WeekendHobby.com


อีกวันหนึ่งวันในกรุงเทพฯของผม
baron
จาก von Richthofen
อังคารที่ , 7/11/2549
เวลา : 23:57

อ่าน = 41519
221.128.103.163
      

เวลาว่างของชีวิตที่เริ่มจะมากเกินไป และเบื่อที่จะมีสมองว่างๆ ผลักหลังให้ถือกล้องออกไปเดินเล่นดูอะไรที่มองข้ามไปยามชีวิตยังวุ่นวายกับงาน

มุมบางมุมที่เรามองข้ามพอย้อนกลับมามองอีกครั้งมันสวยงามหรือไม่ก็น่าทึ่งว่าเวลาที่ผ่านมาทำไมเรามองไม่เห็น

มาเดินเรื่อยเปื่อยเที่ยวกรุงเทพฯกับผมดีกว่า ถ้าว่างพอที่จะเดินตามก็แพคกระเป๋ากล้องกับรองเท้าเก่าๆคู่โปรดตามหลังมากันเลยครับ




เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       ขับรถเรื่อยเปื่อยไปถึงสถานีรถไปบางกอกน้อยเก่า จอดรถริมน้ำแล้วข้ามเรือแบบไม่มีจุดหมาย เริ่มสมมุติตัวเองเป็นเด็กอีกครั้งว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี

นึกอย่างไรก็ไม่ออกว่าจุดหมายครั้งนี้เป็นอะไร ก้มลงบอกรองเท้าคู่โปรดว่าเอ็งอยากพาข้าไปไหนก็เอาเลยตามสบาย





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 00:02   


คำตอบที่ 2
       เรือข้ามพากผ่านซุ้มประตูท่าน้ำศิริราช สมัยก่อนตอนกรุงเทพฯและธนบุรียังไม่มีสะพานเชื่อมถึงกันนี้ซุ้มประตูอันนี้เป็นทางหลักของศิริราช ใครเจ็บป่วยต้องมาโรงพยาบาลทางเรือจ้างที่แจวมาจากท่าพระจันทร์

แต่ทุกวันนี้ประตูแห่งนี้เงียบเหงา กลายเป็นที่นั่งเล่นของคนที่เหม่อมองสายน้ำเพราะคนที่รักและห่วงใยนอนป่วยอยู่ข้างใน





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 00:09   


คำตอบที่ 3
       แล้วก็ถึงท่าพระจันทร์จนได้ สะดุดตากับเด็กสาวในชุดนักศึกษาที่ใช้เวลาเที่ยงที่ตัวเองต้องทานอาหารเพื่อเอาแรงไปเรียนต่อภาคบ่าย

เธอเลือกที่จะช่วยแม่ขายของขณะที่เพื่อนๆของเธอมีความสุขยามพักเที่ยง

ชีวิตที่ผ่านมาเรามองข้ามเรื่องง่ายๆบางเรื่องไปหรือเปล่า สำหรับบางคนมันเรียกเวลาที่จะทำอย่างนี้ย้อนกลับมาไม่ได้แล้ว





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 00:18   


คำตอบที่ 4
       สองตายายทำสินค้าจากกะลามานั่งขายที่ลานข้างรั้วธรรมศาสตร์ มันอาจจะหมายถึงอาหารเย็น หรือแม้แต่เรื่องที่คาดเดาไม่ถูกตามหลังภาพนี้

นั่งฟังยายพูดกับลูกค้าแล้วไม่ธรรมดาเลย คำพูดบางคำสะดุดหูว่าถ้าคนไม่เคยใช้ชีวิตในระดับขายสมองมาก่อนจะใช้คำพูดแบบนี้ไม่เป็น

ตาก็พยักหน้าตามคำพูดของยาย ดวงตาสีเหล็กที่ผ่านโลกมานานยังมองไปข้างหน้าต่อการสู้ชีวิต

ผมตั้งใจว่าสักวันผมจะข้ามเรือมาอีกรอบ มาซื้อกะลาของตายายคู่นี้ให้สมใจเพื่อเป็นของฝากเพื่อนๆแทนที่จะไปซื้ออะไรที่บ้าบอเหล้ายาขวดโตตามห้าง





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 00:33   


คำตอบที่ 5
       แม่ค้ากับลูกน้อยที่ร้องไห้ทำให้เธอต้องละมือจากแผงขายของมาดูลูก ผมสะดุดเท้าด้วยดวงตาที่มองลูกของเธอ

ดวงตาที่บอกว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สำคัญกว่าเลยถ้าไม่มีรอยยิ้มของลูก

ผมนั่งมองดูเธอกอดลูกและพูดเบาๆที่ฟังได้เพียงสองคนแม่ลูกท่ามกลางเสียงของผู้คนขวักไข่วและการจราจรรอบข้าง





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 00:41   


คำตอบที่ 6
       แล้วลูกก็หยุดร้องไห้ แม่ก็พร้อมที่จะไปขายของต่อ

แม่พระของลูกไม่จำเป็นต้องเป็นคนวิเศษอะไรเลย แม่ค้าแผงลอยข้างถนนธรรมดาก็แปลงร่างเป็นนางฟ้าผู้อารีของลูกได้ทุกเวลาที่ลูกร้องขอ





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 00:47   


คำตอบที่ 7
      



Ethan_Hunt จาก Ethan_Hunt  203.130.145.68  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 00:48   


คำตอบที่ 8
       ลูกค้าอีกกลุ่มเดินออกจากรั้วธรรมศาสตร์ เงินในกระเป๋าของเธออาจจะเป็นความหวังให้กับแม่ค้าและท้องอิ่มของชีวิตตามหลังอีกหลายชีวิต




จะให้ผมบรรยายรูปสาวๆกระโปรงผ่าแบบเป่าปากวีดหวิ้ว สะใจจิ๊กโก๋นั่งราวสะพานวันนี้ผมบรรยายไม่ออก





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 00:53   


คำตอบที่ 9
       ท่าพระจันทร์ก็ต้องของกิน ขนมไทยต่างสีต่างรสวางล่อสายตาลูกค้า

ย้อนไปสองร้อยปีก่อน ท่าพระจันทร์ยังเป็นชุมชนเลขสมวังหน้า ขนมต่างก็วางขายกันแล้ว สาวชาววังจับจ่ายของกินของใช้ตั้งแต่ประตูศิริโสภาวังหลวงมาสุดเอาริมรั้ววังหน้า





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 01:00   


คำตอบที่ 10
       เวลาเป็นร้อยปีที่ผ่านเพียงแต่ส่งคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง สิ่งที่คล้ายกันคือความติดดินของผู้คนระดับล่างที่เงินค่าอาหารเย็นเป็นเรื่องใหญ่ของครอบครัวผลักดันให้ต้องออกมาทนร้อนกับเปลวแดดบนทางเท้า



ชุดยกและยางมัด เป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ฝันถึง หมูกรอบหรือเป็ดพะโล้สักถุงไปฝากลูกเย็นนี้ก็สุดหรูแล้ว





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 01:08   


คำตอบที่ 11
       กำลังเพลินเลยครับพร้อมกับเศร้าในอนาคตของวัยรุ่นสมัยนี้



จาก ศรีอรัญ  203.154.18.123  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 01:08   


คำตอบที่ 12
       ข้ามไปเดินฝังวัดมหาธาตุ แผงขายยาไทยหลายแผงคึกคักกับลูกค้าแพทย์ทางเลือกของคนอีกกลุ่มหนึ่ง


สามสิบบาทรักษาทุกโรคของนักการเมืองปากกับใจไม่ตรงกันไม่อาจจะทำให้การตัดสินใจรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยตัวเองของคนอีกระดับที่อยู่ในสังคมที่ต่ำกว่าหนีจากยาไทยที่ปู่ย่าตายายเอาชีวิตฝากไว้ได้


อย่างน้อยก็ไม่ต้องกินพาราเซ็ตทามอลมันทุกโรคเหมือนใช้สิทธิ์สามสิบบาท





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 01:19   


คำตอบที่ 13
       อีกด้านหนึ่งของถนนมีอะไรที่น่าคิดว่าเงินซื้อได้ทุกสิ่งจริงหรือ


แม้แต่ของบางชิ้นที่ห้อยคออาจจะเป็นของตกทอดจากพ่อแม่ปู่ย่าตายาย อาจจะเปลี่ยนมือไปได้เพียงพริบตาด้วยการตัดสินใจเพียงชั่ววูบ

ผมไม่โทษอะไรใครถ้าท้องยังหิว ลูกยังร้อง พระท่านยังห้อยอยู่ในคอเฉยๆ ท่านก็คงต้องช่วยคนห้อยด้วยอีกวิธีหนึ่ง





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 01:25   


คำตอบที่ 14
       พระ-รองเท้า-หวย อยู่ด้วยกันอย่ากลมกลืนอย่างน่าบัดซบ

เป็นรูปที่ผมตัดสินใจอยู่นานว่าจะลงดีหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าวันนี้จะ Hard core กันแล้ว รูปนี้กินขาด

รูปอาจจะมันบ่งบอกถึงใจของแม่ค้าสองคนระหว่างแม่ค้าขายพระกับแม่ค้าอุ้มลูกอย่างสุดขั้วในสายตาของคนมอง แต่หยุดก่อน การตัดสินโดยสายตาอาจจะผิดพลาดได้

อย่าเชื่อตาตัวเองตัดสินความถูก-ผิด ดี-เลวของใครเป็นอันขาด เวลาที่ผ่านมาของชีวิตสอนผมมาแบบนั้น





baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 01:33   


คำตอบที่ 15
       กะลอจี้ ข้างแผงขายพระ น่ากินมาก

รูปนี้ผมใช้มาโครเทเลยิงห่างออกไปเกือบสามเมตรทะลุวงแขนลูกค้าหน้ารถเข็น

หลังจากผมกดชัดเตอร์ ผมโดนแม่ค้าด่าหยาบคายมาก ผมงงเล็กน้อยว่าผมไปทำให้เธอเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า มานึกได้ว่ากล้องของผมอาจจะทำให้เธอเสียสิทธิ์ส่วนตัวบางประการก็ได้

ขอโทษเธอในใจ ไม่โกรธที่ถูกด่า เราอาจจะทำอะไรไม่ดีจริงๆ





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 01:42   


คำตอบที่ 16
       ยำปูดอง อาหารที่ผมชอบอีกอย่าง

รูปนี้ผมถ่ายห่างๆด้วยมาโครเทเลกันโดนแม่ค้าแจกของชำร่วยอีกดอก เธอกวักมือพร้อมรอยยิ้มเปื้อนหน้าของแม่ค้าเรียกผมซื้อปูดอง

ผมแกล้งทำเป็นฟังไม่รู้เรื่องทำหน้างงๆเหมือนพวกนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินถ่ายรูปแถวนั้น





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 01:48   


คำตอบที่ 17
       อีกฟากถนนผมเห็นหน้าต่างของตึกแถวยังคงมีช่องลมโบราณอยู่

ตึกแถวชุดนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่5 เพราะว่าบ้านเมืองเรามีแต่เรือนแถวมุงจากมุงหญ้าคา ไฟไหม้กันทีแทบจะไหม้หมดเมือง พระองค์ท่านเลยมีพระราชโองการให้สร้างเรือนแถวให้เช่าเพื่อค้าขาย และเพื่อให้เป็นหน้าตาของบ้านเมืองที่ต่างชาติเริ่มเข้ามค้าขายมากขึ้น

เรือยแถวชุดแรกของประเทศไทยก็ถูกสร้างขึ้นในบริเวณท่าพระจันทร์จนถึงท่าช้างในเวลานั้น


ผมถ่ายรูปนี้เพราะได้แรงบันดาลใจจากสาวที่กำลังหวีผมหลังหน้าต่างนี้ครับ





baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 01:56   


คำตอบที่ 18
       ป้ายถนนเขียนด้วยภาษาไทยที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 700ปี ขณะที่ต้นกำเนิดของภาษาไทยเขียนเหมือนขอมยืนมองอยู่ข้างหลัง

ผมเคยเขียนบทความมานานแล้วว่า เจ้าขุนรามคำแหง ไม่ได้คิดภาษาไทยจากความว่างเปล่า แต่ทรงดัดแปลงจากภาษาขอมและมอญ อีกทั้งศิลาจารึกป่ามะม่วงยังมีข้อเคลือบแคลงให้กับจารึกหลักที่1 หลายข้อ ทั้งข้อความและตัวสะกดแบบไทยผสม และการใช้ภาษาที่ย้อนหลังเมื่อเทียบกับจารึกที่1 ที่เชื่อว่าเก่ากว่า


ผมโดนด่าตามหลังว่าไม่ได้เรียนจบโบราณคดีหรือภาษาศาสตร์อย่าบังอาจเขียนบทความเช่นนี้อีก คนที่ด่าผมก็ไม่ได้จบอย่างที่ว่า แต่นักภาษาศาสตร์อาเซียนโบราณและนักโบราณคดีในวงเหล้าประจำเดือนซูดปากว่าอ่านที่ผมเขียนแล้วมันสะใจทีหลังเขียนลงมาให้อ่านอีก


งงไอ้พวกนี้จริงๆ แล้วทำไมที ไมเคิล ไรท์ มันจบแค่มัธยมแล้วมันพูดอะไรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยเล้วเชื่อมันหมดฟ่ะ ทั้งที่โคตรเหง้ามันไม่ใช่คนไทยสักหน่อย





baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 02:08   


คำตอบที่ 19
       บางครั้งความคิดของคนเราก็เริ่มจากเรียบง่ายเหมือนตอนลากสายไฟตอนเริ่มปักเสาไฟฟ้าใหม่ๆมีแค่ 3Phase 4wire

แต่หลังจากเวลาผ่านไปสายไฟเริ่มมากขึ้นจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของมนุษย์ที่ไม่จำกัด


สายไฟมากขึ้น ตามความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ความคิดเริ่มซับซ้อนจนหลงลืมพื้นฐานของตัวเอง


ผมสงสัยตัวเองว่าชีวิตที่ใช้อยู่เวลานี้เหมือนสายไฟพวกนี้หรือเปล่า


และคิดเตลิดไปไกลถึงว่าทำไมมิตซูบิชิถึงออกแบบให้ปาเจโรใช้ยางเพียง 28นิ้วและท้องรถสูงจากพื้นเพียง 12นิ้วเท่านั้น





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 02:28   


คำตอบที่ 20
       สวยงามมากครับ อ.วอน ผมไม่ค่อยมองเห็นภาพแบบนี้นะครับ ที่นอนดึก เข้ากะอยู่นะครับ อิจฉา คนมีเวลาทำอะไรสบายๆ ให้กับชีวิตนะครับ



จาก stand by  202.44.210.31  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 02:39   


คำตอบที่ 21
       นวดแผนไทย ยาไทย สมบัติของปู่ย่าตายายที่ให้กับลูกหลาน แต่ลูกหลานบางคนมันด่าว่าไม่ทิ้งสมบัติให้มันเลย ตายไปตัวเปล่าๆ แต่ลูกหลานบางคนฉลาดพอที่จะเห็นขุมสมบัติอันนี้แล้วขุดกินอย่างไม่จบไม่สิ้น

บางครั้งการขุดของเก่าออกมากินมันกินไม่หมดจริงๆ กินได้ชั่วลูกชั่วหลานถ้าไม่ทรยศต่อวิชาชีพที่มีอยู่


มีอยู่ยุคหนึ่งที่คนยุคพ่อแม่ของเราเดินตามก้นฝรั่งแล้วผลออกมาคือคนอีกชั่วรุ่นคนที่ตามมาเป็นอย่างที่พวกเราเป็นกันนี่เอง แล้วรุ่นลูกของเราอีกสิบปีข้างหน้าที่จะมาเป็นกำลังสำคัญของชาติแทนพวกเราที่แก่ตัวลงไป จะเดินทางเดียวกับเราหรือเปล่า


แล้วทางที่เราเดินกันมาตลอดชีวิตมันผิดหรือถูกนะเนี่ย


มันเจริญขึ้นเหมือนที่เราเห็นหรือเป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดขึ้นเหมือการล่มสลายของกรุงโรมยุคบาโรค และการกลับมาหลังผ่านยุคมืดของยุโรปกลางในช่วงเรเนซ็องหรือเปล่า





baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 02:42   


คำตอบที่ 22
       ร้านยาไทยคาดว่าเป็นพี่น้องสองคนช่วยกันทำต่อจากพ่อแม่

สองหมอ ความหมายในยุคที่ผมหนุ่มๆเรียกว่า แซนวิซ พูดแล้วรู้สึกคะนองคึกครื้นในอารมย์กามเกินพอดีของมนุษย์ธรรมดาที่พึงจะมีในสมัยนั้น

ความคิดตื้นเขินอยู่แค่ กิน กาม และเกียรติ์ มันจอมปลอมสิ้นดี

เวลาที่ผ่านไปครึ่งร้อยปีของชีวิตผมสร้างอะไรที่มากมายให้กับความคิดที่ตกผลึกความดีที่พอจะเหลืออยู่บ้าง

แต่วันนี้ผมไม่แน่ใจว่าความดีที่เหลือของผมมันเป็นผลึกใสหรือเป็นเพียงน้ำปนฝุ่นที่อยู่ก้นแก้ว





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 02:59   


คำตอบที่ 23
       หวังว่าจะพบพระสมเด็จหลักล้านในกองพระเลหลังตามฟุตปาท

หลายคนหวังว่าชีวิตจะดีขึ้นในเวลาออกหวยงวดหน้า มันไม่ต่างกันกับสองหนุ่มคนในรูป


ตัวแทนขององค์ศาสดา สิ่งที่เรายกมือไหว้หรือแขวนคอเพื่อคุ้มครองชีวิตตามความเชื่อทางศาสนาคงไม่กองระดับเท้าเตะไปมาเช่นนี้ถ้าเราสำนึกแล้วฉุกคิดกันบ้าง

สักวันถ้าผู้มีอำนาจในบ้านเมืองมองเห็นอะไรที่ละเอียดอ่อนกว่าทุกวันนี้นอกจากความคิดวัตถุนิยมที่โดนฝังสมอง ผมหวังว่าคนรุ่นลูกของเราคงจะไม่เห็นภาพอุจจาดเช่นนี้

เราหวังอะไรเกินไปกับปาเจโร รถ SUV อายุสิบปีที่มันเคยเป็นราชาแห่ง ปารีส-ดักการ์ หรือเปล่า ทุกวันนี้ทุกคันมันยังคงเป็นเหมือนที่มันเคยเป็นตั้งแต่มันถูกสร้างขึ้นมา


แต่วันนี้เราคิดที่จะใช้ปาเจโรมันอย่างที่มันเป็นหรือไม่ บางครั้งความคิดมันหลอกเรา มันก็ไม่ต่างกับสองหนุ่มที่คุ้ยพระในรูปหรือคนที่หวังกับหวยในมือที่จะทำให้ชีวิตแตกต่างในวันพรุ่งนี้





baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 03:11   


คำตอบที่ 24
       ความหวังของลุงคนขายของเทียมโบราณน่าจะมีลูกค้าหลงมาสักคนในช่วงบ่ายวันนี้


ส่วนเกินของคนบางคนอาจจะเป็นทางดำรงค์ชีวิตของคนบางคน


สิ่งที่มีค่าที่สุดคือความหวังเพราะชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีความหวัง และสิ้งที่ไร้ค่าที่สุดคือความหวังอีกเช่นกันเพราะมันจะหลอกเราให้เดินตามหลังไขว่คว้ามันไปเรื่อยๆ


จงเป็นเจ้านายมันและใช้มันให้คุ้มค่า เมื่อไรที่โง่ให่มันเป็นนายเรามันก็จะโขกสับเราอย่างคุ้มค่าเช่นกัน





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 03:31   


คำตอบที่ 25
       หลังวัดมหาธาตุ ผมเห็นหลวงลุงรูปนี้แล้วรู้สึกสงบอย่างน่าแปลกใจ

บางครั้งเราก็เชื่อในสิ่งที่เราเห็นมากกว่าสิ่งที่เรารู้สึก ผมมองพระรูปนี้อย่างใช้ความรู้สึกมากว่าใช้ตามองทำให้ผมเห็นความสุข

จงเชื่อความรู้สึกของตัวเองมากกว่าตาและหูของตัวเองสักนิดแล้วชีวิตจะเรียบง่ายขึ้น


เวลาที่ผ่านมาในชีวิตมันสอนผมมาแบบนี้








baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 03:47   


คำตอบที่ 26
       มีคนลงจากแท็กซี่ มากระตุกผมกลับจากความว่างเปล่าในอารมย์


เธอดึงผมกลับจากโลกแห่งความคิดกลับมาสู่โลกแห่งความจริง ในมือมีถุงมาลัยหอมเหมือนอย่างทุกครั้งที่เดินเข้าวัดด้วยกัน


ผมคิดว่าวันนี้จะเดินคนเดียวทั้งวัน แต่บางครั้งสิ่งที่เราคิดอาจจะไม่เป็นจริงได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง


เชื่อผมซิว่าความรู้สึกมันเชื่อถือได้มากกว่า ตาและหู


Always miss you dearie





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 03:59   


คำตอบที่ 27
      
ขอบคุณเพื่อนๆกะดึกทุกท่านที่เข้ามาอ่านและชวนคุยแก้เหงาในคืนที่ว่างเปล่าแบบคืนนี้ครับ


ผมจะนอนแล้วครับ พรุ่งนี้ค่อยมาต่อกันว่าผมกับรุจจะให้รองเท้าคู่โปรดนำทางไปเดินเที่ยวที่ไหนกันต่อ


ทัวร์ที่จะลงรูปพรุ่งนี้คงจะไม่ เซอเรียลิสต์ เหมือนวันนี้


แม้จะเป็นตอนนี้ผมก็ใช้ ความรู้สึก พูดก่อนเข้านอนอีกแล้ว



baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 04:05   


คำตอบที่ 28
      

เฝ้าติดตามมาตั้งเเต่ 23:57จนถึง 04:05 เพื่อรอทำ 3 อย่าง


1.ขอขอบพระคุณครับ ที่ทั้งถ่ายรูปสวย ๆ พร้อมคำบรรยายดี ๆ ให้เราได้รับชม

2.อยากบอกว่า ผมชอบคำบรรยายภาพเป็นอย่างยิ่ง อ่านเเล้วเหมือนได้อ่านสารคดีชีวิตเรื่องเยี่ยมเรื่องหนึ่งทีเดียว

เเละ

3. ถ้าเป็นไปได้ " ขอได้ชื่นชมผลงานเเบบนี้อีกนะครับ "



ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ พี่von Richthofen





จาก Kupree  203.188.4.42  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 04:18   


คำตอบที่ 29
       เหมือนคนเดินเรื่องใน ฅนค้นคน เลยครับ...น่าชมมาก



จาก ต้อมแท้ๆ  124.120.47.83  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 06:56   


คำตอบที่ 30
      





เจ้าหมีขาว 212 จาก เจ้าหมีขาว PCT_212  61.19.52.58  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 07:06   


คำตอบที่ 31
       นี่แหละ von richthofen



มดดำ จาก มดดำ  203.170.177.161  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 07:26   


คำตอบที่ 32
      



a_anan จาก a pct195  203.118.120.80  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 08:49   


คำตอบที่ 33
      



จาก สมหมาย PCT 117  203.113.0.193  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 09:01   


คำตอบที่ 34
       เยี่ยมมากครับ



praphin จาก Tik  203.146.148.130  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 09:32   


คำตอบที่ 35
      



เจี๊ยบ จาก เจี๊ยบ กระโจมไพร  61.90.147.248  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 10:30   


คำตอบที่ 36
      



จาก นิธิ PCT247  203.113.0.193  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 10:39   


คำตอบที่ 37
      
แสงสุดท้ายของตะวัน

เฉกเช่นเดียวกับชีวิตสองเรา เวลาคงเหลืออีกเพียงน้อยนิด





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 12:06   


คำตอบที่ 38
       ยอดเยี่ยมมากเลยครับ ทั้งรูปภาพและคำบรรยายทำให้ ได้รับรู้ในสิ่งที่ผมเคยมองหรือแค่มองผ่านได้อย่างมีสาระครับ ขอบคุณครับ



จาก nui cameo   203.149.16.45  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 12:52   


คำตอบที่ 39
      
สายน้ำไม่เคยไหลกลับ โบราณว่าไว้

ไม่มีเมื่อวาน มีแต่วันนี้.. กับ ..พรุ่งนี้

No matter rain or sunshine....
crying or laughing,
we will walk together.










Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 13:22   


คำตอบที่ 40
      
ในความเหมือน.. มีความแตกต่าง

ถ้าเป็นเช่นนั้น สองเรา.. คงจะต่างกันแค่..

คนนึงเป็นชาย อีกคนเป็นหญิง..







Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 13:33   


คำตอบที่ 41
      





anucha173 จาก นก173  125.24.237.255  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 14:32   


คำตอบที่ 42
      


ทุกชีวิตย่อมมีคู่





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 15:06   


คำตอบที่ 43
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 15:07   


คำตอบที่ 44
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 15:11   


คำตอบที่ 45
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 15:12   


คำตอบที่ 46
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 15:13   


คำตอบที่ 47
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 15:13   


คำตอบที่ 48
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 15:14   


คำตอบที่ 49
       ซาบซึ้งครับ...



จาก ชาย  203.146.104.41  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 16:55   


คำตอบที่ 50
       อาจารย์วอนกำลังหลงเข้าไปในโลกอดีต ระวังกลับมาในโลกอนาคตไม่ได้นะอาจารย์
ถ้าอยากย้อนอดีตอีกผมขอแนะนำอาจารย์ที่ท่าน้ำราชวงศ์
ถนนทรงวาด อาจารย์จะได้กลับไปยุคจีนโบราณอีกครั้ง
อยากถ่ายเอารูปมาลงเหมือนกันแต่บรรยายภาพไม่ได้อารมณ์เหมือนอาจารย์ครับ ผมรอดูภาค 2 ดีกว่าครับ



จาก ja  58.9.18.80  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 17:25   


คำตอบที่ 51
       ก่อนเข้าวัดไปไหว้พระก็แวะร้านสตู-กระหรี่เนื้อ ข้างวังท่าช้างเล่นอาหารอร่อยตุนเอาแรง

แมวอีกแล้ว คนรักแมวก็แบบนี้ เหมือนแม่เหล็กดูดกัน





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 19:22   


คำตอบที่ 52
       ซอยข้างวัดสลัก เหมือนเมื่อร้อยปีก่อนถ้าเอารถกับสายไฟออกไป

วัดสลักมีเรื่องให้เล่ามากมายทั้งสุขทั้งทุกข์ เป็นการต่อสู้ของศาสนจักร์กับอาณาจักร์และมวยหมู่ระหว่างธรรมยุตินิกายและมหานิกาย



วันนี้ผมจะเล่าพงศาวดารกระซิบให้ฟัง


เรื่องนี้ไม่มีสำนักพิมพ์ไหนกล้าพิมพ์ให้แน่ แต่ไม่ต้องถึงกับหิ้วโอเลี้ยงกับข้าวผัดไปฝากเพราะเรื่องเฉี่ยวคุกผมจะละไว้ไม่เอามาขยายให้หวาดเสียว





baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 19:28   


คำตอบที่ 53
       วัดสลักเป็นวัดที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลางต่อปลาย เมื่อสร้างกรุงเทพฯขึ้นมาเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน องค์พระปฐมบรมราชาสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้บูรณะวัดสลักเป็นพระอารามหลวงที่ขั้นกลางระหว่างวังหลวงกับวังหน้าที่สมเด็จพระวังบวรสุรสีหนาทพระอนุชาธิราชเจ้าครองอยู่ตามธรรมเนียมที่ต่อเนื่องมาครั้งกรุงศรีอยุธยา


ได้รับการบูรณะในรัชกาลที่ 1-5 โดยได้รับพระราชทานนามว่า “วัดนิพพานาราม วัดพระศรีสรรเพชดาราม และวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” ตามลำดับ ภายหลังเปลี่ยนเป็น “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์” แต่คนทั่วไปเรียกสั้น ว่า “วัดมหาธาตุ”

ผมมันเด็กกลางเมืองโดยกำเนิด วัดแถวนี้อยู่ในรัศมีการวิ่งเล่นสมัยเด็กๆ ถ้าวิ่งไม่ไหวก็โดดรถรางเอา





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 19:35   


คำตอบที่ 54
       วัดสลักหลังจากได้บูรณะโดยพระพุทธยอดฟ้าแล้วได้นิมนต์พระวันรัตน์มาเป็นเจ้าอาวาสเพื่อเป็นการรวบรวมพระศาสนาจักรขึ้นใหม่หลังจากกรุงแตกซึ่งในครั้งรัชกาลพระเจ้าตากไม่ได้ทำอย่างจริงจังนักเนื่องจากศึกสงคราม

วัดสลักจึงเป็นศูนย์กลางของการศึกษาพระธรรมวินัยและการสอบเปรียนธรรมมาตั้งแต่บัดนั้น ความเจริญรุ่งเรื่องของวัดสลักยังปรากฏให้เห็นรอยอดีตอย่างเห็นได้ชัดจากทุกมุมของพื้นที่

แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่พ้นกฏแห่ง อนิจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เมื่อรัชกาลพระจอมเกล้า สถาปนาธรรมยุตนิกายขึ้นที่วัดสมอราย และลงรากฐานที่วัดบวรนิเวศโดยควบรวมกับพื้นที่วัดรังสี ศูนย์กลางของศาสนจักร์ย้ายไปอยู่กับขั้วของธรรมยุตนิกายตามพระราชประสงค์

วัดสลักก็ถึงคราวเสื่อมถอย พระชั้นราชาคณะ ที่เป็นกำลังสำคัญของมหานิกายถูกลดความสำคัญลงไปมากเพราะอณาจักรไม่โปรดสักเท่าไร





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 19:48   


คำตอบที่ 55
       พระอุโบสถ แตกต่างจากโดยทั่วไปคือ ไม่มีมุขหน้าหลังทางเข้าออกมีสองด้านและขนาดใหญ่กว่า
พระอุโบสถอื่น โดยสามารถจุพระสงฆ์ทำสังฆกรรมได้ 1000 รูป พระประธานขนาดใหญ่ลงรักปิดทอง
ฝีมือพระยาเทวารังสรรค์ซึ่งถือว่าเป็น “ยอดฝีมือช่างวังหน้า”



ตลอดร้อยกว่าปีที่ขั้วอำนาจย้ายไปอยู่กับธรรมยุตนิกาย วัดมหาธาตุก็ยังยืนสู้กับขั้วอำนาจอย่างอาจหาญ ยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของมหานิกายอย่างไม่ยอมคลุกกลิ้งกับพื้น


แต่สุดยอดของสงครามภายในศาสนจักรได้เกิดขึ้นเมื่อหลังปี 2500นี้เอง ในคดีพระพิมลธรรม หลายคนเกิดทันได้กราบท่าน





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 19:59   


คำตอบที่ 56
      


พระพิมลธรรมและการต่อสู้ของท่านเป็นที่เล่าลือไปทั้งศาสนจักร พระอริยสงฆ์ที่ต้องต่อสู้กับพระด้วยกันและรัฐบาลผเด็จการ ถึงกับเอาท่านไปสึกและติดคุก


ความตอนหนึ่งในจดหมายที่ท่านส่งไปถึงสังฆนายกก่อนถูกแกล้งสึกท่าน


“...กระผมก็จะขอความกรุณาอีก คือไม่ยอมสึกตามข้อบังคับอันมิชอบด้วยพระธรรมวินัยและกฎหมายนั้น จะยอมเอาชีวิตบูชาพระรัตนตรัยไปจนถึงที่สุด ...และกระผมจะยังปฏิญญาณเป็นพระภิกษุในพระศาสนาอยู่ตลอดไป ถึงแม้จะมีผู้ใจโหดร้ายทารุณแย่งชิงผ้ากาสาวพัสตร์ของกระผมไป กระผมก็จะนุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ชุดอื่นแทน ซึ่งกระผมมีสิทธิตามพระธรรมวินัยและกฎหมาย จึงขอให้ท่านเจ้าคุณผู้รู้เห็นอยู่ ณ ที่นี้โปรดทราบและเป็นสักขีพยานให้แก่กระผม ตามคำปฏิญาณนี้ด้วย”


พระสังฆราชสุกได้เคยทำนายไว้ร้อยกว่าปีก่อนว่า ต่อไปจะมีสังฆราชขี้คุก คำทำนายของท่านจะถูกต้องหรือไม่ลองอ่านพงศาวดรกระซิบของผมต่อไป










baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 20:12   


คำตอบที่ 57
      



duangding จาก Du^anG  203.150.135.109  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 20:32   


คำตอบที่ 58
      


( นั่งนิ่ง รอคอยด้วยใจระทึก )



จาก Kupree  125.25.30.23  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 20:51   


คำตอบที่ 59
       พระในศาลารายรอบพระอุโบสถ


สมัยก่อนศาลารายนี้เป็นที่เล่าเรียนของพระหนุ่มเณรน้อยก่อนจะมีมหาจุฬาลงกรณ์วิทยาลัย เรื่องของมหาวิทยาลัยพระของฝ่ายมหานิกายเป็นเรื่องเศร้ามาหลายสิบปี อาคารที่ล้นเกล้ารัชกาลที่5 ทรงถวายให้เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ก็โดนยึดไปทำหอพระสมุดแล้วก็ทิ้งร้างไว้อย่างไร้ค่า


พระมหานิกายยังคงกล้ำกลืนและเรียกร้องขออาคารคืนเพื่อเป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์จนถึงทุกวันนี้





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 21:02   


คำตอบที่ 60
       นับตั้งแต่๒๕๐๕ เป็นต้นมา พระพิมลธรรม (อาจ อาสโภ) ต้องจำพรรษาอยู่ในห้องขัง ณ กรมตำรวจสันติบาลกอง ๑ หรือที่เรียกกันในหมู่ผู้ถูกคุมขังเมื่อพระพิมลธรรมมาจำพรรษาอยู่ว่า สันติปาลาราม


