คำตอบที่ 1
เป็นเท็คนิกเอาตัวรอดในหิมะครับ สามารถเอาตัวรอดในป่าได้เหมือนกัน
สมัยก่อนยังให้ใช้ยางตอกหมุดแบบรองเท้าสตั๊ดวิ่งในหิมะได้ แต่วิ่งแล้วถนนเสียเลยต้องห้ามใช้แล้วมาวิ่งยาง snow ดอกใหญ่ลมต่ำแทน เวลาวิ่งในหิมะต้องลดลมยางลงเหลือสิบกว่าปอนด์ ถ้ายังฝืนวิ่งยางแข็งเหมือนถนนดำรับรองว่าไม่ถึงบ้านต้องลงข้างทางไปกอด snow man ข้าง
แต่ลดลมต่ำเวลาติดหล่มแล้วรถเอาข้างวิ่งยางจะปลิ้นออกจากกะทะล้อได้ง่ายๆต้องงัดเอายางอะไหล่มาใช้ แต่ถ้าล้อปลิ้นอีกรอบคราวนี้ความซวยมาเยือนต้องโบกรถกลับบางครั้งยืนเผาบุหรี่จนหมดซองยังไม่มีใครจอดรับ ต้องช่วยตัวเองข้างทาง ขั้นแรกเอามือขวารูดซิป.....
กระเป๋ายังชีพเอาน้ำมันไฟแช็กมากระป๋องหนึ่ง ถ้าไม่มีก็ใช้เบ็นซิน น้ำมันโซล่าใช้ไม่ได้เพราะมันไม่ไวไฟพอจะกลายเป็นเผายางไปเสียฉิบ...
เอาเหล็กงัดยางแต่งล้อที่ปลิ้นให้เข้าไปอยู่ในกระทะให้เรียบร้อยแล้วเอาน้ำมันไฟแช็กฉีดไปรอบๆยางด้านในเป็นวงกลมแล้วจุดไฟพร้อมกับกระโดดหนีถ้าช้าหนวดไหม้ถึงคิ้ว แล้วความร้อนจากการเผาไหม้ในยางจะดันยางพองจนเบ่งไปดันกระทะล้ออีกที พอยางเบ่งไปติดกระทะแล้วไฟจะไหม้ในยางจนดับไปเองเพราะขาดอากาศคราวนี้จะได้ลมในยางประมาณสิบกว่าปอนด์พอวิ่งกลับบ้านได้
เคล็ดลับอยู่ที่น้ำมันต้องไวไฟแบบจุดแล้วพรึบระเบิดอากาศให้ดันยางได้ ถ้าใช้โซล่ามันจะไหม้ช้าๆพร้อมควันโขมง ยางจะติดไฟวอดวายไปทั้งเส้นก่อนจะป่องไปดันกระทะล้อ
ถ้าน้ำมันน้อยไปก็สร้างลมได้น้อยจนแรงดันไม่พอ เอาไปวิ่งแล้วยางจะหลุดกะทะอีกครั้ง ถ้าน้ำมากไปไฟมันดับเองอยู่แล้วแต่น้ำมันไฟแช็กที่เหลือเปียกด้านในของยางมันจะกัดใส้ยางบวมล่อนจากผ้าใบโครงยางภายในเวลาไม่นาน ดังนั้นน้ำมันต้องพอดีๆ ไม่มากไปน้อยไป กะว่าเอาแบบพรึบเดียวเผาไม่เกินสองวินาทีหมดก็พอแล้ว
น้ำมันไฟแช็กกัดใส้ยางบวมได้อย่างไรทดลองง่ายๆเอาน้ำมันไฟแช็กแช่ยางมัดถุงดูว่ามันเปียกน้ำมันสิบนาทีมันจะบวมใหญ่กว่าเดิมประมาณสามเท่า ถ้ายังสงสัยอีกให้ลองถามคนใช้ไฟแช็กซิบโป้ดูว่าถ้าเติมน้ำมันมากเกินไปแล้วมันรั่วใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเปียกกางเกงใน ผิวหนังอวัยวะบางส่วนที่อยู่ในกางเกงในมันบวมล่อนออกมาเหมือนขนมชั้นเหลือแต่เนื้อแดงๆอาบน้ำถูสบู่ไม่ได้ไปอีกสามวัน