คำตอบที่ 871
       พอนึ่งเสร็จก็เอาไปสลัดทะลายออก แล้วไปบีบด้วยเครื่องสกรูเพรสเพื้อคั้นน้ำมันออกมา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 872
       ป่นน่าจะละลายได้ไวกว่าแต่กลัวว่าจะถูกผ่องถ่ายออกมาจากกระบอกกรองไปผสมในน้ำมันนะสิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 873
       เรื่องนี้จริงแน่นอนครับ..ประกาศกรมธุรกิจพลังงานฉบับนี้มีผลบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่ประกาศ คือวันที่ 30 มิถุนายน 2549 นายพานิช พงศ์โรดม อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานเป็นผู้ลงนามประกาศดังกล่าว....

จริงๆกฎหมายเกี่ยวกับไบโอดีเซลได้ประกาศออกมาชัดเจนแล้วครับ เป็นประกาศกรมการธุรกิจพลังงานเรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของไบโอดีเซลสำหรับเครื่องยนต์การเกษตร(ไบโอดีเซลชุมชน) ปี 2549 ใจความว่า
เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนได้มีการผลิตและการใช้ไบโอดีเซลสำหรับเครื่องยนต์การเกษตร อาศัยอำนาจตาม ความในมาตรา 25 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ปี 2543 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา..(ถ่ายเอกสารไม่ชัด) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดย อาศัยอำนาจตามบทบัญญัติของกฏหมายอธิบดีกรมธุรกิจพลังงานออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
1.ประกาศนี้เรียกว่า ประกาศกรมการธุรกิจพลังงานเรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของไบโอดีเซลสำหรับเครื่องยนต์การเกษตร(ไบโอดีเซลชุมชน) พ.ศ. 2549
2.ประกาศนี้ให้ใช้บังคับนับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
3.ในประกาศนี้
เครื่องยนต์การเกษตร หมายความว่า เครื่องยนตร์สูบเดียว 4 จังหวะ สูบนอน ระบายความร้อนด้วยน้ำ(มีเกษตรกรกี่คนใช้เครื่องยนต์แบบนี้)
4.ประกาศนี้มิให้บังคับกับไบโอดีเซลสำหรับเครื่องยนต์การเกษตรไบโอชุมชน ที่จำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายไปนอกราชอาณาจักรโดยการขนส่งทางทะเล(คงจะหมายถึงถ้ามีนายทุนหรือคนมีเงินมากๆ ทำไบโอดีเซลส่งออกไปขายต่างประเทศจะเอาไปใช้เครื่องยนต์อะไรก็ได้)
....มีอีกหลายข้อครับ....
ประกาศไว้ ณ.วันที่ 30 มิย. 2549 ลงชื่อนายพานิช พงศ์พิโรดม อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน

โทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน
ผู้ค้าน้ำมันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายไบโอดีเซลสำหรับเครื่องยนต์การเกษตร(ไบโอดีเซลชุมชุน) โดยยังมิได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน หรือได้รับความเห็นชอบแล้ว แต่ผู้ได้รับความเห็นชอบมิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขกำหนดไว้ต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


..สงสัยที่คุณนีโอว่า ขายไบโอดีเซลจะไม่ผิดกฎหมายได้ยังไง ในเมื่อกฎหมายออกมาแบบนี้แล้ว...

ปัญหาอยู่ที่ว่าพระราชดำรัชในหลวงเราส่งเสริมให้เราได้พึ่งพาตัวเอง แต่เราจะพึ่งพาตัวเองได้ยังไงในเมื่อถูกกีดกันโดยกฎหมายแบบนี้...

ผมขอยื่นถวายฎีกา ประกาศกรมธรกิจพลังงานฉบับที่ขัดต่อพระราชดำรัสการพึ่งพาตัวเองในในหลวงของพวกเราครับ

เพิ่มเติมประกาศกรมธุรกิจพลังงานข้อ 11.ลักษณะและคุณภาพของไบโอดีเซลชุมชน ที่ผู้ค้าน้ำมันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายดังต่อไปนี้ จะไม่เป็นไปตามที่กำหนดในรายละเอียด แนบท้ายประกาศฉบับนี้ก็ได้ แต่ผู้ค้าน้ำมันต้องแจ้งลักษณะและคุณภาพของน้ำมันเฉพาะส่วนที่ไม่เป้นไปตามที่กำหนดในรายละเอียดแนบท้ายเพื่อขอความเห็นชอบและต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมธุรกิจพลังงานก่อน(หมายความว่าเงื่อนไขต่อไปนี้ให้เอาไบโอดีเซลไปใช้ในอะไรก็ได้หรือไม่เกี่ยวข้องกับประกาศฉบับนี้)
1.ไบโอดีเซลเพื่อการส่งออก(นายทุนส่งออกยังไงก็ได้)
2.ไบโอดีเซลเพื่อการนำไปใช้ในโครงการหรือตามนโยบายของรัฐบาล หรืองานวิจัย (หมายถึงเอามาใช้กับรถของหน่วยงานของรัฐได้แต่รถประชาชนผิดกฎหมาย)
3.ไบโอดีเซลที่นำเข้ามาใช้ในโครงการหรือตามนโยบายของรัฐบาลหรืองานวิจัย
4.ไบโอดีเซลที่นำเข้ามาให้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซล
5.ไบโอดีเซลเพื่อจำหน่ายให้กับผู้ค้าน้ำมันซึ่งเป็นผู้ผลิตไบโอดีเซล สำหรับนำไบใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซลชุมชุน(ถ้าขายปตท.ให้ปตท.เอาไปผสมเป็นบี 5)
6.ไบโอดีเซลเพื่อการจำหน่ายให้แก่ผู้ค้าน้ำมันตามวัตถุประสงค์ข้อ 1 (ใช้เครื่องยนต์สูบเดียวแกนนอน)
7.ไบโอดีเซลเพื่อการจำหน่ายให้กับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 (ยี่ห้อต่างๆ เช่น ปตท.,บางจาก ฯลฯ) ตามวัถุประสงค์ข้อ 2(ผลิตหรือจำหน่ายสำหรับเครื่องยนต์การเกษตร ณ.สถานที่กำหนดไว้ในหนังสือรับรอง)

หมายความว่า ..ถึงแม้จะการผลิตไบโอดีเซลเพื่อใช้เอง ซึ่งไม่มีระบุในเงื่อนไข 7 นี้ก็มีความผิดตามประกาศฉบับนี้

ข้อสังเกตุ....
เอกสารแนบท้ายประกาศกรมธุรกิจพลังงานเรื่องกำหนดลักษณะและคุณภาพของไบโอดีเซลสำหรับเครื่องยนต์การเกษตรไบโอดีเซลชุมชน พศ.2549 กำหนดมาตรฐานของน้ำมันไบโอดีเซลไว้เพียง 13 ข้อ
ในขณะที่....
เอกสารแนบท้ายประกาศกรมธุรกิจพลังงานเรื่องกำหนดลักษณะและคุณภาพของไบโอดีเซลสำหรับเครื่องยนต์การเกษตรไบโอดีเซลชุมชน (ฉบับที่ 3) พศ.2548 กำหนดมาตรฐานของน้ำมันไบโอดีเซลไว้ถึง 16 ข้อ และที่สำคัญ ในปี 48 กำหนดมาตรฐานน้ำมันไบโอดีเซลให้ใช้กับไว้ 3 แบบ คือ เครื่องยนต์ดีเซลหมุนเร็วธรรมดา(B100)-สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไป) เครื่องยนต์ดีเซลหมุนเร็ว B5 และเครื่องยนต์ดีเซลหมุนช้า(เครื่องยนต์สูบเดียว) แต่ปี 49 ไม่ได้กำหนดแยกคุณสมบัติแบบนี้ให้ใช้เป็น B5 และเครื่องยนต์สูบเดียวเท่านั้น

มาตราฐานของ ไบโอดีเซลปี 49 กำหนดคุณภาพของน้ำมันไบโอดีเซลไว้ต่ำกว่าปี 48 หลายข้อ มาตรฐานต่ำจะได้ใช้กับเครื่องยนต์สูบเดียวได้เท่านั้น ทั้งๆที่มาตราฐานปี 48 สามารถใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปได้(แต่ไม่เอา) ความแตกต่างของมาตรฐานปี 48 และปี 49 มีดังนี้

1.ปี 48 กำหนดค่าความหนืดที่อุณหภูมิ 40c สำหรับเครื่องยนต์หมุนเร็วทั่วไปและบี 5 ไม่ต่ำกว่า 1.8 และไม่สูงกว่า 4.1 เครื่องยนต์หมุนช้า ไม่สูงกว่า 8.0
ปี 49 กำหนดค่าความหนืดไว้ อย่างเดียวคือ ไม่ต่ำกว่า 1.9 ไม่สูงกว่า 8.0
2.ปี 48 กำหนด % ของน้ำและตะกอนปนไว้ สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลหมุนเร็ว 0.05% หมุนช้า 0.3%
ปี 49 กำหนดไว้ 0.2%
3.ค่าที่สำคัญก็คือค่านี้ครับ...ปี 48 ได้กำหนดค่าเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมัน (หมายถึงคุณภาพน้ำมันไบโอดีเซลที่ได้หลังจากผลิต หรือเปลี่ยนคุณภาพวัตถุดิบจากน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์เป็นน้ำมันไบโอดีเซลไว้ไม่ต่ำกว่า 96.5 %
ปี 49 ไม่ได้กำหนดข้อนี้

ฯลฯ

ตามที่อธิบดีกรมการค้าภายในให้เหตุผลกับนักข่าวออก TV เมื่อ 2 วันมานี้ ว่าถ้าหากไม่ควบคุมให้ใช้กับเครื่องยนต์สูบเดียวเท่านั้น หรือถ้าหากให้ใช้กับเครื่องยนต์ทั่วไป รถจะพังเพราะน้ำมันไบโอดีเซลนี้มีค่าความหนืดผิดกัน...ก็แน่นอนครับ ในเมื่อประกาศปี 48 และปี 49 กำหนดค่านี้ไว้ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ข้อสังเกตุที่สำคัญ ...อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานปี 48 คือ นายวิโรจน์ คลังบุญครอง แต่อธิบดีกรมธรกิจพลังงานปี 49 คือ นายพานิช พงศ์พิโรดม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 874
       ... ส่งภาพถ่าย การขจัดน้ำด้วย RockSolt filter มาให้ดูกัน..เป็นชุดสาธิตให้ดูว่า เกลือก็สามารถขจัดน้ำที่ปนในน้ำมัน Biodiesel ได้ ...

... คุณหนุ่มครับ ช่วยอธิบายด้วยครับว่ามีหลักการทำงานอย่างไรบ้าง เกลือมันไปทำอะไรกะน้ำ จึงสามารถแยกตัวออกมาได้ แล้วเกลือมันไม่ละลายในน้ำมันด้วยหรือครับ..จะมีผลกระทบต่อน้ำมันหรือเปล่า ..พอดีตอนที่ไปดู คนสาธิตเค้าไปทานข้าวเที่ยงกัน ....เลยไม่รู้ว่าจะไปถามใคร ... (ถามประดับความรู้ครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 875
       พี่หนุ่มน่าจะทำเป็นเวบไซด์เลยพี่ กระทู้มันเล็กไปแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 876
       เมื่อวานกรมการค้าภายในแถลงข่าวว่า ผู้ผลิตไบโอดีเชล จะต้องยื่นคำขออนุญาตผลิตภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ ซึ่งมาตรฐานไบโอดีเซลจะต้องผสมสีม่วงเพื่อให้เกิดความแตกต่างกับน้ำมันดีเซล และให้ใช้เฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลสูบเดียวแกนนอนชนิด 4 จังหวะเท่านั้น ถ้าหากตรวจสอบว่าผู้ผลิตไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ได้คุณภาพจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 877
       แพงมากเลยนะครับ 500,000 บาท แล้ว ผลิตได้แค่ 100 ลิตรต่อวัน อย่าซื้อเลย ครับ อ่าน กระทู้แล้ว ทำเองดีกว่า

แต่คงสายไปแล้ว ท่าทาง คงจะซื้อไปแล้ว เป็นแน่แท้
ทำแบบ แห้ง (ไม่ล้างด้วยน้ำ) ก้อ คือ ปล่อยให้ ตกตะกอนไปเอง มันก้อ ไม่สะอาด แล้วมันจะดีกับ เครื่องยนต์ หรือ ครับ นี่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 878
       ถ้าเครื่องไม่มีขั้นตอนการล้างถือว่าแพงจริงๆครับคุณ one เพราะเท่าที่ผมมา(Batch 1ลิตร)ผมว่าขั้นตอนล้างยุ่งยากเอาการเหมือนกัน
พี่หนุ่มครับจากข้อมูลคุณ one และของผมที่ส่งตัวอย่างน้ำมันไปตรวจสอบค่าค่าความร้อน ปรากฏว่า ไบโอดีเซลค่าความร้อน น้อยกว่าดีเซล ประมาณ 10% ดังนั้นถ้าเราต้องการกำลังงานจากเครื่องยนต์ที่เท่ากัน เราต้องใช้เชื้อเพลิงไบโอดีเซล มากกว่าใช่ใหมครับ ไม่ทราบว่าพี่หนุ่ม และสมาชิกในกระทู้นี้ ที่ใช้ใบโอดีเซลเติมใช้งานจริง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อมากขึ้นหรือเปล่าครับเมื่อเทียบกับดีเซล ส่วนของผม ทดลองแล้ว สิ้นเปลือง มากกว่าประมาณ 10%

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 879
       คนติดต่อคงได้ค่าคอมเยอะนะครับคุณ ONE
พอดีผมไม่ได้จบเคมีมา จบแค่ ป 7 โรงเรียนเทศบาล ผมก็คงเถียงสู้เขาไม่ได้ครับ
แต่
สบู่ ก็คือสบู่ กลีเซอรีน ก็คือ กลีเซอรีน ครับ มิได้เกี่ยวข้องกันแต่ประการใด
กรมที่คุณบอกผมก็พอรู้ครับ มันมีอยู่สองกรม ใช่แถว ยศเสหรือเปล่า

คุณ Jack linde ครับ
การใช้งานเรามิใช้ใช้งานที่ทอร์คหรือแรงม้าสูงสุดครับ
ดังนั้นถ้าใช้งานปกติการกินน้ำมันไม่ได้มากกว่าซักเท่าใดครับ
คลึง ๆ เลี้ยง ๆ เข้าไป กินพอ ๆ กัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 880
       คุณหนุ่มกระโทก,คุณแนนน้อยเน,คุณเปิ้ล ชุมพร
ผมต่อท่อ PVC กับถังพลาสคิกโดยใช้ข้อต่อข้อท่อ PVCสองตัว ตัวหนึ่งเป็นเกลียวนอก อีกตัวหนึ่งเป็นเกลียวในประกอบกัน เจาะรูถังพลาสติกให้รูเท่ากับเกลียวสวมพอดี เอาข้อต่อเกลียวนอกสวมเข้าไป แล้วเอาข้อต่อเกลียวในใส่เกลียว อีกด้าน (ตามรูป) ขันเกลียวให้แน่น ถ้ากลัวรั่วใช้ โอ-ริงขนาดรูในเท่ากับเกลียวหนาประมาณ 3-4 มม.เสริมกันรั่ว หรือใช้ซิลิโคนใส ที่ติดตู้ปลา หลอดละ 120 บาททาแทนโอริงก็ได้ แต่แพงกว่าโอ-ริง เพราะใช้นิดเดียว เหลือบานเบอะเลย
จะใช้ซิลิโคนยากับข้อต่อเกลียวนอกอย่างเดียวก็ได้แต่ไม่ค่อยแข็งแรง กรณีที่ต้องการให้ปลายที่ยื่นเข้าไปในถังโผล่ออกมาน้อย ๆ ก็ตัดเกลียวนอกให้สั้นลงเหลือซัก 3-4 เกลียวก็ได้ครับ ถ้าต้องการให้ในถังเรียบเสมอกับผิวถัง ก็คงต้องใช้ลมร้อนเชื่อมเอาละครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 881
       คุณแนนน้อยเนครับ ที่ผมเอาให้ดูคือกลีเชอรรีนที่ผมได้จากการทำไบโอดีเซล คือสงสัยว่าทำไมผมได้เจ้ากลีเชอรรีนเยอะจัง ผมทำครั้งละ 3 ลิตร ได้มีเกือบ 1 ลิตร
เลยส่งตัวอย่างกลีเชอรรีนมาดู พี่หนุ่มเลยแนะนำให้หยดกรดลงไป เพื่อจะดูการแยกชั้นของมันน่ะครับ
ผมใส่เพิ่มไปแล้วอีกสัก 30 CC ตอนนี้ยังไม่แยกชั้น กะว่าจะหยดเพิ่มอีก
น้ำมันผมดำไหมครับ ดำโครตๆ ไม่รู้จะพูดยังไงให้รู้ว่าดำมาก ถ้าไม่สุภาพขออภัยด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 882
       หวัดดีคับพี่หนุ่ม พี่กลับมาจากระนองหรือยังครับ พี่จะทำน้ำมันอีกวันไหนครับ ผมอยากจะไปดู

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 883
       4 ชมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 884
       พี่หนุ่มครับ อย่างนี้พอไหวไหมครับ ไล่น้ได้วยเกลือครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 885
       พี่หนุ่มครับ คำตอบที่ 1135 [คุณนินิตรใส่กรดน้อยไป ตั้งลิตรใส่แค่ 15 CC เท่านั้นเอง ควรจะใส่อย่างน้อยน่าจะ 50 และรูปที่ส่งมาไม่ชัดมองไม่ออกครับ] คืออะไรครับพี่ งง ปกติ 1 ลิตร ต่อ 1 CC ไม่ใช่เหรอครับ
ตอบคุณนิมิตร ก็ใช้ดีครับ เหมือน ๆกัน ไม่เห็นแตกต่างอะไรครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 886
       จากการแถลง ของกรมการค้าภายใน อย่างนั้น ต้องจะต้องยื่นคำขออนุญาต แล้ว สิครับ นี่

ทำ 1 ลิตร ก็ ต้องขอ ขมา เอ้ย ขออนุญาติ เหรอ บ้า ป่าว

อย่างนั้น คนจนๆ ที่คิดจะทำใช้ เอง ก็ ติดคุก กันทั่ว ประเทศ น่ะ สิ ไม่รู้ว่า พวก นี้เอาสมองส่วนไหนมาคิด ออกกฎระเบียบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 887
       พ่อมันสั่งมาให้ออกกฏหมายเอาเปรียบคนจน มันจะขายฝ่ายเดียวบอกแล้วอย่าให้มันแปรรูป ปตท.ใครคิดใครอ่านไม่ได้ พอมันรู้ว่าอันไหนได้เงิน คัดผลประโยชน์มันก็ออก กติกาแล้วให้เล่นตาม มันจะเอาไปถึงไหน ตอนนี้ก็ให้นักวิชาการออกมาพูดว่า LPG ไม่ดีมีอัตราย แล้วมันอณุญาติให้ TAXI ติดมาเป็นสิบปีไม่เป็นไร พอมี NGV มันบอกว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อจะให้คนหันมาใช่ของมัน ก็มันสั่งอุปกรณ์มาตุนไว้เพียบ มันเตรียมการไว้หมดแล้ว
พอเราคนทำ-มะ-ดาจะผลิตอะไรใช่เองก็ออกมาห้าม อีกหน่อยมันก็ห้ามปลูกข้าวให้ซื้อกิน(ก็มันโกงไว้เพียบ) อะไรก็จะให้ซื้อของมัน ใช่ของพวกมัน
เบื้อ..........

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 888
       พี่หนุ่มหมายถึงเอาน้ำมันพืช ใหม่ทีขายลิตรละ27-30 บาทมาใส่เพพียวเลยหรือครับ หรือผสม 50-50 และใส่เพียวต้องมีตัวทำความร้อนหรือเปล่าครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 889
       ตามใจท่านครับจะ 50:50 หรือ 100
ตอนเช้าเผาหัวซักสองที
ถ้าอากาศไม่หนาวไม่มีปัญหา อากาศหนาวก็ผสมซะ
ลิตรนึง 20 กว่าบาทครับ
ตัวทำความร้อนอยากทำก็เชิญครับ

ไปหาช่างเพราะผมให้ทำ Mixer ให้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 890
       หวัดดีพี่หนุ่มและทุกท่านนะครับ
ผมมีเรื่องอยากถามพี่หนุ่มหน่อยครับ
คือว่าผมก็เป็นคนหนึ่งที่ทำไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชที่ทอดแล้วนะครับก็ราบรื่นดีครับ แต่ว่าตอนนี้มีปัญหามากเลยครับ จนปัญญาไม่สามารถทำต่อได้ครับ
ปัญหามีอยู่ว่า ตอนนี้ผมไปได้น้ำมันหมูที่เจียวออกมาจากมันหมูที่โรงงานเขาชำแหละหมูสัปดาหนึ่งก็ได้เป็น100ปี๊บอ่ะครับ ผมลองเอามาทำดูตามตำราเขาบอกว่าไขมันจากสัตว์ก็ทำได้ใช่ไหมครับ ผมลองทำดูตามสูตร น้ำมันพืช ปรากฏว่าครั้งแรก ใช้ด่าง 3.5 กรัม ผสมกันเป็นวุ้นเลยครับแล้วก็ซํกพักแข็งเป็นไขเลย ครั้งที่สองลดด่างลงมา เป็น2 กรัม ก็ยังเป็นวุ้นครับแต่ไม่แข็งเป็นไขนะครับ ครั้งที่สามเลยลดลงมาแค่ 1กรัม ผสมลงไปแล้ว เหมือนจะเข้าท่า แต่ปรากฏว่าทิ้งไว้ 1 คืน เช้ามาไม่มีกลีเซอรีนแยกออกมา น้ำมันก็ยังใสแต่เป็นไขบ้างเล็กน้อยอยู่ที่ก้นบีกเกอร์ 2 ลิตร ผมลองทำทีละลิตรน่ะครับ ก็ใช่ไม่ได้อีก เมือวานลองผสมกับน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว 500 ต่อ 500 ซ๊ซ๊ เมื่อเช้า ก็ม่ะมีกลีเซฮรีนแยกออกมาอีก มีไขมันจับอยู่ที่ก้นบ้างเล็กน้อย ตอนนี้ม่ะรู้จะทำไงเลยครับ ?ไม่รู้ว่าปัญหามันเกิดที่ตรงไหนครับ? แล้ววิธีทำไบโอดีเซลจากน้ำมันสัตว์ใหม่ๆที่ยังไม่ได้นำไปใชใครพอจะทราบบ้างครับ? ควรจะทดลองยังไงต่อ?
ถ้าพี่หนุ่มหรือท่านที่รู้ทราบ ผมขอรบกวนหน่อยนะครับ
ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 891
       สงสัยจะบ้า มาขายของในห้องที่เค้าทำใช้เองได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 892
       การตรวจสอบคุณภาพน้ำมัน
อุปกรณ์
ตาชั่งความละเอียด 2 ตำแหน่ง ( 0.00 )
ขวดวัดความหนาแน่น หรือ Hydrometer
ขวดรูปชมพู่ (Flask)
บีกเกอร์
ปิเปต
บิวเร็ตขนาด 50 มิลลิลิตร
อุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สารเคมี
โซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ: Sodium Hydroxide : NaOH )
น้ำกลั่น
เมธิลแอลกอฮอล์
ไอโซโพรพานอล
ฟีนอล์ฟทาลีนอินดิเตอร์ ( Phenolphthalein Indicator )

การหาค่าความเป็นกรดไขมันอิสระของน้ำมัน
รีเอเจนต์
1. สารละลายมาตรฐานโซเดียมไฮดรอกไซด์ ความเข้มข้น 0.025 โมลาร์ (Molarity)
เตรียมได้โดยละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ: Sodium Hydroxide : NaOH ) ในน้ำกลั่น

ปริมาณโซเดียมไฮดรอกไซด์ 1.00 กรัม ต่อปริมาตรน้ำกลั่น 1 000 มิลลิลิตร

2. ฟีนอล์ฟทาลีนอินดิเตอร์
เตรียมได้โดยใช้ฟีนอล์ฟทาลีนอินดิเตอร์ 5.00 กรัม ละลายในไอโซโพรพานอล หรือเมธิลแอลกอฮอล์ ปริมาตร 1,000 มิลลิลิตร ควรเก็บรักษาสารละลายใช้ฟีนอล์ฟทาลีนอินดิเตอร์ ในขวดสีชา และอายุการใช้งานภายหลังการเตรียมไม่ควรเกิน 1 ปี

การตรวจสอบค่ากรดไขมันอิสระของน้ำมัน
วิธีทำ
1. ตวงน้ำมันด้วยปิเปต ใส่ในขวดรูปชมพู่ ( Flask ) ปริมาตร 1.00 มิลลิลิตร
2. ผสมไอโซโพรพานอลปริมาตรเล็กน้อย เพื่อทำละลายน้ำมัน
3. ผสมฟีนอล์ฟทาลีนอินดิเตอร์ ลงไปในสารละลายประมาณ 1 – 2 หยด(ขึ้นอยู่กับสีของน้ำมันที่นำมาทดสอบ
4. นำสารละลายไปไตเตรทกับสารละลายมาตรฐานโซเดียมไฮดรอกไซด์ เมื่อถึงจุดยุติสารละลายจะเปลี่ยนจากใสไม่มีสี เป็นสีชมพู - สีม่วง บันทึกปริมาณสารละลายมาตรฐานโซเดียมไฮดรอกไซด์ที่ใช้ เพื่อนำไปคำนวณต่อไป
5. ควรตรวจสอบ 2 ตัวอย่าง เพื่อให้ได้ค่าที่เหมาะสม

การคำนวณ
สมมุติ ให้ปริมาตรของสารละลายมาตรฐานโซเดียมไฮดรอกไซด์ที่ใช้ไตเตรท = V มิลลิลิตร
จะได้
ปริมาณโซเดียมไฮดรอกไซด์ ที่ใช้เพื่อทำให้น้ำมันเป็นกลาง = V กรัม
และ ต้องผสมโซเดียมไฮดรอกไซด์ เพื่อเร่งปฏิกิริยา
( ตามทฤษฎี ) อีก = 3.50 กรัม
ดังนั้นจะต้องใช้โซเดียมไฮดรอกไซด์ทั้งหมดต่อน้ำมันปริมาณ 1.00 ลิตร = V + 3.50 กรัม

ถ้าใช้โปตัสเซียมไฮดรอกไซด์ ปฏิบัติเช่นเดียวกัน
เมื่อได้ค่า Vแล้ว + 5.00 เท่ากับ จำนวนกรัมต่อลิตรของโปตัสเซียมไฮดรอกไซด์ ต่อน้ำมัน 1.00 ลิตร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 893
       รับทำนำมันไบโอดีเซลครับ B100 ลิตรล่ะ 20 บาทครับ
ต่อรองกันได้เรื่องค่าขนส่งครับ ผลผลิตต่อสัปดาห์มากกว่า 1000 ลิตรครับ 085-8305097

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 894
       สวัสดีครับพี่ๆ ผมได้มีโอกาสเข้ามาในเวปนี้ครั้งแรก อยากถามเรื่อง การคำนวนขนาดของมอเตอร์ที่ใช้กวน เรามีสูตรคำนวนโดยเริ่มต้นจากอะไรครับ (ผมกำลังสร้างเครื่องผลิตไบโอดีเซลแบบต่อเนื่องนะครับ
ติดต่อที่ www.kookkook_21@hotmail.com
025646500 # 4215 # 4249
ขอบพระคุณอย่างมากๆๆครับ เลิศชัย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 895
       คุณเปิ้ล ชุมพรครับ
1 ผมแท็ปเกลียวท่อครับ หรือที่เรียกกันว่า ต๊าฟเกลียวนั่นแหละ แล้วใช้เทปล่อนพัน แค่นั้นจริง ๆ
2 ผมคาดว่าอุณหภูมิไม่ใช่ 60 องศาครับ เกินแน่นอน ไม่ทราบว่าใช้อะไรวัดครับ มีการ Calibrate หรือเปล่า ??
ความดันน้อย ๆ อาจจเป็นไปได้ เพราะว่าถัง 200 ลิตรมันบางมาก ที่ผมใส่น้ำมันอยู่มันก็ยุบเข้ายุบออก
ลองใส่ Pressure Guage วัดดูนะครับ ถ้าอุณหภูมิเป็นอย่างที่คุณว่าจริง แรงดันไม่มากหรอกครับ
3 ผมคาดว่าน้ำมันของคุณมีความหนืดมากครับ ไม่ทราบว่าใช้อะไรเป็นวัตถุดิบ และกระบวนการเป็นอย่างไร
หากว่ากระบวนการถูกต้อง ลองใส่น้ำมันดีเซลลงไปซัก 10% อาการน่าจะดีขึ้น
ช่วยบอกว่าเป็นรถอะไรเครื่องยนต์อะไร ผมจะได้มั่วตอบได้อย่างมีทิศทางซักหน่อย
สาเหตุโดยหลักคือ น้ำมันมีความหนืดสูง เนื่องด้วยอาจจะอุณหภูมิต่ำ หรือ ประเภทของน้ำมัน
ทำให้หัวฉีดไม่สามารถฉีดได้เป็นฝอยละเอียด รอบจึงตก พอปั้มมันเริ่มร้อนจากการทำงาน
ความหนืดของน้ำมันจะลดลงไป ปั้มจะฉีดน้ำมันได้เป็นฝอยละเอียดแบบเดิม ทำให้รอบเครื่องกลับมาคงเดิม
วิธีแก้ไขแบบง่าย ๆ คือ เหยียบคันเร่งช่วย หรือ เติมดีซลผสมลงไปด้วย

จากอาการผมคาดว่ารถคุณน่าจะเป็นเครื่อง Direct injection เพราะว่า มันต้องการน้ำมันที่ความหนืดไม่มาก
ถ้ามีความหนืดมันจะฉีดไม่เป็นฝอย รูหัวฉีดมันกระจายออกตามด้านข้างครับ


ถ้าไม่ได้ถามผมโดยตรง ผมคงจะไม่ตอบนะครับ เพราะว่า โดนด่ามาหาว่าอวด เลยคิดว่า ต่อไป ไม่หาเหาใส่หัวดีกว่า
อยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไร ไม่โดนด่า ทำมากยิ่งโดนด่ามาก หาว่าอวดรู้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 896
       คุณแนนน้อยครับ ขอถามเรื่องแรคซอลท์น่ะครับ
ของคุณนี่ให้น้ำตกตรงท่อที่มีสายไฟใช่ไหมครับ น้ำมันก็จะล้นไปไหลออกทางปลายท่อ
แล้วระบบปิดนี่คือยังไงครับ
แล้วก็สายไฟตรงท่อคืออะไรครับ
แล้วอัตราการไหลเป็นยังไครับ
รบกวนแค่นี้น่ะครับ
ไม่รู้ว่าผมคิดแบบเดียวกับคุณไหม แต่จะต่างตรงที่สายไฟไม่รู้ของคุณแนนน้อยมีไว้ทำไร
เอาทีละข้อแล้วกันนะครับ
1. ให้น้ำตกลงตรงท่อที่มีสายไฟและน้ำมันไหลออกไปทางปลายท่อถูกต้องครับ
2. ท่อที่มีสายไฟคือท่อที่ต่อเซนเซอร์ตรวจสอบว่ามีน้ำหรือน้ำมันครับถ้ามีน้ำก็จะฟ้องว่ามีน้ำ ถ้ามีน้ำมันก็จะไม่ฟ้องครับ(เอาไว้เดรนน้ำทิ้งครับ)
3. ระบบปิดคือเราควบคุมการไหลของน้ำมันด้วยวาล์วน้ำมันไหลออกเท่านั้นครับ อธิบายได้ว่าเมื่อเรานำน้ำมันเข้าไปที่ถังพักน้ำมันเพื่อกรองก็ต่อเข้ากับแรคซอลท์ และเมื่อเราเปิดวาล์วน้ำมันไหลออก น้ำมันก็จะเริ่มไหลออกจากถังพักน้ำมันโดยที่อัตราการไหลขึ้นอยู่กับอัตราการเปิดวาล์วน้ำมันไหลออกนั่นเองครับ ไม่ต้องมารอกรอกน้ำมัน และคอยดูครับ
4. อัตราการกรองน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 30 - 50 ลิตรต่อวันต่อ 1 ท่อครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 897
       คุณหนุ่มเคยบอกว่านน้ำมันพืชเก่าไม่ควรใช้กับรถยนต์ล้วนๆเหมือนกับน้ำมันพืชใหม่ เพราะความเป็นกรด และมีสิ่งสกปรกต่างเจอปนอยู่ เจ้ากรดตัวนี้คือกรดอะไรครับคุณหนุ่ม มันจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายอย่างไรบ้าง แล้วหากเมื่อนำมาทำเป็นไบโอดีเซลแล้ว ไบโอดีเซลจะด่างผสมอยู่แล้วเจ้าด่างนี้จะมีผลยังไงกับเครื่องยนต์ หากไม่ล้างเอาเฉพาะผลของ กรด และ ด่าง ที่จะมีผลต่อเครื่องยนต์ ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 898
       วัตถุดิบน้ำมันพืชใช้แล้ว จะขาดแคลนในอนาคตอันใกล้นี้....โปรดเตรียมพร้อมรับมือด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 899
       คุณ one, wan_eng@hotmail.com ครับ
ขอตอบแบบประมาณการนะครับ เพราะว่าไม่รู้เวลา
1 เป็นไปได้ครับ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ผมไม่รู้ว่าใช้เวลาในการพักน้ำนานเท่าใด
แต่เท่าที่ดูมันเป็นน้ำปนน้ำมัน ปนสบู่
2 แบบฟองอากาศเป็นวิธีการที่ประหยัดน้ำที่สุดแต่ต้องใช้เวลา แต่ผมใช้น้ำ 50% มิใช้ 35%
การกวนให้น้ำเข้ากับน้ำมันก็ได้ผล แต่ต้องมีการออกแบบใบกวน และ ถังกวน และรอบการหมุน
ให้ถูกต้องอย่างน้อยก็ให้ใกล้เคียง ซักหน่อยก็น่าจะดี ใบกวนที่ไปซื้อที่เวิ้งนาครเกษมใช้ไม่ได้ครับ
ที่ทำกันทั่ว ๆ ไป ผมเห็นมาก็เรียกได้ว่ามั่วทั้งนั้น แม้แต่ผมเองแต่ว่าผมอาจจมั่วได้ใกล้เคียงหน่อย
เนื่องจากมีโคชดี
3 ตอบมิได้ครับขึ้นอยู่กับความสกปรกของน้ำมัน ถ้าทิ้งให้ตกตะกอนหลังจากทำปฏิกิริยานาน ๆ มาก
การแยกก็จะเร็ว แต่ถ้าทิ้งไม่นาน การแยกก็จะช้า แต่น้ำหลัง ๆ ก็จะใช้เวลาในการแยกเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
4 ไม่มีผลเลยครับ ใครที่บอกว่ามีผล ผมบอกได้เลยว่า " มันอ่อนเอง" ฝีมือไม่ถึงแล้วโทษนั่นโทษนี่
5 คุณสะกดผิดครับ ผมว่ามันน่าจะเป็นตัวที่ใช้ในการไตรเตรทมากกว่า
6 ผมว่ามันโม้ครับ กลีเซอรีนเต็มไปหมด กับ อิออนของด่างเต็มไปหมด เอาค่ามาแสดงให้คนดูว่ามันน่ากลัวเท่านั้นเอง
ไม่ต้องไปสนใจ ถ้าไม่ล้างก็จบในตัวเองแล้วว่าเฮงซวย
ถ้าเป็นเครื่องเดียวกับที่ผมเคยลงให้ดู เซลล์มันก็โม้ลิงหลับไปเรื่อย คนไม่รู้ก็คิดว่าดี ผมเคยซักไปมาก ๆ ในที่สุด
ก็ยอมรับว่าสำหนับเครื่องอีแต๋นครับ

คุณลองคำนวณดูง่าย ๆ ว่า เมื่อไหรคุณถึงจะได้เงิน ห้าแสนคืนมาจากการทำน้ำมัน ถ้าฟังแมงโม้ก็อาจจปีนึง
ผมว่าสีปียังไม่ได้เลย

ของเขาเกิดสบู่เขาคุยว่าน้ำมันอะไรเขาก็ทำได้ครับไม่ได้มีการเตรียมน้ำมันมาก่อน ดังนั้นปฏิกิริยาเขาไม่สมบูรณ์
มีไขมันเหลือแน่นอน ถ้าไม่โดนน้ำไม่เป็นไร พอโดนน้ำแล้วมันก็ฟ้องตัวมันเองครับ ว่าเฮงซวยแค่ไหน

การทำดีหรือไม่ดี ไม่ได้ขึ้นกับราคาเครื่องมือครับ ขึ้นกับฝีมือและความเข้าใจ เครื่องมือเป็นเพียงเครื่องอำนวยความสะดวกเท่านั้นครับ
ถ้าจะให้ฟันธง อย่าไปซื้อครับ เอามาให้ผมซักแสนดีกว่า 5555 เดี๋ยวบอกยอดเคล็ดวิชาให้

คุณทองมาครับ
กรดคืออะไร ??
ด่างคืออะไร ??

ไปลองค้นหาดูนะครับ

เอาโซดาไฟ ไปละลายน้ำแล้ว ลองตัดกระป๋องอลูมิเนียมใส่ลงไป แล้วคุณจะรู้เอง ถ้า ยังสงสัย ถามมาใหม่
เอากรดละลายน้ำ ลองตัดกระป๋องอลูมิเนียมใส่ลงไป แล้วคุณจะรู้เอง ถ้า ยังสงสัย ถามมาใหม่


คุณกิตติ กฎหมายออกมาให้ผู้จำหน่ายรายใหญ่ขายได้เท่านั้น แล้วจะเป็นพลังงานทางเลือกได้อย่างไร
มิได้ครับ มีมาใหม่แล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 900
       ขอบคุณนะคะคุณหนุ่ม + ทุกคน ที่ช่วยแนะนำ ความจริงไม่อยากจะบอกเลยว่า เครื่อง บ. นี้เค้าขายให้กรม (ไม่บอกแล้วกันนะว่ากรมอะไร) ได้หลายเครื่องเหมือนกัน (เป็นสิบๆ เครื่องขึ้นไป) แล้วทางกรมก็เอาไปติดให้ชาวบ้าน โดยให้เซลล์เป็นคนไปแนะนำ+สอนการใช้เครื่อง (มันเลยเชียร์ของมันใหญ่ไงคะ) แต่พอซักไปซักมาก็อย่างที่คุณหนุ่มบอก เค้าก็บ่ายเบี่ยงว่าจริงๆแล้วแบบของเค้า(แบบแห้ง) ไม่เหมาะกับการใช้กับรถยนต์ ถ้าจะใช้ให้ล้างน้ำก่อน เค้าเลยสาธิตการล้างน้ำให้ดู สรุปก็เลยกลายเป็นสบู่อย่างที่เห็น แล้วสุดท้ายก็บอกว่าตัวเองไม่ถนัดเรื่องล้างน้ำ

แต่ลองเราลองถามเซลล์ดูนะคะว่าทำไมฉีดน้ำแรงถึงเป็นสบู่ เค้าบอกว่าน้ำที่ฉีดไปกระทบกับน้ำมัน แล้วเกิดสบู่ เม็ดสบู่ก็จะไปหุ้มน้ำมันตัวอื่นทำให้น้ำมันกลายเป็นสบู่เกือบหมด เหมือนกับเวลาล้างจานที่ฟองของน้ำยาล้างจานไปจับกับไขมันติดจานออกน่ะค่ะ (อาจจะอธิบายเหมือนเค้าไม่หมดนะคะ แต่เท่าที่จำได้ก็ประมาณนี้แหล่ะค่ะ) สรุปแล้วมันเป็นอย่างที่เค้าบอกหรือป่าวคะ เพราะเค้าบอกว่าเค้าจบเคมีมา เราก็ไม่อยากเถียงมากเดี๋ยวหาว่าเราเรื่องมาก แต่เท่าที่ถามผู้รู้หลายๆคน เค้าบอกว่าเกิดจากกลีเซอรีนที่ตกตะกอนไม่หมดทำให้เกิดสบู่ อ้อลืมบอกค่ะ เค้าใช้เวลาผลิตมีดังนี้ค่ะ
1. preheat ไล่น้ำที่ 110 องศา 1 ชม. (นับจากเริ่มเปิด heater ไป 1 ชม.)
2. เวลา cool down ประมาณ 3-4 ชม. (ให้ถึง 60 องศา)
3. ทำปฏิกิริยา 1 ชม.
4. แยกชั้น กลีเซอรีน กับ น้ำมัน 1/2 ชม.
5. ล้างน้ำ (ทำ bubble) 1/2 ชม.
6. ทิ้งให้น้ำแยกชั้นกับน้ำมัน 1/2 ชม.
7. ล้างน้ำอีก หากน้ำที่ออกมายังไม่เป็นกลาง
ถ้าเป็นแบบแห้ง ถึงขั้นตอนที่ 4 ก็แยกน้ำมันไปตกตะกอนอีก 15 ชม. ก็ใช้ได้

ลองวิจารณ์ช่วยหน่อยนะคะว่า ขั้นตอน+เวลาที่เค้าใช้เป็นยังไง เพราะเค้ายืนยันว่าเค้าเคยทำได้ผลดีมาแล้วในแลป

ปล.ไม่ได้อยากโจมตีบริษัทผู้ผลิตนะคะ แต่ไม่ชอบใจที่เค้าไปหลอกคนที่ไม่รู้(รวมทั้งเราด้วย) เป็นพ่อค้าหน้าเลือดเกินไปน่ะค่ะ และที่สำคัญไม่อยากร่วมงานกะเค้าน่ะค่ะ เพราะผู้ที่ต้องรับผิดชอบหากผลผลิตเค้าไม่ได้เรื่องคือเรา

ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย