คำตอบที่ 1141
       เมื่อทำการดัดแปลงและติดตั้งระบบแหนบในส่วนของช่วงล่างไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งก็จะทำให้เราได้ทราบถึงน้ำหนักโดยรวมของรถคร่าวๆที่ครอบคลุมกว่า 85% ขึ้นไปแล้ว ซึ่งก็จะทำให้เราสามารถที่จะดำเนินการในขั้นตอนของเรื่องเพลากลางได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นลำดับต่อไปครับ

ในส่วนของเพลากลางนี้ มันจะมีรายละเอียดตรงที่
1. เพลากลางของรถอะไร
2. ยอยที่จะนำมาใช้เป็นของอะไร

โดยปกติทั่วไปแล้ว เพลากลางที่เป็นที่ยอดนิยมมากที่สุดที่จะนำมาใช้ดัดแปลงกับรถออฟโรดมักจะมาจากค่ายโตโยต้าครับ เพราะว่ามีมากมายหลายรุ่นให้เลือก ทั้งแบบท่อนเดียวหรือ 2 ท่อนผ่านระบบตุ๊กตาเพลากลางหิ้วไว้ ความยาวความสั้น ยาวมาก ยาวน้อย อีกทั้งเรื่องของระบบยอยกากบาทที่หาได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป หรือจะเอาเป็นยอยขาอ็อกแท้ๆที่มาจากญี่ปุ่นเลยก็เยอะ หาเลือกตัวดีๆแน่นๆใกล้เคียงของใหม่ก็มีมากมายตามท้องตลาดครับ

 แก้ไขเมื่อ : 22/12/2556 22:08:37

 แก้ไขเมื่อ : 22/12/2556 22:12:51

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1142
       ซึ่งสำหรับคันนี้ผมได้เลือกใช้เพลากลางของรถโตโยต้าล่ะครับ แต่เป็นรุ่นของพวก Newsurf ซึ่งมีขนาดที่เหมือนกันกับไทเกอร์บ้านเรา กล่าวคือ มันจะมีขนาดเพลาที่มีความใหญ่โตอยู่พอสมควร ใหญ่กว่าพวก 106/65 ทั่วๆไปครับ ซึ่งจริงๆแล้วในจุดนี้ มันก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ในเรื่องของความแข็งแรงทนทานในเรื่องของการรับแรงบิดนะครับ คือทางโรงงานที่เค้าได้ออกแบบมานั้นในเรื่องของขนาดที่แตกต่างกัน แต่ในเรื่องความหนาของเนื่อเหล็กของตัวเพลามันก็จะมีสัดส่วนที่บอบบางลงไปเช่นกัน ถ้ายิ่งเล็กมันก็ยิ่งหนา ถ้ายิ่งใหญ่มันก็จะมีความบางลดลงไป ซึ่งมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะด้อยค่าลงไปในเรื่องของการรับแรงบิดของเครื่องยนต์นะครับ เพียงแต่ว่าทางโรงงานเค้ามีเหตุผลในการทำออกมา อาจจะเป็นเรื่องของการรับแรงสะท้าน การบาลานซ์น้ำหนักที่อาจจะทำได้ง่ายกว่า หรือการรับแรงสั่นสะเทือนที่สามารถยัดพวกกระดาษแข็งหนาๆเข้าไปไว้ในเพลาได้มากกว่าเพลาขนาดเล็กทั่วไปซึ่งก็จะทำให้ซับแรงสะท้านต่างๆได้ดีขึ้น เพราะถ้าหากว่าเพลาที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่ยังคงมีความหนาที่เท่าเดิมไปเรื่อยๆ มันก็ยิ่งทำให้มีน้ำหนักเพลากลางที่หนักมากขึ้นไปเรื่อยๆอีกเช่นกัน ซึ่งมันก็จะส่งผลเสียตามมาอีกมากมาย อย่างเช่น การถ่วง การบาลานซ์อาจจะทำได้ยากกว่าเดิม หรือการใช้งานไปนานๆจะทำให้พวกลูกปืนท้ายเกียร์ ยอยกากบาทต่างๆ ครอนหรือเสียหายเร็วขึ้นกว่าเดิม ใช้ๆไปแล้วหน้าแปลนท้ายเกียร์หน้าแปลนเฟืองท้ายลุนได้ ซีลก็รั่วไม่รู้จบ เป็นต้น

