คำตอบที่ 1
       รุ่นฝาแดงสามารถติดเทอร์โบได้ โดยไม่ต้องโมอ่างน้ำมันเครื่องเพราะ ที่เสื้อสูบมีท่อทางเดินน้ำมันเครื่องไว้แล้วครับสามารถต่อไปยังชุดเทอร์โบได้เลย แต่รุ่นฝาขาวไม่ได้เตรียมไว้จำเป็นต้องโมอ่างน้ำมันเครื่องครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ฝาแดงในBigM มีอยู่แค่แปดสิบกว่าม้า แต่ฝาขาวในFrontier มีถึง 97 ม้าครับ

แต่..จากการที่มีโอกาสขับทดสอบมามากในรถทั้งสองรุ่น ฝาแดงกินขาดทั้งในเรื่องอัตราเร่ง (0-100ดีกว่า1.5วิขึ้นไป ตัวเลขแรงม้าที่ดูมากกว่าไม่ได้ช่วยเลย) โดยเฉพาะอัตราสิ้นเปลืองที่โดยเฉลี่ยตัวฝาแดงจะมีอัตราสิ้นเปลืองที่13กม./ลิตรขึ้นไป(ค่าเฉลี่ยมาจากการนำผลการทดสอบหลายๆคันมารวมกันแลวหารออกมา) แต่ฝาขาว อยู่แค่10-12เท่านั้น นี่คือค่าเฉลี่ยนะครับไม่ได้ยกมาแค่คันใดคันหนึ่ง

และผมเองก็ใช้BigMฝาแดงนี้ด้วย ปี96 โมดิฟายด์กรองอากาศ นำของTiger3.0มาใส่แต่ตีเสื้อขึ้นมาใหม่เพราะมันโตกว่ากันมากๆ ติดตั้งอุปกรณ์R-Techผลิตภัณฑ์ของอู่ผมเอง ดัดแปลงระบบจ่ายแก็สLPGทำเป็นหัวjetมีโซลีนอยด์คุมระดับการฉีด3stepตามความต้องการในทุกรอบเครื่อง

ได้ผลดังนี้

อัตราสิ้นเปลืองเครื่องเดิมๆ
ที่50 19.95กม/ลิตร
ที่70 16.21กม./ลิตร
ที่90 13.91กม./ลิตร
ที่110 11.24กม./ลิตร
ที่130 8.75 กม./ลิตร

อัตราสิ้นเปลืองรถผมตอนนี้
ที่50 27.89 กม/ลิตร
ที่70 24.26 กม./ลิตร
ที่90 20.80 กม./ลิตร
ที่110 15.79 กม./ลิตร
ที่130 12.48 กม./ลิตร

และถ้าเป็นตัวฝาขาว ที่90อยู่แค่10.59เองครับ ZD30ประหยัดกว่าอีก เพราะได้ถึง13.12แถมเป็นตัวขับ4ด้วยนะครับ ส่วนตัวโบ150psอยู่ที่9.01ครับ(...คือว่าคันนี้ลงยางMT33"ซึ่งเมื่อวัดเส้นรอบวงล้อแล้วอยู่ที่2,620mm.เท่ากับว่าไมล์จะแข็งกว่าความเร็วจริงไป13.91%ครับ...ดังนั้นที่หน้าปัทม์ชี้ที่90 ความเร็วจริงจะเป็น102.5ครับ)


ทางด้านอัตราเร่ง 40-100กม./ชม. กดคันเร่งเต็มที่ ที่เกียร์3

เครื่องเดิม 20.61วิ
รถผม 14.33วิ
ฝาขาว 20.72วิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ขอเพิ่มเติมสำหรับมาตรฐานการทดสอบของผมนะครับ

ในการทดสอบเราจะมีถังน้ำมันสำรองติดตั้งไว้ในห้องโดยสาร เป็นหลอดแก้วใส มีมาตรระดับแสดงปริมาณน้ำมัน เซนเซอร์วัดค่าอุณหภูมิ ฯลฯ ดังนั้นตลอดการวิ่งทดสอบจะเห็นเลยว่า รถคันนั้นๆวิ่งแค่ไหน บรรทุกหนัก วิ่งทวนลม,ตามลม น้ำมันจะลงเร็วแค่ไหน และคำนวณเป็นอัตราสิ้นเปลืองกม./ลิตรได้ตลอดเวลา

และในตัวอย่างผลทดสอบในรถผมเองนั้นทดสอบบนทางยกระดับบางนาครับ ถึงได้ทดสอบที่ระดับความเร็วคงที่ๆ130ได้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       เครื่องผมเป็นTD27ฝาดำนอก.....ทำปั๊มนิดหน่อยลูกปั๊ม 11 มิล+ขาเขี่ยแต่ง(ญี่ปุ่น) ...ชุดคลัตช์ใช้ของรถนอก(KA24E)...กรองเปลือยK&N ...ท่อไอเสีย2.2นิ้วเดินยาวแต่หัวเพลาขับ.....ตอนนี้วิ่ง 180 สบายๆ...ต้นจัดปลายแรงดีจริงๆ....แต่เสียอย่างเดียว...ซดเหลือเกินถ้าวิ่งแช่ 160 กม./ชม.ขึ้นไป....วิ่งไปกลับเมืองชล-บางนาหมดน้ำมันไป 800 เห้อ......แต่ก้ต้องทนขี่เพราะไม่อยากเป็นหนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ทีดี มีฝาสีแดงก็มีครับ เอาว่าแบ่ง เป็น 2 อย่างแล้วกันครับ บีดี เป็นระบบไดเร็กครับ ส่วน ทีดี จะเป็นระบบทีมีห้องเผาไหม้ช่วยครับ เวลาดูก็ดูว่า มีตัวหัวเผา(ทีดี) กับไม่มีตัวหัวเผาครับ(บีดี) ส่วนตัวไม่มีหัวเผา เขาว่าแรงม้าจะมากกว่านะครับและประหยัดกว่านะครับ บางคนเลือกซื้อเห็นเป็นฝาแดงก็เอามาเลยครับ ฝาแดงมีทั้ง ทีดี และ บีดี น่ะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       มีประโยชน์มาก ขอบคุณทุกท่านครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       TD27 มีทั้งหมด 5แบบนะครับเท่าที่เห็นมา
1.TD27 ฝาดำนอก วางในรถตู้ วางในนิสสัน เออร์แวน
2.TD27 ฝาขาว วางใน กะบะฟอนเทีย ปี1998 ขึ้นมา
3.TD27 ฝาแดง วางในบิ๊กเอ็มปี 96-98 ตัวท้อปเท่านั้น และกระจังหน้าจะเป็นเทอราโน่....
4.TD27 ฝาดำเทอร์โบ วางในรถตู้นิสสันรุ่นหลังๆไดชาร์ทจะทันสมัยกว่า ผมยังใช้เลยครับ
5.TD27 ฝาขาวเทอร์โบ วางในนิสสันเทอราโน่

ส่วนฝาแดงที่ไม่มีหัวเผาเขาเรียกว่าตระกูล BD25 ครับ มี 2รุ่นคือ ฝาแดงหยาบและฝาแดงเรียบ....รุ่นแรกๆตั้งแต่บิ๊กเอ็มBDiปีผมจำไม่ได้แน่ชัด น่าจะปี 89-93 จะเป็นฝาแดงหยาบ ส่วนบิ๊กเอ็มรุ่นปี 94-98 จะเป็นเครื่องฝาแดงเรียบ สีสดๆนั่นแหละครับ แต่ความทนทานจะสู้ฝาแดงหยาบไม่ได้เพราะปลอกสูบเป็นเลสหนาปึ๊ก...ยิ่งร้อนยิ่งลื่น...

หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่เพื่อนสมาชิกครับ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ขายเครื่องฝาแดงพร้อมเกียร์ 35000 บาท 0863644418

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ผมขอถามคุณ Good และคุณเต๋า และกูรูผู้ชำนาญ รถผมTD27 ฝาขาวเทอร์โบ วางในนิสสันเทอราโน่ รุ่น3ประตู AUTO ใ่ส่ยาง ALL 31 เฟือง หน้า/หลัง 8.39 นน.1.8 ตัน
ควาเร็วที่ 100 กม.: ชม. เร็วรอบ 2500 อัตราบริโภค 8.5 กม./ล. อัตราบริโภคแบบนี้ผิดปกติหรือเปล่า อ้อวิ่งมา 3 แสนโลครับ ต้องเช็คเครื่องอะไรบ้างครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ขอเพิ่มเติมให้เข้าใจเกี่ยวกับเครื่อง di หรือที่เรียกว่าไดเร็คอินเจ็คชั่น กับเครื่อง inไดเร็จ(เสวิมร์เชปเปอร์)ที่มีหัวเผาช่วยสตารตน่ะครับ เครื่องไดเร็จอินต่างหากที่มีห้องเผาใหม่รองคือตัวลูกสูบจะเป็นหลุมนั้นแหละคือห้องเผารอง ส่วนเครื่องเสวิมร์ที่มีหัวเผาช่วยสตารตเครื่องนี้มีห้องเผาใหม้หลักอย่างเดียวหัวลูกสูบจะเรียบครับไม่มีหลุมไม่เว้าขอให้เข้าใจกันเสียใหม่น่ะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ชัดเจนกันน่ะครับ ไดเร็จอิน กับ อินไดเร็จ ต่างกันที่ระบบเผาใหม้และจังหวะการฉีดของหัวฉีด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       เครื่องไดเร็จจะมีห้องเผาใหม้รองส่วนใหญ่คือลูกสูบจะเป็นหลุมนั้นแหละห้องรองtfrฝาทอง(4ja1) ลูกสูบเป็นหลุม db2500ไดเร็จลูกสูบเป็นหลุม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ส่วนtd27 อินไดเร็จโดยส่วนมากเครื่องอินไดเร็จจะมีหัวเผาช่วยสตาร์ทเพราะการฉีดจังหวะหัวฉีดต่างจากไดเร็จ อินไดเร็จส่วนมากลูกสูบหัวจะเรียบบางยี่ห้อมีรอยหลบวาล์นิดหน่อยเท่านั้นแต่นั้นมิใช่ห้องเผารอง ชัดเจนกันน่ะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       บางท่านบางคนอาจยังสงสัยนึกภาพไม่ออกว่าอินไดเร็จกับไดเร็จอินมันคืออะหยัง มันแตกต่างกันที่จังหวะการฉีดจ่ายน้ำมันของปั้ม และการเผาใหม้ของเครื่องยนต์ในการจุดระเบิด ไดเร็จอิน จังหวะการฉีดจ่ายน้ำมันในจังหวะแต่ละสูบoverlap หรือขึ้นศูนย์ตายบนโดยส่วนมากจะทำการฉีดน้ำมัน2ครั้งติดต่อกันในจังหวะoverlap อย่างที่ได้กล่าวหัวลูกสูบมีหลุมห้องรองการฉีดก็ฉีดเข้าตรงๆยังไงมันก็ติดแน่นอนฉีด2รอบติดต่อกัน(ถ้าระบบสมบูรณ์)จึงไม่จำเป็นต้องง้อหัวเผา ในหลักกลศาสตร์ น้ำมันดีเชลผสมอากาศที่หน้าแน่นและอยู่ในที่บีบอัดมันจะจุดระเบิดวาบไฟได้ นี่แหละเครื่อง ไดเร็จdi

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       ส่วน idi หรืออินไดเร็จ ระบบนี้จำต้องง้อหัวเผาช่วยสตาร์ทเพราะอย่างที่กล่าวไว้จังหวะการฉีดน้ำมันแตกต่างจากไดเร็จรถระบบนี้โดยส่วนมากจะฉีดน้ำทันครั้งต่อครั้งในจังหวะแต่ละสูบขึ้นศูนย์ตายบนoverlapระบบนี้ห้องเผาใหม้ปกติจะมีห้องหลักแค่นั้นลูกสูบหัวก็เรียบๆ นี่แหละความแตกต่างมันจำต้องพึ่งพาหัวเผาช่วยในการจุดระเบิดครั้งแรกเพราะการฉีดน้ำมันของมันครั้งต่อครั้ง ในหลักกลศาสตร์ น้ำมันดีเชลผสมอากาศในที่บีบอัดจะเกิดจุดวาบไฟระเบิดแน่นอนแต่ปริมาณต้องเหมาะสม นี่แหละหลักการความแตกต่างแต่ละแบบ น้ำมันอากาศต้องเหมาะสมจึงจะเกิดปฎิกิริยาวาบไฟ ดังนั้น ไดเร็จอินเมื่อน้ำมันอากาศมีปริมาณไม่มากพอที่จะทำให้วาบไฟจึงนำระบบไฟ เข้ามาช่วย ในห้องเผาใหม้โดยปกติเมื่อน้ำมันอากาศมาผสมกันในที่บีบอัดคับแคบเมื่อมีการบีบอัดมากก็จะเกิดจุดวาบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       แล้วตอนนี้คงนึกภาพกันพอออกน่ะครับว่าdi กับidi มันต่างกันยังไง ให้ทำความเข้าใจกันเสียใหม่น่ะระบบไดเร็จอินต่างหากที่มีห้องเผาใหม้รองพูดง่ายๆต้องมีให้มากกว่าระบบอินไดเร็จผู้ผลิตหัวใสเลยเอาลูกสูบทำเป็นหลุมนั้นแหละเป็นห้องรอง หลักกลศาสตร์อย่างที่บอกอลักกลศาสตร์อย่างที่บอกน้ำมันและอากาศผสมกันในที่คับแคบมีการบีบอัดมากๆเข้าจะเกิดจุดวาบในเครื่องไดเร็จหัวสูบเว้าเป็นหลุมน้ำมันถูกฉีดเข้าตรงนั้นเมื่อมีการกระแทกบีบอัดน้ำมันผสมอากาศจะเกิดการลุกวาบจุดระเบิดขึ้น ต่อไปจะมาพูดถึงว่าระบบแบบไหนการเผาใหม้ที่หมดจดดีกว่ากัน ต่อไปจะมาพูดกันในเรื่องแบบนี้ดีกว่าถ้ามีคนสงสัย

แสดงความคิดเห็นย่อย