คำตอบที่ 1
       ไม่ต้องอุดหรอกครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       อุดสิครับ ผมขับ Frontier ZDi 3.0 อุดแล้ววิ่งมาได้เกือบ 4 หมื่นโลแล้ว แรงดี เหยียบได้อย่างสั่ง แต่ประเก็นที่อุดต้องทนทานนะครับ ตอนประกอบอาจจะขันยากซะหน่อย แต่ใช้ได้ดี
ตามความเข้าใจผมก็คือ วาล์ว EGR คือวาล์วที่เปิดให้ไอเสียเข้ามาเผาไหม้ร่วมในช่วงรอบเครื่องประมาณ 2500-3000 รอบ เพื่อไม่ให้ควันดำ แต่พอรอบเกิน 3000 รอบก็จะปิด ถ้าเราอุดก็จะมีแต่ไอดีเข้ามาเผาไหม้อย่างเดียว ทำให้แรงมากขึ้น ประหยัดนี่แล้วแต่บุคคลจะมองครับ ผมว่าอุดแล้วดีครับ แต่รู้สึกว่าวาล์วจะดังมากขึ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ก็นั่นแหล่ะครับ ที่บอกไม่ไห้อุดเพราะมันจะทำให้เครื่องพังไวครับ อยากให้ไอดีเข้าเร็วและแรง มีทางแก้ไขได้นิครับ แล้วแต่ท่านเจ้าของรถครับผม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ผมใช้ TD27 ใช้วิธีถอดปลัก แถวๆหม้อกรอง 2 ตัวออก ผลวิ่งดีขึ้นครับแร่งแซงดีขึ้นด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ผมเคยทำให้กับอีซุซุครับ ใช้ลูกปืนรถจักรยาน 2 ลูก ดันเข้าไปในรูสายยาง อีจีอาร์ เป็นอันว่าใช้ได้ และเอา cat ออกด้วย รถวิ่งไม่อืดครับ 081-9914300

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       รบกวนท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ ผมนึกไม่ออก ใครพอจะมีภาพชี้แจงแก่ผมบ้างครับ ถือว่าสอนเด็กน้อยว่ายน้ำเถอะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       รบกวนท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ ผมนึกไม่ออก ใครพอจะมีภาพชี้แจงแก่ผมบ้างครับ ถือว่าสอนเด็กน้อยว่ายน้ำเถอะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       รบกวนท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับ ผมนึกไม่ออก ใครพอจะมีภาพชี้แจงแก่ผมบ้างครับ ถือว่าสอนเด็กน้อยว่ายน้ำเถอะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ลองดูครับhttp://www.nissanpickup.org/modif_egr.htm

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ต้องหาตัวนี้ให้เจอ รถผมอยู่ด้านซ้ายมือจากหน้ารถ ZD30DDT

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ขอบคุณท่านทั้งหลายด้วยครับ สำหรับรูปภาพประกอบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ถอดเเล้วพังไวจริงหรือเปล่าครับ แล้วทำไมถึงพัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ตามความคิดผม ถ้ารถที่ไม่มีกล่องควบคุมเครื่อง(ECU) ปิดท่อดีครับ แต่ถ้ารถที่มีกล่องควบคุม ระยะยาวไม่ดีครับ ถ้าไม่ได้ไปตั้งค่าที่กล่องใหม่ เพราะมันทำงานสัมพันธ์ตั้งแต่ปีกผีเสื้อที่ปากไอดี วาล์วเปิดปิดท่อ EGR และการคำนวนการจ่ายน้ำมันของหัวฉีด และอื่นๆ แต่กรณีที่ถอดปลั๊กออกก็น่าจะดีกว่าอุด เพราะจะไม่มีการจ่ายไฟไปที่วาล์ว EGR ทำให้มันปิดตลอดเวลา(อันนี้ไม่แน่ใจครับ) รอผู้รู้มาตอบอีกทีนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ผมเคยอุด...เหม็นควันมาก ควันเข้าบ้าน ช่วงที่เราจะเอารถเข้า-ออก บ้าน

ปัจจุบันนี้ใส่คืนเหมือนเดิมแล้วคับ...yd25ddti D22



 แก้ไขเมื่อ : 21/3/2559 12:14:48

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
      
-ขอวางความเห็นที่เป็นเพียงข้อสังเกต ไม่ใช่ทฤษฎี แต่อาจใกล้เคียงการกำหนดใช้จริง หรืออาจมีประโยชน์บ้าง ดังนี้ครับ...

