คำตอบที่ 2
1 กันยายน ที่จะถึงนี้จะครบรอบ 15 ปี การจากไปของคนชื่อสืบ นาคะเสถียร อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ในช่วงเวลานั้นมีเจ้าสัวชื่อดังคนหนึ่งถึงแก่กรรม เขาได้ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้ลูกหลานหลายพันล้านบาท ขณะที่ก่อนตายคุณสืบมีเงินฝากธนาคารไม่ถึง 8,000 บาท แต่ทิ้งเรื่องราวไว้เล่าขานมากมาย
15 ปีผ่านไปผู้คนในสังคมยังคงระลึกถึงใครอยู่ ..........
29 มิถุนายน ที่ผ่านมา คุณภัทรา วรามิตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคไทยรักไทย ส.ส.สาวใจเด็ดผู้นี้ได้แสดงความกล้าหาญโดยการงดออกเสียง เมื่อมีการลงมติไม่ไว้วางใจการบริหารงานของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรณีความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอกซ์ สนามบินสุวรรณภูมิ สวนทางกับบรรดา ส.ส.พรรครัฐบาลที่พากันออกเสียงไว้วางใจตามมติของพรรค เพื่ออุ้มคุณสุริยะโดยไม่แคร์ความรู้สึกของคนในประเทศ
ความกล้าหาญอย่างเด็ดเดี่ยวในครั้งนั้น ทำให้คุณภัทรากลายเป็นฮีโร่ในใจของผู้รักความเป็นธรรมจำนวนมาก ขณะที่กลายเป็นแกะดำในหมู่ ส.ส.พรรครัฐบาลด้วยกันที่กล้าแหกมติพรรค
หลังเหตุการณ์ไม่นาน มีนักข่าวไปสัมภาษณ์คุณภัทราตอนหนึ่งเธอบอกว่า
.............
คุณสืบ นาคะเสถียร เป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกับคุณทักษิณ ชินวัตร หากเขามีอายุจนถึงทุกวันนี้ เขาจะมีอายุ 56 ปี
คุณสืบ เป็นนักศึกษาคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คุณสืบเคยเข้าร่วมต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย
ในคราวเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 แต่คุณสืบไม่เคยประกาศว่าเป็นคนเดือนตุลาฯ
ทุกวันนี้เหล่าคนเดือนตุลาฯในคณะรัฐบาลชุดนี้ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้กล้าลุกขึ้นมาสู้กับเผด็จการและความไม่ถูกต้องในสังคม บัดนี้กลายเป็นมิสเตอร์เยสกันหมด แล้วแต่ว่านายหญิง , นายใหญ่จะมีบัญชาให้ทำอะไร โดยไม่มีปากเสียงใดๆ คนเหล่านี้กล้าพูดเรื่องเท็จให้เป็นเรื่องจริงต่อสาธารณชน เพื่อหวังเอาใจนายไม่ต่างจากนักการเมืองน้ำเน่าคนอื่นๆ ที่ตัวเองเคยประณามมาก่อน
ส่วนอุดมการณ์สมัยเป็นนักศึกษาในอดีต ได้เก็บใส่ลิ้นชักและลั่นกุญแจไว้นานแล้ว
คุณสืบมีพ่อเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีชื่อเสียงมากได้รับการยกย่องว่าเป็นข้าราชการซื่อสัตย์สุจริตที่สุดคนหนึ่งในสมัยนั้น แต่คุณสืบเองก็ไม่เคยใช้อภิสิทธิ์ใดๆ ไม่เคยอ้างชื่อพ่อ แม้กระทั่งกลับไปเกณฑ์ทหารที่บ้านก็ไม่เคยบอกสัสดี เหมือนกับที่เราได้ยินบรรดาลูกผู้มีอำนาจในปัจจุบันพูดกันว่า " รู้หรือไม่ว่าพ่อกูคือใคร"
คุณสืบเคยพูดถึงพ่อของเขาด้วยความภูมิใจว่า
" พ่อผมไม่เคยโกงใครกิน...ทำไมผมถึงดีใจและภาคภูมิใจกับพ่อผมมาก เพราะพ่อเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไร"
ความซื่อสัตย์ของพ่อเป็นแบบอย่างให้คุณสืบตัดสินใจเป็นข้าราชการกรมป่าไม้ ลุยจับผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอย่างไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ไม่ว่าจะใหญ่โตมาจากไหน ก่อนที่เขาจะสอบชิงทุนไปเรียนต่อด้านการอนุรักษ์วิทยาที่ประเทศอังกฤษได้ และกลับมาเป็นนักวิชาการที่ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีโครงการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
ซึ่งมีผลทำให้พื้นที่ป่ากว่า 140,000 ไร่ ต้องจมน้ำ คุณสืบในฐานะนักวิชาการกรมป่าไม้เจ้าของพื้นที่ ได้ลงสำรวจป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเป็นเวลานานนับเดือน เพื่อศึกษาหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพความสมบูรณ์ของป่าผืนนี้ และเมื่อมีการประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อธิบดีกรมป่าไม้ในเวลานั้นที่มีหน้าที่ดูแลปกป้องผืนป่า ได้พูดสนับสนุนการสร้างเขื่อนนี้ โดยอ้างว่าปัญหาเรื่องสัตว์ป่าไม่น่าเป็นห่วง
คุณสืบ ข้าราชการผู้น้อยระดับซี 5 ที่เข้าร่วมประชุมได้กล่าวแย้งอย่างตรงไปตรงมาว่า " ความคิดนี้เป็นความคิดของคนที่ไม่รู้เรื่องการจัดการด้านสัตว์ป่าเลย"
ช่วงเวลาที่คุณสืบได้รับคำสั่งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ต้องรับผิดชอบพื้นที่ป่าขนาดใหญ่กว่ากรุงเทพฯเกือบสองเท่า แต่มีงบประมาณดูแลปีละไม่ถึง 2 ล้านบาทนั้น คุณสืบสามารถสอบชิงทุนไปเรียนต่อระดับปริญญาเอกที่ประเทศอังกฤษได้สำเร็จ
หากถามคนส่วนใหญ่ว่าจะเลือกอะไร ระหว่างหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งที่ในเวลานั้นมีคนรู้จักน้อยมาก กับความก้าวหน้าทางหน้าที่การงานเมื่อมีคำว่า ดร.นำหน้า
คุณสืบผูกพันและเดินป่าแห่งนี้มานาน เขารู้ว่าห้วยขาแข้งเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์เพียงใด และหากไม่มีใครตั้งใจรักษาป่าผืนนี้เอาไว้แล้ว เขาทราบดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เขาเลือกที่จะมารักษาป่าห้วยขาแข้งด้วยความมุ่งมั่น เขาทุ่มเททั้งชีวิต จิตใจไว้กับที่นี่ แต่เขารู้ดีว่าป่าผืนนี้ใหญ่เกินลำพังตัวเขาและลูกน้องร้อยกว่าคนจะรักษาไว้ได้
หากไม่ได้รับความร่วมมือจากข้าราชการฝ่ายอื่นๆ และผู้มีอำนาจในสมัยนั้นซึ่งแทบจะไม่มีใครสนใจ
หรือเห็นค่าป่าผืนนี้แต่อย่างใด
เขาทราบดีว่าเขากำลังต่อสู้ด้วยความโดดเดี่ยว ขณะที่ลูกน้องของเขาถูกคมกระสุนจากผู้มีอิทธิพลที่เข้ามาทำลายป่าจนบาดเจ็บล้มตายไปเรื่อยๆ
การมีชีวิตอยู่ไม่อาจทำให้ความมุ่งมั่นของเขาเป็นจริงได้
คุณสืบไม่เคยทรยศต่อหลักการและความมุ่งมั่นของเขา
บางทีการฆ่าตัวตายอาจเป็นหนทางเดียวที่ทำให้ความมุ่งมั่นในการรักษาป่าห้วยขาแข้งเป็นจริงขึ้นมาได้
ตีสี่ของวันที่ 1 กันยายน 2533 เสียงปืนนัดหนึ่งดังขึ้นในราวป่าห้วยขาแข้ง หลายชั่วโมงต่อมา มีผู้ไปพบศพของคุณสืบนอนตายในห้องพัก พร้อมกับจดหมายมีข้อความว่า
" ผมมีเจตนาที่จะฆ่าตัวตาย โดยไม่มีผู้ใดเกี่ยวข้องในกรณีนี้ทั้งสิ้น"
ลงชื่อ สืบ นาคะเสถียร ผู้ตาย
หลายอาทิตย์ต่อมา หลังจากการเสียชีวิตของคุณสืบเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ติดต่อกัน ข้าราชการระดับสูงจากทุกฝ่ายนับร้อยคนต่างรีบเร่งมาร่วมประชุมกันที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ด้วยความพร้อมเพรียง เพื่อปรึกษาหารือว่าจะช่วยกันปกป้องผืนป่าห้วยขาแข้งอย่างไร จนในเวลาต่อมายูเนสโกได้ประกาศให้ป่าห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของประเทศไทย
15 ปีผ่านไป เสียงปืนในราวป่านัดนั้นยังดังก้องมาอยู่จนถึงทุกวันนี้
หน้า 8<
จากหนังสือพิมพ์มติชน