WeekendHobby.com


Pa (ฮุนได)ที่เกาหลี

จาก Pajero V
จันทร์ที่ , 19/3/2550
เวลา : 17:00

อ่าน = 1829
202.60.196.104
       เหมือน Pa เหลี่ยม ของเราครับแต่ ฮี่ห้อ ฮุนได




เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
      





จาก Pajero V  202.60.196.104  จันทร์, 19/3/2550 เวลา : 17:09   


คำตอบที่ 2
       อืมม์ เคยเห็นแต่อะไหล่เทียม นี่PAเทียมหรือนี่ ถ้าPAแท้ต้องMITSU อิอิอิ



จาก ทะเล  202.139.208.233  จันทร์, 19/3/2550 เวลา : 17:12   


คำตอบที่ 3
       ก่อนซื้ออะไหล่จะได้ถามว่าจากญี่ปุ่นหรือเกาหลีนะครับ



จาก Pajero V  202.60.196.104  จันทร์, 19/3/2550 เวลา : 17:12   


คำตอบที่ 4
       ผมเคยเห็นมากับตาแล้วเมื่อไปที่เกาหลี และถามไกด์ชาวเกาหลีเขาบอกว่า คนเกาหลีจะจงรักภักดีกับประเทศเขามาก โดยเฉพาะหากใครมีรถยนต์ก็ต้องขับฮุนได หรือที่ผลิตในเกาหลีเท่านั้น ส่วนใครที่ชอบรถยี่ห้ออื่นเช่นปาเจโร่ เขาก็จะเปลี่ยนตราและยี่ห้อให้เป็นฮุนไดทั้งหมด โดยตรายี่ห้อรถรุ่นต่าง ๆ จะมีขายกัน คนที่เกาหลีเขารู้ดี



จาก ปาแมน  203.130.143.243  จันทร์, 19/3/2550 เวลา : 18:32   


คำตอบที่ 5
      



มดดำ จาก มดดำ  58.136.52.184  อังคาร, 20/3/2550 เวลา : 10:43   


คำตอบที่ 6
       เดี๋ยวเราทำตรายี่ห้อเราเองบ้างดีกว่า (ล้อเล่น) ขอรับ



Rin จาก Rin  202.12.118.36  อังคาร, 20/3/2550 เวลา : 12:43   


คำตอบที่ 7
       เอาข้อมูลจริงมาพูดกันดีกว่า

จริงๆแล้วทางฮุนได ตอนตั้งบริษัทฯผลิตรถขึ้นมาตอนแรก ยังต้องอาศัย Knowhow จากญี่ปุ่นก็คือมิตซูบิซิ ซึ่งเล่นกันง่ายๆในตอนแรกคือมาทั้งคันแล้วมาเปลี่ยนโลโก้ยี่ห้อเอา แต่ตอนหลังได้ผลิตชิ้นส่วนขึ้นมาเอง แต่ยังต้องใช้เครื่องยนต์ของมิตซูฯอยู่ จะเห็นได้จากพวกตระกูลรถเก๋ง เช่น เอ็ดเชล ใช้อะหลั่ยของมิตซูฯแชมป์ได้ เอลันตราใช้อะหลั่ยของกาแลนซ์ได้ เป็นต้น มาตอนหลังนี่เองที่เริ่มพัฒนาเครื่องยนต์เอง ในรหัสเบต้า

จะคล้ายๆกับ Proton ของมาเลเชียที่ก็อปมิตซูฯมาทั้งดุ้นเหมือนกัน เป็นการผลิตรถประจำชาติ รัฐบาลทำออกมาขายให้คนของประเทศตนในราคาถูก

ตอนแรกอาจจะดูเคอะเขินไปบ้าง แต่ต้องทำอย่างงี้เพื่อที่จะได้โตขึ้น แล้วเดินได้ด้วยตัวเอง

ไม่เหมือนประเทศไทย เป็นได้แค่แรงงานราคาถูกที่รับจ้างเขาประกอบรถไม่รู้กี่ยี่ห้อ โดนเขาหลอกให้เป็นดีทอยซ์แห่งเอเชีย หลงระเริงกันไป แต่ญี่ปุ่นหอบเงินออกนอกประเทศไปซะ แล้วคนไทยก้ยังได้ใช้รถห่วยๆ ในราคาแสนแพง

