คำตอบที่ 1681
       แน่นอนครับ ไม่ต้องลุ้นเลย ตามภาพนั่นคือ อาการน้ำลงอ่าง ซึ่งหมายความว่า น้ำลงไปปนกับน้ำมันเครื่องเป็นที่เรียบร้อย ตีรวมกันจนเป็นสีนม สาเหตุหลักที่สำคัญ ก็คือ เครื่องยนต์ร้อน ฮีทมา ทำให้ระบบหมุนเวียนของน้ำมีปัญหาข้ามมาหาถึงกันได้หรือเข้ามาหาถึงกันได้ระหว่างห้องของน้ำและน้ำมันเครื่อง ส่วนปัญหาจะมาจากจุดไหน ฝาสูบจะแตกหรือแค่โก่ง ก็ต้องตามมาดูกันครับ รื้อกันยกใหญ่ไปครับงานนี้

และนี่คือ การซ่อมเครื่องเดิม G13A จากการโอเวอร์ฮีท เพื่อให้สอดคล้องกับยุคเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองแบบนี้

เพื่อให้สอดคล้องกับยุคฝืดเคือง ก็ต้องซ่อมเก่าใช้งานไปก่อนครับ จาก : sorapol(sorapol) 22/9/2561 21:45:46 [1.20.250.60]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1682
       เริ่มต้นจากการถ่ายน้ำมันเครื่องออกมาก่อนเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1683
       สีน้ำมันเครื่องกลายเป็นสีนมข้น อันเนื่องมาจากน้ำจากหม้อน้ำลงมาถึงกัน แล้วตีรวมกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1684
       เริ่มถอดจากฝาครอบวาล์วเครื่อง รื้อบริเวณรอบๆเครื่องทั้งหมด หม้อน้ำ เพื่อจะได้สังเกตดูจุดต่างๆที่อาจมีปัญหาได้ หรืิอว่าทำให้น้ำหายไป เช่น รอยรั่วของน้ำ ปั๊มน้ำรั่วไหม ท่อน้ำข้างเครื่อง เป็นต้น

สาเหตุดังกล่าว อาจเป็นได้ทั้ง ฝาสูบโก่ง และฝาสูบแตก ส่วนจะเป็นกรณีไหนก็ต้องรื้อและตรวจเช็คดูครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1685
       เปิดฝาครอบวาล์วออกมา ด้านบนจะเห็นคราบน้ำมันเครื่องที่ปนกับน้ำมากมายเต็มไปหมดครับ คราบพวกนี้ถ้าหากว่าไม่รีบทำนอกจากจะทำให้เครื่องมีปัญหาแล้วยังทำให้ภายในเครื่องเป็นไอเหงื่อเกิดสนิมจากความความชื่นของน้ำได้อีกด้วยในระยะยาว เช่น ไม่ซ่อมแล้วจอดทิ้งไว้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1686
       ทุกจุดทุกอนูครับ ที่น้ำมันเครื่ิองไปถึงน้ำก็ไปด้วย ปนรวมกันไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1687
       จัดการยกฝาสูบออกมาด้านนอกเลยครับ แล้วลองมานั่งพิจารณาและสังเกตดูว่า มันเป็นยังไง อะไร ตรงไหน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1688
       ยกออกมาครับ ลองดูจากรูปว่า เราพบอะไรบ้าง
ในรูปเป็นฝาสูบที่ถูกหงายด้านล่างขึ้นกลับมานะครับ เหมือนจะดูเรียบร้อยและแห้งดีในเบื้องต้น ซึ่งก็ถือเป็นปกติของฝาสูบที่ทำงานร่วมกันในระบบเครื่องยนต์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1689
       แต่เมื่อดูใกล้ๆ สิ่งนี้ คือ ความผิดปกติครับ
ในรูปจะเห็นว่า รอยขอบของปะเก็นที่กดทับกับฝาสูบ จะมีรอยจางๆหายบางไประหว่างช่องของลูกสูบ เช่น จากสูบหนึ่งมาสูบสอง หรือจากสูบสามมาสูบสี่ เป็นต้น ซึ่งปกติแล้วถ้าเครื่องยนต์ที่ทำงานปกติทั่วไปรอยพวกนี้จะต้องเข้มเสมอรอบเป็นวงกลมครับ ไม่ได้จางหายแบบในรูป ซึ่งร่องรอยแบบนี้ มักจะเรียกกันทั่วไปว่า "น้ำข้าม" ซึ่งก็จะทำให้กำลังอัดรั่วข้ามอีกสูบไปยังอีกสูบหนึ่งครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1690
       อีกรูปครับ ใกล้ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1691
       ในรูปนี้ จะเป็นตำแหน่งจากสูบ 1 มาสูบ 2 ก็มีร่องรอยเหมือนกันครับแต่ดูจะน้อยหน่อย เหมือนพึ่งจะเริ่มข้ามหรือข้ามแต่น้อยกว่าสูบอื่นครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1692
       ยิ่ง 2 สูบนี้ชัดเจนเลยครับ ข้ามเยอะที่สุดกว่าทุกสูบเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1693
       จุดอื่นๆก็ทั่วไปครับ ขอบมีบางจางกันอีกด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1694
       ลองมาดูที่เสื้อสูบกันบ้างครับ

ตามภาพก็ไม่แตกต่างอะไรกันกับฝาสูบ นั่นคือ มีร่องรอยของน้ำกับกำลังอัดที่ได้ข้ามไปถึงกัน โดยเฉพาะจากสูบ 1 ไปสูบ 2 และจากสูบ 3 ไปสูบ 4 ครับ จะเห็นรอยจางขาวๆขอบไม่คมเหมือนวงรอบๆของมัน ซึ่งการที่มันจางๆนี้มันคือ ความโก่งของฝาสูบที่เกิดขึ้นทำให้หน้าสัมผัสไม่เรียบเหมือนเดิมทำให้กำลังอัดรั่วข้ามไปได้ บางทีที่จะเคยได้ยินกันในเรื่องของที่ว่า "ถ้าน้ำเข้าไปปนกับหม้อน้ำมักจะเกิดจากการที่ฝาสูบโก่ง" ส่วนถ้า "น้ำลงไปปนกับน้ำมันเครื่องที่อ่างแคร้งด้านล่าง นั่น คือ ฝาสูบแตก" แต่ก็อย่าพึ่งด่วนสรุปอะไรกันไปเป็นแบบแผนกันขนาดนั้นนะครับ เพราะบางกรณีก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น 100% ซึ่งกรณีนี้ก็เช่นกันครับ เราจะต้องทำการตรวจสอบตรวจเช็คฝาสูบก่อนเพื่อให้แน่ใจว่า มันมีร่องรอยอะไรเพิ่มอีกไหมนอกเหนือจากที่ฝาโก่ง โดย 2 วิธี คือ
1.มองด้วยตาเปล่าเบื้องต้น เพื่อดูว่า มีรอยแตกตะเข็บ รอยวิ่ง ซึ่งก็จะต้องขูดแคะทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนถึงจะดูได้ชัดเจน
2.นำฝาสูบไปอัดน้ำหรือว่าเทสฝาสูบ เพื่อความแน่ใจอีกทีครับ เพราะว่าถ้าหากว่า เรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็นแล้วเราก็นำไปไสฝาสูบเพื่อให้เรียบดังเดิม แล้วนำมาประกอบอาจจะต้องได้รื้อกันอีกรอบครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1695
       ทีนี้ลองมาดูที่เสื้อสูบกันบ้างครับ ว่ามันบอกอะไรอีกบ้าง

บอกก่อนเลยนะครับว่า จุดสำคัญที่จะทำเครื่องแล้วจบหรือไม่จบมันอยู่ที่ตรงจุดนี้ด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1696
       สังเกตจากรูปดูครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1697
       จากรูปด้านบน ลองมาดูใกล้ๆครับ
จะเห็นว่า รอยจางๆขาวจะเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับฝาสูบด้านบนครับ นั่นคือ รอยน้ำข้ามหรือกำลังอัดข้ามก็แล้วแต่จะเรียกกัน ซึ่งจะเกิดขึ้นจากสูบ1 มาสูบ 2 และจากสูบ 3 มาสูบ 4 ครับ ที่ปรากฎให้เห็นชัดเจน ส่วนรอยจากสูบ 2 มาสูบ 3 จะเกิดขึ้นไม่ชัดเท่าไหร่เหมือนทางด้านของฝั่งฝาสูบเช่นกันครับ ซึ่งสาเหตดังกล่าวก็ขึ้นอยู่กับว่า ภาวะความร้อนที่เกิดขึ้นมันมากน้อยแค่ไหน ช่วงระยเวลาที่เกิด ซึ่งก็จะมีผลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นซึ่งจะเอาแน่เอานอนเลยไม่ได้

และสิ่งที่เห็นนี้ คือ อาการโก่งของเสื้อสูบด้วยครับ ไม่ใช่แค่รอยเฉยๆนะครับ และสิ่งนี้เองที่หลายๆคนมักจะไม่ค่อยเชื่อกันว่า เสื้อสูบมันจะโก่งได้เหรอ โก่งไม่ได้หรอกหนาขนาดนี้ ซึ่งสุดท้ายกลายมาเป็นที่มาหลักๆของการซ่อมเครื่องฮีทแล้วมักไม่ค่อยจบครับ คือมักจะทำกันแค่เอาฝาไปไสเรียบแล้วนำกลับมาประกอบกลับไปเหมือนเดิม จะเปลี่ยนปะเก็นหนาอะไรก็ว่ากันไป สุดท้ายความร้อนยังคงวนเวียนกันอยู่เหมือนเดิมจุกจิกกันต่อไป ก็เพราะว่า กำลังอัดมันยังคงรั่วอยู่นั่นเอง

ส่วนภาวะการโก่งของเสื้อสูบ เท่าที่เคยผ่านมือทำและซ่อมมามักจะโก่งในลักษณะตามความยาวของเครื่องยนต์ครับ นั่นก็คือ ตามรอยจางๆที่เกิดขึ้นเลยนั่นแหละครับ ซึ่งเราวามารถทดสอบได้ง่ายๆโดยการนำเอาฟุตเหล็กมาวางทาบขวางกับตัวเครื่องยนต์ แล้วนำกระดาษหนังสือพิมพ์มารอดใต้ฟุตเหล็กดูครับ ซึ่งในบริเวณของรอยจางนั้นกระดาษจะสามารถรอดไปได้อย่างสบายๆครับ หรือจะเอาไฟฉายมาลองส่องก็ได้เช่นกันครับ แสงก็จะรอดผ่านในจุดดังกล่าวได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1698
      

แสดงความคิดเห็นย่อย