คำตอบที่ 1
      

เข้าร้านเช็คปั้มดีกว่าครับ อาจจะจ่ายน้ำมันมากไปหรือจ่ายพอดีแล้วแต่หัวฉีดสกปรกเลยฉีดเป็นลำเหมือนปืนฉีดน้ำไม่เป็นฝอยกระจาย


ทำจนหายควันดำแล้วน้ำมันจะกินน้อยลงกว่าเดิมและวิ่งดีขึ้นครับ

คำตอบที่ 2
       อ.วอน ครับเมื่อไรจะเปิดคอร์สจูนปั๊ม ปรับฝา ดูควัน ครับแบบมีรูป พร้อมบรรยายน่ะครับ มันเป็นหัวใจของรถดีเซลที่หาคนรู้จริงน้อยมาก

คำตอบที่ 3
       หนับหนุนด้วยอยากยิ่งครับ

คำตอบที่ 4
       ไม่รู้แน่อย่าซนดีกว่าครับ ของแบบนี้ต้องใช้ความชำนาญที่สูงพอตัว รถของผมยังให้ช่างปั้มอ่านหนังสือเกือบไม่ออก ทำให้เลย

เรื่องปรับปั้ม เอียงปั้ม แบบฟังเสียงเครื่อง ดูควัน ให้ป๋าa แนะนำดีกว่าครับ ทำให้หลายคันแล้วแรงไล่จิกตูดรถน้ำหนักเบากว่าได้เลย ผมถนัดแต่แบบขึ้นแท่นใช้เครื่องมือวัด

คำตอบที่ 5
       อิ อิ

คำตอบที่ 6
       อ้าว.... เจออู่ฝีมือดีอีกอู่แล้ว.. "195ดีเซล"

คำตอบที่ 7
       อ.วอน คุณศักดิ์ pct195 ของผมรถเบาเครื่อง 4d56t นะครับแต่ปลายได้ 140 อัตราเร่งพอใจครับ แต่ปลายน้อยไปหน่อย ก็เลยมาถามพี่ๆว่าพอจะปรับปั๊มอย่างไรได้บ้าง ให้เครื่องเผาได้พอดีนะครับปลายมากกว่านี้สักนิดนึง น่ะครับ

คำตอบที่ 8
       ขออนุญาติ ครับ

โดยส่วนตัว ผมไม่แนะนำให้ทำการปรับปั้ม เองทุกกรณี ควรให้ร้านเช็คปั้ม เป็นผู้ตรวจสอบและทำการแก้ไข เพราะเขามีเครื่องมือ และความชำนาญเฉพาะทางอยู่แล้ว

กรณีของคุณนก หากเป็นรถของผม ผมจะพอใจมากเลยครับ จะไม่ไปยุ่งอะไรกับปั้มมันอีกเลย เพราะเป็นที่น่าพอใจอยู่แล้ว

ตามสเปคในคู่มือ ของปาเจโร่ ยังเขียนไว้แค่ 120 เอง อีกอย่าง เราต้องมาคิดก่อนว่า รถปาเจโร่ ไม่ได้ถูกสร้างมาให้ทำความเร็วมากๆ ทรงของรถปาเจโร่จึงเหมือนปี๊บเหลี่ยม มันถูกสร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์คนละอย่างกับ เรดซิ่ง

สำหรับผม เกี่ยวกับปาเจโร่ ขอมีคุณสมบัติเหล่านี้ในตัวรถก็เป็นที่พออย่างสูงสุดแล้ว ตลอดเวลาที่ใช้รถมา
1.ทรงตัวดี
2.นั่งสบาย ทั้งคนขับและผู้โดยสาร
3.ตัวถังแข็งแรง สมตัวรถ ไม่ใช่กระป๋องนม
4.ประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับรถที่มีน้ำหนักเกือบ 2 ตัน (ประมาณ 9-10 กม./ลิตร)
5.เดินทางได้เกีอบทุกที่ ที่อยากไป (ขับในเมืองก็สวย ขับเข้าถิ่นชนบทก็เท่ ขับเข้าป่า ก็ยังพอไหว แม้สภาพเดิมๆ)
6.อะไหล่หาง่าย ราคาไม่สูงมากนัก เป็นต้น

