WeekendHobby.com


มาขับรถให้ประหยัดและลดมลภาวะกันเถอะ

จาก 4 D55 TURBO
อังคารที่ , 22/4/2551
เวลา : 18:57

อ่าน = 1007
125.24.180.125
      
3..สิ่งหลักๆ ที่มีผลกระทบโดยตรง ความสิ้นเปลืองน้ำมัน, การปล่อยมลภาวะสู่สิ่งแวดล้อม, การสึกหรอของเครื่องยนต์เบรกและยาง คือ
• รูปแบบการขับขี่ของแต่ละบุคคล
• สภาพความสมบูรณ์ และความเหมาะสมของรถที่ใช้
• ความรู้ในเชิงเทคนิคเบื้องต้น
ความสิ้นเปลืองน้ำมัน สามารถลดลงได้ถึง 10-15 เปอร์เซ็นต์ เพียงแค่ปรับพฤตติกรรมการขับขี่ และรูปแบบการขับ สิบคำแนะนำต่อไปนี้ จะช่วยให้ท่านประหยัดเงินในกระเป๋า และ ลดมลภาวะจากไอเสียของรถท่านได้

คำแนะนำที่ 1 ขับรถแบบรอบคอบ และคาดการณ์ล่วงหน้า
รถยนต์ปกติจะ สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง สูงในขณะที่ใช้อัตราเร่ง หรือ ในขณะที่กด คันเร่งเร็วๆ. ถ้าท่านขับรถด้วยความรอบคอบและมีการคาดการณ์ล่วงหน้า ท่านก็จะไม่ต้องเหยียบเบรกบ่อยๆ เลยทำให้ ไม่ต้องใช้อัตราเร่งมาก. การปล่อยรถให้ไหลไปตัวเปล่าได้โดยไม่เหยียบคันเร่งสามารถช่วย ประหยัดได้ เช่น ขณะที่เราเห็นว่าข้างหน้าจะมีไฟแดง หรือ รถติด

คำแนะนำที่ 2 การเปลี่ยนเกียร์ เพื่อให้ประหยัดพลังงาน
• อีกวิธีหนึ่งในการประหยัดพลังงานคือการเปลี่ยนเกียร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยเครื่องไม่น๊อค หรือกระตุก จะทำให้ประหยัด เพราะที่รอบเครื่องยนต์สูงจะกินน้ำมันมากกว่าที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ
• จากรูปด้านบน จะเห็นกราฟ เส้นสีแดงซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ ของ อัตราการสิ้นเปลือง ลิตร/100 กิโลเมตร (l/100 km) กับ ความเร็ว กิโลเมตร/ชั่วโมง (km/h)ในแต่ละเกียร์
• ให้ใช้เกียร์ 1 เพียงรถออกตัวเพียงไม่กี่เมตร เท่านั้น และควรจะเปลี่ยนเกียร์ ขึ้นเมื่อรอบประมาณ 2000 สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และประมาณ 1500 สำหรับเครื่องดีเซล
• ถ้าเป็นรถเกียร์อัตโนมัติ ให้เหยียบคันเร่งให้เบาที่สุด และไม่ควรเหยียบคันเร่งสุด หรือ คิกดาว หรือ เหยียบจน เกียร์เปลี่ยนลงต่ำ จนรอบเครื่องกระชากขึ้น ถ้าทำได้แบบนี้ ระบบควบคุมเกียร์ จะเลือกใช้โปรแกรม ประหยัดน้ำมัน. เกียร์จะเปลี่ยนขึ้นเร็วกว่ากดคันเร่งหนักๆ และ ไม่เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำง่ายๆ

คำแนะนำที่ 3 หลีกเลี่ยงการใช้ความเร็วสูง

• ไม่ขับรถที่ความเร็วสูง และหรือ ความเร็วสูงสุด. อัตราการกินน้ำมันที่เพิ่มขึ้น, มลพิษในไอเสีย และ เสียง ไม่ได้เป็นสัดส่วนตามความเร็วที่เพิ่มขึ้น

คำแนะนำที่ 4 หลีกเลี่ยงการจอดรถโดยการติดเครื่องเดินเบา
การจอดรถโดยการดับเครื่องรอ เช่น ตอนรถติด รอรถไฟผ่าน รอผู้โดยสารลงไปซื้อของ ในช่วงเวลา 30-40 วินาที ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดน้ำมันกว่าการติดเครื่องรอ