-ปัญหาติดตัวของเครื่องแบบไดเร็คอินเจ็คชั่น คือ "เผาไหม้ไม่หมด" การได้กลิ่นเหม็นคือผล ที่จับได้ก่อน เพียงแต่ ความรู้สึกอาจตอบเรื่อง "มากกว่ากัน" ไม่ได้เมื่อนำไปเทียบกับเครื่องแบบเดียวกัน หมายถึงผลจริงคงต้องใช้เครื่องมือวัด แต่ในการตรวจและสรุปผลเพื่อเลือกซื้อมาใช้หรือนิยมกว่ากัน อยู่กับผู้ใช้งาน ซึ่งไม่มีเครื่องมือวัด ดังนั้นความรู้สึกจึงสำคัญในข้อเพื่อการเลือกนี้ครับ

-การเลือกโดยใช้ความรู้สึกของจมูกผู้ใช้ เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดคำตอบชี้ขาดได้มากกว่ารอผลทดสอบจริง....แต่ในอดีตในทศวรรษ 90 เครื่องไดเร็คในตลาดรถปิคอัพ ซึ่งในเวลานั้นเครื่องไดเร็คของอีซุซุ ได้รับความนิยมกว่าเครื่อง BD25 ของนิสสัน และเมื่อเวลาผ่านมาถึงปัจจุบัน กลับเป็นผลตรงกันข้าม เป็นตัวอย่างที่คนไทยเคยหลงทางแบบกลุ่มมาแล้วครับ....

- "EGR" ผมคิดเองว่าคือข้อกำหนดของภาครัฐ หรือสากล ที่ผู้ผลิตรถต้องสร้างเพื่อเป็นความตกลงในการใช้งานในสาธารณะ...เป็นเจตนาที่บังคับผลผู้ผลิตได้ แต่ไม่สามารถบังคับผู้ใช้ในทางตรงได้ ..จนกว่าการตรวจสภาพแบบมาตราฐาน หรือตรอ. จะใด้ผลเที่ยงตรงจริง...เพราะข้อกำหนด ก็คือข้อกำหนดทั้งผู้สร้างและผู้ใช้...

-รถที่ไม่ได้แต่งปั๊ม จะมีควันดำหรือส่วนที่เผาไหม้ไม่หมดน้อยตามข้อกำหนดของภาครัฐ แต่มีผลที่บิดเบี้ยวแต่เริ่มแรกอยู่บ้างในไทย เช่นเครื่องอีซุซุ ในยุคที่โฆษณา 90 ม้า(เดิม 85 แรงม้า) ควันดำเกินปกติตั้งแต่รถยังป้ายแดงอยู่เลย...แต่ก็รอด เพราะไม่มีภาครัฐตามบังคับผลๆนี้ทำให้ผู้บริโภคเริ่มหลงทาง เป็นเพราะเสรีภาพในการใช้สื่อ ไม่ถูกควบคุมว่าจริงหรือไม่ คนไทยก็เฮ..ลงเหวไปเป็นกลุ่มเลยครับ

- "EGR" ถ้าดึงท่อลม หรือสายไฟ(ขึ้นอยู่กับแบบของแวคคั่ม) แวคคั่มก็หยุดการทำงาน ไม่ต้องอุดก็ได้ ก็ถูกต้องครับ...แต่...การอุดซึ่งรวมถึงการถอดท่อ+อุปกรณ์เช่นแวคคั่มออกในบางรุ่น หมายถึงการแสดงเจตนา "อุดระบบ" ไม่ใช่ท่อหรือปลั๊กหลุด ซึ่งเวลาเข้าศูนญ์บริการ ช่างอาจจับใส่เหมือนเดิมได้ ดังนั้น เจตนาก็คือเรื่องที่มีผลระยะยาวด้วยครับ

