมบ์
1 คูลอมบ์คือจำนวนประจุไฟฟ้าที่กระแสไหล 1 แอมป์ภายใน 1 วินาที

1 ชมมี 60x60 = 3,600 วินาที
ดังนั้น 1 ฟาราเดย์คือ 96,500/3,600 =26.8 แอมป์

คือต้องใข้กระแสไฟฟ้าจำนวน 26.8 แอมแปร์เป็นเวลา 1 ชม จึงจะแยกน้ำได้จำนวน 18 กรัม

สังเกตุว่าผมจะไม่พูดถึงแรงดันไฟฟ้าเลย เพราะการแยกน้ำใช้จำนวนประจุเป็นสำคัญ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 34
       ขออภัยครับ ในคำตอบที่ 38 เขียนผิดไปหน่อยผมลืมหารสอง
1 ฟาราเดย์ แยกน้ำได้จำนวน 9 กรัมครับ ไม่ใช่ 18 กรัม

คราวนี้ที่ชอบใช้กันจริง ๆ คือ HHO นั่นหมายถึง อะตอมของไฮโดรเจนที่แยกออกมาได้จะยังไม่รวมตัว
เป็นโมเลกุล นั่นหมายถึงพลังงานส่วนที่สร้างพันธะจำนวน 104.2 Kcal จะไม่สูญเสียไปเป็นความร้อน
และอะตอมของออกซิเจนก็ยังไม่รวมตัวเป็นโมเลกุลได้พลังงานกลับคืนมาอีก 118.3/2 = 59.15 KCal
รวมทั้งหมด 163.35 Kcal

นั่นคืออิเลคโตรไลเซอร์จะไม่เกิดความร้อนขึ้นเลย แต่ในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้เกิดความร้อนขึ้นเสมอ
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น HHO จริง ๆ ??


ง่ายมากครับ สามารถคำนวณได้จากกฎของฟาราเดย์

แต่สิ่งที่ต้องรู้เพิ่มอีกคือ คุณสมบัติของแกส ไม่ว่าแกสใด ๆ ในโลกนี้ จำนวน 1 โมล
ที STP จะมีปริมาตร 22.4 ลิตรเสมอ


1/2 โมล์ของน้ำเสียค่าไฟฟ้า 2.1x26.8 = 56.28 Whr
คิดทีละครึ่งคิดยาก ขอคิดแบบเต็มก้อนดีกว่า
1 โมลของน้ำเสียพลังงานไฟฟ้า = 56.28x2 = 112.56 Whr

ถ้าเป็น HHO ต้องได้แกส 22.4+22.4+22.4 = 33.6 ลิตร


ดังนั้นอย่างเก่งที่สุด ระดับจ้าวยุทธภพ

การผลิตแกส 1 ลิตรต่อชม ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า = 112.56 / 33.6 = 3.35 Whr

หรือถ้าแบบเห่ย ๆ ก็ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า = 112.56 /16.8 = 6.7 Whr

คราวนี้จะทดสอบว่าของคุณได้ระดับไหนก็คำนวณโดยประมาณจากกระแสไฟฟ้า
ที่จ่ายให้แก่เครื่องอิเลคโตรไลเซอร์

ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าใช้ไฟ 10 A ที่แรงดัน 13.8 โวลต์ กำลังไฟฟ้า 138 วัตต์

เครื่องนี้ผลิตแกสได้อยู่ในช่วง
สูงสุด 138/3.35 = 41.2 ลิตรต่อชม --> 0.686 ลิตรต่อนาที
ต่ำ 138/6.7 = 20.59 --> 0.343 ลิตรต่อนาที
ไม่มีทางเกินค่านี้ได้ถ้าเกินไปมาก แสดงว่า "โม้"

เครื่องตามที่โฆษณาใช้ไฟ 30 A ก็ผลิตได้อย่างมากที่สุด 2.06 ลิตรต่อนาที

ปริมาตรทั้งหมดคิดที่ STP นะครับ คือ 0 C ที่ แรงดัน 1 บรรยากาศ
ทีอุณหภูมิห้องก็ใช้กฏของแกสคำนวณเองนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 35
       มีการนำแกสนี้มาจุดไฟหรือไปเผาอะไรก็แล้วแต่ ได้อุณหภูมิที่สูงจนเป็นที่มาของข้อกล่าวอ้างว่า
ถ้านำแกสชนิดนี้ฉีดเข้าห้องเผาไหม้จะทำให้เชื้อเพลิงที่หลงเหลือจากการเผาไหม้ สามารถเผาไหม้ได้หมดจด
ทำให้ประหยัดน้ำมัน

ก่อนอื่นผมต้องขออธิบายระหว่าง ค่าความร้อนกับอุณหภูมิ (Heat Value ,Temperature) เสียก่อน
ของบางอย่างอุณหภูมิสูงจริง ๆ แต่ค่าความร้อนต่ำ บางอย่างค่าความร้อนสูงแต่อุณหภูมิไม่สูงนัก

ขอยกตัวอย่างน้ำที่ใช้ชงกาแฟ อุณหภูมิซัก 70-80 องศา แค่เทใส่แก้วมือเราก็ไม่สามารถจับได้แล้ว
อจจะพองได้ ส่วนสะเก็ดไฟของเหล็กที่กระเด็นมาจากเครื่องเจียร อุณหูมิหลายร้อยองศา
เมื่อกระเด็นโดนผิวยังเฉย ๆ อย่างมากก็คัน ๆ เพราะอะไร ??

เพราะ Heat Value ของสะเก็ดไฟมันต่ำมากเมื่อโดนผิวความร้อนจะถ่ายเทสู่สิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว
และอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมแทบไม่ถูกกระทบเลย เหมือนกับเทน้ำจากแก้วลงในบ่อน้ำ
ระดับน้ำในบ่อก็ไม่ได้สูงขึ้น

การจุดระเบิดในกระบอกสูบก็เช่นกันความร้อนจากแกสนี้แม้อุณหภูมิสูงก็จริงแต่มีปริมาณจิ๊บจ๊อยเหลือเกิน
จะไปช่วยเผาไหม้อะไรได้

ตามตำตอบที่แล้ว สมมุติว่าผลิตแกสได้ 2 ลิตรต่อนาที

สมมุติเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 2,000 ซีซี หมุนที่ 2,000 รอบต่อนาที
คือจุดระเบิด 1000 ครั้งต่อนาที

แกสมหัศจรรย์ที่เข้าเครื่องคือ 2 ลิตร/1000 = 2 ซีซี ต่อการจุดระเบิด 1 ครั้ง
ต่อสูบคือ 1/2 ซีซี ครับ

คำนวณย้อนกลับไปได้ครับว่า 1/2 ซีซีน่ะ ได้พลังงาน หรือได้ความร้อนซักกี่มากน้อย
คิดเป็นไฮโดรเจนแบบที่เป็นอะตอมล้วน ๆ เลยก็ได้ มันคือไฮโดรเจนจำนวน

(0.5/22400) x 1 = 2.232 x 10 ^-5 กรัม

อย่าทำมาหากินกับคนที่ลำบากเลยครับ
ปัจจุบันนี้ต่างก็เดือดร้อนกันถ้วนหน้าอยู่แล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 36
       ใส่แกสเทพนี้เข้าไปแค่นิดหน่อยแต่ประหยัดได้ถึง 60% ผมว่ามันจะเกินไปหน่อย
เครื่องแคท หรือ คัมมินส์ หรือแม้แต่เครื่องปั่นไฟฟ้า คงประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้มากมาย


เอาไปขายเรือประมงก็คงดี ไม่ต้องมาประท้วงเรื่องน้ำมันแพง ชาวมหาชัย,ชาวแม่กลองอยากได้อยู่แล้ว
ประหยัดได้ขนาดนี้เครื่องละห้าหกแสนขายได้สบาย ๆ วิ่งเรือหาปลาไม่กี่เที่ยวก็คุ้มแล้วครับ
หรือเอาไปขาย VSPP ที่ปั่นไฟขายให้แก่การไฟฟ้าภูมิภาค แถวชลบุรีก็มีโรงมันชลเจริญ
รับรองเขาซื้อแน่นอน


ความจริงทริคง่าย ๆ ที่จะประหยัดนั้น มันอยู่ที่การจูนหรือปรับแต่ง O2 หรือ MAP เท่านั้น
เพราะค่าอัตราส่วนเฉพาะของเชื่อเพลิงที่ 14:1 นั้น จริง ๆ ไม่ใช่ค่าที่เผาไหม้ได้สมบูรณ์ที่สุด

แต่เป็นค่าที่ Compromise คือเป็นค่าที่ไฮโดรคาร์บอนที่เผาไหม้ไม่หมดไม่สูงเกินไป
และ NOx ไม่สูงเกินไป ถ้าปรับให้เป็นซัก 18:1 ก็จะเผาไหม้ได้สมบูรณ์ประหยัดขึ้น
แต่ว่า NOx จะสูงเกินค่ามาตรฐาน เพราะความร้อนในห้องเผาไหม้จะสูงขึ้น

ปรับยังไงคงไม่ต้องสอนท่านสมภารทั้งหลายนะครับ ที่นี่เซียน ๆ เก่ง ๆ มากมาย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 37
       ข้อเขียนของหนุ่มกระโทกที่ผมเอามาให้อ่านจบแล้วครับ

หวังว่าอ่านแล้วคงจะเห็นภาพและทะลุม่านบังตาของยาผีบอกได้ไม่มากก้น้อย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 38
       นี่มันรายการ ตาสว่าง แหงๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 39
       ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 40
       ผมจะสรุปตัวเลขให้ฟังง่ายๆก็แล้วกันครับ

ประสิทธิภาพของการใส่พลังงานเข้าไปในน้ำเพื่อแยกไฮโดรเยนออกมามันจะอยู่ที่ประมาณ 50-80% ขึ้นอยู่กับความฉกาจของแต่ละบุคคล และการใช้กำไรจากสมการเทอร์โมไดนามิกส์เอาความร้อนและแรงดันแบบการแยกแกสอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ผมหมายถึงระบบแยกแกสระดับเป็นหลายๆพันคิวบิดเมตรต่อชั่วโมง

แต่ไฟฟ้ามันไม่ได้มาฟรีๆใช่ไหมครับต้องเอาเครื่องยนต์ปั่นมันออกมาถ้าเอาน้ำมันใส่ให้มันปั่นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าออกมาแล้วเอาไปแยกน้ำให้เป็นไฮโดรเยน มันจะเหลือประมาณ 25-30% ที่เครื่องยนต์กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพอเอามาคูณกับประสิทธิภาพของรีแอ็กเตอร์แยกน้ำข้างบน มันก็จะเหลือแค่สิบกว่าเปอร์เซ็นต์ของพลังงานตั้งต้นเท่านั้นเอง

นี่ไงที่ผมบอกว่าใส่พลังงานไปสิบบาทได้พลังงานกลับมาไม่ถึงสองบาท ขาดทุนพลังงานตั้งแต่ในมุ้ง

แล้วรถเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้ไฮโดรเยนในต่างประเทศมีไหมล่ะ เขาใช้งงานกันอย่างไรเดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง รับรองว่ามันไม่ลูกทุ่งแบบบ้านเราหรอก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 41
       สาเหตุที่เมืองนอกเขามีไฮโดรเยนมากพอจากการทำไฮโดรแคร็กในการผลิตน้ำมัน และของเสียในอุตสาหกรรมมากพอจนอยากจะเอามาเพิ่มค่าทำเป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์มันเลยมีการคิดค้นตลอดเวลาถึงการใช้รถพลังไฮโดรเยน

จากที่ผมเคยเล่าให้ฟังเรื่องสมัยที่เรือเหาะฮินเดนเบอร์กมันบินข้ามแอตแลนติกได้มีการเอาแกสที่ปล่อยออกมาจากเรือเหาะมาเวียนเข้าเครื่องยนต์แล้วมันประหยัดน้ำมันได้ นั่งหมายถึงต้องผสมระดับใกล้ๆกับ stoichiometric
นะครับซึ่งมันเป็นจำนวนแกสมหาศาลระดับเรือเหาะปล่อยออกมามันไม่สะเทือนอยู่แล้วแต่ถ้าเป็นรถยนต์คงลำบาก

รายที่ทำการทดลองและวิจัยรถเชื้อเพลิงไฮโดรเยนเจ้าแรกๆเลยคือ BMW รายนี้ได้ทำวิจัยมาสิบกว่าปีแล้วหมดเงินไปมหาศาลคิดเป็นเงินไทยก็ระดับพันล้านบาท ผลการทดลองได้แก้ปัญหาข้อจำกัดของไฮโดรเยนไปหลายข้อ บริษัท GM ฝั่งอเมริกาก็ไม่ใช่ย่อยทำงานวิจัยเครื่องยนต์ไฮโดรเยนถึงขนาดเอาลงกับรถระดับ Muscle car วิ่งกันสนั่นเมือง ทางญี่ปุ่นก็มี Honda และ Mazda ทำงานวิจัยกันเอาเป็นเอาตาย แต่ทุกเจ้าไปจบที่เดียวกัน มันไปจบที่ไหนผมจะเล่าให้ฟัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 42
       แต่ตอนนี้เอาแบบ เริ่มต้นงานวิจัยเมื่อสิบกว่าปีไปก่อนว่าปัญหาแรกเลยคือเครื่องยนต์มันกำลังตกและเกิด back fire จนเครื่องยนต์ทำงานในระดับปลอดภัยพอทีจะลงกับรถบ้านไม่ได้ ขืนทำมาขายก็ไม่มีคนซื้อระเบิดไปจอดหน้าบ้าน ดังนั้น BMW แก้ปัญหาตัวแรกก่อนคือทำอย่าไรมันจะกำลังเครื่องยนต์ไม่ตกจากการที่แกสมันกินที่ในกระบอกสูบและมันระเบิดย้อนทางจนระบบจ่ายแกสมันพังวายวอด

ดังนั้น BMW จึงทำหัวฉีดแกสขึ้นมาเสียเลย ครั้งแรกทำแบบไดเร็คอินเจ็คชั่นแกสแรงดันสูงในห้องเผาไหม้มันแก้ปัญหาเรื่อง Back fire กับแกสแทนที่อากาศได้ส่วนหนึ่ง แต่พอทำไปแล้วก็ได้พบปัญหาใหม่คือหัวฉีดแกสมันต้องฉีดแกสมหาศาลในเวลาสั้นๆมันทำงานได้ไม่ดีนัก หัวฉีดมันใหญ่ขนาดนิ้งโป้งเท้าเลยเพราะรูฉีดแกสมันต้องใหญ่พอที่จะฉีดแกสจำนวนเป็นร้อยซีซีในเวลาไม่ถึงห้าในพันวินาทีในช่วงรอบสูงมันเลยทำงานได้ไม่ค่อยดีนัก

เพื่อให้กระสุนนัดเดียวยิงนกได้สองตัวทาง BMW เลยจัดการเอาไฮโดรเยนเหลวฉีดเข้ากระบอกสูบเสียเลยมันใช้เวลาน้อยกว่าฉีดแกสตั้งมากมายในเวลาเดียวกันแถมมันยังแก้ปัญหาเรื่องที่เก็บแกสได้อีกเพราะแกสเหลวมันกินที่น้อยกว่าเกือบสามร้อยเท่าและยังได้ระยะทางเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย สรุปว่าแกสเหลวนี่แหละแก้ปัญหาได้เกือบทั้งหมดแต่อีกปัญหาก็ตามเรื่องของถังที่มีความหนาและอุณหภูมิของห้องเผาไหม้ที่โดนแกสเหลวมันดูดเอาไปตลอดเวลา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 43
       แต่ใช่ว่ามันจะไม่มีปัญหาต่อเนื่องเพราะทำรถแล้วจะไปเติมไฮโดรเยนเหลวที่ไหนได้เพราะมันอันตรายแรงดันก็สูงขนาดในวงการอุตสาหกรรมก็ยังใช้แบบแกสความดันสูงเท่านั้นดังนั้นแกสไฮโดรเยขนาดแรงดัน 3600psi น่าจะเป็นมาตราฐานของแกสไฮโดรเยนทางการค้ามากกว่าไฮโดรเยนเหลว

สาเหตุที่ในวงการอุตสาหกรรมไม่นิยมใช้ไฮโดรเยนเหลวเพราะเรื่อง Hydrogen Embrittlement อีกเรื่องเสียด้วยมันอันตรายสุดๆเพราะสภาพของโลหะถังเก็บมันจะเสื่อมสภาพเกิดรอยแคร็กขนาดเล็กไปทั่วจนแกสมันรั่วออกมา มันแก้ไม่ได้ ถ้าต้องนั่งขับรถโดยมีถังไฮโดรเยนเหลวอยู่ใต้เบาะรถแล้วมันเหมือนมีภาพยานชาเล็นเจอร์ระเบิดตามหลอกหลอนไปตลอดทางเพรารอยแคร็กอันนี้มันระดับแค่ microstructure หรือ catastrophic failures มันเกิดทั้งโลหะและอโลหะเสียด้วย ดังนั้นไฮโดรเยนเหลวมันเลยเกิดยากสักหน่อย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 44
       อเมริกาเองก็เล่นไฮโดรเยน แต่เล่นแบบให้ชาวบ้านรู้ว่าเล่นเป็นแต่ไม่เอาจริงจังอะไรมากนัก เล่นแต่แบบ premix ยืนพื้นไม่เล่นแบบที่ทางยุโรปเขาเล่นกัน

ดังนั้นฝั่งอเมริกาเลยเล่นแต่แกสไฮโดรเยน 3600 psi ยืนพิ้นแล้วรถอเมริกันมันเล็กซะที่ไหนอย่างเจ้าShelby Cobraคันข้างล่างนี้ยัดถังไป 87 ลิตรอัดเข้าไป 3600psi ถังก็พอๆกับแท็กซี่ NGV บ้านเรานั่นแหละ แต่เพราะมันเป็นไฮโดรเยนเลยมีพลังงานเท่ากับน้ำมัน 1.4แกลอนเอง ดังนั้นแกสไฮโดรเยนถังหนึ่งมันวิ่งได้แค่ห้านาทีเท่านั้น

ขับไปซื้อบุหรี่ปากซอยยังไม่แน่เลยว่าจะกลับถึงบ้านหรือเปล่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 45
       คราวนี้มาดูรถปลาดิบบ้าง ญี่ปุ่นได้ความรู้จาก BMW มาเพียบเลยไม่ต้องเริ่มต้น ABC กันเหมือนเยอรมัน ตอนท้ายของการพัฒนาของ BMW ได้พบว่าการรั่วของวาวล์และการมี overlap ของวาวล์มันก็ยังระเบิดท่อไอดีพังเป็นแถบนั่นแหละ ทาง BMW เลยต้องซื้เครื่องโรตารีของมาสด้ามาใช้แทนเพราะห้องเผาไหม้ของเครื่องโรตารี่มันแยกจากไอดีแบบขาดเพราะลูกสูบมันหมุนไม่ใช่วิ่งขึ้นวิ่งลงตามปกติดังนั้นมาสด้าเลยทำโครงการต่อแบบขี่หลังเยอรมันไปเลย แต่สิ่งที่ต้องพบในปัญหาเดียวกันคือมันได้ระยะทางจิ๊ดเดียวเองต่อการเติมแกสหนึ่งถัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 46
       แต่มาสด้ามาแรงกว่าทุกเจ้าตรงที่เครื่องยนต์โรตารี่มันเหมาะกับไฮโดรเยนมากด้วยความปลอดภัยของห้องเผาไหม้มันสูงกว่าแบบลูกสูบดังนั้นรถไฮโดรเยนของมาสด้าจึงทำขายได้จริงๆในปี 2004

เครื่องยนต์ขนาดสองโรเตอร์ 1300cc คันนี้มันรีดม้าได้สองร้อยกว่าแรงม้า

แต่ใช้ได้จริงๆหรือเปล่านี่คนละเรื่องเพราะรถไฮโดรเยนของมาสด้าทุกคันมีถังน้ำมันด้วยคงกลัวขับไปซื้อบุหรี่ปากซอยแล้วกลับบ้านไม่ได้มั้ง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 47
       สำหรับเรื่องของเครื่องสันดาปภายในกับไฮโดรเยนมันอาจจะไม่รุ่งเพราะเรื่องของประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และการกินเชื้อเพลิงสูงมาก แต่อนาคตของรถพลังไฮโดรเยนมันไม่ฟุบหรอกมันยังมีทางเลือกอีกทางที่รุ่งโรจน์กว่า

นั่นคือ Hydrogen Fuel Cell มันเอาไฮโดรเยนมาทำไฟฟ้าได้โดยตรงแล้วเอาไปขับมอเตอร์ของรถไฟฟ้าได้ดีกว่าระบบแบตเตอรี่ตรงที่มันเบากว่าหลายเท่า

เอาไว้ผมจะเล่าเรื่อง fuel cell ให้ฟังวันหลังเพราะนี่ซิคือทางออกของรถยนต์พลังไฮโดรเยนจริงๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 48
       วันนี้พอเท่านี้ก่อนครับ เอาไว้ผมต่อให้วันหลัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 49
       ขอบคุณมากๆครับอาจารย์สำหรับความรู้ อุตส่าเขียนถึงตีสองเลย ผมนับถือจริงๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 50
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 51
       ได้ความรู้เพียบเลย ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 52
       อ่านจนไม่ไดทำงานอย่างอื่นเลย เหมือนตอนดูหน้ากากเสือพลาดไม่ได้ซักตอน แต่อาจารย์บอกให้รอติดตามชมภาคต่อไป อดใจรอต่อไป สู้เค้าหน้ากากเสือ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 53
      

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 54
       โหด เลว ดี ภาคพิเศษ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 55
       ของจริงครับงานนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 56
       http://www.weekendhobby.com/sale/Question.asp?ID=122984

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 57
       ขอขอบคุณ อ.วอนที่มาเติมความรู้ให้พวกเราเสมอครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 58
       ถึงว่า RX8 Hydrogen
มีอยู่แต่ในพิพิธภัณฑ์ที่ Hiroshima

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 59
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 60
       วันนี้รายการไทยมุง ทางไทยทีบีเอส มีบริษัทนึงมาแนะนำ
อุปกรณ์ตัวหนึ่ง ซึ่งแยกไฮโดรเจน และออกซิเจน ออกจากน้ำ ด้วยไฟฟ้าจากแบตเตอร์รี่ แล้วนำไปผสมกับน้ำมันอีกที ซึ่งสามารถทำให้ประหยัดน้ำมันลงได้มาก จริงเท็จอย่างไร รบกวนท่านลุงแลผู้รู้ตรวจสอบให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย