WeekendHobby.com


.........ถามดีๆ ไม่ขอทะเลาะใคร ไม่อยากเห็นใครทะเลาะกันนะ.........

จาก Kupree
พฤหัสบดีที่ , 17/11/2548
เวลา : 11:49

อ่าน = 3136
203.155.94.129
      


ผมมันเด็กตจว. ไม่ใช่เด็กหลังเขา เเต่เขามาอยู่หน้าบ้าน เป็นเเค่เด็ก

before yesterday ไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก เเต่ดูข่าวเเล้วไม่ค่อย get จึงอยากถามเพื่อนๆ

พี่ๆ น้องๆ ว่า " กฟผ. " เนี่ย เเปรรูปดีมั้ย

ถ้าไม่เเปรรูปมีข้อด้อยอย่างไร



ด้วยสัตย์จริงครับ ไม่รู้เรื่องเลย อยากได้ทั้ง fact ทั้ง truth


เเต่ขออย่างนะครับ

"ไม่ทะเลาะกัน "



เห็นต่างกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน อย่าเเขวะ-- เหน็บกันนะครับ


" ก็คนมันไม่รู้จริงๆนี่ครับ "




เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       NO COMMENT ครับ





เจี๊ยบ จาก เจี๊ยบ กระโจมไพร  61.90.147.243  พฤหัสบดี, 17/11/2548 เวลา : 13:23   


คำตอบที่ 2
       ผมคน กฟผ. ขอตอบครับ

ถ้าจะถามว่าแปรรูปดีหรือไม่ดีนั้น ขอตอบตอนนี้เลยครับว่ามีทั้งดีและเสียครับ
ว่ากันเลยดีกว่า
-จะสามารถบริหารงานได่คล่องขึ้น ไม่ต้องผ่านขั้นตอนมากมายอย่างตอนที่เป็นรัฐวิสาหกิจ แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะขนาดแปรสภาพเป็น บมจ.กฟผ.แล้ว บางอย่างยังต้องขอจาก ครม.เอย กระทรวงคลังเอย กระทรวงพลังงานเอย
-ประชาชนจะได้รับบริการที่ดีขึ้นกว่าเดิม อันนี้ไม่รู้จริงไม่จริงเพราะ กฟผ.มิได้ให้บริการประชาชนโดยตรงแบบ กฟน.กฟภ จึงไม่สามารถชี้ชัดได้การบริการจะดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่
-จะเกิดการแข่งขันในการให้บริโภค ถามต่อว่าใครจะผลิตไฟฟ้าแข่งกะ กฟผ.ได้บ้างชั่วโมงนี้ เพราะต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ถูกที่สุดไล่ลำดับเลยนะ
อันดับ 1 พลังงานจากธรรมชาติ เช่น ลม น้ำจากเขื่อน(เขื่อนที่มีอยู่ตอนนี้เป็นของกระทรวงเกตร แต่ทุกเขื่อนไม่สามารถนำมาผลิตไฟฟ้าได้ทั้งหมด) และถามว่าหากมีใครพูดตอนนี้ว่าจะสร้างเขื่อน ท่านคงจะรู้ดีว่าคำตอบที่ได้ตรงนี้จะเป็นอย่างไร ส่วนพลังงานจากลมนั้นมีไม่มากพอที่จะนำมาผลิตไฟฟ้าให้มั่นคงได้ คำว่ามั่นคงคือ มีไฟในระบบตลอดเวลา ไม่มีติดๆดับจากภาคผลิต
อันดับ 2 พลังงานนิวเคลีย คงไม่ต้องให้บอกนะครับว่าเมืองไทยพร้อมสำหรับพลังงานนิวเคลียแล้วหรือยัง
อันดับ 3 พลังงานถ่านหิน ตอนนี้มากกว่าครึ่งของพลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากถ่านลิกไนต์ที่เหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งเคยมีปัญหาเรื่องก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และชั่วโมงนี้หากใครจะผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินต้องขอประทานบัตรทำเหมืองก่อน ภาค NGO คงไม่ยอมง่ายกระมัง
อันดับ 4 พลังงานจากน้ำมันเตา คงไม่ต้องอธิบายต่อนะครับว่าต้นทุนการผลิตจะเป็นอย่างไรในชั่วโมงที่น้ำมันโลกราคาแพงอย่างงี้
ทุกวันนี้มีไฟฟ้าจากผู้ผลิตรายย่อยที่เรียกได้ 2 อย่างคือ IPP และ SPP คือ การรับซื้อไฟที่เหลือใช้จากภาคเอกชนโดยรับซื้อในราคาที่แพงกว่า กฟผ.ผลิตเองแต่ต้องรับซื้อเพื่อเป็นการส่งเสริมการผลิต (และตอบสนองนักการเมืองที่กำหนดนโยบายอย่างนี้ไว้ เพราะทั้ง IPP และ SPP มีตระกูลนักการเมืองเป็นเจ้าของเกือบทั้งหมด)
แล้วชั่งโมงนี้ใครจะมาผลิตไฟขายให้ชาวบ้านได้ในราคาที่ถูกกว่าที่ กฟผ.ผลิต ผมก็อยากเห็นเหมือนกัน ในที่นี้ไม่นับการแทรกแซงจากการเมืองนะครับ และอย่าลืมว่านอกจากภาคผลิตแล้ว ภาคส่งที่ใช้ส่งไฟทั่วประเทศนั้นยังเป็นของ กฟผ.อยู่ แต่หากจะให้แข่งขันเอกชนต้องมาสร้างสายส่งแข่งกันนะ การสร้างสายส่งต้องตัดเข้าไปในป่าเขา บ้านชาวบ้านด้วยต้องเวนคืนให้เขาด้วยนะ แล้วรู้กันไหมว่าสายส่งของ กฟผ.เนี่ยเป้นสายไฟเบอร์ออฟติกนะ ส่งไปทั่วประเทศ จึงมีคนที่ทำมาหากินเกี่ยวกันโครงข่ายคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคมอยากได้นักหนา ผมคงไม่ต้องบอกต่อนะครับว่าสายโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกครอบคลุมทั่วประเทศอย่างงี้จะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้อีก
-ส่วนมีหลายๆคนเขาพูดว่าสวัสดิการของพนักงานเยอะเกินไป หากลดลงได้ค่าไฟคงถูกลง อันนี้ไม่รู้จริงไม่จริงถึงแม้ว่าจะไม่จ่ายค่าแรงให้คน กฟผ.เลย ค่าไฟก็ไม่ถูกลง เพราะเงินส่วนนี้อยู่ต้นทุนการผลิตแค่ 0.05 เปอร์เซ้นต์เท่านั้น และรู้ไหมครับว่าวิศวกรเข้างานใหม่ กฟผ.เงินเดือนเริ่มต้นที่ 12,000 บาท ในขณะที่ภาคเอกชนจ้างจะไม่ต่ำกว่า 20,000
-แล้วได้ใช้ไฟฟ้าฟรีด้วยจริงหรือไม่ อันนี้คงไม่จริงครับเพราะพนักงานทุกคนยังต้องจ่ายค่าไฟฟ้าให้ กฟน.กฟภ.ทุกหลัง หากใครมีเพื่อนบ้านเป็นคน กฟผ.ขอดูใบเสร็จได้เลยครับ
-ส่วนบ้านพักตากอากาศนั้นมีจริงหรือ หากท่านหมายความว่าบ้านพักตามเขื่อนของ กฟผ.ที่สร้างไว้ให้คนงานที่เขื่อนอยู่และผ่อนคลายเป็นบ้านพักตากอากาศ หากไม่สร้างคนงานเหล่านี้จะให้เขาไปอยู่ไหน แต่ให้สิทธิคน กฟผ.จากหน่วยงานอื่นไปเข้าพักได้ ในราคาครึ่วนึงของคนทั่วไป แต่ปัจจุบันต้องจ่ายเต็มราคาเพราะเป็น บมจ.กฟผ.แล้ว
-ในชั่วโมงนี้จะคัดค้านการแปรรูปไม่ทันแล้วหละครับ เพราะโดนแปรรูปเป็นบริษัทฯตั้งแต่เดือน มิ.ย ผ่านมาแล้วครับ ตอนนั้นเหล่าพนักงานช่วยกันคัดค้านจนเป็นม็อบที่ยาวนานกว่า 487 วัน โดนรัฐบาลบีบทุกวิถีทาง จนพ่ายแพ้ในที่สุด ตอนนั้นยังโดนสื่อโจมตีเลยว่าที่มันคัดค้านหนะมันห่วงหม้อข้าวมันหนะซิ ไอ้องค์กรอะไรทั้งหลายแหล่ตอนนี้ ตอนนั้นทำอะไรอยู่ ดดยเฉพาะภาคสื่อหนะตัวดีเลยออกมาด่า ชาว กฟผ.ทุกวัน ที่พวกสื่อมันทำตอนนี้มันโหนกระแสข่าวก็เท่านั้น ไม่เชื่อผมคอยดูซิเดี๋ยวมีข่าวอะไรที่มันฮอตกว่านี้ พวกสื่อก็จะเปลี่ยนไปเล่นข่าวนั้นแทน แต่หากภาคประชาชนจะร่วมคัดค้านการกระจายหุ้นอันนี้ยังพอทำได้อยู่

เอาแค่นี้ก่อนละกัน ได้เวลาทำงานแล้ว เดี๋ยวจะหาว่าอู้งานกินแรงประชาชนเขาอีก เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะมาเล่าต่อ



จาก คนบริษัท กฟผ.จำกัด(มหาชน)  203.149.16.34  พฤหัสบดี, 17/11/2548 เวลา : 13:57   


คำตอบที่ 3
       เอ้าท่านใดมีเรื่องข้องใจเรื่องใดกะเรื่อง กฟผ. ถามมาได้เดี๋ยวชี้แจงให้ทราบ ถามแรงๆก้ได็





จาก คนบริษัท กฟผ.จำกัด(มหาชน)  202.44.210.36  พฤหัสบดี, 17/11/2548 เวลา : 15:20   


คำตอบที่ 4
      


ผมเป็นคนชอบมองอดีตตามประสาคนแก่ เพราะอดีตบอกอนาคตได้หลายเรื่องแม้แต่เรื่อง กฟผ.





เมื่อ 2 ปีก่อนการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย(ปตท.)เป็นรัฐวิสาหกิจที่ถูกแปลงสภาพเป็นบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ด้วยการกระจายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่จากการตรวจสอบการกระจายหุ้น ปตท.ในครั้งนั้นของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) พบว่ามีนักการเมืองและญาติสนิทของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม(ในสมัยนั้นปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม) ได้รับการจัดสรรหุ้นมากที่สุด

โดยอันดับ 1 คือ นายทวีฉัตร จุฬาง กูร หลานชายแท้ ๆ ของนายสุริยะ ได้รับการจัดสรรหุ้นมากถึง 2.2 ล้านหุ้น อันดับ 2 นายประยุทธ มหากิจศิริ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้รับการจัดสรรหุ้นจำนวน 2.06 ล้านหุ้น นอกจากนี้ภรรยาและบุตรของนายประยุทธคือนางสุวิมล และนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ยังได้รับการกระจายหุ้นอีก 1.546 ล้านหุ้นและ 1.5 ล้านหุ้น ตามลำดับ(รวมหุ้นที่ตระกูลมหากิจศิริได้รับคือ 5.106 ล้านหุ้น)

ทำไมหุ้นมากมายถึงไปกองอยู่ในมือของคนเหล่านี้ กลต. ในฐานะผู้ดูแลได้อธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า การที่นายทวีฉัตรได้รับการจัดสรรหุ้นสูงสุด 2.2 ล้านหุ้น เพราะรับจัดสรรในรูปการจองผ่านธนาคารพาณิชย์ 1 แสนหุ้น ในฐานะลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ และเป็นหุ้นในส่วนของผู้มีอุปการคุณของ ปตท. อีก 2.1 ล้านหุ้น

ส่วนรายของนายประยุทธ และนางสุวิมล มหากิจศิริ นั้น กลต. ก็ได้ชี้แจงว่า นายประยุทธได้ซื้อผ่านธนาคาร 1 แสนหุ้น และได้รับการจัดสรรผ่านบริษัทหลักทรัพย์และในฐานะผู้มีอุปการคุณอีก 1.96 ล้านหุ้น ส่วนของนางสุวิมลก็ซื้อผ่านธนาคาร 1.1 ล้านหุ้น และจัดสรรผ่านตลาดหลักทรัพย์และในฐานะผู้มีอุปการคุณอีก 4.46 แสนหุ้น ซึ่งการกระจายหุ้นทั้งหมดนี้ กลต. ถือว่าถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทุกประการ

ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันสหัสวรรษ ได้กล่าวถึงกระบวนการยึดหุ้นของปตท.เมื่อครั้งนั้นว่า

“การขายหุ้น ปตท. ใช้เวลาในการขายทั้งหมดทั้งสิ้น 1 นาที 17 วินาที ประชาชนที่อยากจะเป็นเจ้าของหุ้น ปตท. ตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปที่ธนาคารแล้วเข้าแถวคอย แม้ให้เป็นคนแรกในแถว แค่กรอกชื่อที่อยู่ รหัสไปรษณีย์ แล้วให้เทลเลอร์เค้าคีย์ชื่อที่อยู่ลงในคอมพิวเตอร์ก็เกิน 1นาที 17 วินาทีเรียบร้อยแล้ว“

ดร.วุฒิพงษ์อธิบายต่อไปว่า หุ้นที่ถูกยึดไปทั้งหมดนั้นไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว ถ้าสามารถควบคุมกลไกในการปั่นหุ้นตลาดหลักทรัพย์ได้ โดยได้ยกตัวอย่างว่า

“เวลาขายหุ้น ปตท. รัฐบาลบีบเอาหุ้น ปตท. ออกมาขาย 30% เหมือนที่กำลังจะทำกับ กฟผ. (รัฐบาลกำหนดให้นำไปกระจายในตลาดหลักทรัพย์ 25%) สำหรับกรณี ปตท. คิดเป็นหุ้นทั้งหมด 800 ล้านหุ้น ราคาจองที่เรียกว่า IPO (Initial Public Offerings = ราคาเสนอขายตอนต้น) คือ 35 บาท(ต่อหุ้น) หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 28,000 ล้านบาท หลังจากนั้นก็ป้อนข่าวดี ๆ เกี่ยวกับ ปตท. (หลังจากปล่อยให้หุ้นนิ่งและตกลงไปเล็กน้อยอยู่ช่วงหนึ่งส่งผลให้นักเล่นหุ้นรายเล็กประเภทแมลงเม่าต้องปล่อยขายออกมา) เช่นบอกว่าต่อไปเมืองไทยจะเป็นศูนย์กลางของพลังงาน เป็น hub ไฟฟ้า เป็น hub พลังงาน ราคาหุ้น ปตท. ก็พุ่งขึ้นไปจาก 35 บาท กลายมาเป็นเกือบ 200 บาท คิดง่าย ๆ ที่ 160 บาทต่อหุ้น จะเป็นมูลค่า 128,000 ล้านบาท ต่อไปทำยังไงครับ เอาต้นทุน 28,000 ล้านบาทของท่านเก็บไว้ก่อนเพราะไม่ต้องใช้แล้ว แล้วก็นำเอา 100,000 ล้านบาทที่กำไรมาซื้อหุ้น ปตท. แต่ก่อนซื้อท่านต้องทุบหุ้น ปตท. ให้ตกลงมาเหลือ 30 กว่าบาทเสียก่อน ถ้าราคาหุ้น ปตท. เหลือ 30 กว่าบาท เงิน 100,000 ล้านบาทที่อยู่ในมือ ไม่ได้ซื้อ ปตท. 30% อีกแล้ว แต่สามารถซื้อ ปตท. ได้ทั้ง 100% เลย”

ตัวเลขรายรับทั้งหมดเป็นเพียงการเสนอภาพตัวอย่างให้เข้าใจถึงกระบวนการปั่นหุ้น ทุบหุ้นและโอกาสในการที่จะฮุบกิจการของปตทที่ได้แปรรูปเป็นบริษัทเอกชน แต่ตัวเลขราคาหุ้นที่ขึ้นจาก 35 บาทเป็น 160 บาทนั้นเป็นตัวเลขที่ได้เกิดขึ้นจริง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา การที่นายทวีฉัตรหลานชายของนายสุริยะได้รับการจัดสรรหุ้นสูงสุด 2.2 ล้านหุ้น โดยใช้เงินลงทุนเพียง 3.5 ล้านบาทกับหุ้น 1 แสนหุ้นเท่านั้น(เพราะอีก 2.1 ล้านหุ้นได้รับในฐานะผู้มีอุปการคุณต่อ ปตท.) ทำให้เขามีรายได้มากถึง 352 ล้านบาทจากราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมา ส่วนกลุ่มตระกูล “มหากิจศิริ” ซึ่งมีหุ้นรวมกันแล้วอยู่ 5.106 ล้านหุ้นจะมีรายได้มากกว่า 800 ล้านบาทจากราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น

เป็นความร่ำรวยอย่างมหาศาลที่เกิดขึ้นในพริบตา ซึ่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่อื่น ๆ (ส่วนใหญ่คือนักการเมืองและผู้ใกล้ชิด)ก็มีอาการร่ำรวยโดยพริบตาในลักษณะเดียวกันแทบทั้งสิ้น

สุทธิชัย หยุ่น คอลัมนิสต์ชื่อดัง มองปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า เป็นการกระทำของคนไม่กี่ตระกูลที่กำลังขายของหลวงเพื่อเอารายได้นั้นมาซื้อประเทศ

การกระจายหุ้นของ ปตท. ได้ถูกรัฐบาลนำมาโฆษณาโดยตลอดว่าทำให้กิจการของ บริษัท ปตท. พัฒนาก้าวหน้ามากขึ้น กลายเป็นบริษัทชั้นนำที่สำคัญอยู่ในลำดับต้น ๆ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีการเพิ่มทุนกระจายหุ้นเพิ่มเติม มีผลตอบแทนที่ดี และมีเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำ

แต่ความจริงก็คือ การดำเนินกิจการของบริษัท ปตท. ไม่เคยส่งผลให้ ราคาน้ำมันที่ประชาชนต้องจ่ายให้ลดลงแต่อย่างใดและกลับเพิ่มสูงขึ้นโดยตลอด รายได้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัท ปตท. นั้นส่วนหนึ่งมาจากเงินภาษีของประชาชนที่รัฐบาลเอามาตั้งเป็นกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อชดเชยราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งพบว่าตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.2547 จนถึงวันที่ 19 เม.ย.2547 เป็นเวลา 100 วันรัฐบาลต้องจ่ายเงินให้กับบริษัท ปตท. และบริษัทน้ำมันต่างชาติอื่น ๆ ไปแล้วถึงกว่า 6 พันล้านบาท
ขณะที่นักวิชาการส่วนหนึ่งได้แสดงความเห็นคัดค้านการใช้เงินชดเชยดังกล่าวว่า ไม่ได้ส่งผลดีโดยรวมต่อประเทศชาติแต่อย่างใด ที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้ประชาชนไม่ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องช่วยกันประหยัดพลังงาน ซึ่งหากปล่อยให้เนิ่นนานไปความหายนะทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า เพราะเป็นการเอาเงินของประชาชนมาอุ้มธุรกิจเอกชนโดยไม่มีขีดจำกัดและไร้การควบคุม เป็นการเอาเงินของชาติมาหาเสียงในขณะเดียวกันเม็ดเงินทั้งหมดนี้ก็ตกไปอยู่กับนักธุรกิจพวกพ้อง เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

สำหรับเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ประชาชนก็ต้องจ่ายให้ผ่านทางค่าไฟฟ้าในส่วนของค่าเอฟที ซ้ำการขยายกิจการของ บริษัท ปตท. เพื่อผลกำไรของตัวเองก็ยังเป็นไปโดยขาดความรับผิดชอบต่อประชาชน โดยดูได้จากกรณีที่โรงไฟฟ้าต้องปรับแผนมาใช้น้ำมันเตาที่มีราคาสูงกว่ามาผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซที่ขาดหายไปเนื่องจาก บริษัท ปตท. ไม่ได้ส่งก๊าซมาให้เพราะต้องทำการปรับขยายท่อส่งก๊าซของตนเองอยู่

การกระจายหุ้นที่ไม่เป็นธรรมของ ปตท. ดังกล่าว เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากและทำให้แผนการนำ กฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่เป็นที่ไว้วางใจจากประชาชนและพนักงานรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป จนรัฐบาลทักษิณต้องออกมาประกาศว่าจะไม่ปล่อยให้มีหุ้นในส่วนของผู้มีอุปการะอีก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความเคลือบแคลงสงสัยที่เกิดขึ้นหมดไปได้ง่าย ๆ เพราะยังมีช่องทางหลีกเลี่ยงอีกมากมายหลายวิธีที่จะทำให้หุ้นส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือของนักการเมือง นักธุรกิจเพียงไม่กี่กลุ่ม กี่ตระกูล

การใช้เงินของชาติฮุบชาติในลักษณะนี้ไม่ใช่ความชาญฉลาดของนักธุรกิจการเมืองของไทยแต่อย่างใดที่คิดค้นวิธีกินชาติแบบนี้ขึ้นมาได้ เพราะพฤติกรรมลักษณะนี้นักการเมือง นักธุรกิจ ในหลายประเทศได้เคยประพฤติปฏิบัติจนตัวเองและพวกพ้องได้ดิบได้ดีแต่ประเทศชาติต้องวิบัติหายนะมาแล้วมากมายหลายประเทศ แต่คนส่วนใหญ่ในประเทศของเราไม่ค่อยได้รับรู้กัน



baron จาก von Richthofen  221.128.100.105  พฤหัสบดี, 17/11/2548 เวลา : 17:07   


คำตอบที่ 5
      



มดดำ จาก มดดำpct188  203.170.177.161  พฤหัสบดี, 17/11/2548 เวลา : 17:17   


คำตอบที่ 6
       ตอนนี้เขาตั้ง กฟผ. โทรคมนาคมแล้ว(หลังจากจดทะเบียนบริษัท1 วัน)และวันต่อมาก็ ให้เช่า fiber optic ที่ลากสายไปทั่วประเทศ (สายเส้นบนสุดบนเสาแรงสูง) ในราคา 75 ล้านบาทต่อปี คุณหญิงมาเซ็นสัญญามาตั้งแต่วันสองวันแรกที่ตั้งบริษัทแล้ว fiber optic 16 core = 6.5 Gbps x 16 = 1เทรลลาร์บิต/ วินาที เอาไว้ทำเป็น core network สำหรับโทรศัพท์ 3G และขาย content ผ่านระบบ 3G เนื่องจากต่อไปในอนาคต คนเราจะใช้ โทรศัพท์เพื่อเข้าหา content มากขึ้น

และเมื่อมี smart card ก็สามารถที่จะทำธุรกรรมการเงินและอื่นๆผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์ 3G ได้ ซึ่งประเทศเกาหลี นำมาใช้เต็มระบบแล้ว โดยค่าบริการอยู่ที่ transactionละ3 บาท และประเทศไทยก็จะนำมาใช้ต่อไป ซึ่งเครือข่าย pstnโทรศัพท์พื้นฐานไม่สามารถที่จะรองรับได้และมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่ามาก เนื่องจาก บ.ทศท. ต้องคิดราคาแพง เพราะais, dtac, hush,ta-orange เป็นคู่แข่งทางธุรกิจ


asean power grid คือการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าในภูมิภาค asean เข้าด้วยกันนั่นก็หมายความว่า ระบบ fiber optic ก็เชื่อมต่อกันไปทั่วภูมิภาค ก็เท่ากับว่า ใครก็ไม่รู้ มีระบบเครือข่ายขนาด 1 เทรลล่าร์บิต เชื่อมต่อทั่วภูมิภาค ตอนนี้เชื่อมต่อ กับ malaysia และ ลาว เรียบร้อยแล้ว กำลังรอพม่า ซึ่งรอไม่นาน

และเมื่อเชื่อมต่อกันครบแล้ว shin ก็จะมีเครือข่าย land line ที่มั่นคงกว่าระบบดาวเทียม เนื่องจากดาวเทียม กำลังจะหมดอายุ (การหมดอายุของดาวเทียม สาเหตุหลักมาจากเชื้อเพลิงที่บรรจุอยู่ในตัวดาวเทียมหมด ทำให้สถานีภาคพื้นไม่สามารถที่จะควบคุมวงโคจรของดาวได้) สบายไปเจ็ดชั่วโคตร อันนี้ที่อยากให้ใช้ smart card แต่ก็เห็นแก่เล็กแก่น้อยโกงกัน เลยยังไม่เกิด ถ้าเกิดขึ้นมา เราจะต้องทำธุรกรรมทุกอย่างผ่านเครือข่าย 3G ของ shin ยิ่งรวยหนักเข้าไปอีก

ที่ว่าขายหุ้น shin น่ะ ไม่น่าจะเกี่ยวกับการหนีไปอังกฤษ หรอก แต่ดาวเทียมของ shin sat นะไปทับวงโคจรดารเทียมของจีน แล้ว จีนก็ไปฟ้องเพื่อขอวงโคจรคืน เนื่องจากประเทศจีน กว้างมากการขยายเครือข่ายโทรคมนาคม ใช้ระบบ land line ไม่ไหว เพราะแพง

ทีนี้ดาวก็จะหมดอายุ ก็เลยขายถูกๆ เพราะจีนเองก็รู้ และจีนมีศักยภาพที่สามารถจะยิงดาวเทียมเองได้ จีนเขาไม่ยอม ก็เลยต้องขายโทศัพท์ gsm (2G) แถมไปด้วยเพื่อถอนทุนที่ได้ ไปลงกับ 3G ที่เตรียมจ่ออยู่แล้ว อย่านึกว่าแค่ที่ไทย ที่ลาวก็เอาด้วย เพราะที่ลาวมี โทรศัพท์มือถือแล้ว(ชื่อว่าแทงโก้ โทรปุ๊บติดปั๊บโลด วินาทีละ12 กีบ) เอาเข้าไป


ผมอนาจใจ จะเอาเงินที่กินอีกสิบชั่วโคตรก็ไม่หมดไปทำอะไรอีก เงินที่มีอยู่ในตระกูลแค่นี้ก็ซื้อประเทศไทยทั้งประเทศได้สามรอบแล้ว จะหาเพิ่มกันไปอีกเท่าไร ที่รัฐวิสาหกิจที่เจ๊งแล้วเจ๊งอีก อย่าง การรถไฟ หรือ รสพ. อีกทำไมไม่แปรรูป



baron จาก von Richthofen   พฤหัสบดี, 17/11/2548 เวลา : 17:23   


คำตอบที่ 7
      


ขอบคุณธนาคารข้อมูล manager ที่เอื้อเพื้อข้อมูลรายละเอียด ให้ผมนำมาขยายผลฝอยต่อ

อ่านแล้วคุณกรูปรีคิดว่าอย่างไร อย่าถามผมฝ่ายเดียว ผมอยากให้ตอบกลับด้วยว่าอ่านแล้วคิดว่าอย่างไร

แปรรูปดีหรือไม่ดี ลองตอบสั้นๆดูครับ




baron จาก von Richthofen   พฤหัสบดี, 17/11/2548 เวลา : 17:32   


คำตอบที่ 8
       วงในก็รู้กันอยู่ แต่ประชาชนชั้นกลางลงมาที่ไม่มีกำลังซื้อ มองไม่ถึง และไม่รู้ข้อมูลรายละเอียด รวมทั้งไม่เข้าใจในขั้นตอนที่แยบยล ก็จะไม่ค่อยใส่ใจ ไม่สนใจ เพราะเป็นเรื่องไกลตัว แหมค่าไฟขึ้นก็ต้องใช้ก็ต้องจ่าย นี่แหล่ะเมืองไทยในอนาคตที่ทรัพย์สินของชาติกำลังถูกเขมือบจนสิ้น Team-Work ที่น่ากลัวมากๆๆๆ ครับ



rin จาก Rin  203.144.177.26  พฤหัสบดี, 17/11/2548 เวลา : 20:08   


คำตอบที่ 9
      


ผมมันความรู้หาง(ลูกอ๊อด) อึ่ง เผอิญเคยเป็นศิษย์เก่า

พฤษภาทมิฬ เพราะตอนนั้นเป็นมนุษย์เงินเดือนเเถวสีลม

เลยติดตามมาเป็นระยะไม่ให้ลืม


มีอะไรเล็กๆ น้อยๆมาฝากเพิ่มเติมครับก่อนครับ

อาร์เจนตินา : ภาควิเคราะห์ (1)

ขอขอบคุณศาลปกครองสูงสุดที่มีคำสั่งให้ชะลอการขายหุ้นของบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) แต่ผมก็ต้องขอเตือนพี่น้องประชาชนคนไทยนะครับ ว่าอย่าประมาท เพราะนี่ไม่ใช่การให้ระงับ การกระจายขายหุ้น กลุ่มนายทุนยังรอศาลพิจารณาพระราชกฤษฎีกาของ กฟผ.ว่าจะมีผลออกมาอย่างไรในอนาคต

โอกาสนี้ นิติภูมิขอรับใช้เรื่องราวของอาร์เจนตินา เพื่อที่ผู้อ่านท่านจะได้จินตนาการเห็นภาพ ผมอยากให้ผู้อ่านท่านได้ฟันธงไปเลยว่า อาร์เจนตินาล่มสลายหายไปจากความเป็น ประเทศแถวหน้าเพราะอะไร แต่การฟันธงจะต้องไม่ใช่ฟันสุ่มสี่สุ่มห้า ต้องพิจารณาจากข้อมูลองค์ประกอบทุกอย่าง

อาร์เจนตินาเป็นสาธารณรัฐที่มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์มาก ดินที่นั่นดีขนาดโยนเมล็ดพันธุ์พืชอะไรลงไปก็งอกหมด อาร์เจนตินาจึงสามารถปลูกพืชผลที่ทั้งใช้บริโภคภายในประเทศ และยังส่งเป็นสินค้าออกได้อีกด้วย ประเทศนี้จึงเป็นประเทศแถวหน้า ในการส่งออกข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวไรย์ ทานตะวัน ฝ้าย และแฟลกซ์ ผู้อ่านท่านอาจจะงงว่าอะไรคือแฟลกซ์ แฟลกซ์คืออะไร? แฟลกซ์เป็นต้นไม้ที่เราเอาเมล็ดมันไปทำนํ้ามันลินสีด เราใช้นํ้ามันลินสีดละลายหมึก สี และทำพรมนํ้ามัน

ผมเคยตระเวนไปในคามนิคมชนบทที่อยู่ตามริมแม่นํ้าลำคลองของอาร์เจนตินา ใครหลายคนมักจะชมกับผมว่า แผ่นดินริมทะเลสาบเขมรซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ต่อกับเขตที่ตํ่าของลุ่มนํ้าโขงนั้น โอ้โฮ ดินดีเป็นบ้า เป็นดินที่มีสภาพอุดมสมบูรณ์น่าจะเกือบที่สุดแล้วในโลกใบนี้ ผมอยากจะขอท้าคุณภาพดินในอาร์เจนตินาครับ โดยเฉพาะผืนดินสองข้างแม่นํ้าปารากวัยและแม่นํ้าอุรุวัย แม่นํ้าทั้งสองไหลลงรีโอเดลาปลาตาที่เป็นปากแม่นํ้ากว้างใหญ่ไพศาลมาก ผู้อ่านท่านอย่าคิดว่าแม่นํ้าปารากวัยและแม่นํ้าอุรุกวัยนี่เป็นแม่นํ้าสายสั้นๆ ต้องเรียนว่าไม่สั้นเลย เรือโดยสารและเรือบรรทุกวิ่งไปมาในแม่นํ้าทั้งสองได้ยาวเกือบ 3,200 กิโลเมตร ยาวกว่าทางเหนือของไทยลงไปถึงใต้สุดซะอีก

เมื่อสมบูรณ์พูนสุขอย่างนี้แล้ว อาร์เจนตินาเจ๊งได้ยังไง? ประชาชนพลเมือง 39 ล้านคนอดอยากปากแห้งไม่มีอะไรจะกินกันได้อย่างไร? กรณีศึกษาเรื่องความล้มเหลวของสาธารณรัฐอาร์เจนตินาเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุด และโปรดอย่าคิดว่าจะไม่มีโอกาสเกิดกับประเทศอื่น ประเทศใดก็ตามถ้ามีวิธีบริหารและจัดการกับประเทศในแบบเดียวกัน บั้นปลายท้ายที่สุด ก็มีโอกาสลงเหวคล้ายๆกัน

ปัญหาที่อาร์เจนตินาโดนอยู่ทุกวันนี้ สะสมมาจากรัฐบาลในอดีตที่มีนโยบาย “ประชานิยม” ผมขอย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2489 พันเอก ฮวน โดมิงโก เปรอน สมัครประธานาธิบดีอาร์เจนตินาครั้งแรก ท่านปล่อยนโยบายประชานิยม เอาใจพวกคนชั้นล่าง พวกที่เป็นเกษตรกรและกรรมกร เปรอนหวัง แต่คะแนนอย่างเดียว แจกอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงว่าประชาชน คนอาร์เจนตินาจะเสียนิสัยและวินัยในการดำเนินชีวิต เปรอนให้สัญ-ญาดะ จะให้ที่ดินทำกิน จะขึ้นค่าแรง จะให้ความมั่นคงทางสังคม

นโยบายลดแลกแจกแถม ทำให้สมาชิกพรรคเปรอนได้รับเลือกตั้งเข้าไปเป็น ส.ส.มากถึง 2 ใน 3 ส่วนในวุฒิสภานั้น สมาชิกพรรคเปรอนกวาดเกือบหมด เหลือไว้ให้ฝ่ายค้านเพียง 2 เก้าอี้

ที่จริง ด้านสติปัญญาความสามารถของเปรอน ก็เพียงแต่แค่สติปัญญาของพันตำรวจโท เอ๊ย ของพันเอกธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น นโยบายต่างๆที่ออกมาโดนใจประชาชนชั้นล่างส่วน มากมาจากภรรยาคนที่ 2 ของเปรอนที่เคยเป็นดารานักแสดง ผู้อ่านท่านคงจะคุ้นชื่อเธอกันมาบ้างแล้วละครับ คือ เอวา ดัวร์เต เด เปรอน หรือที่คนทั่วโลกเรียกเธอว่าเอวิตา เอวิตาจัดการด้านแรงงานสัมพันธ์และบริการสังคม ตั้งองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือคนยากจน ขึ้นค่าแรงงานกรรมกรอย่างเต็มที่ มีโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค เอ๊ย มีการประกันสังคม ฯลฯ

อาร์เจนตินามีพลเมือง 39 ล้านคน ร้อยละ 97 ของพลเมืองทั้งหมดเป็นพวกที่มีเชื้อสาย สเปนและอิตาลี พวกนี้เดิมเป็นพวกที่มีวัฒนธรรมแข็ง ขยัน และมีวินัยในการใช้เงินและการใช้ชีวิตที่เคร่งครัดระมัดระวังมาก

โดนนโยบายประชานิยมของเปรอนและเอวิตา สองคนผัวเมียเข้าไปไม่กี่ปี อาร์เจนตินาเละเป็นโจ๊ก ขี้เกียจ และผู้คนติดนิสัยเลวมาจนกระทั่งถึงทุกวันปัจจุบันนี้.

นิติภูมิ นวรัตน์










ทีเเรกก็ไม่ได้สนใจเรื่องเเปรรูปนัก เห็นเขาประท้วงก็

คิดว่าเป็นเหมือนเรื่องทั่วๆไป เพราะ " เชื่อใจ " ว่า รัฐบาล

มียอดคนเข้าไปบริหารบ้านเมืองเป็นคณะขนาดนั้น คงไม่

มีใครที่มีใจคิดไม่ดีเเน่ๆ เเต่นานวัน

ข้อมูล ข่าวสาร รวมถึงประเด็น ปตท. ที่ออกมาทำให้เริ่ม

ตะขิดตะขวงใจอย่างไรชอบกล เวลา ปตท.เเถลงกำไร

ผมนั่งน้ำตาตกใน เพราะกำไรไปอยู่ในกระเป๋าใครเเค่

ไม่กี่คน ต่อมา กฟผ.อีก ความสงสัยจนไม่ต้องสงสัยอีก

เเล้วว่า " มันเอาอีกเเน่ๆ " เเล้วลูก หลาน ผมจะอยู่อย่างไร

อาร์เจนติน่าก็เป็นตัวอย่าง ยังไม่เรียนรู้


" รู้อย่างเดียวคือ สมบัติของเเผ่นดิน ที่จะเอามาเป็น

สมบัติตน "



ที รถไฟ รสพ ฯลฯ ไม่ไปเเปรรูป อย่างนี้เรียก

"เปิดถ้วยเเทงนี่นา"


ก็ได้เเต่หวังว่าเรื่องบ้าๆ ร้ายๆเช่นนี้จะไม่เป็นไปตามที่

มวลเหล่าร้ายต้องการ ผมไม่อยากเห็นการสูญเสียใน

เเผ่นดินอีกครา พฤษภาทมิฬเริ่มจางหายจากความรู้สึกไป

บ้างในบางครั้งเเต่ไม่รู้ทำไม ช่วงนี้ หัวใจเริ่มเต้นถี่ๆอีกครั้ง

เหมือนวันไปนั่งบนถนนราชดำเนิน เคาะขวดน้ำพลาสติก

ปากก็ร้องว่า

" ออกไป ออกไป ออกไป "

ผมไม่คิดมากเท่าไหร่กับเรื่องเเบบนี้ เพราะ.....