อีกอย่าง รถจะแรงได้ รถจะเร็วได้ รถจะประหยัดน้ำมันได้ดี และมีอัตราเร่งแซงที่ดี ได้นั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับปั้มเพียงอย่างเดียว มันมีองค์ประกอบมาเกี่ยวข้องอีกมากหมาย โดยหลักใหญ่ ก็คือน้ำมันกับอากาศที่เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว ทุกรอบเครื่อง (ปัจจุบันจึงเกิด ECU มาควบคุมการทำงานของเครื่องรุ่นใหม่ๆ )

ไล่ไปตั้งแต่ กรองอากาศ ท่อทางเดินอากาศ เทอร์โบ แรงบูสของเทอร์โบ การคลายไอเสีย การทำงานของโบออฟวาล์ว ระยะห่างของวาล์วไอดี-ไอเสีย สภาพเครื่องยนต์ ห้องเผาไหม้ ลูกสูบ หัวฉีดน้ำมัน แรงดันหัวฉีดน้ำมัน ลักษณะของการฉีดน้ำมัน แรงดันปั้ม ชิ้นส่วนภายในปั้มสึกหร่อหรือไม่ การทำงานปกติหรือไม่ องศาการจุดระเบิด หรือแม้แต่กรองน้ำมันดีเชล เป็นต้นครับ

ไม่มีใครปรับแต่งอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว แล้วทำให้รถแรงเร็ว ประหยัดได้ โดยไม่มีอาการแปลกๆ ตามมา เช่น ปรับบูสสูงมาก รถก็แรงขึ้น แต่ปัญหาความร้อนก็ตามมา เป็นต้น

แทนที่เราจะมาแต่งรถให้แรงเร็ว นั้น เรามาเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ทำอย่างไรให้รถวิ่งได้ดีตามสภาพ ประหยัดตามสภาพ มีค่าใช้จ่ายตามสภาพ ดูแลรถของเราตามสภาพของแต่ละบุคคล ผมว่าแค่นี้ก็ Happy แล้ว

คำตอบที่ 9
       ขอบคุณครับป๋าเอ ผมเก็บตังค์ไว้ซ่อมคอมป์แอร์ที่รั่ว พวงมาลัยเลี้ยวแล้วไม่คืน แล้วท่ออ่อนรั่วอีก เฮ้อ

คำตอบที่ 10
       แจ๋วครับ พี่เอ ยุคนี้ เรามาแข่งกันว่าใครจะประหยัดได้มากกว่ากันดีกว่าไหมครับ

อยากแรงก็ตอนแซงเท่านั้นเองครับ

คำตอบที่ 11
      

คำตอบที่ 12
      
ถูกต้องคร๊าบบบบ ป๋าเอ อย่างนี้ต้องเรียกใหม่เป็น อาจารย์ เอ แล้ว ..............

คำตอบที่ 13
      

คำตอบที่ 14
      

คำตอบที่ 15
       ของกระผมผมก็ชอบอึด ๆ ไม่ชอบเร็วเหมือนกัน นะขอรับ

คำตอบที่ 16
      

คำตอบที่ 17
       เยี่ยมเลยครับป๋าเอ (แต่ของคุณรินที่ว่าอึดนะ...รถหรือคนครับ)555

คำตอบที่ 18
       ข้อมูลคุณเอ ต้องเซฟเอาไว้ เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตได้เลยอ่ะ

ขอบคุณอย่างสูง

คำตอบที่ 19
       เมื่อวันเสาร์ผมไปใช้บริการ '' 195 '' ดีเซล มาแล้วครับคุฌYaKuSa ฝีมือปรับปั้ม เอียงปั้ม ของอาจารย์ เอ สุดยอดไม่ผิดหวังครับ

คำตอบที่ 20
      

คำตอบที่ 21
       เอาสปริงปั้มไตตาเนี่ยมของซีเซลแท้ไปทิ้งให้ 195ดีเซล บ้างดีกว่าเผื่อจะมีดาวรุ่งเกิดใหม่ตอนวันหยุดอีกหลายคัน

คำตอบที่ 22
      

คำตอบที่ 23
       ป๋าเอ...ไหนๆก็ไหนๆ..เปิดร้าน195ดีเซลออโตเทคนิคซะเลยดีไหม 5555

คำตอบที่ 24
       ขออนุญาติ ออกตัวสักเล็กน้อย กับการปรับปั้ม เอี่ยงปั้ม หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ผมทำให้เพื่อนๆ

ผมไม่ใช้ผู้มีความรู้ ความสามารถ ทางด้านนี้โดยตรง หากเทียบกับบุคคลอื่นๆ ความรู้ผมก็แค่เด็ก ปวช.ช่างยนต์ ที่จบมากว่า 20 ปีแล้ว แถมไม่ได้ประกอบอาชีพทางด้านนี้เลย

ผมไม่มีความสามารถแต่ง เครื่องยนต์ หรือรถใดๆ ก็ตามให้เร็ว หรือแรงกว่าที่มันควรจะเป็นได้ จะทำได้ก็แค่เพียงจับอาการ แล้วแก้ไขเพียงเล็กๆ น้อยๆ ให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้ดีกว่าเดิมอีกเล็กน้อย ตามสภาพของเครื่องยนต์ แต่ละตัวที่มีสภาพเครื่องยนต์แตกต่างกัน บวกกับลักษณะการขับขี่ของผู้ใช้แต่ละคน

อย่างเช่นรถของพี่สมหมาย มีอาการกินน้ำมันมาก ออกตัวมีอาการเชื่องช้า อัตราเร่งแซง อืดอาดมาก น้ำมันครึ่งถังวิ่งได้แค่ 320 กม. (ล้อ 30 นิ้ว) ตรวจเช็ดระบบอื่นๆ แล้วคลัชไม่ลื่น เบรคไม่ติด ลมยางปกติ จึงมามองที่เครื่องยนต์
พบปัญหาดังนี้
1.หัวฉีดทั้ง 4 หัว ฉีดน้ำมันเป็นปืนฉีดน้ำ แก้ไขด้วยการล้างทำความสอาด แล้วปรับแรงดันใหม่
2.เวสเกจเทอร์โบ คลายตัว ทำให้วาว์ลเปิดค้างสุด ตลอดเวลา แก้ไขด้วยการปรับแต่ง กำหนดอัตราบูธ 10 ปอนด์
3.ปรับปั้มอีกเล็กน้อย ตามสภาพ ก็มีเพียงเท่านี้......

คำตอบที่ 25
       เยี่ยมแบบสุด ๆ เลย ขอรับป๋า

อ.เกียรติ ขอรับ ต้องอึดทั้งคนทั้งรถ ถึงจะดี ขอรับ

คำตอบที่ 26
       แค่นี้ก็น้องๆร้านแต่งปั้มแล้ว เพราะ 80% ที่เข้าร้านปั้มก็ทำแบบนี้แหละ อย่าถ่อมตัวครับ

คำตอบที่ 27
       ไม่ธรรมดา เห็นด้วยกับ อ.von ครับ ขอทำความเข้าใจกับป๋าเอ ครับสำหรับรถของผมนั้นไม่ใช่ปานะครับ แต่เป็น l200 arrow body ปี 95 เครื่อง 4d56t ก่อนหน้านี้ประมาณว่าปีที่แล้วรถวิ่งอยู่ประมาณ150 km/h นะ แต่หลังๆผมไม่ค่อยจะขับเร็วหรือเปล่า ย่องอยู่ประมาณ 60-100 นี้แหละช่วยประหยัดตังค์ในกระเป๋าหน่อย รถมันอาจจะอืดไป

คำตอบที่ 28