คำตอบที่ 91
       -รูปแนบคต.นี้......วิ๊นซ์จีน 3000 ปอนด์ หลายปีก่อนผมต้องขับรถตามไปซื้อกรุงเทพฯ ราคา 8000บ. ไปตามซอยอีกต่างหากกว่าจะหาเจอ ปีปัจจุบันมีขายในห้างใหญ่หลายจังหวัดหรือใกล้บ้าน ราคา 5000บ.

-มีคนเคยบอกผมว่าสินค้าที่เข้ามาในไทยมาจากแหล่งเดียวกัน แล้วจึงกระจายย่อยไปตามค้าปลีกอีกทอด กำไรมหาศาลอยู่ทอดไหน ไม่อยากรู้แล้ว เพียงแต่ต้องจำทำนองเพลงแบบนี้ไว้ให้ดี เท่านั้นเองครับ....

 แก้ไขเมื่อ : 23/9/2562 11:11:48

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 92
      
-รูปนี้เป็นรูปตอนปัจจุบัน รถใช้น้อย ยางจึงยังดอกเยอะอยู่ครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 93
      
-รูปแนบคต.นี้ ศรสีแดงชี้แผ่นเหล็กเตาะขึ้นรูปเพื่อปิดช่องโหว่ระหว่าง..เครื่องYD25TI/อะแดปเตอร์เหล็ก/เกียร์106...ดูยากหน่อย แผ่นปิดนี้อู่สี/ช่างเคาะเป็นผู้ทำให้..เป็นการแก้ปัญหาครับ..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 94
       -คานรับเกียร์..ศรแดงชี้คือมีเว้าหลบ 1 แห่ง../ ศรสีเขียวชี้เพลากลางหน้าไม่ชันผลจากคุมความสูงรถ(โตงเตงไว้หน้า) เพราะคานหน้าไม่หนุนให้แหงน/ไม่กรีดคอปรับ รถคันนี้เลี้ยวได้ผลดีวงเลี้ยวกว้างกว่าตอนเป็นขับสองไม่มาก และล้อไม่ล้มหรือเอียงตอนเลี้ยวครับ..

 แก้ไขเมื่อ : 23/9/2562 18:31:42

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 95
      
-แหนบหลังหนุนนิดเดียว ส่วนแหนบใส่แอดตรงกลาง ไม่กระด้างมาก และหน้ากับหลังพอกันครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 96
      
-คานรับยอยเพลากลาง มาแก้ไขเพิ่มอีกอู่หนึ่งครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 97
      
-ตัวนี้ก็แก้ไขด้วยครับ(ให้ดูดี/ประณีตขึ้น)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 98
      
-ศรสีแดงชี้เหล็กกันโคลงเป็นของในชุดคานSD33เอง ไม่ได้ดัดแปลงใส่เองครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 99
       -ช็อคอัพหลัง L ถูกย้ายมาตำแหน่งนี้เพื่อให้เหมือนดีแมก แต่เกิดผลเสียคือท่อไอเสียเดินยากมากลดขนาดท่อลงก็ยังต้องแก้ถึง 2 ครั้งได้แค่พอใช้ได้ ดังนั้นงานส่วนนี้ถือว่าไม่คุ้มทำ เพราะล้ออะไหล่ 35 นิ้ว สำคัญกว่าครับ...

 แก้ไขเมื่อ : 23/9/2562 16:35:00

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 100
      
-บังโคลนล้อหน้าก็ทำเหมือนล้อหลังคือตัดต่อเปลี่ยนส่วนล่างให้ใหญ่ขึ้นโดยโครงบนใช้ของเดิมติดรถครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 101
       -ชุดท่อจ่ายลม...ศรสีเขียว-ตัวดักน้ำ....ศรสีแดง-วาวล์ปิด/เปิดลม....ศรสีฟ้า โปโลปล่อยแรงดันลมทิ้ง ติดตั้งอยู่ใต้ห้องโดยสาร/กระบะ ใกล้แหนบหลัง มองเห็นถังลมอลูมิเนียมด้วยครับ...

 แก้ไขเมื่อ : 23/9/2562 18:16:59

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 102
      
-ดูอีกครั้ง...ชอบไอเดียรูปล่างครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 103
      
-ศรสีแดงชี้ถังลมอลูมิเนียมทรงหมอนข้างความจุราวๆ 20 ลิตร ติตข้างแชสซีหลักตรงข้ามกับถังน้ำมัน...

-ศรสีเขียวชี้ปั๊มลม เดิมคือ 7ครีบ แต่ในรูปนี้เปลี่ยน 7 ครีบออกไปแล้วเป็นแบบไม่มีครีบ เป็นชุดเล็กกว่า แต่ผมเทียบขนาดมอเตอร์ใกล้เคียง-เท่ากัน(จำไม่ได้แล้ว)จึงอยากลองเปลี่ยน เพราะชุดเล็กกว่าคือไม่มีวาวล์ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้อีก 1 พวงติดอยู่ในชุด 7 ครีบ(ซึ่งก็ต้องตัดแบ่งออกมา) ชุดนี้มีวาวล์ระบายแรงดันลมไฟฟ้าเหมือนตัว 7 ครีบ สรุปว่า OK.ใช้แทนได้และเปลืองเนื้อที่น้อยลง/และจุดยึดห้อยก็สะดวกกว่าครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 104
      
-รูปท้ายเกียร์โตโยต้ามองด้านหลังคงพอมองออกว่าเพลาหน้าเยื้องต่ำลงมากว่าเพลากลางหลังมาก เอื้อต่อรถสูงทำให้เพลากลางชันน้อยกว่าเกียร์อื่นมีผลดีกว่าบ้างครับ..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 105
      
-สรสีเขียวชี้สปอตไล้ท์ส่องใต้ท้องรถ ทำงานพร้อมไฟถอย หรือตัดการทำงานก็ได้ครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 106
       -จากรถกระบะมีแค็ป 2WD เป็น 4WD

-จากรถขี้เหร่ เป็น รถที่ดูดี ..(ขออภัยรถคันเดิมๆคันอื่นด้วย แต่ผมมองเป็นอย่างนั้นจริงตั้งแต่แรก)

-จากรถที่พยายามขับเร็วตามเกาะรถแรงคันอื่น เป็น รถที่ขับตามความเร็วไม่เกิน 100กม./ชม.(ปรับนิสัยตามสภาพรถ)

-ได้รู้จริงและเข้าใจอีกหลายอย่าง ซึ่งได้มาอย่างเหนื่อยและเมื่อยมาก(DIY)...

-หมดเรื่องปั้นสร้างรถกระบะ4WDแบบคานแข็งแล้ว...ขอขอบคุณทุกท่านที่สนใจเรื่องราวตั้งแต่กระทู้เดิมด้วยครับ...



 แก้ไขเมื่อ : 28/9/2562 12:31:43

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 107
      
-รูปงาน DIY สายไฟให้สวิทซ์สั่งงานซึ่งเพิ่มไว้คอนโซลกลาง คือปั๊มลม และไฟสปอตไล้ท์ส่องหลัง+พื้นพร้อมไฟถอย สิ่งที่ต้องการบอกคืองานสายไฟมีแจ็คทองเหลือง+ซ็อคเก็ต และบัดกรีจุดย้ำสายไฟกับแจ็คกันหลุดตอนดึง เนื่องจากความไม่ค่อยพอดีของชิ้นส่วนทำในป. ซึ่งไม่ดีเท่าของโรงงานรถยนต์ และไม่เสถียรในแต่ละคราวที่ซื้อด้วย..และไม่รู้จะหาที่มีให้เลือกของดีได้ที่ไหน แต่มีอย่างหนึ่งซึ่งสำคัญและหาอย่างดีใช้ได้ คือเทปพันสายไฟ ซึ่งก็ต้องใช้ในบางจุด เวลาแก้ไขงานหรือเปลี่ยนออฟชั่นใหม่ ต้องรื้อสายไฟเก่าออกก่อน จะทราบความสำคัญของเทปพันสายไฟอย่างดีครับ....

