WeekendHobby.com


........ช่วยอธิบายการใช้งานเกียร์ออโต้หน่อยครับ....

จาก Kupree
พฤหัสบดีที่ , 3/11/2548
เวลา : 20:04

อ่าน = 5216
203.153.172.234
      

เพื่อนร่วมก๊วนกอล์ฟกระผม ขับดีเเมกซ์ 4 ประตู กับวีออส (ออโต้ทั้งคู่ ) กำลังคลั่งไคล้การเชนจ์เกียร์ออโต้ เพื่อจะเเซง เเล้วค่อยตบมาที่ D เมื่อเเซงเสร็จ โดยบอกว่า

" ขับมันส์ดี "



เเต่ผมเคยได้ยินมาว่า การขับเกียร์ออโต้ ไม่เหมาะที่จะกระทำเช่นนั้น ครั้นที่จะไปอธิบายก็กลัวไม่ครบถ้วนกระบวนความ จึงอยากขอเเรงเพื่อนๆ พี่ๆ ช่วยอธิบายการเชนจ์เกียร์ดังกล่าว ว่ามีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร หรือไม่ เเล้วกระผมจะได้ print ไปให้เขาอ่านอีกที



ขอขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาครับผม




เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       ทุกวันนี้รถในบ้านทุกคันเป็นเกียร์ออโต้

ผมเองก็ลากเจ้า D16Y1 เกียร์1-2-3 ชนหมื่นรอบบ่อยๆเวลานึกสนุกกับเด็กในก๊วน B16A Vtec เปิดที่3500รอบก็วิ่งได้ชนหมื่นรอบ 4AGE VVTi ลากได้แปดพันรอบเครื่องจะกระจายก่อนเกียร์ F23A ลากได้ชนแปดพันเหมือนกัน Vtec stage1เปิดที่ 2500รอบ stage2 เปิดที่ 3800รอบเพราะเครื่องมันโตวิ่งรอบสูงไม่ไหว


ทั้งหมดผมลากเกียร์ L-2-D3 เองทั้งนั้น ที่เกียร์ D3 ต้องวิ่งให้ชน 180 D4ไม่ต้องไปใช้มัน F23A มันลาก D3 ได้ชน 210 ฟัดกับ T5 ได้แบบไม่กลัวศักดิ์ศรีรถยุโรป จะรอให้รอบถึงเองให้ Vtecเปิด ก็โดนเด็กฟันเพิ่งงอกมันสวนไปเป็นทุ่งแล้วครับ


สมัยก่อนตอนที่ยังมีรถเกียร์ธรรมดาใช้ก็ลากแบบนี้ พอรถทุกคันในบ้านเป็นเกียร์ออโต้ก็ยังทำ มันไม่เคยพังสักที เกียร์แต่ละคันมันจะพังเพราะแรงบิดไม่ใช่รอบเครื่อง คนใช้รถเกียร์ออโต้โหดๆจะรู้ดี


เกียร์ออโต้จะส่งผ่านกำลังโดยน้ำมันและล็อกอัพคลัท ดังนั้นมันจะไม่กระตุกแรงจนเกียร์กระจายเหมือนคลัทแห้ง เกียร์ออโต้เป็น planetary gear ทั้งหมด หมายความว่าแต่ละเกียร์จะไม่ใช่เพืองสองอันขบกัน แต่เป็นเพืองห้าตัวขบกันในแต่ละเกียร์ดังนั้นความคงทนจะสูงกว่ามากแม้ตัวจะเล็กกว่า เกียร์ของรอกดีๆที่รับน้ำหนักเป็นร้อยตันก็ใช้ Planetary ทั้งนั้นครับ

ผมขับรถลากเกียร์ครบทุกเกียร์ทุกวันโดยไม่รอให้เครื่องเปลี่ยนเอง เกียร์รถโตโยต้ารวมถึงฮอนด้าของผมใช้มาหลายแสนกิโลเมตรโดยไม่ต้องซ่อมอะไรเลย


จับยัดตามใจชอบได้เลยครับ ขับสนุกว่าเยอะ


เกียร์รถพวกอเมริกันมัสเซิลคาร์รีดม้าออกมาเจ็ดแปดร้อยตัวก็เป็นเกียร์ออโต้ใช้มือลากเองตามใจชอบ รถแดรกสองพันกว่าแรงม้าก็เป็นเกียร์ออโต้ รถ F1 พันกว่าแรงม้าเป็นเกียร์ออโต้แบบกดปุ่มลากเกียร์เองมาสิบกว่าปีแล้วครับ




baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 4/11/2548 เวลา : 03:16   


คำตอบที่ 2
      

ขอขอบพระคุณ พี่ von Richthofen มากๆ ครับผม



จาก Kupree  203.153.173.45  ศุกร์, 4/11/2548 เวลา : 09:07   


คำตอบที่ 3
       ตอนแรกผมก็งงที่เขาว่าขับเกียร์ออโตกับเกียร์ธรรมดาก็เหมือนกัน เพียงแต่ออโตไม่ต้องเหยียบคลัทช์ไส่เกียร์ไปเลย เหมือนคุณวอนว่าจับยัดไปเลย



จาก ออโต  61.19.233.4  ศุกร์, 4/11/2548 เวลา : 10:56   


คำตอบที่ 4
       ขับมิตซูไทรทันเกียร์ออโต เวลาเข้าโค้ง ใช้ OD OFF ช่วยให้การทรงตัว ดีกว่าแตะเบรคครับ



เจ้าหมีขาว 212 จาก เจ้าหมีขาว 212  61.19.54.130  ศุกร์, 4/11/2548 เวลา : 11:35   


คำตอบที่ 5
       อ.วอนครับ เสาร์ที่ผ่านมาผมนำเจ้าปาเกียร์ออโตขึ้นดอยอินทนนท์ ช่วงลงเขาใส่ ที่ตำแหน่ง L แล้วไม่ต้องใช้เบรค กลิ่นเหม็นคล้ายๆคลัชไหม้หึ่งเลยครับ เลยเปลี่ยนเป็นลงเขาก็ใช้ D แล้วเหยียบเบรคเอา ทำไมเป็นเช่นนั้นละครับ อาจารย์ วอน



จาก ปากินเจ  203.121.148.62  ศุกร์, 4/11/2548 เวลา : 20:38   


คำตอบที่ 6
       สัญญานอันตรายให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทันทีครับ


อย่างที่ผมบอกไว้ในกระทู้ที่1ครับว่าเกียร์ออโต้มันพังเพราะแรงบิดไม่ใช่รอบเครื่อง

เมื่อต้องใช้แรงบิดสูงเป็นเวลาต่อเนื่องนานๆเช่นลากรถอีกคันให้ใช้ความเร็วต่ำและเกียร์ลดลง1เกียร์เสมอ

เมื่อขึ้นเขา-ลงเขาน้ำมันเกียร์จะใหลไปกองที่ด้านหน้าและด้านหลังของห้องเกียร์ให้เติมน้ำมันเกียร์เพิ่มอีก 1ลิตรกันเหนียวเพื่อให้แรงดันน้ำมันของชุดคลัทคงที่ ไม่ให้แรงดันต่ำจนคลัทลื่นและสีกันจนไหม้ในห้องเกียร์


ขึ้นเขา-ลงเขา ลากของ ล็อกอัพคลัทในลูกตุ้มทอร์คคอนเวอร์เตอร์ต้องทำงานหนักกว่าปกติเป็นเวลานานถ้าเป็นของเก่าใช้งานนานแล้วความหนาลดลงก็มีโอกาสไหม้ได้ ถ้าน้ำมันระบายความร้อนไม่ดีจะไม่รอดกลับบ้าน ดังนั้นออยคูลเลอร์ของเกียร์ต้องใหญ่พอที่จะรับมือควาร้อนมากกว่าปกติได้ พวกที่ชอบเอาออยคูลเลอร์ไปซุกใต้กันชนไม่รับลมปะทะรถมักจะเสร็จทุกรายใช้งานหนักน้ำมันเกียร์ไหม้ดำปี๋


ถ้าเป็นรถที่ลุยน้ำสูงจนท่วมห้องเกียร์เมื่อเกียร์โดนน้ำเย็นๆอากาศในห้องเกียร์มันจะเย็นตัวอย่างรวดเร็วและดูดน้ำเข้าห้องเกียร์ ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกครั้งที่กลับบ้านหรือแวะเปลี่ยนข้างทางทันทีเพราะน้ำเข้าแล้วชุดคลัทจะบวมและจะพังอย่างรวดเร็วแม้จะเข้าไม่มากก็พังได้แล้ว ไม่เหมือนเกียร์แมนนวลที่ยังใจเย็นได้ ถ้าน้ำเข้าน้อยๆขับไม่กี่สิบกิโลน้ำก็เดือดหายไปเองไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันให้เปลืองเงิน


ถ้าออยคูลเลอร์เป็นแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ถ้าเครื่องร้อนจัดเพราะน้ำในหม้อน้ำแห้งเมื่อไรก็ตาม น้ำมันเกียร์จะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วแม้จะเพิ่งเปลี่ยนมาก็ไม่รอด ให้ถ่ายน้ำมันเกียร์ทิ้งทุกครั้งที่เครื่องโอเวอร์ฮีต


ทำได้แบบนี้รับรองว่าไม่พังไม่มีกลิ่นไหม้ให้กวนใจอีกครับ




baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 4/11/2548 เวลา : 22:19   


คำตอบที่ 7
       ขอบคุณครับ




จาก montero  203.114.119.157  เสาร์, 5/11/2548 เวลา : 09:54   


คำตอบที่ 8
       ลองถามวิศวกรแถวๆระยองดูครับ มีใช้กันหลายคน



จาก ดิสโก้เหมือนพี่  203.113.80.139  อาทิตย์, 6/11/2548 เวลา : 00:50   


คำตอบที่ 9
       โย่ว..เช็คชื่อคับ



จาก duang  203.188.14.230  อาทิตย์, 6/11/2548 เวลา : 03:07   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 20:23:58

Error processing SSI file