คำตอบที่ 1
       มีน้องผู้หญิงที่รู้จักกันใช้อยู่เหมือนกันนะครับ วีทาร่า 3 ประตู
ทำงานกรุงเทพ บ้านอยู่เชียงใหม่
ใช้ก็คิดว่าน่าจะโอเคนะ เพราะเห็นใช้มาหลายปีแล้ว
อัตราการกินน้ำมัน พอๆกันครับ แต่อัตราเร่งดีกว่ามากๆ
ที่ซ่อมในกทม น่าจะมีเยอะนะ
ค่าบำรุงรักษาก็น่าจะสุงกว่านะครับ
แต่ผมเชียร์วีทาร่า นะ น่าจะดีกว่า
แต่ตัวผมใช้ คาริเบียน
555

คำตอบที่ 2
       นายเนสครับ คาริเบียน เดิมๆจะเปลี่ยนช่วงล่างให้นิ่มๆหน่อย
พอจะเเนะนำได้ไหมครับ

คำตอบที่ 3
       ...

คำตอบที่ 4
       จากที่ได้ใช้มาทั้งคู่และรถแบบอื่นๆ..
- Sporty ปี1999 ขับเหนื่อยครับ 1.3cc(i) เกียร์ธรรมดา
- Vitara 3ปต. ขับสบายหน่อย 1.6cc(คาบูร์)เกียร์ออโต้
ทั้งคู่กินน้ำมันพอๆกัน (น้อยกว่า10กม./ล.) คือมากกว่าเก๋งที่ขนาดเดียวกัน(มากกว่า12กม./ล.) ***เข้าใจว่ารถคนและแบบ ขับ2กับขับ4 ขออภัยที่เทียบกัน แต่อยากให้เห็นชัดเจน***


เมื่อคิดถึงราคาน้ำมันยุคปัจจุบันและ ถ้าคิดว่าใช้ใน กทม. ขับเที่ยวบ้างตามอุทยานใกล้ๆ ที่เก๋งไปได้ ไม่ได้คิดไปลุย.. เก๋งเครื่องเล็กๆดีกว่าครับ..

ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งานครับ..

คำตอบที่ 5
       ขอบคุณทุกคำตอบค่ะ
ตัวเองเป็นคนชอบรถแบบลุย ๆ น่ะค่ะ ที่จริงเคยได้มีโอกาสได้ใช้ตู้ปลารุ่นแรกที่ออกเลยค่ะ
แต่ว่าสุดท้ายก็ต้องขายไปเพราะว่าพ่อแม่ไม่เห็นด้วย ....แต่ก็ยังชอบในรูปทรงเค้าอยู่น่ะค่ะ
ตอนนี้เลยอยากกลับมาเล่นอีกครั้งค่ะ ด้วยเงินตัวเอง... :)

ส่วนเรื่องการบริโภคน้ำมัน ตามที่ คต.4 ได้ชี้แจงให้ทราบน่ะค่ะ ตามที่ได้เก็บข้อมูลจากเว็บ 4x4
หลาย ๆ เว็บ ก็คิดว่า ถ้าได้รถเมื่อไหร่ ก็จะไปติดตั้งแก๊ส น่ะค่ะ เห็นเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ คุยกันว่า
ประหยัดน่าดู .... ไม่ทราบท่าน คต.4 มีความเห็นว่าอย่างไรคะ ถ้าท่านได้เข้ามาดูอีกครั้ง รบกวน
ขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยนะคะ ...

ตอนนี้กำลังเก็บตังค์อยู่ค่ะ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่จะหามาใช้สักคัน คิดว่าน่าจะเป็นตระกูล "น้องซู" ค่ะ
ก่อนจะไปดูรถ คงจะหาช่างที่อู่ไหนสักอู่ไปช่วยดูให้ พร้อมกับผูกขาดการบำรุงรักษาซะเลย...

คำตอบที่ 6
       ตอนนี้ผมมีรถค่ายอื่นทั้ง4wdและเก๋ง ไม่มี"น้องซู"ในครอบครองแล้วทั้งๆที่ชอบซูฯพอคาร.. เหตุผลคือ ผมอยู่ ตจว. และการใช้รถผม ผมจะเข้า0บริการตามระยะ ซูฯเขามี0น้อย เข้า0ทีต้องขับเข้า กทม. ซึ่งไม่สดวกนักกับระยะทาง เรื่องการติดแก๊สก็เป็นทางเลือก1สำหรับรถทุกคัน...