-ปัจจุบัน เทปพันสายไฟอย่างดี(ที่ผมใช้ใส่ตลับพลาสติค แกนกระดาษสีเหลืองราคาม้วนละร้อยกว่าบาท),ท่อหุ้มสายไฟตามในรูป(คุณภาพไม่สเถียรแต่จำเป็นต้องซื้อใช้)แจ็คทองเหลือง(บางลงเรื่อยๆ)+ซ็อคเก็ต(พลาสติคเกรดต่ำลงเรื่อยๆเช่นกัน),เข็มขัดรัดสายสีดำ....ทั้งหมดหาซื้อได้ครบและง่ายกว่าก่อนมาก แต่มีเทปพันสายไฟอย่างดีอย่างเดียวที่เสถียร เพราะมีแบรนด์เนมใหญ่ครับ...

-ถ้าชอบรถมีออฟชั่นหรือของแต่งเติม มีทางเลือกที่มั่นคง(กว่า)อยู่ 2 ทางคือ 1.DIY ด้วยตัวเอง.....หรือ 2. ซื้อรถที่มีออฟชั่นมาจากโรงงาน(เช่นDIYไม่เป็น) ...อย่าพยายามหวังกับร้านประดับยนต์หรือร้านไดนาโม ให้เติมในสิ่งที่อยากได้ เหตุผลยาว จึงขอให้เป็นความเห็นเท่านั้นครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 108
      
-ปั๊มลมที่ผมติดตั้งใน YD DI เป็นอะไหล่มือสองของเซียงกง นำมาดัดแปลงใช้แบบพื้นฐานหรือหมายถึงไม่มีกล่องคุมการทำงานของปั๊ม ทำให้ระบบไม่สมบูรณ์แบบ คือเปิดระบบหรือ on แล้วเมื่อปั๊มทำงานจนลมเต็มถัง จะตัดการทำงานเอง/วาวล์คายแรงดันลมท่อส่งเอง...ต้องมาปิดสวิทซ์ OFF เองไม่มีระบบอัตโนมัติอีก...

-เงื่อนไขอีกอย่างคือ เก็บลมไว้ใช้ได้ไม่เกิน 120 ปอนด์ ถัง 20 ลิตร ซึ่งอาจไม่พอใช้สำหรับล้อ 35นิ้วx4ล้อ เพราะท่อลม PE ทนแรงดันได้ไม่เกินนั้น แม้ว่าถังอาจเก็บลมได้เกิน 500 ปอนด์ก็ตามครับ....

-แต่ออฟชั่นในไทยไม่ใช่ความจำเป็นใช้อยู่เสมอไป ดังนั้นก็เดินหน้าต่อครับ...

-รูปแนบคต.นี้ คือผังระบบปั๊มลมในรถ YD DI คันของผม ...เมื่อเปิดสวิทซ์ ON หากในถังเก็บลมมีแรงดันต่ำ S.pressure(pressure switch)จะเปิดให้ไฟ+จากสวิทซ์ ON ผ่านไปที่รีเลย์ 2 หน้า(RR) ....RR เมื่อครบวงจรก็จะสลับขั้วจากที่standbyที่ 1 เป็น 2 ไฟบวกจะส่งต่อไปให้รีเลย์ R ให้จ่ายไฟให้ปั๊มลม เมื่อลมเข้าถังจนแรงดันถึงราวๆ110ปอนด์ pressure switch ก็จะปิดทางเดินไฟ+....RR เมื่อถูกตัดไฟ+ ก็จะกลับไปstandby ที่ 1 ไฟ+ ก็จะถูกส่งไปให้ vale คายแรงดันท่อส่งลมให้เปิด แล้วหมดหน้าที่ตรงนี้ โดยไฟบวกยังแช่อยู่ที่ vale จึงต้องปิดสวิทซ์ off เอง ถ้าไม่ปิด วาวล์ไฟฟ้าจะร้อนมาก อาจเกิดความเสียหายได้....

-ในรถผมมีตัวดักน้ำในระบบลมด้วย ได้ถามร้านขาย เขาแนะนำให้ติดตอนปลายของระบบหรือก่อนออกหัวจ่ายลม...แต่ผมติดตั้งไว้ก่อนเข้าถังลมแทน...เนื่องจากดักน้ำมีจุกปล่อยน้ำทิ้งที่ก้น เป็นปุ่มให้ดึงปล่อยน้ำ(เหมือนดึงปล่อยลมที่โปโล) เวลามีแรงดันลมจุกจะปิดตัวเอง(ตอนปั๊มลมทำงาน) พอลมเต็มแล้ววาวล์ไฟฟ้าปล่อยแรงดัน จุกของตัวดักน้ำจะเปิดเองด้วยแรงสปริงอ่อนของเขาเอง หรือปล่อยน้ำทิ้งเองตอนหยุดปั๊ม...ถูกผิดไม่รู้ๆแต่เหมาะกับงานของผมจึงต่อไว้ในขาเข้าถัง ต่างกับที่ร้านบอกไว้ครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 109
       -ปั๊มลมมือสองจากเซียงกง เคยเห็น2-3แบรนด์ เป็นสินค้าบ.ใหญ่... ของญี่ปุ่นก็ ASIN มีของเยอรมันและอังกฤษด้วย..ส่วนใหญ่จะเป็น ASIN ซึ่งก็มีหลายรุ่น ตัว 7 ครีบคงเป็นรุ่นใหญ่และครบ คือมีปั๊ม+วาวล์คายแรงดันไฟฟ้า+วาวล์จ่ายลมแยกอีก 1 ชุด 2 ตัว..

-หากต้องการซื้อไว้ ควรเลือกปั๊มและมอเตอร์ตัวใหญ่+มีวาวล์คายแรงดัน โดยให้สังเกตสายไฟจะเป็น 4 เส้น ใหญ่ 2้ เส้น(ปั๊ม) เล็กกว่าอีก 2 เส้น(วาวล์) ตัววาวล์อาจสังเกตยากเวลาดูจากรูป เพราะรูปร่างไม่เหมือนกันทุกรุ่น แต่ถ้ามีสายไฟเกิน 2 เส้น ก็เดาว่าคงใช่มีวาวล์คายแรงดันครับ..

-รูปแนบคต.นี้เป็น ASIN 7 ครีบ ในกรอบสีเขียวคือรูปล่อยอากาศเป็นส่วนหนึ่งของวาวล์ เวลาวาวล์คายแรงดันจะมีเสียงลมให้ได้ยินครับ...

-วาวล์จ่ายลม 1ชุด 2ตัว จะไม่ได้ใช้งานแต่ควรแยกออกมาเพื่อให้ชุดเบา หรือไปทำอย่างอื่นเช่นเป็นวาวล์จ่ายลมให้เกียร์ 4WD ที่ต้องใช้ลมเช่นเกียร์แลนครุยเซอร์ เป็นต้น...

 แก้ไขเมื่อ : 22/10/2562 7:44:36

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 110
       -อีกอย่างที่ขอให้ report ไว้ด้วยคือท่อลม PE และอุปกรณ์ร่วม ซึ่งใช้พลาสติคเป็นส่วนประกอบหลัก มีเงื่อนไขในการใช้งานจริงหลายข้อครับ...

-รั่วซึมตรงรอยต่อได้ง่าย(เช็คยากอยู่ใต้ท้องรถ)
-ท่อทนแรงดันได้น้อยโดยทั่วไปประมาณ 120ปอนด์ ของดีกว่าหน่อยราคาหลายเท่าตัว..
-ท่อโดนแดดไม่ได้ เสื่อมหรือเปื่อย ของดีกว่าหน่อย ราคาแพงกว่าหลายเท่าตัว..

-ทำงานง่ายก็จริง แต่อาจต้องทำหลายรอบ(รั่วซึม/เสื่อมสภาพ)...จึงไม่เห็นอุปกรณ์ตามรูปในรถบรรทุกวึ่งมีระบบลมใช้งาน แต่อย่างไรก็หนีช่องทางนี้ไม่ได้ ถ้าจะทำงานแบบนี้ การเดินท่อเหล็กแบบปั๊มลมบ้าน,รถบรรทุก คิดไม่ออกว่าเหมาะกับงานเติมแต่งรถกระบบะหรือไม่ครับ...

 แก้ไขเมื่อ : 22/10/2562 7:47:03

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 111
       -update เปลี่ยนตำแหน่งสปอตไล้ท์หน้าครับ...ก่อนเปลี่ยน(รูปบน).......ไฟส่องขอบทาง(ของติดรถเดิม)/สปอตไล้ท์ 2 ดวง / side lamp ให้แสงเป็น 3 ระยะต่่อกันพอดี แต่รวม 3 แถบไฟก็ยังสู้ไฟต่ำของติดรถไม่ได้ ผมใส่เพื่อสำรองใช้ ในทางกลับกันกับโดยทั่วไปที่ติดเพื่อเพิ่มให้สว่างมากขึ้นกว่าไฟหน้า ของผมคือไว้ลดแสง(ไม่ใช้ไฟหน้า)ได้ 3 ระดับ(เป็น 5 ระดับถ้านับไฟหน้าด้วย) เพราะรถใส่ยางลุย วิ่งความเร็วไม่เกิน 10กม./ชม.หมายถึงคงไม่ซ้ำซ้อนแต่เป็นการสำรองใช้ โดยที่ผ่านมาสปอตไล้ท์ทุกชุด ก็standbyอย่างเดียวไม่ได้ใช้งานจริง การupdateจึงกลายเป็นเรื่องเล่นมากกว่า และสปอตไล้ท์ทุกดวงใช้หลอด 55 วัตต์เท่านั้นครับ(เป็นกติกาตามสากลทั่วไปที่ไม่ใช่การแข่งขัน)

 แก้ไขเมื่อ : 22/10/2562 7:59:11

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 112
      
-ดูงานดัดแปลงสักรูปครับ....ศรสีแดงชี้ แท่นติดสปอตไล้ท์ ทำจากเหล็กแผ่นหนาปานกลางงอริม 2 ด้านเพื่อให้แข็งแรงขึ้น/ดูดีกว่า เหล็กชิ้นนี้มาจากรถคันอื่นอู่เป็นผู้ทำให้ ถอดเก็บไว้จึงนำมาใช้อีกครั้ง...ศรสีเขียว คือยึดเข้ากับกันชนด้วยน็อตหัวเทเปอร์เป็นของเหลือจากงานทำที่แขวนล้ออะไหล่ 35 นิ้วใต้ท้องรถ...กันชนของ YD DI เป็น 2 ชั้น คือนอกพลาสติค/ในเหล็กหนาปานกลาง แข็งแรงพอครับ.........แผ่นเหล็กหรือแท่นนี้มีระยะรู 2 ตำแหน่ง ผมติดสปอตไล้ท์ที่รูใน จึงหาวัสดุมาใส่รูนอกเพื่ออำพรางงาน(ไปก่อน) ไม่มีความหมายใดเพียงไม่อยากให้เห็นปลายเหลือเยอะเพราะใช้รูใน ศรสีฟ้าคือห่วงอลูมิเนียมหล่อเป็นเศษของที่หาได้ในบ้านมีเกลียวในรับน็อต(กรอบสีฟ้า)ซึ่งยาวทะลุลงไปในท่ออลูมิเนียมเพื่อไม่ให้หมุน/ไม่เคลื่อนที่ ใส่ลูกยางปิดให้ดูเรียบร้อย ทั้งหมดไม่มีความหมายใช้งาน ใส่ไปพลางก่อนเท่านั้น...........ศรสีเหลือง ชี้แท่นรับสปอตไล้ท์เดิมยังไม่ได้ถอดออก.....ศรสีเทาเขียว ชี้มีห่วงลากเหล็กหนาติดกับถาดวิ๊นซืตรงศรชี้เพื่อแขวนตะขอวิ๊นซ์.....ศรสีส้ม คือขาสปอตไล้ท์ดัดแปลงจากอุปกรณ์ไฟฟ้าเพราะซื้อมาไม่มีขาครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 113
       -ขอฝากรูปเตือนการเดินก้าวตามแบบไม่เข้าใจ เพื่อให้เกิดการลังเลในก้าวตามของคนรุ่นต่อไปบ้างครับ...