-รถยุคปัจจุบัน เครื่องยนต์เผาไหม้หมด มากกว่าเครื่องรุ่นเก่า ขอให้สังเกตว่า ควันและกลิ่นไอเสีย น้อยกว่าเครื่องยุค 90 มาก.. EGR เป็นสิ่งที่วิศวกรวางแผนมากับเครื่องยนต์นั้น จึงกลับเป็นผลดีต่อเครื่องและต่อโลก หมายถึง ถูกค้นคว้าให้ได้ประโยชน์/โทษ ในค่าที่เลือกกำหนดด้วยการทดลองที่เชื่อถือได้ หรือ"ผลรวมดี" เมื่อต้องมีข้อบังคับใช้ EGR ในเครื่องยนต์...

-แต่เครื่องยนต์ที่ถูกแต่งปั๊มจนควันดำ EGR จะพาเขม่ากลับไปในห้องเผาไหม้ด้วย ...

-ดังนั้นระหว่างเครื่องยนต์สแตนดาร์ด และเครื่องยนต์ที่แต่งปั๊มหรือกล่อง จะคุยหาผลสรุปคงไม่ได้ครับ...

-"ไมล์ไฟฟ้า" หรือผลความเร็วของรถรุ่นใหม่ๆ มีผลให้คิดตามด้วย เช่นอุบัติเหตุที่เพิ่งผ่านไป รถเบนซ์ พุ่งชนท้ายรถ ECO CAR มีผู้เสียชีวิต ความเร็วที่ค้างบนจอรถเบนซ์ กว่าสองร้อยกม./ชม. เมื่อนำผลอุบัติเหตุมารวมการพยายามพัฒนาความเร็ว ...ถ้าคิดตาม อาจเกิดคำถาม/คำตอบ ไปอีกแบบได้ครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       -ขออนุญาตวางข้อความเพิ่มครับ...

-คนไทย มีความต้องการใช้รถยนต์สูงมาก ติดอันดับโลก การตกแต่งรถทุกรูปแบบ จึงเข้ามาในวิถีนิยมนี้ด้วยโดยปริยาย ...

-การถ่ายทอดอุดมการณ์นี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร....คำตอบคือ.."เราถูกสอน" ให้ชอบและคิดค้นไปในทิศทางนั้น...

-ความหมายคือ..สิ่งที่ทุกท่านหาคำตอบเกี่ยวกับปัญหารถยนต์(ทุกรูปแบบ) โดยใช้สื่อเช่นอินเตอร์เน็ต ...ผลไม่ได้เป็นเพียงการหาคำตอบเพื่อตัวท่าน แต่เป็นตัวอย่างให้ต่อผู้อื่นที่ได้อ่านหรือรับรู้ด้วย....การสื่อสารคือช่องทางเดินหน้าไปสู่ความเจริญ...แต่หากมองอย่างระวัง หากเรื่องที่ถูกนำมาพิมพ์สนทนากัน เป็นสมการที่บิดเบี้ยว จะด้วย"รู้ก็ชี้ / ไม่รู้ก็ชี้" หรือมีจุดประสงค์ส่วนตัวที่ต้องการให้ผลเปลี่ยนทิศทางไปเองแอบแฝงอยู่...สารพัดอิสระ อาจหมายถึง สารพัดพิษได้ด้วยเช่นกัน...