สภาวะของพระพิมลธรรม ในตอนนั้นยังคงเต็มไปด้วยความสงบ สบายใจ เป็นปกติอยู่เช่นเดิม มิได้หวั่นไหว ทุกข์ร้อนใจในชะตากรรมที่ประสบแต่อย่างใด

ท่านยังเห็นว่าการที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในห้องขังนั้น เป็นโอกาสอันดียิ่งที่ท่านจะได้ใช้เวลาเขียนหนังสือ ศึกษาพระธรรม และเจริญภาวนาอย่างเต็มที่ เพราะไม่ต้องถูกรบกวนด้วยภาระหน้าที่การงานด้านอื่น เหมือนเมื่อครั้งที่ยังดำรงตำแหน่งอำนาจอยู่


ตลอดเวลาที่ท่านถูกคุมขังอยู่นั้น ท่านได้รักษาความประพฤติปฏิบัติเคร่งครัดตามพระธรรมวินัยทุกประการ นับได้ว่าท่านเป็นพระที่แท้ คือเป็นพระที่หัวใจ ในยามนี้ความเป็นพระของท่านไม่ได้ขึ้นอยู่กับผ้าเหลืองหรือการให้ตำแหน่งแต่งตั้งของสถาบันใด ๆ หากแต่อยู่ที่ใจที่ยึดมั่นในธรรม


ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนผืนแผ่นดินนี้ ท่านก็ดำรงอยู่ในธรรม ยึดธรรมะเป็นที่พึ่งและปฏิบัติธรรมอยู่ตลอดเวลา เมื่อหัวใจที่มั่นคงในธรรม ย่อมมีความหาญกล้าและเบิกบานในธรรมนั้นเป็นธรรมดา ไม่มีภยันอันตรายใด ๆ จะมาทำให้หวาดกลัว เสียกำลังใจไปได้


พื้นเขียนสีในศาลาราย พื้นนี้เคยเป็นที่นั่งเล่าเรียนของพระมาหลายรุ่นนับร้อยปี ยามใดที่ได้นั่งกับพื้นและซึมซับความเย็นของพื้นปูนเขียนสี จะรู้สึกถึงอดีตส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยพระยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ที่ยังไม่มีการแบ่งออกเป็นสองนิกาย มหานิกายและธรรมยุต แบบปัจจุบันนี้






baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 21:14   


คำตอบที่ 61
       สาเหตุของการพบกับชะตากรรมของท่านเริ่มการการเหม็นขี้หน้ากันเท่านั้น ผู้ที่เหม็นขี้หน้าท่านเป็นถึงสัฆราช แล้วอะไรจะเหลือครับ


ในยุคนั้นผลงานการศึกษาเรียนรู้พระศาสนาอยู่ในมือท่านและเจริญรุดหน้าขนาดเป็นพระองค์แรกที่เข้าไปนั่งคุยกับสันตปาปา และเป็นตัวแทนระดับชาติในต่างประเทศเลยที่เดียว



ในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ สมเด็จพระวันรัต (ปลด กิตฺติโสภณมหาเถร) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก และได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงสังฆนายก และคณะสังฆมนตรีชุดใหม่ โดยสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (จวน อุฏฺายีมหาเถร) ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสังฆนายก และได้เสนอชื่อคณะสังฆมนตรีชุดใหม่ต่อสมเด็จพระสังฆราชฯ


ซึ่งในคณะสังฆมนตรีชุดใหม่นั้นไม่ได้มีชื่อของพระพิมลธรรม (อาจ อาสโภ) รวมอยู่ด้วย ทั้งที่ท่านมีผลงานและเกียรติคุณมากมาย ตลอดจนมีอายุยังไม่มาก ยังพร้อมที่จะบริหารงานต่อไปได้อีกหลายปี (ขณะนั้นท่านมีอายุ ๕๗ ปี) นับได้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางอำนาจภายในคณะสงฆ์ในครั้งนี้ ทำให้พระพิมลธรรมได้พ้นออกจากตำแหน่งสังฆมนตรีว่าการองค์การปกครอง สมดังพระประสงค์ขององค์สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่นี้


เคยมีพระภิกษุที่เคารพรักและนับถือพระพิมลธรรมได้มากราบเรียนท่านว่า สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภณมหาเถร) ได้ทรงตั้งพระทัยและปรารภไว้ว่า “จะทำพระพิมลธรรมให้เป็นพระมหาอาจ และจะทำพระมหาอาจให้เป็นนายอาจในที่สุด”



พงศาวดารกระซิบของผมพาคนเล่าเรื่องเฉี่ยวคุกเข้าไปทุกทีแล้วครับ



ในรูปเป็นเครื่องบูชาที่ราชตระกูลถวายวัดในสมัยโบราณ วัดที่นี่ไม่หวงของ ถ่ายรุปได้ จับได้คลำได้ แต่อย่าจับหรือสัมผัสของเก่าจะดีกว่าครับเพราะของจะเสียหายได้


บางคนที่ไวมากจะรู้สึกอะไรมากมายที่ไหลออกมาเล่าเรื่องให้ฟังในหัวแบบสดๆ






baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 21:26   


คำตอบที่ 62
       ไม่นานแผนการที่มุ่งหมายจะกำจัดพระพิมลธรรมก็เริ่มปรากฏให้เห็นจริงดังคาด กล่าวคือ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ อุฏฺายีมหาเถร สังฆนายก ได้ทำหนังสือกราบทูลสมเด็จพระสังฆราช กิตฺติโสภณมหาเถร มีความว่า พระพิมลธรรม วัดมหาธาตุฯ ได้เสพเมถุนทางเวจมรรคกับศิษย์ภายในวัด



มีการปั้นพยานเท็จซึ่งต่อมาพยานได้กราบขอโทษกับท่านว่าให้อโหสิกรรมที่ทำกับท่านด้วย



จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีถอดพระพิมลธรรม ออกจากสมณศักดิ์ ด้วยข้อหา ฝ่าฝืนไม่ยอมปฏิบัติตามพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งคณะสังฆมนตรีได้พิจารณาแล้วมีมติว่า ไม่สมควรจะได้ดำรงอยู่ในสมณศักดิ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดให้ถอดพระพิมลธรรมออกเสียจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว พระพิมลธรรมจึงจำต้องยอมรับปฏิบัติตามพระบรมราชโองการนั้น โดยไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด



พระในซุ้มจรนัมเจดีย์มุมพระอุโบสถ ผมถ่ายรูปนี้ประกอบกับเสียงโทรศัพท์นัดประชุมถ่ายหนังของรุจ น่ารำคาญเป็นยิ่งนัก แต่ไม่เป็นไร ศรีทนได้







baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 21:40   


คำตอบที่ 63
       ม้ท่านจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง ต่อคดีใส่ร้ายป้ายสีถึงขั้นอาบัติปาราชิกมาได้ในภายหลัง แต่บรรดาพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่พยายามเอาความผิดท่านทางพระวินัย จนท่านต้องพ้นออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯ และถูกถอดสมณศักดิ์นั้น ก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะกำจัดท่าน ให้พ้นออกจากการดำรงสมณเพศให้ได้ ตามประสงค์ที่เขาได้มีมาแต่ต้น


ด้วยเหตุนี้ หลังจากเหตุการณ์ที่ท่านถูกถอดสมณศักดิ์ผ่านไปได้เพียงปีกว่า ๆ ท่านก็ต้องเผชิญกับมรสุมแห่งการคุกคามอย่างเลวร้ายจากผู้มีอำนาจเหล่านั้นอีกครั้ง


ได้มีคณะนายตำรวจ ผู้กำกับการตำรวจนครบาล สารวัตรทหารจำนวนมาก ได้บุกไปล้อมจับกุมท่านถึงกุฏิ โดยตั้งข้อหาว่า ท่านมีการกระทำอันเป็นคอมมูนิสต์ และกระทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดอาญามีโทษร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต

และภายในวันเดียวกันนั้นก็ได้มีบันทึกคำสั่งจากสมเด็จสังฆนายก (จวน อุฏฺายีมหาเถร) ให้จัดการสึกพระภิกษุอาจ อาสโภ เสียจากสมณเพศ เพื่อสะดวกแก่การสอบสวนคดี และเพื่อรักษาความปลอดภัยแห่งชาติและพระพุทธศาสนาไว้จากลัทธิคอมมูนิสต์




เล่นยัดข้อหาคอมมูนิสต์ คุกแน่นอนครับ แต่ท่านก็ได้ประกาศไว้ก่อนจะโดนกระชากผ้าเหลืองออกจากร่างของท่านอย่างที่ผมเล่าให้ฟังไปหลายกระทู้ก่อนหน้านี้ว่าท่านร้องขออะไรบ้าง






ในรูปเป็นของใหม่ที่ผมเสียดายของเก่าจนตัวสั่น ไม้สมัยปลายกรุงศรีอยุธยาถูกรื้อลงแล้วแทนที่ด้วยโลหะ ความตื้นเขินทางความคิดของกรมศิลปากร






baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 21:50   


คำตอบที่ 64
       ท่านอยู่ในคุกและสู้คดีอยู่ 5ปีเต็ม ในข้อหาเป็นคอมฯ



ศาลได้ประมวลวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามฟ้อง และกล่าวหามาหลายข้อหา หลายประเด็นนี้ มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ก็ไม่ปรากฏพยานหลักฐานใดๆเลย พอที่จะชี้ให้เห็นว่าได้กระทำหรือน่าจะกระทำผิด แต่กลับมาต้องถูกออกจากเจ้าอาวาส ถูกออกจากสมณศักดิ์ ถูกจับกุม ถูกบังคับให้สละเพศพรหมจรรย์ นับว่ารุนแรงที่สุดสำหรับพระเถระผู้ใหญ่ที่ปวงชนเคารพนับถือ จึงพร้อมกันพิพากษายกฟ้องโจทก์ ปล่อยจำเลยพ้นข้อหาไป


ในครั้งนั้นพระภิกษุสามเณร และบรรดาพุทธศาสนิกจำนวนนับพันที่ไปร่วมฟังคำพิพากษาตัดสินคดีครั้งสำคัญนี้ ต่างพากันชื่นชมยินดีอนุโมทนาสาธุการต่อพระพิมลธรรม ในการที่ท่านได้พ้นจากมลทินข้อกล่าวหาอันฉกรรจ์นั้น ทั้งนี้รวมระยะเวลาที่ท่านถูกคุมขังอยู่ในสันติบาลโดยไม่มีความผิดใด ๆ เป็นเวลานานถึง ๕ พรรษา


ส่วนตัวท่านเองนั้นทันทีที่สิ้นคำพิพากษาของศาล ก็ได้ผลัดเปลี่ยนนุ่งห่มผ้าไตรจีวรสีกลักที่ได้เตรียมมาให้พร้อมแล้วทันที ณ ศาลทหารกรุงเทพฯ กระทรวงกลาโหมนั่นเอง จากนั้นท่านก็ได้กลับมาพำนักอยู่ ณ วัดมหาธาตุฯ ดังเดิม ท่ามกลางความชื่นชมยินดีและการยอมรับของคณะสงฆ์วัดมหาธาตุ



หน้าบันของเก่าดูสวยงามอลังการณ์ด้วยเครื่องไม้ฝีมือช่างหลวง ไม่ใช่ฝีมือช่างสเตนเลสแบบของใหม่






baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 22:09   


คำตอบที่ 65
       แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคและการขัดขวางนานัปการ จากกลุ่มพระเถระชั้นผู้ใหญ่บางกลุ่ม ที่ยังทรงอำนาจอยู่ในคณะสงฆ์ กระนั้นบรรดาสานุศิษย์ก็ได้พยายามดำเนินการเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้แก่พระพิมลธรรมเรื่อยมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งใน ๒๕๑๘ ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ทรงมีพระราชโองการโปรดเกล้าให้คืนสมณศักดิ์ให้ท่านและพระศาสนโศภณดังเดิมตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นไป

ต่อมา ก็ได้มีการประกาศแต่งตั้งให้พระพิมลธรรม กลับคืนสู่ตำแหน่งกรรมการสภามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสภานายกมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเมื่อ ๒๕๒๓ และได้กลับคืนสู่ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯ ดังเดิม ใน ๒๕๒๔ ทั้งนี้รวมระยะเวลานับตั้งแต่ที่ท่านต้องต่อสู้กับอำนาจอยุติธรรม จนถึงวันที่ได้รับสมณศักดิ์และตำแหน่งกลับคืนดังเดิม เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น ๒๑ ปี





ผมเดินตามหลังพระทั้งสามรูปนี้มาระยะหนึ่ง พอท่านเลี้ยวไปกุฏิ ก็โดนผมเก็บภาพนี้มาให้ดูกันครับ







baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 22:14   


คำตอบที่ 66
       การต่อสู้ของท่านและความไม่เป็นธรรมที่ท่านได้รับ เทียบกับทุกข์ของเราตอนนี้เป็นเพียงกระผีกริ้นไร ผมอยากให้เพื่อนๆที่ที่มีทุกข์ตอนนี้ลองนึกดูว่าทางต่อสู้ของเราเบากว่าท่านมากนัก

อย่าท้อถอยกับปัญหาที่เรามี เรายังมีรถขับ มีข้าวกิน มีครอบครัว มีคนรัก มีเพื่อน


ที่สำคัญคือมีเพื่อน ตัวอย่างเช่นคือตั้งแต่มีคุณอ๊อบกระโจมไพรมาเป็นเพื่อน ผมเองมือไม่ดำแล้วเพราะเพื่อนพากันไปซ่อมรถกับคุณอ๊อบกันหมด



ชีวิตช่างสุขอะไรปานนี้


ในรูปเป็นอาคารที่สมเด็จพระจุลจอมเกล้าได้พระราชทานให้เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ หอพระสมุดแห่งชาติที่ยึดเอาไปจากวัด ทุกวันนี้ก็ทรุดโทรมไม่ได้ใช้งานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ทางวัดก็ต่อสู้ขอคืนให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ แต่ก็ไม่ได้คืนทั้งที่อยู่ในเขตวัด


ไม่เห็นนรกตอนตายไม่สำนึกกันหรอกคนพวกนี้





baron จาก von Richthofen   พุธ, 8/11/2549 เวลา : 22:26   


คำตอบที่ 67
       อาคารออกแบบโดยบรมครูช่าง กรมพระนริศรานุวัติวงค์ สวยงามทุกรายละเอียด

ทุกวันนี้ปล่อยให้ภายในทรุดโทรมลงอย่างไม่ได้ใช้งาน แต่ไม่ยอมคืนให้วัดใช้เป็นที่เรียนของพระสงฆ์





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 22:33   


คำตอบที่ 68
       อาคารที่สมัยนี้ไม่มีทางจะสร้างให้สวยแบบนี้ได้อีกแล้ว






baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 22:42   


คำตอบที่ 69
       ปิดท้ายด้วยแมวสองตัวกำลังเล่นกัน





baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 22:43   


คำตอบที่ 70
       คืนนี้ผมพาเที่ยวเท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อนเดินเที่ยวกับผมและรุจใหม่ ยังมีรูปเดินเที่ยวอีกหลายที่จนถึงค่ำ


ไม่รู้ว่าเพื่อนๆจะชอบเรื่อง พงศาวดารกระซิบ แบบนี้ หรือเปล่า เพราะส่วนมากผมจะไปเขียนเรื่อง ประวัติศาสตร์-ศิลปะ-วัฒนธรรม แบบนี้ที่อื่นไม่ใช่บนเวปออฟโรดแบบนี้


แต่เรื่องกระซิบแบบนี้ผมไม่เล่าแล้วใครจะเล่าให้ฟังแทนผมได้


ไปนอนแล้วครับ พรุ่งนี้เที่ยวกันใหม่




baron จาก von Richthofen  221.128.103.163  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 23:03   


คำตอบที่ 71
      

ขอบพระคุณพันครั้ง ยังน้อยไป






จาก Kupree  125.25.30.23  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 23:16   


คำตอบที่ 72
      
กำลังกลายเป็นกระทู้ประวัติศาสตร์อีกกระทู้ครับ

ขอบคุณครับอาจารย์ สำหรับเรื่องราวที่รับชมรับฟังได้ยากยิ่ง



Boy_Pajero จาก Boy_Pajero  203.146.63.187  พุธ, 8/11/2549 เวลา : 23:26   


คำตอบที่ 73
      

เขตพระนคร ยังมีของตื่นตาน่าชม และประวัติศาสตร์น่าฟังอีกมากนัก

วันหน้า วันหลัง มีโอกาศมาสะพายกล้อง แปกเป้ ไปนั่งอ้าปากหวอฟังอ.vonเล่าเกร็ดลึกๆกันบ้างมั๊ย




Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 08:27   


คำตอบที่ 74
      



จาก Kupree  125.25.30.23  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 08:37   


คำตอบที่ 75
       ขอบคุณมากๆๆๆครับ



praphin จาก Tik  203.146.148.130  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 09:29   


คำตอบที่ 76
      

เมื่อวานดูเป็นคู่ วันนี้เป็นเดี่ยวบ้าง





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:28   


คำตอบที่ 77
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:28   


คำตอบที่ 78
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:30   


คำตอบที่ 79
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:31   


คำตอบที่ 80
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:32   


คำตอบที่ 81
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:32   


คำตอบที่ 82
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:33   


คำตอบที่ 83
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:36   


คำตอบที่ 84
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:38   


คำตอบที่ 85
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:41   


คำตอบที่ 86
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:46   


คำตอบที่ 87
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 13:54   


คำตอบที่ 88
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 15:24   


คำตอบที่ 89
       ขอบคุณครับที่ทำให้ได้นั่งย้อนอดีตอีกครั้ง



จาก pajeromans  58.8.21.121  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 16:38   


คำตอบที่ 90
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 16:51   


คำตอบที่ 91
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 16:52   


คำตอบที่ 92
      

อ้าว... หลงพวกซะแล้ว







Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 16:59   


คำตอบที่ 93
       เดินเรื่อยเปื่อยตามแต่รองเท้าจะพาไปตัดสามหลวงไปจบที่ศาลหลักเมือง

วันนี้จะไม่พูดถึงหลักเมืองแต่จะเล่าเรื่อเทพารักษ์ประจำเมืองที่ทุกคนได้ยินแต่ชื่อแต่ไม่เคยได้กราบองค์จริงๆ





baron จาก von Richthofen  221.128.106.126  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 23:33   


คำตอบที่ 94
       เทพารักษ์ประจำเมืององค์แรกที่จะพาไปกราบคือ พระกาฬไชยศรี เป็นรูปเทพารักษ์ หล่อด้วยสำริด มีสี่กร ประทับบนหลังนกแสก ซึ่งเกาะอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมปิดทอง ทรงมงกุฎ และฉลองพระองค์เหมือนพระเสื้อเมือง พระหัตถ์ทั้งสี่น่าจะถือเทพอาวุธ แต่ได้หักหายไป ต่อมาได้ซ่อมใหม่ให้คงเดิม เป็นเทพารักษ์ที่เป็นบริวารพระยม มีหน้าที่นำวิญญาณมนุษย์ผู้ทำบาปไปสู่ยมโลก


คำว่ามือปราบระดับพระกาฬ หรือฝีมือระดับพระกาฬ ก็ได้มาจากหน้าที่ของท่านคือเอาชีวิตไปได้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ชั่วร้ายท่านปลิดวิญญานชั่วๆไปนรกหมด


ผมไปกราบท่านขอพรบางอย่าง ......





baron จาก von Richthofen  221.128.106.126  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 23:40   


คำตอบที่ 95
       เทพารักษ์องค์ที่สอง เจ้าพ่อหอกลอง รูปเทพารักษ์ หล่อด้วยสำริดปิดทอง สูงเมตรกว่าๆ ทรงเครื่องเหมือนพระเสื้อเมือง พระหัตถ์ทั้งสอง ชูเสมอพระอุระ มีนาครัดที่ข้อพระพาหาไพล่ไปเบื้องหลัง

เดิมอยู่ที่ศาลใต้หอกลอง ซึ่งเป็นตึกโบราณสามชั้น ขนาดเล็ก แต่สูงทรงยอดเกี้ยว อยู่ในสวนเจ้าเชตุ อันเป็นที่ตั้งของกรมการรักษาดินแดนปัจจุบัน ได้แก้ไขเป็นยอดมณฑปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ


หอกลองนี้ได้รื้อออกไปเพราะไม่ได้ใช้งานแล้ว ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ เป็นเทพารักษ์มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแผ่นดิน


อีกเหมือนกันตอนกราบท่านผมขอพรท่านบางประการ....





baron จาก von Richthofen  221.128.106.126  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 23:45   


คำตอบที่ 96
       เทพารักษ์องค์ที่สาม เจ้าพ่อเจตคุปต์ เป็นรูปเทพารักษ์ จำหลักด้วยไม้ ทรงเครื่องเหมือนพระเสื้อเมือง แต่มีรูปนาครัดที่ข้อพระพาหา ไพล่ไปเบื้องหลัง พระกรทั้งสองยกขึ้นเสมอพระอุระ ปัจจุบันหักหายไป และได้ซ่อมขึ้นใหม่


เป็นเทพารักษ์ที่เป็นบริวารพระยม มีหน้าที่จดบันทึกความชั่วร้ายของมนุษย์ ที่ตายไปแล้วนำเสนอต่อพระยม


ผมกราบท่านขอพรอีกบางเรื่อง ....





baron จาก von Richthofen  221.128.106.126  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 23:48   


คำตอบที่ 97
       เทพารักษ์องค์ที่สี่ ในรูปทรงยืนทางขวา พระเสื้อเมือง เป็นรูปเทพารักษ์ ยืนบนฐานสิงห์ พระเศียร ทรงมงกุฎยอดชัย สวมสนับเพลาเชิงงอน นุ่งภูษาทับด้วยชายไหว ชายแครง ประดับด้วยสุวรรณกระถอบ คาดปั้นเหน่งรัดพัสตร์ ต้นพระพาหารัดด้วย พาหุรัด ใส่สังวาล ตาบทิศ ทับทรวง สวมทองพระกร ทองพระบาท ฉลองพระบาท พระหัตถ์ซ้ายถือคทา พระหัตถ์ขวาชูขึ้นในระดับนลาต คล้ายกับจะถือของ สูงประมาณ ๙๓ เซนติเมตร หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ปิดทอง


พระเสื้อเมือง เป็นเทพารักษ์คุ้มครองป้องกันทั้งทางบกและทางน้ำ รักษาบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขปราศจากอริราชศัตรูมารุกราน



เทพารักษ์องค์ที่ห้า พระทรงเมือง เป็นรูปเทพารักษ์ มีลักษณะเหมือน พระเสื้อเมืองทุกประการ เพียงแต่ถือพระขรรค์ด้วยพระหัตถ์ซ้าย


เป็นเทพารักษ์รักษาการปกครอง ดูแลทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์ ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข

ผมกราบท่านขอพรทั้งสององค์ตามที่นึกไว้บางประการ .....





baron จาก von Richthofen   พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 23:52   


คำตอบที่ 98
       หลังจากกราบ หลักเมืองกรุงเทพฯแล้ว และขอพรท่านตามที่ตั้งใจไว้ล่วงหน้า

เท้าก็พาผมไปเรื่อยๆ ย้อนกลับไปทางทิศตะวันตก อีกครั้งแต่ไม่ใช้ทางเดิมที่เดินมา





baron จาก von Richthofen  221.128.106.126  พฤหัสบดี, 9/11/2549 เวลา : 23:59   


คำตอบที่ 99
       รองเท้าคู่เก่งพาเท้าผมก้าวไปตามทางเรื่อยๆ ผ่านสนามหญ้าและต้นไม้ริมกำแพงวัง

สมัยก่อนนี้ยังไม่สวยงามอย่างที่เห็น เห็นสนามหญ้าเหลืองด่างๆ ขยะเกลื่อนริมกำแพงตอนมีตลาดนัดเสาร์อาทิตย์ เริ่มมาสะอาดมีหญ้าสวยๆตอนฉลองกรุง 200ปีเมื่อ 2525 สวยงามเหมือนที่เห็นในสมัยพลตรีจำลอง ศรีเมืองเป็นผู้ว่านี่เอง

ปี 2525 ผมกับเจ้านิคอน FE ตัวโปรด มานั่งพักเอาแรงตรงนี้หลังจากถ่ายรูปขบวนรถบุพชาติครั้งแรกในกรุงเทพฯ และได้มีบุญครั้งใหญ่.....ก็ตรงนี้





baron จาก von Richthofen  221.128.106.126  ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 00:27   


คำตอบที่ 100
       ในรั้วกำแพงวังด้านใน สมัยก่อนยังไม่เป็นสวนสวยงาม เพิ่งจะปูหินทางเดินสมัยรัชกาลที่4 หรือเมือ 160ปีก่อน

สมัยนั้นพื้นเป็นดินธรรมดาและลานมีไว้สำหรับปืนใหญ่และทหารรักษาเชิงเทินเพื่อศึกพม่า ตอนที่สร้างกรุงตอนที่กำแพงนี้ถูกก่อขึ้นมาเรายังรบกับพม่าอยู่ เราเพิ่งเสียกรุงศีอยุธยาไปได้ไม่ถึง 20ปีเอง

แต่หลังจากพม่าเสียให้อังกฤษในรัชกาลที่3 เราก็อยู่เป็นสุขขึ้น เชิงทินต่างๆก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เริ่มปลูกต้นไม้ปูหินเพื่อความสวยงาม

เพราะการยึดเมืองโดยกำลังไม่ใช่วิธีใช้ดาบใช้ช้างอีกต่อไป

การยึดเมืองสมัยนั้นเปลี่ยนเป็นใช้เรือกำปั่นเหล็กปืนใหญ่จากยุโรป เรือรบที่มีทหารเพียงไม่กี่ร้อยคนก็ยึดประเทศไทยได้แล้ว ไม่ใช้พลทัพช้างม้าเรือนแสนเหมือนแต่ก่อนตอนรบกับพม่า

สมัยนั้นคนกรุงเทพฯมีสักกี่คนลองนึกดูว่าวังหลวงถูกสร้างให้สามารถบรรจุคนทั้งเมืองได้ถ้าเกิดสงครามพม่าล้อมเมืองเหมือนตอนกรุงแตก





baron จาก von Richthofen  221.128.106.126  ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 00:39   


คำตอบที่ 101
       แล้วก็พบกับท่าทางที่ผ่อนคลายได้นั่งโดยไม่มีโทรศัพท์กวนใจของผู้ร่วมเดินทางของผมจนอดใจไม่กดชัดเตอร์ไม่ได้





baron จาก von Richthofen  221.128.106.126  ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 00:42   


คำตอบที่ 102
       เราจะเดินเข้าเขตพุทธาวาสที่สร้างตามแบบผังเมืองของกรุงศรีอยุธยาที่มีพุทธาวาสแยกออกจากวังหลวง

สมัยก่อนพระกับคนแยกกันขาด เพราะสมัยก่อนพระไม่อยู่ในบ้านเนื่องจากใบบ้านมีสิ่งต่ำไม่สมควรเอาพระมาบูชาในบ้าน ประเพณีของวังก็เช่นกัน พระส่วนพระ คนส่วนคน


ดังนั้นพระแก้วมรกตที่สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้มาจากตีเวียงจันทร์จึงนำมาประดิษฐานไว้ที่เขตพุทธาวาสของวังหลวง



ขอนอกเรื่องเล่าพงศาวดารกระซิบก่อนนอนอีกเรื่องครับ



( ผมขอลบออกหลังจากให้เพื่อนๆอ่านมา 4วันจากเหตุผลตามกระทู้ที่ 120 )


ไม่ว่าชาติไหนๆไม่ว่าฝรั่งหรือไทยก็มีเรื่องที่คนรุ่นหลังอยากลืมแบบนี้ทั้งนั้นแหละครับ





baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 01:13   


คำตอบที่ 103
      
ผมอยากจะให้รู้ว่าคำว่า "ชาติ" เกิดเมื่อรัชกาลที่ 5 เพราะสมัยก่อนหน้านั้น คนทั่วไปนั้นรู้เพียงว่าตัวเองเป็นทาส หรือถ้าเป็นอิสระก็ต้องเป็นเลขสมของเจ้านายพระองค์ไหน ชายทุกคนถูกสักเลขไว้ที่แขนเพื่อให้รู้ว่าเป็นคนของใครและถูกเกณฑ์แรงงานมาใช้งานปีละเดือนหรือไม่ก็ต้องจ่ายเป็นเงินแทนแรงงาน

อาคารตึกกระทรวงกลาโหมข้างวังหลวง ที่มีปืนใหญ่ตั้งเยอะๆนั่นเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของแรงงานทาสและเลขสมของไทยในรัชกาลที่5ก่อนเลิกทาส

หรือความหมายของ "ชาติ" คือพื้นที่ดินแดนที่วัดได้ ก็สมัยรัชกาลที่5 นี้อีกเหมือนกันที่การรังวัดดินแดนได้เกิดขึ้นจากการแบ่งปันอนานิคมระหว่าอังกฤษและฝรังเศส


คำว่า "รักชาติ" เกิดเมื่อสมัยหลวงวิจิตวาทการ มือขวาของจอมพล แปลก พิบูลสงคราม เพลงปลุกใจพวกรักเมืองไทยชูชาติไทย สละชีพเพื่อชาติ ตัวตายดีกว่าชาติตาย ก็แต่งมาตอนนั้น



คำว่า "ชาวสยาม" เกิดมาตั้งแต่สมัยขอมยังเรืองอำนาจในสุวรรณภูมิ นับได้พันกว่าปี จารึกที่นครวัดยังมีคำว่า "เสียมกุก" หรือชาวสยามอยู่เป็นพยานในความเป็นคนชาติสยามของเรา



ผมอยากให้เพื่อนๆทุกคนภูมิใจในความเป็น ชาวสยาม ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวของดินแดนสุวรรณภูมิมานับพันปีครับ


ผมรักเมืองไทยของเราครับ











baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 02:19   


คำตอบที่ 104
       ขอบจบ พงศาวดารกระซิบ เท่านี้ครับ


หวังว่าเรื่องประวัติศาสตร์จริงๆที่ไม่ได้เขียนลงในตำราเรียนของกระทรวงศึกษา เรื่องทั้งหมดที่ผมเล่าหวังว่าคงไม่ไปกระตุ้นต่อมหน้ามืดใครเข้า

เพราะถ้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยในคณะที่สอนโบราณคดีถึงจะได้อ่านได้เรียนเรื่อง พวศาวดารกระซิบ พวกนี้ อาจจะคงเป็นเพราะว่าบางเรื่องโหดเกินไปสำหรับความคิดของเยาวชน และบางเรื่องอยู่ในระดับรับไม่ได้ในมาตราฐานสังคมที่เจริญแล้วในปัจจุบัน

แต่ในสมัยโบราณที่ยังถือดาบไปฟันคอกันเพื่อแย่งเมืองปล้นเมืองเพื่อความอยู่รอด พม่าปล้นเรา เราหมดตัวเราก็ไปปล้นลาวต่อ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในทุกรัชสมัยตั้งแต่ยุคสุโขทัย-อยุธยาแล้วครับ


แม้แต่สมัย ไอ้ขวัญ-อีเรียม ทุ่งบางกะปิยังเป็นท้องนา ไม่กี่สิบปีมานี่เองการฉุดใครสักคนไปข่มขืนทำเมีย ปล้นควายของเพื่อนข้างหมู่บ้านยังเป็นเรื่องสุดแมนของไอ้เสือปล้นลูกผู้ชายตัวจริงเลยครับ


พรุ่งนี้ผมจะพาไปเที่ยวในวังหลวงและวัดพระแก้วตามที่รองเท้าของเราทั้งสองจะพาเดินไป


คืนนี้ง่วงนอนแล้วครับ




baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 02:29   


คำตอบที่ 105
      



kupree จาก kupree  124.121.171.242  ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 03:14   


คำตอบที่ 106
      

อารมณ์สุนทรีของผู้วาด ไม่มีแต่เพียงเหล่านกเท่านั้น





Ruj จาก Ruj   ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 12:09   


คำตอบที่ 107
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 12:10   


คำตอบที่ 108
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 12:14   


คำตอบที่ 109
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 12:14   


คำตอบที่ 110
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 12:15   


คำตอบที่ 111
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 12:15   


คำตอบที่ 112
      

รูปสุดท้ายสำหรับทริปนี้

รูปเขียนสีด้วยพู่กันทั้งหมดนี้ เขียนบนหินอ่อน
ประดับบริเวณรอบชายด้านนอก และบันไดทางขึ้น
ของพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม








Ruj จาก Ruj   ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 12:19   


คำตอบที่ 113
       ไม่ได้กินกะลอจี้มาหลายปีแล้ว เดี๋ยวนี้ในระยอง
ไม่เห็นว่าจะมีเจ้าไหนขายกันเลย ไม่รู้ว่ายังไงนะ
หาไม่ได้เลย

เรื่องราวสนุกมากครับ ....



yakusa จาก Sak YaKuSa  125.24.169.150  ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 23:01   


คำตอบที่ 114
       เมื่อเริ่มเดินเข้าเขตพุทธาวาสสิ่งที่สะดุดตาคือทวารบาลที่สร้างเป็นยักษ์ในรามเกียรติ์


วันที่ผมไปมีทัวร์เข้ามากเหลือเกินจนเต็มไปหมด





baron จาก von Richthofen  61.47.113.90  ศุกร์, 10/11/2549 เวลา : 23:55   


คำตอบที่ 115
       คำตอบที่102 ด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิของท่านขอความกรุณาอ่านและทบทวนอีกครั้งหนึ่งถึงผลที่จะมีต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนคนลาวที่มีต่อคนไทยว่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดี เพราะจากข้อความที่ท่านเขียนไว้ได้ทำให้ผู้ที่ได้อ่านแล้วมีรู้สึกความสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งทั้งคนลาวคนไทย แต่ทั้งนี้ก็คงแล้วแต่ดุลย์พินิจของท่านบัณฑิตที่จะพิจารณาลบความเห็นนี้ออกไปเสีย หรือไม่
ขอแสดงความนับถือ
เฒ่าท่าพระจัน



