คำตอบที่ 211
       สอบถามคุณสอครับ คาริเบียน เปลี่ยนเป็นเครื่อง G13A ใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ครับ มีคิวว่างช่วงใหนบ้างครับ

เปลี่ยนเครื่องเดิมเป็นเครื่องเดิมคงไม่มีอะไรต้องดัดแปลง โดยทั่วไปก็คงไม่เกิน 1 วันครับ จาก : สอ(sorapol) 17/2/2556 20:51:43 [180.180.239.34]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 212
       ล้อหลุดเเล้วครับช่างสอ

อ้าว...แล้วเป็นอะไรหรือเปล่าครับพี่ พอดีผมก็เพิ่งจะกลับมาจากออกทริป เปิดดูตกใจเหมือนกัน จาก : สอ(sorapol) 17/2/2556 20:50:15 [180.180.239.34] ของผมแปลงเป็นดืสครับลูกปืนหลุดออกจากตลับouter ring ติดอยู่ที่บ่าที่เสื้อเหลาเลยต้องงัดออกครับ จาก : nikomw(nikomw) 18/2/2556 10:57:08 [223.204.240.105] ถ้าเป็นดรัมงานเข้าแน่ครับคงค่อยๆหลุดออกมา ตาลิเปอร์ดืสประคองอยู่ครับผ้าดีสเบรคสีกไปหน่อย จาก : nikomw(nikomw) 18/2/2556 11:12:55 [223.204.240.105]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 213
       คำตอบที่ 211 ขอแก้ไขครับ เปลี่ยนเครื่องเดิม เป็นเครื่อง G16 A ครับ ขอโทษทีครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 214
       (ตอบคุณชาย)
สอบถามคุณสอครับ คาริเบียน เปลี่ยนเป็นเครื่อง G16A ใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ครับ มีคิวว่างช่วงใหนบ้างครับ

ตอบ การวางเครื่อง G16A โดยทั่วไปถ้าเป็นอู่ทั่วๆไปก็คงจะประมาณ 4-5 วันครับ หรือถ้าพิถีพิถันและเน้นรายละเอียดหน่อยก็น่าจะอยู่ในเกณฑ์ 7-10 วันครับ หรือเต็มที่ก็ไม่เกิน 2 อาทิตย์ครับ ส่วนเรื่องคิวคงต้องคอยแทรกคิวโปรเจคใหญ่ เครื่องในสต็อคที่เก็บไว้อยู่ 5 ตัวตอนนี้ มีเจ้าของเกือบหมดแล้วครับรอคิวค่อยๆมาวางไล่กันไปอยู่ คิวว่างอย่างน้อยต้องหลังพ.ค.ไปแล้วครับ

ขอบคุณมากครับ แม้คำตอบจะน้อยนิด แต่มีคุณค่าทางใจมากมายครับ แล้วจะหาเบอร์ติดต่ิอไปอีกครั้งครับ จาก : toranong(toranong) 28/2/2556 11:49:32 [182.52.96.137]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 215
       (ตอบคุณ SUN45)
สวัสดีครับคุณ สอ....... ผมขอเริ่มปัญหาเลยนะครับ ผมใช้รถซูคาริเบียนอยู่ครับ เครื่องเดิมๆ ไปเที่ยวกับเพื่อนน้ำแห้ง ฝาสูบแตก เปลี่ยนฝาสูบ พอเปลี่ยนแล้วมีน้ำไหลเข้าปนน้ำมันเครื่อง ช่างรื้อออกมาเจียฝาสูบและเสื้อสูบใหม่ ใช้มาซักพัก อาการใหม่เกิดขึ้น น้ำมันเครื่องกลับไหลเข้าหม้อน้ำ แต่ไม่มากหรอกครับ ปัญหาคืออะไรครับ และมีทางแก้ไขอย่างไร ยังรักเครื่องเดิมอยู่ครับ ถ้าจะเปลี่ยนใหม่คงเอาเข้ามาให้คุณสอทำให้ จะใช้เวลามากหรือเปล่าครับ ถามอีกหน่อย เครื่อง7k เกียร์ออร์โต เหมาะที่จะนำมาใช้กับคาริเบียนหรือเปล่าครับ (ไม่ค่อยได้ลุยเท่าไหร่ ส่วนมากใช้ทางเรียบ มีเข้าสวนบ้าง ออกยิงนกตกปลาตามประสาคนแก่) เผื่อแม่บ้านอยากใช้จะได้คล่องตัวหน่อย ผมอยู่หนองคาย ไกลหน่อยครับ ขอบคุณคุณสอ ล่วงหน้ามากๆด้วยครับ

