คำตอบที่ 67
วันที่ 11/10/2549
รายละเอียดข่าว :
นายแผ่เกียรติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา รักษาการอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบของสหกรณ์ทั้ง 3 แห่งได้แก่ ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด จังหวัดกระบี่, สหกรณ์นิคมอ่าวลึก จำกัด จังหวัดกระบี่, และสหกรณ์นิคมหลังสวน จังหวัดชุมพร ซึ่งมีกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบรวม 63 ตันทลายต่อชั่วโมงสามารถทำรายได้จากธุรกิจการแปรรูปน้ำมันปาล์มให้กับสหกรณ์ในปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าประมาณ 444.03 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังช่วยให้เกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียงมีทางเลือกด้านพลังงานและสามารถลดต้นทุนการผลิตในส่วนของน้ำมันเชื้อเพลิงลงเฉลี่ยร้อยละ 15-20 ประกอบกับเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โรงงานต้นแบบการผลิตไบโอดีเซลเชิงพาณิชย์ ขนาดกำลังการผลิต 10,000 ลิตร/วัน ซึ่งชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัดร่วมกับทางจังหวัดกระบี่ก่อตั้งได้เริ่มดำเนินการผลิตไบโอดีเซลแล้ว ส่งผลให้ได้รับความสนใจจากภาคเอกชนที่จะร่วมลงทุนพัฒนาธุรกิจต่อเนื่อง อาทิ เครื่องสำอาง เคมีภัณฑ์ต่างๆ เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบรองรับความต้องการใช้พลังงานทดแทน ที่นับวันจะเพิ่มสูงขึ้น นอกจากกรมฯจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความรู้เรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่ม และธุรกิจต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันให้กับสมาชิกสหรกร์ในพื้นที่แล้ว ยังจะเร่งดำเนินการก่อสร้างโรงงานแปรรูปน้ำมันปาล์มดิบที่สหกรณ์นิคมบาเจาะ จำกัด จ.นราธิวาส ขนาดกำลังการผลิต 45 ตันทลายต่อชั่วโมงให้แล้วเสร็จภายในปลายปี 2550 ซึ่งคาดว่าจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบของกลุ่มสหกรณ์เพิ่มขึ้นเป็น 518,000 ตันทลายต่อปี จากเดิม 302,000 ตันทลายต่อปี และสามารถรองรับพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน 165,000 ไร่ จากเดิมที่รองรับสวนปาล์มได้เพียง 96,000 ไร่เท่านั้น ...///
--------------------------------------------------------------------------------
จากสื่อ นสพ.แนวหน้า