คำตอบที่ 7
ถอดใส้หลอดออกก่อนระวังอย่าเอามือไปจับหลอดแก้วละเดี๋ยวไฟจะดูดเอา ล้อเล่นนะครับ ที่ไม่จับหลอดแก้วให้จับที่ขั้วหลอดก็เพราะ เหงื่อคนเรามีไขมันซึ่งคราบไขมันที่เกาะกับหลอดแบบฮาโลเจนทำให้หลอดไม่ติดนะครับ ต่างกับหลอดรุ่นเก่าๆ หรือไม่ก็ใส่ถุงมือก็ได้ถ้าเลอะเหงื่อหรือไขมันจิงๆ ก็ให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ให้สะอาด และรอผึ่งแดดให้แห้งครับ ส่วนกระจกที่หมองก็เกิดจากอุณหภูมิภายในกับภายนอกต่างกันมาก เหมือนตอนที่ฝนตกแล้วเราไม่เปิดแอร์แล้วมีฝ้าที่กระจกไง แต่ความร้อนจากหลอดจะช่วยไล่ฝ้าไปเอง เช่นเดียวกับลวดความร้อนของชุดไล่ฝ้าที่ติดที่กระจกบานหลังเก๋งไงครับ ส่วนมากที่เกินเนื่องจากว่ามีละอองน้ำเข้าไปเกาะ แต่โดยมากแล้วหลอดไฟใหญ่จะมีรูระบายอากาศอยู่ด้วย เมื่อล้างเสร็จใช้น้ำเช็ดกระจกเช็ดกระจกเลนส์ภายในด้วยถ้าเป็นเลนส์พลาสติกให้ใช้ผ้าชามัวส์เช็ดจะได้ไม่เป็นรอยขนแมว รอแห้งแล้วใช้น้ำยาเคลือบกระจก ตากแดดพอมีคราบฝ้าเกิดหลังจากใช้น้ำยาเคลือบกระจกลงแล้วให้นำผ้าสะอาดหรือผ้าชามัวเช็ดอีก ทีนีละอองน้ำก็จะไม่เกาะที่กระจกไฟใหญ่หน้ารถแล้ว ประกอบเข้าเมื่อทำความสะอาดจนแห้งสนิทแล้วและควรสังเกตุดูว่าตามขอบกระจกเลนส์กับโคมมีรอยแตกร้าวหรือมีรอยห่างไม่สนิทตรงไหน ให้อัดซิลิโคนรอจนแห้งดีแล้้วประกอบคืน แค่นี้ก็ใสเหมือนใหม่ ถ้าจะให้ดีหน่อยใช้น้ำยาแอมเวย์ หรือน้ำยาเช็ดเลนส์กล้องก็ได้ครับ ใสกิ๊ก 
