คำตอบที่ 1
       ผมขออนุญาติ เริ่มก่อนเลยละกัน

รถผม ปาเจโร่ ปี 94 ดีเชล เครื่อง 4D56t inter 2500 cc.ทะเบียน กง 600 ลพบุรี pct 195

เครื่องยนต์เป็นเครื่องเก่าเชียงกง (เครื่องเดิมกระจายไปแล้ว) วางเมื่อ สองปีที่แล้ว ทราบว่าเป็นเครื่องของรถตู้ในญี่ปุ่น จากนั้นนำมาใส่ อินเตอร์เอง ใส่ ฝากระโป่งแบบมีจมูก เกียร์เดิม เฟืองท้ายหน้า-หลังเดิม
ใช้น้ำมันเครื่อง คราสต้น แมกช์ 7 ลิตร น้ำมันเกียร์ เฟื่องท้ายเบอร์ 90 ไม่มีเต็ด ดิปล๊อก หรือแอร์ล๊อก ใดๆ

คำตอบที่ 2
       อาทิตย์ที่แล้วไปพัทยาขับกินลมชมวิวไม่เกิน 100 กม/ชม.ขากลับอยู่ระหว่าง 100-115 กม./ชม ครึ่งถังได้แค่ 400 กม เอง

คำตอบที่ 3
       ตัวรถ หลักๆ เป็นของเดิม
ช่วงล่าง เสริมด้วยชุดยกช่วงล่างของ ยูนิคอน สูง 5 นิ้ว ปรับช่วงล่าง ตามรูปแบบเดิมเพื่อสะดวกในการตั้งศูนย์ล้อ ล้อเปลี่ยนแมกช์ เป็น ขอบ 15 หน้า 8.5 นิ้ว ออฟเชต -28 ใช้ยาง all ขนาด 31 นิ้ว หน้า 10.5 นิ้ว ลมยาง 30 ปอนด์

คำตอบที่ 4
       อุปกรณ์เพิ่มน้ำหนักตัวรถ
1.บรรไดใหม่ ใช้เหล็ก กลม 3 นิ้ว หนา 2.8 เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และใช้ยกรถ เสริมไชเรียว เสริมวินท์เพลา และไฮลิฟไว้หน้ารถ ตลอดเวลา มีปั้มลม และถังลมภายในรถ

คำตอบที่ 5
       สภาพภายในรถเดิม เสริมอุปกรณ์ของเล่น เวลาเดินทาง

คำตอบที่ 6
       ด้านท้ายรถ มีสรรพรก เต็มไปหมด ทั้งเชือก โช่ สเกน สแนบ ลังเครื่องมือ อะไหล่จำเป็นบางอย่าง ขี้เกียจเอาลงจากรถ ให้แบกถ่วงไปอย่างนั้นเอง เผื่อเวลาจะไปไหน ก็ไปได้เลย แค่โยนเต้นท์ ถุงนอน ลังน้ำแข็ง กระเป๋าเสือผ้า ก็ไปได้ทันที

คำตอบที่ 7
       มาเริ่มกันเลยครับ เมื่อผมได้บอกโหลด ของผมแล้ว

เติมน้ำมันเต็มถังเมื่อวานนี้ 15 พ.ค.49 เซ็ตกิโล เป็น 0 หมด เลขไมล์หลัก 378137 ที่ปั้ม คาร์เทก สุวินทวงศ์ เวลา 08.00 น. (แถวๆ ที่ทำงาน ลาดกระบัง)

คำตอบที่ 8
       วิ่งมา 63 กิโล เลขไมล์ 378201 ความเร็วที่ใช้ ไม่เกิน 100 รอบเครื่องประมาณ 2200-2500 อาจมีเร่งแซงบางเป็นบางช่วง
เส้นทาง 63 กิโลที่ใช้ จากปั้มไปที่ทำงาน และจากที่ทำงานหลังนิคม ลาดกระบัง ถนนสุวินทวงศ์ รามอินทรา นวมินทร์-เกษตร จนถึงบางใหญซิตี้ฯ (บ้าน)

คำตอบที่ 9
       วันที่ 16 วันนี้ เช้าออกจากบ้าน เลือกเส้นทางมอเตอร์เวย์ หนีรถติดเปิดเทอมในตัวเมือง ออกจากบ้าน 06.30 น. จากบางใหญ่ วงแหวนตะวันออก บางปะอิน เข้ามอเตอร์เวย์ ออกรามอินทราที่แฟชั่น เลี้ยวซ้านที่แยกมีน เข้าสุวินทวงศ์ ไปลาดกระบัง (นิคมฯ)
เลขกิโล 170 เลขไมล์หลัก 378307 ร่วมระยะทาง 107 กิโล ถึงที่ทำงาน 0815 น. ความเร็วในมอเตอร์เวย์ ใช้ที่ 90-100

คำตอบที่ 10
       กลับบ้าน ใช้เส้นทางเดียวกับข้อ 8. ถึงหน้าบ้าน รวม กิโล 221 เลขไมล์หลัก 378359 เข็มน้ำมันเพิ่งตกมาประมาณ 1-2 มิล

เดี่ยวพรุ่งจะวัดและถ่ายรูปมาลงอีก ว่า หมดถังจะได้สักเท่าใด แล้วค่อยเฉลี่ยเป็น กิโล/ลิตร และตกกิโลและกี่บาท (ราคาน้ำมันดีเชลเมื่อวานที่เติม 26.19 บาท เติมไปทั้งสิ้น 1950 บาท รวมน้ำมัน74.45 ลิตร กิโลที่ลบไป 830 กิโล )