" ก็คนมันไม่รู้จริงๆนี่ครับ "






อนึ่ง ขออภัยที่ภาพประกอบไม่สุภาพ ถือว่าคนโดนถีบเป็นประชาชนหน้าโง่ โดยฝีมือเหล่าร้ายที่คิดร้ายบ้านเมืองก็เเล้วกันนะครับ ( ฮาไม่ออก ครับ )






จาก Kupree  203.155.94.129  พฤหัสบดี, 17/11/2548 เวลา : 22:05   


คำตอบที่ 10
       อ่านกันให้ขาดครับ เรื่องที่องค์กรเพื่อผู้บริโภคออกมาเคลื่อนไหว เชื่อว่าได้รับใบสั่งจากใครบางคนมาให้ส่งเรื่องให้ศาลปกครองพิจารณาและรู้ด้วยซ้ำว่าศาลฯตั้งสั่งให้เลื่อนการกระจายหุ้นออกไปก่อน ทำให้นักลงทุนต่างชาติที่เตรียมเข้ามาซื้อหุ้นเกิดความลังเล ในเบื้องต้นจึงหันไปเล่นหุ้นพลังงานตัวอื่นแทน รวมทั้งชาวบ้านร้านตลาดก็เกิดความกังวลในความไม่แน่นอนในเรื่องนี้เช่นกัน ทำอย่างนี้แล้วจะมีผลเช่นไรนั่นหรือครับ สุดท้ายก็ต้องกระจายหุ้นในตลาดอยู่ดี แต่อาจจะเป็น 2-3 เดือนข้างหน้าหรือไม่แน่อาจจะลากยาวไปถึงปีกลางหน้าโน่น เมื่อถึงเวลานั้นหุ้นจะไม่เป็นที่ต้องการของนักเล่นหุ้นมากนักเทียบกับถ้าเข้าตลาดตอนนี้ ทำให้ราคาต่อหุ้นถูกลง เงินที่ได้จากการระบายหุ้นตัวอื่นๆตอนนี้ ก้จะได้จำนวนหุ้นมากขึ้นกว่าเดิม
ท่านรู้ไหมว่า ที่เขาอ้างว่าให้ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ถ้ายังงั้นจะไม่มีเงินขยายโครงการนั้น ท่านรู้กันหรือไม่ว่า กฟผ.สามารถไปขอกู้เงินจากเวิลด์แบ้งค์ได้เอง โดยเอาโครงการจำนองไว้ คล้ายกับเวลาที่เราไปซื้อบ้านโดยผ่านแบ้งค์นั่นแหละ เพราะอย่างไงเวิลด์แบ้งค์ก็รู้ว่าโครงการของ กฟผ.ไม่ขาดทุนแน่นอน แต่ กฟผ.ไม่สามารถนำเสนอแบ้งค์เองได้ ต้องขอผ่านมติจาก ครม.พิจารณาก่อน โดย กฟผ.เสนอว่ารัฐบาลไม่ต้องอุ้ม กฟผ.ให้เป็นภาระหรอก กฟผ.จะไปหาเงินเองก็ได้ เพียงแต่ว่ารัฐบาลต้องปลดล็อคเรื่องบางเรื่องให้ เช่น เรื่องที่ต้องขออนุมัติ ครม.เป็นต้น แต่รัฐบาลปฎิเสธ ในทำนองที่บอกว่ายังไง กฟผ.ก็ต้องขาย(ถูกๆให้กู) เรื่องขาย กฟผ.นี่ไม่ใช่เพิ่งมาเป็นตอนรัฐบาลแม้วนี้นะครับ มันมีมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้านั้นแล้ว ที่รู้ว่าผู้สนับสนุนทางการเมืองรายใหญ่ถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์ จึงต้องหาทุนมาสู้กะพรรคการเมืองใหม่ที่ทุนหนากว่าจากการที่ให้เช่าดาวเทียม ดังนั้นนักการเมืองจากพรรคแม่ธรณีบีบมวยผมจึงวางแผนเสนอขายให้ต่างชาติ โดยอ้าง พรก. 11 ฉบับสมัยเป็นหนี้ IMF. โดยตั้งนายปิยะสวัสดิ์ ฯมานั่งนโยบายและแผนล่วงหน้าว่าในสิบปีข้างหน้าต้องขยายโรงไฟฟ้าไม่งั้นมีไฟไม่พอใช้ และให้นายสาวิตฯมานั่ง รมต.ดูแลกำกับ กฟผ. แต่ขายไม่ได้เพราะถูกต่อต้านจาก กฟผ.(ทั้งผู้บริหารและพนักงาน) จนหมดวาระทางการเมืองไป แล้วไอ้พรรคมือถือมันได้มานั่งบริหารบ้านเมืองแทน ก็หวานคอแร้งซิครับ มีคนทำเรื่องรอไว้ให้ขายอยุ่แล้ว แถมตอนหาเสียงยังหาเสียงไว้ว่าจะยุบ พรก.11 ฉบับเพราะเป็น พรก.ขายชาติ แต่พอได้มาเป้นนายกแล้วทำแกล้งลืมและอาจจะพูดในใจว่า ยุบกูก็โง่เด่ะ กูขายเองดีกว่า พอได้มาเป็นนายกมันก็ยุให้ผู้บริหาร กฟผ.และพนักงานแตกกัน เหมือนที่มันกำลังยุครูให้ทะเลาะกันตอนนี้อย่างไงอย่างงั้นเลยหละ โดยฝ่ายบริหารมันเอาผลประโยชน์เข้าล่อบอกว่าให้ไปดูบ้านของ ไอ้เสริฐ ณ.ปตท. กับ ไอ้มิ่งขวัญ ณ.อสมท. ว่าขายรัฐวิสาหกิจแล้วความเป็นอยู่เป็นอย่างไร จึงเป็นเหตุให้ต้องเปลี่ยนผู้ว่าการถึง 2 คนในเวลาไล่เลี่ยกัน
อะไรไม่ว่า มันหน้าน้อยใจตรงที่พวกผมออกมาต่อต้านคัดค้าน การแปรรูปกัน กลับถูกสื่อและชาวบ้านออกมาด่าว่าที่ประท้วงกันเพราะห่วงหม้อข้าวตัวเอง ถ้าสื่อและภาคประชาชนออกมาศึกษาข้อมูลซักนิด กฟผ.คงไม่ถูกยุบสภาพเป็นบริษัทฯ และนำหุ้นไปกระจายให้วุ่นวายอย่างในขณะนี้
แต่ที่ระวังตอนนี้คือ จะตกเป็นเครื่องมือของคนบางกลุ่ม





จาก คนบริษัท กฟผ.จำกัด(มหาชน)  202.44.210.31  ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 08:41   


คำตอบที่ 11
       ฤาไทยจะเป็นอาร์เจนตินา 2 –???
• ประท้วงรายวัน
• ธุรกิจเป็นของต่างชาติเกือบหมด
• ห้างต่างชาติเต็มประเทศ
• รัฐวิสาหกิจ ถูกแปรรูปหมดทุกอย่าง
• ประชาชนเดือดร้อนถูกหย่อมหญ้า
• ที่ดินเกือบครึ่งประเทศ เป็นของต่างชาติ จอร์จ โซรอสด้วย
• รัฐบาลอ่อนแอ
• ถนน ก็เป็นของต่างชาติ จะไปไหม มาไหน ต้องจ่ายค่าทาง
• น้ำประปา เป็นบริษัทต่างชาติ
• ไฟฟ้า เป็นบริษัทต่างชาติ
• การปิโตรเลียมเป็นของต่างชาติ
• เป็นประเทศล้มละลาย หนี้สิน 6.6 ล้านล้านบาท
• เป็นประเทศที่เคยร่ำรวย แต่ประสบกับความล้มละลาย

“คนอาร์เจนตินา พึ่งมาตื่นตัว เมื่อสายเสียแล้ว” อ.อมรินทร์ คอมันตร์

“อาร์เจนตินา สายเกินไปซะแล้ว”

หรือ คนไทย จะรอให้ ประเทศไทย เป็น อาร์เจนตินา -2 ?????????
ดู vcd ความล้มเหลวของอาร์เจนตินา เมื่อรัฐบาลแปรรูปหมดทุกอสิน่ากัย่าง
Download ได้ที่

http://files.photojerk.com/ihud/1131337246/Argentina.wmv
หรือ
http://s22.yousendit.com/d.aspx?id=11QWVRWFJYQYF3A48W83IRG8Y1
หรือ
ดูสิน่ากลัวมาก

ความคิดเห็นที่ 270

ผู้นำนายทุนปล้นชาติ

นิติภูมิไม่เห็นด้วยกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจช่วงที่อาร์เจนตินาแตกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม พ.ศ.2545 ผมได้ไปใช้ชีวิตอยู่บนชั้นที่ 10 อาคารเลขที่ 883 ถนนแอฟวะนิว-คอร์โดบา กรุงบูเอโนสไอเรส

เลขานุการชั่วคราวบนชั้นที่ 10 มีชื่อว่า นางอเดรียนา นูเนียซ

อเดรียนาเคยทำงานอยู่ในรัฐวิสาหกิจผลิตแก๊สที่ชื่อ ทรานสปอรตา โดรา เด กาซ เดล นอรเต ทำมาตั้งแต่จบการศึกษาใหม่ๆ จนถึง พ.ศ.2537 ประเทศของเธอก็มีประธานาธิบดีที่อยาก จะรวยเร็ว รวยล้นฟ้า วิธีที่จะทำให้รวยเร็วล้นฟ้าก็คือ การขายสมบัติของชาติให้กับ พรรคพวกของตนในราคาถูก ในห้วงช่วงตอนแรก สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจลุกขึ้นมาคัดค้าน รัฐบาลอาร์เจนตินาสมัยนั้นก็ฉลาด ประกาศให้เศษหุ้น 5% กับพนักงาน พนักงานของรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่จึงเงียบ

เงินมา ขาหยุด (เดินขบวน),

โฆษณามา ปากกาหยุด (เขียนความจริง)

อเดรียนาก็เงียบด้วยเมื่อรัฐบาลประกาศจะให้หุ้นพนักงาน 5%

การแปรรูปในอาร์เจนตินาก็จึงเริ่มทำกันครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2537...

...ทรานสปอรตา โดรา เด กาซ เดล นอรเต รัฐวิสาหกิจที่ผลิตแก๊สธรรมชาติทางเหนือ ของประเทศ ถูกนำมาออกขายให้ประชาชนก่อน ภายในเวลาไม่นานนัก บริษัทโนวาคอร์ปของแคนาดาก็สามารถรวบรวมหุ้นไว้ได้ทั้งหมด สมบัติชาติชิ้นนี้จึงกลายเป็นของบริษัทต่างชาติภายในเวลาไม่ถึง 5 ปี

...ทรานสปอรตา โดรา เด กาซ เดล โซร รัฐวิสาหกิจผลิตแก๊สทางตอนใต้ ก็ถูกรัฐบาลแปรรูปเช่นกัน ตอนแรกขายให้บริษัทเอกชนอาร์เจนตินา ภายในเวลาไม่นาน หุ้นทั้งหมดก็ถูกขายไปให้บริษัทเอ็นรอนของสหรัฐฯ

...รัฐวิสาหกิจดิสตรี บูดีโอรา เมโทรโปลิตานา ผู้นำอาร์เจนตินาในสมัยนั้น ก็ขายให้กับบริษัท บริติชแก๊สของอังกฤษ

...รัฐวิสาหกิจดิสตรี บูดีโอรา บูเอโนสไอเรส นอรเต ผู้นำกระหายเงินได้ยักย้าย ถ่ายเทนำออกมาขายให้นักการเมืองที่เป็น พรรคพวกเพื่อนฝูงและพี่น้อง เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง เมื่อประชาชนเริ่มลืม พวกเพื่อนฝูงพี่น้องของมัน (มันก็คือผู้นำกระหายเงิน) ก็รวบรวมเอาไปขายให้บริษัทสเปนที่มีชื่อว่า บริษัทเร็ฟซอล

...เมื่อรัฐวิสาหกิจเซนโตร กูซานา ถูกแปรรูปแล้ว หุ้นทั้งหมดก็ถูกรวบรวมไปขาย ให้บริษัทอิตัลแก๊สของอิตาลี

การประปาแห่งอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีชื่อว่า โอบาสซานิตาริอาส ชั่ว (คือผู้นำนายทุนกระหายเงิน) มันจัดการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งมันขายให้บริษัท ลีอองเนส แด โช ของฝรั่งเศส สำหรับส่วนที่สอง มัน (มันก็หมายถึงผู้นำนายทุน ปล้นสมบัติชาติ) และพวกของมัน (หมายถึงกลุ่มรัฐมนตรีนายทุนHeam' อำมหิตปล้นสมบัติชาติ) ก็ค่อยๆทยอยซื้อสะสมจากผู้ถือหุ้นชาวอาร์เจนตินา เพื่อนำไปขายให้บริษัท แองกลิแอนของอังกฤษ

องค์การโทรศัพท์และสื่อสารแห่งอาร์เจนตินาที่มีชื่อว่าเทเลคอมและเทเลโฟนิกา มัน (หมายถึงกลุ่มHeamอำมหิตปล้นสมบัติชาติ) ก็แปรรูปHeanเต้ไม่เหลือ บั้นปลายท้ายที่สุด มีบริษัท 3 แห่งไปกวาดซื้อหุ้น คือ บริษัท เอสทีอีทีของอิตาลี บริษัท ฟรองซ์ เคเบิ้ล เอ ราดิโอ ของฝรั่งเศส และบริษัท เทลโฟนิกา เด เอสปายา ของสเปน

สายการบินแห่งชาติที่มีชื่อว่า เอโรลิเนียส อาร์เกนตินาส มัน (ผู้นำนายทุนชั่ว) ก็จัดการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ก่อนที่จะจัดการแปรรูป สุดท้าย พรรคพวกของมัน (ผู้นำนายทุนชั่ว) ก็จัดการรวบรวมเอาไปขายให้บริษัท อีเบเรียของสเปน

เดิมในอดีต นางอเดรียนาเคยเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ตอนที่เจอกันกับผมนั้น เธอตกงานและไม่มีอะไรจะกิน สุดท้ายได้งานเป็นเลขานุการชั่วคราวเพื่อหาเศษเงินมา ประทังชีวิต ผมไม่สงสารนางอเดรียนาแม้แต่น้อย เพราะเธอเคยละโมบโลภมาก เคยหลงใหลได้ปลื้มในเศษหุ้น 5% และเงินชดเชยที่รัฐบาลเอามาล่อ

เพราะละโมบ ชะตาหลังจากนั้นของเธอถึงตกต่ำ

อาร์เจนตินาแปรรูปได้ไม่ถึง 10 ปี ประเทศก็เจ๊ง คนส่วนใหญ่ยากจน โสเภณีเต็มเมือง คนกลุ่มน้อยรวยล้นฟ้า สื่อทุกชนิดถูกปิดปาก (ด้วยโฆษณา)

ผู้นำกลายเป็นอดีตผู้นำผู้ร่ำรวย อพยพไปใช้เงินอยู่ที่สเปน.

นิติภูมิ นวรัตน์






จาก Kupree  203.155.94.129  ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 09:52   


คำตอบที่ 12
       “ประชาธิปัตย์” อัด แปรรูป กฟผ.เป็นพฤติกรรม “ไทยขายไทย” แฉยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสารตั้งบริษัทลูกแต่งตัวรอ เพื่อตักตวงผลประโยชน์ล่วงหน้า เผยนักการเมืองเตรียมอาศัยช่องโหว่ซื้อหุ้นผ่านกองทุนต่างประเทศ ขณะที่รัฐบาลยังไม่มีมาตรการควบคุม

วันนี้ (13 พ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์เพิ่งออกมากระตือรือร้นคัดค้านการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ (กฟผ.) ในช่วงก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า เป็นเพราะข้อมูลที่ถูกปกปิดหลายเรื่องเพิ่งถูกเปิดเผยหลังจากที่รัฐบาลออกไปโรดโชว์กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยนักลงทุนต่างประเทศได้แสดงความเป็นห่วงในการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมากำกับดูแล กฟผ.หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว แต่จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการดังกล่าวหรือมีกฎหมายออกมารองรับ นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการแปรรูปของ กฟผ.มีเพียงผู้ถือหุ้นรายใหญ่เท่านั้น ในขณะที่ผลกระทบในอนาคตต้องตกเป็นภาระของผู้ใช้ไฟฟ้า หรือประชาชน 60 ล้านคน

“การแปรรูป กฟผ.เป็นพฤติกรรมของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคไทยรักไทย หรือเป็นพฤติกรรมไทยขายไทย เพราะเป็นการขายสมบัติของชาติให้เป็นสมบัติของผู้ถือหุ้นอย่างไร้ยางอายที่สุด โดยในอนาคตจะมีเพียงคนไม่กี่คนได้ประโยชน์ในรูปแบบประโยชน์ซ่อนเร้นและรูปแบบอื่นๆ” นายองอาจ กล่าว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันที่ 14 พ.ย. เวลา 13.00 น. พรรคร่วมฝ่ายค้านจะจัดเวทีสาธารณะในเรื่อง “การแปรรูป กฟผ.เพื่อประโยชน์ของใคร” ที่ห้องประชุมงบประมาณ อาคารรัฐสภา 3 โดยเชิญนายวิเศษ จูภิบาล รมว.พลังงาน และผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ซึ่งหวังว่านายวิเศษจะไม่ปฏิเสธมาร่วมงานดังกล่าว เพราะในช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ย. นายวิเศษต้องไปชี้แจงที่ศาลปกครอง จึงขอความกรุณาให้ รมว.พลังงานมาพูดความจริงต่อหน้าประชาชน แต่หากนายวิเศษปฏิเสธแสดงว่ารัฐบาลไม่จริงใจต่อปัญหาด้านพลังงานของชาติ และมีวาระซ่อนเร้นในการนำ กฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์

นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ต่อการแปรรูป กฟผ.จากกลุ่มตัวอย่าง 895 คน โดยเป็นข้าราชการของรัฐและพนักงาน 329 คน โดยพบว่า 57.1% ไม่เห็นด้วยกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ 40% ไม่เชื่อว่าหลังแปรรูป กฟผ.จะมีประสิทธิภาพดีขึ้น 66.7% ไม่เชื่อว่าการกระจายหุ้นจะตกอยู่ในมือประชาชนอย่างทั่วถึง 59.6% ไม่เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม 55.7% เชื่อเป็นการขายสมบัติของชาติ ซึ่งโพลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความกังขาในการแปรรูปของ กฟผ.

นายเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นรวมถึงวาระซ่อนเร้นเรื่องผลประโยชน์อื่นหรือไม่ เพราะ กฟผ.เป็นกิจการขนาดใหญ่มีสายส่งทั่วประเทศ ซึ่งมีโครงข่ายควบคุมมากที่สุดกว่าโครงข่ายอื่น ไม่ว่า กสท โครงข่ายโทรศัพท์อื่น ซึ่งสายส่งไฟฟ้าได้มาจากการลงทุนโดยภาษีของประชาชน โดยการเวนคืนการลิดรอนสิทธิ ซึ่งได้รับเงินชดเชยเพียง 25% ดังนั้น การแปรรูป กฟผ.ซึ่งรวมถึงสายส่งด้วยเป็นเหตุให้บริษัทกิจการโทรคมนาคมบางบริษัทต้องการใช้ประโยชน์จากสายส่งเพื่อเพิ่มกำไรเป็นทวีคูณ และเป็นเทคโนโลยีในอนาคตโดยระบบการส่งผ่านข้อมูลใยแก้วนำแสงที่สามารถส่งผ่านข้อมูลโดยระบบดิจิตอล และสามารถประยุกต์ใช้ในธุรกิจหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเคเบิลทีวี อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โทรศัพท์อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถพัฒนาไปถึงขั้นส่งข้อมูลผ่านสายไฟฟ้า หรือเรียกว่า Broadband over power lines (BPL)

นายเกียรติ กล่าวว่า การลงทุนดำเนินกิจการดังกล่าวหากต้องพัฒนาสายส่งทั่วประเทศจะต้องลงทุนมหาศาลไม่คุ้มค่าการลงทุน แต่กรณี กฟผ.ได้ตั้งบริษัทลูกชื่อ กฟผ.โทรคมนาคม หรือ Egat Telecom เพื่อนำเครือข่ายสื่อสารใยแก้วนำแสงดำเนินการติดตั้งไว้ตั้งแต่ก่อนแปรรูปเพื่อให้เอกชนเช่าข้อมูลสื่อสาร ซึ่งมีช่องสัญญาณขนาด 155 ล้าน bps เชื่อมต่อไปยังภาคเหนือ อีสาน และได้เร่งส่งสัญญาณไปยังภาคใต้ และภาคตะวันออกให้เสร็จก่อนการกระจายหุ้น ทั้งๆ ที่ระบบสายส่งเป็นตัวถ่วงการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีมูลค่าไม่ถึง 1 ใน 10 แต่การที่ กฟผ.มีสายส่งทั่วประเทศจึงเป็นไปได้ว่าจะมีธุรกิจด้านโทรคมนาคมมาเกี่ยวข้องด้วยโดยไม่ต้องลงทุนสูง

“เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดด้านโทรคมนาคมของไทยได้ตั้งบริษัทลูกขึ้นมาใหม่อีก 3 บริษัท คือ บริษัทที่ลงท้ายด้วยไวร์เลส คอมมิวนิเคชัน เน็ตเวิร์ก จำกัด บริษัทที่ลงท้ายด้วยไวร์เน็ตเวิร์ก จำกัด และบริษัทที่ลงท้ายด้วยอินเตอร์เนชันแนล เน็ตเวิร์ก จำกัด ซึ่งหลายคนเริ่มสงสัยว่า ทำไมมันจะประจวบเหมาะคล้องจองกันเช่นนี้ โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นการแต่งตัวรอ เพื่อตักตวงผลประโยชน์จาก กฟผ.ในอนาคตหรือไม่ ซึ่งบริษัทเอกชนที่ลงทุนด้านโทรคมนาคมต้องการเข้าไปใช้สายส่งของ กฟผ.ที่มีอยู่แล้วทั่วประเทศ ดังนั้น กฟผ.และผู้บริหารในบริษัทโทรคมนาคมต้องออกมาชี้แจงข้อมูลทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเข้าข่ายต้องการฮุบกิจการและมีผลประโยชน์ต่างตอบแทนเกิดขึ้น” นายเกียรติ กล่าว

นายเกียรติ กล่าวว่า พรรคอยากถามไปยัง กฟผ.ว่า กฟผ.มีอำนาจในการเดินสายใยแก้วนำแสงคู่กับสายส่งไปทั่วประเทศหรือไม่ และการดำเนินธุรกิจให้เช่าเครือข่ายใยแก้วนำแสงเพื่อการสื่อสารข้อมูลนั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะหากระบบสายเคเบิลใยแก้วนำแสงถูกควบคุมโดยเอกชนเพียงรายเดียว ระบบสื่อสารโทรคมนาคมทั้งโทรทัศน์ โทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตทั้งหมดจะถูกควบคุมโดยบริษัทเดียว เพื่อคนเพียงคนเดียว แล้วเวลานั้นคนไทยจะเหลืออะไร ประชาธิปไตยของคนจะเป็นอย่างไร เพราะคำตอบสุดท้ายของการแปรรูปของกฟผ.คือ ผลประโยชน์ในกิจการโทรคมนาคมหรือไม่

ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ตนได้ยินว่าขณะนี้สาเหตุที่พนักงาน กฟผ.ไม่กล้าออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการแปรรูป เนื่องจากมีผู้ใหญ่ออกมาขู่ว่าหากใครเคลื่อนไหวจะถูกไล่ออกและให้ไปฟ้องศาลปกครองเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อนกลับมาทำงาน หรือตัดเงินเดือนเป็นเวลา 3 เดือน จึงทำให้ไม่มีใครกล้าออกมาพูด ดังนั้น เรียกร้องให้สหภาพแรงงานออกมาปกป้องพนักงานและขอให้ผู้บริหาร กฟผ.ออกมาชี้แจงว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

นายเกียรติ ยังได้ความเป็นห่วงในเรื่องการกระจายหุ้น โดยหยิบยกกรณี ปตท.ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ จะเห็นได้ว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3-4 รายเป็นกองทุนจากต่างประเทศ จึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์

นายกรณ์ จาติกวณิช รองเลขาธิการประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การแปรรูป กฟผ.จะมีผลต่อตลาดทุนในประเทศไทย ที่ผ่านมาแม้ราคาหุ้นของบริษัทต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์จะเพิ่มขึ้น แต่การลงทุนในตลาดทุนกลับไม่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของตลาดหลักทรัพย์ และราคาหลักทรัพย์ของไทยก็ถูกนักวิเคราะห์ระบุว่าต่ำสุดในเอเชีย ซึ่งจากรายงานสถาบันการลงทุนระหว่างประเทศระบุถึงสาเหตุของตลาดทุนไทยไม่กระเตื้องเป็นเพราะไม่มีใครกล้าลงทุน เพราะขาดหลักธรรมาภิบาล ภาวะขึ้นลงของตลาดหลักทรัพย์ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล หรือ ครม. ซึ่งมีการแทรกแซงตลาดหลักทรัพย์ตลอดเวลา หรือที่ต่างประเทศเรียกว่า ระบบเศรษฐกิจตามสั่ง โดย 40% ที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เป็นคนในครม.และคนใกล้ชิด ครม. ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดในโลก ไม่มีความโปร่งใส

“หากตลาดหลักทรัพย์ของไทยอยู่ภายใต้การดูแลที่มีธรรมาภิบาล ราคาหุ้นของ กฟผ.ที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์จะดีกว่านี้ เพราะความเสี่ยงของนักลงทุนจะน้อยลง ประกอบกับรัฐบาลไม่ตั้งองค์กรอิสระดูแลและกฎหมายรองรับ จึงเหมือนว่าความอิสระที่จะเกิดขึ้นอยู่ภายใต้การดูแลของ ครม.หรือฝ่ายการเมือง ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลทบทวนและตระหนักก่อนนำ กฟผ.แปรรูป” นายกรณ์ กล่าว

รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลไทยดูตัวอย่างของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งก่อนจะมีการแปรรูปการไปรษณีย์ได้เกิดข้อสงสัยจากประชาชนอย่างมาก จึงทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยวัดกระแสตอบรับจากประชาชนในเรื่องนี้ และสุดท้ายรัฐบาลญี่ปุ่นชุดเดิมได้รับเลือกเข้ามา แสดงว่าประชาชนนิยมในนโยบายของรัฐบาล แต่การแปรรูป กฟผ.ของไทย รัฐบาลกลับไม่มีการทำประชามติเพื่อให้เกิดความแน่ใจว่านโยบายรัฐบาลจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน

นายกรณ์ กล่าวว่า การแปรรูปของ กฟผ.ยังมีช่องโหว่ โดยเฉพาะการกระจายหุ้น 1,245 ล้านหุ้น โดยเป็นนักลงทุนต่างประเทศ 374 ล้านหุ้น นักลงทุนในประเทศ 625.5 ล้านหุ้น บริษัทจัดการกองทุนหรือกองทุนต่างๆ ของรัฐ 249 ล้านหุ้น นอกจากนี้ยังมีกรีนชูส์ หรือสิทธิในการขายหุ้นเพื่อนำเงินจากการขายหุ้นมาพยุงราคาในช่วงการซื้อขายเดือนแรก 183 ล้านหุ้น ซึ่งในส่วนกรีนชูส์จะเกิดช่องโหว่ โดยส่วนใหญ่จะมีการขายให้สถาบันการเงินจากต่างประเทศ ซึ่งเมื่อรวมกับสัดส่วนกับนักลงทุนต่างประเทศแล้ว จะมีมากถึง 556 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 40% ของหุ้นกฟผ.ทั้งหมด และน่าเป็นห่วงคือมีนักการเมืองอาศัยช่องโหว่ตรงนี้โดยซื้อหุ้นผ่านกองทุนต่างประเทศโดยผ่านบัญชีสถาบันการเงินที่เปิดไว้ในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ อเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่รัฐบาลยังไม่มีมาตรการควบคุม และจากการที่พรรคถามไปยังกลต.ยังไม่ได้รับคำตอบ โดย ก.ล.ต.อ้างว่าไม่ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลให้ดูแลเรื่องนี้






จาก fiat  203.118.74.64  ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 10:51   


คำตอบที่ 13
      

ตอนเติมน้ำมันจ่ายค่าน้ำมันมันแพงปวดใจไหม เจ็บกับค่าน้ำมันมามากแล้วอนาคตต้องเจ็บกับค่าไฟฟ้าอีก

คิดดูว่าปัญหานี้มันใกล้ตัวแค่ไหน แต่คนไทยส่วนมากยังคิดไม่ถึงว่าอนาคตพลังงานของชาติจะไปตกอยู่กับบริษัทมหาชนที่หวังกำไรสูงสุดปลายปี ของแบบนี้มันปล่อยให้เป็นไปตามกลไกไม่ได้





baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 11:33   


คำตอบที่ 14
      

อาร์เจนตินา : ภาควิเคราะห์ (2)

ผู้อ่านท่านครับ อาร์เจนตินาเป็นสาธารณรัฐที่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ มีพื้นที่มากมายถึง 2.7 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่โตกว่าพื้นที่ประเทศไทยของเราตั้ง 5 เท่า เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของพวกอินเดียแดง ที่มีประชากรประมาณ 3 แสนคน

พ.ศ.2059 จึงเริ่มมีคนสเปนเข้ามาอยู่

อีก 10 ปีต่อมา พ.ศ.2069 พวกอิตาลีก็เข้ามาสร้างป้อมค่ายและสถาปนาอำนาจขึ้นแถบลุ่มแม่นํ้าปารานา และปารากวัยในนามของพวกสเปน

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คนสเปนและคนอิตาลีก็จึงค่อยๆทยอยกันเข้ามาอยู่ในดินแดนอาร์เจนตินา กระทั่งปัจจุบันทุกวันนี้ ประชากรร้อยละ 97 ของอาร์เจนตินา เป็นมนุษย์เชื้อสายสเปนและอิตาลี ผู้อ่านท่านก็คงจะทราบว่า คนสองชาตินี่เป็นพวกขยันขันแข็ง มีระเบียบวินัยในการใช้เงินและการใช้ชีวิตดีพอสมควร

มนุษย์เหล่านี้กลายมาเป็นคนที่มีนิสัยสุรุ่ยสุร่าย ไม่มีวินัยในการเงินและการใช้ชีวิต ก็เพราะนโยบาย “ประชานิยม” ของอดีตประธานาธิบดี พันเอก ฮวน โดมิงโก เปรอน ที่มีนโยบายเอาใจแต่ คนชั้นล่างที่เป็นพวกกรรมกรและเกษตรกร จนได้คะแนนเสียงท่วมท้นถึง 2 ใน 3 ในสภาผู้แทนราษฎร และเหลือเพียง 2 คนในวุฒิสภาที่ไม่ได้ เป็นสมาชิกพรรคเปรอน

เปรอนพยายามเปลี่ยนอาร์เจนตินาจากประเทศที่มีจุดแข็งด้านเกษตรกรรม ไปเป็นประเทศที่มีจุดแข็งทางด้านอุตสาหกรรม การพัฒนาแต่อุตสาหกรรมได้ทำให้อาร์เจนตินาต้องซื้อนํ้ามัน มาจากต่างประเทศมาก เมื่อเงินไม่พอ รัฐบาลก็ต้องไปกู้เงินมาจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจ

การพัฒนาแต่อุตสาหกรรมทำให้ต้องใช้นํ้ามันเยอะ สุดท้ายก็ต้องไปซื้อจากบริษัทนํ้ามันของสหรัฐอเมริกา โดยยอมลงนามในสัญญาซื้อขายที่เสียเปรียบสหรัฐฯ

การลงนามในสัญญาซื้อขายที่เสียเปรียบต่างชาติในสมัยนั้น มีความอ่อนไหวเหมือนการไปลงนามเขตการค้าเสรี หรือ FTA ในสมัยนี้นี่แหละ ตอนลงนามกันใหม่ๆ ยังไม่มีใครรู้ ประชาชนคนทั่วไปก็ชมกันจัง ต่อมามีมือดีเอาสัญญามาแปลทีละข้อเพื่อเปิดเผยให้ประชาชนทราบ อันนี้ทำให้ประชาชนโกรธ แม้แต่ทหารได้อ่านสัญญาแล้วก็ยิ่งโกรธมากกว่าพลเรือน ทหารทุกหมู่ ทุกผู้ ทุกนาย จึงพร้อมใจกันก่อจลาจลต่อต้านเปรอน เหตุการณ์กลับขยายบานปลายกลายเป็นการนองเลือด เพียงเดือนเดียว การจลาจลทำให้มีคนตายไปมากกว่า 4,000 คน เหตุการณ์นี้ทำให้เปรอนต้องออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศทันที

เปรอนจึงต้องหนีออกนอกประเทศ มีสตางค์มากมายใช้ไม่หมดก็จริง แต่ไม่มีที่จะให้ใช้ แม้แต่แผ่นดินก็ไม่มีจะอยู่ รัฐบาลที่ปกครองประเทศต่อจากเปรอนก็ปกครองด้วยความยากลำบาก เพราะว่าประชาชนชินต่อนโยบายแบมือขอ หรือนโยบายรอท่านผู้นำเอามาแจกซะแล้ว วินัยการใช้เงินใช้ทองของประชาชนทั้งประเทศก็ไม่มี

หลังนโยบายประชานิยม ปัญหาของอาร์เจนตินาอุบัติขึ้นบานเบอะเยอะแยะ แม้แต่กองโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนก็อุบัติมาในห้วงช่วงนี้เหมือนกัน ปัญหาความรุนแรงจากพวกกองโจร ทำให้เศรษฐกิจชะงักงันลงไปทีละเล็กละน้อย สุดท้ายระบบเศรษฐกิจของอาร์เจนตินาก็เกิดปัญหาอย่างรุนแรง

พวกคนจน คนชั้นกลาง ที่เคยได้ประโยชน์จากเปรอน ก็ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเชิญเปรอนกลับประเทศ เปรอนกลับมาอาร์เจนตินาใน พ.ศ.2526 พวกคนยากคนจนก็เลือกเปรอนขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง โดยมีมาเรีย เอสเตลา มาร์ตีเนส เด เปรอน ภรรยาคนที่ 3 ของเปรอนเป็นรองประธานาธิบดี

ภรรยาคนที่ 2 ผู้ที่จัดการงานให้เปรอนทุกอย่างนั้น ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “เอวิตา” ส่วนภรรยาคนใหม่ คนที่ 3 นี่ ถูกเรียกว่าอีซาเบล

เพราะเคยมีแต่นโยบายให้ ให้ ให้ โดยที่ไม่ได้สอนให้ชาวบ้านตระหนักในคุณค่าของเงิน กลับมาคราวนี้ ประชาชนก็ต้องการแบบเดิมเหมือนเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เปรอนจึงเครียดมากและถึงแก่ อสัญกรรมเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2527

อีซาเบล เมียคนที่ 3 ของเปรอนจึงได้เป็นประธานาธิบดีแทน.

นิติภูมิ นวรัตน์







จาก Kupree  203.113.16.241  ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 14:49   


คำตอบที่ 15
       ได้ทำ Link ไปที่ Board Strada ให้คนในเว๊ปได้อ่าน ปรากฎว่าได้ถูกลบออกจากเวปทันที ในเวลา ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงความใจแคบ และเห็นแก่ตัวอย่างร้ายแรง ไม่ยอมรับรู้เรื่องราวของบ้านเมือง และเกรงกลัวไม่กลัวอำนาจที่ไม่ถูกต้อง รู้สึกเสียใจมากๆ สำหรับผู้ที่ได้ลบกระทู้ออกไป อาจจะเป็นความต้องการของใครบางคน ไม่ได้เหมารวมทั้ง Board



จาก ไท  125.24.7.245  ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 16:37   


คำตอบที่ 16
       พลังประชาชน จะสามารถคาน "อำนาจ" และ "เงิน" ได้ไหมหนอ น่ากลัวจริง ๆ ครับ
แต่อย่างไงก็ขอให้อำนาจชั่วร้าย จงสยบราบคาบ และมีอันเป็นไปโดยเร็วที่สุดครับ



rin จาก Rin  203.113.16.250  ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 16:50   


คำตอบที่ 17
       ผมสนับสนุนกระทู้นี้ครับ ทำให้ผมได้รู้อะไรมากกว่าเดิมอีกเยอะเลย
คนที่คิดจะมาลบกระทู้ดี ๆ อย่างนี้ก็มีแต่พวกขายชาตินั่นแหละ



yakusa จาก Sak YaKuSa  203.188.18.12  ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 17:10   


คำตอบที่ 18
       คนรวยๆ เค้ามองอะไรๆเหมือนไอสครีม ถ้าไม่รีบกินเดี๋ยวก็ละลายหมด



จาก .  58.10.185.92  ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 19:26   


คำตอบที่ 19
       ช่วยๆกันหน่อยครับ ผลประโยชน์ของชาวไทย



จาก ไม่อยากเป็นเหมือนอาเจนติน่า  203.114.96.45  ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 20:22   


คำตอบที่ 20
       ...สหภาพแรงงานที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทย..อย่าง กฟผ. ต่อสู้อยู่นานเป็นปีๆ รอประชาชนมาร่วม กลับถูกด่าว่าห่วงผลประโยชน์ตัวเอง ถูกทั้งนักการเมืองบีบ ถูกทั้งชาวบ้านอัด...ใครๆก็เชื่อนายก...สุดท้ายแรงเราก็หมด...ต้องยอมก่อนที่ประเทศไทยจะถูกยำเละไปกว่านี้...



จาก เศร้า  202.44.210.42  ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 21:50   


คำตอบที่ 21
       ลองมาดู



จาก บาม  203.172.117.27  ศุกร์, 18/11/2548 เวลา : 22:08   


คำตอบที่ 22
       อ่านข้อคิดเห็นปชช.วันนี้ผสมผสานกับเหตุการณ์ต่างๆในการบริหารบ้านเมืองมาอย่างต่อเนื่อง
พลังอำนาจทั้งเงินและความคิดของคนที่มีเงินและความฉลาด กำลังอยู่ในช่วงเริ่มก้าวลงทีละขั้น
เพราะเวลาคือเครื่องพิสูจน์ถึงความจริงของบทบาทที่มีต่อสังคมไทยในวันนี้
ว่าสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เคยเป็นจนไปไกลถึงเริ่มขาดความน่าเชื่อถือ
การแปรรูปโดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ ถ้าถามว่าสมควรหรือไม่
ต้องบอกว่ารัฐวิสาหกิจบางแห่งสมควร
แต่รัฐวิสาหกิจบางแห่งก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง(ย้ำและเน้น)
โดยเฉพาะสาธารณูปโภคที่มีผลกระทบโดยตรงกับ ปชช.ทุกระดับ(เน้นทุกระดับ)
แต่ในประเทศไทยของเรามักมีเรื่องผลประโยชน์แอบแฝงนำหน้าสิ่งที่เหมาะสมเสมอๆกับคนกลุ่มหนึ่งที่กระหายเงินตรา ที่อาศัยความฉลาดลอกตำรานโยบายจากต่างชาติมา
ยิ่งมีทั้งเงินและความฉลาดที่คิดว่าเหนือมนุษย์ปุถุชนทั่วไป
ยิ่งสร้างโอกาสที่จะแสวงหาประโยชน์ได้ง่ายขึ้นอย่างแนบเนียน (เน้น)
เพราะมันเป็นฐานพลังอำนาจอันแข็งแกร่งในการสร้างความน่าเชื่อถือระดับหนึ่ง
ความโลภ ของมนุษย์ไม่เคยมีคำว่าพอยิ่งพื้นฐานความคิดมาจากแนวบริหารในเชิงนักธุรกิจ
ข้อมูลข่าวสารมักมีด้านบวกเพียงเสี้ยวเดียวในการเปิดเผยกับ ปชช.ตาดำๆ ตาฝรั่ง
ปตท.วันนี้ ลึกๆทำไมถึงกล้านำค่าการตลาดมาจับตามภาวะตลาดโลก อะไรก็น้ำมันลอยตัว หรือตัวลอย คิดเอาเอง
รัฐวิสาหกิจเกรดA+ จะโดนแปรรูปก่อนเสมอ
เพราะการลงทุนสำหรับนักลงทุนมืออาชีพมองว่าคุ้มค่าโดยตัวเองไม่ต้องลงทุน(เน้น)
เพราะเป็นสมบัติของชาติ จากภาษีประชาชนไม่รู้กี่รุ่นแล้วตั้งแต่ รุ่นคุณทวด ปู่ ย่า ตา ยาย
ถามว่าถ้าท่านจะลงทุนอะไรสักอย่างถ้ามองไม่เห็นอนาคตกำไรจะลงทุนทำไม
แล้วยิ่งสามารถเป็นเจ้าของหุ้นได้ง่ายๆเหนือบุคคลอื่นแบบราคาที่ยังไม่เปิดตลาด กำไรกองเงินมหาศาลตั้งรออยู่ข้างหน้าชัดๆ
ซื้อ 10 ขาย200 ได้สักล้าน-2ล้านหุ้นคูณตัวเลขดู ง่ายจริงมั๊ย ทำธุรกิจอะไรก็ไม่ง่ายเท่านี้โดยไม่ต้องลงทุนสักบาท
ลงทุนแค่สร้างข้อมูลความน่าเชื่อถือให้กับสังคมว่าคือสิ่งที่ดีและประชาชนได้ประโยชน์(จริงหรือปล่าวไม่รู้ อนาคตไม่เกี่ยว)
ปชช.ระดับรากหญ้ากว่า40-50 ล้านคน ไม่มาสนใจหรอกมันเกินความเข้าใจที่จะมาสนใจ
เพราะอะไร ก็ต้องกลับไปดูความอ่อนแอของสังคมไทยคือเรื่องการพัฒนาด้านการศึกษาสำหรับ ปชช.
ประชาธิปไตยจะเต็มใบจริงๆต้องพัฒนามาจากปชช.ส่วนใหญ่ที่มีการศึกษาผสมผสานกับคุณธรรม
ถ้าไม่มีคุณธรรมนำหน้าการศึกษา ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้สังคมดีขึ้น
กลับใช้โอกาสที่ได้เปรียบสยบผู้ที่ด้อยกว่า
อะไรจะเกิดในวันข้างหน้ามันเป็นกลไกความเปลี่ยนแปลงด้านความคิดของ ปชช.ที่รักบ้าน รักเมือง รักประเทศชาติ
ทุนนิยม วันนี้กำลังเป็นกระแสความชื่นชอบจากทุกระดับลงไปถึงระดับรากหญ้าจนดิ้นไม่ออก ซึ่งอันตรายมากๆ
ส่วนนายทุน เป็นยุคของโปรดตักตวงได้ก็ต้องรีบทำในช่วงนี้แต่มีกฎกติกามารยาทว่าอย่านอกกรอบ
จะเห็นได้ว่าความเปลี่ยนแปลงด้านความคิดและความเชื่อกำลังพัฒนาไปสู่ความเป็นห่วงประเทศชาติขึ้นเรื่อยๆ
นายทุนที่มองเป็นรวมถึงที่ผิดหวังจากระบบจะด้วยเรื่องอะไรก็ตามเริ่มแยกตัวออกมาแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณชนอย่างเงียบๆและเปิดเผย
เพราะสังคมธุรกิจย่อมเข้าใจพวกเดียวกันแต่เมื่อแตกคอกันปชช.มักได้ประโยชน์ นั่นคือความจริง
วัฏจักรทางสังคมของมนุษย์ในโลกคือการเรียนรู้
แต่ถ้าจะเรียนรู้เร็วขึ้น ควรดูตัวอย่างจากประเทศเล็กๆที่เคยพุ่งถึงขีดสูงสุดแล้วล่มสลายลง
นโยบายก่อนล่มสลาย คล้ายๆบ้านเราในวันนี้ยังไงไม่รู้สิ
ปิดหู ปิดตา ปิดปาก อาจจะใช้ได้กับคนกลุ่มหนึ่ง
แต่สำหรับคนไทยที่รักชาติ ประวัติศาสตร์เคยมีมาแล้วในอดีต
ก็เพียงแต่ว่าจะเร็วหรือช้าเท่านั้น
เพราะขณะนี้สัญญานเตือนแห่งการเปลี่ยนแปลงด้านความคิดความเชื่อกำลังพัฒนาไปทีละนิด
สำรวจได้จากกระแสการพูดคุยในโต๊ะกาแฟโดยที่ไม่ต้องพึ่งโพล
และกำลังขยายไปในวงกว้างขึ้นโดยเฉพาะชนชั้นกลาง
ผมชื่นชมความคิดและผลงานของคุณ นิติภูมิ และเคยสัมผัสเป็นการส่วนตัว
เป็นผู้ที่มีการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองจนถึงระดับสูงสุด
แต่สิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นๆ คือกล้าพูดความจริง
และเป็นผู้ที่เคยอยู่ในแวดวงที่สามารถแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวได้ง่ายๆด้วย
แต่เพราะมีคำว่า คุณธรรม นำหน้าและเป็นผู้ที่รักชาติบ้านเมืองคนหนึ่งในสังคมไทย
ฉนั้นการันตีได้ในด้านความคิดและพฤติกรรมส่วนตัว











จาก คนมองไทย  61.91.220.139  เสาร์, 19/11/2548 เวลา : 02:58   


คำตอบที่ 23
       ไม่อยากออกความเห็นมาก เอาที่รู้ๆมา มาคุยให้ฟังดีกว่านะ
1.ที่บ้านผมอยู่จังหวัดแห่งหนึ่ง ชายแดนทางอิสาน มีเขื่อนผลืตกระแสร์ไฟ 2 เขื่อน ก่อนสร้างก็บอกชาวบ้านว่าพลังงานไฟฟ้าจะมั่นคงแข็งแร็ง ไม่ดับ ทุกวันนี้ก้ติดๆดับๆเหมือนเดิม
2.การประท้างต่างๆ ทำไม กฟผ.ต้องเป้นผู้อยู่เบื้องหลังให้ม๊อบมาประท้วงหรือต่อต้านตนเอง งงจริงๆ (ที่รู้เพราะเป็นแขน ขา ม๊อบด้วย ผมทำเพื่อเงินครับ)
3.การก่อสร้างเพื่อซื้อพลังงานไฟฟ้าจากลาว เขื่อน เซเซต น้ำเทิน 2 ใครอยู่เบื้องหลัง (หรือว่าเป็นคำตอบของ ข้อ 2 ยุให้ชาวบ้านประท้วง ต่อต้านทุกรูปแบบ เพื่อผลในการซื้อ สร้าง ในต่างประเทศ) พลังไฟ 93% ขายให้ไทย ลาวใช้เอง 7 %
4.นี่มันอะไรกัน........



จาก ลูกปากมูล  203.113.16.250  เสาร์, 19/11/2548 เวลา : 09:35   


คำตอบที่ 24
       เคเบิ้ลระยองถูกควบคุมสัญญาณแล้วครับ ตั้งแต่วันนี้ไป
เฉพาะรายการที่มี สนธิ ไม่ให้ฉายแล้วครับ

วันนึงมันต้องมาคุมพวกเราว่า วันนี้กินข้าวได้หรือไม่ได้แน่ ๆ
เก่งซะเหลือเกินนะ ไอ้พยัคร้ายหน้า4เหลี่ยม



yakusa จาก Sak YaKuSa  203.188.18.12  เสาร์, 19/11/2548 เวลา : 17:05   


คำตอบที่ 25
       ขอแสดงความเห็นต่างจากความเห็นส่วนใหญ่บ้างนะครับ ก่อนอื่น ต้องบอกว่า สำหรับข้อมูลของศูนย์ข้อมูลผู้จัดการ และข้อมูลของพรรคฝ่ายค้าน ผมฟังแล้วจะหาร 3 ไว้ก่อนเป็นอย่างน้อย เพราะประกาศตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลอย่างชัดเจน

คราวนี้เรื่องแปรรูป ความเห็นส่วนตัวเห็นว่าการแปรรูปไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป การแปรรูปจริงๆ แล้วนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร ของระบบงาน และสร้างความโปร่งใสในระบบบัญชีขององค์กรรัฐแล้วยังช่วยให้องค์กรเหล่านั้นสามารถระดมทุนได้ในต้นทุนต่ำมาก เทียบกับการกู้เงินตามปกติ ซึ่งสุดท้ายก็น่าจะเป็นผลดีต่อผู้ใช้สินค้าขั้นสุดท้ายทีจะได้ใช้ของในราคาที่ต่ำลง

สำหรับ กฟผ. เดิมการกู้เงินของ กฟผ.ในฐานะรัฐวิสาหกิจจะได้รับการค้ำประกันจากรัฐบาล 100% หมายถึงว่าเจ้าหนี้ที่ให้เงินกู้ไม่มีความเสี่ยงเลยนอกจากรัฐบาลไทยจะเจ๊ง ดังนั้นเจ้าหนี้เหล่านั้นจึงยอมปล่อยกู้ให้ กฟผ.ในอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก แต่ยอดค้ำประกันเงินกู้ของ กฟผ.จะไปเพิ่มเป็นยอมหนี้สาธารณะของรัฐบาล ซึ่งถูกจำกัดไว้ที่ 50% ของงบประมาณ ปัจจุบัน กฟผ.มีหนี้สินประมาณ 1.4 แสนล้านบาท 1.3 แสนล้านบาทรัฐเป็นผู้ค้ำประกันให้

เมื่อหนี้สาธารณะของรัฐเพิ่มขึ้นใกล้เต็มเพดานทำให้ความสามารถในการก่อหนี้ของรัฐต่ำลง (รัฐต้องก่อหนี้นะครับ ถ้าจะสร้างความเจริญเติบโตให้ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหนี้ในประเทศหรือต่างประเทศ ที่เห็นออกพันธบัตรรัฐบาลต่างๆ นั่นก่อหนี้สาธารณะทั้งนั้น) แทนที่รัฐจะนำเงินไปใช้ในประโยชน์สาธารณะได้มากขึ้น ก็ถูกจำกัดจากการค้ำประกันเงินกู้ให้รัฐวิสาหกิจ หากรัฐไม่ต้องค้ำประกันศักยภาพในการหาเงินมาเพื่อประโยชน์สาธาระอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้น

แต่การจะเลิกค้ำประกันเงินกู้ก็ต้องดูด้วยว่า รัฐวิสาหกิจไหนมีความพร้อมที่จะระดมทุนได้ด้วยตัวเอง หลายคนบอกว่าทำไมไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจห่วยๆ อย่าง ขสมก.ก็ด้วยเหตุนี้แหละครับ รัฐวิสาหกิจห่วยๆ ก็ไม่มีใครอยากเข้ามาร่วมลงทุนด้วย แปรรูปไปก็ไม่มีทางสำเร็จ

เมื่อเห็นว่า กฟผ.มีความพร้อม มีความเข้มแข็ง รัฐจึงประกาศเลิกค้ำประกันเงินกู้ให้ กฟผ.ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
แต่การที่ กฟผ.จะไปกู้เงินด้วยตัวเองนั้นก็ยังทำได้ยาก ไม่ใช่เพราะ กฟผ.ไม่ดี แต่เพราะ กฟผ.ยังมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ

ประเทศไทยมีกฏหมายว่า เอกชนไม่สามารถฟ้องร้องเอาทรัพย์สินใดๆ ขององค์กรรัฐเพื่อขายทอดตลาดได้ กรณีองค์กรนั้นไม่จ่ายหนี้หรือล้มละลาย ดังนั้นสถาบันการเงินต่างๆ ถ้าจะปล่อยกู้ให้ กฟผ.ก็จะบวกดอกเบี้ยเพิ่มสูงมาก เพื่อป้องกันความเสี่ยง เป็นไปตามข้อกำหนดของสถาบันการเงิน เพราะฟ้องร้อง กฟผ.กรณีไม่ชำระหนี้ไม่ได้

ดังนั้น กฟผ.เองจึงต้องการแปรรูปเปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทมหาชน เพื่อจะสามารถกู้เงินได้ในต้นทุนที่ต่ำลง การเปลี่ยนสถานะจากรัฐวิสาหกิจเป็นเอกชนจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อรัฐบาลถือหุ้นน้อยกว่า 75% ในองค์กรนั้น ดังนั้น กฟผ.จึงต้องขายหุ้น เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นของรัฐลง

ถามว่าขายหุ้นโดยไม่ต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ไหม ก็ได้ครับ แต่จะยิ่งโดนยำเพราะจะกระจายหุ้นอย่างไร ขายให้ใครก็กลายเป็นเลือกปฏิบัติทั้งสิ้น ที่สำคัญใครจะซื้อเพราะซื้อแล้วไม่รู้ว่าจะไปขายให้ใครที่ไหน

ผมยังจำได้กรณีบางจาก 2-3 ปีก่อนกลุ่มชมรมคนรักบางจากออกมาค้านการขายหุ้น แต่พอบางจากทำท่าจะไปไม่รอดเพราะกิจการแย่ลงเรื่อยๆ ก็มีคนเรียกร้องให้ชมรมคนรักบางจากซี่งเป็นระดับมหาเศรษฐีทั้งนั้นเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อช่วยบางจาก ไม่เห็นมีใครโผล่มาซื้อสักคน สุดท้ายก็ต้องขายหุ้นให้ประชาชนแล้วเข้าตลาดหลักทรัพย์ไป

ปัญหาอยู่ที่ว่าเมื่อเราไปโยงเรื่องของผลประโยชน์ของคนบางกลุ่มเข้ากับหลักการของการแปรรูปแล้วทำให้เราเห็นว่า การแปรรูปจะนำมาแต่สิ่งเลวร้าย น่ารังเกียจ ผมคิดว่าเราคงต้องแยกแยะว่าระหว่าง "หลักการ" และ "พฤติกรรม" แน่นอนผมก็รับไม่ได้ถ้าแปรรูป กฟผ.แล้วจะมีคนบางพวกบางกลุ่มเข้าไปครอบครองสมบัติชาติเพื่อแสวงประโยชน์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมไม่เห็นด้วยกับการแปรรูป

การแปรรูปด้วยมาตรการและวิธีที่เป็นธรรม และมีกลไกป้องกันการแสวงหาประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพน่าจะเป็นทางออกที่ยอมรับได้ ผมหมายถึงต้องมีองค์กรกำกับดูแลที่เป็นอิสระมีกฏหมายรองรับ

รู้สึกว่าจะเขียนยาวไปแล้ว เรื่องสุดท้ายก็แล้วกันครับ เรื่องค่าไฟ ถ้า กฟผ.ไม่แปรรูปอย่างที่บอกไว้ตอนแรกว่า กฟผ.ต้องกู้เงินในต้นทุนที่สูงมาก ซึ่งก็เหมือนกิจการทั่วไปต้นทุนสูงสินค้าก็ต้องแพงขึ้น ค่าไฟก็ต้องบวกต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ถ้าจะไม่ให้ กฟผ.ขึ้นค่าไฟ รัฐก็ต้องเข้ามารับภาระไม่ว่าจะเข้าไปค้ำประกันเงินกู้ให้ หรือเข้าไปอุดหนุนค่าไฟเหมือนการอุดหนุนราคาน้ำมัน แต่ผลสุดท้ายก็จะตกถึงประชาชนไม่ทางใดทางหนึ่งอยู่ดี

อันนี้แลกเปลี่ยนความเห็นนะครับ ผมไม่ใช่คน กฟผ. ไม่ใช่คนในรัฐบาล เป็นแค่ประชาชนที่เสนอมุมมองอีกด้านหนึ่งเท่านั้น












เพราะ กฟผ.มีความแข็งแกร่งในตัวเอง แต่เมื่อรัฐเลิกค้ำเงินกู้







จาก บุณ  203.155.9.138  เสาร์, 19/11/2548 เวลา : 17:15   


คำตอบที่ 26
       พวกกินบ้านกินเมือง ไม่เห็นมีใครตายดีสักคน หรือตายปกติก็ไม่มีใครสรรเสริญ ตายก็เอาไปไม่ได้ ไม่รู้จะโลภไปถึงไหนไอ้พวกนี้(ไอ้พวกนักการเมืองกินเมือง ทั้ง2พวกเลย ไอ้พวกหลัง(ฝ่ายค้านตอนนี้) เมื่อตอนมันได้รับเลือก มันก็จ้องจะงาบมาครั้งแล้วแต่กำลังมันไม่พอ รัฐวิสาหกิจชั้นดีทุกที่ พวกมันจ้องตาเป็นมัน สมัยนี้มันชอบอ้างประชาธิปไตร ทุนนิยม สุดท้ายมันก็ไม่ต่างจากคอมมูนเท่าไร



จาก กร  203.150.30.31  เสาร์, 19/11/2548 เวลา : 21:15   


คำตอบที่ 27
       ขอตอบ คห.ที่ 23 นะครับ
-การที่บอกว่ามีความมั่นคงในระบบไฟฟ้าแล้วทำไมที่บ้านถึงยังมีไฟติดๆดับๆทุกวัน อันนี้ไม่เกี่ยวกะ กฟผ.นะครับ มันเหมือนกับน้ำมันมีเต็มปั้มเต็มคลัง แต่รถน้ำมันหมดเครื่องดับ แล้วมาโทษคลังน้ำมัน มันถูกไหมลองคิดดูนะครับ กฟผ.มีหน้าที่ผลิตไฟให้พร้อมจ่ายอยู่ในระบบตลอดเวลาที่หน่วยงานถัดไป(กฟภ.กฟน.)ต้องการใช้ แต่หากมีเหตุการณ์สุนัขปัสสาวะรดเสาไฟฟ้า, รถชนเสาไฟฟ้า, ฝนฟ้าคะนองต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้าแล้วไฟดับ เหตุการณ์พวกนี้เป็นงานของ กฟภ.,กฟน.ทั้งนั้นนะครับ ไฟในระบบยังมีอยู่ แต่ กฟภ.และ กฟน.ต้องตัดไฟเพื่อความปลอดภัยนะครับ ของ กฟผ.ถ้าดับนะมันจะดับแบบสหรัฐอเมริกาตอนต้นปีหนะ ท่านพอจำได้กันไหม ดับทีค่อนประเทศเลย
-เรื่องเขื่อนปากมูล คุณน่าจะลองถามคุณวนิดา NGO ที่รักดูดีกว่ามั้งครับ เขื่อนเป็นต้นทุนผลิตไฟฟ้าที่ถูกที่สุดที่มีอยู่ในขณะนี้ แล้วถูกประท้วงให้เปิดประตูเขื่อนตลอดเวลา โดยอ้างว่าทำให้จับปลาได้ยากขึ้น ค่าเวนคืนที่ดินก็รับไปแล้ว เวลาหน้าน้ำน้ำก็ไหลโครมๆลงแม่น้ำโขงไปซะ พอถึงฤดูแล้งจะเอาน้ำที่ไหนมาใช้หละครับ หากว่ามีคน กฟผ.อยู่เบื้องหลังจริง ออกมาแฉได้เลยครับ ข่าวแบบนี้สื่อชอบจะตายไป รับรอง กฟผ.ถ้าทำจริงน่วมแน่ครับ
แล้วที่คุณรับเงินเพื่อประท้วง โดยที่คุณก็รู้ว่ามันไม่ถูกต้อง แต่คุณก็ยังทำ แล้ววันหนึ่งคุณก็ออกมาโวยวาย บ้านเมืองมันวุ่นว่ยนะครับ



จาก คนบริษัท กฟผ.จำกัด(มหาชน)  203.146.104.35  จันทร์, 21/11/2548 เวลา : 09:01   


คำตอบที่ 28
      



tor จาก tor  203.144.200.142  พฤหัสบดี, 8/12/2548 เวลา : 11:11   


คำตอบที่ 29
       ทำไมไม่แปรูปการรถไฟบ้างหรือว่าการรถไฟขาดทุ่นพวกมันถึงไม่ไปยุ่งกลัวเสียเงินของมันถ้าตายไปเงินที่โกงชาติบ้านเมืองก็ขอให้ลูกหลานมันแย่งกันแล้วฆ่ากันเอง



จาก pajeromans  61.91.247.144  ศุกร์, 9/12/2548 เวลา : 23:06   


คำตอบที่ 30
       รถไฟก็ตายซิครับ ตราบที่คนไทยยังไม่ขึ้นรถไฟ แปรรูปไปหุ้นเจ๊ง ยิ่งจะเจ๊งกันไปใหญ่ จะเอาอย่าง กฟผ ไม่ได้ เพราะ กฟผ ใครๆ ก็อยากได้ ตลาดผูกขาด ยังไงๆ คนไทยก็ต้องใช้ ของของเค้า แน่จริง รัฐให้ เปิดเสรีการไฟฟ้า บอกงี้มา รัฐบาลนี้ คงขอบายเพราะ ตระกูล เค้าจะไม่ได้เต็มๆ เหมือนผูกขาด

ผมมาอ่านวนเวียนกระทู้นี้แล้วอารมณ์ขึ้น แต่ ขี้เกียจ โพสยาวอยู่หลายที ทั้งเรื่องล่อใจคนในหุ้น 5% ทั้งเรื่องกู้เงินข้างใน ส่วนข้างนอกอย่างผม รอไปจองหุ้นดีกว่า แต่ ประชาชนคนไทยยังไม่ต้องกลัว หลังจากกระแสแรงขึ้นเรื่องๆแม้วก็แผ่วไปบ้างแล้ว ยิ่งหลังจาก 5ธันวา ยิ่งต้องออมชอมกันหน่อย แล้วยิ่งโดนหลายกระแสเปิดโปงกันก็แล้ว ช่วงนี้เลยสงบๆได้หน่อย เรื่องกฟผ ตอนนี้ผมว่าเริ่มยากละล่ะ ที่จะแปรรูปเข้าจริงๆ

อีกเรื่องนึง อย่างวันนี้ ที่สวนลุม คนเยอะมาก เยอะกว่าที่แล้วที่เค้าว่ามี แสนสอง คนแน่นมากๆ คะเนแล้วผมว่าไม่รู้ถึง 5 แสนของสนธิอะป่าว
ส่วนตัวแล้ว ไม่เชียรทั้งคู่ เพราะ เริ่มหมั่นไส้ ทั้งสองพร้อมๆกัน




duangding จาก Du^anG  58.64.126.96  เสาร์, 10/12/2548 เวลา : 01:08   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 20:24:28

Error processing SSI file