-รูปแนบคต.นี้ เป็นด้านหลังของสปอตไล้ท์ดวงใหญ่ที่ใช้หลอดไฟประจำตัวเกิน 55 วัตต์ ในกรอบสีแดงแปลว่า "เพื่อใช้ในการแข่งขันเท่านั้น" ความหมายคือไม่เหมาะกับการใช้ทั่วไปครับ....

-รถออฟโรดที่สูงกว่ารถกระบะ ไฟหน้าติดรถ ก็ไปได้ไกลกว่า แต่ในทางกลับกันคือใช้ความเร็วต่ำกว่ารถกระบะทั่วไป เพราะความสูง+ยางลุย ทั้ง 2 อย่างไม่เอื้อต่อความเร็ว ส่วนความเข้มของแสงต้องมีเลนส์ซึ่งมีหลายแบบเป็นตัวประกอบด้วย เช่นเลนส์กระจายแสง หรือเลนส์รวมแสง(พุ่งไกล) เป็นส่วนใหญ่ในไทยที่นำสปอตไล้ท์แข่งขัน มาเป็นแอคชั่นให้ตัวเอง โดยต้องการผลเยินยอจากคนที่ไม่เข้าใจ จึงอยากให้ความเข้าใจมีมากขึ้น เพื่อภาพบิดเบี้ยวนั้น จะด้อยความหมายลงไปเองครับ...

 แก้ไขเมื่อ : 22/10/2562 8:35:08

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 114
       -สูง 1.95ม.ผมคิดเองว่าอาจเตี้ยที่สุดของรถD21,D22 วางคานเองที่ใส่ล้อ 35 นิ้ว.. โดยวงเลี้ยวไม่กว้าง ตกหลุม/เลี้ยวสุดไม่ติดซุ้มล้อ หมายถึงส่วนนี้ได้ตามเป้าหมายของแผนที่วางไว้ก่อนลงมือปั้นครับ...

 แก้ไขเมื่อ : 24/10/2562 9:45:49

 แก้ไขเมื่อ : 24/10/2562 10:26:34

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 115
       -การได้ขนาดรถตามเป้าหมายที่ตั้งแผนไว้ก่อนแต่แรก มาจากประสพการณ์ครั้งก่อนหน้าครับ....YD DI คันนี้วางคานโดยให้โตงเตงอยู่หน้า เพื่อเวลายุบตอนตกหลุม ล้อจะเดินหน้าไปทางโตงเตงซึ่งเป็นจุดขยายตามหลักทั่วไปครับ....ซึ่งจริงๆก็เคยติดแต่ติดปลายคิ้วล้อซึ่งยึดอยู่กับกับชน ต้องเจียรปาดออกบ้างเพื่อให้ล้อไม่ติดส่วนนี้ ก็เป็นสิ่งที่คิดไว้เช่นกัน เพราะในครั้งก่อนติดตัวถัง ซึ่งการเจียรปาดตัวถัง เป็นเรื่องใหญ่(มาก) ผมตัดสินใจไม่แก้ด้วยวิธีแบบนั้น โดยยกรถให้สูงขึ้นแทน ซึ่งก็ขยายปัญหาให้โตขึ้นไปอีกตามไปด้วยครับ...

-รถออฟโรดที่พร้อมลุยก็ต้องวางแผนอีกแบบหนึ่ง ดังนั้นระหว่างรถใช้งานกับรถเพื่อลุย ต่างจุดประสงค์ก็คือจุดยืนต่างกัน จะนำมาเปรียบเทียบผลยาก แต่เครื่องมือที่อยู่ในชีวิตประจำวันได้ คืองานพอดีซึ่งยากกว่าครับ...

-เปรียบเป็นเสื้อผ้า เสื้อแฟชั่นทั่วไปแบบสำเร็จรูปที่วางขายในย่านโบ๊เบ๊หรือแถวประตูน้ำ อาจมีราคาน้อยกว่าค่าแรงเสื้อสั่งตัดแถวบางลำภู เมื่อท่านซื้อเสื้อสำเร็จรูป พอดีหรือไม่(เช่นแขนเสื้อยาวไปฯ) ก็ต้องปรับตัวตามของที่ซื้อมา ส่วนเสื้อสั่งตัดที่มีราคาค่าแรงสูง ช่างที่ทำงานให้ต้องเข้าใจความต้องการของคนสั่งตัด และต้องได้งานออกมาตามประสงค์ ตัวอย่างนี้สวนทางกับช่างวางคานรถออฟโรดในทั่วไป เป็นตัวอย่างชวนคิดครับ....

 แก้ไขเมื่อ : 25/10/2562 9:43:50

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 116
       -ทฤษฎีข้างถนนเหมือนฝุ่นคือเป่าให้ฟุ้งได้ง่าย มีหน้าม้าคอยชี้นำ คำร่ำลือก็เกิดขึ้นได้(เสมอ)ครับ...

-การออกแบบรถยนต์ก็มีทั้งจุดประสงค์ใช้ และแฟชั่นนิยมตวบคู่ไปด้วยเสมอ แต่ไม่มีรถใช้งานที่ล้อล้นตัวถังเป็นรถป้ายแดงจากโรงงาน แต่เมื่อออกมาแล้วเจ้าของนำไปผ่านร้านข้างถนน ภาพอย่างนั้นก็บังเกิดขึ้นได้(ง่ายด้วย) สิ่งนี้เมื่อสะท้อนไปยังผู้ผลิตรถขาย เขาก็จะมีแผนขึ้นราคารถใหม่ครับ...

-เนื่องจากเขารู้แล้วว่าผู้บริโภคไทย "ไม่ฉลาด/หูเบาและจ่ายซื้อง่าย"....

-สีภายในรถยนต์เป็นสิ่งที่ทางโรงงานผู้ผลิตตามหลักการ(เสมอ)หรือขายผลงานมาตราฐาน/สากล อาจยอมอ่อนให้กับแฟชั่นหรือความนิยม ซึ่งแต่ละประเทศก็นิยมต่างกัน เช่นไทยนิยมภายในสีดำ ชาวตะวันออก(แขก)นิยมภายในสีแดง รถที่ผลิตเพื่อขายต่างที่จึงมีสีภายในแตกต่างกัน และบางครั้งก็เกิดผิดหลักการด้วย เช่นรถที่ภายในสีเบจหรือสีครีมอ่อน ซึ่งหลักการสีของแดชบอร์ดจะใช้สีที่สะท้อนแสงน้อยหรือมักตัดด้วยดำหรือเทาในส่วนนี้ เพื่อแสงสะท้อนน้อยไม่รบกวนสายตาคนขับ..แต่เคยเห็นรถCBUบางรุ่น สีครีมล้วน กรณีแบบนี้ถ้าเกิดจากร้านหรืออู่ก็ไม่แปลกใจ แต่ถ้ามาจากโรงงาน ก็งงครับ(ตัวอย่างเช่นรถเชอโรกีก่อนโฉมมน,โรเวอร์เก๋ง623บางสีฯ)

-รถใช้งานยกสูงจากโรงงานก็มีขาย แต่ไม่มีตัวถังลอยเหนือล้อเช่นกัน ส่วนรถเพื่อการแข่งขันหรือเฉพาะกิจ จะไม่ถูกใช้บนถนนหลวงหรือไม่ใช้งานบนทางทั่วไปครับ....

-นี่คือผลที่ทำให้เกิดการกีดกันขึ้น เพราะออฟโรดบ้านเรานำรถแบบพิเศษมาใช้บนถนนทั่วไป โดยไม่มีสปิริต ผลคือก่อเกิดความเสียหาย/ความรังเกียจเกิดขึ้น...ภาพนี้เหมือนกิจกรรมนักวิทยุสมัครเล่นในไทย ซึ่งเมื่อไม่ถูกคุมเข้มการละเมิดก็เติบโตอย่างไม่สนใจใคร หรือใช้สิทธิ์อย่างเดียว ที่สุดวงการก็เสื่อม....

