คำตอบที่ 1291
       จากนั้นก็นำกลับมาติดตั้งในตำแหน่งเดิมของมัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1292
       แนวท่อลมที่บรรจงหาสายที่มีส่วนโค้งเว้าที่เหมาะสมกับเหลี่ยมนี้อย่างดีที่สุด จะได้ไม่ยาวเกะกะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1293
       ท่อก็เดินตามแนวเดิมของมันอยู่แล้ว มาเข้ากับตำแหน่งที่ท่อไอดีเพื่อที่จะเอาลมดูดจากระบบท่อไอดีมาใช้งาน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1294
       ส่วนท่ออากาศข้ามเครื่องจากตัวลิ้นปีกผีเสื้อมาเข้าที่หม้อกรองอากาศก็ทำการเก็บรายละเอียดในส่วนที่เหลือเพิ่มเติมให้ครบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1295
       รายละเอียดขายึดต่างๆที่จะต้องสร้างเพิ่มเติมเพื่อทำการยึดท่ออากาศชิ้นนี้ให้แน่นโดยผ่านระบบลูกยางอีกทีสำหรับการยืดหยุ่นให้ตัว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1296
       ก่อนที่จะนำมาติดตั้งในตำแหน่งจริงอีกที ซึ่งปกติแล้วตามฝาครอบวาล์วด้านบนนั้นจะมีรูฟรีอยู่หลายรู ทั้งเบอร์ 10 และเบอร์ 12 เราก็สามารถออกแบบจุดยึดได้ในตำแหน่งดังกล่าว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1297
       เติมน้ำมันเบรคและน้ำมันคลัชรอไว้แล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1298
       ในส่วนของตำแหน่งที่จะวางหม้อกรองซึ่งได้ถูกผ่าโหว่ไว้อยู่ ก็ทำการเชื่อมปิดเพื่อสร้างพื้นที่สำหรับยึดหม้อกรองให้อยู่ในระดับที่ต้องการได้ตามความเหมาะสม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1299
       เชื่อมปะ เก็บงานสี พ่นสีพื้น พ่นสีจริงให้เรียบร้อย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1300
       รายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆเล็กๆน้อยๆที่ได้ทำการเสริมเติมแต่งเข้าไปให้มีมาตรฐานตามแบบรถยนต์ทั่วไปอย่างครบถ้วน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1301
       นั่นก็คือ ตัวล็อคไม้ค้ำฝากระโปรงครับ ซึ่งมันได้ถูกตัดทิ้งออกไปเพื่อเพิ่มเนื้อที่ให้กับตำแหน่งยึดหม้อน้ำ ซึ่งก็ได้ทำชดเชยในรูปแบบใหม่ให้สามารถใช้งานได้ดังเดิม สามารถที่จะล็อคกิ๊บได้เหมือนเดิมตามแบบโรงงานที่มันมีมา

ส่วนข้างใต้นั้นก็จะเป็นท่อแอร์ร้อนที่วนจากตัว Compressor แอร์มาเข้าที่แผงร้อนหน้ากระจังโดยจะมีตัวยึดเพื่อไม่ให้สายแอร์ร้อยผ่านในตำแหน่งมุมหม้อน้ำหรือจุดไหนก็แล้วแต่ที่มีความแหลมคมในจุดที่หักมุมต่างๆ เพื่อการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้นครับ เพราะโดยปกติแล้วสายพวกนี้มันจะเชื่อมต่อตรงมาจากคอมแอร์ซึ่งเวลาเครื่องยนต์ทำงานก็จะมีแรงสั่นสะเทือนทั้งมากบ้างน้อยบ้าง ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องเบนซินก็ตามก็ต้องเผื่อเอาไว้จะได้มาตรฐานหน่อยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1302
       ซึ่งก็จะใช้งานได้ตามปกติเหมือนเดิมๆของมันที่มีมาครับ ก็สามารถเลือกที่จะเปิดฝากระโปรงแบบไหนก็ได้ทั้งหมด จะเปิดขึ้นไปพิงกับหลังคาด้านบน หรือจะใช้ไม้ค้ำก็ใช้งานได้หมดครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1303
       จากนั้นก็ดัดไม้ค้ำใหม่ให้ดูดีและเหมาะสมกับแนวราบและ Slope ของมัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1304
       จุดยึดอีกฝั่งหนึ่งก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ต้องไปทำอะไรเพราะสามารถใช้แบบเดิมๆต่อได้ตามปกติครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1305
       ดัดหลบให้ช่องไฟเหมาะสมกับความห่างของหม้อน้ำอย่างที่ควรจะเป็น เหมือนว่าไม้ค้ำได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับหม้อน้ำใบขนาดใหญ่ใบนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1306
       แนวระนาบที่ขนานกับแนวคานหม้อน้ำบนกับแนวฝาหม้อน้ำจะได้ลื่นตา กดลงกึ่บ แน่นๆไม่ก็อกๆแก๊กๆ