จาก เฒ่าท่าพระจัน  124.120.163.102  เสาร์, 11/11/2549 เวลา : 00:34   


คำตอบที่ 116
       สิ่งสูงสุดของประเทศองค์พระแก้วมรกต

ผมจะไม่กล่าวถึงประวัติพระแก้วมรกตตามที่รู้กันในหนังสือ เรื่องของพระแก้วที่เป็นสมบัติค่าควรเมืองตั้งแต่สมัยโบราณ


ผู้ใดครองพระแก้ว ผู้นั้นคือเจ้าผู้ครองพื้นพิภพ


คำพูดนี้เกิดสมัยล้านนาและล้านช้างยังรุ่งเรืองอยู่ เมื่อพระไชยเชษฐาธิราชของล้านนาได้ข้ามไปครองล้านช้าง นับเป็นเจ้าองค์เดียวที่ครองทั้งเชียงใหม่และหลวงพระบาง พระองค์มีประแก้วมรกตประทับหลังช้างไปครองเมืองหลวงพระบางด้วย


มีการย้ายไปประทับที่เวียงจันทร์ตามที่เจ้าผู้ครองเมืองตามสภาพของการเมืองในอีกหลายร้อยปีต่อมา


นี่คือจุดเปลี่ยนของพระแก้วมรกตที่ข้ามจากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำโขงไปอีกฟากของแม่น้ำโขง และต่อมาอีกหลายร้อยปีก็ได้อัญเชิญข้ามกลับมาด้วยทัพของสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก

นั่นคือทั้งล้านช้างและล้านนาก็ไม่ได้ครองอีกต่อไป พระแก้วมรกตที่ค่าควรเมืองตกเป็นสมบัติของสยามเมื่อสองร้อยกว่าปีมานี่เองพร้อมกับการเสียแผ่นดินทั้งสองให้กับสยาม




ผู้ใดครองพระแก้ว ผู้นั้นคือเจ้าผู้ครองพื้นพิภพ





baron จาก von Richthofen   เสาร์, 11/11/2549 เวลา : 01:05   


คำตอบที่ 117
       คุณ เฒ่าท่าพระจัน ครับ กรุณาอ่าน 104 แล้วจะทราบว่าจุดมุ่งหมายของผมคืออะไร

สิ่งที่ผมเล่าให้ฟังอยู่ในเอกสารประกอบการศึกษาของ สปช.ลาว และ บันทึกของไทยที่ตรงกัน

คนไทยพยายามที่จะไม่พูดถึงเรื่องสะเทือนใจที่เทียบกับมาตราฐานจริยธรรมของคนปัจจุบันแล้วไม่ถูกต้องที่ตนเองก่อขึ้นกับเพื่อนบ้านในในอดีต โดยนัยยะตอนนี้ไม่มีการสอนในเอกสารการเรียนขั้นพื้นฐานของไทย แต่ได้มีการประกอบในหลักสูตรการศึกษาใน สปช.ลาวเองในระดับพื้นฐานของนักเรียน

แต่ระดับสูงขึ้นมาในอุดมศึกษาของไทยในสาขาประวัติศาสตร์จึงมีการศึกษาในเรื่องนี้

มิได้เป็นเป็นการจงใจให้สะเทือนใจทั้งสองประเทศแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ที่ผมเล่ามาเพื่อให้เห็นการปิดกั้นการรู้เรื่องประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของคนไทยเราเองที่คนลาวได้เรียน การศึกษาลาวไม่ได้ปิดกั้นในเรื่องนี้


บางครั้งความจริงในอดีตเป็นเรื่องเจ็บปวดที่ต้องการต้องการลืม แต่เมื่อไรที่เราลืมมันได้สนิด เราจะทำผิดอย่างนั้นซ้ำอีกครั้งในอนาคต


ถ้ามีเพื่อนๆในเวปนี้ที่ผมทราบว่ามีตัวตนแน่นอน ออกมายืนยันเกินกว่า 5 ท่านหลังจากนี้ว่าควรลบ ผมก็ยินดีที่จะลบกระทู้ดังกล่าวนี้ทิ้งไปตามความประสงค์ของ คุณเฒ่าท่าพระจัน ครับ


เนื่องจากมีการท้วงติงถึงเรื่องดังกล่าว คืนนี้และสุดสัปดาห์นี้ผมขอหยุดและไม่ลงรูปและเรื่องต่อจนกว่าจะถึงวันจันทร์นี้เพื่อรอผลการพิจรณาของเพื่อนๆครับ


เพราะถ้าผมมีปัญหากับ ลาว ผมก็ไม่อยากมีปัญหากับ อังกฤษ และ ฝรั่งเศส ในเกร็ดประวัติศาสตร์ วิกฤต รศ.112 ที่ผมจะเล่าต่อไปจากนี้




baron จาก von Richthofen   เสาร์, 11/11/2549 เวลา : 01:38   


คำตอบที่ 118
      




kupree จาก kupree  124.121.172.66  เสาร์, 11/11/2549 เวลา : 03:43   


คำตอบที่ 119
       มานั่งรออ่านต่อครับ



praphin จาก Tik  58.136.72.90  เสาร์, 11/11/2549 เวลา : 23:07   


คำตอบที่ 120
      



a_anan จาก a pct195  124.121.47.114  อาทิตย์, 12/11/2549 เวลา : 21:19   


คำตอบที่ 121
       ผมลงกระทู้ที่ 102 ให้อ่านอยู่ 4วัน จากวันที่คุณเฒ่าท่าพระจัน ได้ทักท้วงมา ผมรอจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีผู้ทักท้วงในกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมมาอีก

หลายครั้งในเวปที่เล่นเรื่อง ศิลปะ-วัฒนธรรม หรือในสื่อสิ่งพิมพ์บางฉบับ ที่ผมเขียนบทความลงแล้วมีกรณีทักท้วงคล้ายๆกันมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง การปกครองสมัยโบราณ หรือเรื่องศาสนา - พุทธศิลป์ - ประวัติศาสตร์ศิลป์ ซึ่งการต่อสู้บนหน้ากระดาษหรือบนหน้าจอ มีความรุนแรงทางความคิดมาก บางครั้งยืดเยื้อนับเดือนกว่าจะมีความลงตัวทางวิชาการ


กว่าจะจบได้ทั้ง ผมและผู้ทักท้วง ต่างต่อสู้ทางวิชาการน่วมไปทั้งสองฝ่าย


แต่ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมลงข้อเขียนบทความทางประวัติศาสตร์-วัฒนธรรม นอกสังเวียนของผู้สนใจเรื่องดังกล่าว ซึ่งในเวป ออฟโรด แบบ ปาเจโรคลับแห่งนี้ ผู้อ่านคนมีความสนใจละขั้วกับเรื่องบางเรื่องที่ผมเขียน ผู้อ่านคงไม่มีความพร้อมในเรื่องเฉี่ยวฉิวในประวัติศาสตร์บางเรื่อง จึงอาจจะมีการรับไม่ได้ในบทความในบางท่าน



แต่ผมถือว่า คุณเฒ่าท่าพระจัน มีความเป็นสุภาพชนสูงมากที่เตือนผมอย่างนิ่มนวล สุภาพ และยกย่องในท่าที และไม่โต้ตอบซ้ำอีกครั้ง ทั้งที่ผมยืนยันแนวความคิดของตัวเองดังกล่าวมาแล้วถึงสองวัน


เพื่อตอบแทนความเป็นสุภาพชนของ คุณเฒ่าท่าพระจัน ดังที่กล่าวมาดั่ง บัณฑิตย่อมมีความเคารพในความเห็นของบัณฑิตด้วยกัน แม้ว่าจะไม่มีผู้ทักท้วงเพิ่มเลยแม้แต่สักท่านเดียวตามที่ผมแจ้งกฏเกณฑ์เอาไว้ ผมจึงตัดสินใจลบข้อความบางช่วงออกหลังจากที่คาดว่าเพื่อนๆทุกท่านได้อ่านไปครบแล้ว ถือว่าเป็นพงศาวดารกระซิบจริงๆ กระซิบแล้วก็ผ่านเลยไป


ด้วยความเคารพเช่นกัน

ธนพัฒน์ หิมะสุข





baron จาก von Richthofen   อาทิตย์, 12/11/2549 เวลา : 21:32   


คำตอบที่ 122
      



Boy_Pajero จาก Boy_Pajero  58.64.112.153  อาทิตย์, 12/11/2549 เวลา : 21:45   


คำตอบที่ 123
      
เดินเข้าไปข้างพระอุโบสถในเขตพุทธาวาส จะพบกับครุฑแบกพระอุโบสถเอาไว้โดยรอบ สีทองเหลืองอร่ามตา



ครุฑถือว่าเป็นครุฑ จัดเป็นเทวดาประเภทหนึ่ง อยู่ในการปกครองของท้าววิรุฬหก ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ด้านทิศใต้ เหตุที่มาเกิดเป็นครุฑเพราะทำบุญเจือด้วยโมหะ

ทำบุญแล้วโมโหอาจจะเกิดเป็นครุฑได้นะครับ ถ้าไปติดโคลนหน้าวัด วินซ์ไปแล้วโมโหไปยิ่งต้องไปเป็นครุฑ


จดหมายเหตุลาลูแบร์บันทึกว่าในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้น พระมหากษัตริย์มีตราประจำพระองค์ ในจดหมายเหตุไม่ได้ระบุว่าตราเป็นรูปอะไร แต่สันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็น ตราครุฑพ่าห์ คือ รูปพระนารายณ์ทรงครุฑ

ทั้งนี้เพื่อให้เข้ากับคตินิยมที่ถือเอาองค์พระมหากษัตริย์เป็นผู้มีบุญบารมีเทียบเท่าพระนารายณ์ผู้ทรงครุฑเป็นพาหนะ

ต่อมาสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้ใช้รูป ครุฑยุดนาค หรือ ครุฑจับนาค เป็นพระราชสัญลักษณ์แทนพระบรมภิไธย





baron จาก von Richthofen  221.128.114.215  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 00:43   


คำตอบที่ 124
       ในรัชสมัยพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเราได้มีการค้ากับจีนจนเราได้ดุลการค้าอย่างมหาศาล

ลายสลักบนหินอ่อนฝีมือช่างจีนเป็นหลักฐานถึงการค้าที่รุ่งเรืองของเราในสมัยก่อน

ก่อนที่จะสิ้นรัชกาลพระองค์ได้มีเงินใส่ถุงแดงเอาไว้มหาศาล พระองค์ได้สั่งไว้ว่าเก็บเอาไว้ไถ่บ้านไถ่เมือง

ในเวลาอีกไม่สิบปีต่อมาเราก็ได้เงินนับล้านบาทในถุงแดงที่มีค่ามหาศาลไถ่บ้านไถ่เมืองจากฝรั่งเศสจริงๆ





baron จาก von Richthofen   จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 00:49   


คำตอบที่ 125
       กระเบื้องเขียนสีเมืองจีน ทำด้วยมือทุกชิ้น ค่าควรเมือง แม้แต่ในเมืองจีนเองก็ยังหาดูยากยิ่ง

วัดในสมัยรัชกาลที่3 เกือบทุกวัดที่พระองค์ทรงสร้างหรือบูรณะจะเป็นจีนหมดเนื่องจากในสมัยที่พระองค์ยังไม่ขึ้นครองราชพระองค์ได้แต่สำเภาไปค้าขายกับจีนด้วยพระองค์เองจนทรงทราบถึงแก่นของจีนดียิ่งพระองค์หนึ่ง







baron จาก von Richthofen  221.128.114.215  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 00:54   


คำตอบที่ 126
       วัดพระศรีรัตนศาสดารามได้สร้างและบูรณะอย่างต่อเนื่องมาหลายรัชกาล ความอลังค์การไม่เคยเสื่อมถอย

แล้วกรุงศรีอยุธยาที่สร้างมาสี่ร้อยกว่าปีจะสวยงามขนาดไหนก่อนถูกจีนเผา

ผมพิมพ์ไม่ผิดหรอกครับว่าถูกจีนเผา แล้วจะเล่าให้ฟังถ้ามีโอกาส


ประวัติการสร้างวัดได้มีมาตั้งแต่รัชกาลที่1 องค์พระปฐมบรมกษัตริย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์ได้มาควบคุมการก่อสร้างด้วยพระองค์เองหลังจากวาศึกสงคราม พระองค์จะประทับเตียงพับยามบ่ายที่ลานพระอุโบสถเพื่อดูการสร้างให้เป็นไปตามพระประสงค์

เตียงอันนี้ได้เก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโดยไม่สนใจดูแลสักเท่าไร กางเอาไว้ให้ดูตากฝุ่นโดยไม่มีตู้ใส่น่าเศร้าใจนัก

เหมือนอานม้าอะแซหวุ่นกี้ที่ได้ให้มาตั้งแต่ยังทรงเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกอยู่ในความดูแลของกระทรวงกลาโหมมานานจนบัดนี้ยังสับสนว่าองค์ไหนคือของจริงที่พระองค์ได้มาจากอะแซหวุ่นกี้ แล้วที่เห็นในพิพิธภัณฑ์มันจริงหรือปลอมล่ะนี่ งงจริงๆ





baron จาก von Richthofen  221.128.114.215  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:11   


คำตอบที่ 127
       มีสมบัติของชาติเป็นอันมากที่สูญหาย ผุพังตามกาลเวลาโดยไม่สำนึก บางชิ้นไปโผล่ในห้องประมูลที่เมืองนอกอย่างน่าแปลกใจ


ของบางชิ้นผมเคยเห็นตอนเด็กๆก็ไม่เห็นอีกแล้ว ชวนให้คิดอย่างคนมองโลกในแง่ดีว่าเจ้าหน้าที่คงเอาไปซ่อมหรือย้ายไปแสดงที่อื่น






baron จาก von Richthofen  221.128.114.215  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:15   


คำตอบที่ 128
       พรานล่านก

นกที่เห็นคั่นรายการฝีมือเธอกับกล่องบ็อกซ์นิคคอนตัวเล็กๆนีเอง

มุมมองที่ไม่เหมือนใครและคงจะไม่มีใครเหมือน





baron จาก von Richthofen  221.128.114.215  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:17   


คำตอบที่ 129
       ลายเขียนสีจีนที่ปัจจุบันไม่มีทำอีกแล้ว ต้องรักษาให้ดีเพราะถ้าช่างบูรณะไปทำพลาดแตกสักชิ้นคงหามาเปลี่ยนใหม่ไม่ได้





baron จาก von Richthofen  221.128.114.215  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:20   


คำตอบที่ 130
       นกจากกล้องของผม ชัดกว่าในมุมมองของเท็คนิกอุกรณ์ แต่มัวซัวในมุมมองของโลกศิลปะการภ่ายภาพ





baron จาก von Richthofen  221.128.114.215  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:23   


คำตอบที่ 131
      





baron จาก von Richthofen  221.128.114.215  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:24   


คำตอบที่ 132
       นกกระจอกที่อยู่ใต้ครุฑ ดูรูปนี้แล้วรู้สึกผ่อนคลายว่าเราไม่ได้เก่งอะไรเหมือนที่คิด เหนือกว่าเรานิดเดียวก็เป็นพญาครุฑแล้ว จะเกร็งกับชีวิตไปทำไมกัน

ดูนกกระจอกในกระเบื้องแล้วขยับไปดูครุฑบนเหนือกระเบื้องได้แง่คิดอะไรมากมายให้กับตัวเอง





baron จาก von Richthofen  221.128.114.215  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:28   


คำตอบที่ 133
       กระจกจีนที่หุงแบบโบราณ พระเทพฯท่านไปเมืองจีนเมื่อหลายสิบปีก่อน แล้วให้จีนหุงมาให้ซ่อมวัดตอน พศ.2525 ทั้งที่จีนเองก็ไม่ได้ทำกระจกแบบนี้มานานแล้ว

ทรงเป็นพระราชธิดาที่ประเสริฐของพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระพระปรีชาที่สุด

ทรงพระเจริญพระเจ้าข้า





baron จาก von Richthofen  221.128.114.215  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:35   


คำตอบที่ 134
       พระมณฑปและเจดีย์ทอง มองจากมุมระเบียงวัดพระแก้ว พระที่นั่งพระอง๕นี้ได้สร้างสมับรัชกาลที่1 เพื่อเป็นที่เก็บพระไตรปิฎกที่ชำระใหม่


มีเกร็ดว่าในเวลานั้นเหลือคนแก่ที่เคยเห็นพระพุทธยอดฟ้าฯในแผ่นดินพระจอมเกล้าเพียง 4คนที่เหลืออยู่ สมเด็จโตวัดระฆังเป็นอีกท่านหนึ่งที่มาร่วมพิจรณารูปปั้นของรัชกาลที่1ด้วยในการสร้างเพราะท่านเคยเห็น และท่านได้เรือกัญญาถวายในระดับเจ้านายฝ่ายในเพื่อใช้เดินทางจากพระพุทธยอดฟ้าฯ ในสมัยท่านยังเป็นเณรน้อยที่วัดระฆังเพื่อมาศึกษากับสัฆราชสุกไก่เถื่อนที่วัดมหาธาตุ

เกร็ดประวัติศาสตร์ได้หาหลักฐานในทางลึกกันวุ่นวายว่าท่านอาจจะเป็นเจ้านายในแผ่นดินพระพุทธยอดฟ้าจริงๆ เพราะท่านเป็นพระรูปเดียวที่ทรงเล่นมุขหนักๆกับพระจอมเกล้าได้แบบไม่มีเคืองกัน ถ้าเป็นพระรูปอื่นบังอาจเล่นบ้างเป็นได้กระเด็นกลิ้งทั้งผ้าเหลือง





baron จาก von Richthofen   จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:49   


คำตอบที่ 135
       แมวตัวนี้ล่านกอีกแล้ว





baron จาก von Richthofen   จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:51   


คำตอบที่ 136
       สิงห์บรอนซ์ สิงห์เขมรหรือเปล่า

แต่สิงแบบนี้ถูกไปจำลองเป็นหินอ่อนหน้าพระอุโบสถวัดเบ็ญจมบพิตรในสมัยรัชกาลที่5 โดยสมเด็จกรมพระนริศรานุวัติวงค์ องค์บรมครูช่าง ที่ได้ออกแบบและสร้างพระอุโบสถหินอ่อนทั้งหลังที่สวยที่สุด






baron จาก von Richthofen  221.128.101.47  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:55   


คำตอบที่ 137
       ทดสอบ Depth of field ของกล้องว่ายังดีอยู่หรือเปล่า

หมู่สิงห์หลังพระอุโบสถ





baron จาก von Richthofen  221.128.101.47  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 01:57   


คำตอบที่ 138
       คานไม้สมัยรัชกาลที่1 สองร้อยกว่าปีแล้วที่คานชุดนี้แบกหลังคาพระอุโบสถ

มีเกร็ดเล่าว่าตอนสร้างกำแพงวังมีเสือมาคาบคนงานก่อสร้างไปกินด้วย แสดงว่ากรุงเทพฯเลยคลองหลอดคูเมืองยังเป็นป่าที่มีเสือเดินเล่นในสมัยสองร้อยกว่าปีที่แล้ว ไม้พวกนี้คงตัดเอาแถวระแวกสนามหลวงหรือถนนราชดำเนินนั่นแหละ





baron จาก von Richthofen   จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 02:01   


คำตอบที่ 139
       มุมพักสายตาก่อนเดินออกจากพระอุโบสถ และล้างกล้องสักรูป





baron จาก von Richthofen  221.128.101.47  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 02:04   


คำตอบที่ 140
       ขอจบคืนนี้ด้วยกำแพงพระอุโบสถในส่วนของพุทธาวาสเขตพัธสีมาของพระอุโบสถที่เป็นกระเบื้องเขียนสีจากเมืองจีน สมบัติล้ำค่าที่หาไม่ได้ในปัจจุบันนี้

น่าจะเก่าเกินว่ารัชกาลที่4 น่าจะร่วมสมัยเดียวกันกับการปูพื้นแกรนนิตในสมัยรัชกาลที่3 เพราะหลังจากรัชกาลนี้ก็เกือบไม่มีอะไรที่มาจากจีนแบบเก่าดิบๆแบบนี้

เพราะยุโรปกำลังมาแรงแม้แต่จีนยังโดนฝรั่งยึดเมืองท่าไปหลายเมือง รัชกาลที่5 เริ่มสร้างอะไรที่เป็นยุโรปหมดแล้วแม้กระทั่งพระที่นั่งในเขตชั้นในยังเป็นรูปแบบยุโรปเกือบทั้งหมด





baron จาก von Richthofen   จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 02:09   


คำตอบที่ 141
       นอนแล้วครับวันนี้ถูกใช้งานหนักจนแห้งไปทั้งตัว

คืนนี้ผมพยายามจะไม่เล่าอะไรที่ลึกเกินกว่าคนหลังพวงมาลัยรถออฟโรดจะหมดสนุก ไม่มีพงศาวการกระซิบแบบลึกถึงแก่น มีแบบเรื่องเล่าเบาๆชมนกชมไม้แวะเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปตามเรื่อง

แต่ถ้าอยากได้แบบหนักเหมือนสี่วันที่แล้วก็ขอกันได้ครับจะจัดให้



baron จาก von Richthofen   จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 02:15   


คำตอบที่ 142
      



จาก pajeromans  58.8.21.204  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 09:40   


คำตอบที่ 143
      

ได้ความรู้มากมายมหาศาลจริง ๆ


ขอขอบพระคุณครับ



จาก Kupree  203.188.7.122  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 20:09   


คำตอบที่ 144
      



a_anan จาก a pct195  124.121.48.207  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 20:39   


คำตอบที่ 145
       ขอแสดงความเคารพมายังท่านอาจารย์วอน น้ำใจของท่านบัณฑิตที่ได้แสดงออกมานั้นงดงามยิ่งใหญ่นักขอชื่นชมเหมาะสมควรค่าแห่งความหมายของคำว่า''บัณฑิต ''อย่างแท้จริง
ถ้าปุถุชนเฒ่าะรรมดาถ้าได้กระทำสิ่งใดให้ท่านไม่สบายใจ ใคร่ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ แต่ก็ขอยืนยันในเจตตนาที่ท้วงติงก็ด้วยรักและเคารพท่านอาจารย์วอนจากใจจริงครับ

(กรุณาลบความเห็นของผมออกทั้งหมดด้วยนะครับ)



จาก เฒ่าท่าพระจัน ณ น้ำโขง  124.120.159.201  จันทร์, 13/11/2549 เวลา : 22:15   


คำตอบที่ 146
       ที่กำแพงด้านนอกก็มีนกฝูงใหญ่บนกระเบื้อจีน





baron จาก von Richthofen  61.47.112.149  อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 00:36   


คำตอบที่ 147
       สัตว์หิมพานต์ ชื่ออะไรบ้างผมไม่เคยจำได้สักครั้ง สุวรรณเจดีย์ เจดีย์นี้รัชกาลที่ 1 โปรดให้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระชนกชนนี ตามธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณที่สร้างวัดแล้วต้องสร้างเจดีย์ให้พ่อแม่หน้าวัด

เป็นเจดีย์ย่อมุม12 มียักษ์มีลิงแบก เราลองเดินไปดูใกล้กัน





baron จาก von Richthofen  61.47.112.149  อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 01:00   


คำตอบที่ 148
       สัตว์หิมพานต์อีกตัวทำให้ผมต้องหยุดระหว่างทาง หิมพานต์คือครึ่งทางระหว่าสวรรค์และโลกมนุษย์ มีอะไรแปลกมากมาย

สำหรับผมแล้วป่าหิมพานต์คือแชงการีล่าในลัทธิมหายานของธิเบตนั่นเอง สำหรับคอหนังสืออาจจะนึกถึงการเดินทางของ ระพิน ไพรวัล ในเพชรพระอุมาก็ได้





baron จาก von Richthofen   อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 01:06   


คำตอบที่ 149
       ยังไม่ถึงเจดีย์สักทีเพราะแวะที่ฐานมณทปดูกระเบื้องลายนูนต่ำกันก่อน เป็นกระเบื้องจีนอีกเช่นกัน สวยงามเป็นที่สุด

บนฐานไพที หรือฐานที่ยกสูงที่อยู่ข้างพระอุโบสถกัน บนนั้นมีของที่น่าดูน่าชมเยอะไปหมด

เดิมเมื่อแรกสร้างวัดนั้น บนฐานไพที นี้จะมีเพียงพระมณฑปกับสุวรรณเจดีย์เท่านั้น ซึ่ง พระมณฑป ที่เห็นในรูปนั้นใช้เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก ซึ่งรัชกาลที่ 1 ได้โปรดฯ ให้มีการชำระขึ้นใหม่ ของเก่าเกือบไม่เหลือให้อ่านกันจากการล่มของกรุงศรีอยุธยานั่นเอง

ฐานไพทีข้างพระอุโบสถนั้นเป็นธรรมเนียมการสร้างที่สืบเนื่องมาตั้งแต่การสร้างวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยา







baron จาก von Richthofen   อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 01:12   


คำตอบที่ 150
       ในที่สุดก็เดินมาถึงสุวรรณเจดีย์เพื่อมาดูลิงและยักษ์แบกเจดีย์จนได้

ใครเคยเห็นลิงใส่รองเท้าบ้างครับ ถ้าเห็นก็แปลกแล้ว ใครเคยเห็นยักษ์ถอดรองเท้าบ้าง ถ้าเห็นก็แปลกเช่นกัน





baron จาก von Richthofen  61.47.112.149  อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 01:19   


คำตอบที่ 151
       มองออกไปที่ยอดพระวิหารยอด และเห็นกระเบื้องลานตาอดใจกดภาพมาให้ดูไม่ได้เลย

วันนี้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหายหมด เลี่ยนเป็นปลาดุกอย่างไรก็ไม่รู้





baron จาก von Richthofen   อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 01:23   


คำตอบที่ 152
       สุวรรณเจดีย์มองลอดเสาพระมณฑป


วันนี้กร่อยอย่างไนก็ไม่รู้คงต้องพอก่อน เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยพาเดินเที่ยวต่อดีกว่า รูปดีๆแต่ไม่มีเกร็ดให้อ่านมันเสียของ







baron จาก von Richthofen   อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 01:28   


คำตอบที่ 153
       วันนี้พอก่อนขอเข้านอนแล้วครับ พยายามจะนึกถึงการสังฆยานาพระไตรปิฎกในสมัยรัชกาลที่1 มี่เรื่องสนุกให้เล่ามากมาย แต่วันนี้มันเฝือๆอย่างไรก็ไม่รู้

เอาเป็นพรุ่งนีดีกว่าครับ



baron จาก von Richthofen  61.47.112.149  อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 01:35   


คำตอบที่ 154
      



จาก Kupree  203.188.11.200  อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 03:53   


คำตอบที่ 155
      



จาก Kupree  203.188.11.200  อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 03:53   


คำตอบที่ 156
      



chaiyapm จาก CC  203.113.41.41  อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 22:04   


คำตอบที่ 157
       ปราสาทพระเทพบิดร


เรื่องก็มีว่าในสมัยรัชกาลที่ 3 นั้นชาวบ้านมักจะเรียกสมัยรัชกาลที่ 1 ว่า "แผ่นดินต้น" และเรียกสมัยรัชกาลที่ 2 ว่า "แผ่นดินกลาง" รัชกาลที่ 3 ทรงเห็นว่าหากให้เรียกแผ่นดินพระองค์ว่า "แผ่นดินปลาย" ก็จะเป็นอัปมงคล ก็เลยโปรดฯ ให้สร้างพระพุทธรูปขึ้น 2 องค์ ถวายพระนามพระพุทธรูปทั้งสององค์นี้ แล้วก็โปรดให้เรียกชื่อรัชกาลที่ 1 และ 2 ตามพระนามพระพุทธรูปนี้ ซึ่งก็คือ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

พระพุทธรูปนี้อยู่ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม


เมื่อเราเริ่มรับธรรมเนียมอย่างฝรั่งเข้ามา ก็เริ่มมีการสร้างพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ในแต่ละรัชกาลขึ้นมา จึงมีการสร้างปราสาทพระเทพบิดรเพื่อประดิษฐานพระบรมรูปขึ้นมา สมัยรัชกาลที่ 4 ยังได้โปรดฯ ให้สร้าง ปราสาทพระเทพบิดร ขึ้นเดิมเรียกว่า พุทธปรางค์ปราสาท สังเกตุว่าส่วนยอดจะเป็นปรางค์

แรกทีเดียวมีพระราชประสงค์จะย้ายพระแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ที่นี่ เนื่องจากทรงเห็นว่าพระมณฑปซึ่งประดิษฐานพระไตรปิฎก หรือถือว่าเป็นพระธรรมนั้นสูงกว่าพระแก้วมรกตที่ถือว่าเป็นพระพุทธที่อยู่ในพระอุโบสถ


จึงโปรดฯ ให้สร้างปราสาทหลังนี้ขึ้นสูงเท่ากับพระมณฑปคือสูง 1 เส้น แต่เมื่อสร้างเสร็จแล้วเห็นว่าสถานที่คับแคบไม่เหมาะแก่การพระราชพิธีจึงไม่ได้ย้ายพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่นี่

ต่อมารัชกาลที่ 6 ได้โปรดให้ตั้งพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ในรัชกาลก่อน ๆ ไว้ ปัจจุบันประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 1-8






baron จาก von Richthofen   อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 23:16   


คำตอบที่ 158
       หอพระมณเฑียรธรรม สร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อแรกสร้างวัดพระแก้ว ด้วยฝีมือช่างวังหน้าซึ่งมาช่วยสร้างวัด ใช้สำหรับเก็บพระคัมภีร์ที่เหลือจากที่จะเก็บไว้ได้ในพระมณฑป

ฝีมือเฉียบขาดตามลักษณะช่างตระกูลวังหน้า แต่จะดูลักษณะศิลป์ให้ดี ศิลปะส่วนของพุทธาวาสทั้งหมดจะเป็นช่างฝีมืออยุธยา ถ้าอยากเห็นว่าอยุธยาสวยเพียงใดให้มาดูวัดพระแก้ว เพราะช่างที่สร้างทุกชิ้นที่นี่คือช่างที่รอดจากสงครามกรุงแตกมาสร้างเมืองใหม่ทั้งนั้น

รัชกาลที่1 พระองค์ทรงพระเจริญวัยรับราชการมาสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้ทรงเห็นกรุงศรีฯสมัยที่ยังเป็นบ้านดีเมืองดี พระองค์ท่านคุมการสร้างเมืองใหม่เองพระองค์ท่านย่อมสร้างได้ไม่ต่างกับเมืองที่ท่านเคยอยู่มาก่อน

ช่างที่สร้างอิฐทุกก้อนก็เป็นของกรุงศรีฯมาก่อนย่อมรับศิลปะและฝีมือของช่างกรุงศรีมาอย่างเต็มตัว







baron จาก von Richthofen  221.128.106.183  อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 23:37   


คำตอบที่ 159
       วัดพระแก้วนี่แหละกรุงศรีอยุธยาฉบับย่อส่วน ผมฟังธงแบบนี้ แล้วมีเรื่องราวยืดยาวไปอีกหลายเดือนในเวปอื่นเพราะมีผู้ค้านว่าด้านตะวันตกของวัดและรายละเอียดปลีกย่อยมีกลิ่นจีนมากเกินกว่ากรุงศรีฯแท้ๆ

แต่ผมว่ากรุงศรีอาจจะมีกลิ่นจีนมากกว่านี้ก็ได้เพราะเราแต่งสำเภาไปจีนค้าขายมาตั้งแต่กรุงสุโขทัยแล้ว พระเครื่องในกรุวัดพระศรีมหาธาตุอยุธยายังมีพระสลักหลังเป็นภาษาจีนเลย แล้วเวลาการสร้างกรุงซ่อมกรุงตั้งสี่ร้อยกว่าปีจะไม่มีกลิ่นจีนได้อย่างไร

งานนี้งัดอาวุธลับมาสาดกันในเชิงวิชาการสนุกสนานมาก ตอนจบถึงได้จับมือกันจบกันว่าคนจีนมาอยู่กรุงศรีฯเป็นชุมชนตั้งแต่ก่อนสร้างเจดีย์เจ้าสามพระยาแล้ว


ที่จริงแล้วแกล้งทะเลาะกันให้คนติดตามเสียเวลาอ่านเรื่องเพียงเรื่องเดียวเป็นเดือนๆน่ะครับ







baron จาก von Richthofen  221.128.106.183  อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 23:44   


คำตอบที่ 160
       ปราสาทพระเทพบิดรมุมต่ำ


ที่จริงแต่ก่อนยังมีของดีอีกอย่างคือ บานประตู ที่หอพระมณเทียรธรรมที่เป็นบานมุกฝีมือเลิศมาก เป็นของเก่าสร้างมาแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศฯ สำหรับไว้ที่วัดบรมพุทธารามที่อยุธยา แต่ปัจจุบันถูกถอดไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแล้ว

พูดถึงธรรมเนียมการแต่งตัวของคนไทยแล้ว สมัยก่อนไม่ว่าจะเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์อย่างไรก็ไม่ใส่เสื้อ จะเห็นว่าพระบรมรูปของรัชกาลที่1-2-3 ไม่ทรงเสื้อ จะนุ่งผ้าตาดอย่างเดียว พระบรมรูปที่ทรงเสื้อจะเริ่มมีตั้งแต่รัชกาลที่4

อยากจะเล่าว่าธรมเนียมการใส่เสื้อมีตั้งแต่รัชกาลที่4 จะว่าธรรมเนียมอันนี้น่าจะมีตั้งแต่พระเจ้านโปเลียนที่3 เอมเปอเรอหลงยุคถวายเครื่องราชบรรณาการและกลุ่มเจ้าชายฝรั่งเศสมาเที่ยวเมืองไทยกับกุงศุลใหญ่ แล้วได้เข้าเฝ้ารัชกาลที่4ถึงพระราชวังชั้นใน แล้วปากเสียไปเขียนบันทึกบอกว่าคิงมงกุฎของเราอายุมากแล้วยังมีฮาเร็มนางสาวๆสนมเพียบ