ดูแล้ว คิดว่าคงตัดสินใจไปแล้ว ก็ขอให้เลือกคันที่ถูกใจนะครับ..

คำตอบที่ 7
       เออ.. ขอเข้ามาให้ข้อมูลอีกหน่อยระหว่าง Sporty VS Vitara 3Ds.

- Sporty ปี1999เป็นต้นมาเป็นรุ่นหัวฉีด(G13B)จะประหยัดว่ารุ่นเก่าเล็กน้อย อะไหล่ต่างๆหาง่าย รวมถึงชุดแต่ง มีร้านแพร่หลาย คนนิยมมาก มีชื่อเสียงเรื่องลุย การขับขี่ต้องทำใจ ความปรอดภัยย่อมด้วยกว่า และมีเฉพาะเกียร์ธรรมดาเท่านั้น

- Vitara 3ปต. เป็นรุ่นคาบูร์ รุ่นหัวฉีด(เดี่ยว G16A)มีน้อยคัน รถ10กว่าปีแล้ว มีบ้างที่เปลี่ยนเครื่องยนต์ไปแล้วเป็นรุ่นหัวฉีดของ5ปต.(G16B)แต่นั่นแหละคือปัญหาตามมาถ้าร้านที่ติดตั้งไม่เชี่ยวชาญพอ ค่าบำรุงรักษา เช่นอะไหล่ต่างๆสูงกว่า Sporty และหายากกว่า การขับขี่ดีกว่ามากเพราะส่วนใหญ่เป็นเกียร์ออโต้ นั่นรวมถึงความปรอดภัยด้วย..

ไว้เป็นข้อมูลสำหรับ2รุ่นนี้แค่นี้ก่อน อยากรู้อะไรเพิ่มเติม ลงต่อได้นะ ถ้าทราบก็จะบอกครับ..

คำตอบที่ 8
       เพิ่มเติมอีกนิด เขียนไปเขียนมาชักติดใจ. คืออยากให้ข้อมูลให้สมบูรณ์ที่สุดนะครับ..

Vitara 3ปต. นำเข้าทุกคัน และหาสภาพดีๆยากกว่า ส่วน Sporty ทำในไทย (ยกเว้น Calibian รุ่นเก่าๆ)
เรื่องราคา Vitara ราคาเป็น2เท่าของ Sporty พูดถึงที่เป็นรถเดิมๆทั้งคู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพและปีด้วย.

หวังว่าคงเป็นข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจได้พอสมควร..

คำตอบที่ 9
       ขอบคุณมาก ๆ อีกครั้งค่ะ

คำตอบที่ 10
      
ผมก็ยังเชียร์ คาริเบียนครับ
แต่ส่วนจะทำให้นิ่มนวนได้ยังงัย คงต้องลงทุนเยอะหน่อยนะครับ
ใช้แหนบชุดแต่งดี สวยเลยครับและจบทีเดียว
แต่ถ้างบน้อย ก็แต่งไปทำไปเหมือนผมไง
ไม่เบื่อด้วย

คำตอบที่ 11
       ถ้าที่คุณอยู่น้ำท่วมบ่อยๆเช่นฝนตกมากๆทีท่วมทีผมว่าใช้เจ้าซูน้อยดีกว่าครับไม่มีปัญหาเวลาลุยน้ำ

คำตอบที่ 12
       ที่บ้าน เวลาฝนตก น้ำไม่ท่วมค่ะ
แต่ชอบรถลุย ๆ รู้สึกขับแล้วสนุกดี
ตอนนี้ยังมีเงินไม่พอค่ะ กำลังเก็บ ๆ อยู่ค่ะ
พร้อมเมื่อไหร่ ถอยทันที...

คำตอบที่ 13
       บ้านผมเองฝนตกแล้วน้ำท่วม อิอิ ฝนไม่ตกก็น้ำทะเลหนุน ตอนนี้ก็เก็บเงินไว้ดาวเหมือนกัน คุณอยากใช้น้องซู เหมือนผมเลย ตอนนี้ผมก็หาข้อมูลไปก่อนครับ

คำตอบที่ 14
       ขอให้ใด้รถดีๆไวๆนะครับขอเอาใจช่วยครับ

คำตอบที่ 15
       ตอนนี้มองหา sporty แล้วค่ะ
เพื่อน ๆ มีใครต้องการขายบ้างไม๊คะ

คำตอบที่ 16
       รุ่นตู้ปลากับรุ่น sporty ต่างกันที่อไรบ้างครับ อันไหนดีกว่ากันครับ ใจจริงชอบรุ่นตู้ปลาครับ

คำตอบที่ 17
      
...ตอบคุณเด็กชานเมืองค่ะ...
ส่วนตัวแล้ว ไม่ทราบเหมือนกันว่ารายละเอียดของเครื่องแตกต่างกันตรงไหน
แต่ที่เลือก Sporty เพราะรูปทรงน่ะค่ะ :)

คำตอบที่ 18
       แฮะๆ ส่วนผมชอบตู้ปลาครับ น่ารักปุ๊กลุ๊กดีครับ

คำตอบที่ 19
       ลองเข้าไปดูในเวฟประกาศขายของซิครับเห็นมีลงขายอยู่หลายคันครับ

คำตอบที่ 20
       ขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักน่ะครับ ถ้าชอบสบาย ไปทำงานอย่างเดียว หรือไปพักผ่อนแบบครอบคัว ก็เลือกวีทาร่า ถ้าต้องการดูลุยๆ เที่ยวได้ทุกทริป อะไหล่ อุปกรณ์เยอะ ราคาถูก ก็ต้องเจ้าเบี้ยน อีกอันหนึ่ง เรื่องการกินน้ำมัน หากเกรงเรื่องกระเป๋า ก็เล่นเจ้าเบี้ยน จะเหมาะกว่า แต่ตอนนี้ ก็มีเรื่องติดแก๊สมาช่วย คงต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มขึ้น ทั้งเรื่องการประหยัด และระบบเทคโนโลยีความปลอดภัย

คำตอบที่ 21
       ระหว่าง Sporty กับ ตู้ปลา Sporty จะประหยัดน้ำมันกว่า เนื่องจาก หลังคาเบากว่า น้ำหนักรถจึงเบากว่า อัตราเร่งในขนาดรถเดิมๆ Sporty จะดีกว่าเล็กน้อย ส่วนการกินน้ำมันก็จะน้อยกว่า ตู้ปลาครับ ส่วนอื่นที่เหลือ ใกล้เคียงกันครับ

คำตอบที่ 22
       ระหว่าง Sporty กับ ตู้ปลา กินน้ำมันต่างกันกี่ลิตรครับ
กินประมาณลิตรละเท่าไรครับ

คำตอบที่ 23
       ซื้อใหม่ดีกว่าครับดาวน์ 6 หมื่นเองผ่อนเดือนละไม่เท่าไหร่ จะได้ไม่ต้องยุ่งกับเรื่องการซ่อมแซม

คำตอบที่ 24
       ค่ะ กำลังคิดจะดูรถใหม่อยู่เหมือนกันค่ะ
แล้วจะนำมาเปรียบเทียบราคาดูค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะ

คำตอบที่ 25
       กินต่างกันกี่ลิตร คุณลอง นึกภาพว่า ถ้าคุณวิ่งรถเปล่าๆ กับ มีคนนั่ง น้ำหนักเพิ่ม เกือบ ร้อยกิโล จะกินน้ำมันเพิ่ม ต่างกันเท่าไหร่ครับลองคิดดู เคยมีคนคำนวนไว้แล้วครับ ว่า ถ้ารถหนัก เพิ่ม 10 กก. จะกินน้ำมันเพิ่ม ....... บาทต่อกิโล (ผมจำไม่ได้ ลองไปหา ใน บทความเก่าๆดูครับ) และถ้าเพิ่ม เกือบ 100 กก. ก็คูณเอาครับ Sporty กับตู้ปลานั้น ตู้ปลา ถ้ารุ่นเก่า หลังคา จะยาวไปถึงหลัง + กับน้ำหนักกระจก อีก 3 ด้าน หนักกว่า Sporty มากครับ ดังนั้นจึงกินน้ำมันมากกว่า Sporty ยิ่งถ้าเป็นรุ่นเก่าเครื่อง คาบูเรเตอร์ จะกินกว่ารุ่นหัวฉีด อีกครับ สรุป ทั้งน้ำหนักหลังคา+กระจก และ เครื่องยนต์ รุ่นเก่า จะกินน้ำมันมากกว่า Sporty รุ่นใหม่ๆ เยอะครับ ส่วน วีทาร่า เครื่องยนต์กินน้ำมันกว่าแน่นอนครับ (น้ำหนักเกียร์ ออโต้ และ ซีซี ที่สูงกว่า)

คำตอบที่ 26
       ตกลงตัดสินใจออกรถใหม่แล้วค่ะ :)
sporty ค่ะ

คำตอบที่ 27
       ได้รถเมื่อใหร่ลงรูปมาให้ดูบ้างนะครับ

คำตอบที่ 28
       นี่คือ Checklist จุดที่ต้องสังเกต หรือข้อควรระวัง ในการตรวจสภาพตอนรับรถใหม่ ที่ท่านสามารถใช้เป็นข้อมูลในการตรวจสอบเบื้องต้นได้ ดังนี้ค่ะ



1.ตัวถัง
____1.1 ดูขอบ, สันข้างรถว่าแนวยังตรงดีอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะระหว่างประตู และตัวถัง
____1.2 เปิด/ปิดประตูครบทุกบาน และกระโปรงหน้า-หลัง ได้ดี /ล็อคเด็กประตูหลัง
____1.3 มีสนิมบริเวณขอบประตูแต่ละบานหรือไม่ แค่ไหน
____1.4 เห็นรอยสีใหม่พ่นทับสีเก่าในบริเวณขอบประตูหรือไม่ (ถ้ามีขอบยางกันกระแทกลองแง้มดู)
2. กระจก
____2.1 กระจกทุกบานขึ้นลงได้สุดหรือไม่ (ถ้าเป็นกระจกไฟฟ้าควรดูเป็นพิเศษ)
____2.2 กระจกมีรอยร้าวกระเทาะหรือไม่อาจจะนําไปสู่การแตกง่ายในอนาคต
____2.3 ลวดละลายฝ้ากระจกหลังยังใช้ได้อยู่หรือไม่
____2.4 ยางปัดนํ้าฝนต้องเปลี่ยนหรือไม่
____2.5 ที่ปัดนํ้าฝนยังใช้งานได้ดี
____2.6 ที่ฉีดนํ้าล้างกระจกยังใช้งานได้ดี
____2.7 กระจกมองข้างปรับได้ตามปกติ / พับยังไง ให้แสดงให้ดู

3. ยางและล้อ + เครื่องมือ
____3.1 เนื้อยางยังนิ่มอยู่พอสมควร / ปียางที่ผลิต / รอยวิ่งของยาง
____3.2 ล้อมีรอยบิ่นหรือไม่ / Max เก่า ใหม่
____3.3 แม่แรง / ล้ออะไหล่ / ประแจ / เครื่องมือประจำรถครบหรือไม่

4. ภายในห้องโดยสาร
____4.1 ลายไม้และหน้าปัดเป็นรอยขูดขีดหรือไม่ / หน้าปัดหลักๆยังใช้งานได้ครบหรือไม่ เช่น เข็มความเร็ว เข็มนํ้า
มัน เข็มไมล์ ไฟเบรคมือ เข็มความร้อน
____4.2 เบาะปรับได้ท่าทีถนัด / เข็มขัดนิรภัย ลองปรับ+กระตุก
____4.3 ยางปูพื้นติดรถมาแบบไหน
____4.4 เสียบกุญแจรถแล้วบิดสวิทย์ ON (ยังไม่บิดสตาร์ท) แล้วตรวจดูไฟเตือนที่หน้าปัดขึ้นครบถ้วนหรือไม่
____4.4 กระจกมองหลังและข้างปรับได้ทัศน์วิสัยที่ดี/ กระจกข้างปรับได้ ลองพับ / กุญแจรีโมท /Central Lock
____4.5 วิทยุติดรถ/ ทดสอบแอร์ ลองแรงลมทุกระดับ ที่วัดอุณภูมิภายใน-นอก /กดแตร / ที่ปัดน้ำฝน INT / Senser
ฝน / ไฟเบรคดวงที่ 3/ ไล่ฝ้าหลัง ลองกดแล้วจับดูว่าร้อนไหม…..
____4.6 หมุนพวงมาลัยดูจนสุด 2 ด้านมีเสียงดัง? ปรับ ไกล-ใกล้ สูง-ต่ำ/ วิทยุ CD ลองฟังแยกทุกจุดว่า OK
____4.7 กระจกไฟฟ้า 4 บาน ลองกดปุ่มเลื่อนขึ้นลง/ ป้องกันหนีบ? , กระจกข้างปรับได้? ลองพับดูถ้ามีปุ่มพับ
____4.8 สัญญานเตือนไฟเปิด ประตู/เปิด,เบรกมือ ,นาฬิกา
____4.9 ที่เปิดกระโปรง หน้า หลัง ฝาน้ำมันอยู่ตรงใหน / ช่องเก็บของต่างๆเปิด-ปิด ได้ดีหรือไม่

5. ห้องเครื่อง
____5.1 น้ำมันเบรค/ น้ำมันเครื่อง/ น้ำมันเกียร์/ น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์
____5.2 สายพานต่างๆ
____5.3 น้ำในหม้อน้ำ+หม้อพัก , กระบอกน้ำฉีดกระจก / ถามให้รู้ว่าอยู่ตรงไหน
____5.4 น้ำกลั่นแบตเตอรี่
____5.5 ลอง Start เครื่องฟังเสียงดู เร่งเครื่อง
____5.6 หมายเลขเครื่อง / หมายเลขตัวถัง / ให้เขาชี้ให้ดู
____5.7 แผ่นกันความร้อนมีให้หรือไม่-ราคาเท่าไร-แถมได้มั๊ย

6. กลไกขับเคลื่อน
____6.1 ลอง Start เครื่องฟังเสียงดู เร่งเครื่อง
____6.2 เครื่องยนต์เดินเรียบ
____6.3 พวงมาลัยไม่มีเสียงดังเวลาเลี้ยว
____6.4 คลัชท์ไม่แข็งหรือระยะตื้นจนเกินไป (กรณีเกียร์ธรรมดา)
____6.5 เข้าเกียร์ได้ครบ (เกียร์ออโต้ให้ดูไฟบอกตำแหน่งเกียร์ที่แท่นเกียร์+หน้าปัด)
____6.6 เกียร์ไม่หลวม, ไม่มีเสียงดังเวลาเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่ง
____6.7 ความร้อนไม่ขึ้นสูง
____6.8 เวลาปล่อยมือแล้วรถไม่เอียง
____6.9 ที่เปิดฝาเติมน้ำมันเปิดตรงไหน-สาธิตให้ดูด้วย

7. ระบบปรับอากาศ
____7.1 แอร์เย็น / ปรับอุณหภูมิได้
____7.2 พัดลมปรับความเร็วได้ตามปกติ
____7.3 ช่องลมปรับทิศทางได้ตามปกติ / ตัวครีบมีสภาพแน่นหนาดี

8. ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง
____8.1 ไฟสูง ไฟหน้า และไฟหรี่ เปิดติด ปิดดับ สว่างชัดเจน
____8.2 ไฟเลี้ยวใช้ได้ทั้ง 2 ข้าง และลองกดปุ่มไฟฉุกเฉินว่ากระพริบ 2 ข้าง?
____8.3 ไฟเบรคใช้งานได้
____8.4 ไฟถอยหลังใช้งานได้

9. เอกสารต่างๆ
____9.1 สมุดทะเบียน/ ใบโอนรถ / เอกสารประกันภัย / พรบ.
____9.2 ใบเสร็จรับเงินค่าdown/ ใบเสร็จค่ามัดจำป้ายแดง
____9.3 สมุดคู่มือป้ายแดง/ ป้ายแดงมีตรา ขส /
____9.4 คู่มือรถ, เอกสารการรับประกันอุปกรณ์รถ และเช็คระยะฟรี
____9.5 ของแถมต่าง ๆ ตามที่ผู้ขายตกลงไว้

ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก carvariety.com