 แก้ไขเมื่อ : 2/2/2557 0:23:37

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1307
       (เข้าเรื่อง Lapland แว๊บนึง)
ในส่วนของระบบเกียร์สโลว์ของตัว Volvo จะมีอัตราทดในตำแหน่ง 4H อยู่ที่ 1:1 ซึ่งก็หมายความว่า เหมือนๆกับระบบเกียร์ทั่วไปเหมือนอย่างพวกตระกูลโตโยต้าที่ปั่นผ่านออกมายังเฟืองท้ายด้านหลังโดยที่ไม่ได้มีการทดอะไร ซึ่งตรงจุดนี้จะแตกต่างกันกับพวกเกียร์สโลว์คาริเบี้ยนแบบ 1300 ที่มีการทดผ่านออกมาอยู่ที่ (1:1.409)

ส่วนอัตราทดในตำแหน่งของ 4L อยู่ที่ 2.39:1 ซึ่งก็เป็นอัตรทดที่ใช้กันตามมาตรฐานรถ 4WD เหมือนกันครับ เพราะในย่านของ 4L ก็จะมีการทดที่มากกว่าย่าน 2H/4H อยู่แล้ว เพื่อสำหรับการใช้งานกับพื้นที่ที่มีความลาดชันมากกว่าพื้นที่ปกติทั่วไป ซึ่งถ้าหากเทียบกับเกียร์สโลว์รถซูซูกิ ก็จะมีอัตราทดในย่านเกียร์ 4L ที่มากกว่าเกียร์ 1300 คาริเบี้ยนอยู่หน่อย เพราะของสโลว์ 1300 คาริเบี้ยนจะอยู่ที่ 2.26 ครับ

สรุปการเปรียบเทียบกับอัตราทดเกียร์สโลว์ของซูซูกิ ได้ดังนี้
Volvo T-case อัตราทด 4H เท่ากับ 1:1 อัตรทด 4L เท่ากับ 2.39:1
Suzuki T-case (เกียร์ 1300) อัตราทด 4H เท่ากับ 1.4:1 อัตราทด 4L เท่ากับ 2.26:1
Suzuki T-case (เกียร์ 1000) อัตราทด 4H เท่ากับ 1.5:1 อัตราทด 4L เท่ากับ 2.51:1
Suzuki T-case (เกียร์ 650) อัตราทด 4H เท่ากับ 1.71:1 อัตราทด 4L เท่ากับ 3.01:1

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1308
       ส่วนอัตราทดของ Gearbox หรือเกียร์เมนหลักทั่วๆไป ซึ่งมองโดยรวมแล้วมันก็ปกติทั่วๆป เพราะมันก็ไล่จากทดเยอะสุดที่เป็นเกียร์ถอยหลัง ส่วนเกียร์ 1-4 ก็ไล่ Step ขึ้นไปเรื่อยๆจากทดมากไปยังทดน้อย อาจจะมองดูว่า ที่เกียร์สุดท้ายมันจบลงด้วยอัตราทด 1:1 ซึ่งดูเหมือนจะเยอะกว่ารถทั่วไปนิดนึงเพราะว่ารถทั่วๆไปมักจะอยู่ที่ 0.9:1 หรือ 0.8 กว่าๆ:1 ด้วยซ้ำ แต่รถในปัจจุบันมันมีอยู่ 5 เกียร์ครับ แต่เจ้า Volvo มันมีอยู่ 4 เกียร์และด้วยความเป็นรถในยุคเก่าสมัยนั้นซึ่งมักจะทำการออกแบบมาให้เหลือเฟือในส่วนของอัตราทดสำหรับการใช้งานอยู่แล้วก็น่าจะเป็นเรื่องปกติล่ะครับ ที่ในเกียร์ 4 ของ Volvo อยู่ที่ 1:1