หรือคุณทั้งหลายว่ามันไม่จริง



จาก โครงการรถแห่งชาติ  202.44.210.43  พฤหัสบดี, 22/3/2550 เวลา : 08:50   


คำตอบที่ 8
       ผมก็เคยได้ยินมาคล้ายๆคำตอบที่ 7 เหมือนกันขอรับ ว่าฮุนไดใช้เทคโนโลยีมิตซูในช่วงแรกๆ เคยอ่านเจอในหนังสือแหล่งรถอะไรประมาณนั้น แต่สาเหตุที่รถในบ้านเราแพงมากเพราะภาษีขอรับ ลองมาดูขอรับว่าเค้าคิดภาษีกันยังไง ผมcopyมาจากเวบน่ะขอรับ (จำชื่อเวบไม่ได้แล้ว)
การคำนวณภาษีรถยนต์
กรณีที่ 1 รถนำเข้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศ

การคิดภาษีสำหรับรถนำเข้านั้น จะคิดจากราคา CIF (Cost + Insurance + Freight) ซึ่งก็คือ ราคาขายของรถ บวกด้วยค่าอากร ค่าประกันภัย และค่าขนส่งจากต่างประเทศ มาถึงที่ท่าเรื่อที่ประเทศไทย ราคา CIF นี้จะถูกระบุไว้ในเอกสารการนำเข้า ในที่นี้สมมติให้ราคา CIF เท่ากับ 100 บาท ภาษีที่ต้องจ่ายจะประกอบไปด้วย

1. อากรขาเข้า ภาษีแรกที่ผู้นำเข้าต้องจ่าย ณ ท่าเรือก่อนนำรถออกจากท่าเรือเข้ามาในประเทศในอัตรา 80% ของราคา CIF ซึ่งเท่ากับ 80 บาท

2. ภาษีสรรพสามิต ซึ่งกรมศุลกากรจะทำการเก็บภาษีนี้ พร้อมกับอากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิตนี้จะถูกเก็บในอัตราต่างกันตั้งแต่ 30-50% ขึ้นอยู่กับความจุกระบอกสูบ หรือขนาดเครื่องยนต์ (ดูตารางการคำนวณภาษีประกอบ) เช่น รถยนต์ขนาดไม่เกิน 2000 ซีซี ที่ถูกจัดเก็บในอัตรา 30%ของราคา CIF รวมกับภาษีอากรขาเข้า โดยใช้สูตรการคำนวณการจัดเก็บที่เรียกว่า “ฝังใน” คือ
= {(100+80)x30%}
1 – (1.1x30%)

3. ภาษีมหาดไทย ชื่อภาษีมีที่มาจากภาษีที่เก็บได้นี้ถูกนำไปบริหารประเทศโดยกระทรวงมหาดไทย ซึ่งภาษีมหาดไทยจะคิดที่อัตรา 10% ของภาษีสรรพสามิต เพื่อส่งให้กระทรวงมหาดไทย

4. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ในอัตรา 7% ของราคา CIF + อากรขาเข้า + ภาษีสรรพสามิต + ภาษีมหาดไทย

ซึ่งเมื่อรวมภาษีทั้ง 4 ชนิดเข้าด้วยกันแล้ว จากราคารถสมมุติที่ 100 บาทจะกลายเป็น 287.5-428.0 บาท(ขึ้นอยู่กับความจุกระบอกสูบ) ซึ่งมูลค่าดังกล่าวนี้ยังไม่รวมอัตรากำไร และค่าดำเนินการอื่นๆ ของบริษัทผู้จำหน่าย ฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะเห็นรถราคา 1 ล้านในเมืองนอกมาขายที่บ้านเราในราคา 3-4 ล้านบาท เพราะภาระภาษีมันสูงเช่นนี้นี่เอง


รถยนต์นำเข้าทั้งคัน (1) ราคานำเข้า (2)อากรนำเข้า (3)ภาษีสรรพสามิต (4)ภาษีมหาดไทย (5)ภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคารถรวมภาระภาษีทั้งหมด (1)+(2)+(3)+(4)+(5)
ขนาดเครื่องยนต์ (บาท) (บาท) อัตราภาษี (บาท) (บาท) (บาท) (บาท)
ความจุกระบอกสูบไม่เกิน 2,000 ซีซี* 100 80 30% 80.60*** 8.1 18.8 287.5
ความจุกระบอกสูบ2,000 ซีซี แต่ไม่เกิน 2,500 ซีซี* 100 80 35% 102.44*** 10.2 20.5 313.14
ความจุกระบอกสูบ 2,500 ซีซี แต่ไม่เกิน 3,000 ซีซี* 100 80 40% 128.57*** 12.9 22.5 343.97
ความจุกระบอกสูบเกิน 3,000 ซีซี** 100 80 50% 200.00*** 20.0 28.0 428.0



* และมีกำลังเครื่องยนต์ไม่เกิน 220 แรงม้า
** และมีกำลังเครื่องยนต์เกิน 220 แรงม้า
*** สูตรคำนวณการจัดเก็บแบบ “ฝังใน”



โตโยต้า วีโก้ ราคา 861,000 บาท มูลค่าภาษีประมาณ 3-4 แสนบาท


กรณีที่ 2 รถที่ผลิตในประเทศไทย

ผู้ผลิตจะนำชิ้นส่วนรถยนต์เข้ามาจากต่างประเทศเป็นบางรายการ ซึ่งปริมาณและ***ส่วนการนำเข้า มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทผู้ผลิต โดยรถแต่ละรุ่นภาระภาษีของผู้ผลิตจะมีความแตกต่างจากการนำเข้ารถทั้งคัน ดังนี้

1. อากรขาเข้า จะถูกจัดเก็บตามอัตราที่กรมศุลกากรกำหนด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิด หรือพิกัดของชิ้นส่วนนั้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 30% ของราคา CIF ถ้าใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศทั้งหมดก็จะไม่เสียภาษีในส่วนนี้

2. ภาษีสรรพสามิต จะถูกจัดเก็บอัตราเดียวกับการนำเข้ารถทั้งคันจากต่างประเทศ โดยคำนวณจากราคาหน้าโรงงาน และกรมสรรพสามิตจะพิจารณารับราคาหน้าโรงงานนี้ไม่ต่ำกว่า 76% ของราคาขายปลีกที่ขายให้กับผู้บริโภค คือ ถ้าราคาขายปลีกอยู่ที่ 100 บาท (รถยนต์ไม่เกิน 2000 ซีซี) ก็จะใช้ราคาหน้าโรงงานที่ 76 บาท มาคำนวณตามสูตร “ฝังใน” เพื่อให้ได้ภาษีสรรพสามิต

3. ภาษีมหาดไทย คิดที่อัตรา 10% ของภาษีสรรพสามิต เพื่อส่งให้กระทรวงมหาดไทย

4. ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% กรมสรรพากรเป็น ผู้จัดเก็บ เหมือนกรณีที่ 1

สมมุติให้รถขนาดไม่เกิน 2,000 ซีซี ราคารถหน้าโรงงานอยู่ที่ 100 บาท ภาษีสรรพสามิตก็จะอยู่ที่ 80.60 บาท บวกด้วยภาษีมหาดไทย 8.1 บาทและภาษีมูลค่าเพิ่ม 13.2 บาท ก็จะได้ราคาขายปลีกเท่ากับ 201.9 บาท หรือถ้าคิดในมุมกลับภาษีรวมของรถที่ผลิตในประเทศจะมีมูลค่าประมาณ 40-70% ของราคาขายปลีก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องยนต์ ยิ่งปริมาตรกระบอกสูบมาก มูลค่าภาษีก็จะสูงตาม
ตัวอย่างเช่น ถ้าซื้อรถที่ผลิตในประเทศ เครื่องยนต์ 1800 ซีซี ในราคา 7 แสนบาท หมายความว่า เราได้จ่ายภาษีให้รัฐประมาณ 2.8-3 แสนบาท

ในขณะที่ภาษีรวมของรถนำเข้าจะคิดจากราคาขายปลีกไม่ได้เพราะยังไม่ได้รวมกำไรและค่าดำเนินการของผู้นำเข้า ฉะนั้นต้องคิดจากราคาทุน ซึ่งจะมูลค่าภาษีอยู่ที่ประมาณ 200-300 % ของราคาต้นทุน ตัวอย่าง เช่น ถ้ารถราคา 1 ล้านบาทในต่างประเทศ เมื่อนำเข้ามาขายที่เมืองไทย ต้องเสียภาษีรวมประมาณ 2 ล้านบาท ดังนั้น ผู้นำเข้าจึงต้องขายที่ราคา 3 ล้านขึ้นไปเพราะต้นทุนภาระภาษีที่สูงนี่เอง เพียงเท่านี้พอจะทำให้เข้าใจกันได้ว่า ทำไมเราถึงต้องซื้อรถที่แพงกว่าประเทศอื่นๆ อย่างมากมาย

แล้วภาษีทั้งหมดเป็นจำนวนเท่าไหร่?

ตัวเลขแท้จริงเราไม่อาจทราบได้ แต่เมื่อมองถึงมูลค่าตลาดรวมเฉพาะที่รถขายในประเทศ สมมุติยอดขายรถทั้งปีที่ 600,000 คัน (ในความจริงขายมากกว่านี้) ทุกคันราคาคันละ 500,000 บาท (ห้าแสนบาท ราคาสมมุติ) มูลค่าตลาดจะเท่ากับ 300,000,000,000 บาท (สามแสนล้านบาท ยอดสมมติแต่ยอดจริงมากกว่านี้) และคิดภาษีที่ยอดต่ำสุดที่ 40% ของราคาขายปลีกเท่ากับว่ารัฐจะได้ภาษีจากประชาชนที่ซื้อรถไปทั้งสิ้น 120,000,000,000 บาท (หนึ่งแสนสองหมื่นล้านบาท)
ขณะที่งบประมาณรายจ่ายประจำปี49อยู่ที่ 1.36 ล้านล้านบาทดังนั้นแล้วประมาณ 10% ของรายได้ภาษีที่จะนำมาจ่ายในงบประมาณมาจากเงินที่ประชาชนซื้อรถ แล้วรัฐเอาเงินภาษีของเราไปทำอะไรหว่า ประเทศถึงได้เจริญ ฮวบ ฮวบ อย่างนี้?
+++++
ลอกมาให้อ่านแบบไม่ตัดต่อเลยขอรับ



จาก ทะเล  203.146.201.194  พฤหัสบดี, 22/3/2550 เวลา : 09:49   


คำตอบที่ 9
      



จาก pajeromans  58.8.25.229  พฤหัสบดี, 22/3/2550 เวลา : 10:57   


คำตอบที่ 10
       เห็นด้วย กับ คำตอบ 7 และ 8 ชาติอื่น ๆ รอบ ๆ ประเทศเรา เขามีรถยีห้อของเขาเอง แต่เราไม่เคยคิดจะมี แม้แต่เคยคิด ก็โดนเจ้าของรถที่ติดตลาดอยู่ทุกวันนี้ ใช้ทุกวิธี
ทำให้โครงการรถที่เป็นของไทย ต้องเจ้ง แม้แต่ตอนนี้ สื่อโฆษณา(ของไทย) ก็ประโคมข่าวด้วยความภูมิใจว่ารถของไทย ส่งนอก แต่ชื่อยีห้อไม่มีชื่อภาษาไทย จึงขอให้
คนไทย ช่วยกันคิด 5 ปี 10 ปี 100 ปี หรือมากกว่านั้นก็รอได้ ถ้าจะมีรถของไทย ยีห้อภาษาไทย เอาไว้ใช้เอง ก็ยังดี เงินทองจะไม่รั่วไหล ช่วยกันออกความเห็นหน่อยนะเราคนไทย



box96@thaimail.com จาก หงา_ปาเจโร  125.26.111.176  พุธ, 28/3/2550 เวลา : 17:40   


คำตอบที่ 11
       เห็นด้วยกับคุณหงาครับ ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนโน้น มีรถกระบะสัญชาติไทยยี่ห้อ VMC ไปจัดแสดงในงานBOI FAREที่นิคมแหลมฉบัง เป็นรถกระบะที่ใช้เครื่องยนต์จากอิตาลี แรงมากในสมัยนั้นราวๆ 117 แรงม้า (ยี่ห้ออื่นๆประมาณ 89-97 แรงม้าในสมัยนั้น) ถ้าผมจำผิดต้องขออภัย รูปร่างหน้าตา ด้านหน้าคล้าย Isuzu มังกรรุ่นแรก ด้านข้างและกระบะคล้ายNissan Big Mแต่ภายในแต่งแบบสปอร์ต ขายได้พอสมควร มีโรงงานประกอบอยู่ที่บางปะกง ฉะเชิงเทรา แต่ด้วยราคารถที่ใกล้เคียงกับ Isuzu และยี่ห้ออื่นๆ รวมถึงเป็นยี่ห้อใหม่ ศูนย์บริการน้อย จึงไม่ค่อยมีใครสนใจในที่สุดก็ปิดกิจการไปโดยปริยาย ชิ้นงานของรถผมยังได้commentผ่านเจ้าหน้าที่ในบู๊ธว่าทำไมไม่ทำให้เนียนกว่านี้ กระจังหน้าทำจากเหล็กนำมาเชื่อมกัน(ปกติยี่ห้ออื่นๆ ทำจากพลาสติกหมด เพราะทำให้ดูสวยงามและลดต้นทุน) จึงทำให้กระจังหน้าไม่เรียบสวยเหมือนยี่ห้ออื่น การประกอบยังไม่ประทับใจ คือไม่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่อธิบายว่า เร่งทำออกมาโชว์ ของจริงที่จะขายดีกว่านี้ นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผู้ซื้อลังเล เพราะมาดูตัวโชว์ก็ไม่ชวนซื้อแล้ว แถมไม่กล้าเสี่ยงเรื่องอาจหาอะไหล่ยากเพราะเป็นยี่ห้อใหม่ สรุปแล้วจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีรถสัญาชาติไทยยี่ห้อไทยๆ แท้สักยี่ห้อ แม้กระทั่งแบร์นด์ไทยรุ่งก็ยังนำเอาบอดี้Isuzuและ Nissan มาใช้ ก็เลยรู้สึกว่าเหมือนไม่ใช่ของไทยแท้ๆ เพราะไม่ได้ใช้แบรนด์ตัวเอง เทคโนโลยีตัวเองอย่างแท้จริง ขนาดคำว่าไทยรุ่งยังเอาไปติดไว้ข้างหลัง แทนที่จะอยู่ข้างหน้า แต่ถ้าถามว่ารถสัญชาติไทยมีอยู่บ้างไหม ณ ตอนนี้ก็นึกออกแค่รถสามล้อเครื่องตุ๊กๆ เท่านั้นล่ะครับ จะว่าไปคนไทยน่าจะผลิตแบร์นด์ไทยแท้ๆ ออกมาบ้าง แต่ด้วยความที่ชาตินิยมของเราผมคิดว่ายังแพ้เกาหลี และญี่ปุ่นอยู่นะ ก็เลยยังไม่มีนักธุรกิจคนไหนกล้าเสี่ยงที่จะสร้างแบรนด์ใหม่กระมัง หรือท่านมีความคิดเห็นเช่นไร? แต่ก็ได้แอบหวังเล็กๆ ว่าสักวันประเทศเราจะมีรถยนต์ประจำชาติเหมือนประเทศอื่นเขาบ้าง



จาก ทะเล  202.139.208.54  พุธ, 28/3/2550 เวลา : 22:19   


คำตอบที่ 12
      



มดดำ จาก มดดำ  58.136.52.223  พฤหัสบดี, 29/3/2550 เวลา : 07:22   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 21:41:49

Error processing SSI file