-ผู้ที่ไม่คำนึงถึงผู้อื่นที่อาจมาแตะต้องพิษ ก็เล่นไปเรื่อย(จนเปื่อย) จนที่สุดเมื่อความเข้าใจไม่ถูกต้องกลายเป็นเสียงส่วนมาก ป.นี้ก็เต็มไปด้วยเรื่องเหลวไหล....เงินทุกๆหนึ่งร้อยบาทที่หาได้ ต้องแบ่งไปซื้อตัวอย่างที่เป็นสากลเข้ามาใช้(แล้วทิ้ง)ซ้ำๆ เหมือนซื้อทิชชู่มาใช้....ในสายตาของผู้ขายความเจริญ ไทยก็คือขุมสมบัติ(ตลอดกาล)....คนไทยจึงเหมือนอยู่ในคลองที่สกปรก จะล้างมือ/ล้างหน้าหรือเดินทาง ก็ต้องแหวกน้ำที่เต็มไปด้วยขยะ หรือกากที่ทุกคนคายทิ้งไว้ในคราวก่อนๆ...สะสมจนทวีพูลขึ้นเรื่อย...ผู้ที่เกิดใหม่ใน ป.นี้ จึงไม่ใช่ผู้โชคดี..ก็ไม่ทราบว่าการเปรียบเปรยนี้ จะทำให้เกิดการห่วงส่วนรวมได้บ้างหรือไม่.... จึงอยากขอร้อง...ขอให้คิดก่อนพิมท์ ถาม/ตอบ โดยมีความสำนึกตลอดเวลาว่าจะมีคนหลายวัยมาอ่าน ซึ่งอาจเป็นลูกหลานของท่านเองด้วย การระวัง ให้คุณมากกว่าโทษ ระหว่าง ก้าวหน้าอย่างช้า กับวนอยู่กับที่อย่างเร็ว ...ทุกท่านคงตัดสินใจตีตั๋วได้ครับ

-----------------------------------------

-รูปแนบคต.นี้....การสนทนาเรื่องเทคนิคที่ก้าวทัน หรือก้าวนำ อาจเป็นผลเท็จระดับรุนแรงที่ไม่ตั้งใจ ..แต่การชี้นำ เป็นการขยายผล ที่จะสร้างโทษต่อส่วนรวมอย่างมาก ...การแต่งรถแบบกึงทำลาย เป็นการนำเรื่องล้มหลวเข้ามาเป็นตัวอย่าง และหลอมผู้รักความก้าวหน้าในอดีต ให้กลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะในปัจจุบันด้วยด้วยคำว่า"พร้อมแข่ง" เป็นการขายวิญญานในราคาถูก เพียงแค่ต้องการรอดไปสร้างเรื่องใหม่ ก็โยนบาปที่ตนเองสร้างไปให้ผู้อื่น และการรอดเพราะโกหกได้ผลจะเป็นพิมพ์สร้างคนใน ป. นี้ด้วยรูปแบบหนึ่ง.... ช่วยกันหาวิธีแก้ ก่อนเวลาหมด และคำตัดสินมาถึงทุกคน...เพราะจะไม่มีใครรอดอีกเลย...ขอบคุณครับ

-ตัวอย่างคิดคือ...ในสงครามโลกครั้งที่ 2 คนยิวถูกฆ่าตายเป็นล้านคน...ไม่ใช่เพราะการสู้รบกันในฐานะทหาร...ไม่ใช่ผู้มีคดีติดตัวที่ถึงเวลาถูกตัดสิน...แต่ตายหมู่ด้วยเหตุผลที่.."เป็นยิว" คือถูกตัดสินในภาพรวม....อย่าให้ไทยต้องถูกตัดสินแบบยิว ที่ได้เกิดขึ้นไปแล้ว...ประวัติศาสตรืสำคัญต่ออนาคตมนุษยชาติ....แต่ไม่สำคัญต่อสัตว์ ดังนั้นถ้าเข้าใจประวัติศาสตร์สำคัญ ก็อย่าใช้ชีวิตอย่างมักง่าย และคิดถึงผู้อื่นเสมอๆเป็นแนวทางดำรงชีวิต...

 แก้ไขเมื่อ : 30/4/2559 7:43:58

 แก้ไขเมื่อ : 30/4/2559 22:39:30

แสดงความคิดเห็นย่อย