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1309
       แต่สิ่งที่น่าสนใจมันคือ สิ่งนี้ครับ
มันก็คือ อัตราทดเฟืองท้าย ทั้งหน้าและหลัง ซึ่งสำหรับคาน Volvo นี้มันจะมีอัตราทดเฟืองอยู่ที่ 2.91:1 ซึ่งถือว่าเป็นอัตรทดที่น้อยมากทีเดียว เพราะถ้าหากเทียบกับขนาดของตัวรถโดยรวมทั้งหมด น้ำหนักโดยรวมทั้งหมด และความจุของซีซีเครื่องยนต์มันจะออกแบบมาใช้งานได้ยังไง เรี่ยวแรงมันจะเอามาจากไหน แล้วยิ่งถ้าหากนำไปใส่ยางใหญ่ๆแบบออฟโรดด้วยแล้วยิ่งเรี่ยวแรงหายเรียบครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่า ถ้าเป็นรุ่นหลังๆที่พัฒนาออกแบบมามันจะมีอัตราทดที่เป็นแบบนี้อีกหรือเปล่า คือ อาจจะมีการพัฒนาตัวเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้นแล้วก็ลดเฟืองลงไปอีก(ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่อง) หรือพัฒนาเฟืองให้มีอัตราทดเยอะขึ้นไปรับแทนโดยที่ยังคงใช้เครื่องยนต์ซีซีเท่าเดิมอยู่ มันก็ไม่น่าใช่.....???

แต่......มันยังมีทีเด็ดในรูปต่อไปครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1310
       รูปนี้ครับ...
รูปนี้ได้บ่งบอกในส่วนของคานที่ได้มีการเยื้องศูนย์ซึ่งแตกต่างจากระบบคานของรถทั่วๆไป และด้วยความที่เยื้องศูนย์นี้ทำให้มันจะต้องมีการทดเฟืองในส่วนบนของเพลาข้างผ่านลงมายังชุดเฟืองที่ล้ออีกทีหนึ่ง และระบบการทดตรงจุดนี้มันก็มีการทดอีกส่วนหนึ่งของชุดคานนั่นเอง ในรูปได้ระบบอัตราทดของชุดเฟืองล้ออยู่ที่ 2.06:1

ซึ่งถ้าหากเราคิดแบบง่ายๆ คือ นำตัวเลขอัตราทดของทั้ง 2 ส่วนมารวมกัน นั่นคือ อัตราทดเฟืองท้ายอยู่ที่ 2.91:1 กับอัตราทดของเฟืองล้ออยู่ที่ 2.06:1 ถ้านำมารวมกันคือ 2.91+2.06 ก็จะเท่ากับ 4.97 นั่นมันก็จะสามารถบอกได้หรือเปล่าครับ ว่า เจ้าคาน Volvo เนี่ยมันมีอัตราทดรวมของชุดเฟืองทั้งหมดเลยที่มาลงถึงล้อที่หมุนเนี่ย อยู่ที่ 4.97 นั่นเอง ซึ่งก็จะมากกว่าเฟืองของโตโยต้าอยู่หน่อยนึง อย่างพวก 8.39 ที่หารออกมาได้เท่ากับ 4.8 แต่อาจจะน้อยกว่า 8.41(5.125) ครับ

เพราะฉะนั้นถ้าคิดแบบง่ายๆคร่าวๆก็คือ ถ้าหากนำมาใช้กับรถออฟโรดบ้านเราแล้วอย่างพวกรถวางคานทั้งหลาย นั่นก็คือ เครื่อง 1KZ มันก็น่าจะมีความเหมาะสมพอดิบพอดีกับอัตราทดของคานที่ 4.97 เพื่อที่จะขับยางในขนาด 35 นิ้วได้ แต่ถ้าเป็นยาง 37 นิ้วอาจจะไม่พอเพียงครับ

อัตราทดรวมหมดประมาณ 6:1 ครับ เพลากลางหมุน 2.91 รอบ เพลาข้างหมุน 1 รอบ จาก : Sor(Sor) 4/2/2557 11:29:19 [171.6.179.251] ทดชุดที่สองเพลาข้างหมุน 2.06 รอบ ดุมหมุน 1รอบ ถ้าจะให้เพลาข้างหมุน 2 รอบ ต้องหมุนเพลากลาง 5.99 รอบ จาก : Sor(Sor) 4/2/2557 11:32:26 [171.6.179.251] เอา 2.91x2.06 = 5.9946:1 เพลารุ่นนี้มีอีกตัวอัตราทดรวม 7.1:1 ผมเคยเจอะมาทั้งสองตัวครับ จาก : Sor(Sor) 4/2/2557 11:35:43 [171.6.179.251] ขอบคุณมากครับสำหรับการแชร์ข้อมูล จาก : สอ(sorapol) 4/2/2557 23:51:55 [1.20.223.35] ว่าแต่ การคูณแบบนี้เป็นการคำนวณหาค่าที่ถูกต้องเลยใช่ไหมครับ? จาก : สอ(sorapol) 4/2/2557 23:53:25 [1.20.223.35] เผอิญผมหาค่า 1 ใน 10 ส่วน(โดยประมาณ)ของ 2.06 รอบที่ทำให้ได้ค่าดุมที่หมุน 1 รอบไม่ได้อ่ะครับ จาก : สอ(sorapol) 4/2/2557 23:56:31 [1.20.223.35] ถ้าทดเฟืองสองชุดคูณเข้าไปเลยครับ จาก : Sor(Sor) 5/2/2557 1:41:48 [125.24.103.29] อ้อ....รับทราบครับ จาก : สอ(sorapol) 5/2/2557 21:20:08 [125.24.51.3] อ้าวกำลังมันไปซะแล้ว ผมเฝ้ากระทู้พี่อยู่ทุกวันเลย จาก : e29acy(e29acy) 6/2/2557 19:50:04 [203.130.144.222] เบื้องต้นผมเอาตามที่พี่ sor แจ้งมาอ่ะนะครับว่า อัตราทดคานโดยรวมของมันอยู่ที่ 6:1 ครับ จาก : สอ(sorapol) 6/2/2557 21:29:52 [125.26.111.204] ดังนั้น เบื้องต้นที่ผมแจ้งไปว่า 4.97:1 นั้นก็ขอแก้ใหม่เป็น 6:1 นะครับ ตามสูตรการคูณของคุณ sor จาก : สอ(sorapol) 6/2/2557 21:32:29 [125.26.111.204] จะได้ไม่สับสนกัน แล้วของพี่ e29acy เห็นว่าได้มาแล้วนี่่ครับ แล้วมันทดแบบ 6 หรือ 7 ล่ะครับ จาก : sorapol(sorapol) 6/2/2557 21:34:45 [125.26.111.204] 6.1ครับ จาก : e29acy(e29acy) 8/2/2557 19:17:54 [203.130.144.108]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1311
       คุณสอครับ ขอแผนที่อู่หน่อยครับ จะเข้าไปคุยเรื่องการเปลี่ยนเครื่อง ครับ
เมล์ผมครับ attapol_hnutong@yahoo.co.th

ขอแก้เมลครับ attapol_hnutong@yahoo.co.th จาก : apng(apng) 4/2/2557 20:40:58 [58.11.78.122] ครับเดี๋ยวส่งไปให้ครับ จาก : สอ(sorapol) 5/2/2557 21:20:42 [125.24.51.3] คุณสออย่าลืมส่งแผนที่ให้ผมนะครับ ขอบคุณครับ จาก : apng(apng) 6/2/2557 18:23:05 [115.87.241.56]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1312
       (วางเครื่อง 3RZ ต่อ)
สายแอร์ที่ได้ทำการย้ำสายมาเพื่อที่จะเดินจากตัวคอมแอร์ไปยังตู้แอร์(เย็น)ในรถ ซึ่งก็จะต้องเดินข้ามฝั่งไปเพราะว่าคอมแอร์อยู่กันคนละฝั่งกัน(ฝั่งคนขับ) ก็หาที่อยู่ให้มันหน่อยพวกกิ๊บล็อคเข็มขัดต่างๆ จะได้ดูเรียบร้อย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1313
       ในรูปนี้จะเห็นว่า มีการเปลี่ยนท่อยางจากท่ออากาศมายังหม้อกรองอากาศมาเป็นแบบที่ยาวมากขึ้นและมีส่วนย่นเพื่อการให้ตัวสำหรับการทำงานของเครื่องยนต์แทนท่อยางเดิมที่เป็นแบบสั้นๆที่ดัดแปลงเอามาใช้งานก่อนหน้านี้ครับ