ผมว่าผมหยุดเล่าแค่นี้ดีกว่า เล่าต่อเกรงว่าอาจจะไปกระตุ้นต่อมเครียดผู้อ่านบางท่านได้ เพราะเรื่อง คิงแอนด์ไอ ก็เขียนอะไรไว้เครียดๆไว้เพียบแล้ว ขนาด โจ เหวินฟ่ะ รับบทเป็นคิงมงกุฎยังไม่ได้ฉายหนังเรื่องนี้ในประเทศไทย เท็จครึ่งจริงครึ่ง

พาให้คิดถึงประวัติศาสตร์ยุคนี้ที่เป็นหัวเลี้ยวของสยามใหม่และสยามโบราณ และประวัติของสมบัติทางประวัติศาสตร์บางชิ้นที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ และของเก่าชิ้นนี้อาจจะนั่งฟังแหม่ม แอนนา เลียวโนเวส สอนหนังสือในราชสำนักฝ่ายในมาแล้วได้ เป็นของจริงที่สัมผัสเรื่องจริงในฉากจริงของ คิงแอนด์ไอ แท้ๆเมื่อเกือบร้อยเจ็ดสิบปีก่อน

ปัจจุบันผมให้ของชิ้นนี้อยู่ที่นิ้วนางซ้ายของ รุจ ผู้หญิงเก่ง







baron จาก von Richthofen   พุธ, 15/11/2549 เวลา : 00:08   


คำตอบที่ 161
       นกเอี้ยงในเขตกลางกรุง หลงฝูงมาได้อย่างไรกันนี่ สงสัยว่าจะหิวน้ำมากหลังจากบินมาไกล เกาะอ่างบัวแกรนนิตจีนโบราณกินน้ำแบบหิวกระหาย





baron จาก von Richthofen  221.128.106.183  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 00:22   


คำตอบที่ 162
       มุมมองผ่านกล้องที่ไม่เหมือนชาวบ้านอีกแล้ว





baron จาก von Richthofen  221.128.106.183  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 00:25   


คำตอบที่ 163
       พระวิหารยอด ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระนาก ซึ่งคงจะย้ายมาจากหอพระนากอีกที แต่จะเป็นด้วยเหตุใดก็ไม่มีหลักฐานบอกไว้

ตัวพระวิหารทำด้วยกระเบื้องเคลือบซึ่งเป็นศิลปะที่เป็นพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 ถ้าเห็นงานแบบนี้ที่ไหนก็บอกได้เลยว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3

ปัจจุบัน หอพระนาก ใช้เป็นที่เก็บพระอัฐิของพระราชวงศ์ น่าจะเป็นคำตอบว่าทำไมต้องย้ายพระนาคมาวิหารยอด


มีเกร็ดพงศาวดารกระซิบอีกนิดสำหรับพระอัฐิราชวงค์นี้


สมเด็จพระนั่งเกล้าทรงห่วงขณะประชวรหนักว่า ถ้าผลัดแผ่นดินด้วยการฆ่าฟันหรือราชโอรสถูกฆ่าฟันเสียหมด พระอัฐิพระอัยยิกาและพระชนนีจะกีดตาผู้อื่นหรือพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ ให้มอบการดูแลแก่พระเจ้าลูกเธอผู้หญิงที่ยังมีชีวิตอยู่เนื่องจากพระศรีสุลาไลยนี้ท่านได้ทรงตรัสว่า เท้าหน้าสูงเท้าหลังต่ำไม่เหมาะที่จะรวมอยู่ในที่เก็บพระบรมอัฐิ

คำว่าเท้าหน้าสูงเท้าหลังต่ำหมายถึงว่าก่อนท่านจะมาเป็นเจ้าท่านเป็นสามัญชนมาก่อนไม่ได้เกิดมามีฐานันดรเหมือนเจ้าพระองค์อื่น

สาเหตุที่ทรงห่วงเพราะตระกูลบุญนากยังมี่อิทธิพลในแง่การเมืองสูงมาก เกรงว่าการผลัดแผ่นดินอาจจะไม่ราบรื่นนัก อาจจะเป็นเหมือนการผลัดแผ่นดินในกรุงศรีฯที่ตอนยุคปลาย ทุกครั้งต้องฆ่ากันล้างสายเลือดเพื่อขึ้นครองราชสมบัติ ซึ่งตระกุลบุญนากที่ผูกขาดการเป็นเสนาบดีใหญ่มาแต่ครั้งกรุงศรีฯนั้นอยู่ในเหตุการณ์นองเลือดทุกครั้งในการผลัดแผ่นดินยุคปลายกรุงศรีฯ

พระยาคลังและพระยาศรีพิพัฒน์ ตระกูลบุญนาก ยังคงคุมกำลังใหญ่เอาไว้ นี่คือสิ่งที่พระองค์ทรงห่วงอนาตคอันไม่แน่นอนของการผลัดแผ่นดิน





baron จาก von Richthofen   พุธ, 15/11/2549 เวลา : 00:45   


คำตอบที่ 164
       แต่การผลัดแผ่นดินเป็นไปโดยสงบ เพราะก่อนที่ทรงสวรรคตสิบวัน เสนาบดีใหญ่แห่งสกุลบุญนากได้อัญเชิญพระภิกษุเจ้าฟ้ามงกุฎเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว

สาเหตุการเชิญพระจอมเกล้ามาเป็นแผ่นดินต่อไปน่าจะเป็นเพราะพระองค์ท่านบวชมาตั้งแต่วัยเยาว์ไม่มีกำลังทางทหารหรือขุนนางที่เป็นพระเนตรพระกรรณให้เลย พระชนม์พรรษาของพระองค์ที่มากแล้วย่อมสุขุมพอที่จะไม่กระทำอะไรที่หักหาญตระกูลบุญนากที่ถือกำลังอยู่ ผิดกับราชสกุลสายตรงหลายพระองค์ที่อาจจะมีปัญหากับสกุลบุญนากได้

มีเกร็ดว่าพระนั่งเกล้าก่อนสวรรคตพระองค์ได้ตรัสกับพระยาศรีสุริยวงค์ว่า กรมขุนเดชท่านพระกรรณเบา กรมขุนพิพิธท่านไม่รู้จักงานปัญญาไม่มี เจ้าฟ้าน้อยก็มีความรู้ด้านการทหารและการช่างแต่ชอบเล่นสนุกไม่ใส่ใจรับราชการ เจ้าฟ้าใหญ่(พระจอมเกล้าในเวลาต่อมา)ก็ถือมอญถ้าขึ้นครองราชจะบังคับพระห่มผ้าแบบมอญเสียหมดทั้งเมือง


แล้วต่อมาอีกไม่กี่ปีหลังผลัดแผ่นดิน พระธรรมยุตินิกายก็ห่มผ้าแบบมอญไปทั้งเมืองจริงๆตามที่พระนั่งเกล้าทรงวิตกเอาไว้

เจ้าฟ้ามงกุฎที่ยังเป็นพระภิกษุอยู่วัดบวรนิเวศเนื่องจากยังไม่ผลัดแผ่นดิน แต่มีพระประสงค์ให้ต่างชาติรู้ข่าวได้เรียก นายยอห์น เทเลอ โยนส์ มิชันนารี่เข้าเฝ้า และหลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีรายงานข่าวถึงหนังสือพิมพ์สิงคโปร์ฟรีเปรสถึงการผลัดแผ่นดิน

ไม่ว่ารัชกาลที่3 จะได้ทรงทราบก่อนสวรรคตหรือไม่ก็ตาม หรืออาจจะลงตีพิมพ์ก่อนหลังสวรรคต แต่ความพยายามครั้งสุดท้ายของพระองค์คือเอาประคำทองคำของพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกสวมประทานให้กับพระองค์เจ้าอรรณพ หมายความว่าทรงมอบราชสมบัติให้สบต่อกับพระราชโอรส

แต่ประคำทองหาใช่องค์จริงไม่ เจ้าพนักงานหยิบผิดสาย กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้อธิบายภายหลังว่า ประคำนี้เป็นบุญของผู้มีบุญญาภินิหารเท่านั้น

หยิบผิดสายหรือไม่ผิด ผมว่าคนที่รู้ดีก็กลุ่มท่านผู้ชงเรื่องราชสมบัติ เสนาบดีตระกูลบุญนากรู้ดี แต่ท่านเหล่านั้นตายไปเกือบสองร้อยปีแล้ว คงมาสารภาพหรือยืนยันอะไรไม่ได้ว่าของสูงค่าควรเมืองแบบนี้มีหยิบผิดองค์หรือวางสะเปะสะปะรวมกับสร้อยสังวาลเส้นอื่นให้พนักงานหยิบผิดองค์ด้วยหรือไม่

โดยนัยยะนี้ เมื่อรัชกาลที่4ใกล้สวรรคตได้ประทานประคำทองคำแก่สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ รัชกาลที่5 เหมือนการส่งแผ่นดินต่อให้พระราชบุตรนั่นเอง


ปราสาทพระเทพฯบิดรมองจากวิหารยอด จะเห็นนครวัดจำลองที่สร้างสมัยรัชกาลที่4 ประกาศถึงความเป็นเจ้าของดินแดนเขมรทั้งหมดของสยามประเทศ





baron จาก von Richthofen   พุธ, 15/11/2549 เวลา : 01:17   


คำตอบที่ 165
       แต่ความกังวลเรื่องอัฐิของพระชนนีและพระอัยยิการเจ้าของพระองค์ได้หมดเรื่องไปเพราะตั้งแต่รัชกาลที่5 เป็นต้นมาพระศรีสุลาไลยพระราชชนนีของพระนั่งเกล้าได้กลายมาเป็น บรรพบุรุษสายสตรีของพระเจ้าแผ่นดินในยุคหลังทุกพระองค์

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าได้ทรงอธิบายภายหลังว่า เมื่อสมเด็จพระจอมเกล้าได้ครองราช พระองค์ได้ทรงเห็นว่าแผ่นดินพระนั่งเกล้ายืนยาวกว่า 27ปี ผู้คนต่างเกิดมาในแผ่นดินนี้มากมาย ข้าราชการก็ยินดีกับพระองค์มากมาย ข้าราชการส่วนมาในวัยหนุ่มก็เกิดในแผ่นดินของพระองค์

คนส่วนมากก็คิดว่าราชตระกูลของพระนั่งเกล้าจะสิ้นลงเนื่องจากผลัดแผ่นดินเป็นพระจอมเกล้าแล้ว ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการปกครองในอนาคตได้


ทรงใช้วิธีขั้นเบสิกที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยราชวงค์พระร่วงกับราชวงค์สุพรรณภูมิใช้กันเมื่อหกร้อยกว่าปีก่อนเพื่อให้บ้านเมืองเกิดสมดุลย์ระหว่างสุโขทัย-อยุธยา

ครั้งแรกได้ทรงรับพระนางเจ้าโสมนัศวัฒนาวดีสายเลือดตรงของพระนั่งเกล้าเป็นพระบรมราชเทวี ต่อมามีราชโอรสสมดังพระประสงค์ แต่ต่อมามิได้ดำรงค์พระชมน์ได้ทั้งสองพระองค์ จึงได้รับพระราชนัดดาของรัชกาลที่3 สมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์เป็นพระบรมราชเทวีต่อมก็มีพระราชโอรสพระราชธิดาสมพระประสงค์









baron จาก von Richthofen   พุธ, 15/11/2549 เวลา : 01:38   


คำตอบที่ 166
       พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ได้ทรงกล่าวว่า หลังแผ่นดินรัชกาลที่ 5แล้ว สมเด็จพระศรีสุลาไลยกลายเป็นบรรพบุรุษฝ่ายสตรีของพระเจ้าแผ่นดินทุกพระองค์

เรื่อง เท้าหน้าสูงเท้าหลังต่ำ ตามพระราชปรารภของรัชกาลที่3 เกี่ยวกับพระราชชนนีนั้นจึงเป็นเพียงความห่วงใยก่อนสวรรคตเท่านั้น


สงสัยต้องจบ พงศาวดารกระซิบ ก่อนเท่านี้ ก่อนจะมีเรื่องใหม่ในหัวใหลออกมาให้พิมพ์อีก

ในรูปเป็นยักษ์หลังวัดพระแก้ว คนดูน้อยกว่าหน้าวัด







baron จาก von Richthofen   พุธ, 15/11/2549 เวลา : 01:50   


คำตอบที่ 167
       ได้เห็นมุมมองที่ไม่เคยเห็น ได้รับแนวคิดอีกแนวที่เคยมองข้ามไป ขอบคุณมากครับ


ขอคาราวะจากใจครับ






จาก Tuned BY Neil (JUC425)  58.9.184.232  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 01:53   


คำตอบที่ 168
      

นอนแล้วครับ เอาแรงไว้รับงานหนัก

ช่วงนี้ตั้งแต่ไปไหว้ขอพร ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ เทพารักษ์ประจำเมืองทั้งห้ามาแล้ว งานไหลมาเทมาเข้าที่เดียวเป็นชุด

เอาไว้เก็บเงินงวดแรกเข้ากระเป๋าต้องหอบผลไม้กล้วยอ้อยชุดใหญ่ไปถวายท่านเสียแล้ว




baron จาก von Richthofen  221.128.106.183  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 01:57   


คำตอบที่ 169
      


ยังคงอุดมปัญญาอย่างสม่ำเสมอ มิคลาย ครับ



จาก Kupree  203.114.103.90  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 04:49   


คำตอบที่ 170
      

รอขึ้นชุดวัดอรุณน่ะ




Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 14:06   


คำตอบที่ 171
       คั่นรายการด้วยรูปจากกล้องตัวเล็ก รูปนี้ไม่ได้ผ่านการปรับแสง-สีใดๆ ท่านยังงามขนาดนี้
เป็นบุญแล้วที่เกิดมาเป็นพุธศาสนิกชน

สิบนิ้วประนมกราบซึ่งองค์พระปฏิมา
เสียงภาษาต่างชาติอุทาน Oh..amazing













Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 18:37   


คำตอบที่ 172
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 18:42   


คำตอบที่ 173
       เป็นอะไรที่ น่าตื่นตาตื่นใจ ยิ่งนัก........



a_anan จาก a pct195  124.121.48.65  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 19:30   


คำตอบที่ 174
       กว่าจะมาเป็กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ อย่างที่เห็นต้องทนทุกข์และทำงานหนักเป็นอย่างยิ่งนัก

ทุกข์แรกคือพม่ายังเข้ามาตีเราอยู่ กว่าจะเสร็จศึกเด็ดขาดก็ปาลรัชกาลที่3 เนื่องจากอังกฤษรุกคืบจากอินเดียเข้ายึดพม่าจนสิ้น สมัยรัชกาลที่1-2 ยังรบกันอยู่ไม่ได้ขาดช่วง

ทุกข์ที่สองคือเงินคงคลังเราไม่มีเลย เงินที่ได้มาต้องบำรุงกองทัพและจ่ายเงินเบี้ยหวัดต่างๆที่สูงมิใช่น้อย

ทุกข์ที่สามคือต้องสร้างเมืองใหม่ทั้งหมดเนื่องจากเหตุผลบางประการที่อยู่ที่วังเดิมของพระเจ้าตากไม่ได้ เอาไว้ถ้าไม่ลืมผมจะเล่าให้ฟังว่าทำไมต้องข้ามแม่น้ำมาสร้างเริ่มจากศูนย์กันอีกครั้ง

เรารู้ว่า กรุงเทพ แปลว่า เมืองเทวดา แต่รู้หรือไม่ว่าคนโบราณเขาเรียกชื่อเมืองตามพระ

ใช่แล้วครับเรียกตามพระ เช่นหลวงพระบาง แปลว่านครหลวงที่สถิตรของพระบาง พระสำคัญประจำประเทศลาว

อมรรัตนโกสิทร์ รัตนแปลว่าแก้ว โกสินทร์แปลว่าพระ คือท่านสร้างเมืองให้พระแก้วมรกตนั่นเอง

ท่านได้พระแก้วมาตั้งแต่ศึกลาวก่อนสร้างกรุงเทพฯเสียอีกซึ่งตรงกับปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสิน



ผู้ใดครองพระแก้ว ผู้นั้นครองแผ่นดิน จำโบราณเกือบพันปีที่ผมเคยพูดไว้เมื่อสองวันก่อนได้หรือเปล่า



สมเด็จพระเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ทรงปราบดาภิเศกเป็น พระพุทธยอกฟ้าจุฬาโลกหลังกลับจากสงครามศึกเขมรครั้งสุดท้ายนั่นเอง





baron จาก von Richthofen   พุธ, 15/11/2549 เวลา : 21:02   


คำตอบที่ 175
      



จาก pajeromans  124.121.108.207  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 22:04   


คำตอบที่ 176
       เรื่องเงินขาดคลังนั้นนับเป็นเรื่องใหญ่ในสมัยนั้น รัชกาลสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าถึงกับต้องเอาผ้าลายแจกแทนเบี้ยหวัด เนื่องจากสำเภาที่แต่งไปค้าขายได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยนัก

อีกด้านก็มีศึกพม่ามาประชิด อีกด้านก็ต้องสร้างพระนคร อีกด้านก็ต้องทำมาหากิน

พระเจ้าน้องยาเธอกรมพระราชวังบวรสถานมงคล วังหน้าเคยมาขอเงินพันชั่งเพื่อไปจ่ายเบี้ยหวัดข้าราชการแต่รัชกาลที่1ไม่มีให้ถึงกับ ทรงงอนกันไม่มาเข้าเฝ้าไปพักใหญ่ที่เดียว

แต่พระองค์ท่านก็ฝ่าฟันงานหนักหนาอันนั้นมาได้

เข้ารัชกาลที่สองก็ไม่ต่าง แต่มีเจ้าฟ้าเจษฎาบดินทร์ ราชโอรสช่วยแต่สำเภาไปค้าขายแทน ถึงกับโดนเรียกอย่างเอ็นดูในราชวงค์ว่า เจ้าสัว แต่การค้าก็ไม่ใช่ว่าจะกำไรดีทุกครั้ง บางปีได้กึ่งหนึ่งบางปีก็ได้ไม่ครบถ้วน นับว่าเป็นความทุกข์ที่ข้ามมาถึงสองรัชกาล


ความตอนนี้ได้ถูกล่าวถึงโดยรัชกาลที่4 โดยบางปีในสมัยรัชกาลที่4ของพระองค์ ต้องเอา ทองพิศ ทองพัสดึงค์ ออกจ่ายแทนเงินเบี้ยหวัด พระองค์ท่านได้กล่าวถึงความลำบากของรัชกาลที่ 1-2 แต่ก่อนว่าการเงินของประเทศลำบากเพียงใดในยามสงคราม


แต่มีข้าราชการและราชนิกูลปากเสียบางคนได้กล่าวหาพระองค์ท่านว่าอมเงินพระคลังจนไม่เหลือเงินแจกเบี้ยหวัด


เท่านั้นเองก็เป็นเรื่องใหญ่ เพราะการกล่าวหาพระมหากษัตริย์อมเงินพระคลังนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆกันแล้ว





baron จาก von Richthofen   พุธ, 15/11/2549 เวลา : 23:10   


คำตอบที่ 177
       เรื่องปากเสียกล่าวหาว่าพระองค์ท่านอมเงินคลังน้น พระองค์ท่านได้ทรงชี้แจงว่า

สภาพการเงินของรัชกาลที่3 ไม่เดือดร้อนเหมือนสองรัชกาลก่อน เนื่องจากการค้าขายได้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น ได้เงินจากสำเภาและอากรเต็มเม็ดเต็มหน่วยจนเงินเต็มพระคลัง

ตอนที่ก่อนสวรรคตพระองค์ท่านได้ตรัสกับพระยาศรีสุริยวงค์ว่า

เงินในคลังเหลือสี่หมื่นชั่งผู้ใดเป็นเจ้าแผ่นดินให้ช่วยบอกแก่เขาว่าช่วยแบ่งเงินสักหมื่นชั่งทำนุบำรุงวัดด้วย พระศีรสุริยวงค์ได้ฟังก็ร้องไห้ออกมาจากที่เข้าเฝ้า



เงินสี่หมื่นชั่งหรือสามล้านกว่าบาทนั้นมหาศาลมากในสมัยนั้น ยังไม่รวมทองคำอีกร้อยชั่งตามที่พระนั่งเกล้าทรงแจ้งไว้ก่อนสวรรคตนั้น ความจริงมีมากกว่านั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าได้แจ้งบัญชีไว้ว่ามีถึงสี่หมื่นห้าพันชั่ง และทองก็มากกว่านั้นอีกร้อยกว่าชั่ง เงินที่รัชกาลที่3ทรงขอไว้ทำนุบำรุงวัดนั้นก็ได้บำรุงวัดวัดต่างตามพระประสงค์

ทองที่เหลือก็นำไปแผ่เป็นเบ็ญจาในพิธีพระบรมศพทั้งสองร้อยชั่ง เหลืออยู่หลังจากสูญไปในไฟอีกส่วนได้นำไปแผ่ออกปิดทองตามวัดต่างๆอีกร้อยชั่ง เงินที่เหลืออีกสามหมื่นชั่งยังคงคลังอยู่ไม่นำออกมาใช้

แต่เงินเกินจากนั้นพระองค์ท่านได้นำไปพระราชทานแก่เจ้านายทุกพระองค์ไว้ใช้สอย โดยเหตุผลของรัชกาลที่4ได้แจ้งว่าตอนนี้มีเงินก็อยากจะให้ แต่เมื่อไรที่ขัดสนแล้วไม่มีให้เกรงว่าจะให้ไม่ได้อย่างใจที่จะให้



พระองค์ท่านออกมาชี้แจงว่าเงินในคลังไม่ได้หล่นหายยังอยู่ครบตามบัญชี และไม่ได้นำออกมาใช้เลย เรื่องกล่าวหาว่าพระองค์ท่านอมเงินคลังจึงสงบลง

ซึ่งเงินจำนวนนี้ที่รัชกาลที่4 พระองค์ท่านได้ทรงสงวนไว้ไม่นำออกมาใช้ทั้งที่ทรงขัดสนเงินทองอยู่ ก็นำพาให้ไทยไม่เสียเอกราช ถูกนำมาไถ่บ้านไถ่เมืองจากฝรั่งเศสในรัชการที่5 สมดังที่รัชกาลที่3ได้ทรงออกพระโอษฐเอาไว้







baron จาก von Richthofen  221.128.109.33  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 23:47   


คำตอบที่ 178
       วันนี้คงต้อพอเรื่อง พงศาวดารกระซิบ ไว้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปทำภาระกิจ อยู่เล่ายาวเหมือนทุกวันไม่ได้ครับ

พรุ่งนี้คงได้ดูภาพชุดวัดอรุณและวัดพระเชตุพนจากกล้องของ รุจ



baron จาก von Richthofen  221.128.109.33  พุธ, 15/11/2549 เวลา : 23:51   


คำตอบที่ 179
      



จาก Kupree  203.114.119.134  พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 02:26   


คำตอบที่ 180
       ใครว่าประชาธิปไตยเพิ่งมีเอาเมื่อ 2475 ในสมัยเมื่อกว่าร้อยหกสิบปีก่อนนี้พระมหากษัตริย์ยังโดนขุนนางซักฟอกได้จนต้องออกพระราชหัถเลขาออกมาแถลงบัญชีเงินคงคลังให้ทุกคนได้รู้ว่าเงินเหลือเท่าไรใช้เท่าไร ใช้อะไรบ้าง

ผิดกับนักการเมืองสมัยนี้ที่โอนทรัพย์สินให้คนขับรถถือแทนแล้วแจ้งกับศาลว่าผิดพลาดโดยสุจริตบ้าง ติ๊กช่องผิดบาง หรือซื้อหุ้นโดยนอมินี


เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าจะสวรรคตนั้น พระองค์ทรงประหยัดให้ประเทศขนาดพระองค์ทรงเลือกที่จะสวรรคตที่ประหยัดที่สุด ทั้งที่พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มั่งคั่งที่สุดในสยามยุคเก่า พงศาวดารกระซิบ ขอเริ่มดังนี้


สุดท้ายเมื่อทรงทราบว่าพระชนม์คงจะไม่อาจจะยืยยาวไปได้แล้วทรงได้สั่งการโดยในบันทึกของเจ้าพระยาทิพภากรวงค์ได้บันทึกไว้ว่าทรงสั่งให้พระยาศรีพิพัฒน์จัดพระแท่นไว้ที่พระที่นั่งจักรพรรติ์พิมานด้านตะวันตกแล้วกั้นพระวิสูตรใหม่ขึ้นมาด้วยเกรงว่าผู้ใดมาเป็นเจ้าแผ่นดินใหม่จะรังเกียจที่พระองค์ทรงสวรรคตในพระที่นั่งมหามณเทียร

ทรงเกรงว่าพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใครจะรังเกียจที่พระองค์สวรรคตในนั้นแล้วต้องเสียเงินสร้างพระมณเทียรใหม่อีกหลังให้เปลืองเงินของชาติไปเสียเปล่าๆ

ทรงเป็นพระมหากษัตริย์โดยแท้แห่งรัตนโกสินทร์ที่ไม่คิดถึงพระองค์เองแม้แต่ตอนจะสวรรคต



ในรูปพระที่นั่งจักรพรรดิ์พิมานปีกด้านเหนือทางเข้าท้องพระโรง ส่วนที่เป็นหัวใจของการปกครองประเทศสมัยโบราณ







baron จาก von Richthofen  221.128.100.152  พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 12:13   


คำตอบที่ 181
      

เรื่องเงินของพระนั่งเกล้ามีเรื่องขึ้นมาอีกครั้งหลังจากพระจอมเกล้าได้แจงบัญชีให้ทุกคนได้รู้ว่าพระองค์ท่านไม่ได้ยุ่งกับเงินในพระคลังเลยยกเว้นแต่จะเป็นรับสั่งสุดท้ายของพระนั่งเกล้าเองว่าจะขอแบ่งเงินไปทำนุบำรุงวัดหนึ่งหมื่นชั่ง

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี รศ112 ตอนที่ฝรั่งเศสเอาเรือปืนบุกมายิงกับเราที่ปากน้ำแล้วทะลุขึ้นมาทอดสมอที่ข้างวังหลวงโดยขู่ว่าจะยิงถล่มวังให้ราบจนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ารัชกาลที่5 ต้องเสด็จออกจากวังหลวงไปประทับที่พระราชวังบางประอินเพื่อบัญชาการรับมือว่าจะเอาอย่างไรกับฝรั่งเศสดี

ฝรั่งเศสคงคิดว่ายึดกรุงเทพฯได้แล้วโดยมีเรือปืนและทหารไม่กี่ร้อยคน ซึ่งขณะนั้นจะว่าไปแล้วเรือปืนและทหารฝรั่งเศสจำนวนหยิบมือที่เข้าจอดเรือข้างวังก็คุมกรุงเทพฯไว้ได้จริงๆ

ป้อมพระจุลฯที่ปากน้ำก็มีปืนใหญ่ทันสมัยก็ยิงเรือฝรั่งเศสไม่ค่อยจะเต็มที่นักเพราะขาดการซ้อม ผู้ที่ยิงได้มีแต่ฝรั่งคนเดียว ทหารไทยที่เข้าฝึกก็ไม่ได้เรื่องได้ราว ตามบันทึกได้กล่าวเอาไว้ว่า ซ้อมยิงห้านัดแตกนัดเดียวผู้บัญชาการก็ยังไม่สั่งการให้ปรับปรุงทหารให้มีความสามารถให้ใช้งานได้สมกับที่ซื้อปืนมาราคาแพง

แต่ก็ยิงโดนบ้างนั่นแหละ นี่เลยเป็นเหตุให้ฝรั่งเศสเรียกเงินค่าไถ่บ้านไถ่เมืองเอาจากสยามเพราะไปยิงเรือของฝรั่งเศสเข้า จนฝรั่งเศสขู่ว่าจะยิงถล่มวังถ้าไม่จ่ายตามที่เรียกร้อง

กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงกล่าวถึงเงินถุงแดงเอาไว้ว่าสมัยก่อนข้างพระแท่นจะมีกำปั่นใหญ่ใส่เงินเอาไว้สำหรับทรงหยิบใช้โดยไม่ต้องบอกให้ใครรับรู้ถือว่าเป็นเงินส่วนพระองค์ แต่พอถึงรัชกาลที่3 ทรงค้าขายสินค้ากำปั่นได้เงินมากมายทรงใส่ถุงแดงเอาไว้ในพระคลัง

ทรงเก็บหอมรอมริบไว้เพื่อใช้ยามบ้านเมืองเกิดทุกข์เข็ญ


คราวนี้ทุกข์เข็ญกันแล้ว ฝรังเศสจะถล่มเมืองโดยเรียกค่าไถ่ถึงสามล้านฟรังก์หรือหนึ่งล้านหกแสนบาทเศษ สุดท้ายไทยต้องจ่ายเพราะเมื่อเทียบกับยอมให้เรื่องลุกลามเราอาจจะเสียเมืองได้โดยง่าย


เงินที่ว่าคือเงินถุงแดงที่รัชกาลพระนั่งเกล้าทรงเก็บไว้และรัชกาลพระจอมเกล้าไม่นำออกมาใช้โดยยอมให้ขุนนางกล่าวร้ายพระองค์และเมื่อไม่มีเงินเบี้ยหวัดก็เลาะทองเบ็ญจาออกจ่ายแทนเงินสดโดยไม่แตะต้องเงินก้อนนี้ พระคุณและพระเนตรอันกว้างไกลของพระองค์ทั้งสองกู้ชาติได้ในเวลาต่อมา



ในรูปนี้ที่รัชกาลที่3 ได้รับสั่ง ปีกนี้แหละที่ทรงเลือกที่จะสวรรคตตรงนี้





baron จาก von Richthofen  61.47.115.134  พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 12:43   


คำตอบที่ 182
       หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล พระธิดาของกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้กล่าวไว้ถึงกรณีวิกฤติ รศ112 ไว้ว่า

ฝรังเศสไม่เอาธนบัติ แต่จะเอาเหรียญกริ๊งๆ ที่มีอยู่ คราวนี้ต้องเทถุงกันหมด เงินถุงแดงและเงินของเจ้านายในวังต่างก็เทเงินถวายให้เอามาเทให้ฝรั่งเศส เงินจำนวนนี้ต้องขนจากวังผ่านประตูต้นสนไปท่าราชวรดิษฐทั้งกลางวันกลางคืนจำนวนเป็นน้ำหนักแล้วหนักหลายตันเลยที่เดียว

เงินเหรียญนี้มีทั้งเงินจีน เงินแม็กซิโก เงินเหรียญอเมริกัน เงินสเตอริง ที่พระองค์ได้ทรงเก็บไว้จากการค้าถูกฝรั่งเศสขนลงเรือรบไปทั้งหมด



มันน่าแค้นใจนักที่ฝรังเศสทำกับเรา แต่ก็ได้เงินถุงแดงช่วยเราไว้ไถ่บ้านไถ่เมืองสมกับพระราชเจตนาของรัชกาลที่3



เหมือนกับที่ลาวโกรธไทยที่ไปทำกับเขาคล้ายๆกัน เพียงแต่ฝรังเศสไม่ได้ฆ่า ฝรั่งเศสไม่ได้ปล้นสดมป์ ฝรั่งเศสไม่ได้กวาดต้อนเอาลูกเอาเมียคนไทยไปใช้แรงงานในโคโลนี่ฝรั่งเศส หรือเผาเมืองจนราบเหมือนที่ไทยทำกับลาวตอนที่ไปอัญเชิญพระแก้วลงมาจากเวียงจันทร์


เมื่อครั้งคุณเฒ่าท่าพระจันได้ทักท้วงเรื่องประวัติศาตร์พระแก้วมรกต ผมยังยืนยันอย่างที่ผมบอกไว้เมื่อกระทู้ก่อนว่า ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเสมอถ้าเราลืมมันหรือแกล้งลืมมัน เราอาจจะทำผิดซ้ำสองได้



การให้ความรู้แบบไม่ปิดบังทั้งดี-เลวในอดีตจะสร้างสิ่งถูกต้องให้ลูกหลานในอนาคตครับ ผมเชื่อมั่นในวิถีแบบนี้







baron จาก von Richthofen   พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 13:06   


คำตอบที่ 183
       ครั้งนี้ผมรีบเอากระทู้ลงตอนกลางวันเพื่อจะปิดรูปชุดวัดพระแก้วลงเพื่อให้ รุจ เปิดตัวลงรูปชุด วัดอรุณและวัดพระเชตุพน

ถ้าผมว่างพอจะลงรูปชุดกลางคืนเหมือนเดิมอีกชุดครับ





baron จาก von Richthofen  61.47.113.253  พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 13:15   


คำตอบที่ 184
       มุมมองสุดท้ายก่อนออกประตูวังหลวง

จบแล้วครับสำหรับภาคพิเศษลงกระทู้ตอนกลางวันในวันนี้





baron จาก von Richthofen  61.47.113.253  พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 13:18   


คำตอบที่ 185
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 18:15   


คำตอบที่ 186
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 18:17   


คำตอบที่ 187
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 18:18   


คำตอบที่ 188
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 18:18   


คำตอบที่ 189
      

ย้อนกลับไปหอพระนากหน่อย อยากให้เห็นลายกระเบื้องของจริงจัง





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 18:22   


คำตอบที่ 190
       แล้วก็ถึงอีกฝั่งของแม่น้ำ วัดอรุณ

วัดที่คู่มากับการปฎิสังขรถึง 5รัชกาลถึงแล้วเสร็จ ทางเข้าวัดด้านถนนกองทัพเรือเก่าที่ไม่มีรถวิ่งแล้วเนื่องจากตัดถนนใหม่อีกด้านของชุมชนปรกอรุณ

เป็นวัดที่ถ่ายรูปยากวัดหนึ่งเนื่องจากมีสิ่งรกตาพอๆกับสวยงาม การบริหารงานของวัดไร้รสนิยมทั้งที่มีของดีให้อวดชาวโลก

จะบอกว่าเอาจับกังมาบริหารโรงสีก็จะเกินจริงไปหน่อยแต่ก็ใกล้เคียงกับสภาพจริงที่เป็นอยู่ กรมศิลปากรคงหนักใจกับคณะผูบริหารวัดนี้พอสมควร





baron จาก von Richthofen  221.128.106.184  ศุกร์, 17/11/2549 เวลา : 23:13   


คำตอบที่ 191
       วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมเรียกว่า "วัดมะกอก" ตามชื่อตำบลบางมะกอกซึ่งเป็นตำบลที่ตั้งวัด

บางกอกที่จริงแล้วอยู่ฝั่งธนบุรีครับ เป็นชื่อเรียกมาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว ที่มาเรียกฝั่งนี้เพราะคลองลัดกลายเป็นแม่น้ำเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี่เอง

เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมีพระราชประสงค์จะย้ายราชธานีมาตั้งที่กรุงธนบุรีจึงเสด็จกรีฑาทัพล่องลงมาทางชลมารคถึงหน้าวัดมะกอกนอกนี้เมื่อเวลารุ่งอรุณพอดี จึงทรงเปลี่ยนชื่อวัดมะกอกนอกเป็น "วัดแจ้ง" เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งนิมิตที่ได้เสด็จมาถึงวัดนี้เมื่อเวลาอรุณรุ่ง


เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้ย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามาตั้ง ณ กรุงธนบุรีและได้ทรงสร้างพระราชวังใหม่ มีการขยายเขตพระราชฐาน เป็นเหตุให้วัดแจ้งตั้งอยู่กลางพระราชวังจึงไม่โปรดให้มีพระสงฆ์จำพรรษา






baron จาก von Richthofen  221.128.106.184  ศุกร์, 17/11/2549 เวลา : 23:18   


คำตอบที่ 192
       นอกจากนั้นในช่วงเวลาที่กรุงธนบุรีเป็นราชธานี ถือกันว่าวัดแจ้งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง เนื่องจากเป็นวัดที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตและพระบาง ซึ่งสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก หรือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ ๒ องค์นี้มาจากลาวในคราวที่เสด็จตีเมืองเวียงจันทร์ได้โดยโปรดให้อัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบางขึ้นประดิษฐานไว้ในมณฑป

พระแก้วมรกตได้ย้ายมาประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมหาราชวัง ส่วนพระบางนั้นสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้โปรดพระราชทานคืนไปนครเวียงจันทร์



ผมไปกราบพระบางที่หลวงพระบางมาแล้วรู้สึกถึงความเคารพนับถือของชาวลาวต่อพระคู่บ้านคู่เมืององค์นี้มากมายนัก ครั้งหนึ่งเมื่อสองร้อยปีก่อนท่านเคยมาอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยากลางเมืองกรุงเทพฯนี่เอง







baron จาก von Richthofen  221.128.106.184  ศุกร์, 17/11/2549 เวลา : 23:24   


คำตอบที่ 193
       เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ เสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติ ได้โปรดให้สร้างพระนครใหม่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา และรื้อกำแพงพระราชวังกรุงธนบุรีออก วัดแจ้งจึงไม่ได้อยู่ในเขตพระราชวังอีกต่อไป พระองค์จึงโปรดให้วัดแจ้งเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนั้นพระองค์ทรงมอบหมายให้สมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นผู้ดำเนินการปฏิสังขรณ์วัดแจ้ง

แต่สำเร็จเพียงแค่กุฎีสงฆ์ก็สิ้นรัชกาลที่ ๑ เสียก่อน ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ พระองค์ทรงดำเนินการปฏิสังขรณ์ต่อจนเสร็จ ทั้งได้ทรงปั้นหุ่นพระพุทธรูปด้วยฝีพระหัตถ์ และโปรดให้หล่อขึ้นประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ และโปรดให้มีมหรสพสมโภชฉลองวัด แล้วโปรดพระราชทานพระนามวัดว่า วัดอรุณราชธาราม








baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 17/11/2549 เวลา : 23:29   


คำตอบที่ 194
       อดใจไม่ได้ต้องให้ดูฝีพระหัตถ์ของพระพุทธเลิศหล้าก่อนทั้งที่ผมจัดคิวรูปไว้แล้ว

ประตูวัดสุทัศที่ลือลั่นก็ฝีมือพระองค์ท่าน พระรักใหญ่พระรักน้อยหัวโขนที่สวยหน้าหวานมากก็ฝีมือพระองค์ท่าน ซอสายฟ้าฟาดก็ฝีมือพระองค์ท่าน

อีกมากมายที่พระองค์ท่านฝากฝีมือเอาไว้

ผมเดาว่าอาจจะเป็นเพราะเมื่อพระราชบิดา รัชกาลที่1ทรงออกทัพ ท่านฉิมหรือรัชกาลที่2 ต้องดูแลการสร้างพระนครต่อชั่วการศึกพม่า ฝีมือทางช่างของพระองค์ท่านจึงสุดยอด





baron จาก von Richthofen  221.128.106.184  ศุกร์, 17/11/2549 เวลา : 23:38   


คำตอบที่ 195
       ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดอรุณฯ ใหม่หมดทั้งวัด พร้อมทั้งโปรดให้ลงมือก่อสร้างพระปรางค์ตามแบบที่ทรงคิดขึ้นจนสำเร็จ ซึ่งการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์สิ่งต่าง ๆ ภายในวัดอรุณฯ นี้สำเร็จลงแล้ว แต่ยังไม่ทันมีงานฉลองก็สิ้นรัชกาลที่ ๓



เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติ พระองค์ได้โปรดให้สร้างและปฏิสังขรณ์สิ่งต่าง ๆ ในวัดอรุณฯ เพิ่มเติมอีกหลายอย่าง ทั้งยังได้อัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถ

และเมื่อได้ทรงปฏิสังขรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้พระราชทานนามวัดเสียใหม่ว่าวัดอรุณราชวราราม ดังที่เรียกกันมาจนถึงปัจจุบัน






baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 17/11/2549 เวลา : 23:48   


คำตอบที่ 196
       ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เกิดเพลิงไหม้พระอุโบสถ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถใหม่เกือบทั้งหมด โดยได้โปรดให้กรมหมื่นปราบปรปักษ์เป็นแม่กองในการบูรณะ และโปรดเกล้าฯให้นำเงินที่เหลือจากการบริจาคของพระบรมวงศานุวงศ์ไปสร้างโรงเรียนตรงบริเวณกุฎีเก่าด้านเหนือ ซึ่งชำรุดไม่มีพระสงฆ์อยู่เป็นตึกใหญ่แล้วพระราชทานนามว่า โรงเรียนทวีธาภิเศก


นอกจากนั้นยังได้โปรดให้พระยาราชสงครามเป็นนายงานอำนวยการปฏิสังขรณ์พระปรางค์องค์ใหญ่ และเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงโปรดให้มีการฉลองใหญ่รวม ๓ งานพร้อมกันเป็นเวลางานฉลองพระไชยนวรัฐ งานบำเพ็ญพระราชกุศลพระชนมายุสมมงคล คือ มีพระชนมายุเสมอพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และ งานฉลองพระปรางค์





baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 17/11/2549 เวลา : 23:53   


คำตอบที่ 197
       เนื่องจากองค์พระปรางค์และวัดได้บูรณะและสร้างมาถึง 5รัชกาล ประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองได้ถูกบันทึกไว้ในสิ่งก่อสร้างของวัดนี้มากมาย

แต่ผมขัดใจการดูแลสิ่งสำคัญของวัดนี้บางอย่างที่ไม่เห็นความสำคัญของวัตถุโบราณเลย เอาไฟไปติดเอาตะปูไปตอกเสากระเบื้อง เอาเตาแกสไปหุงหาในโบสถ์ เอาหลอดไฟฟูออเรสเซนไปติดตามหน้าต่างขัดตากับลายอลังการณ์ของศิลปะฝีมือช่างหลวงโบราณ ที่สำคัญคือเอาขยะไปกองหลังโบสถมาหลายปีแล้วไม่ยอมเก็บสักที

พระบางรูปและแม่ค้าบางคนทำตัวมาเฟียยึดโบสถ์จริงๆ สงสัยว่าถ้าสร้างส้วมได้คงสร้างไปแล้ว

นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงบอกว่าวัดนี้ถ่ายรูปลำบากจริงๆ





baron จาก von Richthofen  221.128.106.184  เสาร์, 18/11/2549 เวลา : 00:04   


คำตอบที่ 198
       อยากจะเล่าเรื่องต่อ แต่จะอดใจเขียน พงศาวดารกระซิบ ต่อให้ยืดยาวไม่ได้ เดี๋ยวจะยืดไปอีกสองชั่วโมงเหมือนคืนก่อนๆ

วันนี้คงต้องห้ามใจตัวเองให้พอที่จะลงรูปเท่านี้ครับ





baron จาก von Richthofen  221.128.106.184  เสาร์, 18/11/2549 เวลา : 00:11   


คำตอบที่ 199
      



จาก Kupree  124.121.171.211  เสาร์, 18/11/2549 เวลา : 00:22   


คำตอบที่ 200
      





baron จาก von Richthofen  61.47.111.133  เสาร์, 18/11/2549 เวลา : 23:57   


คำตอบที่ 201
       สวยมาก ๆ เลย ขอรับพี่



Rin จาก Rin  203.113.56.14  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 09:17   


คำตอบที่ 202
       ชื่นชม และยกย่องครับ กระทู้นี้ได้ชมภาพสวย และได้ความรู้มากมาย ขอบคุณท่านพี่อาจารย์วอนมากเลยครับ



rati1253 จาก rati  125.24.26.189  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 11:36   


คำตอบที่ 203
       เมื่อวานนี้ผมไปนั่งแช่ก้นที่ ชมรมปาเจโรแห่ประเทศไทยสาขาสาม สำนักงานใหญ่กลุ่มกระโจมไพร กับเพื่อนๆอีกกลุ่มใหญ่ หลังจากกินไปคุยไปดื่มไป ซ่อมรถไปจนมือดำทั่วหน้าแล้ว คุณหมีขาวบอกว่าในหัวผมเอาพื้นที่อะไรเก็บไว้ พูดเรื่องอะไรก็มีเกร็ดไหลออกมาได้ทุกเรื่องแม้แต่นั่งดูคอนเสิทกันก็มีเกร็ดของนักร้องเล่าให้ฟัง อย่างเรื่องที่เอามาเล่าในกระทู้นี้



พงศาวดารสมัยก่อนนี้กระทำในราชสำนักมาตั้งแต่สมัยอยุธยา จะว่ากันไปศิลาจรึกหลักที่1ก็เป็นพงศาวดารได้เหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับราชวงค์พระร่วงที่เขียนย้อนหลังของผู้บันทึกไปอีกหนึ่งรัชกาลคือพ่อขุนศรีอิทราทิตย์

ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์มีการเขียนพงศาวดารเป็นเรื่องราวก็เริ่มเอารัชกาลที่5 ต้องเขียนย้อนหลังไปถึง4รัชสมัย โดยพระยาพิพยากรวงค์ ขำ บุญนาก ผู้ใหญ่แห่งตระกูลบุญนาก ได้รับการโปรดเกล้าให้เขียนขึ้น






baron จาก von Richthofen   อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 21:31   


คำตอบที่ 204
       ตระกูลบุญนากอีกแล้ว จะเห็นว่าเรื่องสำคัญของประเทศ เรื่องการปกครองประเทศต้องเป็นตระกูลบุญนากอยู่เบื้องหลังมาตั้งแต่ครั้งปลายกรุงศรีอยุธยา เบื้องหลังการขึ้นครองราชในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็เป็นบุญนากที่เป็นหัวเรื่อใหญ่เบื้องหลังอำนวยการให้ความสำคัญต่อการสืบสันติวงค์จนถึงรัชกาลที่5ที่ทรงค่อยๆปลดอำนาจและความสำคัญของตระกูลนี้ลง


ตอนที่พระองค์ท่านยังเป็นยุวกษตริย์ทรงโดนมามากกับผู้สำเร็จราชการตระกูลบุญนากจนต้องเอาคืนบ้างให้หลังหลายปีต่อมาตอนที่ทรงมีกำลังในมือพอสมควรแล้ว






baron จาก von Richthofen  221.128.113.59  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 21:34   


คำตอบที่ 205
       พระยาพิพยากรวงค์ ได้เรียบเรียงเรื่องต่างๆโดยมีหลายฝ่ายให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีเนื่องจากเป็นพระราชประสงค์และพระบารมีของรัชกาลที่5เอง ซึ่งน่าจะเริ่มเขียนในปี 2410กว่าๆและตีพิมพ์อีกที่ก็อีกประมาณสามสิบปีให้หลัง แต่ก่อนตีพิมพ์ย่อมมีการเซ็นเซอร์ก่อนเนื่องจากประวัติศาสตร์ที่เขียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับราชวงค์ล้วนๆ โดยผู้ตรวจทางคือกรมพระยาดำรงราชานุภาพ


แต่จากการตรวจชำระพบว่าก่อนที่กรมพระยาดำรงจะตรวจทานนั้นมีการเซ็นเซอร์กันมาก่อนแล้วอีกรอบโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้านั่นเอง


คนสันดานเสียแบบผมชอบที่จะอ่านอะไรที่เป็นหลักฐานเบื้องต้น คือท่านพระยาพิพยากรวงค์ เขียนอะไรไว้ก่อนโดนเซ็นเซอร์ เพราะอะไรที่ลงตีพิมพ์อย่างเป็นทางการเป็นเรื่องที่เรียกว่าหลักฐานชั้นรอง เพราะบางเรื่องได้รู้แบบไม่มีการตัดทอนหรือแก้ไขให้นุ่มขึ้นหรือหลีกเลี่ยงการกระเทือนใจผู้อยู่ในเหตุการณ์ในครั้งนั้น



พงศาวดารกระซิบ ของผมก็อยู่ตรงรอยต่อของฉบับมาตราฐานและฉบับก่อนเซ็นเซอร์นี่แหละ





baron จาก von Richthofen  221.128.113.59  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 21:37   


คำตอบที่ 206
       พงศาวดารของกรุงเทพฯมีบางอย่างที่ไม่เหมือนครั้งกรุงศรีอยุธยา ตรงที่มีอะไรที่เป็นท้องถิ่นกว่าพงศาวดารยุคนั้น เป็นต้นว่าไม่มีแต่เรื่องตระกูลหรือราชนิกูลของพระมหากษัตริย์เพียงอย่างเดียว แต่มีประวัติการสร้างโน่นสร้างนี่อยู่ด้วย อย่างวัดโน้นวัดนี้ก็มี หรือตอนที่ฝรั่งมาอยู่กันเต็มเมืองก็มีการตัดถนน สร้างตึกแถวให้เช่า การทะเลาะกับฝรั่งหรือจูบปากกันเขียนสนธิสัญญาต่างๆ ฯลฯ


พงศาวดารกระซิบของผมก็ไหลมาจากตรงนี้ด้วยส่วนหนึ่งครับ





baron จาก von Richthofen  221.128.113.59  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 21:39   


คำตอบที่ 207
       ในรัชสมัยของพระจอมเกล้านั้น ในอีกมุมมองหนึ่งของคนชอบประวัติศาสตร์อย่างผมเองจะเห็นไปอีกแง่เมื่อเทียบกับรัชสมัยต่างๆทั้งก่อนหน้าและหลังจากนั้น


พระจอมเกล้าทรงรับสั่งอยู่เสอว่าพระองค์จะไม่ตัดสินพระราชหฤทัยในเรื่องสำคัญใดๆโดยไม่ปรึกษาผู้ใหญ่และบรรดาขุนนางเสียก่อน


นี่คือเนื้อหาของประชาธิปไตยที่พระองค์ซึบทราบมาตั้งแต่ทรงผนวช แต่ผมอยากจะเทียบกับอภิชนาธิปไตยมากกว่าที่พระราชดำริก้าวไกลกว่าข้าราชการทั่วไปในสมัยนั้นที่ดำรงค์ตำแหน่งมาตั้งแต่รัชสมัยก่อนหน้าพระองค์ แต่พระองค์จะไม่ทรงลงพระราชวินิฉัยอะไรถ้าคนเหล่านั้นไม่เห็นพ้อง


แต่ไม่ใช่ว่าข้าราชการในสมัยพระองค์ไม่มีความสามารถเกินกว่าพระองค์ท่าน ข้าราชการระดับสูงจำนวนหนึ่งมีความรู้ความสามารถไม่น้อยกว่าพระองค์ท่าน และมีความทันสมัยไม่น้อยกว่าพระองค์ท่านเลยที่เดียว อาจจะเป็นเนื่องมาจากความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองในรัชสมัยพระนั่งเกล้าที่บ้านเมืองเริ่มเป็นปึกแผ่นมีเงินไหลเข้ามาจนล้นพระคลัง หรืออาจจะเป็นเพราะการค้าขายติดต่อกับต่างชาติของบรรดาขุนนางระดับสูงทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้กันและกัน





baron จาก von Richthofen  221.128.113.59  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 21:42   


คำตอบที่ 208
       แท้ที่จริงข้าราชการเหล่านี้เป็นผู้เลือกให้พระองค์ท่านได้ครองราชสมบัติโดยที่พระปิ่นเกล้าพระราชอนุชามีความทันสมัยกว่าพระองค์ท่านเสียอีก แต่ข้าราชการส่วนใหญ่เห็นว่าการจะยกพระองค์อนุชาที่ไม่ได้บวชเป็นพระภิกษุขณะนั้นขึ้นมาจะมีปัญหาเรื่องการควบคุมระบบการปกครองขึ้นได้จึงได้เลือกเอาพระภิกษุผู้เป็นพี่ขึ้นแทน


ผมหมายถึงสิ่งที่ผมเคยพูดไว้ว่าตระกูลบุญนากอยู่เบื้องหลังการเมืองการปกครองระดับสูงมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาแล้ว เหตุการณ์นี้จะเห็นได้ชัดเจนถึงอำนาจของตระกูลนี้ในสมัยโบราณ


พอรัชสมัยของพระองค์ได้ดำเนินต่อมาจากสมเด็จพระนั่งเกล้านั้น พระองค์ได้สถาปนาสมเด็จพระปิ่นเกล้าขึ้นเป็นวังหน้าเป็นกษัตริย์องค์ที่2ของแผ่นดินเทียบเท่าพระเอกาทศรถพระเจ้าน้องยาเธอในสมัยพระนเรศวรเลยที่เดียว ทรงคิดว่าน่าจะคานอำนาจของพวกบุญนากได้ในอนาคตที่พระองค์ทรงบัลลังค์อยู่


แต่ทรงคาดอะไรผิดไปมากเลยที่เดียวตรงที่พระราชวังบวรนอกจากจะพึ่งไม่ได้แล้วยังทำตัวป่วนพระองค์ท่านในบางเรื่องเสียอีกเอาไว้ผมจะเล่าให้ฟังว่าต้องทรงปวดพระเศียรกับพระอนุชาคนนี้แค่ไหน


อีกทั้งเรื่องที่พระองค์ท่านคาดการเอาไว้ผิดก็คือพวกตระกูลบุญนากที่ควบคุมการบริหาร การคลัง การเศษฐกิจ และทหาร ของบ้านเมืองเอาไว้ในสมัยนั้น ไม่ได้ฉลาดหรือทันสมัยน้อยกว่าพระองค์ท่านตามที่คาดไว้เลย





baron จาก von Richthofen  221.128.113.59  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 21:45   


คำตอบที่ 209
       พักเรื่อปวดหัวเอาเรื่องเบาๆของ แมวล่านกบ้าง แต่พระมณฑปนี้ไม่มีนกมีแต่กระเบื้องโบราณ





baron จาก von Richthofen  221.128.113.59  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 21:48   


คำตอบที่ 210
       จานกระเบื้องสมัยรัชกาลที่3 ยังพอหลงเหลือให้ถ่ายรูปบ้างยังไม่ถุกขุดไปขายจนหมด

เอาไว้รอดูรูปจากกล้อง รุจ





baron จาก von Richthofen  221.128.113.59  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 21:50   


คำตอบที่ 211
       ตลอดรัชสมัยของพระองค์ได้ทรงงานหนักอดกลั้นในการประสานอำนาจของขุนนางและต่างชาติที่คืบคลานมามามีอิทธิพลเหนือภูมิภาคเอเชียอาคเนย์

แม้พระราชโอรสพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าที่ก้าวตามรอยพระบาทอย่างอุทิศตนตลอดเวลาการครองราชที่ยาวนานกว่า แต่ถ้าเปรียบเที่ยบกันด้านความสุขุมในการปกครองหรือทุกด้านแล้ว พระราชบิดาของพระพุทธเจ้าหลวงทรงเหนือกว่าพระราชโอรส


ถ้าพระองค์ไม่จ้างแหม่แอนนามาให้ความรู้ภาษาอังกฤษและสอนความรู้สมัยใหม่จากยุโรปแก่พระโอรสพระธิดาของพระองค์แล้ว ในสมัยรัชกาลต่อมาพระจุลจอมเกล้าจะทรงขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความทันสมัยได้ลำบากยิ่ง นับว่าทรงเป็นรากฐานของประเทศได้ไม่ยิ่งหย่อนกว่ามหาราชพระองค์อื่นๆทั้งที่พระองค์ยังไม่ได้รับสามัญญานามว่ามหาราชเหมือนพระราชบุตรของพระองค์คือรัชกาลที่5เสียด้วยซ้ำ






baron จาก von Richthofen  221.128.113.59  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 21:53   


คำตอบที่ 212
       เรื่องแหม่มแอนนานอกจากจะทำหน้าที่เป็นครูแอนนาสอนหนังสือให้แก่ของพระโอรสและพระธิดาของพระองค์แล้ว แหม่มแอนนายังเป็นสปายให้พระองค์ท่านในเรื่องกิจการต่างประเทศที่เข้ามารุมเร้าให้พระองค์ไม่สบายพระทัยที่ต้องรับษาความบาล้านซ์ของอำนาจภายนอกที่กำลังจะฮุบเอาสยามเป็นเมืองขึ้นแล้ว


ก็ยังมีแหม่มแอนนานี่แหละที่เป็นสปายและล็อบบี้ยิสให้พระองค์ในการชนกับต่างชาติ


ถ้าได้อ่านจดหมายส่วนตัวของพระองค์กับแหม่มแอนนาแล้วจะรู้ว่าพระองค์ท่านกับแหม่มแอนาสื่อสารในทางลึก ของการทำงานเพื่อชาติในขณะนั้น ถ้าไม่ลืมจะเล่าให้ฟังว่าจดหมายส่วนตัวเหล่านั้นพูดถึงบ้านเมืองตอนนั้นอย่างไรบ้าง


แหม่มแอนนาเป็นเจมส์บอนด์ 007ภาคสตรีของพระจอมเกล้าเลยที่เดียว ไม่เหมือนในหนังสือเรื่อง คิงแอนด์ไอ ที่เป็นละคอนเวทีไร้สาระมากไปหน่อย






baron จาก von Richthofen  221.128.113.59  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 21:56   


คำตอบที่ 213
      

คืนนี้ผมมีงานด่วนต้องจบ ที่ผมมาพิมพ์อะไรให้อ่านเป็นการพักสมองของผมระหว่าทำงานกระดาษบนโต๊ะทำงานให้สมองโปร่งขึ้นมาบ้าง ขอตัวไปทำงานต่อแล้วครับ


พรุ่งนี้ค่อยมาอ่านกันใหม่ ว่าผมจะมีอะไรมาเล่า พงศาวดารกระซิบ กันอีก





baron จาก von Richthofen  221.128.113.59  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 21:57   


คำตอบที่ 214
      


very ครับผม



จาก Kupree  203.114.96.131  อาทิตย์, 19/11/2549 เวลา : 22:28   


คำตอบที่ 215
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:04   


คำตอบที่ 216
      

เช้าวันจันทร์อากาศดีๆแบบนี้ ไปชมดอกไม้สวยๆกันดีกว่า

(อิจฉาคนไปงานพืชสวนโลก)

สวนแรก วัดอรุณราชวรารามมหาวิหาร





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:04   


คำตอบที่ 217
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:05   


คำตอบที่ 218
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:05   


คำตอบที่ 219
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:06   


คำตอบที่ 220
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:07   


คำตอบที่ 221
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:11   


คำตอบที่ 222
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:11   


คำตอบที่ 223
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:11   


คำตอบที่ 224
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:12   


คำตอบที่ 225
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:13   


คำตอบที่ 226
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:14   


คำตอบที่ 227
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:15   


คำตอบที่ 228
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:16   


คำตอบที่ 229
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:17   


คำตอบที่ 230
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:18   


คำตอบที่ 231
      

เอาพอหายอยาก(ลง) ไปประชุมก่อน

ภาคบ่ายว่ากันใหม่




Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 08:20   


คำตอบที่ 232
      



จาก Kupree  203.114.96.131  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 09:05   


คำตอบที่ 233
       แจ่มเลยขอรับพี่ Ruj



Rin จาก Rin  203.113.56.75  จันทร์, 20/11/2549 เวลา : 09:09   


คำตอบที่ 234
       คุณไกรฤกษ์ นานา เคยเขียนบทความไว้ว่า กระบวนการสร้างภาพลักษ์เพื่อให้เกิดมโนทัศน์เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์กลายเป็นแบบแผนของอุดมคติในการเขียนประวัติศาสตร์ไทย


สำหรับผมเองนั้นฉบับที่เขียนตามมโนทัศน์ดังกล่าวคือหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ที่พวกเราได้เรียนมาตั้งแต่ชั้นปฐมศึกษาจนถึงจบการศึกษาเบื้องต้น หรือเล่มที่กรมพระยาดำรงราชานุภาพเขียนที่ดูหมดจดสวยงามไร้ที่ติ


หลวงวิจิตรวาทการได้กล่าวไว้ในหนังสือมหาบุรุษของท่านว่า พงศาวดารของพวกเรายังมิได้ทำขึ้นครบบริบูรณ์ เรายังไม่มีหนังสือเล่มใดสำหรับการศึกษาให้ทราบประวัติที่แท้จริงตลอดจนนิสัยใจคอและจริยาวัตรของมหาบุรุษของเราให้ลึกซึ้ง






baron จาก von Richthofen  61.47.107.2  อังคาร, 21/11/2549 เวลา : 00:22   


คำตอบที่ 235
       ถ้าได้ค้นหาอ่านหนังสือพิมพ์ของเมืองนอกในสมัยรัชกาลที่4 จะรู้ว่าคำกล่าวของทั้งสองท่านตรงใจอย่างมากว่ามีเรื่องราวอย่างมากที่ไม่ได้เขียนในประวัติศาสตร์ของเราอย่างจงใจที่จะให้เหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นถูกลืมไปเสียอย่างง่ายๆ



เรื่องที่เราไม่รู้โดยกว้างขวางคือพระจอมเกล้ารัชกาลที่4พระองค์ท่านทรงทันสมัยขนาดบอกรับสมาชิกหนังสือพิมพ์จากลอนดอนหรือสิงคโปร์หลายฉบับ ตอนท่านขึ้นครองราชหนังสืพิมพ์ของสิงคโปร์ภาษาอังกฤษออกข่าวการครองราชของพระองค์ก่อนเวลาอย่างที่ผมเคยเล่ามาแล้วในกระทู้ก่อนนี้

ผมว่าพวกนักข่าวฝรั่งพวกนี้ลงข่าวของสยามมาตั้งแต่รัชกาลที่3 แต่สังคมสมัยนั้นจะหาคนไทยสักกี่คนที่อ่านภาษาอังกฤษออก แต่พระองค์ท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีสายพระเนตรยาวไกลและทรงภูมิปัญญาเกินกว่าขุนนางสมัยนั้นจะคาดได้ว่าทรงอ่านหนังสือพิมพ์จากอังกฤษโดยบอกรับเป็นสมาชิกถึงในวังหลวงครึ่งโลกจากลอนดอน






baron จาก von Richthofen  61.47.107.2  อังคาร, 21/11/2549 เวลา : 00:23   


คำตอบที่ 236
       หนังสือพิมพ์ย้อนยุคเกือบสองร้อยปีอย่างที่ผมบอกมาจะเป็นหลักฐานอีกอย่างที่คนชอบประวัติศาสตร์ต้องอ่าน แม้ว่าจะจริงบางเท็จบ้างตามประสาหนังสือพิมพ์ แต่ก็เป็นเรื่องที่หามูลเหตุได้ไม่ยากนัก


รัชกาลที่4ทรงมีพระราชหฤทัยเปิดกว้างและเป็นกลางกับคำวิจารณ์ที่เกินเลยของหนังสือพิมพ์ฝรั่งที่กล่าวถึงพระองค์ท่านกับพระปิ่นเกล้าแล้วเอาไปลงหนังสือพิมพ์สิงคโปร์ พระองค์ท่านถึงกับทรงตรัสว่า เรื่องเมืองไทยไปเขียนในหนังสือพิมพ์ปิดไว้ไม่ใคร่อยู่ แม้แต่กับบรรดาทูตทั้งหลายก็ทรงเตือนให้ระวังการให้ข่าว ทรงรู้ว่าสำนักข่าวอังกฤษเป็นผู้กว้างขวางตาเป็นสัปรสมักจะขุดคุ้ยเรื่องของพระองค์ไปเขียนอยู่เสมอ


อีกครั้งหนึ่งถึงกับตรัสว่า อังกฤษเขามาอยู่กรุงก็มาก อะไรอย่างไรเขาก็รู้






baron จาก von Richthofen  61.47.107.2  อังคาร, 21/11/2549 เวลา : 00:25   


คำตอบที่ 237
       มีหลายเรื่องที่ต้องพูดคุยในเวปหรือวงอาหารเย็นของคนรักประวัติศาสตร์เท่านั้น ผมไม่กล้าเล่าแม้แต่กระซิบข้อหนังสือพิมพ์ในที่นี้ด้วยเกรงว่าจะเกิดอาการผู้อ่านบางท่านรับไม่ได้กันขึ้นมาอีก


ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข่าวอื้อฉาวถึงเมืองนอกถึงการเสียชีวิตของเชื้อพระวงค์ ข่าวของพระปิ่นเกล้าที่ลงในหนังสือพิมพ์ของอังกฤษ และต่อมาพระองค์ท่านมาสารภาพในปี2409ต่อพระจอมเกล้าว่าทรงเตรียมอาวุธดินดำไว้เพื่อปกป้องราชบัลลังก์จากผู้คิดร้ายเพื่อย้ำเตือนพระองค์ว่าอย่าทรงประมาท


แต่หนังสือพิมพ์ฝรั่งมันรู้ก่อนคนสยามง่ะ เป็นงงกับการบันทึกประวัติศาสตร์ของเราเหมือนกันว่าทำไมตกหล่นอย่างจงใจกันขนาดนี้


ขนาดหน่วยข่าวกรองอังกฤษยังบันทึกไว้ในรายงานในปี2399 ก่อนพระปิ่นเกล้าจะทรงถวายคำสารภาพถึง10ปี ทำให้ตะลึงว่าหน่วยข่าวกรองของฝรั่งมาเดินเพ่นพล่านในเมืองไทยตั้งแต่ครั้งเกือบร้อยห้าสิบปีที่แล้ว และได้ข่าววงในแบบเจาะลึกไปเสียด้วย และไม่ใช่จะมีแต่อังกฤษอย่างเดียวน่าจะมีสปายจากหลายประเทศเดินกันให้ขวักไข่วหาข่าวในกรุงเทพฯนี่แหละ


และไม่ใช่แต่อังกฤษจะมีสปายเจาะข่าวของเราได้แต่ฝ่ายเดียว พระจอมเกล้าก็มีสปายของพระองค์ไปเจาะข่าวของฝรั่งเหมือนกัน เอาไว้ไม่ลืมผมจะเอาข้อความบางตอนที่ทรงมีจดหมายส่วนตัวภาษาอังกฤษคุยกับแหม่มแอนา สายลับ 007 ของพระองค์มาเล่าให้ฟัง บางเรื่องแสดงให้เห็นถึงการข่าวและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของพระองค์ไม่แพ้คนระดับสุดยอดในสมัยนี้


จะว่าไปแล้วประเทศสยามอยู่รอดจนทุกวันนี้ได้เพราะพระปรีชาของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลายประการที่ทรงวางแนวทางเอาไว้ให้คนอีกรุ่นนี่เอง








baron จาก von Richthofen  61.47.107.2  อังคาร, 21/11/2549 เวลา : 00:39   


คำตอบที่ 238
       เบาะแสของหนังสือประวัติศาสตร์ของไทยบางเล่มที่พอจับกระแสได้ว่าทรงมีเรื่องไม่ลงรอยกับอัครมหาเสนาบดีของพระองค์เองแต่ไม่ได้บอกว่ารุนแรงเพียงใดเพียงแต่รู้ว่าหนักข้อขึ้นไปทุกวัน

พอจะจับความได้ว่าเจ้าพระยาศรีสุริยวงค์ ช่วง บุญนากได้รับการแต่งตั้งเป็นพระยากลาโหมมีอำนาจยิ่งใหญ่ในวงราชการแผ่นดินสมัยนั้น งานราชการทั้งปวงก็เป็นสิทธิขาดแก่ท่านเจ้าพระยากลาโหมท่านเดียว ถึงกับมีคนหวาดระแวงกันไปว่าเมื่อเปลี่ยนราชสมบัติแล้วจะมีการแย่งกันเหมือนครั้งกรุงศรีอยุธยาอีก พระปิ่นเกล้าเองก็ทรงทราบอยู่ถึงกับเตรียมอาวุธดินดำไว้มากมายเพราะไม่ไว้ใจท่านเจ้าพระยากลาโหมเลย


อย่างไรสมเด็จกรมพระราชวังบวรก็เป็นพระอนุชาที่ยังรักพระจอมเกล้าที่เป็นสายพระโลหิตเดียวกันมากกว่าขุนนางตระกูลบุญนาก แม้บางครั้งท่านจะออกฤทธิ์ใส่พระจอมเกล้าบ้างตามประสาพี่น้องที่มีความรู้สมัยใหม่พอๆกัน และเป็นกษัตริย์องค์ที่2ที่ทรงกล้าเล่นอะไรๆบ้างตามที่ได้รับทรงแต่งตั้งจากพระจอมเกล้าเอง


ใช่ว่าพระจอมเกล้าเองจะไม่ได้เตรียมการไว้ พระองค์ท่านได้เคลื่อนไหวอย่างลับๆในบางเรื่องเพื่อคานอำนาจและมีทางหนีที่ไล่ให้กับพระราชโอรสพระราชธิดาในบางอย่างถ้าเกิดเหตุจำเป็น เพราะทรงได้ให้ความรู้ภาษาอังกฤษและด้านการต่างประเทศให้แก่พระองค์เจ้าทั้งหลายในวัยเยาว์ จึงมั่นใจได้ว่าบรรดาพระองค์เจ้าวัยเยาว์ทั้งหลายจะอยู่รอดปลอดภัยในต่างประเทศ






baron จาก von Richthofen  61.47.107.2  อังคาร, 21/11/2549 เวลา : 00:43   


คำตอบที่ 239
       ในหนังสือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงค์ ฉบับแพร่พิทยา ถึงกับมีข้อความว่าพระองค์ทรงเซ้งตึกและและที่ดินในสิงคโปร์เพื่อพระราชทานแก่พระโอรสและพระธิดาเป็นสิทธิ์ขาดแต่ละพระองค์ คาดว่าทรงเป็นห่วงในกรณีที่พระองค์ท่านไม่อาจจะทรงควบคุมกำลังในการบริหารประเทศไว้ไม่ได้ในอนาคต


ความจริงมี่เรื่องลงหนังสือพิมพ์ของลอนดอนและสิงคโปร์หลายเรื่องที่ไม่ได้บันทึกในพงศาวดาร และ พงศาวดารกระซิบ ของผมก็มิอาจเอื้อมไปกล่าวถึงเรื่องดังที่ลงในหนังสือพิมพ์ยุคนั้นนั้น ปล่อยให้เป็นเรื่องที่ชาวบ้านไม่จำเป็นต้องรู้ไปเหมือนเดิมจะดีกว่า






baron จาก von Richthofen  61.47.107.2  อังคาร, 21/11/2549 เวลา : 00:45   


คำตอบที่ 240
      
มีเพื่อนบางท่านโทรมาเตือนผมว่าอย่าลงเรื่องประวัติศาสตร์ลึกนักก็ได้ เพราะคนที่เวปนี่ไม่ใช่คอประวัติศาสตร์ บางเรื่องอ่านแล้วลมตีกลับตาเหลือกถลน กลัวว่าจะต้องเอาข้าวผัดกับโอเลี้ยงไปเยี่ยมผม


ตกลงครับ เอาเรื่องเบาๆสบายๆเหมือน พ่อกูชื่อศรีอินทราทิตย์ แม่กูชื่อนางเสือง พี่กูชื่อบาลเมือง ผมก็เขียนแบบนี้เป็น

หรือจะให้ หยุดพงศาวดารกระซิบ ไปเลย ลงแต่รูปอย่างเดียวก็ได้ ตามใจคนอ่านอยู่แล้ว จะเอาอย่างไรก็ว่ามา


คืนนี้คงพอเท่านี้ครับ ได้คุยเกร็ดพงศาวดารอะไรๆที่เบาๆสมอง ทำให้ผมหายเหนื่อยจากงานแล้วครับ







baron จาก von Richthofen   อังคาร, 21/11/2549 เวลา : 00:50   


คำตอบที่ 241
      

ไม่รู้หล่ะ



" ผมชอบครับ เเม่บ้านก็ชอบ "



อาวอีก อาวอีกครับ



จาก Kupree  125.25.237.121  อังคาร, 21/11/2549 เวลา : 01:34   


คำตอบที่ 242
      
ปูเสื่อรอแล้วนะเนี๊ยะ ............



Ethan_Hunt จาก Ethan_Hunt  203.188.7.102  อังคาร, 21/11/2549 เวลา : 19:33   


คำตอบที่ 243
       รอด้วยคนครับ





a_anan จาก a pct195  124.121.45.120  อังคาร, 21/11/2549 เวลา : 20:10   


คำตอบที่ 244
       จากการที่การเมืองของสยามเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้านหลังจากรัชสมัยของรัชกาลที่4 ทรงครองราชได้ไม่ถึง 5ปี ทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำในกลุ่มอำนาจเก่า



สิ่งที่คาดว่าการที่กลุ่มขุนนางได้สนับสนุนเจ้าฟ้ามงกุฏขึ้นครองราชเป็นพระจอมเกล้ารัชกาลที่4 เพราะพระองค์ท่านทรงผนวชมานานตลอดรัชสมัยของพระนั่งเกล้าถึง 27ปี ทำให้ไม่มีทหารหรือกำลังในมือ ทำให้ควบคุมการเคลื่อนไหวด้านการทหารที่อยู่ในมือกลุ่มขุนนางเก่าง่ายกว่าพระปิ่นเกล้าที่มีกำลังในมือพอสมควร และความสุขุมของวัยที่มากกว่าราชบุตรสายตรงของพระนั่งเกล้าที่ยังหนุ่มกว่า


แต่พระจอมเกล้าได้ทรงดัดหลังโดยคานอำนาจกลุ่มขุนนางเก่าด้วยการแต่งตั้งพระปิ่นเกล้าเป็นพระราชวังบวรและยกเป็นกษัตริย์พระองค์ที่2 เพื่อนำเอากำลังทหารในมือของพระองค์มาใช้


ทรงเฉียบคมด้านการบริหารบ้านเมืองโดยการทำให้กลุ่มขุนนางเก่าตลึงในเกมส์ของพระองค์ท่านที่คาดไม่ถึงว่าพระองค์ท่านที่ทรงผนวชเป็นพระตลอดชีวิตจะทรงทำการได้ขนาดนี้





baron จาก von Richthofen   พุธ, 22/11/2549 เวลา : 00:02   


คำตอบที่ 245
       อีกประการที่พระองค์ทรงทำการเปลี่ยนแปลงคือระบบการค้าที่เปิดกว้างขึ้น ได้ทรงทำสัญญาการค้ากับ อังกฤษ ฝรั่งเศส และอเมริกา ทำให้ผลประโยชน์ที่ตกอยู่กับกลุ่มขุนนางเก่าโดยเฉพาะตระกูลบุญนากครอบครองอยู่อย่างเป็นกอบเป็นกำต้องลดน้อยลง กระทบกระเทือนต่อความมั่งคั่งที่สะสมมาสืบเนื่องตั้งแต่สร้างกรุงรัตนโกสินทร์
การที่ทรงทุบหม้อข้าวของกลุ่มขุนนางเก่าให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับส่วนกลางย่อมทำให้เกิดความไม่พอใจให้ผู้เสียผลประโยชน์ค่อนข้างจะรุนแรงพอสมควร



สิ่งที่ปลิ้นออกไปสู่ภายนอกถึงแรงกดดันที่พระองค์สร้างแก่กลุ่มอำนาจเก่าถูกส่งผ่านออกทางหนังสือพิมพ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสิ่งที่ที่พระจอมเกล้าทรงหวั่นพระทัยคือหนังสือพิมพ์ฝรั่ง ที่ทรงเตือนทูตของสยามทุกท่านที่พระองค์ส่งออกไป






baron จาก von Richthofen  125.24.36.100  พุธ, 22/11/2549 เวลา : 00:04   


คำตอบที่ 246
       ในรัชสมัยของพระองค์ได้ส่งทูตออกสู่ราชสำนักยุโรปหลายสิบท่านซึ่งทั้งหมดเป็นขุนนางสายตระกูลบุญนากถ้าจะนับกันจริงก็ถือว่าเป็นญาติของเชื้อพระวงค์ที่ทางฝรั่งเศสยอมรับว่าเป็นพระประยูรญาติ เช่นพระยาศรีพิพัฒน์มีการสืบเนื่องนับญาติถึงสามแผ่นดิน เจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติก็ถือว่าเป็นประประยูรญาติสายหนึ่ง

แต่ฝรั่งไม่เข้าใจระบบอุปถัมภ์ของไทยเราเลย คิดว่าเป็นเรื่องครอบครัวไปหมด คนไทยเป็นญาติทั้งตำบลก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย แต่ฝรั่งไม่เข้าใจ อย่างเจ้าพ่อตามต่างจังหวัดก็มีแต่คนนับญาติ ตอนยังมีอำนาจญาติเต็มไปทั้งจังหวัด พอโดนทางการปราบจนหนีไปกบดานพวกญาติก็หลบกันหมด แล้วบอกที่เคยว่าทวดของทวดเคยเป็นน้องเขยกันก็ลืมไปสิ้น






baron จาก von Richthofen  125.24.36.100  พุธ, 22/11/2549 เวลา : 00:05   


คำตอบที่ 247
       จะว่าเป็นผลดีกับเรื่องแบบนี้ก็ มีเช่นฝรั่งจะรู้สึกเป็นเกียรติ์มากที่พระมหากษัตริย์ส่งพระประยูรญาติมาเป็นทูตในประเทศของตน แต่ผลร้ายก็คือน้ำหนักของคำพูดของทูตจะหนักเกินจริงไปก็มีถ้าไม่รู้จักยั้งปาก เป็นเรื่องที่พระจอมเกล้าทรงย้ำนักย้ำหนาแก่ทูตเรื่องการให้ข่าว



เรื่องของความสับสนของระบบครอบครัวที่ฝรั่งเข้าใจระบบอุปถัมภ์ของเราผิดไปทำเรื่องให้ถึงกับออกข่าวไปผิดๆก็มี ตัวอย่างเช่นหนังสือพิมพ์ อิลลัสเตส ลอนดอน นิวส์ ในปี 2401 เมื่อเกือบร้อยห้าสิบปีก่อนลงข่าวว่าการถึงแก่พิราลัยของเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติเป็นการสวรรคตของพระมหากษัตริย์องค์ที่1ของสยาม






baron จาก von Richthofen  125.24.36.100  พุธ, 22/11/2549 เวลา : 00:06   


คำตอบที่ 248
      

คนไทยสมัยนี้ทุกคนที่อ่านคงร้องเฮ้ย..ไอ้ฝรั่งมันเต้าข่าวอะไรกันปานนั้น มันลงข่าวว่าพระเจ้าอยู่หัวของสยาม พาสอะเวย์ ไปได้อย่างไร เป็นเมืองไทยลงข่าวปากสุนัขแบบนี้คงโดนตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรไปแล้ว







baron จาก von Richthofen  125.24.36.100  พุธ, 22/11/2549 เวลา : 00:07   


คำตอบที่ 249
       แต่เรื่องมีเหตุมันก็ต้องมีมูลอยู่บ้าง เรื่องแบบนี้ต้องอ่านให้ลึก ใส้ในข่าวบอกว่าราชทูตไทยบอกความเป็นไปของราชสำนักในมุมมองของตระกูลบุญนากว่าหลังจากรัชสมัยของพระจอมเกล้าแล้วประมุขคนใหม่ไม่มีใครเหมาะไปกว่าเจ้าพระยาศรีสุริยวงค์ ช่วง บุญนาก ที่เป็นมือรองของพระมหากษัตริย์ในการปกครองสยามไปอีกไม่มีแล้ว และฝรั่งก็เข้าใจว่าตระกูลบุญนากเป็นพระประยูรญาติก็ยิ่งไปกันใหญ่


เรื่องแบบนี้ทำให้ราชสำนักสยามหาวเรอกับความเข้าใจผิดๆของฝรั่งไปไม่น้อย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าได้ทรงเตือนทูตอยู่เสมอเรื่องการให้ข่าวต้องสุขุมคิดก่อนพูด เรื่องซุบซิบอาจจะพัฒนาตัวเองเป็นข่าวลือได้ไม่ยากเลยในสังคมของฝรั่งในยุคนั้น





baron จาก von Richthofen  125.24.36.100  พุธ, 22/11/2549 เวลา : 00:08   


คำตอบที่ 250
       หลังจากเจ้าพระยาศรีสุริยวงค์ได้รับพระมหากรุณาให้ขึ้นเป็นพระยากลาโหมแทนบิดาพระยาศรีสุริยวงค์ที่พิราลัยไปนั้น ทางอังกฤษของแก้สัญญาเบาริ่ง ทูตฝรั่งเศษและทูตอเมริกา ขอทำสัญญาค้าขาย ไทยก็เตรียมส่งทูตและเครื่องขัตติยราชูปโภคไปให้ควีนวิคตอเรีย


พวกขุนนางหัวเก่าที่ยังยึดจารีตโบราณย่อมไม่พอใจ แต่ก็ต้องเงียบเฉยไว้ที่จะไม่ทำตัวโฉ่งฉาง แต่ถ้ามีโอกาสก็จะไม่รีรอที่จะแสดงตัวเป็นผู้ต่อต้านยุโรปเพราะเรื่องแบบนี้กระทบหม้อข้าวของขุนนางเก่าแบบเต็มๆ






baron จาก von Richthofen   พุธ, 22/11/2549 เวลา : 00:10   


คำตอบที่ 251
       ในระยะเวลาไม่นานนักระบบการเมืองระหว่างประเทศก็ทำให้จุดยืนของสยามเข้าสู้ระบบการค้าสากล ซึ่งสิทธิ์และเสียงของขุนนางเก่าเริ่มค่อยๆลดลง


ถ้าพระองค์ไม่ทรงเดินราชโยบายอย่างต่อเนื่องกับระบบขุนนางเก่า การสืบราชสันติวงค์ให้แก่เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ซึ่งต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ารัชกาลที่5 พระราชโอรสของพระองค์คงลำบากยิ่งนักทั้งแรงภายในและภายนอกประเทศ

มองจากการให้ข่าวแก่หนังสือพิมพ์ฝรั่งของข้าราชการเก่าทั้งหลายในรัชสมัยของพระองค์ คงจะพอเห็นภาพรวมของอำนาจเก่าที่พระองค์ทรงต่อสู้และทรงใช้ความสุขุมในการดำเนินนโยบายการบริหารได้เป็นอย่างดี







baron จาก von Richthofen   พุธ, 22/11/2549 เวลา : 00:13   


คำตอบที่ 252
       แต่อำนาจเก่าก็ยังเล่นงานพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ารัชกาลที่5 ตอนยังทรงพระเยาว์ที่มีผู้สำเร็จราชการเป็นเจ้าพระยาศรีสุริยวงค์อยู่ไม่น้อย ถึงกับทรงเล่าให้พระราชโอรสของพระองค์ฟังถึงวิบากในการประคองรัชสมัยของพระองค์ท่านระหว่างที่มีผู้สำเร็จราชการ



ให้หลังหลายสิบปีในรัชสมัยรัชกาลที่5 ความพยายามก็เป็นผลสำเร็จจากที่ทรงตัดอำนาจของขุนนางเก่าตระกูลบุญนากได้เด็ดขาด จากการที่พระราชโอรสต่างสำเร็จการศึกษาจากยุโรปมาช่วยบริหารแผ่นดินในช่วงปลายรัชสมัยของพระองค์


แต่อีกมุมมองหนึ่ง ความชำนาญงานบริหารของขุนนางเก่าที่สะสมมาถึงสี่รัชกาลที่ทรงตัดทิ้งไป ก็ส่งให้เกิดความลำบากในการเอาตัวรอดจากการล่าอนานิคมของยุโรปเนื่องจากความใหม่ต่อการบริหารประเทศของกลุ่มพระราชโอรสที่จบเมืองนอกมานั่นเอง การบางอย่างที่สมเด็จพระราชบิดาพระจอมเกล้ารัชกาลที่4 ได้ทรงกระทำอย่างไม่ออกนอกเส้นนอกกรอบของพระราชอำนาจก็คือการไม่ตัดสินใจใดๆถ้าไม่ได้รับการเห็นชอบจากกลุ่มขุนนางเก่าที่มีความรู้ความสามารถไม่น้อยกว่าพระองค์เลย


อีกมุมมองหนึ่งนโยบายของพระองค์ท่านทำให้เรามีสุดยอดฝีมือด้านต่างๆของพระราชโอรสที่เล่าเรียนจากยุโรปมานำประเทศไปสู่สากลได้อย่างเต็มตัว แต่ที่ทรงผิดหวังก็มีหลายพระองค์ที่เรียนจบมาแล้วไม่ได้สนองพระราชประสงค์อย่างที่ทรงวางแผนไว้






baron จาก von Richthofen   พุธ, 22/11/2549 เวลา : 00:20   


คำตอบที่ 253
      

คืนนี้คงต้องพอเท่านี้ก่อนครับ ต้องขอตัวไปนอนเแล้ว


พรุ่งนี้ถ้าผมทบทวนเรื่องได้กระจ่างตลอด ผมจะเล่าเอาเรื่องจดหมายส่วนตัวของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้ากับแหม่มแอนนาครูสอนภาษาอังกฤษและความรู้สมัยใหม่ที่ทรงจ้างมาให้ความรู้แก่พระราชโอรสพระราชธิดาของพระองค์

และมิชชั่นพิเศษของแหม่มแอนนาคือเป็นสายลับ 007 ของพระองค์ที่เข้าไปล้วงใส้ฝรั่งในยุคล่าอนานิคมเพื่อความอยู่รอดของสยามมาเขียนเป็นพงศาวดารกระซิบให้ฟังครับ




baron จาก von Richthofen  125.24.36.100  พุธ, 22/11/2549 เวลา : 00:21   


คำตอบที่ 254
      

" อีกหนึ่งกระทู้ประวัติศาสตร์ ได้ปรากฏ ณ ที่นี้ "





kupree จาก kupree  203.188.31.218  พุธ, 22/11/2549 เวลา : 03:22   


คำตอบที่ 255
       ขอบพระคุณท่าน อาจารย์ ทั้ง 2 อย่างสุดซึ้ง

ไม่เคยผิดหวังเลยกับความรู้ ในทุก ๆ กระทู้

ที่ อ.von Richthofen นำเสนอ

อยากจะสารภาพว่า กระผมติดตามอ่าน

ผลงานของท่าน อ. von Richthofen

อยู่เสมอ ตามโอกาสและเวลา


มาลงชื่อต่อกับ พี่ ๆ ทุกท่านว่า เอาอีกขอรับ


ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

saming



จาก saming  124.120.3.197  พฤหัสบดี, 23/11/2549 เวลา : 08:08   


คำตอบที่ 256
      

เอาแบบขำๆไปดูแก้เครียดพงศาวดาร version อ.von

รูปเขียนในพระอุโบสถพระนอน วัดโพธิ์

ใครเขียน เขียนเมื่อไหร่ ให้กูรูอธิบายแล้วกัน

คนถ่ายตั้งหน้าตั้งตากดอย่างเดียว (มันส์มือ)





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 23/11/2549 เวลา : 10:39   


คำตอบที่ 257
       ภาพประกอบสวย

บรรยายสุดยอด

มาปูเสื่อรอ ขอรับ

คารวะ

saming



saming จาก saming  124.120.3.197  พฤหัสบดี, 23/11/2549 เวลา : 11:27   


คำตอบที่ 258
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 23/11/2549 เวลา : 11:41   


คำตอบที่ 259
      

ขอต่อด้วยดอกไม้อีกหน่อยนะ





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 23/11/2549 เวลา : 13:41   


คำตอบที่ 260
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 23/11/2549 เวลา : 13:45   


คำตอบที่ 261
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 23/11/2549 เวลา : 13:46   


คำตอบที่ 262
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 23/11/2549 เวลา : 13:47   


คำตอบที่ 263
      

เจอนกด้วย





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 23/11/2549 เวลา : 13:51   


คำตอบที่ 264
      

รูปดอกไม้ชุดนี้ ถ่ายจากพระอุโบสถวัดอรุณฯ

ที่มียายป้าแก่ๆคอยห้าม อย่าเข้าไป อย่ายกของ อย่าฯฯ

สรุปว่าอย่าอะไร ทำหมด







Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 23/11/2549 เวลา : 14:34   


คำตอบที่ 265
       ถ้าใครได้อ่าน คิงแอนด์ไอ ของแหม่มแอนนา เลียวโนเวส์ แล้วจะรู้สึกว่าบางเรื่องแหม่มแอนนาเข้าขั้นตอแหลเลยทีเดียว อย่างเช่นการเผาทั้งเป็นสนมที่แอบไปมีชู้ ซึ่งกฏหมายสยามไม่ใช้วิธีนั้น หรือคิงมงกุฎทำอะไรแปลกๆจนหนังเข้ามาฉายในบ้านเราไม่ได้



ความจริงแหม่มแอนนาไม่ได้ตอแหลเหมือนที่ทุกคนรู้แต่คนตอแหลคือ มาร์กาเร็ต แรนดอน เขียนเรื่อง คิงแอนด์ไอ หลังจากแหม่มแอนนาเสียชีวิตแล้วถึงเกือบสามสิบปี



คนไทยหลายล้านคนด่าและสาปแช่งแหม่มแอนนาเมื่อได้อ่านหรือดูหนังเรื่องนี้ แต่ความจริงแหม่มแอนนาไม่ได้ตอแหลเอาเรื่องบ้าๆในราชสำนักสมัยรัชกาลที่4มาชำเราขนาดนั้น มาร์กาเร็ต แรนดอน คนที่เขียนไม่เคยเหยีบย่างบนแผ่นดินไทยด้วยซ้ำ






baron จาก von Richthofen  125.24.60.237  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:21   


คำตอบที่ 266
       เรามารู้จักแหม่มแอนนากันดีกว่าว่าเป็นใคร แอนนา แฮเรียต เลียวโนเวนส์ ม่ายสาวชาวอังกฤษเข้าสู่ราชสำนักสยามในฐานะราชการครูสอนภาษาอังกฤษในปี 2405ถึง 2410 ปีลงตัวแบบนี้จำง่าย


เดิมทีแหม่มแอนนาเปิดโรงเรียนเล็กๆในสิงคโปร์แต่ไม่รุ่งจึงตัดสินใจเข้าสยามเพื่อเป็นครูตามการประกาศหาครูเพื่อสอนให้พระราชบุตรพระราชธิดาของล้นเกล้ารัชการที่4 และอีกหน้าที่คือคัดลอกจดหมายภาษาต่างประเทศที่เขียนลายมือหวัดเป็นลายมือบรรจงเพื่อให้ทรงอ่านง่ายขึ้น และแปลภาษาฝรั่งเศส รวมถึงงานเลขานุการให้พระจอมเกล้า


หลังจากทำงานได้ 5ปีงานหนักขึ้นมากเนื่องจากมีการติดต่อจากต่างประเทศทางจดหมายเพิ่มขึ้นจนทำให้สุขภาพเริ่มเสียและแหม่มแอนนาขอขึ้นเงินเดือนแต่ได้รับการปฏิเสธจากพระจอมเกล้า แหม่มแอนนาจึงลาออกกลับไปอยู่ที่อังกฤษ

นี่คือบันทึกที่เป็นทางการ แต่เรื่องจริงคืออะไร ทำไมแหม่มแอนนาต้องกลับบ้าน หรือสายลับ 007หญิงของสมเด็จพระจอมเกล้าถูกเปิดโปงฐานะสปายโดยนายอาลาบาสเตอร์ ในเหตุการณ์ระหว่าฝรั่งเศสเข้ามายึดเขมร แล้วไทยสอดใส้ลาวไปรวมกับอีสานเพื่อให้รอดพ้นมือฝรั่งเศส เป็นเรื่องต้องค้นคว้าต่อไป






baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:23   


คำตอบที่ 267
       แหม่มแอนนามีบทบาทอะไรในราชสำนักมากว่าครูสอนภาษาอังกฤษหรือเปล่า


เรื่องนี้ แหม่มแอนนาเขียนเรื่องเกี่ยวกับสยามสองเรื่องคือ The English Governess at the Siamese Cort และ เรื่อง The Romance of Harem สองเรื่องนี้แอนนาเขียนพาดพิงโดยตรงถึงรัชกาลที่4 และบทบาทการชี้นำนโยบายบางประการให้แก่ราชสำนักสยาม



เรื่องนี้กรมพระยาดำรงราชานุภาพท่านทรงมีความเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการเขียนหนังสือของแหม่มแอนนาเอง บางครั้งอาจจะเป็นสิ่งที่นางต้องการที่จะแสดงความเห็นย้อนหลังเพราะจริงๆแล้วนางไม่ได้พูดออกมาตอนนั้น






baron จาก von Richthofen  125.24.60.237  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:25   


คำตอบที่ 268
       บางครั้งเรื่องตอแหลของแหม่มแอนนาทั้งสองเล่มตามความเห็นของหลายๆท่าน เช่นกรมพระยาดำรง มัลคอม สมิท หรือ เอ บี กริสโวลด์ ที่ต่างก็ลงมติว่าตอแหลทั้งเพ ต่างก็ปฏิเสธข้อความหนังสือทั้งเล่ม



แต่ถ้าถ้าสกัดถ้อยความออกมาบางตอนจะพบว่า เบื้องหลังความตอแหลย่อมมีมูลความจริงไม่มากก็น้อย และบางครั้งสิ่งที่ทุกคนลงมติว่าตอแหลล้วนๆจะมีส่วนจริงในเวลาต่อมาและอาจจะจริงไปครึ่งถ้ามีหลักฐานมาประกอบ หรือจริงทั้งหมดถ้ามีสิ่งมาเป็นพยานในคำพูดเหล่านั้น



จดหมายเหตุของ ลาลูแบร์ หรือวันวาลิต ในสมัยกรุงศรีอยุธยา บางเรื่องโกหก แต่เราไม่ปฏิเสธหนังสือทั้งหมดเพราะบางเรื่องเราเอามาใช้ได้ บางเรื่องเราเอาไปโยนทิ้งได้ เพราะบางครั้งมุมมองของฝรั่งไม่ถูกต้องหรือไม่เข้าใจเราอย่างถ่องแท้






baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:26   


คำตอบที่ 269
       แอนนาตอแหล หรือ ปรุงหนังสือขายเลี้ยงลูก


และเชื่อตามความเห็นของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองสมัยนั้นให้ความเห็น อาจจะต้องสะอึกได้เมื่อหลังฐาน ใหม่ๆซิ่งๆ ผุดออกมาจากหลืบที่ผู้ใหญ่ท่านนั้นต้องการทำให้ถูกลืม





baron จาก von Richthofen  125.24.60.237  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:27   


คำตอบที่ 270
       เมื่อสองปีก่อนมีการพบจดหมายที่พระจอมเกล้าเขียนถึงแหม่มแอนนา โดยจดหมายชุดนี้ส่งมาเมืองไทยโดยนายหลุย เตียวโนเวนส์ ลูกชายแหม่มแอนนาเอง


โดยมีจดหมายเป็นหลักฐานของกระทรวงมหาดไทยสมัยนั้นจากพระยาศรีสหเทพกราบบังคมทูลพระจุลจอมเกล้าถึงสำเนาจดหมายดังกล่าว คาดว่ากรมพระยาดำรงต้องเคยอ่าน เพราะพระยาศรีสหเทพได้แจ้งในหนังสือกราบบังคมทูลว่าได้ส่งให้กรมพระดำรงราชานุภาพเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยแล้ว



ต่อมาได้มีการรวมพระราชหัสถ์เลขาของรัชกาลที่4 ในปีประมาณ 2460กว่าๆ หลายครั้งแต่ไม่มีจดหมายที่ทรงเขียนถึงแหม่มแอนนาชุดดังกล่าวรวมไปด้วย ผู้ที่สั่งการรวบรวมก็คือกรมพระยาดำรง ท่านที่ให้ความเห็นว่าแหม่มเขียนหนังสือตอแหลขายเลี้ยงลูกนั่นเอง


จดหมายชุดนี้หายไปอย่าไรร่องรอยอย่างจงใจไปเกือบร้อยปี






baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:29   


คำตอบที่ 271
       จดหมายนี้เพิ่งค้นพบใหม่อีกครั้งเมื่อสองปีมานี่เอง เรามาอ่านบางตอนกันดีกว่าครับ แล้วจะรู้ว่าแหม่มตอแหลหรือเปล่า



จดหมายฉบับที่108 มีข้อความว่า " ปัจฉิมลิขิตส่วนตัวอย่างยิ่ง... อย่างที่ฉันเคยพูดไว้ในการคุยเรื่องการเมืองครั้งก่อน "

แสดงว่าทรงต้องเคยพูดเรื่องการเมืองกับแหม่มแอนนากันมาแล้ว ใครบอกว่าพระองค์ไม่เคยคุยการเมืองกับแหม่มก็หน้าแตก


คำภาษาอังกฤษที่พระองค์ท่านเขียนมีดังนี้ครับ
As I shall state to you already in previous political conversation , held in our anti-chamber in grand royal palace วรรคสุดท้านหลัง คอมม่า ของแถม ผมขอไม่แปลครับ ใครอ่านได้อ่านเอาเอง





baron จาก von Richthofen  125.24.60.237  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:33   


คำตอบที่ 272
       จดหมายฉบับนี้ทรงลงชื่อว่า

" ฉันขอคงไว้ซึ่งความเป็นเพื่อนที่มีความน่าเชื่อถือและมีความปราถนาดีต่อเธอเสมอคุณผู้หญิง

ลงชื่อ เอส พี พี มหามงกุฏ อาร์ เอส

ผู้เขียนจดหมายฉบับนี้ขอฝากความเชื่อมั่นของเขาไว้กับเธอเสมอ "

ผมว่าเอาแบบดิบๆดีกว่านะครับ
I beg to remain Maam! Your faithful friend and well wisher

(sign) S. P.P. Maha Mongkut R.S

The writer herof shell place his confidence on you always.






baron จาก von Richthofen  125.24.60.237  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:35   


คำตอบที่ 273
       The writer herof shell place all of his life on you always





baron จาก von Richthofen  125.24.60.237  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:38   


คำตอบที่ 274
       I beg to remain Maam! Your faithful and well wisher. The writer herof beg to place his confidence on you always.





baron จาก von Richthofen  125.24.60.237  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:40   


คำตอบที่ 275
       ผมหวังว่าจดหมายที่หายไปร้อยกว่าปีนี้คงจะช่วยอุทรณ์ข้อหาตอแหลที่แหม่มแอนนาโดนมาหลายสิบปีได้บ้างนะครับ

เพื่อป้องกันตัวไม่ให้ผมโดนข้อหาตอแหลเสียเอง ผมของลงเลขที่จดหมายที่พระยาศรีสหเทพส่งหนังสือชุดนี้ถวายพระจุลจอมเกล้าดังนี้

๓๓๔/๑๓๑๖๓ ลงวันที่ ๑๕มีนาคม รศ.๑๒๗ (พศ2452)


สำเนาจดหมายชุดนี้เก็บไว้ที่กองจดหมายเหตุแห่งชาติประทับตรารับรองสมบูรณ์ สำเนาแปลโดย กฤษณา พรพิบูลย์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์






baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:43   


คำตอบที่ 276
       และจดหมายฉบับที่ 3 เลขที่ 80 มีข้อความตอนหนึ่งว่าว่า " ฉันจะคุยกับเธอเรื่องที่เราคุยกันในตอนที่เรากลับไปยังบางกอก แต่อย่างเป็นความลับ " I wil hold discussion with you on said matter on our return to bangkok , but secretly



ทรงคุยอะไรกับแหม่มไม่มีใครรู้ และทำไมต้องคุยอย่างเป็นความลับ ช่วงนั้นเริ่มมีการล็อบบี้ต่างชาติเกี่ยวกับความอยู่รอดของสยามแล้วสายลับ 007 ของพระจอมเกล้าคงต้องทำงานหนักมาก

แต่ที่แน่ๆว่าใครว่าแหม่มตอแหลน่าจะสำลักน้ำลายตัวเองได้แล้ว






baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:46   


คำตอบที่ 277
       ก่อนจบคืนนี้ผมของลงตอนจบของจดหมายฉบับที่106 ถึงความสุภาพ นุ่มนวล ของการใช้ภาษาของพระจอมเกล้ารัชกาลที่4 ที่ส่งถึงแหม่มแอนนามาเมื่อกว่าร้อยปีก่อน


ขอคงเป็นผู้สัตย์ซื่อและปรารถนาดียิ่งของเธอเสมอ

ลงนาม ส.พ.ป. มหามงกุฏ พระเจ้ากรุงสยาม วันที5444แห่งรัชกาล

ฉันผู้เขียนจดหมายนี้ขอฝากความไว้เนื้อเชื่อใจแก่เธอเป็นนิจ

สำนวนดิบคือ

I beg to remain Maam! Your faithful and well wisher

(sign) S.P.P. Maha MongKut R.S on 5444th day of reigh

The writer herof beg to place his confidence on you always






baron จาก von Richthofen  125.24.60.237  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:53   


คำตอบที่ 278
       รูปชุดวัดอรุณนี้ผมเกือบจะไม่ได้อธิบายภาพเลยนอกจากประวัติวัดเมื่อหลายวันก่อน

เนื่องจากผมขอทำ อริยะขัดขืน ต่อผู้บริหารวัดที่เอาสมบัติของชาติมาทำเละเทะแบบนี้





baron จาก von Richthofen  125.24.60.237  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:55   


คำตอบที่ 279
       มุมสุดท้ายก่อนเดินออกนอกเขตพระปรางค์ สวยมากถ้าดูจากระยะไกล





baron จาก von Richthofen  125.24.60.237  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:57   


คำตอบที่ 280
       ยักษ์วัดแจ้งตำนานที่ยังคงอยู่ทุกวันนี้ รูปสุดท้ายก่อนขึ้นเรือไปอีกฟากแม่น้ำ





baron จาก von Richthofen  125.24.60.237  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 01:59   


คำตอบที่ 281
       คืนนี้คงต้องพอก่อน ขอไปนอนฝันดีแล้วครับ พรุ่งนี้เป็นรูปวัดโพธิ์พร้อมประวัติเหมือนเดิมครับ

The writer herof shell place his confidence on you always.



baron จาก von Richthofen   ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 02:00   


คำตอบที่ 282
      



kupree จาก kupree  203.114.96.158  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 02:20   


คำตอบที่ 283
       ผมกำลังตัดสินใจเขียนเรื่องแหม่มแอนนาในเชิงลึกในปฎิบัติการเป็นสปายให้สยามต่อหรือจะเปลี่ยนเรื่องดี เพราะบางครั้งผมก็หวิวๆหนาวหลังวูบวาบเกินไปที่จะค้นหลักฐานประกอบเพื่อยืนยันเกร็ดประวัติศาสตร์อันนี้


เพื่อนๆว่าอย่างไรกันครับจะเอาหรือผ่านไปเรื่องอื่นเลย เพราะผมคาดว่าจะจบกระทู้นี้แบบสมบูรณ์ในอีกไม่เกินสามวันนี้หลังจากรูปชุดวัดโพธิ์ถูกลงหมดแล้ว



baron จาก von Richthofen  125.24.45.7  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 10:51   


คำตอบที่ 284
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 10:53   


คำตอบที่ 285
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 10:54   


คำตอบที่ 286
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 10:54   


คำตอบที่ 287
       มาปูเสื่อรอครับ



praphin จาก Tik  203.146.148.133  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 12:05   


คำตอบที่ 288
       เข้าคิวรอขอรับ




saming จาก saming  124.120.2.114  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 13:10   


คำตอบที่ 289
      

พงศาวดารฉบับอ.vonน่ะฉิวเฉียดมากๆ

ยังไม่อยากไปส่งข้าวผัดกะโอเลี้ยง

ฉะนั้นใครอยากฟัง กรุณาตามไปห้วยคอกหมูติดๆ

ไปล้อมวงสนทนาน่าจะอบอุ่นกว่า

9-10-11 ธันวา






Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 15:00   


คำตอบที่ 290
      

ฝีมือบรรพบุรุษเรางดงามนัก



เสียดายที่รุ่นลูก รุ่นหลาน ไม่รู้จักรักษาไว้





Ruj จาก Ruj   ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 15:29   


คำตอบที่ 291
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 15:29   


คำตอบที่ 292
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 15:31   


คำตอบที่ 293
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 15:32   


คำตอบที่ 294
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 15:35   


คำตอบที่ 295
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 15:36   


คำตอบที่ 296
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 15:37   


คำตอบที่ 297
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 15:37   


คำตอบที่ 298
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 16:11   


คำตอบที่ 299
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 16:11   


คำตอบที่ 300
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 16:16   


คำตอบที่ 301
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 16:18   


คำตอบที่ 302
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 16:19   


คำตอบที่ 303
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 16:20   


คำตอบที่ 304
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 16:21   


คำตอบที่ 305
       สวยทุกภาพเลยครับผม



จาก saming  124.120.2.114  ศุกร์, 24/11/2549 เวลา : 17:14   


คำตอบที่ 306
       พลาดพงศาวดารฉบับกระซิบไปเพราะคอมอึดมากๆทั้งๆที่เปิดอ่านในวันแรกๆซึ่งมี 4 หน้าเอง มาดูอีกทีเป็น 11 หน้าแล้ว ผมเป็นคนที่ชอบประวัติศาสตร์เหมือนกันและไม่ซีเรียดกับข้อมูลใหม่ที่แตกต่างจากปัจจุบัน ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเลย ยอดเยี่ยมมากทั้งเรื่องและภาพแต่ก็ยังอยากรู้เรื่องพงศาวดารฉบับกระซิบที่ลบไปจะไปฟังที่ห้วยคอกหมูก็ยังตัดสินใจไม่ได้เพราะว่าลูกติดเรียนพิเศษและภริยาติดเข้าเวรจะหนีไปคนเดียวก็ดูจะกระไรอยู่ ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไปขอความกรุณา อ.วอน ส่งทางอีเมลได้หรือเปล่าครับ นึกว่าเห็นใจคนเคยพลาดหวังจากคณะโบราณคดีเมื่อประมาณ 30 ปีก่อนก็แล้วกันนะครับ
อีเมลของผม sor555@ego.co.th



จาก earthwind  58.137.23.190  อังคาร, 28/11/2549 เวลา : 11:39   


คำตอบที่ 307
       กระซิบแล้วเสียงจะจากไปกับสายลมครับ คุณ earthwind ลบแล้วลบเลย ไม่มีสำเนาเหลือ

ต้นฉบับเรื่อง "พุทธศิลป์ ยุคอาร์เคอิค-คลาสสิก ในอินเดียนและสยาม" ที่ผมเคยเขียนไว้นานแล้ว ถึงวันนี้ผมยังไม่มีแม้แต่สำเนาสักเล่ม อยากจะสำเนายังต้องไปขอน้องๆที่สะสมไว้ทำสำเนาเลยครับ



baron จาก von Richthofen   พุธ, 29/11/2549 เวลา : 00:42   


คำตอบที่ 308
      

ข้ามท่าเตียนมาวัดโพธิ์

สถานที่ที่คนหลายรุ่นคนนับร้อยปีใช้เป็นเส้นทางสัญจร สถานที่ที่ลาลูแบร์เคยเขียนบันทึกไว้ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยายังไม่ล่ม สถานที่ที่เคยเป็นจุดรวมสินค้าในสมัยกรุงรัตนโกสินตอนต้น แม้แต่ท่าเรือสินค้าขนส่งในยุคที่เรือเขียวเรือแดงยังวิ่งแทนรถในสมัยที่ถนนหลวงยังไม่เกิด

และยังเป็นมหาวิทยาลัยของประชาชนในสมัยโบราณแห่งแรกอีกด้วย ตามผมมาดูอดีตที่จารึกผ่านกาลเวลากันครับ





baron จาก von Richthofen  125.24.36.255  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 01:22   


คำตอบที่ 309
       วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกและเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรี เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาวัดโพธารามวัดเก่าที่เมืองบางกอกครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดหลวงข้างพระบรมมหาราชวัง

มีหลักฐานปรากฏในศิลาจารึกไว้ว่า หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสถาปนาพระบรมมหาราชวังแล้ว ทรงพระราชดำริว่า มีวัดเก่าขนาบพระบรมมหาราชวัง ๒ วัด ด้านเหนือ คือ วัดสลัก ด้านใต้คือ วัดโพธาราม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขุนนางเจ้าทรงกรม ช่างสิบหมู่อำนวยการบูรณะปฏิสังขรณ์ในครั้งสร้างพระนคร





baron จาก von Richthofen  125.24.36.255  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 01:25   


คำตอบที่ 310
       ครั้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ ขยายเขตพระอารามด้านใต้และตะวันตกคือ ส่วนที่เป็นพระวิหารพระพุทธไสยาสสวนมิสกวัน สถาปนาขึ้นใหม่ พระมณฑป ศาลาการเปรียญ

เกร็ดประวัติศาสตร์ของการสถาปนาและการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดโพธิ์แห่งนี้ บันทึกไว้ว่า รัชกาลที่ ๑ และที่ ๓ ขุนนาง เจ้าทรงกรมช่างสิบหมู่ ได้ระดมช่างในราชสำนัก ช่างวังหลวง ช่างวังหน้า และช่างพระสงฆ์ที่อยู่ในวัดต่างๆ ผู้เชี่ยวชาญงานศิลปกรรมสาขาต่างๆ ได้ทุ่มเทผลงานสร้างสรรค์พุทธสถานและสรรพสิ่งที่ประดับอยู่ในวัดพระอารามหลวงด้วยพลังศรัทธาตามพระราชประสงค์ของพระองค์ท่านที่ให้เป็นแหล่งรวมสรรพศิลป์ สรรพศาสตร์ เปรียบเป็นมหาวิทยาลัยแห่งสรรพวิชาไทย





baron จาก von Richthofen  125.24.36.255  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 01:28   


คำตอบที่ 311
       เป็นที่สงสัยว่าใครสร้างพระนอนวัดโพธิ์เพราะไม่มีการบันทึกอย่างแน่นอนแม้จะเพียงแค่สองร้อยกว่าปีนี่เองแปลกมาก


กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ท่านได้ทรงพรรณนาถึงแม่กองในการปฏิสังขรณ์ครั้งรัชกาลที่ ๓ ไว้ดังต่อไปนี้


“ จักนิพนธ์พยรเพ่อมสาร เสนอแม่การแม่กอง ท้งงผองเพื่อพึงรู้ ทกผู้
ขัติยพงษ์ องค์กรมไกรสรวิชิต ดูกิจการงานสรับ สองกับกรมมาตยา กรมวงษา
นามยศ องค์มรกฏชุมแสง องค์กลางแสดงโดยกิจ ดูพิหารทิศท้งงสี่ ที่อุโบสถ
บริเวณ กรมอำมเรนทร์รงงสฤษดิ์ กิจเจดีย์ตรีสถาน การหอตรยกุฏา ซุ้มทวารา
ท้งงหลาย องค์ชุมสายรงงรักษ์ กรมศรีพนักงานที่ วิหารสี่ห้องสองหลงง
เรือนระฆงงการบุรยน ช้นนพาหยรเขตรขอบ รบยงรอบสี่ทิศ กิจอุภยสุริยวงษ์
องค์งอนรถโกเมน เกณฑ์การท่ววท้งงมวญ เก๋งสระสวนสองสถาน งานสฤษดิ์
องค์อรรณพ จบจุลเจดีย์ล้อม ห้อมพระรบยงรยงไสว องค์อุไรรงงสรรค์ องค์
ลดาวลยปนนงาน วิหารพระพุทธไสยาศน์



ตามพระนิพนธ์นี้ปรากฏว่า พระองค์เจ้าลดาวัลย์ได้ทรงเป็นแม่กองในการสร้าง พระวิหารพระพุทธไสยาส และคงจะตลอดถึงพระพุทธไสยาศน์นั้นด้วย ส่วนช่างที่ปั้นพระพุทธไสยาศน์ น่าจะเป็นฝีพระหัตถ์พระองค์เจ้าลดาวัลย์ ซึ่งต่อมาได้ดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นภูมินทรภักดีนั้นก็อาจเป็นได้ พระองค์ท่านคงจะทรงชำนิชำนาญในกระบวนช่างอยู่ด้วย และในข้อนี้มีพยานปรากฏว่าในชั้นหลังครั้งรัชกาลที่ ๔ จึงโปรดฯ ให้ท่านทรงกำกับกรมช่างสิบหมู่อยู่ตลอดจนสิ้นพระชนมายุ ในรัชกาลที่ ๕


บางครั้งการที่ไม่รู้ต้องใช้วิธีการอนุมาณแบบ เชอเล็อกโฮม แบบนี้แหละครับถึงจะอ่านประวัติศาสตร์แบบไม่ให้ง่วงนอน






baron จาก von Richthofen  125.24.36.255  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 01:40   


คำตอบที่ 312
       ช่างหลวงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ฝีมีเทวดานฤมิตรไม่แพ้ช่างหลวงเมื่อครั้งกรุศรีอยุธยายังไม่ล่มลง หรือแม้แต่พุทธศิลป์สุดยอดยุคคลาสสิกของสุโขทัย

ภาพทุกภาพของผมจะไม่มีการแต่งภาพแต่อย่างไร ทุกภาพคือธรรมชาติแท้ๆเท่าที่กล้องจะเก็บได้ทั้งแสงและสี





baron จาก von Richthofen   พุธ, 29/11/2549 เวลา : 01:44   


คำตอบที่ 313
       ผมอยากจะให้ดูให้เต็มอิ่มกับพระพุทธรูประดับ มาสเตอร์พีช ของฝีมือช่างกรุงรัตนโกสินทร์

ในประเทศไทยมีพระพุทธรูปไม่กี่องค์ที่ผมแนะนำให้ผู้รักพุทธศิลป์ได้ศึกษาฝีมือช่างแต่ละยุค พระนอนวัดโพธิ์เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นสำหรับฝีมือยุคใหม่


พระใหม่ของผมคืออายุเกือบสองร้อยปีครับ





baron จาก von Richthofen  125.24.36.255  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 01:49   


คำตอบที่ 314
       พระบาทที่เป็นงานมุกที่สุดๆงานหนึ่ง มองดูอุปเท่ห์ทางศาสนาที่แผงในลายของงานมุกที่พระบาทท่านแล้วได้อะไรเพิ่มขึ้นในจิตใจที่ละเมียดบ้างครับ





baron จาก von Richthofen   พุธ, 29/11/2549 เวลา : 01:52   


คำตอบที่ 315
       ผมขอไม่เอาประวัติศาสตร์มาแทรกให้ความงามของพระพุทธรูปองค์นี้ให้สียไป ของยกยอดการเล่าพงศาวดารไปจนกว่ารูปของท่านจะหมดครับ





baron จาก von Richthofen  125.24.36.255  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 01:55   


คำตอบที่ 316
       ช่างฝีมือของสยามสมัยนั้นยังเหลือช่างอยุธยาที่หนีพม่ากุดหัวยังมีชีวิตอยู่อยู่นะครับ แต่คงแก่เป็นครูช่างหมดแล้ว

ผมว่าที่แหละประกาศว่าช่างรัตนโกสินทร์ไม่แพ้ฝีมือช่างกรุงศรีอยุธยา





baron จาก von Richthofen  125.24.36.255  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 02:01   


คำตอบที่ 317
       รูปสุดท้ายของคืนนี้ ผมรู้สึกอิ่มกับความงามของฝีมือช่างหลวงแท้ๆจนไม่อยากทำอะไรต่อแล้วครับ





baron จาก von Richthofen   พุธ, 29/11/2549 เวลา : 02:04   


คำตอบที่ 318
       ขออนุญาตหยุดเท่ารูปพระจะมีอยู่ พรุ่งนี้ให้ผมคิดดูก่อนว่าจะเล่าเรื่องอะไรที่จะเข้ากับวัดโพธิ์ท่าเตียน คืนนี้ต้องพอเท่านี้

ผมจะเล่าว่าฝรั่งเศสเอาเรือรบมาจอดตรงนี้จะถล่มเมืองทิ้งแลกกับเงินสามล้านบาทคงไม่เข้ากับรูปสวยๆของวัดโพธิ์เท่าไร

โจทย์ยากมากที่จะหาเรื่องมาเล่ากับรูปสวยขาดใจของวัดนี้



baron จาก von Richthofen  125.24.36.255  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 02:10   


คำตอบที่ 319
      

" ( ภาพ ) งดงาม



ลึกล้ำ ( คำบรรยาย )



ประทับใจ ( ทั้งภาพเเละคำบรรยาย )




จาก Kupree  203.188.7.37  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 04:22   


คำตอบที่ 320
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 08:39   


คำตอบที่ 321
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 08:39   


คำตอบที่ 322
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 08:42   


คำตอบที่ 323
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 08:42   


คำตอบที่ 324
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 08:43   


คำตอบที่ 325
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 08:43   


คำตอบที่ 326
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 08:44   


คำตอบที่ 327
      

อ.von ข้ามฝั่งไปวัดโพธิ์แล้ว ยังไม่ทันพาชมสวนดอกไม้วัดอรุณฯหมดเลย

งั้นเอาฝีมือกล้องBoxตัวเล็กไปดูมั่ง อยากโชว์ๆ รูปทั้งหมดไม่ได้มีการปรับสี-แสงแม้นิด ชื่อที่เคยพิมพ์ก็ยังไม่กล้า ไม่อยากให้องค์ท่ามัวหมอง





Ruj จาก Ruj   พุธ, 29/11/2549 เวลา : 08:47   


คำตอบที่ 328
      



จาก earthwind  58.137.23.190  พุธ, 29/11/2549 เวลา : 14:21   


คำตอบที่ 329
       ยังตีโจทย์ไม่แตกหรือครับ อ.วอน รออ่านอยู่ครับ



จาก earthwind  58.137.23.190  พฤหัสบดี, 30/11/2549 เวลา : 10:36   


คำตอบที่ 330
      



จาก earthwind  202.57.168.206  เสาร์, 2/12/2549 เวลา : 06:10   


คำตอบที่ 331
      



จาก earthwind  202.57.168.206  เสาร์, 2/12/2549 เวลา : 06:10   


คำตอบที่ 332
       มีหลายท่านอยากจะให้ผมเล่าเนื้อความเรื่องในจดหมายส่วนตัวพระจอมเกล้ากับแหม่มแอนนาต่อ แต่หลายท่านบอกว่าอยากรู้แต่อย่าเล่าเลยครับพี่ ผมไม่อยากหิ้วโอเลี้ยงไปเยี่ยม แค่ที่พี่เล่าผมก็หนาวแทนพี่แล้ว


เอาเป็นว่าผมจะสรุปโดยย่อก็แล้วกัน จะได้จบตอนแหม่มแอนนาไปอย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องลงรายละเอียดมากนัก


ผมตัดสินใจว่าจะจบกระทู้นี้ด้วยเรื่องมหามงคลของตำนานพระแก้วมรกตฉบับนักวิชาการ ไม่ใช่เรื่องปฎิหารทุกบรรทัดเหมือนในหนังสือ ชินกาลมาลีปกรณ์ เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟัง เป็นการศึกษาแบบมีระบบตามหลักการโบราณคดีสมัยใหม่โดยเว้นเรื่องปฎิหารไปทั้งหมด






baron จาก von Richthofen   อาทิตย์, 3/12/2549 เวลา : 10:38   


คำตอบที่ 333
       เป็นที่รู้กันว่าพระจอมเกล้าทรงจ้างแหม่มแอนนามาเป็ครูสอนภาษาและวัฒนธรรมของตะวันตกให้แก่พระราชโอรสและพระราชธิดาของพระจอมเกล้า แม้แต่พระจุลจอมเกล้าก็ยังทรงได้รับความรู้เบื้อต้นจากแหม่มแอนนาซึ่งทรงเข้าใจตะวันตกได้อย่างไม่ยากนักในรัชสมัยของพระองค์ต่อมา


แต่หลังจากที่พระจอมเกล้าได้ทรงเห็นหน่วยก้านของแหม่มแล้วทรงได้ไว้วางพระราชหฤทัยให้เป็นเลขาส่วนตัวช่วยงานเอกสารด้วยในเวลาต่อมา และอีกเรื่องที่ทรงใช้แหม่มก็คือเรื่องเป็นสายลับของพระองค์ที่ได้ทรงเอาประเทศชาติอยู่รอดในกระแสล่าเมื่องขึ้นของยุโรป


การกระทำบางอย่างของแหม่มแอนนาในสมัยนั้นถูกวิจารณ์ว่า ซุกซน และ จุ้นจ้าน จนเกินงามหญิงในสมัยวิคตอเรียผิดวิสัยครูในการเข้านอกออกในวังหลวง แต่ความ ซุกซน จุ้นจ้าน นี้เองที่ทรงบรรยายสาเหตุไว้ในจดหมายส่วนตัวระหว่าพระองค์กับแหม่มแอนนาค่อนข้างจะเห็นภาพได้กระจ่างพอสมควร ว่างานบางงานที่พระเจ้าอยู่หัวทำไม่ได้จะทรงใช้ให้แหม่มแอนนาทำแทน


การเข้าประสานกำลังด้านการเมืองของขั้วอำนาจสมัยนั้นโดยมี กงศุลอังกฤษเซอร์โทมัส น็อก กงศุลฝรั่งเศส นายโอบาเรต์ และพระสหายเก่าผู้มีอำนาจฝั่งอังกฤษเซอร์จอนห์ เบาริ่ง รวมถึงฝ่ายไทยเจ้าพระยาศรีสุริยวงค์ที่ทรงเกรงพระทัย แม้กระทั่งล็อบบี้ข่าวกับหมอบัดเลย์นักหนังสือพิมพ์สมัยนั้น







baron จาก von Richthofen  125.24.40.123  อาทิตย์, 3/12/2549 เวลา : 10:39   


คำตอบที่ 334
       ข้อความบางข้อความในจดหมายได้แสดงให้เห็นถึงเรื่องที่ทรงใช้เป็นอย่างดีเช่น จดหมายฉบับที่ 90และ 96

ท่านเจ้าคุณรู้สึกขอบใจเธอมากที่ได้ช่วยเหลืออย่างดีเกี่ยวกัยเรื่องของมิสเตอร์น็อก
His exellency was thankfull to you for your good help with Mr.nox.
อีกฉบับ
จนกระทั่งเซอร์จอนห์เข้ามาไกล่เกลี่ยโดยดีตามที่เธอช่วยวิ่งเต้นเป็นการส่วนตัวได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว
Until Sir John's good intervention owing to your assistance, privily,has been settled.


ฉากจุ้นจ้านต่อปากต่อคำของแหม่มแอนนากับนายจ้างในหนังชักเริ่มส่อเค้าว่าอาจจะมีจริง แม้จะไม่ใช่เว่อร์สุดๆแบบในหนัง แต่ก็ต้องมีบ้างกับผู้หญิงเฮี้ยวๆแบบนี้ ถ้าทรงเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ใช้ได้สาระพัดก็ต้องยอมอ่อนให้บ้างเพราะการเอาประเทศให้รอดทรงต้องใช้ทุกวิธี


ขณะนั้นฝรังเศสเอาเรือปืน มิตราย เข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยาเทียบท่าเปิดประตูปืนข้างเรือพร้อมยิงได้ทุกเวลาที่ผิดวิสัยของการทูตที่ดีเหมือนข่มขู่ พระองค์ทรงใช้ปัญญาเหนืออารมย์เอาประเทศชาติรอดมาได้






baron จาก von Richthofen  125.24.40.123  อาทิตย์, 3/12/2549 เวลา : 10:41   


คำตอบที่ 335
       เป้าหมายของการเอาเรือปืนมาข่มขู่ไทยเพราะฝรั่งเศสต้องแก้สนธิสัญญาในดินเขมรและผนวกลาวเข้ากับสัญญาด้วยเพราะเป็าหมายต่อไปคือจีนตอนใต้ ซึ่งพระองค์ทรงอ่านเกมส์ออกว่าอังกฤษที่ยึดจีนใต้ก็คงไม่ยอมฝรั่งเศสเหมือนกัน ซึ่งพระจอมเกล้าได้ทรงขอความช่วยเหลือไปทางกงศุลน็อกซ์ฝั่งอังกฤษ แต่ความเคลื่อนไหวของอังกฤษนั้นย่อมไม่อยากจะเสี่ยงกับฝรั่งเศสมากนัก ได้ให้คำแนะนำว่าอย่าทรงยินยอมในการแก้สัญญาใดๆและให้ทรงนิ่งที่สุดกับปัญหานี้


ถ้าทรงนิ่งต้องมีคนเคลื่อนไหวแทน จะพึ่งเสนาบดีเก่าตระกูลบุญนากก็ไม่ทันฝรั่ง จะพึ่งพระปิ่นเกล้าพระราชวังบวรก็ยังมีคดีเหม็นหน้ากันอยู่ เหลือแต่แหม่มแอนนาเท่านั้นที่ทรงใช้ได้แบบสนิดใจว่าแหม่มไม่แทงข้างหลังพระองค์แน่ๆ


ฝรั่งเศสบีบไทยให้นำเข้าเหล้าจากฝรั่งเศส พระองค์ก็ทรงดำเนินการทางลับจนจบเรื่อง แต่เหยี่ยวข่าวจมูกไวแบบ หมอบัดเลย์ยังคุ้ยข่าวขึ้นมาได้และตีพิมพ์ความตอนหนึ่งว่าว่า "และที่ขาดไม่ได้คือแหม่มแอนนา เลขานุกการส่วนพระองค์ที่ได้วิ่งเต้นเรื่องช่วยเหลือนี้เป็นการส่วนตัว"






baron จาก von Richthofen   อาทิตย์, 3/12/2549 เวลา : 10:42   


คำตอบที่ 336
       ใช่ว่าแหม่มแอนนาจะมีความสุขกับงาน แหม่มขอขึ้นเงินเดือนตามที่พระจอมเกล้าทรงออกพระโอษฐ์ไว้ก็ยังไม่ได้ขึ้น ทั้งบางเรื่องที่ได้เกิดเรื่องขัดแย้งในทางส่วนตัวก็มากขึ้นทุกวัน ทั้งงานหลวง งานส่วนตัว แม้แต่แนวความคิดก็เริ่มไม่ตรงกันสักเท่าไร เรื่องบ่นของแหม่มได้บันทึกไว้ในหนังสือ The English governess at Siamese court ที่แหม่มแอนนาเขียนเอง


เนื้อความของหนังสือตอนนี้ผมไม่กล้าเอามาลง เนื่องจากเอาลงเมื่อไรคงต้องไปนอนตบยุงกินเข้าผัดกับโอเลี้ยงแน่ เฉี่ยวฉิวมากๆ บางตอนได้วิจารณ์พระจอมเกล้าเหมือนเพื่อนสนิทมากกว่าเจ้านาย ทั้งโมโหทั้งเง้างอน ทั้งต่อว่าตามประสาผู้หญิง เอาเป็นว่าถ้ามีความสามารถหามาอ่านได้ก็ลองอ่านเอาเอง เพราะสำนวนภาษาอังกฤษของแหม่แฝงนัยยะทางการเมืองและความคิดส่วนตัวที่มีแรงกดดันไว้ค่อนข้างจะมากพอสมควร


บทบาทของ ครูแอนนา เลขาแอนนา ผู้นำสาร นักเจรา นักต่อรอง และสายลับ007 ของพระจอมเกล้าได้ปิดฉากลงในปี 2410 โดยแหม่มไม่ย้อนกลับมาสยามอีกเลย





baron จาก von Richthofen   อาทิตย์, 3/12/2549 เวลา : 10:43   


คำตอบที่ 337
       เรื่องอะไร และทำไม ผู้สนใจประวัติศาสตร์แบบผมยังต้องค้นหากันต่อไป ข้ออ้างของแหม่มแอนนาที่แจ้งต่อคนอื่นคือ สุขภาพไม่ดีเพราะต้องทำงานในวังจนดึกดื่น เงินเดือนไม่ขึ้น มีปัญหาเรื่องความปลอดภัย และเหนื่อยมากเพราะโดนใช้งานหนัก

แต่ที่แหม่มได้มีจดหายถึงหมอบัดเลย์สหายนักหนังสือพิมพ์ในประเทศสยามว่า "คำว่าสยามเป็นคำที่น่าขยะแขยงที่สุดเท่าที่ข้าพเจ้าได้เคยเขียนถึงหรือกล่าวถึง" น่าจะเป็นนัยยะบางอย่างที่การเมืองที่ร้อนแรงในสมัยนั้นได้เล่นงานจนแหม่มแอนนาอยู่ในสยามไม่ได้


ผลงานที่เข้าตากรรมการของการล็อบบี้ต่างชาติคือการยัดใส้ลาวทั้งประเทศเข้ารวมกับภาคอีสานของสยามเพื่อให้รอดจากการฮุบเอาเขมรซึ่งหน้าของฝรั่งเศสที่ต้องรวมเอาลาวไปด้วยเพราะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน สนธิสัญญาฉบับนั้นนายโอบาเรต์กงศุลฝรั่งเศสแทบกระอักโลหิตตายเพราะเสียรู้สยาม โดยมีเซอร์จอนห์เบาริ่งฝ่ายอังกฤษและสายลับแอนนาเป็นตัวประสานหนุนหลังให้สยามสอดใส้สัญญาดังกล่าว


ความเข้าใจส่วนตัวของผมเองเรื่องที่แหม่มแอนนาต้องกระเด็นออกจากสยามไปน่าจะเป็นที่แหม่มแอนนาโดนเปิดโปงจากสหายอเมริกัน หมอบัดเลย์ นักหนังสือพิมพ์ฝรั่งในสยาม เกี่ยวกับบทบาทของสายลับและล็อบบี้ยิส ที่แหม่มได้ทำเพื่อประเทศไทยตามการที่พระจอมเกล้าวางไว้มากกว่า พอความแตกว่าตัวเองเสียท่าผู้หญิงอังกฤษและฝรั่งเศสน่าจะรุมทึ้งจนแหม่มแอนนาอยู่ในสยามอีกต่อไปไม่ได้ นี่เป็นความเห็นของผมเองที่เอาเพะชนแกะตามมูลเหตุการเมืองสมัยนั้น ห้ามนำไปอ้างอิงเพราะผมยังหาหลักฐานมาอ้างอิงแบบเจ๋งๆไม่ได้ว่าแหม่มแอนนาได้เป็นอย่างที่ผมได้อนุมาณไว้จริง



ผมขอจบด้วยคำลงท้ายจดหมายส่วนตัวของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าโต้ตอบกับแหม่มแอนนาที่ผมประทับใจในพระปรีชาด้านภาษาต่างประเทศอีกครั้งครับ


" ฉันขอคงไว้ซึ่งความเป็นเพื่อนที่มีความน่าเชื่อถือและมีความปราถนาดีต่อเธอเสมอคุณผู้หญิง

ลงชื่อ เอส พี พี มหามงกุฏ อาร์ เอส

ผู้เขียนจดหมายฉบับนี้ขอฝากความเชื่อมั่นของเขาไว้กับเธอเสมอ "


I beg to remain Maam! Your faithful friend and well wisher

(sign) S. P.P. Maha Mongkut R.S

The writer herof shell place his confidence on you always.








baron จาก von Richthofen   อาทิตย์, 3/12/2549 เวลา : 10:47   


คำตอบที่ 338
       ผมขอพอเท่านี้ก่อนเนื่องจากมีภาระกิจ ถ้าว่างจะมาต่อประวัติพระแก้วมรกตฉบับวิชาการเชิงลึกของปัจจุบัน ไม่มีปฎิหารหรือพระอินทร์เหาะไปเหาะมาในหนังสือ ชินกาลมาลีปกรณ์ มาเกี่ยวข้องครับ



baron จาก von Richthofen  125.24.40.123  อาทิตย์, 3/12/2549 เวลา : 10:53   


คำตอบที่ 339
      



จาก kondin  124.120.60.35  อาทิตย์, 3/12/2549 เวลา : 22:35   


คำตอบที่ 340
      



a_anan จาก a_pct195  124.121.48.8  อังคาร, 5/12/2549 เวลา : 15:30   


คำตอบที่ 341
      

งดงามทั้งภาษา เเละชั้นเชิงการเขียน



kupree จาก kupree  203.188.19.152  อังคาร, 5/12/2549 เวลา : 16:01   


คำตอบที่ 342
       ได้ทราบเรื่องราวต่าง ๆ ที่ยังไม่รู้ เยอะเลยขอรับ



Rin จาก Rin  203.113.40.73  อังคาร, 5/12/2549 เวลา : 18:03   


คำตอบที่ 343
       ผู้ใดครองพระแก้ว ผู้นั้นคือเจ้าผู้ครองพื้นพิภพ คำโบราณประโยคนี้เป็นจริงเท่าไร ลองอ่านเรื่องสุดท้ายของผมดูแล้ว พิจรณาเอาเองว่าคนโบราณพูดจริงไหม สำหรับผมเชื่อสนิดใจและไม่สงสัยในบารมีของพระแก้วมรกต


ผมเองเคยกราบพระแก้วสวดมนต์ให้ใจสบาย แล้วเล่าอะไรต่อมิอะไรในใจให้พระแก้วมรกตได้รับรู้ความทุกข์ความสุขของผม เหมือนเด็กเข้าไปกราบเล่าเรื่องให้ผู้ใหญ่ที่นับถือฟังถึงปัญหาชีวิต พอเล่าเสร็จแล้วก็สบายใจที่ทุกข์เหลือก็หายไปในเวลาไม่กี่วันด้วยบารมีท่าน






baron จาก von Richthofen   พฤหัสบดี, 7/12/2549 เวลา : 13:05   


คำตอบที่ 344
       พระแก้วมรกตถูกแต่งเป็นตำนานโดยหนังสือ ชินกาลมาลีปกรณ์ ราวปี 2060-2071 โดยพระรัตนปัญญาเถระแห่งเชียงใหม่ คาดว่าน่าจะเป็นเวลาหลังจากสร้างพระแก้วมรกตมาแล้วกว่าร้อยปี ยุคนั้นเชียงใหม่ได้เสื่อมอำนาจในเขตลานนาไปมากแล้ว ในยุคนั้นมีการบำรุงพระศาสนาครั้งสุดท้ายของเชียงใหม่คือหล่อพระเจ้าเก้าตื้อ


แนวที่ผมจะเล่าให้ฟังนี้เป็นแนวการเมืองและอำนาจของการเมืองสมัยโบราณที่มีพระแก้วมรกตเป็นองค์นำเรื่องซึ่งจะไม่เหมือนกับที่บรรยายใน ชินกาลมาลีปกรณ์ที่เริ่มเรื่องจากพระอินทร์ได้ทรงเอาแก้วอมรกตมาสร้างเป็นพระแก้ว มิใช่แก้วมณีโชติเพื่อลบล้างความเชื่อว่าสร้างจากแก้วมณีโชติของพระจักรพรรดิ์ลงเสีย






baron จาก von Richthofen  125.24.44.206  พฤหัสบดี, 7/12/2549 เวลา : 13:06   


คำตอบที่ 345
       ทำไมพระรัตนปัญญาต้องแต่งประวัติพระแก้วมรกตใหม่เสียอย่างหมดจด แปลงแม้วัสดุการสร้างใหม่ต้องลองอ่านประวัติของพระแก้วมรกตคร่าวๆก่อน แล้วจึงจะเห็นภาพ ว่าอนุภาพของแก้วมณีโชตินั้นทรงอนุภาพขั้นสมบัติของพระมหาจักรพรรดิ์เท่านั้น


ผู้ใดครองพระแก้ว ผู้นั้นคือเจ้าผู้ครองพื้นพิภพ ประโยคที่ยังขลังและเป็นจริงแม้ในปัจจุบันนี้



ตำนานพระแก้วมรกตที่เขียนโดยพระพรหมปัญญาฉบับภาษาบาลีบอกตำนานว่าสร้างที่อินเดีย แต่ข้อเท็จจริงน่าจะค้นพบครั้งแรกที่เจดีย์ที่เชียงรายซึ่งสอดคล้องกับพุทธศิลป์ของพระแก้วมรกต หลังจากนั้นได้อัญเชิญมาเมืองเขลางค์นคร32ปี แล้วได้อัญเชิญมาเชียงใหม่ในสมัยพระติโลกราชและอยู่ที่เชียงใหม่จนถึงปลายราชวงค์มังราย พระชัยเชษฐาได้เสด็จมาครองเชียงใหม่จนพระเจ้าโพธิสารพระราชบิดาสวรรคตจึงได้กลับไปหลวงพระบางเพื่อครองราชต่อ ต่อมาได้เสด็จมาครองเวียงจันทร์ก็ได้อัญเชิญมาด้วย และต่อมาอีกหลายร้อยปีก็ได้ถูกอัญเชิญมากรุงธนบุรีในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีโดยทัพเจ้าพระยาจักรี และข้ามมากรุงเทพเมื่อครั้งสร้างเมืองโดยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก






baron จาก von Richthofen   พฤหัสบดี, 7/12/2549 เวลา : 13:08   


คำตอบที่ 346
       เรามาติดตามพระบารมีขององค์พระแก้วมรกตย้อนหลังไปห้าร้อยกว่าปีกันครับ

แนวที่ผมจะเล่าให้ฟังนี้เป็นแนวการเมืองและอำนาจของการเมืองสมัยโบราณที่มีพระแก้วมรกตเป็นองค์นำเรื่อง แล้วจะเข้าใจว่าทำคำพูดว่า ผู้ใดครองพระแก้ว ผู้นั้นคือเจ้าผู้ครองพื้นพิภพ

เรามาเริ่มกันที่พระแก้วมรกตได้อัญเชิญมาเชียงใหม่กันครับ ตอนนั้พญาแก้วเจ้าผู้ครองเชียงใหม่พยายามขยายอำนาจลงมาทางใต้โดยยกทัพมาตีสุโขทัยหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ บางครั้งได้เมืองลูกหลวงของสุโขทัยอย่างกำแพงเพชรและเชลียงได้แต่ก็รักษาได้ไม่นาน ต่อมาพระเจ้ารามาธิบดีที่2แห่งกรุงศรีอยุธยาได้ตีลำปางสำเร็จได้กวาดต้อนเอาไพร่พลกลับไปกรุงศรีอยุธยาจำนวนมาก


นับว่าเป็นการสูญเสียของพญาแก้วอย่างใหญ่หลวงเพราะเป็นการสูญเสียอำนาจทางการค้าที่อยู่ในมือขุนนางและกำลังไพล่พลของเมืองใหญ่เมืองหนึ่งของเชียงใหม่ พญาแก้วได้เปิดศึกเชียงตุงเพราะอำนาจที่จะลงมาทางใต้ทำไม่ได้แล้วจากการที่อยุธยาได้แผ่อำนาจขึ้นมายันถึงลำปางและสุโขทัย แต่ก็แพ้ศึกเชียงตุงจนสูญเสียขุนนางไพล่พลไปมากมาย






baron จาก von Richthofen   พฤหัสบดี, 7/12/2549 เวลา : 13:13   


คำตอบที่ 347
       การสูญเสียขุนนางไปสิบกว่าคนที่ศึกลำปางกับอยุธยาและพลาดท่ากับศึกเชียงตุงทำให้สภาพการเงินของเชียงใหม่เข้าตาจนเพราะผลผลิตลดลงแบบเห็นได้ชัด ส่วยภาษีต่างก็หายไปเกือบหมด ทั้งหมดได้บันทึกไว้ที่หลักศิลากฏหมายโบราณป่ามะม่วงบอกถึงสภาพเงินเฟ้อ อัตตราแลกเบี้ยลดต่ำลง สินค้าหายาก บ้านเมืองของเชียงใหม่เริ่มระส่ำระสายจนขุนนางเริ่งออกมาบีบให้พญาแก้วลงจากการครองเมืองเชียงใหม่ แม้แต่การลอบปลงพระชนม์ก็ยังทำ

นั่นคือหลังจากหนังสือ ชินกาลมาลีปกรณ์ เขียนไปแล้วเพียง 30ปีเท่านั้น เชียงใหม่ก็อ่อนแอจนต้องตกไปเป็นของพม่าหลังยุคของพญาแก้ว






baron จาก von Richthofen  125.24.44.206  พฤหัสบดี, 7/12/2549 เวลา : 13:14   


คำตอบที่ 348
       แม้ว่าพญาแก้วจะเป็นกษัตริย์ที่ทรงทำนุบำรุงศาสนาพระองค์หนึ่งตลอดรัชกาล แต่เชียงใหม่ก็ยังเสื่อมลงอย่างต่อเนื่องจากสงครามขยายดินแดน และการทุ่มทรัพย์อย่างหนักไปกับกองทัพและสร้างกำแพงเมืองเชียงใหม่ กำแพงเมืองลำพูนด้วยอิฐ ทำให้สภาพการเป็นอยู่แร้นแค้นไปอีก คนทำบุญน้อยลงตนเข้าวัดน้อยลง พระรัตนปัญญาพระมหาเถระของเชียงใหม่จึงเขียนหนังสือ ชินกาลมาลีปกรณ์ขึ้นเพื่อเหตุผลทางการเมืองแฝงเอาไว้ด้วยในเนื้อความ

ประการแรกได้เขียนว่าพระแก้วมรกตสร้างจากแก้วอีกชนิดหนึ่ง ที่เริ่มเรื่องจากพระอินทร์ได้ทรงเอาแก้วอมรกตมาสร้างเป็นพระแก้ว มิใช่แก้วมณีโชติเพื่อลบล้างความเชื่อว่าสร้างจากแก้วมณีโชติของพระจักรพรรดิ์ลงเสีย






baron จาก von Richthofen  125.24.44.206  พฤหัสบดี, 7/12/2549 เวลา : 13:17   


คำตอบที่ 349
       การที่พระเถระลดอนุภาพของแก้วมณีโชตินั้นได้มีเหตุผลการลดสงครามที่พญาแก้วทรงคิดว่าพระแก้วทรงอนุภาพขั้นสมบัติของพระมหาจักรพรรดิ์เท่านั้นและก่อสงครามไปเรื่อยๆจนประชาชนเดือดร้อนกันทั่วหน้า ในช่วงปลายของรัชสมัยพญาแก้วได้เกิดน้ำท่วมเชียงใหม่อย่างแสนสาหัสกระหน่ำเข้ากับสภาพการเงินที่แร้นแค้นอาจจะส่งผลให้ประชาชนเสื่อมศัทธาพระแก้วมรกตได้

เพื่อรักษาบารมีขององค์พระแก้วเอาไว้ตำนานพระแก้วจึงโดนแต่งใหม่โดยแน้นคติปัญจอันตรธาน เร่งให้คนยึดกับ ศิล สมาธิ ปัญญา ดังนั้นข้อความในหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์จึงบอกว่าพระอินทร์จึงนำแก้วอมรกตจากบริเวณใกล้เคียงกับกำแพงแก้วมณัโชติมาสร้างเป็นพระแก้วมรกตนั่นเอง

การหยุดความบ้าสงครามของพญาแก้วด้วยตำนานพระแก้วใหม่ในหนังสือ ชินกาลมาลีปกรณ์ของพระรัตนปัญญาไม่สำเร็จแบบเต็มร้อย แต่ก็ทำให้มีหนังสือดีเล่มหนึ่งได้ถูกแต่งขี้นมาให้นักประวัติศาสตร์ได้อ่านในสมัยหลังเพื่อปะติดปะต่อเหตุการเมื่อห้าร้อยกว่าปีได้เป็นอย่างดี






baron จาก von Richthofen   พฤหัสบดี, 7/12/2549 เวลา : 13:19   


คำตอบที่ 350
       เรื่องจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นว่าสมัยโบราณมันก็ไม่ต่างกับสมัยนี้ มีเงินเฟ้อ ข้าวยากหมากแพง สงครามกับสภาพการเงิน และการปฏิวัติในวงการเมือง


วันนี้เอาเท่านี้ก่อนครับ คราวหน้าพระแก้วมรกตได้ข้ามไปลาวแล้ว ช่วงข้ามไปลาวผมจะไม่ใช้เอกสารของไทยเขียนเอง เพราะผมถือว่าเป็นหลักฐานรองเพราะไทยไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์


ผมจะใช้หลักฐานหลักของลาวเองที่ท่าน มหาสิลา วีระวงส์ ได้เขียนไว้เพื่อความถูกต้องของการอ้างอิงครับ



baron จาก von Richthofen  125.24.44.206  พฤหัสบดี, 7/12/2549 เวลา : 13:25   


คำตอบที่ 351
      

ต่อไม่ติดแล้วล่ะ จะเริ่มตรงไหนดีหว่า




Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 7/12/2549 เวลา : 13:46   


คำตอบที่ 352
      



จาก pajeromans283  124.121.104.209  พฤหัสบดี, 7/12/2549 เวลา : 23:18   


คำตอบที่ 353
      



จาก earthwind   58.137.23.190  ศุกร์, 8/12/2549 เวลา : 15:35   


คำตอบที่ 354
       พระแก้วมรกตข้ามแม่น้ำโขงไปประดิษฐานในล้านช้าง



ระหว่าที่เชียงใหม่อ่อนแอลงอาณาจักรหลวงพระบางรุ่งเรืองอย่างยิ่งพระโพธิสารราชเจ้าทรงดำเนินตนเป็นพระโพธิสัตว์และจักรพรดิราชในองค์เดียว ในประวัติศาสตร์ที่เขียนโดย มหาสิลา วีระวงส์ ระบุว่าพระโพธิสารนี่เองที่เชิญพระแก้วมรกตไปเมืองเชียงคำหรือปัจจุบันคือหลวงพระบาง

ผิดกับของไทยที่เป็นพระไชยเชษฐาธิราชที่ครองหลวงพระบางเป็นผู้อัญเชิญ ระยะเวลาน่าจะห่างกันรุ่นคนหนึ่งคือไทยว่าลูกลาวว่าพ่อเป็นคนอัญเชิญ






baron จาก von Richthofen  125.24.62.8  จันทร์, 11/12/2549 เวลา : 21:59   


คำตอบที่ 355
       รอยยิ้มของผมกับกล้องจิ๋ว





baron จาก von Richthofen  125.24.62.8  จันทร์, 11/12/2549 เวลา : 22:01   


คำตอบที่ 356
       แต่ประวัติศาสตร์อีกกระแสของการเมืองสมัยนั้นอาจจะกล่าวว่าเมือพระเจ้าโพธิสารสวรรคตมีกลุ่มกำลังของเมืองโดยรอบอาจครอบครองพระแก้วไปแล้วแต่โดยปราบปรามภายหลังด้วยพระไชยเชษฐาธิราชที่ได้ครอบครองพระแก้วมรกตไปโดยอัตโนมัติ


สำหรับผมแล้วน่าจะเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นในรูปการที่สามมากกว่าสอง คือว่าของลาวน่าจะถูกคือพระโพธิสารอัญเชิญแล้วพระไชยเชษฐามายึดตอนพระบิดาสวรรคต



ทำไมผมเชื่ออย่างนั้น ผมจะเล่าเกร็ดของพระโพธิสารยกทัพมายึดเชียงใหม่ให้ฟังแถมท้าย ว่าเชียงใหม่ใครๆก็อยากตีเมือง แม้ตอนนี้ใครๆก็ชอบขับปาเจโรไปตีเมืองเชียงใหม่กันทั้งนั้น ตอนที่พระไชยเชษฐาอายุได้ 14 พระโพธิสารผู้เป็นพระบิดาได้ยกทัพมาเชียงใหม่เพื่อทำการราชาภิเศกให้พระไชยเชษฐาเป็นกษัตริย์เชียงใหม่แบบดื้อๆเพราะทัพของท่านใหญ่มากจนทุกที่ที่ทัพผ่านไปมีแต่เมืองต่างๆมาส่งบรรณาการยอมเป็นประเทศราชให้เมืองเชียงทอง

แม้แต่พระเจ้าบุเรงนองก็ยังส่งทูตชักชวนให้ร่วมกันไปตีกรุงศรีอยุธยาด้วยกันแต่พระเจ้าโพธิสารไม่สนใจเพราะพระองค์คงเห็นว่าเป็นมวยคนละรุ่น เป็นใหญ่ในซอยสบายใจกว่าตะกายไปใหญ่บนถนนชกข้ามรุ่นกับอยุธยา






baron จาก von Richthofen  125.24.62.8  จันทร์, 11/12/2549 เวลา : 22:05   


คำตอบที่ 357
       เมื่ออภิเศกราชบุตรครองเมืองเชียงใหม่แล้วพระโพธิสารก็เสด็จกลับเชียงทองพร้อมพระแก้วมรกตที่ได้อัญเชิญไปไว้ที่ วัดบุฟพาราม (ผมพิมพ์ไม่ผิดครับ)


ในปลายสมัยของพระองค์นั้นความยิ่งใหญ่ที่ทรงมีมากมายขนาดถึงเวียดนามยังส่งบรรณาการ ในประวัติศาสตร์ได้บันทึกว่าพระไชยราชาธิราชได้หนีภัยการเมืองจากอยุธยามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและต่อมาได้ขึ้นครองเป็นกษัตริย์พระองค์หนึ่งของกรุงศรีอยุธยาต่อจากสมเด็จพระอาทิตย์ราชาที่สวรรคต ทัพพระเจ้าโพธิสารที่ยกมาแบ็กอัพให้พระไชยราชาขึ้นครองราชกรุงศรีอยุธยาเลยแห้วไม่ได้รบดั่งใจหมายต้องยกกลับเชียงทองไปกลางทาง ซึ่งตอนนั้นทรงตีได้เมืองพิษณุโลกที่เป้นเมืองลูกหลวงของสุโขทัยและต่อมาเป็นเมืองหน้าด่านของกรุงศรีอยุธยาหลังการล่มสลายอำนาจของราชวงค์พระร่วง


ผู้ใดครองพระแก้ว ผู้นั้นคือเจ้าผู้ครองพื้นพิภพ พระโพธิสารแสดงอำนาจของพระองค์ให้เห็นถึงบารมีของพระแก้วมรกตที่พระองค์ครอบครอง








baron จาก von Richthofen  125.24.62.8  จันทร์, 11/12/2549 เวลา : 22:08   


คำตอบที่ 358
       พอพระโพธิสารสวรรคต พระไชยราชาธิราชได้เสด็จจากเชียงใหม่ไปครองเมืองเชียงทองแทนพระราชบิดาเนื่องจากถ้าไปช้าอาจจะโดนเหมือนปู่คือพญาเกศเชษฐราช ที่พวกข้าราชการและเมืองบริวารยึดอำนาจเอาแบบดื้อๆ ดังนั้นจึงต้องรีบมาเอาเมืองอย่างรวดเร็วสุดขีด ซึ่งไม่น่าจะต้องอัญเชิญพระแก้วมาด้วยเหมือนที่เขียนไว้ในประวัติศาสตร์ไทย


หลังจากทรงครองเมืองแล้วโดยมีกลุ่มกำลังของขุนนางบางกลุ่มและพระยาศรีสัทธรรมไตรโลกเป็นแกนนำทำให้พระองค์ขึ้นสู่ตำแหน่งแทนพระราชบิดาได้แบบง่ายๆ เพื่อปูนบำเหน็จความชอบได้แต่งตั้งพระยาศรีสัทธรรมไตรโลกไปครองเวียงจัน


ต่อมาเชียงใหม่ก็โดยพม่าบุกยึดเอาดื้อๆ เหมืออย่างที่ผมบอกว่าใครๆก็ชอบตีเชียงใหม่จนพรุนเป็นกระชอนคั้นกระทิ ทั้งพม่า ทั้งกรุงศรีอยุธยา ทั้งลาว รุมตีแต่เชียงใหม่แก้เหงาทั้งนั้น





baron จาก von Richthofen  125.24.62.8  จันทร์, 11/12/2549 เวลา : 22:09   


คำตอบที่ 359
       ได้ทรงแต่งทัพไปตีเมืองเชียงใหม่คืนจากพม่าโดยเอาพระยาศรีสัทธรรมไปด้วยแต่ไม่สำเร็จเพราะพม่าก็มิใช่หมูที่จะเคี้ยวได้ง่ายๆ หลังจากที่ทัพลาวไม่ประสพความสำเร็จในการยึดเชียงใหม่กลับคืนแต่ทรงได้ตัดไฟเสียแต่ต้นลมโดยถือโอกาสจับพระยาศรีสัทธรรมไตรโลกสำเร็จโทษเสียเพื่อตัดกำลังของผู้อาจจะเป็นใหญ่เทียบตัวเองได้


หลังจากนั้นได้ทรงย้ายเมืองจากเชียงทองหรือหลวงพระบางมาเวียงจันเสียเลยเพราะเป็นเมืองการค้าที่เจริญกว่าเชียงทอง แน่นอนว่าพระแก้วมรกตก็ได้ถูกอัญเชิญมาด้วยในครั้งนั้นและได้ทรงสร้างพระราชวังและหอพระแก้วอย่างสวยวิจิตรพิศดารยิ่งนักเนื่องจากเงินที่เวียงจันค้าขายกำไรดีจนบ้านเมืองดีสุดขีดในยุคนั้น






baron จาก von Richthofen  125.24.62.8  จันทร์, 11/12/2549 เวลา : 22:11   


คำตอบที่ 360
       ต่อมาอาณาจักรลาวได้แบ่งออกเป็นสามส่วนตามอำนาจของผู้ครองนครที่แบ่งออกไปเป็น เวีนงจัน หลวงพระบาง จำปาสัก ที่ต้องแยกเพราะต่างก็เริ่มมีทรัพย์สินมากขึ้นเป็นเพราะไม่ได้ส่งสินค้าขายส่งเวียงจันอย่างแต่ก่อนแต่ได้ยึดอำนาจส่งสินค้าเองทำให้มีสภาพเงินคงคลังมากขึ้น แต่เวียงจันหร่อยหรอลงจนทำให้บ้านเมืองอ่อนแอจนครองพระแก้วได้อีกเพียง 80ปีก็โดนสยามตีแตกและสูญเสียพระแก้วมรกตให้แก่สยาม

พระแก้วมณีโชติสมบัติพระจักรพรรดิ์ก็กลายเป็นมิ่งขวัญของบ้านเมืองที่กรุงเทพฯแทน แต่สมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึกผู้ตีเวียงจัน และอัญเชิญพระแก้วมาก็ได้กลายเป็นพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกในเวลาไม่นานหลังจากได้ครองพระแก้วมรกตจากการตีเวียงจัน



ผู้ใดครองพระแก้ว ผู้นั้นคือเจ้าผู้ครองพื้นพิภพ คำพูดนี้เป็นจริงอีกครั้งจากเหตุการณ์นี้







baron จาก von Richthofen  125.24.62.8  จันทร์, 11/12/2549 เวลา : 22:12   


คำตอบที่ 361
       แม่แมว





baron จาก von Richthofen  125.24.62.8  จันทร์, 11/12/2549 เวลา : 22:13   


คำตอบที่ 362
       หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปกับกระทู้ร่อนเร่ออกเดินเล่นถ่ายรูปประกอบเกร็ดเล่าพงศาวดารกระซิบบ้าง ประวัติศาสตร์บ้าง ผมขอจบกระทู้แบบสมบูรณ์เพียงเท่านี้

ผมมองย้อนหลังไปเมื่อเดือนที่แล้ว สภาพจิตใจเทียบกับเดือนนี้ห่างไกลกันลิบลับ เมื่อครั้งเมื่อผมเดินถ่ายรูปชุดนี้ผมรู้สึกว้าเหว่ ไม่มีความสุขกับชีวิตที่มีอยู่ เหมือนเรือที่ไร้จุดหมาย

แต่หลังจากวันนั้ผมเปลี่ยนไปมากจนรู้สึกได้ในวันนี้





baron จาก von Richthofen  125.24.62.8  จันทร์, 11/12/2549 เวลา : 22:18   


คำตอบที่ 363
       ผมไปกราบพระประธานวัดมหาธาตุเพื่อความเป็นศิริมงคล

กราบหลักเมืองกรุงเทพ กราบเทพทั้ง5 ประจำเมืองกรุงเทพฯ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬชัยศรี เจ้าพ่อเจตคุป เจ้าพ่อหอกลอง

และสุดท้ายพระแก้วมรกต


สองจุดสุดท้ายของวันนั้น ผมเล่าความในใจให้ท่านฟังเหมือนลูกหลานคลานไปกราบผู้ใหญ่แล้วปรึกษาปัญหาที่ตนเองประสพอยู่

ผมตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นด้วยเสียโทรศัพท์ที่เปลี่ยนชีวิตที่แสนเซ็งให้กลับไปเหมือนคนเดิมที่ยุ่งหัวฟูทั้งวัน หลังจากนั้นก็ที่เสียงโทรศัพท์ที่โทรมาหาด้วยเรื่องแบบนี้ที่หายไปนานแล้ว มีเข้ามาทุกสัปดาห์ บางครั้งเข้ามาวันละสองหน จนตัวเองต้องยุ่งวุ่นวายบนโต๊ะประชุมแผนงานและทำงานหนักมีเวลานอนวันละไม่กี่ชั่วโมงเหมือนเดิมที่เป็นมาตลอดชีวิต


นอนน้อยอิดโรยแต่แววตากลับไปเป็นคนเดิมจนรู้สึกได้


บารมีท่านมากมายเป็นที่พึ่งของผู้เคารพนับถือมานับร้อยปี ส่งให้ผมที่เข้าไปกราบท่าน และเล่าอะไรต่อมิอะไรให้ท่านฟังวันนั้นเมื่อเดือนก่อนจนได้มีวันนี้ของเดือนนี้ครับ


ความดีที่พึงจะมีได้จากบทความอาหารสมองยาวหนึ่งเดือนและรูปภาพที่พอจะดูได้ของผมขอถวายให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ผมกราบในวันนั้น บูรพระมหากษัตริย์ เจ้านายราชวงค์ และ ผู้มีชื่อจารึกในประวัติศาสตร์ ที่ผมกล่าวนามทั้งหมดครับ


และขอมอบความดีให้ผู้รู้ใจ ผู้ที่ให้กำลังใจเดินเคียงข้างยามที่ผมเดินในความมืดมิดของชีวิต คอยประคองชีวิตของผมที่ล่องลอยตามกระแสคลื่นลมของคนที่เพิ่งจะเป็นสูญเสียพ่อไป ช่วยเหลือผมทั้งต่อหน้าและลับหลังโดยคิดว่าผมไม่รู้ว่าแอบช่วยผม แต่ผมรู้แล้วว่ามีคนใกล้ตัวแอบทำสิ่งดีให้ผมเงียบๆ



ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ติดตามอ่านกระทู้มาราธอนของผมจนครบหนึ่งเดือนครับ








baron จาก von Richthofen   จันทร์, 11/12/2549 เวลา : 22:35   


คำตอบที่ 364
      

เป็นกำลังใจให้คนดี นาม " von Richthofen " ครับ



kupree จาก kupree  203.114.122.59  อังคาร, 12/12/2549 เวลา : 09:18   


คำตอบที่ 365
       ขอพระพุทธองค์จงปกป้องคุ้มครอง และเราชาวปาขอเป็นกำลังใจเสมอเมื่อเพื่อนฝูงพี่น้องตกอยู่ในความหมองหม่น และหวังว่าคงได้รับรู้สิ่งดีๆจาก อ.วอน อีก ข้าผู้น้อยขอน้อมคาราวะ



จาก earthwind  58.137.23.190  อังคาร, 12/12/2549 เวลา : 10:26   


คำตอบที่ 366
      

น้ำเยอะๆมากๆช่วงนั่งเรือข้ามฟาก





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 13:46   


คำตอบที่ 367
      

ดูรูปพระนอนกันไปแล้ว มาดูรูปจิตรกรรมฝาผนังกันบ้าง

จิตรกรช่างมีอารมณ์สุนทรีย์ดีจัง







Ruj จาก Ruj   พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 13:49   


คำตอบที่ 368
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 14:20   


คำตอบที่ 369
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 14:21   


คำตอบที่ 370
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 14:23   


คำตอบที่ 371
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 14:46   


คำตอบที่ 372
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 14:57   


คำตอบที่ 373
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 15:49   


คำตอบที่ 374
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 15:59   


คำตอบที่ 375
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:03   


คำตอบที่ 376
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:33   


คำตอบที่ 377
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:34   


คำตอบที่ 378
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:34   


คำตอบที่ 379
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:34   


คำตอบที่ 380
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:35   


คำตอบที่ 381
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:35   


คำตอบที่ 382
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:39   


คำตอบที่ 383
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:39   


คำตอบที่ 384
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:46   


คำตอบที่ 385
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:48   


คำตอบที่ 386
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:49   


คำตอบที่ 387
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:49   


คำตอบที่ 388
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:50   


คำตอบที่ 389
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:51   


คำตอบที่ 390
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:51   


คำตอบที่ 391
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 16:52   


คำตอบที่ 392
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 17:03   


คำตอบที่ 393
      





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 17:04   


คำตอบที่ 394
      

สงสัยต้องหาโอกาส ย้อนรอยบางแล้ว......



a_anan จาก a_pct195  124.121.48.221  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 17:05   


คำตอบที่ 395
      

สุดท้ายสำหรับชมรมคนรักแมว







Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  พฤหัสบดี, 14/12/2549 เวลา : 17:05   


คำตอบที่ 396
      

ใครเกิดปีอะไรดูเอาเอง เริ่มด้วยปีชวด

ภาพเขียนสีในอุโบสถวัดอรุณฯ เสียดายที่ไม่ได้รับการดูแล





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:00   


คำตอบที่ 397
      

อีกซักตัว





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:01   


คำตอบที่ 398
      

ฉลู ไอ้ตัวนี้มันวัว หรือ ควายน่ะ ดูไม่ออกจริงๆ





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:02   


คำตอบที่ 399
      

ตัวนี้วัวแน่ๆ





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:03   


คำตอบที่ 400
      

ขาล





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:04   


คำตอบที่ 401
      

เถาะ





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:06   


คำตอบที่ 402
      

มะโรง





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:07   


คำตอบที่ 403
      

มะเส็ง





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:08   


คำตอบที่ 404
      

มะเมีย





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:09   


คำตอบที่ 405
      

มะแมหาไม่เจอ เจอแต่วอก





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:10   


คำตอบที่ 406
      

ระกา





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:10   


คำตอบที่ 407
      

จอ





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:11   


คำตอบที่ 408
      

กุล





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:14   


คำตอบที่ 409
      

เจอมะแมแล้วล่ะ





Ruj จาก Ruj  61.90.217.70  ศุกร์, 15/12/2549 เวลา : 18:19   


คำตอบที่ 410
      

คิดถึง อ.วอนครับ ขอขุดกระทู้เก่ามาอ่านดับกระหาย เสียดายความเป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ในวิสัยบัญฑิตของท่านที่จะไม่ได้สัมผัสอีกแล้ว




จาก ปาเก่า  125.24.35.250  พุธ, 11/4/2550 เวลา : 00:57   


คำตอบที่ 411
       ไม่มีไร55555555555555555555เขียนเล่นเฉยๆ5ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



จาก 5555  203.113.51.137  พุธ, 10/10/2550 เวลา : 08:11   


คำตอบที่ 412
       เยี่ยมครับเป็นอะไรที่เป็นสิ่งสะท้อนสังคมอีกมุมหนึ่งได้ดีครับ



จาก ก้านกล้วย  134.144.246.14  อังคาร, 23/10/2550 เวลา : 01:36   


คำตอบที่ 413
      



จาก ชาย  116.58.231.242  อังคาร, 23/10/2550 เวลา : 11:34   


คำตอบที่ 414
      



จาก ดนร  58.147.38.86  เสาร์, 17/11/2550 เวลา : 14:17   


คำตอบที่ 415
       ทั้งหมดสุดยอดครับ



จาก นิธิ  203.113.0.199  จันทร์, 19/11/2550 เวลา : 11:37   


คำตอบที่ 416
       ดีมาก ๆ ค่ะ ได้ความรู้มากมายเลย อยากทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระยาพิพยากรวงศ์ มากกว่านี้ค่ะ หาอ่านได้ที่ไหนคะ



จาก spnwong@gmail.com  58.9.9.105  ศุกร์, 30/11/2550 เวลา : 21:55   


คำตอบที่ 417
       การฝึกโยคะนั้นช่วยให้กายและจิตเกิดความสงบ





จาก สุเทพ อยู่เย็น  125.24.146.49  พุธ, 14/5/2551 เวลา : 19:52   


คำตอบที่ 418
       คห ที่ 117

เราว่ามันก็น่าจะเป็นเรื่องจริงที่เป็นไปได้นะค่ะ

ไม่ได้ว่าอะไร แต่พื้นฐานของคนไทยก็เป็นกันแบบนี้ทั้งนั้น แม้แตในวงการเมืองของไทยเรา

ถ้าเรามีความคิดมากกว่านี้ก็ไม่เกิดปัญหากันอย่างทุกวันนี้ จะโทษใครได้ก็นอกจากตัวเราเองละค่ะ

แล้วขอถามทุกท่านเลยว่า ท่านเป็นอย่างที่ฉันจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้หรือเปล่า

"เขาว่ากันว่าคนเรามี 2 กระเป๋า กระเป๋าแรกอยู่ด้านหน้าของเรา กระเป๋าที่สองอยู่ทางด้านหลัง กระเป๋าแรกนั้น เราเอาไว้เก็บความชั่วของผู้อื่น ในขณะที่เราเก็บความชั่วของตัวเองไว้ที่กระเป๋าหลัง ทำให้เราไม่เห็นความชั่วของตัวเอง เราจึงคิดว่าความชั่วของคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่เสียหาย ทั้งๆที่เราไม่เคยหันหลังกัลับมาดูกระเป๋าของตัวเอง ที่ตอนนี้ เต็มจนล้นกลายเป็นร่องรอยในการตามหาตัวเราเองแล้ว"

ถ้าท่านไม่เป็นก็ขอยินดีกันผืนแผ่นดินไทยด้วยว่า ท่านเป็นผู้ที่ทำให้แผ่นดินนี้สูงขึ้น แต่ถ้าท่านเป็น แก้ไขวันนี้ก็จะไม่สายเกินไปนะค่ะ

คนไทยเลือกเรียนในสิ่งที่คนอื่นทำผิดต่อประเทศเรา แต่เราไม่ได้เรียนว่าเราทำอะไรกับประเทศอื่นไว้บ้าง กว่าจะรู้ก็สายเกินไปเสียแล้ว เราว่าคงมีคนไม่รู้อีกเยอะมากๆเลยละค่ะ เรื่องที่เราไปปล้นลาวต่อ เพราะคนที่จะเรียนทางด้านนี้ก็มีอยู่น้อย


แล้วก็ถ้าสิ่งที่ได้รับรู้มันสะเทือนจิตใจจนขนาดนั้น ในชีวิตนี้คุณก็คงดำเนินชีวิตต่อไปไม่รอดแล้วละค่ะ เรื่องแบบนี้รับไม่ได้ แล้วถ้าคุณไปเจอเรื่องที่หนักหนาสาหัสกว่านี้ คุณจะรับมันได้มั้ย??? ถ้าไม่ได้ก็ไม่สมควรที่จะมีชีวิตต่อแล้วค่ะ


ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่คอยย้ำเตือนจิตใจของคนในยุคปัจจุบัน ทั้งเอาเป็นแบบอย่าง และเป็นอุทาหรณ์ ทำให้เรารู้จักเลือกที่จะดำเนินชีวิตแบบใด

ถ้าคุณยังคิดไม่ได้ หรือยังไม่เข้าใจ
ก็ขอให้คิดให้ดีๆ แล้วศึกษาให้มาก
แล้วสักวันคุณจะเข้าใจ

ขอให้พระคุ้มครองคนที่ทำดี

อีกไม่กี่ปีน้ำก็จะท่วมโลกแล้วค่ะ ขอให้ทุกท่านทำบุญไว้เยอะๆนะค่ะ

นี่คือความคิดเห็นของหนู หวังว่ามันคงจะช่วยอะไรได้บ้างนะค่ะ

ขอบคุณสำหรับรูปในการทำรายงานนะค่ะ

จากเด็ก ม.6



จาก mochi  58.9.149.171  อาทิตย์, 15/6/2551 เวลา : 10:49   


คำตอบที่ 419
       เหมือนว่าจะมาช้าไปนิด

คห ไปถึง 400 กว่าแล้ว

แหะๆ



จาก mochi  58.9.149.171  อาทิตย์, 15/6/2551 เวลา : 10:55   


คำตอบที่ 420
       ท่าแมงป่อง





จาก สุเทพ อยู่เย็น  125.24.96.156  ศุกร์, 19/9/2551 เวลา : 23:37   


คำตอบที่ 421
       รักการฝึกเป็นหลัก





จาก สุเทพ อยู่เย็น  125.24.96.156  ศุกร์, 19/9/2551 เวลา : 23:40   


คำตอบที่ 422
       www.suthep9.com





จาก สุเทพ อยู่เย็น  125.24.96.156  ศุกร์, 19/9/2551 เวลา : 23:43   


คำตอบที่ 423
       โยคะวิทยาทาน โยคะออนไลน์
ท่านสามารถชมและศึกษาได้ที่

www.suthep8yoga.blogspot.com







จาก สุเทพ อยู่เย็น  125.24.128.194  เสาร์, 4/10/2551 เวลา : 00:13   


คำตอบที่ 424
      





จาก สุเทพ อยู่เย็น  125.24.123.255  พฤหัสบดี, 12/2/2552 เวลา : 13:59   


คำตอบที่ 425
      



จาก น้ำตาล  125.26.172.224  อาทิตย์, 15/2/2552 เวลา : 13:41   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 21:35:45

Error processing SSI file