คำตอบที่ 11
      

เริ่มก็สนุกเเล้ว

คำตอบที่ 12
       กระทู้นี้ ผมคิดว่าน่าสนุกนะครับ เรามาแข่งกันว่า เราจะขับเจ้าปาฯ ในสภาพความเป็นจริง ใช้ความเร็วที่เหมาะสม ใช้ทักษะ การขับขี่ที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ คลัชท์ เบรค เกียร์ คันเร่ง ภายใต้สภาพการจราจรจริง แบกน้ำหนักตามที่เคยแบก เปิดแอร์ให้เย็นสบายใจ เปิดเพลงเพราะๆ ฟังไป แบบเพลิน สบายๆ ใช้ชีวิตไม่เร่งรีบ แต่ก็ไม่ใช่เชื่องช้าอืดอาจ ยืดยาด

ผมขออนุญาติ ออกตัวสักนิดว่า กระทู้นี้ ไม่ใช้เพื่อ อวดดี อวดเก่ง หรือโชว์ออฟ แต่ประการณ์ใด หรือรถของผม วิเศษ วิโส กว่าใครๆ หรือผมขับรถดีที่หนึ่ง แต่ที่คิดตั้งกระทู้นี้ก็เพราะกระแส ประหยัดน้ำมันมาแรง และในชีวิตประจำวัน เราต้องใช้รถตลอดเวลา ฉะนั้นเรามาแข่นกันประหยัดน้ำมัน แข่งกันขับรถให้ดี ดีกว่าแข่งกันแต่งรถ แข่งความเร็ว หรืออะไรที่มีแต่เรื่องเสียสะตังส์ ชั่วโมงนี้เอาสะตังส์ไว้ใช้ประโยชน์อย่างอื่น หรือเอาไว้ซ่อมบำรุงเจ้าปาฯเวลาเขาไม่สบายดีกว่า ครับ

คำตอบที่ 13
       รถท่านนี่เยี่ยมพร้อมลุยเสมอ

คำตอบที่ 14
      

คำตอบที่ 15
       ผมใช้เส้นทางดอนเมือง-สีลมทุกวันระยะทางประมาณ76กิโล/วัน น้ำมันจะขึ้นแค่ไหนก็ 8.5กิโล/ลิตร ใช้ความเร็วอยู่ที่90-120กม/ชม ทำได้แค่นี้จริงๆ

คำตอบที่ 16
      
................

คำตอบที่ 17
       ผมลงแข่งด้วยคนครับ พี่เอ
รถผมก็ดีตอนนี้แหละพี่

คำตอบที่ 18
      

ร่วมสนุกสักถังหนึ่งก็ดีครับ ขับแบบระวังตัวน่าจะมีระยะทางงอกเพิ่มได้อีกสัก 1-3กิโลเมตร/ลิตร


แต่ธรรมชาติของผมชอบมีความสุขระหว่างเดินทาง ชอบขับตามใจ ตอนนี้วิ่งได้ ชานเมือง-ในเมือง เฉลี่ย 9.5-10กม/ลิตรถือว่าซื้อความสุขในการขับแล้วครับ ช่วงหลังนี้ผมใช้รถเล็กเสริมประหยัดเงินได้พอสมควร

คำตอบที่ 19
      

คำตอบที่ 20
      

คำตอบที่ 21
       มาแล้วครับ สำหรับการขับขี่แบบสบายๆ ในวันที่สาม สำหรับน้ำมันถังนี้..........

คำตอบที่ 22
       ยังคงรักษา ความเร็วในการเดินทาง ช่วง 80-100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง เช่นเดิม ครับ

คำตอบที่ 23
       เลขกิโลที่ 347 เลขไมล์หลักที่ 378484

คือที่หมายที่ทำงาน เส้นทางที่ใช้
ออกจากบ้านบางใหญ่ กลับรถไปส่งลูกที่เทพศิรินทร์ นนทบุรี (โลตัสพระราม 5 ) จากนั้นกลับรถอีกครั้ง มุ่งหน้าวงแหวนตะวันออก เข้ามอเตอร์เวย์ที่บางประอิน ออกที่รามอินทรา แยกมีนบุรี เข้าสุวินทวงศ์ ไปนิคมฯลาดกระบัง

คำตอบที่ 24
       ขากลับ ออกจากที่ทำงาน เข้ารามอินทรา เลี้ยวซ้าย กม.8 เข้าสุขาฯ 1 เลี้ยวขวา เข้านวมินท์-เกษตร งามวงศ์วาน แคราย พระนั่งเกล้า เลี้ยวซ้ายเข้าพระราม 5 ออกตลิ่งชัน-สุพรรณฯ รับลูกที่เทพศิรินทร์ กลับรถ มาบางใหญ่ หน้าบ้าน

เลขกิโล 411 เลขไมล์หลัก 378548 เข็มน้ำมันเพิ่งเริ่มตกเข้าช่องที่สองประมาณ 1 มิล ครับผม............

คำตอบที่ 25
       ช่วงนี้ เช้าๆ ฝนเริ่มตก บางแห่งก็หนัก บางแห่งก็โปรยปราย ถนนอาจลื่น อีกทั้งมีรถรับ-ส่งคนงาน ที่วิ่งด้วยความเร็วสูง เพื่อนๆโปรดใช้ความระมัดระวัง ในการขับขี่ ด้วยนะครับ ควรเริ่มตรวจเช็ค ลมยาง ใบปัดน้ำฝน น้ำยาฉีดกระจก ด้วยนะครับ.........

คำตอบที่ 26
      

คำตอบที่ 27
       ประหยัดขนาดนี้ปาเจโร่น่าขับขึ้นอีกมากเลย.....สุดคุ้ม 14 กม/ลิตรแน่เลย

คำตอบที่ 28
       ตอนช่วงเช้า ของเมื่อวานนี้(18-05-49) ไปทำงาน ใช้เส้นทางมอเตอร์เช่นเดิม ได้กิโลมาที่ 537 เลขไมล์หลัก 378674

คำตอบที่ 29
       ขากลับบ้าน ใช้เส้นทางเดิม เข้าเมืองเช่นกัน แต่ใช้เวลามากกว่าปกติ ถึงเกือบ 1 ชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากช่วงบ่ายถึงเย็นเมื่อวานนี้ มีฝนตกพอสมควร รถติดมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมติดอยู่บนถนน นวมินทร์-เกษตร ตั้งแต่แยก ลาดปลาเคล้าถึงแยกเกษตร ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ทำให้ศูนย์เสียน้ำมันไปเปล่าๆ หลายลิตรอยู่เหมือนกัน (และนี้คือปัจจัยหลักของคน กทม. ที่ต้องศูนย์เสียพลังงานราคาแพง ไปกับการนั่งบนรถที่ติดยาวๆ นานๆ โดยเฉพาะเมื่อ ฝนตก สมดังคำพูดของคน กทม." ฝนก็ตก รถก็ติด น้ำก็ท่วม " )

ถึงหน้าบ้านได้เลขกิโลมาที่ 600 เลขไมล์หลัก 378737 หากวันนี้เติมน้ำมัน ก็จะสรุปผล ละครับ

คงยากครับ ที่จะทำ 14 กิโล/ลิตร ครับคุณซ้ง เพราะเป็นการวิ่งจริง ตามความเร็วที่สามารถใช้ได้จริงในเมืองหลวง แต่สำหรับผมถ้าได้ 10 กิโล/ลิตร ขึ้นไปก็ถือว่าคุ้มค่าเกินราคา แล้วครับ กับรถปาฯ เนี่ย...........แล้วผมจะสรุปอีกทีเมื่อเติมน้ำมัน......

คำตอบที่ 30
       แค่นี้ก็ปลื้มแล้วครับ

คำตอบที่ 31
      

เข็มน้ำมันอาการเดียวกันกับที่เป็นหลายๆคันครับ คือตอนลงช่วงแรกบางคันลงน้อยบางคันลงมาก ผมสังเกตุตอนไปลาวที่ต้องเติมน้ำมันพร้อมกันสามคันหลายๆครั้ง รถของผมวิ่งไปสองร้อยกิโลเมตรน้ำมันลงมาเหลือ 2/3ถัง ขณะที่ของบอยและหมีขาวเหลือกว่า3/4ถังทั้งสองคัน


ที่ช่วงขอนแก่นหนอง-คายเข็มจะลงแบบรวดเร็วเนื่องจากเป็นธรรมชาติของรถญี่ปุ่นที่ตอนครึ่งแรกเข็มน้ำมันลงช้าแต่ตอนครึ่งปลายเข็มน้ำมันจะลงแร็วกว่าสองเท่าตัว



เกือบถึงหนองคายของผมลงแบบฮวบเหลือ 1/8ถ้ง ของบอยและหมีขาวลง 1/4ถัง ของบอยจะแข็งกว่าหมีขาวเล็กน้อย แต่พอเติมน้ำมันแล้วทั้งสามคันได้ 60-64ลิตร ไม่ต่างกันมากเนื่องจากของบนหลังคาต้านลมต่างกัน กับระยะทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ถือว่าเครื่องยนต์ทั้งสามคันซดน้ำมันไม่แตกต่าง


รถหลายๆคันพอลงมาแตะที่ E วิ่งไม่กี่สิบกิโลเมตรก็ไฟแดงขึ้น แต่ของผมแตะ E แล้วยังเหลือน้ำมันอีกประมาณ 15ลิตรวิ่งได้เกือบร้อยกิโลแต่ตั้งแต่ใข้รถมายังไม่เคนเห็นไฟดวงนี้ติดเพราะผมจะเติมก่อนที่ 3/4ถังทุกครั้ง

คำตอบที่ 32
       ผมต้องวิ่งอยู่ในเส้นสีแดงตลอดครับ ทั้งเช้าและเย็น
ระยะทางประมาณ 6 กม.
ปีที่แล้วใช้เวลาประมาณ 30 นาที ++
ปีนี้ใช้เวลา 1.30 ชม. ++

คำตอบที่ 33
       ผมอยู่อาคารซิลิกที่สีลมมาสามปีรู้หัวอกเดียวกันดีครับ

คำตอบที่ 34
       ถูกต้องแล้วครับ เรื่องของเข็มวัดน้ำมันเชื้อเพลิง จะเป็นแบบที่ อ.วอนบอกมาทุกประการ อย่างของผม ช่วง 1 ช่องแรก จะแข็งมาก ซัดได้ไปหลายกิโล จนเพื่อนๆ หลายคนเริ่มตกใจ แต่หลังจากครึ่งถังไปแล้ว เข็มจะลงเร็วมาก

ดังนั้น ผมจึงขอทดสอบ กันที่ 1 ถัง เลย เพราะครึ่งถังบางที่ยังไม่ชัดเจนว่าได้เท่าไรแน่..........

คำตอบที่ 35
       วันนี้ สิ้นสุดเสียที่ หมดถังพอดี จนไฟสัญญาณน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มกระพริบ แบบติดๆ ดับๆ ได้กิโลมาที่ 838 เลขไมล์ที่ 378975

วันนี้ใช้เส้นทาง มอเตอร์เวย์ทั้งไป-กลับ เนื่องจากกลัวรถติดช่วงขากลับแบบเมื่อวาน กลัวไปรับลูกที่โรงเรียนไม่ทันจึงมีการแหกกฎบ้าง ในบางช่วง.........

คำตอบที่ 36
       จึงแวะเติมน้ำมันที่ปั้มหอย หน้าโรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี ตกใจน้ำมันขึ้นอีกแล้วหรือนี้ 26.74 บาทต่อลิตร

คำตอบที่ 37
       เติมไปทั้งสิ้น 82.28 ลิตร เป็นเงิน 2200 บาท (เป๋าแบนเลย)

เฉลี่ยได้ 10.184 กิโลเมตร/ลิตร หรือคิดเป็นเงิน ตกกิโลละ 2.625 บาท
ขออนุญาติเพิ่มเติมข้อมูล ผมใช้ยาง 31 นิ้วนะครับ
หากเป็นยาง 30 นิ้ว หรือยางติดรถ(ขนาด 225/70/15 น่าจะประมาณ 28 นิ้ว) ก็จะได้กิโลมากกว่านี้ และในทางกลับกัน หากเป็นยางขนาด 33 นิ้ว ก็จะได้กิโลน้อยกว่านี้ ในรถคันเดียวกัน
คงต้องใช้สูตร คำนวณเกี่ยวกับล้อ และยางมาใช้ประกอบ ด้วยครับ
สูตรคำนวณยางของคุณ sak yakusa
สำหรับคันที่ยังเฟืองท้ายเดิม 8:39 (4.875)
ขนาดวงล้อเดิมติดรถเลยคือ 225x70 15" = 27.5 นิ้ว ครับ

เปลี่ยนล้อ 28 " = ความเร็วเดิม x 1.017
เปลี่ยนล้อ 29 " = ความเร็วเดิม x 1.060
เปลี่ยนล้อ 30 " = ความเร็วเดิม x 1.080
เปลี่ยนล้อ 31 " = ความเร็วเดิม x 1.116
เปลี่ยนล้อ 32 " = ความเร็วเดิม x 1.154
เช่น คนใช้ล้อ 31" ขับ 100 กม/ชม จะเทียบความเร็วจริง ได้ 116 กม/ชม
และระยะทางขับได้เท่าไหร่ก็ต้องคูณ 1.116 ด้วยครับ
คำนวญการกินน้ำมันก็ต้องคูณ 1.116 เช่นกันครับ


ดังนั้น รถผมใช้ ยาง 31 นิ้ว ขับไปทั้งสิ้น 838 กิโล จึงเท่ากับ 838 X 1.116 = 935.208 กิโลเมตร
ใช้น้ำมันไป 82.28 ลิตร จึงเท่ากับ 935.208 หาร 82.28 =11.366 กิโลเมตร ต่อลิตร หรือเท่ากับ กิโลละ 2.35 บาท ครับผม...................จบการรายงาน การขับรถแบบไม่ประมาณ และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ของการใช้รถตามสภาพความเป็นจริงของ ชีวิตคน กทม......

คำตอบที่ 38
       ขับแบบนี้ ความเร็วกำลังดี ไม่ช้า และไม่เร็วจนเกินไป เดินทางแบบสบายๆ เปิดแอร์พอเย็นๆ ฟังเพลง ยุค 60 .....happy สุดๆ ครับ

คำตอบที่ 39
       การขับแบบนี้ ไม่ใช้แค่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว
เช่นการขับรถในความเร็ว 80 -100 เป็นการประหยัด น้ำมันเชื้อเพลิง ได้ถึง 10 กว่ากิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเป็นอัตราที่พอใจแล้วสำหรับรถที่หนักเกือบ 2 ตัน และยังยืนอายุการทำงานของเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่อง เทอร์โบ ชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ ปัญหาความร้อนไม่มี

การเลือกเส้นทางที่เหมาะสม เช่นเลือกมอเตอร์เวย์ แม้จะไกลกว่า แต่ใช้เวลาและน้ำมันใกล้เคียงกัน ทำให้ประหยัด เบรค ที่ไม่ต้องกระทำบ่อยๆ เช่นในเมือง ประหยัดคลัชท์ที่ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ เช่นในเมือง สบายอารมณ์กว่า ไม่ต้องหงุดหงิด กับพวกที่ขับรถเบียดซ้าย เบียดขวา ไม่มีระเบียบ เข้าคิวไม่เป็น

ที่สำคัญที่สุด การขับรถอย่างไม่ประมาท ทำให้เรายืดอายุ ชีวิตของเราเอง ให้ยาวนาน อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องรักษาชีวิตให้นานที่สุด จนกว่าเราจะทำหน้าที่ของคำว่า "พ่อ " เสร็จสมบูรณ์แล้ว.....................

ขอให้ทุกท่าน เดินทางปลอดภัย เห็นอกเห็นใจ ผู้ใช้รถ ใช้ถนนร่วมกัน .....ทุกๆท่านเทอญ....................

คำตอบที่ 40
      

คำตอบที่ 41
      
เดือนหน้าพบกับการรายงานของผมครับ ฉบับเต็มสูตร....

คำตอบที่ 42
      

คำตอบที่ 43
       เยี่ยมเลยครับ อ่านมาตั้งแต่วันแรกเลย

ขอร่วมสนุกไปกับรายงานของพี่เอก่อนก็แล้วกันครับ
ยังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ทำอย่างนี้เมื่อไหร่

ตอนนี้รถผมน่าจะประหยัดที่สุดแล้ว เพราะไม่ได้วิ่งออกมาเลย
สัก 2 อาทิตย์แล้วมั้ง ได้แต่ไปสตาร์ทวิ่งรอบลานจอดรถ แล้วก็เก็บ

แต่ล่าสุด ผมลงยางมาเป็น 31" แล้วครับพี่เอ ปลายไม่อั้นอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ไหล

ประหยัดกันเห็น ๆ อีก 2 โลลิตร (คำนวญยางและเฟืองแล้ว)
ตอนนี้ได้มาก็ 9.5 - 10.5 ครับ ไปกลับ กทม- ระยอง ขับแซงไม่เกิน 110

เมื่อก่อนยาง 33" ขับใจเย็นยังไงก็ยัง 7.5 - 8 โลลิตร ไม่ไหวครับ

คำตอบที่ 44
       ยินดี ด้วยครับ คุณศักดิ์...........

คำตอบที่ 45
       พี่เอ ลองวิ่ง ตำกว่า 80 รอบเครื่องประมาณ 2000-2500 ดูซิครับ น่าจะประหยัดขึ้น แต่ไปถึงที่หมายช้าลง กินเวลามากขึ้น .....ผมเคยวิ่งจากสมุทรปราการไป แถวแยก 345 ทางไปสุพรรณ เข็มนำมันเบนซิน คันนี้ตกลงมานิดเดียวเองจาก ปรกติที่ วิ่งเกินรอบ2500 ทุกวันนี้ถ้าไม่รีบผมก็วิ่งแถวๆ2000-2500 ผมจะวัดทุกถัง ทุกคันที่ขับเป็นการแข่งกับตัวเองว่าจะทำสถิติ ใหม่ให้ตัวเองได้มั้ย เครื่องเบนซินผมอย่างเก่งได้แค่7 กม/ลิตร กินสุดก็5 กม/ลิตร

คำตอบที่ 46
       ขอบคุณ ครับ คุณ pct50 นี้ผมก็วิ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 80-100 รอบเครื่องจะประมาณ 2000-2500 อยู่แล้วครับ เฉลี่ยออกมาได้ 11 กว่าๆ ผมก็ happy สุดๆ แล้วครับ ยิ่งรักมากขึ้น เจ้าปาเจโร่นี้

คำตอบที่ 47
       ไม่อยากอ่านกระทู้นี้เลย555 อ่านแล้วคิดมาก...จะขับอย่างไรจะได้ประหยัดบ้าง ไอ้เรามันพวกวัยซะรุ่นขับช้าไม่ค่อยล่ายเสียด้วย...

คำตอบที่ 48
       ขออภัยครับพี่ เห็นรูป 22 รอบเกือบ3000 สงสัยยังไม่สุดเกียร์4
ลืมดูรูปหลังๆ

คำตอบที่ 49
       อ.สมเกียรติ ไปไหนก็ให้เพื่อนลากไปด้วยประหยัดแน่นอน 555

คำตอบที่ 50
       ก็รอป๋ามดดำมาลากอยู่อิอิอิ....แต่ถ้าใครจะแข่งขับแบบกินน้ำมันแ่ต่รถไม่วิ่งมาแข่งกับผมได้เลยยยยย5555

คำตอบที่ 51
      

คำตอบที่ 52
      

พี่มดดำเนี่ย ถ้าเป็นมวยก็ระดับ " ซือเเป๋เรียกพี่ "



เพราะเป็นยอดฝีมือ นานๆจะออกอาวุธที เเต่ถ้าออก


มีเเต่ "เน้น ๆ หนัก ๆ เห็นจะเเจ้ง เข้าตากรรมการเเละคนดู"


ยกตัวอย่างวันนี้


อ.เกียรติ PCT 196 ( คำตอบที่ 49 ) เจอไปหนึ่งดอก

คำตอบที่ 53
       สรุปผลการขับแบบประหยัด โดยขับรอบเครื่องไม่เกิน2500 รอบทุกเกียร์ ได้ระยะทาง 767 กม.เติมน้ำมัน 76.67 ลิตร 2050 บาท กับเส้นทางในกทม.และยาง 31 นิ้ว ครับ

คำตอบที่ 54
       โห 767x1.16=855.972km
ใช้น้ำมัน 76.67 ลิตร
ทำกันได้ไงครับ 11.16 โลลิตรเนี้ย อิจฉา

คำตอบที่ 55
       ผมขอเอารถสแตนด์ฯ มาเทียบก็แล้วกันครับ พอดีช่วงนี้ได้ใช้รถบริษัทฯ ขับในเมืองบ้างชานเมืองบ้าง ใช้ความเร็วมาตราฐานคือตามๆ ชาวบ้าน ไม่ให้เกะกะถนน
D-MAX รุ่น SLX เครื่อง 2500 turbo ไม่ใช่คอมมอนเรล
แค๊ป แล้วก็มีหลังคาไฟเบอร์ ยางขอบ 15 เดิมๆ
เมื่อวานเพิ่งเติมน้ำมันคำนวนได้ ประมาณ 12 กิโลลิตร ตกก็กิโลละ 2 บาทนิดๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อมาเทียบกับปาเจโร่เรา รถคันนี้น่าจะเบากว่าประมาณ 500 โล แล้วยางก็เล็กด้วย ส่วนไมล์นั้นลองจับกับ GPS อ่อนกว่า 2-3% ไม่เหมือน Vigo อ่อนไปเกือบ 10 %
สรุปยังไงผมก็ว่าปาเราคุ้มกว่า (เข้าข้างตัวเองหรือป่าวก็ไม่รู้) เพราะยังไงมันก็ขับแล้วมันสนุกกว่า กินน้ำมันมากว่าโลละ ห้า-หกสิบตังค์(ต้องขับแบบเรียบร้อยหน่อยน่ะ) ยังไงก็ยอมจ่ายครับ
มีเทคนิคอีกอย่างนึงคือ ปั๊มดีเซลเราคิดง่ายๆ มีสองก๊อก ก๊อกแรกใช้ในรอบเครื่องต่ำๆ บูสน้อย แต่พอบูสเทอร์โบมาเกิน 5-7 ปอนด์ มันจะทำงานอีกก๊อก ทำให้น้ำม้นพอเลี้ยงในช่วงบูสสูง ดังนั้นถ้าต้องการขับแบบประหยัดก็ไม่น่าจะให้บูสเกิน 5 ปอนด์แล้วก็เปลี่ยนเกียร์ ส่วนปลายๆ ความเร็วน่าจะอยู่ได้ที่ประมาณ 80-90 ถ้าเลี้ยงบูสไว้ประมาณนี้ (ขอคำแนะนำจากพี่ Von เพิ่มด้วยน่ะครับ) ผมเคยลองมาสองรอบไปจังหวัดเลย กับไประยอง ขาไปก็นิ้งหน่อง ประหยัดน้ำมัน แต่ขากลับตะบะแตกครับมันอดไม่ได้จริงๆ อยากถึงบ้านเร็วๆ ก็เลยไม่กล้าคำนวนครับ
ถ้าวันไหนไปเที่ยวกันเยอะๆ ลองเทียบเข็มไมล์กันดูหลายๆ คันก็ดีเหมือนกันน่ะครับ ผมว่ามีตัวแปรหลายๆ อย่างที่ทำให้ไมล์มันเพี้ยน เราก็จะได้มีแนวทางว่าทำยังไงปาฯของพวกเรา ถึงจะแรงจัดประหยัดสุด ครับ บอกตามตรงครับถ้าถึงวันที่ต้องยกดีเซลลงแล้วใช้เครื่องเบนซินติดแก๊ส เพื่อที่จะรั้งเจ้าปาฯไว้ใช้ตลอดชีวิต มันทำใจลำบากเหมือนกันน่ะครับ

คำตอบที่ 56
       วันนี้เติมน้ำมันเต็มถัง
ระยะทางวิ่งจากที่เติมครั้งที่แล้ว 612 ก.ม.ใช้ในกทม.
เติมไป 1910 บาท
ราคา 26.49 บาท (ถูกกว่าที่อื่น เพาระเป็นน้ำมันสวัสดิการทหารปั๊มอยู่ในสนามเสือป่า)
ได้มา 72.10 ลิตร
1. 612/72.10 = 8.49 กม./ลิตร
2. 1910/612 = 3.12 บาท/ลิตร

ทำยังไงดีถึงจะได้ 10 กม./ลิตร

คำตอบที่ 57
      

คำตอบที่ 58
       พี่หมีครับ รถพี่หมียาง 31 เฟืองท้ายเดิม
ต้องเอาค่าที่ได้มาคูณ 1.116 ด้วยครับ
จะได้ค่าเพี้ยนจากไมล์เดิมที่ถูกต้องกว่า
8.49 ที่ได้ ต้อง x 1.116 = 9.47 ครับ

ของพี่หมีได้ 9.47 โลลิตร ครับ

คำตอบที่ 59
       ของพี่หมีได้ 9.47 โลลิตร กับเครื่องเดิมติดรถมาตั้งแต่ออกห้าง จนถึงวันนี้ ก็ 10 ปี แล้ว แถบยังไม่เคยเปืดเครื่องมาทำอะไรเลย ทำได้ขนาดนี้ ก็สุดยอดรถ สุดยอดเครื่องแล้ว พี่เอ๋ย .........

คำตอบที่ 60
       น้ำมัน 60 ลิตรของรถคุณหมีต่างกับรถของผมและของบอยไม่เกิน 4ลิตรเท่านั้นเอง เทียบกับของกองใหญ่บนหลังคากับระยะทางเกือบ 600 กิโลเมตรที่ความเร็ว 110-120 กม/ชม น่าจะพอใจแล้วครับ

คำตอบที่ 61
       เปลี่ยนเครื่องก็ใช่ว่าจะประหยัดครับ
ล่าสุดเดินทางไปเฃียงใหม่ ขากลับเติมน้ำมันเต็มถังที่เฃียงใหม่ ขับ90ตลอดทาง เมื่อเช้าเติมน้ำมันอีกครั้ง ระยะทาง 736 กม. เติมไป 83 ลิตร
คิดแบบเข้าข้างตัวเอง 736*1.08(ยาง 30 นิ้ว)=795กม.
เฉลี่ย 9.57กม/ลิตร

คำตอบที่ 62
       คอมเพรสเซอร์แอร์ตัวนี้หนักกินแรงมหากาฬโลกนะบอย วันนั้นที่ลองวิ่งรถดูแล้วความเร็วปลายหายไปเป็นสิบกิโลและเครื่องทำงานหนักจนความร้อนขยับ

ลองคอมเพรสเซอร์กินแรงเบาๆแต่เย็นจัดดูบ้างอาจจะได้ระยะทางดีกว่านี้

คำตอบที่ 63
       คุณ Sak YaKuSa ครับรถผมคงไม่ต้องคูณเพราะเคยทดสอบแล้วไกล้เคียงกับระยะจริงมากเลย

คำตอบที่ 64
       อ.วอนครับ ผมถามทางช่างที่ติดตั้งแอร์ ช่างบอกว่า ถ้าตัวนี้กินแรงก็ไม่ต้องหาตัวอื่นแล้วครับ
สงสัยคงต้องทำใจสำหรับการกินน้ำมัน

คำตอบที่ 65
       ผมสงสัย ถ้าใส่ลอกสายพานเพิ่มจะทำให้คอมฯทำงานเบาขึ้นหรือเปล่าครับ

คำตอบที่ 66
       รายงานผลน้ำมันถังที่ 2 ที่เข้าร่วมโครงการ

การขับขี่เหมือนเดิมวิ่งแต่ในกทม.-สมุทรปราการ น้ำมันเติมไป 63.57 ลิตร ราคา 1700 บาท ได้ระยะทาง 630 กม.ครับ

คำตอบที่ 67
      

คำตอบที่ 68
       คันไหนตะกายได้เกิน 9.5 กิโล/ลิตร ในสภาพขับตามสบาย อัดบ้างเบาบ้าง ถือว่าเครื่องสมบูรณ์ครับ

คำตอบที่ 69
       ของผม 9.5 กม/ลิตร แบบเลี้ยงความเร็วไม่เกิน 90 ความเร็วรอบไม่เกิน 2500 ทุกกรณี อึดอัดมากกกกกก

ทดลองแบบตามใจเท้า กระชากหลังติดเบาะ สุดปลายที่ 130-140 มันซดยิ่งกว่าคอแห้งหิวโอเลี้ยงแบบที่อ.วอนชอบพูดเลยครับ ครึ่งถังวิ่งได้แค่350 โล

คำตอบที่ 70
       ของผมทำแล้วเติมน้ำมัน1900บาทวิ่งได้600โลความเร็วอยู่ที่80-90กิโลเมตร/ชั่วโมงครับ

คำตอบที่ 71
       ของผมต้องรออีกพักใหญ่ กว่าจะได้รู้ผลครับ เพราะช่วงนี้แทบไม่ได้ขับ
ตั้งแต่พี่เอเริ่มโครงการมา เติมน้ำมันเต็มถัง แต่ยังใช้ไม่ถึงครึ่งถังเลย
อาทิตย์หน้าเข้า กทม คงจะได้รู้คล่าว ๆ หละครับ

คำตอบที่ 72
       ดีที่สุดเท่าที่เคยลองดูนะครับ
เติม 4000 บาท วิ่งได้ 1370 กม.ครับ
เส้นทาง เชียงใหม่ - อ่างขาง - เชียงราย - สามเหลี่ยมทองคำ - ดอยอินทนนท์ และใช้ในเมือง ทั้งหมด 1370 กม.

คำตอบที่ 73
      

ขอรายงานถังที่เพิ่งเติมเมื่อสักครู่นี้เอง



สาเหตุที่รายงานช้าเพราะผมใช้วิธีเติมน้ำมันแบบแข่ง ไมล์เลสมาราธอน คือเติมแล้วเขย่ารถจนถึงคอถังเพื่อความแน่นอนทั้งสองครั้ง เนื่องจากถังน้ำมันของรถทุกคันจะมีระยะหัวถังส่วนหนึ่งที่เรียกว่า Free board ที่มีระยะของอากาศจำนวน 5% ของปริมาตรถัง และตัวตัดของแต่ละปั้มก็ตัดไม่เท่ากันดังนั้นเติมเขย่าถึงคอถังแน่นอนที่สุด


ได้ระยะทาง 575.2 กม. เติม 58.96ลิตร ได้เฉลี่ย 9.756กม/ลิตร

ผมขับแบบตามใจตัวเอง เท้าขวาเป็นโรคเท้าช้าง ถังนี้มีเหตุมหาวินาศสองครั้งคือ วันเสาร์รถติดงานเทิดพระเกียรติ์ที่อิมแพคเมืองทอง จากสะพานพระนั่งเกล้าไปถึงเมืองทองประมาณสามชั่วโมง และวันพฤหัสตอนเย็นไปรับกิ๊กที่ร้านสุกี้เรือนเพชรอโศกจากหลานหลวงไปถึงอโศกใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง



รวมเวลาเผาน้ำมันทิ้งเปล่าๆประมาณ 5ชั่วโมง รวมกับที่ขับเลวๆกระทืบคันเร่งไล่กัดตูดรถกวนตีX ได้เฉลี่ย 9.756 กิโล/ลิตร ผมพอใจในสมรถนะของเครื่องยนต์แล้วครับ

คำตอบที่ 74
      

คำตอบที่ 75
       ขนาดเผาน้ำมันทิ้งไปตั้ง 5 ชั่วโมง และยังมีขับกระทืบ ๆ อีก
ยังได้ตั้ง 9.756

มีใครเริ่มสนใจล้อและยางขนาดเดิม ๆ แบบ อ.วอน
บ้างแล้วหรือยัง... อิ ๆ ....

คำตอบที่ 76
      
ผมไม่สนใจล้อและยางขนาดเดิมๆของพี่ Von หรอกครับ สนทั้งคันเลยถ้าเป็นคันนี้ แลกกันเอาป่าวพี่ Von .....

คำตอบที่ 77
      
ไม่สนนะคุณEthan

ไม่แลกน้องปา(กระป๋อง)เป็นอันขาด

คำตอบที่ 78
       เมื่อวานนี้ ได้ตัวเลขใหม่มาอีกชุดหนึ่งครับ

เติม 45.5ลิตร วิ่งได้ 489.5กม. เฉลี่ย 10.758กม/ลิตร


วิ่งในเมืองชานเมือง 50/50 ไม่เจอรถติดมาก และยังขับกระทืบเล่นเป็นบางครั้งครับ



ตัวเลขไม่สวยก็มีครับ เมื่อสัปดาห์ก่อนไปหาดนางรำอีกครั้ง วิ่ง 120-140 ตลอดทางบนมอเตอร์เวบ์จนถึงสัตหีบทั้งไปทั้งกลับเนื่องจากต้องทำเวลาที่ลงตัวมากๆ

วิ่ง 458กม เติมไป 55.3ลิตร เหลือแค่ 8.2กม/ลิตรครับ


ยังดีกว่าตอนยังไม่ลดราวปั้ม วิ่งอัดสุดเสียงเครื่องแช่ยาวจากหัวหินมายังไม่ถึงมหาชัยระยะทางประมาณ 200กว่าๆต้นๆ น้ำมันหมดถังแล้ว วิ่งได้3.5- 4กม/ลิตร เติมเสร็จก็กระทืบต่อไปชลบุรีก่อนถึงตัวเมืองเชิงทางลงทางยกระดับแล้วกลับกรุงเทพ สิริรวมแล้วเติมไปสองถัง ไม่กว่า 130ลิตร กับระยะทางหัวหิน-ชลบุรี-กทม. กินน้ำมันมากกว่าระยะทาง กทม-หลวงพระบาง เมื่อตอนปีใหม่กับคุณหมีขาวเสียอีก

คำตอบที่ 79
       เพิ่งกลับมาจากสงขลา 2200 กม. น้ำมัน 6900 บาท
วิ่ง90-110 กินเหมือนกัน

คำตอบที่ 80
       ลากยาวววววเลยนะ...นายบอยเปลี่ยนเครื่องแล้ววิ่งไปไกลจริงๆๆ

คำตอบที่ 81
       +6900/2200 = 3.17 บาท/ก.ม.

ท่านBoy_Pajero บรรทุกสิ่งใดไปด้วยเล่า ทำไมถึงได้ซดขไหน-นาด ปานนั้น ขอรับ

คำตอบที่ 82
       ขาไปนั่ง 2 คน น้ำหนักสัมภาระอีกประมาณ 200 โล
ขากลับ 3 คน สัมภาระ 100 โล ครับท่านพี่

คำตอบที่ 83
       หรือเกิดจากการเปลี่ยนเครื่องใหม่ซิง ๆ ตามที่ อ.เกียรติฯ บอก ขอรับท่าน

คำตอบที่ 84
       เครื่องใหม่ ม้า 115ตัว มันอ้วนกินหญ้าจุเพราะ มันสูงกว่าเครื่องปาอินเตอร์แท้ไปอีกขั้น

เล่นเครื่องระดับ 85KW ก็อย่างนี้แหละ

คำตอบที่ 85
       ขอบคุณครับ คงต้องหาวิธีทำให้แรงม้าที่มากขึ้นเกิดประโยชน์มากกว่านี้ครับ

คำตอบที่ 86
      

คำตอบที่ 87
       เครื่องรถตู้ ของ พี่บอย แรงจัดจ้าน กว่า เครื่องเราครับ พี่ริน

อัตราเร่งดีกว่าครับ ของผมก็ 9 - 10 โลลิตร อย่าง อ.วอน ว่าเครื่อง

น่าจะสมบรูณ์ แต่มันดังกว่า คันอื่นครับ 330,xxx แล้ว

คำตอบที่ 88
       ขอเรียนสอบถามเรื่องการคิดระยะทางที่ได้ครับ รถผมใช้ยาง Pro Comp 285/75R16 เฟืองท้าย 7:37(5.285) ไม่ทราบว่าตัวคูณเพื่อหาระยะทางจริงอยู่ที่เท่าไรครับและคิดกันอย่างไร

คำตอบที่ 89
       http://www.weekendhobby.com/offroad/pajero/Questionold.asp?ID=1275

คำตอบที่ 90
      

คำตอบที่ 91
       ขอบคุณครับ ผมทำงานอยู่แถวบางกรวยไม่ทราบพี่ๆ,เพื่อนๆมีใครอยู่บ้างครับ

คำตอบที่ 92