ดังนั้น เหตุผลที่เลือกเพลารุ่นนี้มา ก็คือ ขนาดใหญ่ดีแลดูบึกบึน และเป็นของรถรุ่นใหม่ขึ้นมาซึ่งมีความใหม่อยู่พอสมควรทำให้พวกบรรดายอยกากบาทต่างๆ และสปายเลื่อนสวมค่อนข้างแน่นเหมือนใหม่ ก็เลยเลือกมาใช้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1143
       ทีนี้เมื่อเรานำเพลาของรถโตโยต้ามาปรับใช้เข้าไป มันก็จะต้องมีการแก้ไขดัดแปลงในส่วนอื่นด้วย เพราะว่าคานหน้าหลังของคันนี้มันเป็นของ Jeep ซึ่งคนละยี่ห้อกันเลย แถมตัวเกียร์ก็เป็นของไดฮัทสุอีกต่างหากด้วย ดังนั้นจึงได้ทำการดัดแปลงในส่วนของหน้าแปลนเฟืองท้ายที่ตัวคาน Jeep แทนซึ่งน่าจะเหมาะสมมากที่สุด เพื่อที่จะให้เป็นรูเป็นบ่าเข้าแบบเดียวกันกับของเพลากลางโตโยต้า

ส่วนที่ตัวท้ายเกียร์ไดฮัทสุ ผมเลือกยอยที่เป็นยอยกากบาทแท้ๆของเกียร์ไดฮัทสุเลยครับ ไม่ต้องไปยุ่งรื้อที่ท้ายเกียร์ออกมา ซึ่งยอยกากบาทของไดฮัทสุนี้ก็ยังคงหาได้ตามท้องตลาดทั่วไปอยู่ แต่สาเหตุหลักๆที่ได้เลือกใช้ยอยของ Rocky นี้ก็คือ ขนาดยอยกากบาทมีความใหญ่โตกว่าของโตโยต้าครับ ซึ่งก็จะได้ผลดีในเรื่องของความแข็งแรงทนทานที่มากกว่าครับ ซึ่งก็ทำให้ไม่ต้องไปดัดแปลงที่ตัวหน้าแปลนท้ายเกียร์เลยทั้งหน้าเกียร์สโลว์และท้ายเกียร์สโลว์

และทั้งหมดนี้จะเห็นว่า ทั้งเพลากลางทั้งหน้าและหลังก็เป็นระบบเพลากลางที่ยังคงใช้ซึ่งยอยกากบาทธรรมดาแบบ 4 ทิศทั่วๆไป ซึ่งตรงจุดนี้ก็ได้ผลพลอยได้มาจากการที่ได้เลือกใช้ตัวเกียร์ที่มีความเหมาะสมกับตัวรถ มีขนาดกะทัดรัด ตัวเกียร์สั้น เหมาะกับรถแบบช่วงสั้น ทำให้เพลากลางทั้งหน้าและหลังไม่มีความชันมากแต่อย่างใด สุดท้ายก็ไม่ต้องไปพึ่งพาระบบยอย 8 ทิศมาให้มันหนักที่ท้ายเกียร์ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1144
       เช่นเดียวกันกับเพลากลางท่อนหน้าครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1145
       แนวหน้าแปลนที่เกียร์สโลว์ที่อยู่ในแนวเดียวกันกับแนวหน้าแปลนเฟืองท้ายของคานหน้า แทบจะมีแนวเดียวกันไม่มีผิดเพี้ยนกันเลยแม้แต่น้อย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1146
       ระดับแนวความชันของเพลากลางท่อนหน้าซึ่งก็ไม่ได้พึ่งพายอย 8 ทิศอีกเหมือนกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1147
       ตัวสปลายสวมเลื่่อนนี้จะต้องมีการคำนวณที่แตกต่างกันกับการวางแบบใช้โตงเตงอยู่สวิงหน้านะครับ เพราะมันจะต้องเผื่อระยะของการยุบเข้ามาหาเกียร์สโลว์ด้วยตามการทำงานของโตงเตงแบบสวิงหลัง

 แก้ไขเมื่อ : 22/12/2556 23:20:22

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1148
       ระยะ Bumpstop ที่ได้ถูกสร้างและกำหนดขึ้นมาใหม่ตามความเหมาะสมตามเนื้องานที่ได้ดัดแปลงขึ้นมา เพื่อรักษาระยะการยุบตัวให้เหมาะสม ป้องกันการทรุดตัวของแหนบในกรณีที่มีการใช้งานหนักๆ มีการใช้วินช์ที่ต้องดึงกดหน้าแรงๆ การขับขี่แบบกระแทกแรงๆ และสุดท้ายคือ ป้องกันไม่ให้รถคว่ำ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1149
       ไล่เชื่อมทุกจุดตามความเหมาะสมและจำเป็นให้เรียบร้อยและแข็งแรง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1150
       เมื่อดัดแปลงในส่วนต่างๆของช่วงล่างหมดทุกจุดแล้ว ก็เก็บรายละเอียดในส่วนของงานสีต่อไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1151
       ทั้งคานหน้าและคานหลัง กับหลายๆจุดที่มีการดัดแปลงตบแต่งเพิ่มเติมเข้าไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1152
       เก็บงานสีทั้งหมด ทั้งจุดที่ได้มีการดัดแปลงเพิ่มเติมเข้าไป เช่น จุดยึดกันกระแทก เบ้าโช้ค จุดยึดโช้คบน/ล่าง หรือแม้กระทั่งจุดเดิมพวกเสื้อเพลาหน้า/หลัง รวมทั้งคัทซีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง คันชักคันส่ง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1153
       รวมทั้งสาแหรกแหนบด้วย จากของเดิมที่ได้ผ่านการใช้งานมาแล้วตามสภาพ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1154
       ก็ได้ถูกเก็บงานด้วยเช่นกัน ทุกจุดทุกอนู

สาแหรกตัวนี้ได้ถูกดัดแปลงใช้งานมากับรถเดิมตั้งแต่แรกนะครับ เป็นสาแหรกขนาดใหญ่(มาก) ขนาดความอ้วนของมันประมาณโคนนิ้วชี้ล่ะครับ มันเป็นสาแหรกของเบนซ์ MB 4x4 รุ่นเก่าที่สามารถใส่กับวงรอบของคาน Jeep ได้แบบพอดิบพอดี ตอนนี้คงจะหายากกันพอสมควรครับเพราะมันเก่าแล้ว ซึ่งในตอนแรกก็คิดว่า อาจจะใช้งานต่อไปไม่ได้เพราะอาจจะมีสัดส่วนความสูงของแหนบแผ่นหรืออานแหนบที่อาจจะสูงจนอาจจะเกินความยาวของสาแหรกตัวนี้ไป แต่สุดท้ายก็พยายามใช้มันจนได้ตามความเหมาะสม และตามความต้องการของเจ้าของรถ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1155
       สภาพโดยรวมของคานหลัง ที่ยังคงเหลือรายละเอียดอยู่บ้างอีกนิดหน่อย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1156
       ส่วนอันนี้จะเป็นภาพโดยรวมของด้านหน้าทางฝั่งคนขับที่มีระบบกระปุกเพาเวอร์ของ Prado78 ที่ได้ทำการดัดแปลงติดตั้งลงไป รวมทั้งชุดแหนบหน้าของ Procomp แบบไม่มีการใช้แหนบ ADD เข้ามาเสริม ซึ่งทั้งหมดก็ได้ถูกกดน้ำหนักแทบจะทั้งหมดของตัวรถแล้ว(ขาดแค่กันชนกับวินช์หน้า)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1157
       จากนั้นก็ดำเนินการในเรื่อง Accessory อื่นๆเพิ่มเติมกันไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็น งานกันชน งานวางวินช์หน้า งานวางวินช์หลัง การ์ดกระจก เป็นต้น ซึ่งปัจจัยต่างๆดังกล่าวนี้มีผลต่อน้ำหนักรถโดยรวมสุทธิทั้งหมดอีกทีครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1158
       และสาเหตุที่ต้องมีการสร้างกันชนขึ้นมาใหม่นี้ ก็เพราะได้มีการเปลี่ยนวินช์หน้าใหม่เป็นรุ่น 9.5XP ซึ่งวินช์รุ่นนี้ถ้าผมดูไม่ผิดก็น่าจะเป็นรุ่นที่มอเตอร์มีความยาวมากที่สุดในบรรดาวินช์ทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถที่จะติดตั้งเข้าไปในกันชนแบบทรง ARB เดิมๆได้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1159
       ชุดมอเตอร์ของวินช์รุ่นนี้ล่ะครับ ค่อนข้างที่จะมีความยาวมาก ถ้าจำไม่ผิดก็จะเป็นตัวมอเตอร์รุ่น 6 แรงม้า ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีก็จะมีไล่ขึ้นไปตั้งแต่ตัว 2.5 แรงม้ารุ่นเก่าแรกเริม ไล่มาเป็นรุ่น 4.6 แรงม้า ซึ่งกันชนพวกทรง ARB เดิมๆทั่วไปจะติดตั้งได้สูงสุดก็รุ่น 4.6 แรงม้า พวกมอเตอร์รุ่นหลังๆที่ออกมาแล้วมีครีบระบายความร้อนด้วยจะใส่ติดตั้งเข้าไปไม่ได้ จะต้องทำการดัดแปลงแก้ไขกันไปครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1160
       แต่สำหรับคันนี้แก้ไขด้วยการตีขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อความเหมาะสมที่มากขึ้น รวมถึงเรื่องของการเซอร์วิส รื้อถอด โดยการติดตั้งไว้แบบบนกันชนเพื่อที่จะรื้อถอดได้ง่ายกว่า ระดับวินช์ที่ได้ถูกยกระดับให้สูงขึ้นมาจากแนวกันชนทรง ARB แบบเดิมๆ ทำให้ลดภาวะเกี่ยวกับเรื่องหน้ารถจมบ่อโคลนแล้วทำให้ตัววินช์จมลงไปในโคลนด้วย น้ำโคลนก็จะเข้าไปได้ง่ายกว่าแบบการติดตั้งที่อยู่สูงขึ้นมาครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1161
       ขนาดมอเตอร์ที่มีความยาวทีเดียวครับ บางทีก็แก้ไขกันแบบวางวินช์ให้เยื้องไปทางฝั่งคนนั่งหน่อย ก็ช่วยได้ครับ แต่ตัวโรลเลอร์ก็จะไม่อยู่ตรงกลาง หรือไม่ก็ยึดโรลเลอร์เอียงตามไปด้วยก็เก๋ไปอีกแบบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1162
       ระดับแนวของวินช์ที่อยู่สูงเทียบเท่าระดับกระจังหน้า ซึ่งมีความสูงมากกว่าแบบเดิมที่อยู่ในกันชนที่อยู่ในระดับใต้คานหม้อน้ำล่าง อีกทั้งตัวระดับกันชนตัวนี้ก็ได้มีการยกขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงกว่ากันชนแบบทั่วๆไปอีกนิดนึงด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1163
       และไหนๆก็สร้างกันชนขึ้นมาใหม่แล้ว ก็เพิ่มเติมรายละเอียดที่สำคัญเข้าไปอีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือ กันแคร้งปิดหม้อน้ำด้านล่างครับ สืบเนื่องมาจากหม้อน้ำที่นำมาใช้ติดตั้งมีขนาดใหญ่ทำให้มีแนวหม้อน้ำที่เลยลงมาด้านล่างอยู่พอสมควร เวลานำไปใช้งานอาจจะเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นจึงสร้างแผ่นปิดกันแคร้งขึ้นมาใหม่จากอลูมิเนียมแผ่นตามสเปคที่เราต้องการ ตัดพับให้เข้ารูปแล้วสร้างจุดยึด 4 จุด คือ ที่ตัวกันชนหน้า(ที่สร้างอยู่) 2 จุด และที่คัทซีอีก 2 จุดครับ

 แก้ไขเมื่อ : 28/12/2556 23:42:29

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1164
       เค้าโครงรูปแบบคร่าวๆเอาไว้ก่อนเพราะว่าบางจุดยึดที่จะต้องเจาะหรือสร้างเกลียวที่ตัวกันชนหรือผูกตัวเมียจะได้เชื่อมให้เรียบร้อย ก่อนที่จะตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งแล้วนำกันชนไปทำสี จบเป็นเรื่องๆไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1165
       จุดยึดกันแคร้งด้านหลังต้องทำให้เหมาะสม และจะต้องหลบแนวการทำงานต่างๆของระบบช่วงล่างด้วย หาเหลี่ยมได้ค่อนข้างยากจริงๆครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1166
       แล้วก็อย่าลืมเก็บงานสีด้วยทุกครั้ง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1167
       งานนอกรถได้ดำเนินการไปค่อนข้างมากแล้ว ส่งอุปกรณ์ต่างๆไปเก็บงานสีอยู่ เราก็มาสะสางงานภายในรถกันบ้างครับ ซึ่งก็เริ่มจากการประกอบชุดคอนโซลหน้ารถ ตู้แอร์ ชุดแกนคอพวงมาลัย ซึ่งก็จะรวมถึงเรื่องระบบไฟบางส่วนด้วยที่อาจจะมีความเกี่ยวเนื่องกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1168
       ตู้แอร์ที่สามารถประกอบติดตั้งยกขึ้นไปได้ตามความต้องการในตำแหน่งที่ใกล้เคียงจุดเดิม เพียงแต่จะมีความสูงขึ้นไปข้างบนอีกเพื่อหลบแนวห้องเครื่องที่ได้ถูกขยายเข้ามาในห้องโดยสาร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1169
       รูท่ออากาศแอร์ที่จะมาออกที่ด้านบนก็ได้อยู่ในตำแหน่งที่ปกติทั้งหมด ไม่มีอะไรผิดเพี้ยนครับ ตู้แอร์ก็อยู่ตำแหน่งที่กลางเหมือนเดิมหมด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1170
       ทุกช่องไม่มีปัญหาครับ ท่อแอร์ออกได้ตามปกติหมดทุกอย่าง ในจุดนี้ค่อนข้างที่จะได้ตามใจต้องการทีเดียวครับ เพราะว่าเครื่องยนต์ที่มีขนาดที่ใหญ่มักจะมีปัญหากับการวางตู้แอร์ในรถอยู่พอสมควร และที่สำคัญมันจะต้องเผื่อในเรื่องของการเซอร์วิสตรวจรื้ออะไรได้ง่ายด้วย (อันนี้สำคัญมาก) ซึ่งตู้แอร์ที่วางนี้ก็จะเป็นการวางแบบยกขึ้นไปใส่ทีหลังคอนโซลนะครับ คือติดตั้งคอนโซลหน้ารถก่อนแล้วก็ค่อยใส่ตู้แอร์เข้าไป ซึ่งมันก็จะเป็นขั้นตอนการถอดเข้าออกของรถบ้านทั่วๆไปปกติเลย

 แก้ไขเมื่อ : 29/12/2556 0:23:47

แสดงความคิดเห็นย่อย