-"โค่นต้นกินผล" เป็นคำพังเพยไทย แต่ทั้งออฟโรดและวิทยุสมักครเล่น เป็นกิจกรรมสากล ไม่ใช่ไทยคิดกันเอง ดังนั้นก็คือการสอบตกหลายรายการที่เป็นสากล...คงน่าอายมากถ้าไปเข้าแถวรวมตัวกับต่างประเทศแบบกิจกรรมเดียวกันครับ...

-การเรียนรู้ไปไกลแค่ไหน ตอนผมยังเด็กเห็นขวดในกองขยะรอเผา ในวัยนั้นก็ได้รู้คำตอบแล้วว่าขวดไม่ไหม้ไฟ แต่จะแตก ทำให้เก็บกวาดยากขึ้นไปกว่าก่อนทิ้งไว้เผา..เวลาผ่านมาหลายสิบปี ปัจจุบันก็ยังเห็นขวดถูกทิ้งไว้ในกองขยะรอเผา ....จึงเป็นเรื่องที่ผ่านเวลานานหลายสิบปีอย่างไม่ก้าวหน้าเลย...นำไปเปรียบเรื่องอื่นได้..ลองคิดตามดูนะครับ

 แก้ไขเมื่อ : 26/10/2562 8:52:32

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 117
      
-รูปแนบคต.นี้ ดูอีกครั้งครับ ...กรอบสีเขียวคือปลายคิ้วล้อยึดอยู่กับปลายกันชน เป็นส่วนที่ถูกเจียรปาดออกบ้างเพื่อให้ล้อไม่ติดตอนตกหลุม+เลี้ยว ..ศรสีแดงชี้โตงเตงอยู่หน้าเวลาช่วงล้อขยายเนื่องจากยุบเช่นตกหลุม ในรถ YD DI ล้อจะเดินหน้าเพราะโตงเตง(ทำงานเหมือนบานพับ)อยู่หน้า ดังนั้นหากจะติดก็ติดปลายกันชน คือส่วนที่วางแผนไว้ว่าแก้ไขง่ายกว่า โดยถ้าติดมากยังสามารถเปลี่ยนกันชนทรงใหม่ได้.. ซึ่งอย่างไรก็ง่ายกว่าปาดตัวถังกรณีโตงเตงอยู่หลัง ..ซึ่งนี้เป็นแผนเฉพาะกิจของ D21,D22 ครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 118
      
-รูปแนบคต.นี้ ดูอีกครั้งครับ...เมื่อเปิดฝากระโปรงจะมองเห็น...ศรสีเขียว คือพัดลมไฟฟ้าทำงานพร้อมแอร์...ศรสีฟ้าคือ oil cooler ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นของติดรถจากโรงงาน เป็นส่วนที่ดีกว่ามาทำเอง.....ศรสีแดงชี้จุกยางปิดช่องเสียบรีโมทสายวิ๊นซ์ 9.5 XP เป็นตำแหน่งที่พอดีกับรถผมครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 119
      
-รูปแนบคต.นี้ ดูอีกครั้งครับ....ถอดแท่นยึดสปอตไล้ท์เดิมออกไปแล้ว เนื่องจากเป็นเหล็กแท่งขนาด 1" หากเกิดอุบัติเหตุ อาจทำอันตรายกับสิ่งที่ชนได้จากเบาเป็นหนัก ตอนมีสปอตไล้ท์ติดอยู่โคมจะปะทะก่อน ไม่น่ากังวลเหมือนตอนเป็นแท่นเปล่า ดังนั้นก็ถอดออกก่อนครับ...

-ศรสีเขียว ชี้เหล็กหูลากของรถกระบะนำมาติดที่ถาดวิ๊นซ์เพื่อให้เป็นจุดแขวนตะขอวิ๊นซ์ครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 120
      
-ตำแหน่งเสียบรีโมทสายวิ๊นซ์ 9.5 XP ซึ่งอยู่ด้านบนของกล่องรีเลย์ จึงพอดีกับงานของผม ถ้าเป็นวิ๊นซ์รุ่นอื่นที่ช่องเสียบอยู่ด้านหน้า ก็ต้องหาตำแหน่งติดตั้งใหม่(วางกล่องหงายคิดว่าที่ไม่พอ) เป็นความบังเอิญที่เลือก 9.5 XP ครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย