คำตอบที่ 1
       ความเชื่อ ความศรัทธา แล้วแต่บุคคล ไม่สมควรเอามาพูด
แล้วก่อให้เกิดความขัดแย้ง

หากจะพูดหรือสนทนาควรจะ อยู่ในกลุ่มที่เชื่อ และศรัทธาเหมือนกัน

สำหรับผมยึดมั่นในพระรัตนตรัย
พุทธังฯ ธัมมังฯ สังฆังฯ สรณังคัจฉามิ กำจัดภัยได้จริง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ลืมมองในมุมที่จะเกิดความขัดแย้ง ผมเห็นด้วยกับพี่หนุ่ม
ช่วยลบกระทู้นี้ออกด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       พลังใจ ครับ ( ในมุมส่วนตัว)
พลังจิต ครับ ( ถ้าจะพิสูจน์ยาก )
ตามหลักการแพทย์ ปัจจุบัน กาย+จิต 50-50 ครับ ( สมัยโบราณ จิต มาก่อนครับ )
ส่วนใหญ่ เรื่องเครื่องรางของขลัง จะอยู่ในหมู่ผู้ที่ชอบ หรือ เสี่ยงภัยอันตราย อีกส่วนจะอยู่ ในหมู่คนค้าขาย ( แข่งขันสูง ) และกลุ่มทุน ( กลัวลูกหนี้หนี )
ส่วนหนึ่งพกติดตัว อีกส่วนอยู่ที่บ้าน ถ้าจะให้ชัวร์ ต้องไปดูที่บ้านครับ ผมเห็นมาหลายที่แล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       เอาอีกครับ เอาอีก
ในโลกของการแข่งขัน
หากทุกอย่างเท่าเทียมกัน
ใช้กฏ กติกา แบบเดียวกัน
กำลังใจใครดีกว่า ย่อมได้เปรียบ
ในปัจจุบัน แข่งรถ แข่งเรือ ยังมีคล้องพวงมาลัย ไหว้แม่ย่านางอยู่เลย ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
      
เมื่อเป็นความประสงค์ของท่านเจ้าของกระทู้เอง วานผู้ดูเเลช่วยลบตามเจ้าของกระทู้เสนอมาด้วยครับ ขอบพระคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
      

ยังไม่มีใครป่วนเอาไว้ก่อนก็ได้ครับคุณกรูปรี ใครมาป่วนเล่นหิ้งแล้วค่อยลบเพราะเจ้าของอนุญาตล่วงหน้าแล้ว




สำหรับผมเองที่เป็นคนรักการสะสมพระเครื่อง ในคอก็ห้อยพระสาระพัดองค์ ก็มองออกเป็นสองแง่

ข้อแรกสะสมเพราะ เป็นสมบัติตระกูล มีศิลปะสวยงาม มีอายุเก่าแก่มีคุณค่าด้วยตัวเอง ผมห้อยแต่พระเก่า ไมมีพระประเภทพุทธพานิชอยู่เลย

ข้อที่สองคือสมัยก่อนการสร้างพระทำเพื่อสืบพระศาสนาอย่างเดียวไม่มีการค้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คนห้อยพระเพิ่งมีมาไม่เกินร้อยปีนี้เอง สมัยก่อนพอเสร็จศึกสงครามก็เอาพระติดตัวไปเก็บวัด ในบ้านก็ไม่มีพระเพราะเป็นที่ไม่สะอาดพอ จะมีเพียงผ้าประเจียดหรือพระบทเป็นมงคลติดตามหัวเสาบ้านให้บ้าน ดังนั้นการห้อยพระทำให้ตัวเองต้องทำตัวให้ดีทำตัวให้สะอาดพอให้ท่านอยู่กับเราด้วย



ผมชอบความคิดของป๋าอีธานเรื่องหนึ่งคือห้อยพระแล้วจะยกแก้วเหล้าข้ามพระในคอใส่ปากมันน่าอายจริงๆ ผมเลยขยายความไปเป็นเรื่องเลวอื่นๆด้วยว่า ห้อยพระแล้วทำเลวมันน่าอายจริงๆ เพราะผมเป็นคนไม่กินเหล้าเลยเอาเรื่องอื่นถวายท่านแทน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       หลากหลายความคิด และมุมมอง ดีจังครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       เรื่อง "พลังงาน" อาจจะมีจริงหรือไม่จริงก็ "อาจจะ" เป็นไปได้.... แต่ที่แน่ ๆ และเจ๋ง ๆ ก็คือ มนุษย์เราเกิดมาต้องตายทุกคนครับ.....ในอดีตเห็นมาเฟียเบอร์ 1 ของเมืองหลวง อมพระที่แพงที่สุดในยุค สิ้นใจตายด้วยคมกระสุนมาแล้วครับ

แล้วแต่ความชอบ และเชื่อของแต่ละบุคคลครับ บางท่านอาจจะชอบในแนวพุทธศิลป บางท่านก็อาจจะชอบแนวพุทธพาณิชย์ บางท่านอาจจะชอบในแนวอภินิหาร......ใครชอบแนวไหนก็เป็นเรื่องของเค้าครับ เค้าชอบแล้วมีความสุขก็ดีแล้ว แต่บางคนชอบแบบหลงไหลก็ทำให้เกิดทุกข์ได้เหมือนกัน ก็เพราะคำว่า "กิเลส" คำเดียวนั่นเอง "อยากได้ อยากมี" แบบที่เค้าฮิต ๆ กัน พอได้มีแล้วก็มีความสุข...แต่พอหาไม่ได้ หาไม่มี ก็เป็นทุกข์.....เท่านั้นเอง ถ้าเรา "รู้เท่าทัน" เหตุแห่งทุกข์ก็สบายครับ

ห้อยพระเพื่อเป็นสิ่งเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ในการทำความดี ละเว้นความชั่ว ไม่ให้หลงไหลไปกับกิเลสรอบตัวเรา...........เหมือนกับคำที่ อ.วอน บอกว่า "ห้อยพระแล้วจะยกแก้วเหล้าข้ามพระในคอใส่ปากมันน่าอายจริง ๆ".....อืมม์....ผมว่าเจ้าของคำพูดยกตัวอย่างได้เข้าใจง่ายดีจังครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       พี่ SuperMOP เขียนได้ถูกต้อง แต่มีผิดอยู่อย่างหนึ่งครับ

อะไรเอ่ย ......................
































หลงไหล ครับ ต้องเป็นหลงใหล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       จากประสบการณ์หลายปีที่ต้อง เข้าบ้านชาวบ้านหลายหลัง ( ตามหน้าที่ ) เคยพบเห็น บุคคลที่นับถือ หลายศาสนา หรือความเชื่อ มีห้องพิเศษ ไว้เก็บ สิ่งศักดิ์สิทธิ และรูปเคารพ ต่างๆมากมาย แบบรวมมิตร ส่วนใหญ่มีอาชีพ ค้าขาย import-export และเป็นคน asia ทั้งนั้นเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ขอบคุณ คุณหนุ่มกระโทก มากครับ....พอดีมือมันไวกว่าสมอง เลย ไหล...ใหล...ไหล...ใหล...ไปหน่อย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ชี้แจงครับ จากคต.10 ครับ
ผมเคยทำงาน ที่ กทพ. ตอนเวนคืนที่ดินทำโครงการ ทางด่วนขั้นที่ 2 ครับ
และเคย ทำงานตรวจสอบ และประเมินราคา หลักประกันให้ ธนาคาร ต่างๆ อยู่หลายปีครับ
รวมทั้งเป็น consultant และ ผุ้รับเหมา อีกนิดหน่อย ครับ
กรุณา อย่าเข้าใจผิด ว่าผมเป็น พวกตีนแมว งัดบ้าน ยกเค้า อะไรพวกนั้น นะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ท่านผู้น้อยนอนดึกจริง ๆ ครับ

สงสัยต่อง M คุยกันตอนดึกๆ ซะแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ผมไม่ถนัดเรื่อง คอมน่ะครับ ได้แบบ งูๆ ปลาๆ จะคุยจริง คงต้องมือถือ ล่ะครับ งานนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       นอนดึกจริงๆ ขยันดีนะขอรับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ขอแถม เรื่องเครื่องราง ของขลังอีกนิด ครับ
ตอนนี้ อาชีพด้านนี้ มีเงินต่างชาติ เข้ามาเอี่ยวด้วย โดยจับกลุ่มลูกทัวร์ ชาวเอเซีย เหมือนกับขายของที่ระลึก อื่นๆ อย่าลืมว่า คนจีน ชอบไหว้เจ้า อยู่แล้วนะครับ ถ้าไม่แพงมากเขาซื้ออยู่แล้ว
อย่าลืมว่า ไสย.เขาเน้นเรื่องกำลังใจ ศาสนายังต้องมีไสย. ปนอยู่เลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       สงสัยคืนนี้คงไม่จบแน่ ๆ

ศาสนาพุทธโดยเนื่อแท้ไม่มีไสย ครับ

เพราะพุทธะ คือผู้ตื่นเบิกบาน ตรงกันข้ามกับไสย ครับ


เราไปไสย(าสน์) กันดีกว่านะครับ

ผมขอเขียนเรื่องเตาแกลบอีกนิด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       แต่คนส่วนใหญ่ อยู่ทางโลก นะครับ โดยเฉพาะ ผู้ชี้นำ ผู้มีอำนาจ และผู้ปกครอง อยู่ทางธรรม มีอำนาจก็ใช้ยาก ต้องมีเมตตาครับ ตรงไป ตรงมาด้วย ลำบากครับ
และศาสนา ก็ใช้ปัจจัย ต่างๆจากทางโลก
ส่วนศาสนาพุทธ ในบ้านเราก็พึ่งแปล พระไตรปิฎก เป็นภาษาไทย ได้ไม่นาน
ในปัจจุบัน ภาระของคนก็มากขึ้นตั้งแต่เด็กเลย ( การศึกษา ที่แสนยุ่งยาก ไงครับ )
เรียนอาทิตย์ละ 5-6 วัน จบมาทำงานอาทิตย์ละ 6-7 วัน

หลังอาน และหลังแอ่น เลยล่ะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       DieHard ทหารตีไม่ตายจริง ๆ นะครับ

หลักศาสนาพุทธ ถือปัญญา เป็นสิ่งสูงสุดครับ มิใช่ตัวหนังสือ

พระไตรปิฎก แปลมาเป็นร้อย ๆ ปีแล้วครับ อย่าเข้าใจผิดว่าไม่นาน
เพียงแต่เล่มใหม่ ๆ มี อรรถกา ฎีกา อนุฎีกา เพิ่มเติม


มันอยู่ที่ความสนใจหรือเปล่ามากกว่าครับ คนส่วนใหญ่เอาเวลาไปกับสิ่งบันเทิงเริงรมย์เสียมากกว่า
ทุกคนมี 24 ชม เท่ากันหมดครับ

ทุกอย่างอยุ่ที่ตัวเรา ไม่ใช่อยู่ที่ผู้นำ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       จริงครับ ปัญญาเป็นสิ่งสูงสุด และใช้แก้ปัญหาได้
แต่ คนมีปัญหา มักขาดปัญญา
และคนที่มีปัญญา ก็ไม่ค่อยมีปัญหา
สังคมที่อยู่ ก็เลยคนละแบบ คนละสังคมกัน
และคนที่สภาพชีวิต ยากลำบาก ก็อยากได้อะไรที่มันสะดวก ง่าย และราคาถูก ซึ่งมันทำได้ยากครับ
สุดท้าย ผู้นำเป็นคน กำหนดการศึกษา และการทำงาน นะครับ เกี่ยวแน่นอน ไม่มาก ก็น้อยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       โอววว...คุณหนุ่มกระโทก วุฒิภาวะทางจิต มิธรรมดาจริง ๆ ....ลึกซึ้ง ครับ ลึกซึ้ง

ถึง ผู้นำเป็นคน กำหนดการศึกษา และการทำงาน ......แต่มันอยู่ที่วิธีการมองปัญหาด้วยจิตที่เป็นกลาง แล้ววิเคราะห์และแก้ไขปัญหาด้วยเหตุและผล.....ไม่ต้องพึ่งไสยศาสตร์แน่นอนครับ.......หลักแห่ง "ธรรม" นี่สุดยอดแล้วครับ ใครก็อาจจะเสื่อมได้ แต่ "ธรรม" ไม่มีเสื่อมครับ เค้าเรียกว่า "ของแท้ แน่นอน"

ปลูกข้าวก็ได้กินข้าว ปลูกทุเรียนก็ได้กินทุเรียน เอาเงินฝากแบงค์ เวลาเดือดร้อนก็ยังมีเงินสำรองไว้ใช้ครับ......มันเป็นธรรมชาตินั่นเอง

ส่วนใหญ่ทุกท่านก็รู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว มากบ้างน้อยบ้างก็แล้วแต่ว่าใคร จะได้ศึกษากันมามากน้อยเพียงไหน บางคนรู้ทั้งรู้แต่ก็ยังมีการ ผิดพลาด พลั้งเผลอ ได้ง่าย ๆ ..........ครู หรือ อาจารย์ ท่านจึงต้อง ฝึก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ให้เป็นนิจ ไงครับ .....ฉะนั้นอย่างเรา ๆ ที่อยู่ในทางโลก มีโอกาสที่จะ "หลง" มากกว่า ผู้ที่เป็นนักบวชแน่นอน เพราะว่า "สิ่งเร้า" มันมากมายเหลือเกิน....เมื่อรู้ดังนี้แล้วก็ค่อย ๆ พยามติดตาม "จิต" ให้รู้ ดูเอาไว้ให้ "นิ่ง" ทำได้บ่อย ๆ ตานี้สบายเลยครับ เรื่องไสยศาสตร์เลิกคุยไปเลยครับ....สบายครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       อืมห์ ๆ ครับ ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       อ่านตั้งแต่แรกจนจบก็ได้ข้อคิดดีๆนะเนี่ย......คาราวะท่าน หนุ่มกระโทก แล ท่านผู้น้อย...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       ศรัทธาได้แต่อย่างมงาย
จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวตน

แสดงความคิดเห็นย่อย