คำตอบที่ 1
      

คำตอบที่ 2
       สวัสดีครับ
รายงานความคืบหน้า เมื่อวานลองขับทางสานกันเป็นแบบนี้ครับ
1. ย่านความเร็ว 80 ที่เกียร์5 รอบเครื่องไม่เกิน1800 แซงได้ช้า แต่ถ้าลงไปเรียกรอบที่เกียร์ 4 รอบประมาณ 2750 ทีนี้ลากได้ยาวเลยครับ ความเร็วพุ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แซงได้สบายๆ
2. ที่ความเร็ว 100 รอบเกียร์5 รอบเครื่องประมาณ 2500 กดเพิ่มได้เลย รถจะไหลขึ้นไปเรื่อยๆๆๆๆ การทำแบบนี้จะต้องอาศัยเข็มความเร็วอย่างเดียวครับเพราะถ้าฟังรอบครื่องอาจจะรู้สึกว่ารถมันอืด ความจริงแล้วมันพุ่งขึ้นเรื่อยๆนะครับ
3. ทางไกล พรุ่งนี้ไปภูเก็ต จะรายงานให้ทราบครับ
โชคดีครับทุกท่าน

คำตอบที่ 3
       อันนี้ เป็น เกียร์ขับ4 ครับ เราไม่เกี่ยวข้องกับมัน

คำตอบที่ 4
       กำลังถอนเสื้อครับ

คำตอบที่ 5
       เกียร์5 และเกียร์ถอย

คำตอบที่ 6
       ขอพระอภัยครับ ค.ต.ที่5 เป็น 1-4 อยู่ราวใหญ่ ถอยและ5 อยู่ราวเล็กครับ

คำตอบที่ 7
      

คำตอบที่ 8
      

คำตอบที่ 9
       ค.ต.8 1-4 ตัวบน 5-ถอยตัวล่างครับ

คำตอบที่ 10
       นิยาม ใจเย็นและปราณีต

คำตอบที่ 11
       อีกท่านเป็นสภาพสตรีครับ ใจเย็นและปราณีตเช่นกัน

คำตอบที่ 12
       ใส่เสื้อกลับ

คำตอบที่ 13
      

คำตอบที่ 14
       สวัสดีครับ
รายงานการเดินทางครับ ถึงภูเก็ต การใช้งานในเมืองและทางไกลอย่างละครึ่ง ปรกติ 1ถังวิ่งได้ 820 กม ที่100 กมต่อชม ใช้น้ำมัน 84 ลิตร ตอนนี้ 79.58 ลิตร วิ่งได้ 850 กม ที่ความเร็ว 110-120 กม ครับ
รายงานเท่านี้ก่อนนะครับ ความคืบหน้าจะตามมาเรื่อยๆนะครับ ผมคิดว่าน่าจะสรุปได้เมื่อเลย30000 กมไปแล้วนะครับ
โชคดีครับทุกท่าน

คำตอบที่ 15
       สวัสดีครับคุณขุน ปลายเดือนหน้าผมจะไปสุราษฎร์ครับ
ถ้าไม่เป็นการรบกวนอาจจะไปขอชมเจ้าปาของคุณขุนครับ

คำตอบที่ 16
       สวัสดีครับคุณ933
ยินดีครับ จะได้คุยกัน ผมอาจอยู่แถวๆระนอง-สุราษฏร์
0869689991

คำตอบที่ 17
       สวัสดีครับคุณขุน
เกียร์ 4 ที่เรียงใหม่ อัตราทด เท่าไหร่
และเกียร์ 5 ที่เรียงใหม่ อัตราทด เท่าไหร่ครับ (ใช่ 0.761 : 1หรือไม่)

ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 18
       สวัสดีครับ
ตอบคุณปาแมน
ผมคำนวณได้ 0.713 ครับ
รายงานผลการใช้เพิ่มเติมครับ ถังที่2 80 ลิตรวิ่งได้870 กม เฉลี่ย 10.8 ครับ ตอนนี้ปรับปั๊มดีเซลเล็กน้อย ขับสนุกกว่าเดิมครับ ไม่รอรอบเหมือนเก่า ซึ่งคุณโยแนะนำไว่แล้วครับแต่เพิ่งจะได้ทำ ขอเวลาเซ็ทรถอีกนิดครับน่าจะลงตัวในไม่ช้านี้ครับ
โชคดีครับทุกท่าน

คำตอบที่ 19
      

คำตอบที่ 20
       สวัสดีครับ
รายงานเพิ่มเติมครับ พังงา-ท่าศาลา สาย44 ความเร็วไม่ต่ำกว่า 120 อัตราการบริโภคอยู่ที่ 9.6 กมต่อลิตรครับ (ของเดิมอยู่ที่ประมาณ 8.7-8.9 กมต่อลิตรครับ)
ป.ล. 1. ตอนวิ่งฝนตกอากาศไมร้อนนะครับ
2. ไชโย กำลังจะได้กลับไปใช้น้ำมันพืชกันอีกแล้วนะครับ
โชคดีครับทุกท่าน

คำตอบที่ 21
      

คำตอบที่ 22
       อัตราทดเกียร์ 0.761 กับ 0.713 คิดคำนวณอย่างไรครับ อยากทราบเอาไปเป็นข้อมูลหน่อยครับ

คำตอบที่ 23
       สุดยอดครับ

คำตอบที่ 24
       สนใจอยากไปทำมั่งครับ ลองช่วยคำนวนดูหน่อยครับ ว่าจะคุ้มทุนเมื่อเราวิ่งไปสักกี่กิโลครับ
ผมคิดมาได้ตามที่พี่ ขุน310ว่ามาว่า "ปรกติ 1ถังวิ่งได้ 820 กม ที่100 กมต่อชม ใช้น้ำมัน 84 ลิตร ตอนนี้ 79.58 ลิตร วิ่งได้ 850 กม ที่ความเร็ว 110-120 กม ครับ" แสดงว่า 1 ถัง เท่ากับประหยัดได้ 4 ลิตรต่อ 850 โล ราคาน้ำมัน 25/ลิตร = 100 บาท ต่อ 850 กิโล
ดังนั้น พี่ขุน310 ลงทุนไป 8300+5000 = 13200
เอา 13200 หารด้วย 100 บาท = 132
เอา 132 มาคูณ กับ ระยะทาง 850 ก็จะได้ระยะทางที่คุ้มทุน ก็คือ 112,200 กิโลเมตร
ผมไม่ค่อยแน่ใจในวิธีคิดของผมสักเท่ารั่ยเพราะดูผลลัพท์แล้วมันนานมากกว่าจะคุ้มทุน พี่ๆท่านอื่นลองช่วยผมคิดหน่อยสิครับ จะได้ประกอบการตัดสินใจของผมและเพื่อนๆก้วยครับ ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 25
       ผมไม่ได้เน้นที่ประหยัดเป็นอันดับแรกครับ ก่อนไปเรียง เกียร์ 5 วิ่งร้อยก็สามพันกว่ารอบ เสียงเครื่องดังจนน่าเป็นห่วง แต่ไปเรียงมาแล้ว เกียร์ 5 ผมเริ่มทำงานได้ตั้งแต่พันกว่ารอบ 100 ได้ราวสองพันหก รวมๆแล้ว เวลาเดินทางไกลรอบเครื่องลดลงมากจนเสียงเครื่องยนต์ไม่ครางอย่างเก่า ถ้าวิ่งที่ 80 เครื่องทำงานแบบสบายๆ ในความเห็นของผม เป็นการถนอมเครื่องยนต์ ให้มีอายุยืนยาวขึ้น ส่วนอัตราสิ้นเปลือง คงคิดโดยตรงจากรอบที่ทดไม่ได้ทีเดียว เพราะรถมันวิ่งเร็วขึ้น แรงต้านลมคงมากขึ้นด้วย ต่อลิตรผมได้ระยะทางเพิ่มขึ้น ราวๆ 1 กม. แต่แช่ที่ 120 ได้นานขึ้นแทบไม่จำกัดโดยเครื่องไม่ครางไม่ร้อน ก่อนหน้านี้วิ่ง 120 ได้ ไม่ถึง 10 นาที เข็มความร้อนขึ้นไม่หยุด หลังเรียงเกียร์ผมเดินทางได้ที่ความเร็วเฉลี่ยมากกว่าเดิม ประหยัดกว่าเดิมเล็กน้อย ถ้าวิ่งที่ 80-100 เท่าเก่าอาจประหยัดได้มากกว่านี้ ความเร็วปลายเดิมต้องลากกว่าจะได้ 130 ตอนนี้ขึ้นแบบไหลๆไป 140 ยังขึ้นได้อีก
ที่ได้ประโยชน์อีกอย่างคือเงียบขึ้น ฟังเพลงระหว่างเดินทางได้สบายขึ้น วิ่ง 100 นุ่มนวลสบายๆและเร่งได้ทันที

คำตอบที่ 26
       อ๋อ...ผมเข้าใจละครับ พอจะสรุปข้อดีหลังจากเรียงเกียร์คร่าวๆได้ประมาณนี้ใช่มั๊ยครับ
1. เสียงเครื่องเงียบขึ้นในรอบเท่ากัน มีผลให้เครื่องยนต์ทำงานไม่หนักมากในรอบความเร็วสูง...ยืดอายุเครื่องได้อีกทาง
2. ประหยัดน้ำมันอีกเล็กน้อย
3. ฟังเพลงเพราะขึ้น...

....ผมมีคำถามอีกนิดครับ ในกรณีนี้คือที่เราไปเรียงเกียร์เพราะรอบมันยังเหลือที่เกียร์5 ถ้าเราใส่ยางใหญ่ขึ้นประมาณ 33" โดยไม่ต้องเรียงเกียร์ น่าจะทำให้รอบในเกียร์5 พอดี มั๊ยครับ(ในกรณีที่ไม่คิดถึงความประหยัดนะครับ)

คำตอบที่ 27
       สรุปเรียงแล้วดีขึ้นไช่ไหมครับ

คำตอบที่ 28
       นั่นสิครับ อยากรู้เหมือนกันว่าเรียงแล้วดีขึ้นจริงหรือเปล่า.

คำตอบที่ 29
       เรื่องดีไม่ดีหรือคุ้มหรือไม่ ของแต่ละท่าน คงต้องใช้ดุลยพินิจเอาเองครับ พอดีรถผมใช้เดินทางไกล และขึ้นเขาลงห้วยบ้าง วิ่งในเมืองบ้าง โดยที่ไม่ได้บรรทุกหนัก หรือเอาไปลากจูง ก่อนไปเรียงเกียร์ต้องใช้รอบเครื่องยนต์ค่อนข้างสูง เมื่อเรียงเกียร์มาแล้ว ช่วงเดินทาง เครื่องยนต์ทำงานอยู่ราวๆ 2 -3 พันรอบ ซึ่งเป็นรอบที่มีแรงบิดและแรงม้าพอเพียงกับความต้องการใช้เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อน จึงไม่ร้อน และเดินทางได้ความเร็วเฉลี่ยมากกว่าเดิม ส่วนวิ่งในเมือง ที่รอบต่ำ ราวซักพันกว่ารอบ ถ้ารถไม่ติดผมก็ใช้เกียร์ 5 ได้เลย พอเกือบๆ 2 พันรอบก็มีกำลังพอจะวิ่งขึ้นโทลเวย์ได้ เร่งแซงได้ ช่วงที่ไปเรียงเกียร์ ก็ได้โอเวอร์ฮอลล์ และซ่อมแซมเกียร์เดิมๆไปด้วย สำหรับผมก็พอใจมากครับ
รอบที่ลดได้ ประมาณ 300 รอบต่อนาทีที่ความเร็ว 100 ถ้าคิดว่าบางวันผมวิ่งใช้เกือบ 5-6 ชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เกียร์ 5 เครื่องยนต์ทำงานด้วยรอบน้อยลงเยอะมากครับ

คำตอบที่ 30
       1. เสียงเครื่องเงียบขึ้นในรอบเท่ากัน มีผลให้เครื่องยนต์ทำงานไม่หนักมากในรอบความเร็วสูง...ยืดอายุเครื่องได้อีกทาง
2. ประหยัดน้ำมันอีกเล็กน้อย
3. ฟังเพลงเพราะขึ้น...
คำตอบนี้โดนใจมาก

คำตอบที่ 31
       คุณปาท่องโก๋ครับ ผมใส่ยาง 33 รอบเครื่องยังเหลือครับ ผมคิดว่าจะไปเรียงเกียร์เหมือนกัน เมื่อก่อนผมใช้สตาร์ด้า เครื่อง 4D56 นี่แหละ เรืยงเกียร์ 5 ประหยัดน้ำมันไปเยอะเลยครับวิ่งทางไกล แต่มีข้อเสียอย่างนึงครับ คือ บรรทุกของหนักแล้ววิ่งไม่ค่อยออกครับ แต่ถ้าเป็นปาเจโร่ รถก็ไม่ค่อยจะได้บรรทุกอะไรอยู่แล้วนี่ครับ ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาน่ะ

คำตอบที่ 32
       ขอบคุณมากครับคุณ Choi56 สำหรับข้อมูล เนื่องจากผมได้ปรึกษาพี่ๆในกลุ่มหลายคน ผมเองได้ขอสรุปดังนี้ครับ
1. การเรียงเกียร์ส่วนใหญ่จะทำการเปลี่ยนแปลงช่วงเกียร์ 5 เท่านั้น เพื่อทดรอบ ส่งที่ได้มาคือ
- รอบจะลดลงเมื่อใช้เกียร์สูง 4-5
- ช่วงเกียร์ต่ำ 1 - 3 หรือ 4 (ในบางเจ้า) รอบจะเท่าเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
- รอบที่ลดลงในเกียร์ 5 ประมาณ 250 - 300 รอบต่อนาที มีผลทำให้ แน่นอนเสียงเครื่องเบากว่าเดิมเล็กน้อย เครื่องทำงานเบาขึ้นเล็กน้อย ประหยัดน้ำมันหรือเปล่าข้อนี้ยังไม่มีใครยืนยันชัดเจนแต่ตามหลักการ ในความเร็วเดียวกันก็น่าจะประหยัดขึ้นเล็กน้อย
- อันนี้เป็นข้อที่อาจจะเป็นกันหลังจากเรียงเกียร์มาคือ ช่วงเกียร์ห่าง 3 เข้า 4 หรือ 4 เข้า 5 ต้องรอรอบกว่าเกียร์เดิม
- ความสามารถในเชิงบรรทุก ขึ้นทางชัน ลดลงในรอบของเกียร์สูง 4-5 แต่ไม่มีผลในช่วงเกียร์ต่ำ

คร่าวๆนะครับ ลองตัดสินใจกันดูส่วนตัวผม ตอนนี้คงยังไม่ทำครับ เพราะ การเรียงเกียร์ยังไม่สามารภตอบโจทย์ของผมได้ และยังไม่ใช่ทางออกของผมครับ