คำแนะนำที่ 5 ตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถ อย่างสม่ำเสมอ
การบำรุงรักษารถอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำความสะอาดกรองอากาศ การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง ไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป จะช่วยให้ท่านประหยัดน้ำมัน จำไว้เสมอว่ารถที่ไม่สมบูรณ์ จะกินน้ำมันเพิ่มขึ้น ถึง 10%

คำแนะนำที่ 6 หลีกเลี่ยงการขับรถในระยะทางสั้นๆ

• เครื่องยนต์ และ กรองไอเสีย จะใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ และลดไอเสีย ได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อถึงอุณหภูมิการทำงานของมันเท่านั้น
• ความสิ้นเปลืองน้ำมันขณะเครื่องยนต์เย็นหรือขณะเริ่มติดเครื่องจะกินน้ำมัน ถึง 2-3 กม/ลิตรเลยทีเดียว หลังจากขับต่อไป อีก 1 กม. ความสิ้นเปลืองจะลดลง ประมาณ 5 กม/ลิตร
• เมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์ ถึง ระดับการทำงานปกติ หรือวิ่งไปประมาณ 4 กิโลเมตร การสิ้น เปลืองน้ำมันจะเป็นไปโดยปกติ
• ด้วยเหตุผลนี้ จึงควรหลีกเลี่ยง การใช้รถในระยะทางสั้น ๆและ จอดรถเพื่ออุ่นเครื่อง เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วให้ขับออกไปโดยใช้รอบเครื่องต่ำๆ แทนการจอดอุ่นเครื่อง
• อุณหภูมิของบรรยากาศ ก็มีผลต่อการสิ้นเปลืองน้ำมัน จากรูปจะเห็นว่าที่อุณหภูมิ –10 องศาเซลเซียส จะกินน้ำมัน มากกว่า ที่ 20 องศาเซลเซียส ฉะนั้น ในหน้าร้อนรถจะกินน้ำมันน้อยกว่าในหน้าหนาว (ไม่คำนึงถึงการทำงานของระบบปรับอากาศ)

คำแนะนำที่ 7 ตรวจเช็คลมยางอย่างสม่ำเสมอ
• หมั่นตรวจสอบแรงดันลมยางเพื่อให้ล้อทุกล้อมีแรงดันที่เหมาะสม เพียงแค่ความดันลมยางลดลงไป 3-4 PSI อัตราการกินน้ำมันจะเพิ่มขึ้น ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว
• ถ้าความดันลมยางไม่ถูกต้อง เช่นปล่อยให้อ่อนเกินไป ยางจะมีการสึกหรอเร็วผิดปกติ และ มีการบิดตัวสูง ทำให้เกิดความร้อนในตัวยางสูง เป็นอันตรายขณะขับขี่
• การตรวจสอบลมยางต้องตรวจสอบขณะยางมีอุณหภูมิเย็นเท่านั้น
• การเลือกใช้ลายดอกยาง Off road บางชนิดบนทางถนนปกติ ในชีวิตประจำวัน อาจจะทำให้มีเสียงดัง และ กินน้ำมันมากขึ้น ถึง 10 เปอร์เซ็นต์

คำแนะนำที่ 8 หลีกเลี่ยงการบรรทุกสัมภาระที่ไม่จำเป็น
นอกจากการเปลี่ยนนิสัยการขับขี่ และ ขับรถแบบรอบคอบและคาดการณ์ล่วงหน้าแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ท่านประหยัดน้ำมันคือ การลดน้ำหนักของสัมภาระที่ไม่จำเป็น
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ทุกๆ กิโลกรัม คือการใช้น้ำมันมากขึ้น เราจึงควรตรวจสอบ สิ่งของที่เก็บไว้ในท้ายรถ ในช่องเก็บของ ต่างๆ และเอาออก ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้
เราจะเห็นกันเสมอว่า ตระแกรงแรค บนหลังคา ที่รถ ชอบใส่กัน แม้ไม่จำเป็นต้องใช้ จะทำให้รถต้านลม. รถที่มีตระแกรงหลังคา วิ่งด้วยความเร็ว 100-120 กม/ชม จะกินน้ำมันเพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์

คำแนะนำที่ 9 ประหยัดการใช้ไฟ
• พลังงานไฟฟ้าในรถยนต์ มาจาก ไดชาร์จ ที่ถูกปั่นให้หมุนโดยเครื่องยนต์ ยิ่งใช้ไฟมากเท่าไหร่ ยิ่ง กินน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น
• ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง ไฟตัดหมอก ไฟส่องที่ติดเพิ่มเติม พัดลมระบบปรับอากาศ และ ระบบปรับอากาศ เป็นอุปกรณ์ ที่กินพลังงานค่อนข้างสูง. การเปิดไล่ฝ้า 10 ชั่วโมง จะสิ้นเปลือง น้ำมันถึง 1 ลิตร
• ฉะนั้นเราจึงควร ปิดอุปกรณ์ ต่างๆทุกครั้ง ที่ไม่ได้จำเป็นใช้งาน จะทำให้ไดชาร์จทำงานน้อยลง เลยทำให้กินแรงเครื่องลดลง และลดปริมาณ น้ำมันเชื้อเพลิง

คำแนะนำที่ 10 ตรวจสอบอัตราการกินน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ
ถ้าท่านต้องการจะประหยัดการใช้น้ำมัน ท่านควรมีการบันทึกการใช้น้ำมัน หรือ มีการตรวจสอบอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง แม้ว่ามันไม่ได้ช่วยให้ท่านประหยัดมากขึ้น แต่ช่วยให้ท่าน ทราบสภาพการกินน้ำมันของรถท่าน ( มากขึ้น หรือ น้อยลง) ในแต่ละช่วงเวลา หรือ แต่ละถังที่ท่านเติมน้ำมัน. ถ้าท่านพบว่า อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันสูงขึ้น จะได้ทำให้ท่านกลับไปตรวจสอบการขับขี่ หรือ สภาพ รถยนต์ของท่าน


.......................................................................................................................


เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
      



yakusa จาก Sak YaKuSa  125.24.216.213  อังคาร, 22/4/2551 เวลา : 19:16   


คำตอบที่ 2
      



Rin จาก Rin  202.12.118.61  อังคาร, 22/4/2551 เวลา : 19:17   


คำตอบที่ 3
      



เจี๊ยบ จาก เจี๊ยบ กระโจมไพร  61.90.147.248  พุธ, 23/4/2551 เวลา : 10:52   


คำตอบที่ 4
       ขอบคุณครับ..อ่านแล้วจะไปปฎิบัติตามเพื่อความประหยัดในการใช้รถยนต์



จาก อ้วน  125.24.45.231  อังคาร, 29/4/2551 เวลา : 20:38   


คำตอบที่ 5
       สงสัยต้องถอดวินซ์ออกซะแว้วว..คริ.คริ



มดดำ จาก มดดำ  58.8.36.234  พุธ, 30/4/2551 เวลา : 07:00   


คำตอบที่ 6
      



จาก ff  125.24.10.64  พฤหัสบดี, 8/5/2551 เวลา : 16:52   


คำตอบที่ 7
      



จาก 1449  125.24.61.83  จันทร์, 12/5/2551 เวลา : 20:25   


คำตอบที่ 8
       ก่อนถึงสี่แยกไฟแดง ถอนคันเร่ง ปล่อยให้รถไหลไปเรื่อยๆ รวมถึงทางลงเนิน ลงทางด่วน ด้วยครับ



pct50 จาก PCT50  124.120.123.187  อังคาร, 13/5/2551 เวลา : 08:53   


คำตอบที่ 9
      



จาก ต้อยมิตซู  125.24.93.31  อาทิตย์, 18/5/2551 เวลา : 21:44   


คำตอบที่ 10
      



จาก PP  125.24.82.26  เสาร์, 31/5/2551 เวลา : 17:22   


คำตอบที่ 11
       • ฉะนั้นเราจึงควร ปิดอุปกรณ์ ต่างๆทุกครั้ง ที่ไม่ได้จำเป็นใช้งาน จะทำให้ไดชาร์จทำงานน้อยลง เลยทำให้กินแรงเครื่องลดลง และลดปริมาณ น้ำมันเชื้อเพลิง

สงสัยครับว่า ไดชาร์ตทำงานน้อยลงเป็นด้วยหรือครับ ผมเข้าใจว่าพอเครื่องทำงานไดชาร์ตก็จะหมุนตามตลอดโดยมีแรงหน่วงเท่าเดิม ไม่เหมือนคอมเพรสเซอร์แอร์

แต่ที่กินน้ำมันเพราะเราต่อเติมนี่แน่นอนครับ เช่น นน.วินส์ ยางใหญ่กว่ามาตรฐาน ยกสูงเกินมาตรฐานทำให้ต้านลม ใส่แร็คหลังคา ผมว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าปกติ ค่อนข้างชัดเจน จริงใหมครับ



จาก สส  125.26.122.208  เสาร์, 31/5/2551 เวลา : 18:29   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 21:51:16

Error processing SSI file