ตอบ สวัสดีเช่นกันครับ ตามที่ได้อ่านปัญหามาก็ประมาณว่า เครื่องเสียจากการที่น้ำแห้งแล้ววิ่งไปจนฝาสูบมีปัญหา(แตก) พอเปลี่ยนใหม่ก็ยังคงมีปัญหาอยู่โดยปัญหาแรกคือ น้ำเข้าปนกับน้ำมันเครื่อง พอแก้แล้วปัญหาที่2 คือ น้ำไปปนกับหม้อน้ำ สรุปคร่าวๆเลย คือ ปัญหาน่าจะมาจากเจ้าฝาสูบอันใหม่ที่ช่างเค้าเอามาใส่ให้มันมีปัญหามาอยู่แล้ว อาจจะมาจากเครื่องคันอื่นที่เค้ายกลงหรือเปล่าไม่แน่ใจ จริงๆแล้วเครื่องที่ยกลงถ้าไม่ทราบประวัติมานี่ไม่น่าซื้อเท่าไหร่ครับเพราะเราไม่รู้ว่า ทีแรกมันดีหรือไม่ดี แต่โอเคซื้อมาแล้วไม่เป็นไร ทีนี้เราต้องมาดูหลายๆอย่างหลายๆปัจจัยครับ

จริงๆแล้วเครื่องยนต์ที่มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำไปปนกับน้ำมันเครื่องหรือที่เรียกว่า น้ำลงอ่าง มักจะมีปัญหามาจาก
1. ฝาสูบแตก
2. เสื้อสูบผุกร่อนจนทำให้น้ำทะลุไปห้องน้ำมันเครื่อง
3. ตาน้ำผุทะลุ
(เท่าที่นึกออกนะครับ อาจจะมีสาเหตุอื่นอีก)

ส่วนปัญหาเกี่ยวกับน้ำมันเข้าไปปนอยู่กับน้ำในหม้อน้ำ (แต่ไม่ลงอ่าง) มักจะมีปัญหามาจาก
1. ฝาสูบโก่ง
2. ปะเก็นฝาสูบรั่ว
(เท่าที่นึกออกนะครับ อาจจะมีสาเหตุอื่นอีก)

จริงๆแล้วทั้ง 2 ปัญหาที่กล่าวมานี้ ผมอยากจะเพิ่มหลักสำคัญไปอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ เสื้อสูบโก่งครับ ทั้ง 2 กรณีเลย เป็นไปได้มากเพราะทั้ง 2 ปัญหานี้จะผ่านการฮีทของเครื่องยนต์มาแล้ว ไม่ว่าจะเสื้อเหล็กหรือเสื้อมิเนียมโก่งหมดครับ โรงกลึงที่ทำประจำมีมาให้ทำกันอยู่ทุกวันครับ เครื่องอะไรๆก็โก่งได้หมด 2L 3L 5L KZ โก่งได้หมด ยิ่ง 5L นี่ตัวโก่งเลย

(เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 216
       ทีนี้เรามาเน้นหลักๆอยู่ที่ประเด็นที่ 2 นั่นก็คือ น้ำมันเข้าไปปนกับหม้อน้ำ เพราะปัญหาแรกช่างของพี่น่าจะแก้ไขไปแล้ว...แต่ก็ไม่แน่นะครับแต่ผมจะค้างตรงจุดนี้ไว้ก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยเอ่ยทีหลัง เพราะมันอาจจะเป็นปัญหาที่เกี่ยวเนื่องพัวพันมาถึงประเด็นที่ 2 ด้วย

น้ำมันเข้าไปปนกับหม้อน้ำ อันนี้ถือว่า เป็นปัญหาจากการที่เครื่องยนต์ฮีท พอเครื่องขาดน้ำหล่อเลี้ยงทำให้เกิดการขยายตัวของพวกฝาสูบหรือเสื้อสูบ จริงๆแล้วถ้าหากว่า เริ่มฮีทซักประมาณว่า ขึ้นไปอยู่ในเกณฑ์ครึ่งของครึ่งบน(ในช่วงขาขึ้นนะครับ) ถ้าหากเราสังเกตเห็นก่อน เราต้องรีบจอดดูอาการเพราะว่าถ้าหากเรารีบดับเครื่องบางทีแล้วความร้อนที่มีสะสมอยู่ในตัวเครื่องมันจะออกช้า แต่ถ้าหากว่า เครื่องเอาไม่อยู่แล้วความร้อนมีเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆทั้งๆที่ไม่ได้วิ่งต้องรีบดับเครื่องทันทีเพราะไม่งั้นจะมีโอกาสเสียหายต่อระบบภายในเครื่องยนต์ จากนั้นต้องทิ้งไว้เลยครับให้นานๆที่สุดเท่าที่จะทำได้อาจจะ 40 นาทีหรือเป็นชั่วโมงเลยก็ได้ คือ รอจนกว่าเครื่องจะเย็น แล้วค่อยตรวจเช็คเติมน้ำเข้าไป ห้ามเติมตอนที่ดับเครื่องใหม่ๆเพราะทุกๆอย่างในระบบเครื่องยนต์มีการขยายตัวอยู่ถ้าหากเติมเข้าไปเดี๋ยวนั้นเลย โอกาสฝาสูบแตกมีเกือบๆ 100% ครับบางทีเรารีบเติมเข้าไปเนี่ยได้ยินเสียงเปรี๊ยะทันทีเลยก็มี จากนั้นพอเรารอเวลาได้ตรวจเช็คทุกอย่างเติมน้ำไปแล้วและก็ลองสตาร์ทใหม่ ถ้าหากว่าทุกอย่างปกติเหมือนเดิมก็ขับไปต่อ หรือจะเข้าอู่เพื่อตรวจเช็คความเรียบร้อยอีกทีก็ได้
(ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทั่วไปครับ)
แต่จากที่กล่าวมา มันก็ไม่ได้หมายความว่า รถมันจะไม่มีปัญหาแล้วนะครับ ปัญหามันมีแต่เราต้องไล่ตรวจเช็คดูว่าเกิดที่อะไร หนึ่งในปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้นั่นก็คือ ฝาสูบโก่ง
1. ฝาสูบโก่ง ทำให้มีกำลังอัดรั่วออกมายังระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์ ซึ่งก็คือ หม้อน้ำ และการที่เราเห็นว่ามีน้ำมันปนออกมาด้วยนั้นมันก็มาจากกำลังอัดของลูกสูบที่อัดขึ้นมาแล้วทำให้น้ำมันรั่วเล็ดรอดออกไปยังจุดที่โก่ง ออกไปยังระบบน้ำวนรอบๆฝาสูบแล้วไปยังหม้อน้ำ ก็เลยทำให้มีน้ำมันวนเข้าไปที่หม้อน้ำด้วย ตรงจุดนี้บางทีแล้วการรื้อซ่อมตรวจเช็คฝาบางที่ทำแค่ฝาสูบ นั่นก็คือ ไสฝาสูบแต่ไม่ได้นำเสื้อสูบไปตรวจเช็คด้วย เพราะมันจะต้องรื้อเครื่องทั้งตัวออกมา (รื้อท่อนล่างด้วย) ซึ่งก็จะเสียเวลาไปอีก แต่ถ้าทำแค่ฝามันก็รื้อจากในตัวรถได้ไม่ต้องยกเครื่องออกมา แต่การแก้ปัญหามันก็ไม่จบสมบูรณ์ พอซ่อมเสร็จใช้ต่อก็ยังคงมีปัญหาความร้อนอยู่ เข็มความร้อนขึ้นครึ่งนึงบ้าง เกินครึ่งบ้าง ก็ต้องมาแก้ไขกันต่ออีก
ประการต่อมาบางทีรื้อฝาไปทำอย่างเดียวแล้วใช้วิธีตัดปะเก็นฝาสูบใหม่โดยสั่งให้มีสเปคที่หนากว่าเดิมอยู่นิดหน่อย แล้วเอามาใส่เข้าไปโดยฉีดทองแดงเคลือบ อันนี้ก็พอช่วยได้ครับแต่อย่าลืมว่า ฝาสูบมันก็ยังคงโก่งอยู่ อาจจะโก่งบ้างนิดหน่อย ถ้าไล่ขันปอนด์อัดไปอีกทีตอนที่เครื่องเริ่มร้อนก็อาจทำให้สนิทได้ดีขึ้น พวกทองแดงมันจะไปฟิล์มรอยโก่งของเสื้อได้(ในกรณีที่เสื้อโก่งไม่มาก) ถ้าจบก็ใช้กันอีกยาว แต่ถ้าไม่จบก็แสดงว่า เสื้อสูบโก่งมากครับต้องรื้อทำสถานเดียวโดยการเอาเสื้อไปไส สุดท้ายแล้วเมื่อไสทั้งเสื้อ ทั้งฝามันต้องจบสถานเดียวครับ จะต้องไม่มีปัญหาอีก

2. ปะเก็นฝาสูบรั่ว
อันนี้ก็มาจากที่ปะเก็นอาจจะผุกร่อน ถึงอายุเนื่องจากใช้งานมายาวนาน เครื่องยนต์ดีมาก ไม่มีปัญหาให้ซ่อมแซมเลย พอนานๆเข้าปะเก็นก็ถึงอายุก็จะเกิดปัญหาขึ้น เหมือนกับข้างบนครับคือ เมื่อปะเก็นผุรั่วกำลังอัดก็จะข้ามมายังหม้อน้ำได้ ซึ่งมากบ้างน้อยบ้างก็อยู่ที่จุดที่รั่วของปะเก็น ในจุดนี้ถ้าหากว่าเป็นคนที่ชั่งสังเกตคอยเปิดฝากระโปรงบ่อยๆทุกๆวัน เช็คน้ำหม้อน้ำทุกเช้าเย็นมักจะพบก่อนที่จะมีปัญหาเรื่องความร้อน เพราะบางทีมีจุดรั่วปะเก็นนิดหน่อยอาจจะทำให้มีน้ำมันปนข้ามมาแต่ยังไม่ถึงขนาดที่ทำให้เครื่องร้อน พอเห็นก่อนก็สามารถแก้ปัญหาได้ทัน ก็เพียงแค่เปลี่ยนปะเก็นก็จบ เพราะถ้าเครื่องยนต์ไม่ฮีทขึ้นไปเกินครึ่งเครื่องยนต์ก็ยังไม่เสียหายอะไร แต่ถ้าหากว่า ไม่ได้สังเกต ใช้จนเครื่องยนต์ฮีทก็คงเหมือนกับข้อเมื่อกี้ครับ ก็ต้องไล่ซ่อมฝา ซ่อมเสื้อไปทั้งหมด แต่ถ้าหากใช้ถึงขนาดฮีทจนเครื่องน็อค สูบติด ฝาแตกก็บานปลายเป็นงานช้างไปเลย

ทีนี้ผมขออนุญาตวนกลับไปเมื่อตอนแรกที่พักไว้คือ เรื่องของตอนแรกที่พี่ฝาสูบแตก ต่อมาพอให้ช่างเค้ารื้อซ่อมแล้วมามีปัญหาน้ำมันมาปนกับหม้อน้ำ ก็ต้องลองเช็คดูว่า
1. ตอนทำเครื่องตอนแรกพี่ช่างเค้าทำเสื้อด้วยนั้น ทำจริงๆหรือเปล่า?
2. ถ้าทำจริงอันดับต่อมาคือ ปะเก็น พี่ช่างเค้ายังคงใช้ปะเก็นอันเดิมหรือเปล่า? เพราะบางทีแล้วเห็นว่า ปะเก็นพึ่งจะเปลี่ยนไป ยังใหม่อยู่ ไม่มีรอยเลย คงจะเสียดายแล้วก็เลยเอาเจ้าตัวเก่ามาใช้ต่อมันก็จะทำให้มีปัญหาได้ ปะเก็นถ้าขันอัดแล้วถอดออกมาเพียง 1 ครั้งไม่ว่าจะเร็วแค่ไหนก็ตามต้องเปลี่ยนทิ้งหมดครับ
3. ปะเก็นที่เปลี่ยนใหม่ทุกๆครั้งนั้น อะไหล่แท้ซูซูกิหรือเปล่า?
4. ฝาสูบจากเดิมที่ซื้อต่อมาอีกทีนั้นน่าจะมีปัญหาอยู่ก่อนแล้วเหมือนกัน ดังนั้นพอมาถึงพี่เจ้าของรถก็ไม่รู้ว่าเป็นการปาดครั้งที่เท่าไหร่แล้ว บางทีแล้วปะเก็นสแตนดาร์ดโรงงานก็อาจจะไม่อยู่ครับ จะต้องสั่งตัดปะเก็นใหม่(ที่ร้านตัดชั้นดีหน่อย) ราคาตกพันกว่าบาทครับ เป็นปะเก็นหนากว่าสแตนดาร์ดอยู่นิดหน่อย แล้วก่อนใส่ก็ต้องฉีดทองแดงด้วยอีกเหมือนกันเพื่อให้มันฟิล์มเต็มหน้าป้องกันอีกที

ทุกอย่างที่แจ้งมาทั้งหมดนี้ลองไล่เช็คกับช่างดูอีกทีครับ เพราะว่าเสื้อไสแล้ว ฝาไสแล้ว ปะเก็นใหม่แล้ว ฉีดทองแดงแล้ว ต้องจบสถานเดียวครับ
จริงๆแล้วทำถึงขึ้นเสื้อด้วย ฝาด้วย ก็สามารถใช้ปะเก็นสแตนดาร์ดได้เหมือนกันครับ(แต่ต้องปะเก็นใหม่นะครับ) เพียงแต่ว่าเราก็ต้องเผื่อเอาไว้ก่อน กันรื้อกันใหม่อีกรอบครับ อย่าลืมว่ารื้ออีกทีก็ปะเก็นอีกทีด้วยเหมือนกัน

(ลองไล่เช็คดูอีกทีครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 217
       ในส่วนของข้อแรกที่ถามว่า ตอนทำเครื่องตอนแรกช่างได้ไสเสื้อจริงหรือเปล่านี้ ยังไงขออภัยเบื้องต้นก่อนเลยนะครับ แต่ที่ถามอย่างนี้นี่ก็เพราะว่า เรื่องมันเคยมีครับแล้วก็บ่อยด้วยโดยเฉพาะยุคนี้ ประมาณว่า คิดค่าทำแต่จริงๆแล้วไม่ได้ทำ เพราะพวกเคยโดนครับอย่างเช่น อู่แถวๆปทุมวันเอารถเข้าไปให้เปลี่ยนซีลคอหลังที่รั่วอยู่ อู่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนให้ครับ มันเอาเบนซินล้างใต้หัวหมูกับแกะเพลทปิดเสื้อเกียร์ด้านล่างแล้วล้างๆหน่อย แล้วมันคิดเงินมา 2-3 พันบาท ออกมาอีก 2 วันรั่วแฉะเหมือนเดิมทุกประการ

จริงๆเจ้าของรถก็สังเกตได้ครับ เพราะถ้าไสเสื้อด้วย ช่างเค้าจะต้องยกเครื่องออกมาทั้งหมด แล้วถอดทุกชิ้นออกทั้งหมด ลูกสูบ อ่างแคร้ง เพื่อให้เหลือแต่เสื้อสูบอย่างเดียวไปขึ้นแท่น

มีเยอะด้วยช่างสมัยนี้ หลอกกันง่าย ๆ น่าสงสารคนที่โดนโดยไม่รู้ตัวนะ จาก : แสง บางพลี(แสง บางพลี) 26/2/2556 9:21:55 [58.97.37.61] ใช่ครับพี่แสง จาก : สอ(sorapol) 26/2/2556 22:38:34 [125.24.43.98]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 218
       ลองชมเคสนี้ดูครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 219
       เครื่องวีทาร่า G16A แอร์โฟล์ 3 สาย รุ่นคอยล์ในจานจ่าย
สภาพสวยๆ อุปกรณ์ติดเครื่องครบๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 220
       แต่.....พอชักไม้วัดน้ำมันเครื่องออกมาดู ก็เป็นดังรูป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 221
       นั่นก็คือ น้ำมันเครื่องกลายเป็นสีครีม คล้ายๆกับนมข้นหวาน ซึ่งก็หมายความว่า น้ำได้ลงอ่างไปปนกับน้ำมันเครื่อง

จริงๆแล้ว การซื้อเครื่องยนต์จากเชียงกงนี้ เราก็สามารถตรวจเช็คปัญหาของเครื่องยนต์ได้ในเบื้องต้นโดยใช้วิธีนี้นะครับ เป็นการเช็คเบื้องต้นเท่านั้น แต่เครื่องในรูปนี้ไม่ใช่เครื่องจากญี่ปุ่นนะครับ มันเป็นเครื่องยกลงในบ้านเราที่เสียมาครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 222
       เปิดน็อตเดรนถ่ายน้ำมันออกมา ก็ชัดเจนทีเดียวครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 223
       สีนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ เอาปาท่องโก๋มาจิ้มกินกับกาแฟได้เลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 224
       สาเหตุก็ไม่มีอะไรครับ ตามรูปเลย นั่นก็คือ ฝาปิดตาน้ำข้างเสื้อสูบผุทะลุ อันเนื่องมาจากการผุกร่อน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 225
       ผุกร่อนที่ตาน้ำทั้ง 2 ฝั่งเลย ทั้งฝั่งท่อไอเสีย และฝั่งท่อน้ำข้างเครื่อง
สาเหตุมาจากการที่ฝาปิดตาน้ำถึงอายุ และจากการที่ถึงอายุเร็วก็เนื่องจากการไม่ได้ใส่น้ำหล่อเย็นหม้อน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดสนิมภายในระบบระบายความร้อน บางคนบอกว่า เคยใส่แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรตอนหลังก็เลยไม่ใส่ ซึ่งจริงๆแล้วกว่าจะมาใส่บางทีก็สนิมกินไม่บ้างแล้วพอมาใส่ทีหลังก็แทบจะไม่ได้ช่วยอะไร หรือซื้อน้ำหล่อเย็นหม้อน้ำที่มีแต่สี ราคาถูก คุณภาพก็จะต่ำ แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 226
       อีกมุมใกล้ๆครับ

และก็แน่นอนที่สุดก็คือ น้ำรั่วออกทางตาน้ำ ทำให้เครื่องยนต์ฮีท ความร้อนขึ้น(แต่ไม่รู้ว่ายันแดงเลยหรือเปล่า) เพียงแต่เจ้าของเห็นก่อน ก่อนที่สูบมันจะติด ก่อนที่เครื่องยนต์จะน็อคไม่ทำงาน ก็เลยจอด แต่นั่นก็สายไปเสียแล้ว เพราะเครื่องฮีทขาดน้ำ น้ำได้ทะลุไปถึงห้องน้ำมันเครื่อง น้ำลงอ่างน้ำมันเครื่องเรียบร้อย กรณีนี้ฝาสูบแตก100% ครับ (กรณีนี้ถ้าหากเครื่องฮีทแล้วรีบเติมน้ำก็เหมือนกันนะครับ กลับบ้านเก่าเลย)

น้ำทะลุลงไปหาน้ำมันครับ ไม่ใช่น้ำมันถูกกำลังอัดอัดรั่วไปหาน้ำ เพราะหลังจากนี้ก็ยังขับใช้งานได้แบบเครื่องยนต์ปกติ น้ำมันก็ไม่ได้ขึ้นมาปนกับหม้อน้ำ กำลังอัดไม่รั่ว ฝาสูบไม่ได้โก่ง....แต่ว่า"แตก"เลย

 แก้ไขเมื่อ : 1/3/2556 21:50:38

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 227
       ค่อยๆถอดทีละชิ้นทีละชิ้น ไม่ว่าจะเป็นชุดปีกผีเสื้อ ตัวช่วยรอบแอร์ ชุดท่อไอดี ไดชาร์จ คอมแอร์ ชุดท่อไอเสีย และก็จะเริ่มเห็นความผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ(ตามรูป)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 228
       ความผิดปกติที่สังเกตได้ นั่นก็คือ ฝาสูบฝั่งท่อไอเสียจะมีสีที่แตกต่างกันโดยเฉพาะช่องที่ 2 และ 3 ซึ่งก็จะตรงกันกับสูบ2 และสูบ 3 ที่จะมีสีขาวออกนวลๆมากกว่าสูบที่ 1 และ 4 ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 229
       รื้ออุปกรณ์โดยรอบออกให้หมด เพื่อสำหรับการเตรียมนำฝาสูบไปตรวจเช็คอีกทีเพื่อความแน่นอน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 230
       การนำฝาสูบไปตรวจเช็คนั้น ก็เป็นการทำให้ทราบถึงสาเหตุที่ชัดเจนแน่นอนว่า เจ้าเครื่องยนต์ตัวนี้มีปัญหามาจากอะไร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 231
       เปิดฝาครอบวาล์วด้านบนออกมาดู เพื่อตรวจเช็คเบื้องต้นไปเรื่อยๆ
จริงๆแล้วเครื่องยนต์ตัวนี้ กว่าจะเริ่มรื้อดูก็เป็นเดือนเหมือนกันครับ ทำให้น้ำมันที่สีเป็นนมไม่ค่อยค้างอยู่ที่ด้านบนเครื่องเท่าไหร่แล้ว เพราะมันได้ไหลกลับลงไปที่อ่างด้านล่างแล้วซะส่วนใหญ่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 232
       ที่เห็นทิ้งร่องรอยไว้ก็คือ คราบสนิมที่เกิดจากการที่น้ำขึ้นมาปนเปื้อนกับน้ำมัน และก็กว่าจะรื้อเครื่องดูก็ปล่อยทิ้งไว้เดือนกว่า ซึ่งปกติแล้วถ้าหากว่า เป็นเครื่องยนต์ทั่วๆไปที่ปกติ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ติดเครื่องก็จะไม่มีสนิมเกิดขึ้นเพราะจะมีแต่น้ำมันอย่างเดียวถึงแม้จะทิ้งไว้นานกี่เดือนหรือกี่ปีก็ตามครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 233
       เริ่มไล่ถอดส่วนที่เหลือรอบๆเครื่องออกให้หมด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 234
       ถอดฝาครอบเพลาราวลิ้นออก เพื่อเตรียมตัวรื้อกระเดื่องวาล์วและตัวเพลาราวลิ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 235
       ฝาครอบเพลาราวลิ้นพวกนี้จะมีตัวเลขบอกว่าอยู่ในตำแหน่งของสูบไหน รวมทั้งทิศทางไปยังด้านหน้าของเครื่องยนต์ ดังนั้นใส่สลับหรือกลับด้านกันไม่ได้นะครับ เนื่องจากการออกแบบสร้างจากโรงงานนั้นได้กระทำในลักษณะการคว้านตอนที่อยู่กับเครื่องตามองศาของเพลาราวลิ้นนั้นๆ(หรือเรียกว่าเพลาลูกเบี้ยว หรือแคมชาฟท์) ดังนั้นคู่ใครคู่มันไม่ควรจะนำมาใส่สลับกัน หรือแม้กระทั่งนำฝาครอบของเครื่องตัวอื่นที่เป็นรุ่นเดียวกันมาใช้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 236
       ถอดออกมาแล้วล้างเก็บไว้ให้ดี เพราะมันเป็นคู่ของเพลาราวลิ้นและของเครื่องยนต์ตัวนี้เท่านั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 237
       รื้อเพลาราวลิ้น กระเดื่องวาล์ว ถอดน็อตยึดฝาสูบออกทั้งหมดเพื่อเตรียมยกฝาลง
(สำหรับรูปนี้ ถ้าคนช่างสังเกตดีๆจะเห็นถึงความผิดปกติอีกอย่างนึงที่ฝาสูบครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 238
       ยกฝาสูบออกไป พร้อมกับทำการตรวจเช็คความผิดปกติอื่นๆไล่ไปเรื่อยๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 239
       ฝาสูบที่ถอดยกออกมา ก็เอาไปวางไว้ด้านนอกให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมตรวจเช็คในลำดับต่อไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 240
       จากนั้นเราก็ย้ายกลับมาดูที่ตัวเสื้อสูบที่ยังคงมีเศษปะเก็นฝาสูบติดค้างอยู่

เราก็ได้พบกับความผิดปกติต่อมา ก็คือ รอยสีขาวบนเสื้อสูบระหว่างสูบ 2 กับสูบที่ 3 ซึ่งมันก็คือ รอยน้ำที่ข้ามผ่านปะเก็นฝาสูบไปมาระหว่างสูบที่ 2 กับสูบที่ 3

แสดงความคิดเห็นย่อย