ท่อยางพวกนี้หาไม่ค่อยง่ายเท่าไหร่นะครับ เพราะมันจะมีขนาดที่ใหญ่พอสมควร เพราะขนาดท่อที่นำมาใช้เพื่อต่อเข้าปีกผีเสื้อมันมีขนาด 3 นิ้ว(สแตนเลส 3 นิ้่ว) ดังนั้นพวกท่อที่นำมาใช้ต่อก็เป็นท่อยางของพวกเครื่องซีซีสูงๆหรือไม่ก็พวกท่ออากาศ อินเตอร์อะไรพวกนี้นะครับที่มีความโค้งความเหมาะสมกับการใช้วางในตำแหน่งดังกล่าว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1314
       ข้ามมาทางฝั่งคนขับบ้าง วางกรองอากาศลงไปในตำแหน่งที่ได้สร้างยึดไว้เป็นการเรียบร้อย ก็มีรายละเอียดที่จะต้องทำเพิ่มเติมกันอีกพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการวางแบตเตอรี่ การเก็บงานสายไฟที่ยุ่งเหยิงพอสมควร เพราะว่ามันจะมีระบบสายไฟของทั้งสปอร์ตไลท์ วินช์หน้าด้วยและวินช์หลังด้วย ซึ่งจะต้องทำการเชื่อมต่อและลากมาใช้งานกับลูกแบตที่ด้านหน้า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1315
       แต่อีกหนึ่งรายละเอียดที่มีการเพิ่มเติมคือ ท่อสน็อคเกิ้ล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1316
       เพราะความยุ่งยากมากที่สุดของขั้นตอนนี้ คือ ความแนบชิดกับแก้มตัวรถมากที่สุด เพราะว่ามันมีผลต่อการวางเนื้อที่ของตำแหน่งแบตเตอรี่ซึ่งก็มีขนาดที่ใหญ่อีกเหมือนกัน(ของใหญ่ๆทั้งนั้น) อีกทั้งขนาดของท่อสน็อคเกิ้ลที่ใช้เดินก็เป็นขนาด 3 นิ้วเต็มซึ่งก็ใหญ่คับเนื้อที่ทั้งหมด ยากทีเดียวครับตรงจุดนี้ ไม่ง่ายครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1317
       ท่อยางย่นที่นำมาใช้สำหรับท่อขนาด 3 นิ้ว มันก็จะใหญ่โตกว่าของท่อเข้าไปอีกครับ แน่นไปหมด และที่สำคัญ ก็จะต้องเผื่อเนื้อที่สำหรับการเดินสายไฟของชุดวินช์ด้วย ทั้งสายบวกและสายลบ จริงๆแล้วสายลบนั้นสามารถที่จะเดินลงกราวด์ตรงจุดไหนก็ได้ของตัวรถ แต่ส่วนใหญ่แล้วเพื่อความแน่นอนผมจะเดินมาเกาะที่ขั้วแบตลบเลยครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขั้วก็ต้องดีด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าขั้วก็หลวมๆนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1318
       ส่วนในตำแหน่งของเนื้อที่วางแบตเตอรี่ก็ไม่ง่ายครับ เพราะว่าแบตก็ลูกใหญ่ เป็นแบตที่ใช้สำหรับเครื่องดีเซลนะครับ(แต่เอามาใช้กับเบนซิน) แถมอีกฝั่งนึงก็ยังติดหม้อลมเบรคในขนาดชั้นครึ่งอีกต่างหากด้วย เรียกว่า วางลงไปแบบฟิตๆเฉี่ยวกันเลยล่ะครับ วางลงไปแล้วแบตนี่แน่นเลยครับ ไม่ต้องขยับไปไหนเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1319
       รายละเอียดที่ได้เพิ่มเติมลงไปในจุดนี้ ก็ยังมีอีกครับ อย่างเช่น การพับเหล็กยึดเกี่ยวแบตอันใหม่ในลักษณะที่มีความหนากว่าของเดิม(เอาอันเดิมทิ้งออกไป) และก็เพิ่มรูยึดเข้าไปเป็นยึดแบบ 2 รู ปาดเว้าเฉียงหน่อยเผื่อสำหรับการถอดหม้อลมเบรคจะได้ดึงออกมาแล้วไม่ติด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 1320
       เสร็จแล้วก็วางลูกแบตเตอรี่ลงไปพร้อมกับทำตัวล็อคแบตเตอรี่ใหม่แทนของเดิม ให้เป็นเหล็กหนาๆหน่อย เว้าโค้ง เว้ารูนิดหน่อยจะได้ดูมีดีไซน์ไม่ทื้อๆจนเกินไป และก็เหล็กที่เกี่ยวลงไปด้านล่างทั้ง 2 ฝั่งก็เปลี่ยนไซส์ใหม่หมดเป็นขนาดน็อตเบอร์ 12 ทั้งหมดแทนของเดิมที่เป็นน็อตเบอร์ 10 ครับ ก็เรียกได้ว่า เป็นแบบ Heavy duty ไปเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย