คำตอบที่ 1
       สนใจเกี่ยวกับการวางเครื่องตัวนี้กับคาริเบี้ยน ลองโทรสอบถามพูดคุยถึงเรื่องราวและปัญหาต่างๆในการวาง อัตราการกินน้ำมัน ตลอดจนชุดช่วงล่างที่ใช้ได้ครับ ค่าใช้จ่ายในการทำ
โทร. 081-754-5376 ปรึกษาได้ โทรมาคุยเล่นก็ได้ครับ ไม่มีปัญหา ผมไม่ได้เป็นร้านทำนะครับ เพียงแต่อยากมีเพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน กันเองอยู่แล้วครับ

ปล. รถของผมคาริเบี้ยน เครื่อง TD27turbo ชนเกียร Rocky เพลา Prado อัตราทด 8.39 อัตราการกินน้ำมัน 8 กม./ลิตรในเมือง และ 9.5 กม./ลิตรสำหรับต่างจังหวัด ความเร็วปลาย 130 กม./ชม. ยาง 35 ตะขาบครับ

คำตอบที่ 2
       ขอบคุณคำตอบที่ 1 ที่เข้ามาให้ข้อมูล ผมไม่ใช่เจ้าของกระทู้หรอกครับแต่ผมก็เข้ามาดูอยู่บ่อยๆครับผมเองก็กำลังหาข้อมูลอยู่เหมือนกัน

คำตอบที่ 3
       โดยปกติแล้ว ผมว่า เครื่องตระกูล TD BD จะเหมาะกับรถซูซูกินะครับ เพราะมิติของเครื่องค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับเครื่องตระกูลโตโยต้า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สาเหตุที่ผมเลือก TD 27 turbo ก็เพราะว่า งบประมาณที่ค่อนข้างจำกัดในช่วงเวลานั้น และเกียร์ที่ผมใช้ก็คือ เกียร์ Rocky ซึ่งปกติแล้วมันจะใช้กับเครื่องของ Dai hutzu Rocky ซึ่งมีขนาดความจุ 2,800 ซีซี ซึ่งมีความจุที่ใกล้เคียงกับเครื่องนิสสัน TD27 นะครับ คือกลัวว่า ถ้าใส่เครื่องที่ใหญ่มากๆอาจจะทำให้เกิดปัญหากับเกียร์ได้ในภายหลัง อย่างเช่น เฟืองเกียร์รับไม่ไหว เกียร์แตกอะไรทำนองนั้น
เกียร์ Rocky เป็นเกียร์ที่หนักมาก เนื่องจากเป็นเกียร์เสื้อเหล็กหล่อทั้งตัว ดังนั้นการที่จะนำมาชนกับเครื่องต่างยี่ห้อได้นั้น จะต้องทำการหล่อหัวหมูขึ้นมาใหม่ แต่ขอแนะนำว่า หาร้านที่หล่อเป็นแบบมิเนียมนะครับ พอดีรถผมร้านสหสัมพันธ์เค้าหล่อมาให้แบบเป็นเหล็ก พอมาชนกับเกียรและเครื่องกลายเป็นหนักไปกันใหญ่ครับ (เฉพาะหัวหมูประมาณ 27 กก. กระถางมังกรที่ปลูกต้นไม้ดีดีนี่เองครับ)
อีกปัญหาหนึ่งที่เพื่อนๆคิดจะทำนะครับ ผมไม่อยากแนะนำให้ใช้กับเกียร์สโลว์เดิมของคาริเบี้ยนนะครับ อาจจะเกิดปัญหาตามมาทีหลังได้ เพราะเกียร์สโลว์เดิมของซูซูกิจัดว่าเป็นเกียร์ที่เล็กครับ ซึ่งจะเหมาะกับรถเล็กของมันตามสเปคครับ แต่ถ้าหากงบประมาณจำกัดก็สามารถชนเกียร์เดิมไปก่อนได้ครับ แต่ขับระวังหน่อยนะครับ แล้วถ้ามีงบประมาณค่อยว่ากันทีหลัง (แต่อาจจะเข้าตำราทำแล้วทำอีก ทำให้เสียเงินหลายรอบครับ กลายเป็นแพงไป)

คำตอบที่ 4
       งบประมาณคร่าวๆนะครับ
เครื่อง TD27turbo ประมาณ 28,000 บาท
เกียร์ Rocky ประมาณ 20,000 บาท (รุ่น 5 เกียร์)
หัวหมูหล่อ 5,000 บาท (ค่อนข้างแพงครับ เพราะว่ามีคนทำน้อย ร้านจึงต้องสร้างบล็อคขึ้นมาใหม่)
ระบบคลัชท์ใช้ของ 5L รวมลูกปืน จานกดและหวี ประมาณ 8,000 บาท
ที่เหลือเป็นค่าแรงในการวางไม่รู้เท่าไหร่ครับ ค่าเดินสายไฟ ค่าเดินท่อไอเสียทั้งเส้น ค่าทำแอร์เติมน้ำยา แต่ละอู่คิดไม่เหมือนกัน ยิ่งวางในคาริเบี้ยนนี่ตัวแพงเลยครับ เพราะวางยาก เนื่องจากรถมันเล็ก เนื้อที่ค่อนข้างจำกัด
เบ็ดเสร็จก็ประมาณ 70,000 - 80,000 บาทครับ

คำตอบที่ 5
       คุณสอครับใช้คานของอะไรครับเกียร์ ROCKY(รุ่น 5 เกียร์)มี PTO ไหมครับแล้วอัตราสิ้นเปลืองนำมันอยู่ที่ประมาณกี่กิโล/ลิตร ขอทราบขนาดยางที่คุณสอใส่ด้วยครับ

คำตอบที่ 6
       คานหน้าหลังของ Prado 78 อัตราทด 8.39
เกียร์ไม่มี PTO ครับ ผมใช้วินช์ไฟฟ้าครับ
อัตราการกินน้ำมัน 8 กม./ลิตรในเมือง และ 9.5 กม./ลิตรสำหรับต่างจังหวัด ยาง Simex 35 ครับ

คำตอบที่ 7
       ถ้าให้เลือกใหม่ผมจะไม่ใช่เกียร์ Rocky ครับ เพราะหนักมาก จึงทำให้รถหนักไปด้วย แต่มันจำเป็นต้องใช้เพราะก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนเครื่องกับเกียร์ ผมใช้เครื่อง 4A เดิมแล้วชนสโลว์ 1000 ของคาริเบี้ยน จึงทำให้เพลาหลังนั้นออกขวา ดังนั้นเพลาที่ผมจะนำมาใช้จึงต้องเป็นเพลา Toyota Prado 78 ครับ
(สำหรับเพลารุ่นนี้แล้วจะมีอยู่ 2 อัตราทดนะครับ คือ 10.43 กับ 8.39 และพื้นฐานเดิมของคานตัวนี้จะเป็นสปริงเหมือนอย่างที่รถการ์ตูนใช้กัน แต่ผมทำการเลาะและตั้งอานแหนบใหม่ สาเหตุที่ใช้แหนบคือ เซ็ทง่ายกว่าสปริง และไม่ยุ่งยากครับ แข็งหรือนิ่มไปก็เสริม ตัด ดัด รองเอาครับ)
จริงๆแล้ว อยากได้เกียร์ที่เป็นตระกูล 2L หรือ 3L นะครับ เพราะตัวเกียร์เบา (เป็นอลูมิเนียมทั้งตัวรวมทั้งหัวหมู) และเปลี่ยนเพลาหลังเป็นแบบออกกลาง (จำพวก 106 หรือ 65ก็ได้) ก็จะทำให้รถเบาขึ้นเยอะครับ

คำตอบที่ 8
       คุณสอรบกวนหน่อยครับแล้วเวลาใส่LOWเข้าไปเล่นทางขี้โครนหรือปีนเขาชันๆยาวๆนี่กำลังเป็นไงบ้างครับสามารถที่จะเรียกรอบแรงบิดให้ล้อฟรีได้เลยรึป่าว ตอนนี้ผมใช้ sr20det เกียร์ร็อคกี้ยาง35 บริโภคน้ำมันเหลือเกิน ก.ม.ละ6บาทสู้ไม่ไหวกำลังมองๆ bd30กับ td27tยังไงช่วยแนะนำด้วยนะครับ

คำตอบที่ 9
       ผมเชียร์ BD30 ไปเลยครับ จ่ายทีเดียว
ส่วนรายละเอียดเดี๋ยวกลับมาพิมพ์ให้ใหม่ครับ คงจะต้องพิมพ์กันยาว ส่วนเพื่อนๆท่านอื่นลองมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เลยนะครับ

คำตอบที่ 10
       ดีมากเลยครับคุณสอจะได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน

คำตอบที่ 11
       เรื่องความแรงของเครื่อง มันอยู่ที่ส่วนประกอบหลายๆอย่างนะครับในความเข้าใจของผม อย่างรถผมตอนนี้เป็นคาริเบี้ยนตู้ปลา กันชนไซด์เรล กันชนหลังรอบคัน อัตราทดที่ผมใส่อยู่คือ 8.39 และยาง 35 นิ้วตะขาบใส่กับล้อแมกซ์ของอีซูซุ (น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับล้อเหล็ก) ใช้งานปกติประจำวันเวลาออกตัวสามารถใช้เกียร์ 2 ออกตัวได้ครับ ยิ่งถ้าหากปิดแอร์ขับนี่ เกียร์1ไม่ต้องใช้เลยครับแม้กระทั่งเวลาอยู่กลางคอสะพาน และอัตราเร่งในแต่ละเกียร์ลากได้ค่อนข้างยาวครับ ส่วนตัวแล้วผมพอใจมาก ณ ตอนนี้ แล้วอีกอย่างสอดคล้องกับอัตราการกินน้ำมันด้วยครับ

ส่วนเวลาเข้าป่าสามารถใช้เกียร์ 2 Low ปั่นจี๋ได้ครับเพื่อให้ล้อหมุนเร็ว ถ้าใช้เกียร์ 1 จะช้าไปล้อหมุนช้ารถไม่ค่อยเดิน แต่บางจุดที่ชันมากๆอาจต้องใช้เกียร์ 1 นะครับแต่สามารถลากได้ยาวๆแล้วรีบสับ 2 รอบสามารถพาเครื่องเร่งต่อไปได้อย่างต่อเนื่องครับ ใช้วิธีการเบิ้ลเรียกรอบได้ไม่ฝ่อครับ และไม่จำเป็นต้องเบิ้ลครัชช่วยด้วยครับ

ปล.ผมมีความคิดอยู่แล้วที่ว่า รถเครื่องดีเซลที่ดีขับถนนดำธรรมดาจะต้องออกตัวเกียร์ 2 ให้ได้ครับ อัตราทดถึงจะเรียกได้ว่าเหมาะสม และเหมาะกับการใช้งาน
(เดี๋ยวพรุ่งนี้มาว่ากันต่อนะครับ)

คำตอบที่ 12
       เกียร์ Rocky ที่แสนจะหนักเมื่อนำมาชนกับเครื่อง TD 27 พร้อมกับหัวหมูเหล็กหล่อยิ่งทำให้หนักไปกันใหญ่
ถ้าหากได้เกียร์ 3L แล้วเพลาหลังออกกลางจะทำให้รถวิ่งปลิว และเบากว่านี้อีกเยอะนะครับ
แต่เกียร์ Rocky ก็เป็นเกียร์ที่ทนทาน เหมาะกับการใช้งานหนักๆเหมือนกัน ยังไงๆทำไปแล้วผมก็ไม่เปลี่ยนอีกแล้วล่ะครับ

คำตอบที่ 13
       เยี่ยมมากเลยครับคุณสอ สเป็กรถเหมือนกันมาก เฟือง 8/39 ยาง35 เกียร์ร็อคกี้ กันชนหน้า วิ้นซ์เพลา2ตัว ขาดแค่บันไดกับไซค์เรียว ผมว่าดูๆแล้วน่าจะจบที่ td27t มากกว่าbd30กลัวว่ารอบเครื่องจะเหลือแยะเกินไปต้องทดเฟืองช่วยแล้วเฟือง prado นี่มันหายากและแพงด้วย ขนาดตอนนี้ใช้เครื่องsr20det 2000ซีซี รอบเครื่องยังเหลืออีกบานเลย

คำตอบที่ 14
       แต่ก่อนรถผมใส่ยาง 34 นิ้ว แล้วใช้เฟือง 10.43 (อัตราทดเดิมที่มากับคาน) สามารถใช้งานในเมืองได้ดีครับ กินน้ำมันปกติเหมือนกัน ตีนปลายถนนดำทำได้ดีมากๆสะใจเลยครับ แถมไมล์ไม่หลอกด้วยครับเพราะเทียบกับรถเก๋งของเพื่อนที่วิ่งไปด้วยกัน ความเร็วได้ถึง 140 กม./ชม.เลยครับ ความร้อนก็ไม่มีด้วย วิ่งไปกับเพื่อนในกลุ่มไปเที่ยวป่านี่ซัดกับ 1KZ ได้เลยครับ แต่มาพอใช้งานในป่าแล้วไม่ค่อยเหลือครับ เกียร์ 2 ออกตัวไม่ได้เลยสำหรับทางชันๆ ตอนนั้นมองๆว่าจะต้องเปลี่ยนทดเฟืองให้มากขึ้นอีกนิดหนึ่ง ตอนแรกก็มองว่า จะใส่ 9.41 แต่เฟืองหน้ามันเป็นแบบเฟืองหลบบน เลยไม่มี (มีแต่ของใหม่ราคาสาหัส) ก็เลยต้องกระโดดไป 8.39 เลยครับ เป็นเฟืองหลบบนเหมือนกัน

พอต่อมาเป็นเฟือง 8.39 แล้ว ผลคือ รอบเครื่องจะเหลือเยอะมากขับในซอยธรรมดาใช้เกียร์ 4-5 เลยนะครับ ขับลากเกียร์ได้ไม่ค่อยมาก ช่วงของแต่ละเกียร์ค่อนข้างสั้น ลากไปแป๊บเดียวก็เปลี่ยนเกียร์แล้ว ขับในซอยเนี่ยแป๊บเดียวขึ้นเกียร์ 5 แล้วครับ ส่วนวิ่งต่างจังหวัดเต็มที่คือ 110 กม./ชม.ที่เกียร์ 5 แล้วรอบเครื่องจะสูงมาก ฟังแล้วสงสารเครื่องครับ ไม่อยากเหยียบไปมากกว่านี้ มันคล้ายๆกับว่า รอบปลายมันตัน เข็มไมล์ก็หลอกด้วยครับ ในใจคิดทันทีว่า ยาง 34 นิ้วที่ใส่อยู่มันค่อนข้างเล็กไปสำหรับอัตราทดนี้ เครื่องซีซีนี้ และเกียร์ตัวนี้

พอสุดท้ายมาเปลี่ยนเป็นยาง 35 นิ้ว และใช้ล้อแมกซ์ของอีซูซุ สุดๆเลยครับ ทุกอย่างลงตัวหมด ทั้งอัตราเร่ง อัตราการกินน้ำมัน รอบต้น รอบปลาย วิ่งทางไกลที่ 100 กม./ชม.รอบเครื่องสบายตัวเลยครับ ไม่เหนื่อย ขับดีกว่าก่อนเยอะครับ ส่วนทางป่าก็ดีออกตัวเกียร์ 2 Low ได้เลยครับ

(ดูเหมือนว่า ตอนนี้ก็ลงตัวหมดทุกอย่างแล้ว แต่ผมเชียร์ BD 30 เพราะอะไร เดี๋ยวมาพิมพ์ต่อครับ ร่ายยาวแน่ครับงานนี้)

คำตอบที่ 15
       ขอบคุณมากครับเยี่ยมไปเลยได้คุยกับผู้ใช้ตัวจริง

คำตอบที่ 16
       คุญสอหายไปไหน กลับมารึยัง

คำตอบที่ 17
       อยู่ครับ อยู่ครับ แต่ยังไม่มีเวลาว่างพิมพ์เลย
เดี๋ยวอีกไม่เกิน 1-2 วันเดี๋ยวว่ากันต่อครับ

คำตอบที่ 18
       รออยู่นะครับคุณสอ

คำตอบที่ 19
       BD30 โดยพื้นเดิมแล้วจะเป็นเครื่องขนาดความจุ 3000 ซีซี และเป็นเครื่องระบบ Direct Injection เครื่อง BD30 มีทั้งรุ่นที่มีเทอร์โบและไม่มีเทอร์โบ แต่รุ่นที่มีเทอร์โบแท้ๆจะหาค่อนข้างยากในตลาดเชียงกง แต่ก็เคยเห็นบ้างเหมือนกันครับ ราคาค่าเครื่องจะประมาณ 40,000 บาท (จะสูงกว่าราคาของเครื่อง TD27turbo อยู่ประมาณ 10,000 บาทครับ) ราคานี้จะเฉพาะเครื่องอย่างเดียวนะครับ
แต่สิ่งที่ผมต้องการจะทำนั้นก็คือ การนำเครื่อง BD30 มาจับรวมกันกับเครื่อง TD27turbo ของเดิมที่ใช้อยู่ครับ โดยมีเป้าหมายคือ
1. ต้องการขยายความจุให้เพิ่มมากขึ้นเป็น 3000 ซีซี
2. ต้องการเปลี่ยนระบบเครื่องเป็นแบบ Direct
3. เพื่อได้อัตราการกินน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 10 กม./ลิตร
4. เพื่อให้ความร้อนมั่นคงยิ่งขึ้นไปอีก (เป็นผลพลอยได้ในทางอ้อมนะครับ เพราะของเดิมความร้อนก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว)
***เป้าหมายทุกข้อที่ว่ามานี้ สามารถเป็นไปได้แน่นอนครับ จากการสอบถามและพูดคุยกับเพื่อนๆที่กำลังเล่นกันอยู่***

ส่วนที่เจาะจงเครื่อง BD30 ก็เพราะว่า มิติของเครื่องและบล็อคของเครื่องเป็นตัวเดียวกันกับ TD27 เลยครับ อะไหล่หลายชิ้นสามารถใช้ทดแทนกันได้เลย แต่การนำจับมารวมกันนั้น จำเป็นที่จะต้องหาของดังนี้ครับ
1. ท่อนบนของเครื่อง BD30 เช่น ฝาสูบและฝาวาล์ว
2. ลูกสูบ 4 ลูกของ BD30
3. ปั๊มดีเซลของเครื่อง BD30
ส่วนเทอร์โบอาจจะใช้ของเดิมนะครับ และทำการเซ็ทปั๊มเพื่อให้เหมาะสมกับเครื่องซีซีใหม่ (แต่ใจจริงแล้วไม่อยากไปยุ่งกับปั๊มเลย ต้องการแบบของโรงงานเดิมๆมากกว่า)

นั่นแหละครับ คือ คำตอบที่ว่า ถ้าเปลี่ยนทั้งทีก็เล่น BD30 ไปเลย จะได้ไม่อยากมาต้องการแบบผมทีหลังครับ
แต่ถ้าหากพอใจกับ TD27 แล้วตามที่ได้พูดมาในตอนต้นก็ได้ครับ ขับมันส์สุดๆเหมือนกันครับ กดลากแต่ละเกียร์นี่ ฟี๊ดๆ เหมือนกันครับ

คำตอบที่ 20
       บางคนอาจจะมีคำถามอยู่ว่า ทำไมไม่ซื้อ BD30 มาลงไปแทนซะเลยล่ะ แล้วเอาเครื่อง TD27 ไปขาย คำตอบก็คือ เจ้าเครื่อง TD27 ที่ใส่อยู่ตอนนี้นั้นมันมีหลายอย่างที่ได้ปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้มันเข้ากับรถคาริเบี้ยนครับ

คือตอนแรกเนี่ยเครื่อง TD27 ที่ผมซื้อมาใส่รถคันนี้ มันไม่ได้เป็นฝาขาวของตัวเทอราโน่อย่างนี้นะครับ มันเป็นเครื่องรถตู้ที่มีอินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำที่ด้านหลังของเครื่อง แต่ผมเห็นว่าเครื่องมันสภาพใหม่มากๆก็เลยตัดสินใจซื้อเครื่องตัวนี้ครับ เพราะดูจากน้ำหล่อเย็นของเครื่องเป็นสีเขียว แสดงให้เห็นถึงเจ้าของเก่าที่ใช้เครื่องตัวนี้อยู่นั้นเป็นคนที่ใช้รักษาและดูแลเรื่องความร้อนอยู่เป็นประจำครับ

แต่พอซื้อไปแล้วลองวัดคร่าวๆดู ปรากฏว่า มันใส่กับรถคาริเบี้ยนไม่ได้ เจ้าตัวอินเตอร์น้ำหลังเครื่องก็ใหญ่โต ขืนใส่ลงไปมีหวังตู้แอร์เย็นในรถใส่ไม่ได้แน่นอน เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ก็เลยกลับมาที่ร้านที่ซื้อใหม่ แล้วบอกให้เค้าเปลี่ยนฝาวาล์วด้านบนและท่อไอดีข้ามต่างๆตลอดจนท่อไอเสียมาเป็นของรุ่นเทอราโน่แทนครับ เป็นอันจบ

(ร้านที่ผมซื้อเครื่องตัวนี้ เค้าจะขายแต่เครื่องดีเซลครับ โดยเฉพาะเครื่องนิสสันตระกูล TD BD ดังนั้นถ้าหากขาดเหลืออะไรนิดหน่อย ก็สามารถกลับมาเปลี่ยนได้ครับ เพราะเครื่องเค้ารื้อเยอะมากๆ)

พอเปลี่ยนฝาเสร็จแล้ว เราก็มาลองพิจารณาดูอีกทีอย่างละเอียดเพื่อเปรียบเทียบกับเครื่อง TD ทั่วไป และก็พบกับสิ่งที่แตกต่างกับเครื่อง TD27 ทั่วๆไปครับ คือ
- ฟรีปั๊มเป็นรุ่นคอสั้นมากๆ ซึ่งเหมาะกับรถคาริเบี้ยนมากๆ เพราะเวลาวางจะได้ไม่ต้องถอยเครื่องเข้าไปในห้องโดยสารมากนัก
-ใบพัดเป็นแบบ 8 ใบแบบเดียวกับเครื่อง BD30 กินลมดี ลมแรงครับ (แต่อาจจะกินแรงเครื่องด้วยเช่นกัน)
-ไดชาร์จแบบ 100AMP เพราะเป็นเครื่องรถตู้จึงต้องใช้ไฟค่อนข้างมาก ทำให้ไดชาร์จมี Amp สูงตามไปด้วย เราก็เลยมองว่า กลายเป็นสิ่งที่ดีไป คือ เหมาะกับการใช้วินช์แบบนานๆต่อเนื่องเวลาอยู่ในป่า (ปกติแล้วไดชาร์จที่ไฟสูงๆจะหาค่อนข้างยากนะครับ ไหนจะขนาด ไหนจะรูที่ยึด ซื้อแล้วอาจจะต้องมานั่งแปลงขายึดกันอีก)
- คอมแอร์ตัวใหญ่มาก เพราะเป็นของรถตู้ ซึ่งมีหลายที่นั่งและห้องโดยสารกว้าง แต่อันนี้ใช้ไม่ได้ครับ เพราะถ้าเอามาใส่มันจะติดคัทซีคาริเบี้ยนครับ ผลสุดท้ายเลยต้องเปลี่ยนมาใช้คอมตัวเล็กของเครื่อง TD27 ทั่วไปครับ
- อ่างแคร้งน้ำมันเครื่องเป็นแบบย้อยหลังครับ เลยกลายเป็นผลดีไปอีก เพราะว่าจะหลบคานหน้าพอดีเลยครับ ซึ่งถ้าเป็นของเครื่อง TD ทั่วไปจะย้อยหน้าแถมลงมามากด้วยครับ ถ้าหากไปสร้างระยะกันกระแทกแหนบหน้าให้ชิดๆกันมีหวัง คานหน้ากระแทกกับแคร้งน้ำมันเครื่องแน่นอนครับ
-และอื่นๆอีก จำไม่ได้แล้ว

นั่นแหละครับ คือ เหตุผลที่ไม่ต้องการเอาเครื่อง BD30 มาใส่ทั้งตัว ต้องการเอามาเฉพาะบางส่วนที่เป็นระบบภายในของมัน จะได้ไม่ต้องมีงานสร้างอะไรขึ้นมาใหม่อีก ทำแล้วทำอีกไม่จบซะที

คำตอบที่ 21
       คุณสอแล้ว BD30 มันดีกว่า TD27 ตรงไหนบ้างถ้าเอามาลงจะต้องทดเฟืองท้ายใหม่รึป่าวส่วนความประหยัดจะต่างกันแยะไหม

คำตอบที่ 22
       รอดูรูปอยู่นะครับ

คำตอบที่ 23
       อันนี้คือ รูปคอมแอร์แบบลูกเล็กจากนิสสันเทอราโน่นะครับ เปลี่ยนเพราะจะได้วางเครื่องลงไปในคัทซีคาริเบี้ยนได้ แต่ว่าเห็นลูกเล็กอย่างนี้ ก็เย็นใช้ได้เหมือนกันนะครับ เพราะปกติใช้งานอยู่ในเทอราโน่ซึ่งเป็นรถใหญ่ ห้องโดยสารกว้างอยู่แล้ว
คอมแอร์ตัวนี้ผมได้ทำการรื้อออกมาดูเพื่อตรวจเช็คก่อนที่จะนำไปใช้งานจริง เพื่อเปลี่ยนซีลภายในตัวคอมแอร์ (จะได้ไม่ต้องรื้อออกมาใหม่ทีหลัง) พบว่า ระบบภายในเป็นระบบแบบปั๊มหมุนครับ ไม่ใช่ระบบลูกสูบเหมือนกับคอมยี่ห้ออื่นๆทั่วไป ซึ่งในความคิดผมแล้ว น่าจะใช้งานได้ทนทานกว่าระบบปั๊มหมุนนะครับ
คอมในรูปนี้ยี่ห้อ Calsonic ครับ ฟังดูแล้วแปลกๆไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ เพราะเรามักจะคุ้นอยู่กับยี่ห้อ Senden, Nippon แต่ไม่ต้องกลัวครับอะไหล่ซีลต่างๆหาได้ตามร้านขายอุปกรณ์แอร์รถยนต์ทั่วๆไป ส่วนอะไหล่คอมทั้งลูกเลยก็หาได้จากตามร้านเชียงกงที่รื้อเครื่อง TD เยอะๆครับ มีอยู่แล้ว

คำตอบที่ 24
       อันนี้คือ รูปไดชาร์จขนาด 100Amp พลังไฟเหลือเฟือครับ อันนี้ผมคิดว่า เครื่องมันเป็นของรถตู้ ไดชาร์จจึงต้องใหญ่เผื่อเอาไว้ใช้งานนะครับ
ตำแหน่งของมันจะอยู่ด้านบนขวาของเครื่อง เวลาที่เรายืนอยู่หน้ารถเปิดฝากระโปรงครับ

คำตอบที่ 25
       เกียร์ Rocky รุ่น 5 เกียร์แบบ Vaccumn ดูดลม มหาหนักจริงๆครับเกียร์ลูกนี้ แล้วตอนแรกที่เห็นตามรูป หัวหมูเป็นแบบอลูมิเนียมนะครับ ของเดิมๆของมัน แต่พอมาชนกับ TD27 เลยต้องไปหล่อหัวหมูใหม่เป็นแบบเหล็กหล่อทำให้หนักไปกันใหญ่

คำตอบที่ 26
       นี่เลยครับ หัวหมูเหล็ก น้ำหนัก 27 กก.เป๊ะ หนักมากครับ
แต่ก็มีบางเจ้าแถวๆเมืองกาญครับที่หล่อเป็นแบบอลูมิเนียมเหมือนกัน แต่มารู้หลังจากที่ทำไปแล้วครับ

คำตอบที่ 27
       รูปเกียร์ Rocky ที่ได้ทำการถอดหัวหมูเก่าออกแล้วกำลังเอาหัวหมูหล่อที่ชนกับเครื่อง TD ใส่เข้าไป

คำตอบที่ 28
       (ต่อกันเลยครับ)
คานเกียร์ที่ได้ทำการสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด โดยใช้เหล็กกล่องและเหล็กพับหนาพอประมาณเพื่อเสริมความแข็งแรง (ตรงจุดนี้ตอนแรกว่า จะเอาคานรับเกียร์ของ LN มาใช้แต่ไม่รู้เป็นไร ช่วงนั้นไม่มีซักกะร้าน เลยต้องสร้างขึ้นมาเองซะเลย)

ในส่วนของยางแท่นเกียร์ เป็นจุดที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ยางแท่นเกียร์ผมใช้ของโตโยต้าเซิฟนะครับ เพราะว่าเจ้ายางเดิมของเกียร์ Rocky นั้นไม่มีมา แถมยังหายากถึงยากมากครับ เลยแปลงยางเกียร์ของเซิฟมาใช้ พร้อมกับทำการพับเหล็กให้ขึ้นไปรับกับรูเดิมๆที่เสื้อเกียร์ของมัน โดยไม่มีการเจาะรูใหม่ใดๆทั้งสิ้นครับ

ก่อนหน้านี้ผมได้เคยสอบถามเกี่ยวกับยางแท่นเกียร์ของ Rocky แล้วไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ใช้ท่องเที่ยวและผู้ที่เป็นนักแข่งในสนาม ได้ความว่า ยางของแท้ๆของมันเลยไม่มีหรอก หายากมาก ส่วนใหญ่นักแข่งที่ใช้แข่งกันอยู่ในสนามมักจะใช้ยางแท่นเกียร์ของ Dutsun ช้างเหยียบรุ่นเก่า ซึ่งรูจะตรงกันเป๊ะเลย แต่ในความคิดของผมมันมีความรู้สึกว่า รถดัทสันช้างเหยียบรุ่นเก่ามันเป็นยางของรถขับ 2 ซึ่งจะไม่มีสะดือน็อตตัวใหญ่ที่ตรงกลางของยางแท่นเกียร์ เวลาไปใช้งานในป่าจริงมันจะเกิดปัญหาตรงเวลาเทคขึ้นเนินแรงๆอาจจะทำให้เครื่องขยับตัวไปข้างหน้าหรือข้างหลัง ทำให้เกิดการเสียหายได้ ซึ่งแตกต่างจากยางของเซิฟซึ่งเป็นยางแท่นเกียร์ของรถ 4x4 แท้ๆ มันจึงเหมาะสมมากกว่า และผมก็คิดว่า รถเราคือรถไว้ใช้งานประจำวันบ้าง และเดินทางท่องเที่ยวบ้าง รถเราไม่ใช่รถแข่งที่แข่งกันแป๊บเดียวก็ขึ้นเทเลอร์กลับ

คำตอบที่ 29
       ซุ้มเกียร์ภายในรถที่ต้องระเบิด และผ่าขยายออกมาให้กว้างขึ้น แต่ยังคงใช้ชิ้นส่วนเดิมของบอดี้รถและเคาะๆพับขึ้นรูปใหม่ให้ดูสวยงามขึ้น เพราะว่าซุ้มเกียร์เดิมของคาริเบี้ยนมันมีลอนเพื่อเสริมความแข็งแรงไว้ในตัวอยู่แล้ว ก็เลยอยากได้เดิมๆของมัน

คำตอบที่ 30
       หลังจากทำเสร็จแล้วก็ทำการทายาแดง (สีกันสนิม) ในจุดต่างๆที่โดนไฟ โดนความร้อนก่อนที่จะพ่นสีพื้นและสีจริง แต่ละจุดนี่เหนื่อยสุดๆเลยครับ ขัดจนเนื้อเหล็กขึ้นเงาวาวเลยครับรวมถึงคัทซีด้วยลามไปหมด เพราะอยากให้รถออกมาดี ทำทีเดียวแล้วไม่ต้องทำใหม่อีกทีหลัง

คำตอบที่ 31
       พ่นสีพื้นก่อนลงสีจริงครับ

คำตอบที่ 32
       พ่นเสร็จแล้วทั้งห้องเครื่องเลยครับ สีจะได้เหมือนกันหมด

คำตอบที่ 33
       ทำการคาดสีบอดี้ชู๊ทในส่วนด้านล่าง เพื่อป้องกันสีถลอกและช่วยทำให้เก็บเสียงได้เงียบขึ้นจากพื้นถนนเวลาวิ่ง และป้องกันความร้อนจากเครื่องและเกียร์เวลาใช้งานครับ

คำตอบที่ 34
       (มาในส่วนของเครื่องบ้างครับ)
จากรูป คือ ด้านหลังของท่อไอดีที่ได้ทำการตัดออกไปแล้วไปอ๊อกปิด เพื่อหลบปั๊มคลัชน้ำมัน แต่ถ้าหากเป็นเครื่อง BD ท่อไอดีจะรูปทรงต่างกันนิดหน่อยนะครับ บางทีอาจจะไม่ต้องตัดทิ้ง เพราะว่าจะขึ้นอยู่กับการเจาะใส่ปั๊มคลัชน้ำมันในตอนแรกว่า เราเจาะต่ำหรือเจาะไว้สูง แต่ทีนี้รถผมมันเคยวางเครื่อง 4A มาก่อนแล้วเจ้าของเก่าเจาะปั๊มคลัชมาต่ำ ไม่ได้เรื่องเลย เลยต้องแล้วไปแล้ว ก็เลยมาแก้ไขที่ท่อไอดีแทน

คำตอบที่ 35
       รูปนี้จะเป็นตอนที่ยกขึ้นใส่แล้วครับ

ในตอนแรกก่อนที่จะวางเครื่อง ผมจะเริ่มต้นจากการวางหม้อน้ำก่อนครับ แล้วก็ประกอบเครื่องกับเกียร์เข้าด้วยกันแล้วยกขึ้นไปทั้งหมดเลยเพื่อหาตำแหน่งทีเหมาะสมมากที่สุด (ยกขึ้นลงประมาณ 10 ทีได้ครับ ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยครับ) และจะต้องดูระยะห่างของหม้อน้ำกับใบพัดฟรีปั๊มด้วยว่า ระยะที่เหมาะสมคือจุดไหน แล้วเกียร์ที่วางจะทำการห้อยท้ายลงมาพอสมควรเพื่อให้รับกับเฟืองท้ายทั้งหน้าและหลังครับ ซึ่งก็จะส่งผลถึงการสร้างแท่นเครื่อง แท่นเกียร์ และคานรับเกียร์ด้วย

คำตอบที่ 36
       ระยะห่างของเครื่องกับผนังห้องเครื่องเป็นสิ่งที่จำเป็นมากครับ เพราะจะต้องเผื่อเนื้อที่ไว้สำหรับตรวจเช็ค ซ่อมบำรุง อย่างเช่น การถอดน็อตหัวหมู แต่ถ้ารถของคุณคิสเคยวางเครื่อง L มาแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหานะครับ เพราะมิติของเครื่อง L จะใหญ่กว่าเครื่องตระกูล TD และ BD อยู่พอสมควร

คำตอบที่ 37
       รูปนี้เป็นตอนที่วางเครื่องเสร็จสมบูรณ์แล้วนะครับ ดูไม่ใหญ่ ไม่เล็กเกินไป เหมาะกับคาริเบี้ยนดีครับ

คำตอบที่ 38
       วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ง่วงนอนแล้ว
(เดี๋ยวพรุ่งนี้มาว่ากันต่อครับ)

คำตอบที่ 39
       เยี่ยมมากเลยครับคุณสอ ดูไป ดูมา ได้ความรู้มากเลย ส่วนเรื่องหัวหมูเพื่อนขายให้ 1000 บาท เป็นหัวหมู BD 25 ชนเกียร์ Toyota แต่ก็ต้องไปทำสเปอร์เซอร์ ตัดต่ออีก ไม่รู้จะยุ่งยากรึป่าวหรือว่าหล่อใหม่ทีเดียวจบเลย รบกวนขอเบอร์โทรร้านหล่อหัวหมูด้วยหรือมีใครขายต่อช่วยแนะนำด้วยครับ

คำตอบที่ 40
       เรื่องจะทำหัวหมูหล่อหรือจะต่อสเปเซอร์ อันนี้ผมว่า แล้วแต่ความพอใจนะครับ
ถ้าทำหัวหมูเหล็กหล่อมันก็จะเป็นแบบ 2 ชั้น คือ ชั้นแรกจะติดกับเครื่อง TD ของนิสสัน แล้วต่อชั้นที่ 2 เป็นส่วนที่เข้ากับเกียร์ Rocky โดยใช้ปั๊มคลัชน์ล่างโตต้า4Aเดิม ขากดลูกปืนคลัช(ตีนผี)ของ 3L และลูกปืนคลัชของโตโยต้า 2L
ข้อดีของหัวหมูหล่อ คือ
1. ทนทานกว่าอลูมิเนียม
2. ระยะเครื่องกับเกียร์จะไม่ยาวเกินไป เหมาะสมกับคารเบี้ยนซึ่งเป็นรถเล็กและสั้น
ข้อเสียของหัวหมูหล่อ คือ
1. ราคาแพง
2. หนัก
3. บางจุดร้านหล่อหัวหมูออกมาไม่ได้ศูนย์ก็ต้องมานั่งเจียร์แต่งกันเพิ่มเติมอีก เช่น ปั๊มคลัชล่างที่ร้านหล่อหัวหมูหล่อมาก็ไม่ตรงต้องมาเจาะรูใหม่ เป็นต้น
พอทำเสร็จแล้วก็ต้องยกชนกับเครื่อง และเอาเข้าไปวางในรถยึดให้ดีทั้งหมด แล้วลองเหยียบคลัชดูเพื่อหาระยะที่ดีที่สุด ถ้าไม่ดี....เอ้า ยกลงมากันใหม่อีก ยกขึ้นลงกันเป็นว่าเล่นเลยครับ

ถ้าทำสเปเซอร์ก็จะได้หัวหมูที่หล่อมาเป็นอลูมิเนียมแต่จะต้องมาชนสเปเซอร์ที่เป็นเหล็กตันอีกเช่นกัน ก็กลายเป็นหนักเหมือนกัน (แต่ไม่แน่ใจว่าหนักเท่าไหร่) แต่การทำสเปเซอร์นี่ผมไม่แน่ใจนะครับว่า ผลออกมาจะเป็นอย่างไร แต่เกียร์มันจะยาวถอยหลังออกไปอีกแต่คงจะไม่ยาวถอยมากเกินไปนะครับในความเข้าใจของผม

ส่วนเรื่องราคาการทำสเปเซอร์นี่ผมจำได้ว่าพอๆกันกับการทำหล่อหัวหมูเลยครับ เพราะว่าก็ต้องไปซื้อหัวหมูหล่อที่เป็นหัวหมูชนเกียร์โตต้าก่อน (ประมาณ 2,500-3,000 บาท) และก็ต้องทำสเปเซอร์อีกเท่าไหร่ไม่แน่ใจ แต่รวมค่าแรงแล้วก็ใกล้เคียงกันครับ แต่ถ้าคุณคิสมีหัวหมูหล่อชนเกียร์โตต้าอยู่แล้วก็ยังพอทุ่นเงินไปได้เยอะเหมือนกันนะครับ

แต่ต้องขอเสริมเลยนะครับว่า ทุกๆขั้นตอนในจุดนี้จะต้องทำให้ดีอย่างมากเลยครับ ละเอียดอ่อนมากที่สุด เพราะว่ามันจะส่งผลถึงการขับรถของเราต่อไปในอนาคต ถ้าทำไม่ดีออกมานี่รถแทบไม่อยากจะขับเลยครับ อย่างเช่น คลัชแข็งเหยียบไม่ค่อยลง คลัชสูง/ต่ำ เหยียบคลัชแล้วเข้าเกียร์ไม่ได้ เป็นต้น หมดสนุกเลยนะครับ

(ส่วนเบอร์โทรร้านสหสัมพันธ์เดี๋ยวหามาให้ครับ ไม่รู้จดไว้ไหน)

คำตอบที่ 41
       เยี่ยมมากครับคุณสอข้อมูลเพียบสิ้นเดือนนี้คงได้ลงมือทำแล้วครับ BD30 Ti จงสถิทแก่เจ้ามารชมพู

คำตอบที่ 42
       จะลง BD30 Ti สิ้นเดือนอ้อนเมียได้แล้วหรอ

คำตอบที่ 43
       อ้อนเรียบร้อย เจ๊สั่งลุย ปีนี้ดุจริงๆใช้เครื่องเปลืองไปหน่อยตัวนี้ก็ปาเข้าไปตัวที่ 4 แล้วเหนื่อยใจจัง

คำตอบที่ 44
       เยี่ยมครับ รับประกันว่า เป็นเครื่องตัวสุดท้ายของคุณคิสแน่ครับ
ถ้าหากทำเสร็จแล้วยังไง ถ่ายรูปมาให้ชมกันบ้างนะครับ
ช่วงนี้ถ้าหากพบปัญหาอะไรลองโพสได้เลยนะครับ ถ้าตอบให้ได้ก็จะตอบครับ ไม่มีปัญหา กันเองอยู่แล้วนะครับ

คำตอบที่ 45
       ดูห้องเครื่องรถคุณสอแล้วสวยดีจริงๆทำได้เนียนมาก ผ่าระเบิดไม่มากแต่ลงเครื่องได้พอดีเลย ยังไงแล้วรบกวนขอเบอร์โทรร้านหล่อหัวหมูด้วยนะครับ

คำตอบที่ 46
       เจอแล้วครับเบอร์โทรร้านหล่อหัวหมูสหสัมพันธ์
โทร. 02-223-6218

คำตอบที่ 47
       ขอบคุณมากครับคุณสอ

คำตอบที่ 48
       ระยะความชิดของคอมแอร์กับคัทซี
หลังจากที่เปลี่ยนเป็นคอมลูกเล็กแล้ว ระยะห่างยังค่อนข้างชิดกับคัทซีรถอยู่ครับ ซึ่งถ้าหากใช้ยางแท่นเครื่องเดิมๆของเครื่อง TD27 เวลาเทคขึ้นเนินแรงๆจะมีอาการเครื่องบิดตัวอันเนื่องมาจากยางแท่นเครื่องของ TD27 มีขนาดโตและเนื้อยางค่อนข้างมาก เวลาเทคขึ้นเนินเครื่องยนต์เกิดการให้ตัวทำให้คอมแอร์มาสีกับคัทซีครับ และมีเสียงดังแก๊กๆเวลาเทคขึ้นเนินทุกๆครั้ง (เสียงคอมฟาดกับคัทซี)

ดังนั้นจึงพิจารณาคร่าวๆว่า ยางแท่นเครื่องเดิมของ TD27 จะไม่เหมาะกับการใช้งานแบบนี้

คำตอบที่ 49
       เจ้านี่แหละครับที่เป็นยางแท่นเครื่องเดิมของเครื่อง TD27 ซึ่งมีการให้ตัวมากเกินไป และส่งผลต่อเนื่องต่อมา คือเมื่อมีการให้ตัวมากๆบ่อยๆพอกลับมาดูที่บ้านเพื่อตรวจเช็คอีกทีพบว่า ยางขาดหมดเลยครับทั้ง 2 ด้าน แต่มันยังอยู่ได้ด้วยน็อตเดือยตรงกลางของลูกยางครับ
ข้อดีของยางแท่นเครื่อง TD27
1. นิ่มดี ทำให้เครื่องไม่สะท้านมาที่ตัวบอดี้มากนัก
ข้อเสีย
1.เครื่องให้ตัวได้มากเวลามีแรงบิด
2.ยางที่นุ่มทำให้ขาดง่ายกว่าปกติ
3.เป็นยางแบบเปลือย ไม่มีกรอบเหล็กครอบทำให้เวลาเกิดการขาดเสียหายขึ้นจะทำให้รับน้ำหนักเครื่องลงมาด้านล่างทั้งหมด

คำตอบที่ 50
       จากนั้นจึงเหนื่อยต่อครับ โดยทำการยกเครื่องออกมาทั้งหมดใหม่อีกครั้ง เพื่อที่จะทำการเปลี่ยนยางแท่นเครื่องใหม่เป็นของ 1KZ ซึ่งเหมาะกับน้ำหนักเครื่อง+เกียร์Rocky อย่างแท้จริง และเป็นยางสำหรับ 4WD อย่างแท้จริงด้วยอีกเช่นกัน จริงๆแล้วสามารถใช้ได้หมดนะครับไม่ว่าจะเป็นยางแท่นเครื่อง 2L 3L หรือ KZ ขนาดยางเท่ากันหมดแหละครับ ต่างกันก็เฉพาะแค่รูน็อตที่ห่างกว่ากันนิดหน่อยครับ

ราคายางแท่นเครื่อง L ก็ประมาณ 600-700 บาท/1 คู่หรือ 1 อันจำไม่ได้แล้วครับ

(รูปไม่ค่อยชัดนะ พอดีมือสั่นเพราะเหนื่อยมากครับ)

คำตอบที่ 51
       เพิ่มเติมอีกครับ...พอดีลืมไป
ยางแท่นเครื่อง L ที่ว่านี้ บอกร้านเชียงกงด้วยนะครับว่า เอาของรุ่น 4WD (แต่ถ้ากลัวแพงก็บอกว่า เอารุ่นที่มีปีกบนล่างครับ พอบอกว่า รุ่นโฟร์พวกบวกเพิ่มทุกที) เพราะว่าจะมียางกันกระแทกเป็นปีกขึ้นมารับทั้งบนและล่าง เพื่อเป็นการป้องกันทั้งเวลายางขาดแล้วเครื่องหล่นลงมารับน้ำหนักก็จะติดปีกบนและป้องกันเวลาเครื่องบินขึ้นมาก็จะติดปีกล่างครับ (เดี๋ยวว่างๆจะถ่ายรูปมาให้ดู ว่ามันอยู่ตรงไหน)

ถ้าหากเป็นของรุ่น L ธรรมดา (รถขับ 2) ภายนอกจะดูเหมือนกันทั้งหมดเลยครับ ไม่แตกต่างกัน แต่ข้างในจะไม่มีปีกรับที่ด้านบนครับ
ซึ่งจะเห็นได้จากรถไมตี้ขับ 2 บางคันที่นำไปตั้งคานแข็งและใช้ยางแท่นเครื่องเดิมๆของเครื่องเก่า จะประสบปัญหายางแท่นเครื่องขาด และเครื่องหล่นลงมาสีกับหม้อน้ำ ทำให้เกิดไฟแล่บที่ด้านล่างของเครื่องเวลามองจากหน้ารถครับ

คำตอบที่ 52
       (วันละนิดนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาว่ากันต่อ)

คำตอบที่ 53
       ข้อมูลแน่นมากคุณสอ

คำตอบที่ 54
       (ต่อครับ)
อันนี้เป็นตำแหน่งของเครื่องที่ได้วางลงไปในคัทซีของซูซูกิแล้ว ดูแล้วน่าจะได้ศูนย์ดีในความคิดของผม เนื่องจากได้ทำการวัดอยู่หลายรอบครับ ตรงจุดนี้อย่างที่ผมได้เคยคุยไว้นะครับ ได้ทำการตัดต่อและเลื่อนรูของเหล็กที่ยึดยางแท่นเครื่องกับเสื้อสูบให้เลื่อนขึ้นไปด้านบนเล็กน้อย(ประมาณ 2 นิ้ว) เพื่อจะได้ให้เครื่องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป

คำตอบที่ 55
       ส่วนรูปนี้เป็นข้างใต้เครื่องครับ ตำแหน่งเครื่องที่ได้ทำการวางลงไปจะไม่ต่ำมากจนเกินไป ซึ่งถ้าหากต่ำมากๆอาจจะมีปัญหากับคานหน้าได้ แต่คุณคิสลองดูจุดนี้นะครับว่าจะต้องทำแบบไหน เพราะว่ารถของคุณคิสเน้นที่ความเตี้ยถ้าหากวางเครื่องลงมาในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับผมแล้ว อ่างแคร้งน้ำมันอาจจะติดคานหน้าได้ (ยิ่งเป็นเฟืองหลบเหมือนกันด้วยยิ่งใกล้เข้าไปใหญ่) แล้วยิ่งเป็นเครื่องดีเซลด้วยน้ำหนักจะมากกว่าเบนซิน พอรถรับน้ำหนักเครื่องที่วางลงไปทั้งหมดแล้วความนิ่มของสปริงจะทำให้อ่างยิ่งชิดคานหน้าเข้าไปอีกนะครับ ดังนั้นอาจจะต้องทำการวางเครื่องสูงกว่านี้อีกนิดหน่อยนะครับ หรือให้ช่างดูวิธีอื่นก็ได้ครับ ถ้าหากสปริงยวบลงมามากเดี๋ยวจะต้องเซ็ทค่าสปริงกันใหม่อีก เดี๋ยวจะบานปลายครับ

คำตอบที่ 56
       เอ.....แต่จำได้ว่ารถคุณคิสเคยวาง 2L ซึ่งเป็นดีเซลเหมือนกันก็ไม่น่าจะมีปัญหามากนะครับ เพราะน้ำหนักน่าจะใกล้เคียงกัน

ระยะของอ่างแคร้งกับคานหน้า กับระยะห่างของลูกยางกันกระแทกของระบบแหนบและสปริงจะมีความสัมพันธ์ต่อกันนะครับ คือ ถ้าหากอ่างแคร้งชิดกับคานหน้าค่อนข้างมาก เราสามารถที่จะทำให้ระยะลูกยางกันกระแทกชิดมากกว่าระยะห่างของอ่างแคร้งกับคานนะครับ เพื่อเวลาที่รถเกิดการให้ตัวของช่วงล่าง มันจะยันกับลูกยางกันกระแทกก่อนที่จะทำให้อ่างแคร้งมาถึงคานหน้าครับ ตรงจุดนี้ลองให้ช่างเค้าคำนวณดูนะครับ เพื่อจะได้หาตำแหน่งเครื่องที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับรถคุณคิส

คำตอบที่ 57
       รบกวนถามคุณสอใช้ลูกยางกันกระแทกของอะไร มาแปลงใส่ครับ อยากหามาใส่บ้างครับ

คำตอบที่ 58
       ยางกันกระแทกที่อยู่ตรงแหนบใช่ไหมครับ ของผมใช้ของ Land cruiser รุ่น 78 หาได้ไม่ยากนักครับ แต่ปกติมักจะมีติดมากับคัทซี แต่มีขายแบบแยกต่างหากก็มีครับ ราคาตัวละ 200-300 บาท (ถ้าใช้ 4 ตัวหน้าหลังก็ประมาณ 1,200 บาทครับ) ผมเลือกเอารุ่นนี้เพราะว่า มันจะมีรูที่ด้านหน้าและหลังของฐานมันครับทำให้ง่ายต่อการดัดแปลงและติดตั้งครับ

จริงๆแล้วตอนแรกผมใช้ของเดิมของคาริเบี้ยนมันแหละครับ (ของเดิมของคาริเบี้ยนมันอยู่ติดกับคัทซีด้านบน) แต่พอเข้าป่าทีเดียวเท่านั้น กลับมายางกันกระแทกแตกหายหมดเลยทั้งหน้า/หลัง เหลือเพียงแต่ตัวเหล็กกระแทกกันครับ ก็เลยทำการเปลี่ยนใหม่เอาของรถใหญ่มาใช้เพื่อให้เหมาะสมกับน้ำหนักของรถที่มากขึ้นครับ โดยส่วนตัวของผมแล้ว ผมคิดว่ายางกันกระแทกของเดิมของคาริเบี้ยนมันจะเล็กไปครับ

คำตอบที่ 59
       (มีหลายรูปให้ดูครับ เพื่อเป็นแนวทาง)
ยางกันกระแทกของโตต้าล้วนๆครับ ของ Land cruiser หลากรุ่นครับ ซึ่งจะมีรู 2 รูไว้สำหรับใส่น็อตได้ และก็ทำการดัดแปลงมาไว้ด้านล่างที่ปะกับแหนบ ง่ายต่อการซ่อมบำรุงครับ ส่วนราคาก็จะใกล้เคียงกันหมด

รถคันในรูปไม่ใช่รถผมนะครับ เป็นคนละคันกัน คันนี้เป็นช่วงล่างเดิมๆของคาริเบี้ยนครับ แต่ก็ใช้ยางกันกระแทกของ Land cruiser เหมือนกันครับ (รูปด้านหน้าครับ)

คำตอบที่ 60
       อันนี้เป็นอีกทรงหนึ่งครับ(ด้านหลัง) ก้อนยางใหญ่ใช้งานทนทานครับ เปลี่ยนครั้งเดียวแล้วใช้ไปได้อีกนานเลยครับ
ลองดูรูปแบบนะครับ แล้วลองเดินเล่นหาดูตามเชียงกง ราคาไม่ผิดจากนี้มากครับบวกลบนิดหน่อย ซึ้อได้ครับ

คำตอบที่ 61
       ขอบคุณในคำตอบ + ภาพประกอบ(ชัดมาก) ครับคุณสอ(ใจดีจัง)

คำตอบที่ 62
       ใกล้จะสิ้นเดือนแล้วจะได้เวลาวางเครื่องใหม่ซะที หลังกลับจากทริปทอดกฐินที่ท่าสองยางคุณสอไปด้วยกันไหมดอยเปเปอร์ กินเหล้า นั่งคุยกัน

คำตอบที่ 63
       ไม่มีปัญหา ถ้าหากไม่ติดธุระอะไรไปได้อยู่แล้วครับ
ขอบคุณมากเลยนะครับที่ชวน

พอดีช่วงนี้ก็ว่าจะเริ่มๆโปรเจคเปลี่ยนแหนบใหม่ทั้ง 4 ตับเป็นแหนบหลังของไทเกอร์อย่างที่เคยเล่าให้ฟัง เพื่อจะได้วิ่งแล้วนิ่มๆซะที ช่วงล้อจะได้ยาวขึ้นขับง่ายๆขึ้นอ่ะครับ

ว่างๆยังไงบ้านไม่ไกลกันนัก มานั่งคุยเล่นที่บ้านได้นะครับ กันเองเลยครับ

คำตอบที่ 64
       รูปยางแท่นเครื่องตระกูล L หรือ KZ ที่เป็นรุ่น 4WD ครับ
ลองดูนะครับ ราคาประมาณ 350 บาท/1ตัว หรือคู่ละประมาณ 700 บาทครับ จะเป็นยางของรถตู้ 3L ก็ได้ครับเหมือนกัน ขอให้มีปีกบนล่างด้วยแล้วกัน แต่ยางของพวกรถตู้จะมีปีกเหล็กรับออกมาข้างๆด้วย แต่ก็ใช้ได้ไม่มีปัญหาเพียงแต่เราเอามาตัดออกไป นอกนั้นก็เหมือนกันหมดครับ

คำตอบที่ 65
       รูปนี้แหละครับ เจ้าตัวปีกที่ว่า ถ้าเป็นรถ 2WD จะไม่มีปีกบนล่าง ซึ่งถ้าหากนำไปใช้งานหนักๆในป่าจริงๆ ยางมันจะให้ตัวได้มากเนื่องจากมันไม่มีปีกมาคอยรับน้ำหนักของเครื่องเวลาเครื่องบิดตัว แล้วยางก็จะขาดและเครื่องก็จะหล่นลงมาติดกับขอบเหล็ก เกิดความเสียหายอื่นๆตามมา เช่น ใบพัดตีหม้อน้ำแตก หรือใบพัดสีกับสายน้ำมันเพาเวอร์แตก เป็นต้น

คำตอบที่ 66
       เดี๋ยวต้องไปก้มดูบ้างแล้วว่ามีปีกรึป่าว

คำตอบที่ 67
       คุณคิส รถเริ่มโครงการหรือยัง ไปถึงไหนแล้ว เห็นประกาศหาหัวหมูอยู่ในหน้าซื้อขาย

คำตอบที่ 68
       คุณสอ พึ่งกลับจากทอดกฐินครับ ตอนนี้รถทำที่อู่ช่างตะวันกำแพงเพชร เครื่องเดิมน่าจะยกลงแล้วเจอปัญหาใหม่เครื่องที่ซื้อมาฟลายวิล หวี เป็น 9.5 นิ้ว ไม่ตรงรุ่น 10.5นิ้วเอายังไงดีล่ะคราวนี้จะเปลี่ยนเป็น 10.5 นิ้วหรือว่าจะใช้แบบนี้ไปก่อน คุณสอเครื่องTD27 ครัชใช้กี่นิ้วเป็นของเดิมหรือแบบไหนจับดีรึป่าว

คำตอบที่ 69
       เอ....ผมงงๆครับ คำว่า ฟลายวีล หวี 9.5 นิ้ว
สงสัยคุณคิสคงหมายถึง จานกดและแผ่นคลัชแน่เลย
เดี๋ยวผมลงรูปให้ดูดีกว่าว่า ฟลายวีล จานกด และแผ่นคลัชคือตรงไหนบ้าง เดี๋ยวเผื่อเข้าใจไม่ตรงกัน

คำตอบที่ 70
       หมายเลข 1 คือ ฟลายวีล ซึ่งจะเป็นเหล็กวงกลมหนา และมีน้ำหนัก
หมายเลข 2 คือ แผ่นคลัช ซึ่งจะอยู่ระหว่างจานกดและฟลายวีล (แผ่นคลัชนี่แหละที่เค้าชอบนำไปแต่งกัน นำไปย้ำกันใหม่ หรือเปลี่ยนเป็นผ้าคลัชแต่งแบบทองแดง)
หมายเลข 3 คือ จานกดหรือ Cover ซึ่งจะเป็นตัวรับลูกปืนที่จะเข้ามากดตรงกลางครับ

โดยปกติแล้วฟลายวีลจะเป็นส่วนที่กว้างกว่าทุกส่วน เพราะจะต้องรับหน้าของแผ่นคลัชและจานกด การเปลี่ยนฟลายวีลให้ใหญ่ขึ้นไม่แน่ใจว่า จะสามารถทำได้หรือไม่ เพราะมันจะถูกจำกัดเนื้อที่โดยหัวหมูของเครื่อง นอกจากว่าภายในหัวหมูจะมีเนื้อที่เหลือค่อนข้างมาก ก็สามารถเปลี่ยนฟลายวีลให้ใหญ่ขึ้นได้ครับ

คำตอบที่ 71
       ข้อดีของการเปลี่ยนฟลายวีลและแผ่นคลัชใหญ่ คือ จะได้น้ำหนักที่ดีขึ้น ส่งผลทำให้เครื่องมีทอร์คมากขึ้น แรงบิดดีขึ้น
ส่วนข้อเสีย คือ รถจะหนักขึ้นพอสมควร และต้องมีการดัดแปลงเกี่ยวกับระบบคลัช

แต่อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนฟลายวีลจะต้องดูด้วยว่า ฟลายวีลมีน้ำหนักที่เหมาะสมหรือไม่ ไม่ใช่ว่าหนักเกินไปเอาฟลายวีลอะไรมาใส่ก็ได้ และอีกอย่างหนึ่งคือ เนื้อที่ของห้วหมูมีจำกัดหรือไม่ ถ้ามีเนื้อที่เหลือพอก็สามารถใส่ฟลายวีลขนาดใหญ่ได้ แต่ถ้าเนื้อที่จำกัดก็ต้องดูกันอีกทีครับ

คำตอบที่ 72
       ผมเดาเอาไว้สำหรับเครื่อง BD30 ที่คุณคิสซื้อมา 2 กรณีดังนี้
กรณี่ที่ 1 ฟลายวีลใส่มาผิดรุ่น หรือเจ้าของเก่าอาจจะเอาตัวที่ตรงรุ่นเก็บไว้ใช้ พอเครื่องตัวนี้ขายก็เลยหาของไม่ตรงรุ่นมาใส่ให้ครับ
กรณีที่ 2 เจ้าของเก่าเค้าไว้ใช้ซิ่งทางเรียบ เพราะว่า เน้นที่การใช้ฟลายวีลขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา จะส่งผลทำให้รถมีรอบที่จัดขึ้น รอบขึ้นเร็ว เพราะฟลายวีลจะไม่มีน้ำหนักครับ เหมือนกับพวกรถแข่งที่มักจะปรับลดน้ำหนักฟลายวีลโดยการเจาะรูให้ฟลายวีลมีน้ำหนักเบา หรือปาดล้างหน้าออกไปบ้างเพื่อให้เบา และก็ไปไล่อัตราทดเกียร์กันใหม่ให้แต่ละเกียร์มันจัดขึ้น ลากได้ยาวขึ้นเหมือนกับเครื่องเบนซินครับ ฟลายวีลพวกนี้ใช้งานไม่ดี เวลาเอารถไปใช้งานหรือบรรทุกของ เครื่องยนต์จะไม่มีแรง ยิ่งไม่เหมาะสมกับรถเที่ยวป่าเข้าไปใหญ่ครับ และอีกอย่างหนึ่งอย่าลืมว่าเครื่องตัวนี้มีเทอร์โบมาแล้วด้วย ซึ่งจริงๆแล้วเครื่อง BD30 โดยพื้นฐานจะไม่มีเทอร์โบมาจากโรงงานครับ

อย่างไรก็ตามผมคิดว่า คุณคิสน่าจะหาของเดิมของเครื่องมันมาใช้นะครับ น่าจะหาไม่ยากสำหรับฟลายวีลของเครื่อง BD30 ส่วนแผ่นคลัชกับจานกดยังไงว่ากันทีหลังได้ครับ ลองดูครับ ค่อยๆทำไปครับ อย่ารีบร้อน

คำตอบที่ 73
       รถผมใช้ฟลายวีลเดิมๆของเครื่อง TD27Turbo แล้วใช้แผ่นกับจานกดของเครื่อง 3L (3L จะเหมือนกันกับ 5L) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของแผ่นคลัชคือ 9.5 นิ้ว ผมคิดว่า ในความรู้สึกของผมนั้น มันเหมาะสมที่สุดแล้วครับ การออกตัวไม่ต้องเลี้ยงคลัชมาก สามารถออกเร็วๆได้ครับ

แต่ถ้าเครื่อง BD30 เป็นแผ่น 10.5 นิ้วจริงๆ ก็น่าจะใช้ 10.5 นิ้วของมันนะครับ ใช้ของตรงรุ่นของเครื่องเดิมๆดีกว่าครับ

คำตอบที่ 74
       ขอบคุณมากครับคุณสอข้อมูลเยี่ยมมาก

คำตอบที่ 75
       เอารูป BD30 มาให้ดูคุณสอ

คำตอบที่ 76
       ใช้คลัชเดิมไปก่อนของ 3L จับดีมากขึ้นดอยเลียคลัชยังไงก็ไม่ไหม้

คำตอบที่ 77
       เครื่องเดิม sr20 det พร้อมชุดสายไฟ+กล่องจูน คอมแอร์กับจานจ่ายไม่มีขายไปขำ ขำ 8000 บาททำหลายคนอกหักเพราะซื้อไม่ทัน อิอิ

คำตอบที่ 78
       ช่วงผ่าตัดหัวใจใหม่

คำตอบที่ 79
       มารชมพูผู้ไร้ซึ่งหัวใจ กับเส้นทาง เถื่อน เถื่อน ไม่มีคำว่าหันหัวกลับ พังเป็นพัง

คำตอบที่ 80
       เยี่ยมเลยครับคุณคิส ลองแชร์ข้อมูลกันได้เลยครับ
รูปผนังห้องเครื่องผ่าเข้าไปเพียงพอเลยครับ เพราะเครื่อง BD30 มิติไม่ใหญ่ สามารถวางได้สบายอยู่แล้วครับ

ยังไง ลงรูปมาให้ดูเรื่อยๆได้เลยนะครับ เผื่อผมจะได้ดูศึกษาไปด้วย

คำตอบที่ 81
       เครือง sr20 ชนเกียร์ร๊อกกี้กับคารริเบียนเป็นยั่งไงบ้างครับ

คำตอบที่ 82
       เดี๋ยวรอให้คุณคิสมาตอบนะครับ

คำตอบที่ 83
       เอารูปซุ้มเกียร์ภายในรถมาให้ชมครับ พอดีเจอรูปในซีดีข้อมูลแผ่นเก่าที่เก็บเอาไว้

ผมใช้เหล็กแผ่นอย่างหนาสำหรับสร้างบอดี้รถมาเคาะขึ้นรูปใหม่โดยแบ่งเป็น 2 แผ่นต่อกัน (ถอดแยก 2 ชิ้นได้) และได้ทำการขึ้นลอนไว้ 2 ลอนเพื่อเสริมความแข็งแรงเนื่องจากซุ้มเกียร์ใหม่กว้างมากกว่าเดิมถ้าใช้เหล็กทั้งแผ่นเรียบเลยอาจจะไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ และก็พับด้านข้างเพื่อหลบมุมและยิงน็อตเบอร์ 10 โดยรอบเพื่อเอาไว้ซ่อมเกียร์หรือเซอร์วิสด้านบนเพราะชุดโซลินอยด์เกียร์ Rocky อยู่ด้านบนครับ รวมถึงการหย่อนท้ายเกียร์ลงเพื่อทำการถอดน็อตหัวหมูเครื่องก็ต้องทำที่จุดนี้ครับ

คำตอบที่ 84
       ไปดูงานแข่งรถที่จ.ตากเสียหลายวันเลยมาตอบช้าไปหน่อย SR20 DET ชนเกียร์ร็อคกี้ใช้ดีในทางดำกับในสนามแข่งแต่ในป่าใช้ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆขึ้นดอยเปเปอร์เมื่อทริปที่แล้วเซ็งสุดๆเลย ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ BD30T จบจริง ๆ ยังไม่มีถ่ายรูปมาให้ดูเลยคุณสอช่วงนี้งานยุ่งจริงๆวันนี้มารถไปเปลี่ยนเฟืองท้าย 10/41 ลงตัวพอดีขับสนุกมากแต่เกียร์ 5 รอบยังเหลือนิดๆแต่ไม่เป็นไรเผื่อไว้เล่นในป่าเหลือๆดีกว่าขาด

คำตอบที่ 85
       เย้...ดีใจจัง บอร์ดใช้ได้แล้ว
สวัสดีครับ คุณคิสยังอยู่หรือเปล่า หายกันไปนาน BD30 ใช้งานเป็นอย่างไรบ้างครับ พอไปออกทริปมาบ้างหรือยัง

รถของผมตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการเปลี่ยนแหนบใหม่ทั้ง 4 ตับอยู่ครับ ตอนนี้ทำด้านหน้าเสร็จไปแล้ว เหลือเพียงแต่ด้านหลัง และพอช่วงล่างเรียบร้อยว่า จะหันไปมองเครื่องอีกครั้งหนึ่งครับ

คำตอบที่ 86
       รถผม เครื่อง 2L T คับ

ชนเกีย sr5 คานหน้าหลัง 78 ..

ถือว่า ใช้ได้ดีคับ

บริโภคน้ำมันก้ ตก8-9 กม./ลิตร คับ

ตะขาบ 33..

คำตอบที่ 87
       ครับ ขอบคุณครับ
แล้วเฟืองท้ายใช้ 8.39 ใช่ไหมครับ

คำตอบที่ 88
       ขออภัย คับ


คำตอบที่ 86 ผม พิมผิดไปนิดนึง เบลอๆ


ผมเขียนว่า ตะขาบ 33
แต่ผม ให้ 35 อยู่คับ

ขอโทด คับ

ผิด เล็กน้อย ..

คำตอบที่ 89
       เพื่อนๆท่านใดมีข้อมูลอะไรก็ลองแชร์มาได้เลยนะครับ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

คำตอบที่ 90
       เอ....งงงง กับบอร์ด ไหนโพสๆอยู่แล้วหายไปหมดหละ

คำตอบที่ 91
       เดี๋ยวโพสใหม่แล้วกันนะครับ สำหรับเปิดประเด็นการวางเครื่องวีทาร่าในซูซูกิคาริเบี้ยน

เครื่องวีทาร่า 1600 นั้นถือว่าเป็นเครื่องที่นิยมวางกันมากที่สุดเครื่องหนึ่ง เนื่องจากมีงานดัดแปลงค่อนข้างน้อย และสามารถที่จะนำมาชนกับเกียร์เดิมๆ 1300 ได้ไม่ยากนัก

คำตอบที่ 92
       ข้อมูลจำเพาะของเครื่องตัวนี้ครับ
เครื่องซูซูกิวีทาร่า 1600 ซีซี(1590 ซีซี) รหัส G16A แบบ 4 สูบ OHC 16 Valve หัวฉีด มีกล่อง ECU ในการควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ส่วนรายละเอียดอื่นๆก็ดังนี้ครับ
กระบอกสูบ x ช่วงชัก 75 x 90
แรงม้า 115/6,500 รอบ
แรงบิด 14.9/4,500 รอบ

คำตอบที่ 93
       เหตุผลที่เครื่องตัวนี้เป็นที่นิยมวางกันมาก คือ
1. เป็นเครื่องซูซูกิรุ่นวีทาร่า ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างรุ่น จึงถือว่า เป็นเครื่องในสายพันธุ์เดียวกัน
2. เป็นเครื่องที่มีความแรงมากกว่าเครื่องเดิม ทั้งในเรื่องของแรงม้า และแรงบิด
3. เป็นเครื่องที่อยู่ในรถ 4x4 ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งาน เนื่องจากเครื่องยนต์ได้ถูกออกแบบมาเป็นการเฉพาะ อย่างเช่น เครื่องยนต์ของรถ 4x4 มักจะถูกออกแบบมาให้มีแรงบิดมาใช้งานในรอบเครื่องที่ต่ำ ซึ่งต่างจากเครื่องเบนซินในรถเก๋งทั่วๆไปที่แรงบิดจะมีมากในรอบเครื่องที่สูง (แต่สำหรับบางท่านที่เน้นใช้งานในเมืองอย่าเดียวก็มักจะหาเครื่องยนต์เบนซินยี่ห้อต่างๆมาลงได้มากมายครับ)
4. เป็นเครื่องยนต์ที่สามารถนำมาชนกับเกียร์เดิม 1300 ได้อย่างไม่ยากนัก
5. งานดัดแปลงค่อนข้างน้อยครับ เพราะจัดว่าอยู่ในบล็อคเดียวกัน และมิติของเครื่องก็ไม่ใหญ่เกินไปครับ (แต่ถ้าหากดัดแปลงไม่ดีก็อาจจะมีปัญหาได้เช่นกัน)

(ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)

คำตอบที่ 94
       รถคันนี้เดิมทีได้ทำการปรับแต่งมาบ้างแล้วในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเฟืองท้ายอัตราทด 8.41 (5.125) เกียร์สโลว์ 1000 (อัตราทด 2.5 รอบ) ซึ่งทั้งหมดก็ถือว่าเหมาะสมกับขนาดของยางที่ใส่อยู่ คือ 285/75R16 แต่ในบางครั้งบางเวลาของเส้นทางที่ขับไปนั้นเป็นระยะทางที่ไกล สลับกับเส้นทางในบางช่วงต้องข้ามเขาน้อยใหญ่มากมาย (โดยเฉพาะเส้นทางตั้งแต่เมืองกาญถึงทองผาภูมิ หรือสังขละบุรี) ทำให้การขับอาจจะเหนื่อยบ้างในบางครั้งเวลาเร่งแซงหรือขับขึ้นเขาชันๆ

ดังนั้นการเปลี่ยนเครื่องเป็น 1600 ของวีทาร่านั้นจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสมและไม่ยุ่งยากจนเกินไป เผื่อว่าเวลาขับทางไกลๆกับยางขนาด 32-33 นิ้วจะได้สบาย ง่ายและคล่องตัวมากกว่านี้อีกหน่อย ครับ

คำตอบที่ 95
       เครื่องเดิมๆ 1300 ซีซี รหัส G13B เดิมๆของรถคันนี้ครับ

คำตอบที่ 96
       เครื่องถูกยกลงมา ก่อนที่จะถูกเอาไปใช้ต่อในอีกรูปแบบหนึ่งครับ

คำตอบที่ 97
       หลังจากนั้นก็ทำการล้างห้องเครื่องให้ใหม่สะอาดหมดจดทุกซอกทุกมุม เพื่อที่จะได้ทำอะไรแล้วจะได้สะอาดๆ

คำตอบที่ 98
       เนื่องจากต้องการที่จะนำเครื่องวีทาร่ามาชนกับเกียร์เดิม 1300 และไหนๆก็ยกเครื่องออกมาแล้วด้วย ก็เลยถือโอกาสในการตรวจเช็ค เซอร์วิสเกียร์เดิม 1300 ไปด้วยเลยในตัว

คำตอบที่ 99
       โดยปกติแล้ว เกียร์ 1300 เดิมๆของคาริเบี้ยนนั้นมักจะพบปัญหาเกี่ยวกับน้ำมันรั่วหรือซึมอยู่เสมอๆ เนื่องจากอายุการใช้งานมันนานมาแล้ว ทำให้อะไหล่บางชิ้นได้เสื่อมเสียไปตามเวลาของมัน

และจากการที่น้ำมันรั่วซึมนั้น เมื่อเราเอารถออกไปใช้งานทำให้เจอกับฝุ่นละอองมาผสม จนกลายเป็นดินติดอยู่ตามเสื้อเกียร์ ทำให้เกิดความสกปรกเป็นอย่างมาก

คำตอบที่ 100
       เกียร์หลักได้ถูกนำมาล้างใหม่ทั้งหมดให้สะอาด พร้อมกับทำการตรวจเช็ค ไม่ว่าจะเป็น ซีลหน้าเกียร์ ซีลท้ายเกียร์ รวมทั้งเสื้อเกียร์ด้วย ซีลทั้งหมดถูกเปลี่ยนใหม่หมด เพราะของเดิมนั้นแข็งกระด้างหมดแล้วตามอายุการใช้งาน ทำให้กันน้ำมันไม่อยู่เกิดการรั่วซึมออกมา ส่วนเสื้อเกียร์นั้นก็ทำการซีลใหม่ทั้งหมด หลังจากนั้นก็ตรวจเช็คลูกปืนคลัชและก็จัดเตรียมเพื่อยกขึ้นใส่

คำตอบที่ 101
       เสร็จจากเกียร์หลักแล้วก็มาต่อที่ตัวเครื่องครับ

เครื่อง G16A 1600 นั้นหาสภาพสวยๆค่อนข้างเยอะครับ เพราะเป็นเครื่องที่จัดว่า ยังใหม่อยู่ เครื่องญี่ปุ่นมาส่วนใหญ่ก็สวยหมดครับ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ไม่สามารถรู้ถึงประวัติการใช้งานของเครื่องแต่ละตัวได้ ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะทำหลังจากการซื้อเครื่องมือสองเพื่อจะมาลง ก็คือการตรวจเช็ค ไม่ว่าจะเป็นพวกซีลหรือโอลิง สายพานต่างๆ เป็นต้น แต่สิ่งที่จะต้องเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดจากที่กล่าวมาคือ สายพานเครื่อง หรือสายพาน Timing ซึ่งจะดูยากมากจากสภาพของมัน (สายพาน Timing ควรจะทำการเปลี่ยนในทุก 100,000 กม.)
แต่สำหรับเครื่องตัวนี้ได้ทำการเปลี่ยนใหม่ทุกอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น สายพาน Timing ซีลสายพาน ซีลหน้าเครื่อง ซีลท้ายเครื่อง โอลิงจานจ่าย ยางเบ้าหัวเทียน 4 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะแข็งกระด้างและจะทำให้กันน้ำมันไม่อยู่ และที่สำคัญคือ ซีลบางจุดยากต่อการเปลี่ยนถ้าหากวางเครื่องลงไปแล้ว เพราะฉะนั้นจึงถือโอกาสเปลี่ยนซะตอนนี้เลยครับ จะได้ใช้กันแบบยาวๆไปเลย ไม่ต้องมากังวล

คำตอบที่ 102
       (มาต่อกันครับ)

เครื่อง G16A จัดว่าเป็นเครื่องในสายพันธุ์ซูซูกิเดียวกัน บล็อคของเครื่องจึงเหมือนกัน แตกต่างเพียงชิ้นส่วนข้างเคียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเฉพาะชุดท่อไอดี ซึ่งดูแล้วจะทำให้ดูแน่นห้องเครื่องมากกว่าเครื่องเดิม และทำให้สูงมากกว่าเครื่องเดิม ดังนั้นจากการที่เป็นเครื่องในสายพันธุ์เดียวกัน ทำให้การวางเครื่องนั้นยิ่งจะต้องให้มีงานดัดแปลงให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และต้องไม่ทำให้เสียรถ

คำตอบที่ 103
       ในการวางเครื่อง G16A ลงไปในบอดี้ซูซูกินั้น ถ้าหากไม่แก้ขายึดแท่นเครื่องที่คัทซีแล้วจะทำให้เครื่องมีระดับสูง ทำให้ท่อไอดีอาจจะติดฝากระโปรงได้ ดังนั้น การวางจะต้องไม่สูงหรือต่ำมากจนเกินไป นั่นก็คือเราจะต้องดร็อปเครื่องให้ต่ำลงมาในระดับที่เหมาะสม และที่สำคัญก็จะต้องไม่ไปยุ่งกับแท่นเครื่องเดิมๆที่คัทซีด้วย

คำตอบที่ 104
       การดร็อปนั้นจะต้องดร็อปลงมาให้เหมาะสม ไม่มากเกินไป ไม่งั้นจะส่งผลต่อมุมเพลากลาง (ตัวสวมท้ายเกียร์หลัก) และเกียร์สโลว์ด้วย จะทำให้มุมมันแหงนเลย

คำตอบที่ 105
       เครื่องเมื่อวางลงไปแล้วจะต้องห้อยท้ายเครื่องในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้รับกับแหน้าแปลนของเกียร์สโลว์ ในจุดนี้จะต้องว่ากันที่แท่นเกียร์ครับ เราจะต้องทำการดร็อปเกียร์หลักโดยการสร้างแท่นยึดลูกยางแท่นเกียร์ขึ้นมาใหม่แทนของเดิม เพื่อจะได้ไม่ต้องไปดัดแปลงตัวคานเกียร์ครับ เราจะต้องคงคานเกียร์เดิมๆจากโรงงานไว้ ต้องไม่ไปยุ่งกับมัน (อธิบายเป็นคำพูดยากมากครับ)

การวางเครื่องวีทาร่านั้นบางจุดจะต้องละเอียดอ่อนพอสมควรครับ เพราะตัวเกียร์สโลว์แยกออกจากเกียร์หลัก ทำให้มีส่วนที่ต่อและหักมุมบ้าง ซึ่งแตกต่างจากพวกเกียร์ของโตโยต้า หรือ Rocky (เพราะเกียร์สโลว์อยู่ติดกับเกียร์เมนหลักเลย)

คำตอบที่ 106
      

คำตอบที่ 107
       ย้อนกลับไปนิดนึงครับ.....
อันเนื่องมาจากหม้อลมเบรคของเดิมติดรถของรถคันนี้ เริ่มจะมีการรั่วซึมมาบ้างแล้ว ถ้าหากจะซื้อชุดซ่อมก็ค่อนข้างจะแพง ไหนๆเปลี่ยนเครื่องด้วยก็เลยเปลี่ยนหม้อลมเบรคไปด้วยเลยครับ

หม้อลมเบรคก็เลือกใช้แบบชั้นครึ่งแต่กว้างเท่าเดิม (เวลานี้หายากมากแล้วครับ) นำมาติดตั้งไปได้เลยไม่ต้องดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น มีเพียงแต่เดินแป๊บเบรคใหม่ เพราะแป๊บเบรคเดิมออกคันละทางกันครับ

คำตอบที่ 108
       บริเวณด้านล่างของหม้อลมเบรคนั้น มักจะสีลอกอันเนื่องมาจากน้ำมันเบรคมักจะหกลงไปอยู่เป็นประจำถ้าหากเติมไม่ระมัดระวัง ถ้ารู้ว่ามีน้ำมันเบรคหกต้องรีบเอาน้ำเปล่ามาราดเลยนะครับ ไม่งั้นสีจะลอก และทำให้เป็นสนิมได้ในภายหลัง

ส่วนคันนี้ก็เช่นกัน จึงต้องทำการขัดใหม่หมดให้ถึงเนื้อเหล็ก ขัดลามลงไปจนถึงคัทซีเลย และก็ลงสีกันสนิม ตามด้วยสีพื้น และพ่นสีขาวอีกที ส่วนคัทซีก็พ่นสีดำจะได้ดูสวยดังเดิม ดูสะอาดๆเดิมๆจากโรงงานครับ

คำตอบที่ 109
       เดี๋ยวพรุ่งนี้มาว่ากันต่อครับ

คำตอบที่ 110
       ตัวดร็อปเกียร์หลักครับ เพื่อให้ท้ายเครื่องห้อยลงมาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเพื่อให้รับกับหน้าแปลนเกียร์สโลว์ที่ติดตั้งมาในตำแหน่งเดิมๆจากโรงงานด้วย เพื่อให้ทั้งหมดตรงกันเป็นแนวเดียวกันหมดทั้งเส้นเลยครับทุกอย่างต้องได้ศูนย์หมด ถ้าหากการวางเครื่องบิดออกไปด้านใดด้านหนึ่งมากๆจะส่งผลต่อการขับอย่างแน่นอนครับ

คำตอบที่ 111
       มิติของเครื่องเมื่อวางลงไปในบอดี้ของซูซูกิคาริเบี้ยนครับ ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไปครับ กำลังดี จะมีก็เพียงแต่ดูแน่นๆในฝั่งซ้ายของเครื่องยนต์ เนื่องจากมีชุดท่อไอดีมาแทนในตำแหน่งของคาร์บูของเครื่องเดิมครับ

คำตอบที่ 112
       สวัสดีครับคุณสอ เป็นการให้ข้อมูลที่ละเอียดมากทั้งเทคนิค และวิธีการทำให้ทราบที่มาของปัญหาและการแก้ไขจุดต่างๆ ไม่ทราบยังพอจำกันได้หรือไม่ครับ ผมเคยซื้อกันชน หน้า - หลัง (แสตนดาร์ด) ที่คุณเอามาส่งให้ที่กระทรวงฯ (แคลาย นนทบุรี) รถคุณตอนนั้นสูงมากสีขาว เครื่อง 4ag คาน prado

คำตอบที่ 113
       ผมมีคำถามที่อยากทราบเพื่อประกอบการตัดสินใจรบกวนคุณสอด้วยครับ
1.รถผมปัจจุบันเครื่อง 1300 หัวฉีดเดี่ยวติดตั้ง แก๊ส lpg ยาง 31x10.5x15 เฟืองและ เกียร์ เดิม ครับ ความเร็วปลายเกียร์ 5 ที่ 3000 รอบ ได้ 90 ก้อเต็มกลืนครับ จากประสบการณ์ ของคุณสอ (ภายใต้เงื่อนไขยาง 31 เท่านั้นไม่คิดเพิ่มขนาดอีกเลย) เล่นเฟือง หรือเกียร์ ดีครับ (เกียร์ 1000 กับเฟือง 8:41)
2.ผลจากข้อ 1 การปีนป่ายทางสูงชันเป็นอย่างไร
3.ความเร็วปลายบนถนนดำเป็นอย่างไร
ขอบคุณมากครับ

คำตอบที่ 114
       สวัสดีครับคุณสอ ไม่ได้เข้ามาคุยกันนานเลยมีโปรเจคใหม่ๆเสมอเลยนะครับ

คำตอบที่ 115
       ครับผม....จำได้แล้วครับ...ผ่านมา 2-3 ปีได้แล้วมั๊งครับ

ยินดีตอบให้ได้เลยครับ
1. เปลี่ยนอะไรดีระหว่าง เกียร์ 1000 กับเฟือง 8.41
จริงๆแล้วคำถามนี้ค่อนข้างตอบยากครับ เพราะบางคนเปลี่ยนแล้วบอกว่า "มันไม่ใช่..." เพราะเกียร์ 1000 นั้นถึงแม้ว่าจะมีอัตราทดที่มากกว่าของเดิมจริงแต่การทำงานก็ยังคงมาปั่นเฟืองท้ายที่เป็นเฟืองเร็ว(11.43)อยู่ ซึ่งทำให้บางคนรู้สึกเหมือนว่า การเปลี่ยนเกียร์ 1000 นั้นทำให้มีรอบที่จัดขึ้นแทน(ยิ่งถ้าเป็นเกียร์ 650 รอบยิ่งจัดไปกันใหญ่) ส่วนระบบส่งกำลังก็ยังคงมีภาระอยู่บ้าง
ส่วนการเปลี่ยนเฟือง 8.41 นั้น เห็นผลอย่างชัดเจนแน่นอนครับ เรี่ยวแรงจะดีมากโดยเฉพาะในป่า รวมทั้งการใช้บรรทุกสัมภาระต่างๆดี รวมทั้งช่วยลดภาระของระบบส่งกำลังได้มากเลยครับ แต่ถ้านำมาใช้วิ่งเร็วๆในเมืองหรือทางด่วนกลัวว่าจะเหลือมากเกินไปครับสำหรับยาง 31 นิ้ว แถมต้องใช้งบประมาณในการเปลี่ยนมากกว่าด้วยครับ

ตามความคิดผมแล้ว ผมว่าน่าจะใส่เกียร์ 1000 นะครับเพราะถ้าหากเทียบกับปัจจุบันแล้ว รับรองว่า ดีขึ้นอย่างแน่นอน (ซัก 15%) ถึงแม้ว่าอาจจะไม่เป็นที่พอใจมากนัก และไม่ได้ได้ผลมากเท่ากับการเปลี่ยนเฟืองก็ตาม ประกอบกับจากการที่เป็นรถสปอร์ตตี้ซึ่งมีน้ำหนักเบาก็น่าจะเห็นผลได้มากกว่าคาริเบี้ยนตู้ปลาที่ใส่ 31 นิ้วกับเกียร์ 1000 ล่ะครับแถมใช้งบประมาณน้อยกว่า พูดง่ายๆก็คือ ถ้าหากตอนนี้ 90 กม./ชม.แล้วเต็มกลืน พอหลังจากเปลี่ยนเกียร์ 1000 ก็จะไปเต็มกลืนแถวๆ 100-105 กม./ ชม. ส่วนเวลาวิ่งที่ 90 กม./ชม.ก็จะสบายตัวขึ้นล่ะครับ

2. การปีนป่ายดีขึ้นแน่นอนครับ เมื่อเทียบกับของเดิมตอนนี้ แต่ก็จะไม่ดีเท่ากับเฟือง 8.41

3. น่าจะได้ซักประมาณ 100-105 กม./ชม.โดยเฉลี่ย แต่วัดยากครับ เพราะว่าเข็มไมล์อาจจะเพี้ยนเนื่องมาจากสายไมล์วัดมาจากเกียร์ 1000 ลูกใหม่ซึ่งมีอัตราทดที่ต่างกับลูกเดิม 1300 และยางที่ใส่คือ 31 นิ้วด้วย ทุกอย่างจึงอาจคลาดเคลื่อนได้ครับ

สรุปอีกทีครับ สำหรับสปอร์ตตี้ยาง 31
เอาเป็นว่า.....ถ้าเน้นใช้งานในเมืองและไปเที่ยวอุทยานบ้างก็แค่เปลี่ยนเกียร์ 1000 ก็พอใช้ได้แล้วครับ
แต่ถ้าเน้นใช้งานในป่า บรรทุกของสัมภาระ ขับแบบมันส์ๆ ก็เปลี่ยนเฟือง 8.41 ครับ

คำตอบที่ 116
       สวัสดีครับคุณคิส ก็ทำสนุกๆแหละครับ

คำตอบที่ 117
       แล้ว BD30 เป็นอย่างไรบ้างครับ พอได้ออกทริปบ้างยังครับ

คำตอบที่ 118
       ขอบคุณมากครับคุณสอที่ช่วยตอบ และอธิบายความประกอบการตัดสินใจในการเลือกเล่นของผม ช่วยให้ไม่ต้องลองผิดถูก อย่างไม่คุ้มค่ากับการใช้งาน ยังเป็นข้อมูลสำหรับเพื่อน ๆที่ได้เข้ามาดูอีกด้วย ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 119
       (มาต่อกันครับ)

ติดตั้งท่อไอดีเดิมๆของเครื่อง ติดตั้งหม้อกรองอากาศ พร้อมกับเก็บรายละเอียดต่างๆ รวมถึงการติดตั้งกล่อง ECU การวายริ่งสายไฟเต่างๆพื่อให้วัดรอบ วัดความร้อน ปั๊มไฟฟ้าซึ่งจะผ่านลีเลย์เข้ามาที่การทำงานในกล่อง และอื่นๆอีกมากมายให้ใช้งานได้ตามปกติครับ

คำตอบที่ 120
       ในส่วนของหม้อกรองอากาศนั้นจะมีระบบแอร์โฟลว์ และตัว senser วัดอากาศซึ่งทั้งหมดจะผ่านการทำงานเข้าไปที่กล่อง ECU ด้วย สิ่งนี้จะเป็นอีกสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญมากๆ ระบบไฟต่างๆจะต้องเดินให้ครบให้หมด เพราะถ้าหากขาดส่วนใดไปจะทำให้เครื่องมีปัญหา เดินสะดุด และอาจจะมีผลพวงอย่างอื่นตามมาด้วย

คำตอบที่ 121
       ช่วยแนะนำร้านด้วยครับ

คำตอบที่ 122
       มาแล้วครับ เดี๋ยวมาโพสให้ต่อนะครับ พอดีพึ่งกลับมาจากต่างจังหวัดครับ

ค.ห.ที่ 121
หมายถึงร้านทั่วๆไปที่เค้ารับวางกันหรืออย่างไรครับ

คำตอบที่ 123
       คอมแอร์ตัวขนาดไม่ใหญ่มากนัก ของเดิมๆติดมากับเครื่องก็เย็นสบายมากครับ ไม่มีปัญหา ไม่ต้องไปเปลี่ยน ใช้ได้ดีเลย ขอเพียงแต่ให้เดินระบบในทุกๆจุดให้ดี อย่าให้มีรอยรั่ว แล้ว Vac เติมน้ำยาก็ใช้ได้แล้วครับ

คำตอบที่ 124
       ทางเข้าของสายไฟเดิมๆตรงตำแหน่งผนังห้องเครื่องฝั่งคนนั่งจะต้องผ่าให้รูใหญ่ขึ้นเพื่อที่จะนำสายไฟชุดใหม่จากเครื่องวีทาร่าเพิ่มเติมเข้าไปอีกหนึ่งชุดใหญ่ ก่อนที่จะผ่านเข้าไปยังกล่อง ECU ที่จะต้องติดตั้งภายในรถ

คำตอบที่ 125
       จากค.ห.ที่ 124
ผ่าที่ตรงกลางของตัวลูกยาง แล้วต้องยาซิลิโคนด้วยเพื่อป้องกันน้ำและกลิ่นน้ำมัน และกลิ่นไอเสียต่างๆที่จะหลุดรอดเข้ามาในรถ

คำตอบที่ 126
       สายไฟต่างๆรวมทั้งกล่อง ECU จะต้องเดินและติดตั้งให้เรียบร้อย ในที่ๆเหมาะสมบริเวณใต้คอนโซลหน้า ยึดและขัดน็อตให้มั่นคง

คำตอบที่ 127
       ปั๊มไฟฟ้านอกถังของ Bosch ตัวใหญ่ถูกติดตั้งเข้าไปแทนปั๊ม AC เดิมที่ใช้กับเครื่องคาร์บู(เครื่องหัวฉีดจำเป็นที่จะต้องใช้ปั๊มตัวนี้นะครับ) โดยปั๊มตัวนี้จะผ่านระบบการทำงานเข้าไปที่ตัวรีเลย์กล่อง ECU ด้วย

ถ้าหากเราไม่ใช้ปั๊มไฟฟ้านอกถัง เราจะต้องติดตั้งปั๊มในถังน้ำมันท้ายรถแทนโดยจะต้องเจาะถังน้ำมันเพิ่มเติมเพื่อใส่ปั๊มในถัง แต่อาจทำให้ถังน้ำมันมีตำหนิ และบางครั้งถ้าเราดัดแปลงไม่ดี ก็อาจจะทำให้น้ำมันรั่วซึมขึ้นมาด้านบนได้

คำตอบที่ 128
       มิติทั้งหมดของเครื่องเมื่อวางลงไปครับ

คำตอบที่ 129
       ตำแหน่งด้านฝั่งคนขับจะโล่งๆ สามารถที่จะติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมได้อีกพอสมควรครับ ไม่ว่าจะเป็นชุดลีเลย์ของระบบไฟต่างๆ ชุดแตรลม ชุดปั๊มลม หรือไม่ก็ชุดแอร์ล็อคเกอร์ ซึ่งทั้งหมดจะเหมาะสมมากเพราะการเดินสายไฟต่างๆก็จะอยู่ใกล้ๆกับแบตเตอรี่ครับ

คำตอบที่ 130
       หม้อน้ำเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ จะต้องวางตำแหน่งให้กลางกับใบพัดลมของเครื่องเพื่อที่จะได้ระบายความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ ตลอดจนระยะห่างของใบพัดกับหม้อน้ำด้วย ไม่ให้ชิดจนเกินไปเพราะถ้าชิดมากๆจะทำให้เครื่องให้ตัวมาข้างหน้าจนทำให้ใบพัดมาตีหม้อน้ำแตกได้เวลาเรานำไปใช้ในทางออฟโรด หรือถ้าหากห่างมากๆก็จะดูดลมเข้ามาได้ไม่ดีเท่าที่ควร อาจจะส่งผลต่อการระบายความร้อนของเครื่องด้วย
หลังจากที่ได้ตำแหน่งเครื่อง กับหม้อน้ำที่เหมาะสมแล้ว เพื่อความสมบูรณ์แบ ก็ทำการตีบังลมเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้บังคับให้ลมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนรายละเอียดของตัวบังลมก็จะต้องให้ง่ายต่อการถอดและซ่อมบำรุงหม้อน้ำด้วย อย่างเช่น
- การออกแบบบังลมให้มี 2 ชิ้นถอดแยกได้เวลาเซอร์วิส
- การตีบังลมให้เป็นแบบแค่ครึ่งวงด้านบนเพื่อเวลาเอาไปใช้ในทางโคลนหรือมุดโคลนจะได้ไม่เก็บโคลนที่ด้านล่างของหม้ดน้ำและง่ายต่อการฉีดล้างด้วย

คำตอบที่ 131
       รูปเครื่องภาพเต็มแบบตรงๆครับ ถือว่าเหมาะสมกับขนาดของห้องเครื่องของคาริเบี้ยนมากครับ ไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไปครับ

คำตอบที่ 132
       เครื่อง Vitara 1600 นั้นก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งครับ สำหรับผู้ที่ใช้ซูซูกิคาริเบี้ยน ทางออฟโรดได้ ทางออนโรดดี ถือว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียวครับ

ผลการใช้งานคร่าวๆดังนี้ครับ
อิงจากข้อมูลเก่า
เครื่องเดิม 1300 ทำเฮดเดอร์เปลี่ยนสายหัวเทียน
ยางขนาด 32 นิ้ว
เฟืองท้าย 8.41 (5.125)
Slow 1000(อัตราทด 2.5 รอบ)
ลมยาง 28 ปอนด์
อัตราบริโภคน้ำมัน 9-9.5 กม./ลิตร ณ ระดับความเร็วเฉลี่ยแบบกดมิดคันเร่งเครื่องเดิมตลอดทางได้ 110-115 กม./ชม.(วัดจาก GPS) เหยียบสุดแล้วครับไม่ขึ้นมากกว่านี้แล้ว

ข้อมูลใหม่ (หลังจากเปลี่ยนเครื่องใหม่)
เครื่อง 1600 Vitara เดิมๆจากโรงงานชนเกียร์หลักเดิม 1300
ยางขยับขึ้นมาเป็น 285/75R16 (ประมาณ 32.8 นิ้วหรือ 33 นิ้ว)
เฟืองท้ายเปลี่ยนกลับมาใช้เฟืองเดิม 11.43(3.9)
Slow 1000 (2.5 รอบเหมือนเดิม)
ลมยาง 28 ปอนด์
อัตราบริโภคน้ำมัน 11-12 กม./ลิตร ณ ระดับความเร็วเฉลี่ยที่ 120 กม./ชม.(วัดจาก GPS) รอบเครื่องสบายตัวครับ กดเร่งแซงสบายมาก ถือว่าประหยัดน้ำมันดีมากครับ ถือว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียวครับ

ก่อนเปลี่ยนเครื่องตอนแรกนึกในใจว่า กะแค่ 300 ซีซีที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่เป็น 1300 มันจะไปได้อะไรมามากมายนัก แต่พอเปลี่ยนแล้วดีขึ้นมามากแบบผิดหูผิดตาเหมือนกันครับ โอเคเลยครับ

แต่.........

คำตอบที่ 133
       แต่อะไรครับ

คำตอบที่ 134
       แต่......พอขับเข้าไปถึงทางป่า แล้วเริ่มลงมาบิดฟรีล็อค ความรู้สึกกลับไม่ใช่ครับ

(เดี๋ยวถ้าว่าง ค่อยมาต่อกันครับ)

คำตอบที่ 135
       จากการที่ได้เปลี่ยนเครื่องเป็น 1600 และเปลี่ยนเฟืองท้ายกลับมาเป็น 11.43 ผลที่ได้ในทางดำจะดีมาก การวิ่งทั้งตีนต้นและตีนปลายค่อนข้างสบาย แต่เมื่อนำไปใช้ในทางออฟโรดจะไม่สามารถใช้ 4H ได้เลย ใช้ได้แต่ 4L และเมื่อใช้แต่ 4L สำหรับทางชันๆนิดหน่อยยังต้องใช้เกียร์ 1 ตลอด เกียร์ 2-3 ใช้ไม่ได้ และอีกอย่าง Engine Brake แทบจะไม่มี (เหมือนขับรถเกียร์ Auto เวลายกคันเร่งแล้วเครื่องไม่ค่อยดึง) ต้องใช้การเลียเบรคอีก

ผลทั้งหมดนั้นน่าจะมาจากการที่เฟืองท้ายไม่เหมาะสมกัน นั่นก็คือ 11.43 น่าจะเหมาะกับการวิ่งถนนดำธรรมดาเท่านั้น เนื่องจากเป็นเฟืองที่ทดน้อย(เฟืองเร็ว)
ผลสุดท้ายกลับไปใส่เฟือง 8.41 เหมือนเดิมแทนครับ ซึ่งน่าจะเหมาะสมกับการใช้งานจริงๆมากกว่า

คำตอบที่ 136
       แต่สำหรับผู้ที่ใช้งานแบบในเมือง ถนนดำอย่างเดียว หรือเข้าไร่เข้าสวนบ้าง หรืออุทยานเป็นครั้งคราว สามารถใช้เฟืองเดิมติดรถ(11.43)ได้ครับ กับเครื่องวีทาร่า 1600 ณ ระดับยางไม่เกิน 33 นิ้ว ใช้ได้ดีเลยครับ ขับสนุก มันส์ดี แต่ละเกียร์ลากได้ค่อนข้างยาว ขับสนุก อัตราเร่งแซงดีครับ และประหยัดน้ำมัน ยิ่งชั่วโมงนี้ด้วยถ้านำไปติดตั้ง Gas ด้วยแล้วล่ะก็ ใช้ลืมไปเลยครับ

คำตอบที่ 137
       งบประมาณเท่าไหร่ครับสำหรับG16A 1600

คำตอบที่ 138
       เบ็ดเสร็จพร้อมใช้งานประมาณ 40,000-45,000 บาทครับ แพงยังไงก็ไม่เกิน 45,000 บาทแน่นอนครับรวมปั๊มไฟฟ้าใหม่ๆและสายพานไทม์มิ่ง

สนใจรายละเอียดต่างๆในการวางเครื่องวีทาร่าโทรสอบถามได้เลยนะครับ โทร.081-754-5376

คำตอบที่ 139
       คุณสอทำเองหมดเลยเหรอครับ..ไม่ทราบว่าเป็นอู่ทำซูซูกิโดยเฉพาะหรือเปล่า เห็นงานแล้วสะอาดเรียบร้อยดี น่าสนใจ อยู่แถวไหนครับ

คำตอบที่ 140
       อ๋อ....ครับ ขอบคุณมากๆเลยครับ
ส่วนใหญ่จะทำเองทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ ปรับแต่ง เทินเพลา เปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนคาน
ส่วนใหญ่รถที่ทำก็เป็นรถเล็กพวกซูซูกิ และก็รถใหญ่พวกคานแข็งบ้าง เนื้องานส่วนใหญ่ก็จะค่อยๆทำครับ ค่อนข้างเก็บรายละเอียด ไม่ได้เน้นไปในเชิงพาณิชย์มากนักครับ

คำตอบที่ 141
       สนใจยังไงโทรสอบถามได้เลยนะครับ พูดคุยเล่น สอบถามและปรึกษาการทำรถ การ set รถเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน ผมอยู่แถวถ.บางกรวย ใกล้ๆกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตครับ
ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 142
       ข้อมูลล่าสุด
หลังจากที่ใส่เฟือง 8.41 + Slow 1000 กับเครื่อง 1600 วีทาร่า กับยางขนาด 33 นิ้ว ผลการใช้งานออกมาดีมากครับ เป็นรถขึ้นเยอะ ออกตัวเกียร์ 2 ได้เลยครับ เหลือเฟือเลยครับ (แต่สำหรับรถที่ใช้งานในเมืองควรจะใช้เฟืองเดิมๆนะครับ)

ความเร็วปลายเท่าที่ลองแล้วลองอีกได้อยู่ที่ประมาณ 125 กม./ชม. (วัดจาก GPS) แต่ความเร็วก็ยังสามารถไหลๆไปได้อีกนิดหน่อย ความเร็วที่ได้ก็จะน้อยลงกว่าเดิมนิดหน่อย รอบก็จะสูงขึ้นอยู่บ้างเป็นเรื่องปกติ
Engine Break เยี่ยมเหมือนรถทั่วๆไป เหมาะสำหรับการใช้งานแน่นอน (เดี๋ยวถ้าออกทริปจะมาลงรายละเอียดอีกทีครับ สำหรับการใช้งานในแบบออฟโรด)

ส่วนเรื่องอัตราบริโภคน้ำมันยังไม่แน่ชัดเท่าไหร่ (เดี๋ยวยังไงแล้วถ้าเอาออกไปวิ่งจริงๆจังๆเดี๋ยวจะมาลงรายละเอียดอีกทีหนึ่งครับ) เพราะน้ำมัน ณ ระดับราคาตอนนี้ไม่ค่อยน่าใช้เท่าไหร่แล้ว ประกอบกับรถก็ไม่ค่อยได้วิ่งใช้งานมากมายซักเท่าไหร่ ช่วงเวลาที่ผ่านมาก็พอมีเวลาเอารถไปเก็บสีภายในรถ พื้นรถ และก็งานเบาะภายในรถแทน เปลี่ยนยางขอบกระจกตู้ปลาใหม่ทั้งหมด

คำตอบที่ 143
       และจากระดับราคาน้ำมันที่แพงขึ้นขนาดนี้ และยังเพิ่มขึ้นต่อไปอีกเรื่อยๆในอนาคต คำถาม? จึงเกิดขึ้นว่า "แล้วเราจะสามารถไปเที่ยวได้อย่างไร?" ..........

คำตอบที่ 144
       คำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับยุคนี้ คือ การจับเจ้า G16A กิน GAS ซะ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในยุคปัจจุบันที่น้ำมันราคาแพงมากๆ โดยแทบจะไม่ต้องคิดเลยว่า การติด GAS นั้นเมื่อไหร่จะคุ้มทุน
ชั่วโมงนี้มองอย่างเดียวว่า อะไรที่สามารถเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในรถแล้วราคาถูกที่สุด ก็ต้องเอาอย่างนั้นแล้ว

ดังนั้น คำถามต่อมาคือ
1. ติดระบบไหนที่เหมาะกับเครื่องวีทาร่าหัวฉีด
2. ถังขนาดเท่าไหร่ แบบไหน
3. หม้อต้มอะไร แบบไหน

คำตอบที่ 145
       พักเรื่องของ GAS ไว้ก่อน มาว่ากันที่ภายในรถว่า เราจะวางถังในตำแหน่งไหน

และจาก Concept ที่จะใช้รถคันนี้ไว้เที่ยวป่าด้วยแล้ว ทำให้การปรับแต่งภายในส่วนของตู้ปลาด้านหลังจึงเป็นสิ่งจำเป็นและค่อนข้างละเอียดอ่อน นั่นก็คือ การวางถังแบบไหน ตรงไหน ขนาดโตเท่าไหร่ และรถก็จะต้องบรรทุกสัมภาระเวลาเข้าป่าได้ด้วย รถจะหนักขึ้นเท่าไหร่ ลามปามจนไปถึงการเซ็ตแหนบหลังใหม่อีกครั้งเพื่อให้เหมาะสมกับน้ำหนักของตัวรถ

แต่ก่อนอื่นที่จะทำอะไร เราจะเริ่มจากการเซ็ตด้านหลังให้โล่งเอาไว้ก่อน เผื่อเวลานำถัง GAS มาวางจะได้เห็นมิติอย่างชัดเจน

คำตอบที่ 146
       อุปกรณ์คร่าวๆที่เซ็ตไว้ของการติด GAS คันนี้คือ
1. ระบบคิดว่า จะใช้แบบ Fix mixer แบบธรรมดาๆ เพื่อที่จะเวลาเกิดปัญหาขึ้นในป่า ก็จะสามารถปรับจูนหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ซึ่งจริงๆแล้วถ้าจะให้ดีก็อาจใช้แบบ Lamda ควบคุมเพิ่มเติมอีกก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องการที่จะให้ทุกอย่างต้อง Mannual ทั้งหมด ก็เลยใช้ Fixmix ธรรมดาแทน
ส่วนนอกจากนี้ข้อจำกัดอื่นๆก็คือ ต้องใช้ระบบกรองอากาศแบบเดิมนั่นก็คือ แบบ Airflow ที่ติดเครื่องมา คือจะไม่ใช้กรองเปลือยเป็นอันขาด เพราะจะไม่เหมาะกับการใช้งานแบบเที่ยวป่า

2. ส่วนเรื่องถัง ชั่วโมงนี้เลือกแทบไม่ได้เลย ตอนแรกเซ็ตไว้ว่า จะใช้แบบ 64 ลิตร แต่สรุปแล้วก็คือ ได้ 58 ลิตรแทน สาเหตุที่อยากได้แบบ 64 ลิตรในตอนแรกก็เพราะว่า ความจุที่มาก และขนาดของถังก็จะสามารถวางลงไปในระหว่างซุ้มล้อซ้ายขวาได้พอดีมากที่สุด แต่ก็ไม่เป็นไร 58 ก็ได้
ส่วนถังก็เป็นของยี่ห้อ Metal mate งานดี สีบรอนซ์สวย แบบ Multi Valve (แต่จริงๆอยากได้ Valve แบบ Super มากกว่า) ก็ไม่เป็นไรถือซะว่า แบบ Multi valve ก็สามารถอัด Gas ได้มากกว่าแบบทั่วๆไป

3. ส่วนหม้อต้มใช้ของยี่ห้อ Shap รู้สึกว่าเป็นของประเทศตุรกี (ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบเลย) ส่วนถ้าเป็นของโทมาเซตโต้ของอิตาลีก็จะต้องเพิ่มอีก 1,000 บาท ก็ไม่เป็นไรลองดูไปก่อนครับ...

คำตอบที่ 147
      

คำตอบที่ 148
       การวางตำแหน่งถังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ คือ วางแบบเหลือที่ด้านหลังไว้สำหรับบรรทุกของได้อีก แต่ก็ไม่ได้ชิดกับเบาะหน้ามากเกินไป ก็เผื่อไว้สำหรับใส่ของจุกจิกอีกนิดหน่อยพวกร่ม ขวดน้ำ และอื่นๆ

ส่วนถังก็วางให้วาล์วหันไปด้านหน้า เพราะเวลาบรรทุกของก็จะได้ไม่มีอะไรมากระแทกทำให้ฝาครอบแตก และอีกอย่างก็เอาไว้สำหรับมองมิเตอร์วัดแก๊สว่าปริมาณแก๊สเหลืออยู่เท่าไหร่แล้ว เพราะบางครั้งลำพังเกจ์วัดระดับแก๊สที่คอนโซลหน้ารถก็จะมีเพี้ยนๆขึ้นๆลงๆอยู่บ้าง

คำตอบที่ 149
       ตำแหน่งถังแก๊สครับ ค่อนข้างโล่งเพราะได้ยกเบาะหลังออกไปแล้ว

คำตอบที่ 150
       ตำแหน่งของถังอีกมุมหนึ่งครับ ท่อทางเดินของสายต่างๆเลี้ยวหักลงไปยังพื้นรถในแนวเดียวกัน

คำตอบที่ 151
       ตำแหน่งที่วางหม้อต้ม วางที่ตำแหน่งด้านฝั่งคนนั่งของห้องเครื่อง ซึ่งใจจริงแล้วอยากจะให้วางในตำแหน่งฝั่งคนขับมากกว่า เพราะจะได้ไม่ไปแน่นกันอยู่ฝั่งเดียวและก็จะได้ห่างๆไอร้อนจากท่อไอเสียด้วย อุตส่าห์เคลียพื้นที่หน้าแบตเตอรี่ไว้แล้ว

นอกจากนี้แล้วยังทำให้ต้องลากสายต่างๆระโยงระยางอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสายท่อน้ำ สายไฟ และสายท่อแก๊ส เฮ้อ.......แต่ก็ไม่เป็นไร

**จริงๆแล้ว การวางตำแหน่งหม้อต้มตามที่ได้สอบถามตามแหล่งร้านต่างๆนั้น ได้ความว่า การวางตำแหน่งที่ดีและถูกหลัก ควรจะวางในฝั่งที่ตรงข้ามกับท่อไอเสียในรถทุกๆประเภท เพื่อจะได้เซฟตี้ในหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็น ไอร้อนจากท่อไอเสีย ซึ่งอาจจะทำให้ท่อสาย หรือท่อยางต่างๆ และสายไฟอาจจะเสียเร็วกว่ากำหนด นอกซะจากสุดวิสัยไม่มีที่จริงๆ **

คำตอบที่ 152
       ฝั่งคนขับก็ยังคงโล่งๆเหมือนเดิม

คำตอบที่ 153
       ตำแหน่ง Mixer ที่ใส่เข้าไปในท่อไอดี
ทางร้านติดตั้งเค้าบอกว่า ถ้ารถใส่ Snorkle แล้ว จะต้องย้าย Mixer ไปไว้ในตำแหน่งอื่น จุดนี้ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ว่าทำไมมันต้องย้าย เพื่อนๆท่านอื่นถ้าใครพอทราบยังไงช่วยลงรายละเอียดให้หน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 154
       ตำแหน่งห้วเติมแก๊ส อยู่ข้างตัวรถข้างๆกับคัทซี น่าจะเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความยาวของสายที่จำกัด

ตอนแรกยึดอยู่ในตำแหน่งใต้ขายึดไซด์เรียว ซึ่งค่อนข้างต่ำและสายจะโยงย้อยลงมาเยอะ อาจจะเกี่ยวพวกกิ่งไม้และกิ่งไผ่ได้

คำตอบที่ 155
       งานเนียนมากเลยคุณสอ

คำตอบที่ 156
       เยี่ยมมาก ความรู้ทั้งนั้นเลยครับ

คำตอบที่ 157
       ขอบคุณมากๆครับ

สวัสดีครับ คุณคิส คอยล์สปริง สบายดีนะครับ BD30 เป็นไงบ้างครับ

รถผม TD27 ตอนนี้เอามาวิ่งวอร์มเครื่องอาทิตย์ละ 1 ครั้งครับ........ เดี๋ยวอนาคตถ้าดีเซลมีลิตรละ 50 บาทขึ้นไป จะมีโปรเจค U หรือโปรเจค V ใหม่แน่นอนครับ แต่ตอนนี้รอดูสถานการณ์ไปก่อน เพราะยังไงรถกระบะส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นเครื่องดีเซลกันอยู่ มันจะต้องมีอะไรดีๆมาทดแทนกันบ้างแหละ

คำตอบที่ 158
       (นอกเรื่องเกี่ยวกับแก๊ส นิดหน่อยนะครับ เพราะพอดีเป็นส่วนต่อจากเครื่องวีทาร่า)

ตำแหน่งด้านหลัง และมิติของตู้ปลาด้านหลังอีกครั้งหนึ่งครับ หลังจากที่วางถังแก๊สไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข้อดีในการวางถังกลางรถ
1. เนื้อที่บรรทุกด้านหลังจัดสรรได้อย่างเต็มที่ บรรทุกของขึ้นลงท้ายรถทำได้ง่าย
2. น้ำหนักไม่ไปถ่วงท้ายรถมากเกินไป ซึ่งท้ายรถก็มีถังน้ำมันอยู่แล้ว
3. สังเกตเห็นเกจ์วัดแก๊สที่ตัวถังได้ง่าย เผื่อมิเตอร์บอกปริมาณแก๊สที่ด้านหน้าเพี้ยน
4. สายแก๊สไม่ต้องโยงมายาวจนถึงท้ายรถ ซึ่งก็น่าจะลดความเสี่ยงในเรื่องของสายแก๊ส
5. รถมีน้ำหนักใกล้เคียงกับของเดิม

ข้อเสีย
1. ไม่สามารถใส่เบาะหลังได้
2. นั่งโดยสารได้น้อย

แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า การใช้งานของเราเป็นแบบไหน เที่ยวป่าหรือเที่ยวเมือง ใช้บรรทุกบ่อยไหม ปริมาณแค่ไหน หรือมีคนโดยสารเป็นประจำ เป็นรถครอบครับ เป็นต้น

คำตอบที่ 159
       ตำแหน่งระหว่างเบาะหน้าที่สามารถหันไปมองวาล์วของถังได้ครับ
(รูปอาจจะไม่ค่อยชัด)

คำตอบที่ 160
       สวิทช์บอกระดับแก๊สได้ติดตั้งฝังไว้ในคอนโซลหน้า(บนขวา) ร่วมกันกับสวิทช์อื่นๆ คอนโซลนี้จะมีช่องฟรีไว้ให้อยู่แล้ว เราสามารถผ่าเพื่อใส่สวิทช์ต่างๆตามที่เราต้องการใช้ได้ สวิทช์อาจจะไม่ค่อยเข้ารูปซักเท่าไหร่ เพราะว่าเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงตั้ง แต่ก็พอได้อยู่ครับ

**จริงๆแล้ว ช่องดังกล่าวตามโรงงานซูซูกิจะเอาไว้ใส่สวิทช์ไล่ฝ้าของกระจกหลัง ในกรณีที่เป็นรถนอกจำพวกจิมนี่**

คำตอบที่ 161
       สุดยอดเลยค้าบพี่ สอ

มี 841 เข้ามาบ้างยังคับ

กะลัง ลังเลใจ ว่า จะ สโล 1000 ดี หรือ 841 ดี แต่ใจโอนไปทาง 841 รองบประมาณ จาก ผบ อยู่อ่ะคับ

คำตอบที่ 162
       8.41 มีครับ เป็นจานเฟืองหน้า/หลังครับ

อยากจะใช้ 8.41 หรือ Slow 1000 ยังไงลองพิจารณาดูที่ขนาดยางอีกทีด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 163
       พอดีได้ข้อมูลมาแล้วครับ หลังจากที่จับเจ้า G16A กินแก๊สแล้วไปออกทริปมา (วิ่งแก๊สเฉพาะถนนดำ ส่วนในป่าใช้น้ำมัน) สำหรับอัตราการบริโภคแก๊สคร่าวๆนะครับ ดังนี้ครับ
- รถคาริเบี้ยนเครื่อง 1600 วีทาร่า ชนเกียร์เดิม 1300
- สโลว์ 1000
- เฟืองท้าย 8.41
- ยางขนาด 285/75R16 (ประมาณ 32.8 นิ้ว)
- ล้อ Isuzu 6 รู กว้าง 7 นิ้ว (น้ำหนักค่อนข้างเบา)
อัตราบริโภคแก๊สเท่ากับ กิโลละ 1.60-1.80 บาท สำหรับทางไกลต่างจังหวัด
ส่วนอัตราบริโภคในเมืองนั้นไม่แน่ชัดครับ เพราะรถไม่ค่อยได้ใช้บ่อยนัก พร่องนิดพร่องหน่อยก็เติม ก็เลยไม่มีตัวเลขที่แน่นอน (ถ้ามีข้อมูลที่แน่นอนจะมาลงรายละเอียดอีกทีครับ)

ความเร็วปลายสูงสุดแบบมิดคันเร่ง คือ 130-135 กม./ชม.(ณ เฟือง 8.41 กับยาง 32.8 นิ้ว) ณ ระดับรอบเครื่องแบบสาหัสที่ 5000-6000 รอบไม่มีผิดเพี้ยนแน่นอนครับ

สรุป อัตรากินแก๊สจะค่อนข้างมากไปนิดนึงครับ เพราะขับแบบกดค่อนข้างหนัก และเฟืองทดไว้เยอะ ทำให้รอบเครื่องสูงมากเกินไป ทีนี้สิ่งที่จำเป็นจะต้องดูหลังจากนี้คือ กลับมาจูนระบบแก๊สใหม่อีกครั้งครับ เผื่อจะกินน้อยลงไปกว่านี้

ส่วนผลการใช้งานทางออฟโรด....(เยี่ยมเลยครับ นี่แหละใช่เลยครับ...)
เดี๋ยวมาโพสต่อครับ

คำตอบที่ 164
       เพิ่มเติมอีกนิดครับ พอดีช่วงที่วิ่งขาไปตั้งแต่เลยตัวเมืองกาญไปก็จะไม่มีปั๊มแก๊สแล้ว ทำให้ต้องใช้น้ำมันวิ่งไปจนถึงเข้าป่าและก็กลับออกมาจนถึงตัวเมืองกาญแล้วเติมแก๊ส แล้วก็วิ่งแก๊สกลับจนถึงบ้าน ทำให้วัดอัตราการบริโภคน้ำมันได้อีกด้วย

อัตราบริโภคน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 10 กม./ลิตรครับ ซึ่งดูน่าจะประหยัด แต่ยังไงก็แพงอยู่ดี เพราะราคาเชื้อเพลิงมันแพง แต่ยังไงก็ถือว่าโอเคเลยครับ

คำตอบที่ 165
       รายงานผลสำหรับการใช้งานในป่าแบบออฟโรด (ถือว่าโอเคมากๆ.....ผ่านเลยครับ) สำหรับเส้นทางออฟโรดที่ไปคือ คลิตี้ล่าง

กรณีที่ 1 การขับขี่ในทางโคลนหนืดๆ (ทะเลโคลน) นั้นสามารถที่จะเรียกรอบได้ดีทีเดียว และด้วยความที่เป็นเครื่องเบนซินนั้น ถึงแม้ว่าเส้นทางบางที่นั้นไม่สามารถที่จะเล่นเกียร์ 2 ได้ เพราะทอร์คของเครื่องจะไม่สามารถสู้เครื่องดีเซลได้ แต่ก็สามารถที่จะใช้เกียร์ 1 ลากได้แบบสุดๆ จนล้อปั่นจี๋ได้และขับผ่านไปได้ค่อนข้างดี (เสียงเครื่อง G16A เมื่อลากรอบแบบสุดๆแล้ว เสียงมันส์มากครับ)

กรณีที่ 2 การขับขี่ในทางลื่นและชัน รอบไม่หมดสามารถปั๊มคันเร่งได้ แต่บางที่ชันมากๆก็ต้องอาศัยวินช์ในการช่วยตัวเองขึ้นไป อันเนื่องมาจากรถไม่มีระบบล็อค 100% และยางก็เป็น BF มัดธรรมดา ซึ่งถ้าหากเป็นพวกยาง Simex ก็สามารถไปได้ดีกว่านี้แน่นอนครับ

กรณีที่ 3 การขับขี่ในร่องลึก
เส้นทางส่วนใหญ่ในคลิตี้นั้น ค่อนข้างที่จะมีร่องล้อมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะลึกหมดทุกไลน์ แต่ด้วยความที่รถคาริเบี้ยนเป็นรถที่มีฐานล้อแคบ เมื่อขับลงไปตามร่องล้อของรถใหญ่ก็จะไม่ทำให้ลงไปตามร่องเลยซะทีเดียว ผนวกกับการที่รถคาริเบี้ยนเป็นรถเล็ก น้ำหนักเบา ทำให้วิ่งในลักษณะผิวดินโดยที่ไม่จมลงไปมากได้เป็นอย่างดีครับ

คำตอบที่ 166
       ผมสนใจ วิทาร่าเกียร์ ออโต้ จะวุ่นวายไมครับบ จาใสเกียร์สโลว์ กับเฟืองเเบบไหนดี รถผมเหนช่างบอกว่าเฟือง9 เล็ก สโลว1000 อยากใส่ยาง31-32 รถใช้ในเมืองมากก่าครับบ


ฃอบคุณพี่สอมากๆ ได้ความรู้มากมายย

คำตอบที่ 167
       โดยปกติแล้ว เกียร์ออโต้ที่ติดมากับเครื่องของวีทาร่าจะเป็นลักษณะเพลาหลังออกกลางครับ ซึ่งจะไม่ตรงกันกับเพลาหลังของคาริเบี้ยนที่เยื้องขวาครับ ซึ่งถ้าทำแบบนี้ก็จะไม่ถูกหลักและอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้เมื่อนำไปใช้งานในป่า
(เดี๋ยวจะค่อยๆทยอยตอบนะครับ พอดียุ่งๆนิดหน่อย)

คำตอบที่ 168
       อย่างที่ว่าไว้ คือ เครื่องวีทาร่าที่เป็นเกียร์ออโต้แท้ๆติดกับเครื่องมานั้นเป็นลักษณะของเกียร์สโลว์ติดอยู่กับเกียร์หลักออโต้เลย (เหมือนกับรถโตโยต้า) และตำแหน่งของเพลากลางท่อนหลังที่ท้ายเกียร์สโลว์จะออกกลาง ซึ่งจะไม่ตรงกันกับเพลาท้าย แต่ก็มีอีกหลายวิธีที่พอจะแก้ไขได้แตกต่างกันไป (แต่ก็ไม่ดีนัก) เช่น
1. เปลี่ยนเพลาหลังให้มาออกกลางตามเกียร์สโลว์ (ยุ่งยากและบานปลาย) ก็สุดแท้แต่จะเอาคานอะไรมาใส่ ขอให้เป็นเพลาออกกลางเท่านั้นเป็นพอ
2. ใช้เกียร์ออโต้ของเครื่อง 1300 ของญี่ปุ่น คือ เหมือนเกียร์หลักที่เราใส่รถวิ่งอยู่ เพียงแต่เป็นเกียร์ออโต้ แล้วนำมาดัดแปลงใช้กับเครื่อง 1600 วีทาร่า และก็ชนสโลว์เดิมๆในตำแหน่งเดิมๆ แต่ก็ยุ่งยากและน่าจะบานปลายอีกเช่นกันเพราะกล่องเกียร์ออโต้ของเครื่อง 1300 มันจะเข้ากันกับเครื่องวีทาร่าได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ อย่างเช่น การเปลี่ยนเกียร์ที่สัมพันธ์กับรอบเครื่องของวีทาร่า หรือไม่ก็การดัดแปลงใช้ได้แล้วแต่ระบบ Overdrive ไม่ทำงาน นั่นก็คือ การเปลี่ยนเกียร์ต้องเป็นไปตามรอบของเครื่องที่สูง แล้วจึงต้องทำการลากรอบในแต่ละเกียร์ ทำให้กินแก๊ส กินน้ำมัน

ดังนั้น จึงขอสรุปเลยว่า น่าจะยุ่งยาก และยังไม่มีแบบแผนที่ตายตัวในการดัดแปลงใช้กัน แต่ถ้าหากอยากใช้จริงๆก็น่าจะเล่นกับเครื่องเดิม เพียงแต่หาเกียร์ออโต้ 1300 แท้ๆมาใส่เข้าไปน่าจะจบกว่า และก็ Set ที่เครื่อง เฟืองท้าย หรือไม่ก็เกียร์สโลว์อีกนิดหน่อยก็น่าจะขับสนุกเหมือนกันครับ

(หรือว่า เพื่อนๆท่านอื่นที่เคยทำลองมาแชร์ข้อมูลได้นะครับ จะได้เป็นทางเลือกได้หลายๆทาง)

คำตอบที่ 169
       รถผมตอนนี้เครื่อง1000 4เกียร์อยู๋เลย ต้องเปลื่ยนเกียร์อยู่เเลว คิดว่าเพิ่มตังอีกนิดหน่อย ก็จะได้เกียรออโต้ขับสบายเเลว ไม่รุ่ว่าวุ่นวายยังงงี้ ใส่เกียร์ธรรมดาก็ได้ 555+


ขอบคุณมากครับพี่

คำตอบที่ 170
       รบกวนถามพี่สอหน่อยครับ ปกติไม่ค่อยรู้จักใครเลยครับ เลยเเต่งรถไปเเบบงูๆปลาๆ ตามช่างเค้าใส่ให้

รถผมตู้ปลาเครื่องเดิมคานจี๊ปนะครับ
เฟืองมันเป็น 8.43
เกียร์สโลว์ 650

ผมขับทางดำได้ 80-90 ตามไมล์นะครับ ถ้า 90 ต้องปิดเเอร์ขับ เร่งขึ้นมาถึง 60-70 ได้ไม่ยากครับ

ส่วนในป่าถือว่าทอร์คค่อนข้างดีมากในการปีนหิน เร่งในทางชัน ในการปั่นไม่หมดง่ายๆ เเละไม่ดับ

เเต่.... ทางดำผมทำความเร็วได้ประมาณที่บอกมาเท่านั้นเอง ถามเพื่อนๆบางคนเค้าบอกให้ใช้เกียร์ธรรมดา 1300 ผมเองก็ไม่อยากเสียเงินหลายๆต่อ เค้าว่าถ้าเราใช้ เกียร์ 1300 อาจจะวิ่งทางดำได้ถึง 120 เเต่ในป่าเป็นยังไงก็ไม่รู้

เลยต้องรบกวน ถามคุณ สอหน่อยครับ ถ้าผมเน้นทางออฟโรดเป็นหลัก อยากให้ดีเหมือนเดิม จะทำอย่างไรดีให้ทางดำไวขึ้นกว่าเดิม

ยาง 33 simax jungle ครับ

คำตอบที่ 171
       อยากถามว่ารถของคุณสอหลังจากที่วางเครื่อง TD27แล้วเซ็ตช่วงล่างยังไงและแหนบใช้ของอะไรมาใส่เนื่องจากเครื่องมีน้ำหนักมาก

คำตอบที่ 172
       เดี๋ยวเข้ามาตอบให้อีกทีนะครับ พอดีช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อยครับ

ของคุณวิทยา ถ้าเป็นตามที่บอกว่า ถือว่าน่าจะจัดเกินไปสำหรับอัตราทดของเกียร์สโลว์ครับ (เดี๋ยวเข้ามาตอบอีกทีนะครับ)

ส่วนของคุณคนบ้านป่าครับ รถผมใส่แหนบรถใหญ่ครับ ขยายจุดยึดเต้าแหนบหน้าหลังใหม่ทั้งหมด (เดี๋ยวจะเข้ามาตอบให้อีกทีนะครับ)

คำตอบที่ 173
       รบกวนถามคุณ สอ ด้วยครับ
1. เกียร์สโลว์ของซู ที่หลังออกตรงกลาง หน้าเยื้องขวา มีรุ่นไหนบ้างครับ พอดีจะเอาไปต่อท้ายเกียร์ขับสองของไมตี้ ทำเพื่อเพิ่มแรงฉุดลาก เวลาบรรทุกน้ำยาง ไม่ทราบแนะนำรุ่นไหนดี ราคาประมาณเท่าไรครับ
2. คันเกียร์สโลว์สามารถต่อไปโผล่ตรงคันเกียร์เดิมได้หรือเปล่าครับ โดยเอาฝาครอบเกียร์ของ 4*4 มาใส่แทนของเดิม
ปล. ไมตี้เครื่อง 2L เฟืองท้าย 10/43 ยาง 235/70/15

คำตอบที่ 174
       อยากทราบคุณสอใช้แหนบของอะไรมาใส่ครับ

คำตอบที่ 175
       (ตอบคุณวิทยาครับ)

คานจี๊ปนั้นถือว่าเป็นคานที่มีอัตราทดค่อนข้างจัด อัตราทดเฟืองท้ายของคานจี๊ป คือ 8.43 หรือหารออกมาได้เท่ากับ 5.375 ซึ่งจะเหมาะสมสำหรับเครื่องที่มีซีซีและความจุค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาริเบี้ยน
โดยส่วนตัวแล้วคานจี๊ปนี้ จะมีข้อจำกัดอยู่ค่อนข้างมากโดยเฉพาะเรื่องเฟืองท้าย เพราะมักจะไม่ค่อยมีอัตราทดของเฟืองท้ายให้เล่นมากซักเท่าไหร่ เพราะรถจี๊ปเป็นรถรุ่นเก่าและเครื่องมีความจุน้อย จึงออกแบบเฟืองท้ายมาให้มีอัตราทดที่สูงเพื่อชดเชยกัน ถ้าเอามาใส่คาริเบี้ยนก็ต้องไล่กันที่เกียร์สโลว์กับขนาดของยางเท่านั้น

ดังนั้นจากข้อมูลที่ให้มา เฟืองท้ายระดับ 8.43 นั้นก็ถือว่าจัดอยู่แล้ว พอมาเจอกับเกียร์ 650 ด้วยยิ่งจะจัดมากขึ้นไปอีก ทำให้รอบปลายค่อนข้างตัน ทีนี้ก็จะมีอยู่ 2 แนวทางที่แก้ไขได้แตกต่างกันไป คือ
1. การเปลี่ยนเกียร์สโลว์ โดยมาใช้เป็นเกียร์ 1300 เดิม ซึ่งอาจจะดีขึ้นในทางดำจริง ก็คือ สามารถที่จะทำความเร็วได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกพอสมควร แต่ว่าทางออฟโรดอาจจะไม่ค่อยถูกใจ เพราะแรงบิดจากเกียร์สโลว์น้อยลงพอสมควร ส่วนเกียร์ 1000 ก็น่าจะเป็นอัตราทดที่น่าจะเหมาะสมมากที่สุด น่าจะได้ความเร็วปลายที่มากขึ้นพอสมควร ส่วนทางออฟโรดก็ยังพอได้อยู่ และวิธีนี้ก็ถือว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมและประหยัดมากที่สุด
2. เปลี่ยนขนาดของยางให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เป็นขนาด 34-35 นิ้ว อาจจะทำให้รอบปลายที่ตันนั้นน้อยลงได้ ปลายจะดีขึ้นมาอีก แต่ก็จะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการเปลี่ยนเกียร์สโลว์ครับ
ส่วนทั้ง 2 แนวทางที่กล่าวมานั้น จะส่งผลต่อการวิ่งทางดำได้ดีขึ้นมาในระดับหนึ่ง แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้ถึง 120 กม./ชม.หรือเปล่า บางที 120 ของเราแต่รถคันอื่นวิ่งแค่ 100 เดียว หรือบางทีเราวิ่ง 100 แต่คันอื่นเค้าไป 110-115 กันแล้ว ค่อนข้างที่จะวัดได้ยากครับ เพราะเข็มไมล์ก็เพี้ยนไปหมดแล้ว ทั้งอัตราทดเฟืองท้าย ทั้งขนาดยาง ทั้งเกียร์สโลว์ ยังไงลองวิ่งเทียบกับรถสแตนดาร์ดดูอีกทีด้วยแล้วกันนะครับ

ทุกอย่างต้องได้อย่างเสียอย่างนะครับ

คำตอบที่ 176
       (ตอบคุณคนบ้านป่า)

ช่วงล่างผมเซ็ตใหม่ทั้งหมดโดยใช้แหนบรถใหญ่ครับ ส่วนแหนบเป็นของโตโยต้าพวก SR5 ครับ เพราะว่าจะได้รับกับน้ำหนักของเครื่องยนต์กับเกียร์ได้อย่างเหมาะสม
ก่อนหน้านี้หลังจากที่วางเครื่องลงไปก็ยังคงใช้แหนบยกของคาริเบี้ยนอยู่ เป็นแหนบยก 4 นิ้วครับ พอเจอน้ำหนักของเครื่องกับเกียร์ลงไปทำให้ต้องเสริมแหนบเข้าไปอีก และพอเสริมแหนบเข้าไปก็ทำให้กระด้างและขับไม่ดี ดังนั้นจึงแก้ด้วยการเปลี่ยนแหนบยาวและหน้ากว้างใส่เข้าไปแทน แล้วที่สำคัญแหนบที่มีความยาวมากทำให้มีความนิ่มนวลมากกว่าแหนบเดิม ตัวแหนบนี่ยาวแบบสุดๆเลยครับ

คำตอบที่ 177
       (ตอบคุณคนบ้านป่าต่อครับ)

ส่วนการดัดแปลงก็จะต้องขยายเต้าแหนบและด้านโตงเตงออกไปทั้งหมดเพื่อที่จะให้ใส่แหนบได้อย่างเหมาะสม และจากการที่ขยายเต้าแหนบใหม่ก็เลยทำการบาลานซ์ความสูงของรถใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดของยาง ตัวรถจะได้ไม่สูงมากจนเกินไป คือจะพยายามให้ความสูงเหมาะสมกับขนาดของยางที่ใส่ครับ

คำตอบที่ 178
       คุณ Tommy กับคุณนัท เดี๋ยวมาตอบต่อนะครับ

คำตอบที่ 179
       ขอบคุณ คุณสอ มากมากมากมากมากมากมากมาก เลย ครับ เอาเป็นว่าผมอาจจะเลือกทางที่เปลี่ยนยางดีกว่าครับ เพราะตอนนี้ ยางเริ่มหมดอายุเเล้วคงใช้ได้เเค่ อีก 2-3 เดือน ไว้สักวันจะไปอุดหนุนสินค้าที่ร้านครับ

คำตอบที่ 180
       ไม่เป็นไรครับ อะไรที่เคยลองเคยทำถ้าพอตอบได้ก็จะลองตอบไปให้นะครับ

คำตอบที่ 181
       (ตอบคุณ Tommy ครับ)
1. เกียร์สโลว์ของซู ที่หลังออกตรงกลาง หน้าเยื้องขวา มีรุ่นไหนบ้างครับ พอดีจะเอาไปต่อท้ายเกียร์ขับสองของไมตี้ ทำเพื่อเพิ่มแรงฉุดลาก เวลาบรรทุกน้ำยาง ไม่ทราบแนะนำรุ่นไหนดี ราคาประมาณเท่าไรครับ
ตอบ เกียร์สโลว์ของซูซูกิที่หลังออกกลาง หน้าเยื้องขวา มีแต่เกียร์ของวีทาร่าเท่านั้นนะครับ แต่ไม่สามารถนำมาใช้ได้เพราะไม่ได้เป็นสโลว์แยก
ส่วนเกียร์สโลว์ของคาริเบี้ยนจะเป็นสโลว์แยก แต่หลังก็จะเยื้องขวาครับ สโลว์ทุกรุ่นของตระกูลคาริเบี้ยน (SJ) จะเป็นแบบนี้หมดครับ
ดังนั้น ถ้าจะนำไปใช้กับไมตี้ก็จะค่อนข้างลำบากครับ เพราะไมตี้หลังจะออกกลาง เพลาอาจเกิดการงัดกันได้ อาจจะต้องเปลี่ยนเพลาหลังให้เยื้องขวาตาม จำพวกเพลาหลังของ Prado (ราคาก็คงจะประมาณ 15,000 บาทครับ) หรือไม่ก็หาเกียร์ขับ 4 ของ 2L มาใช้ เพราะเพลาหลังออกกลางตรงรุ่น (ราคาก็คงจะประมาณ 18,000-24,000 บาท)
จริงๆแล้วถ้าต้องการเพียงแค่แรงฉุดลากอย่างเดียว เอาง่ายๆเลย ก็ทำการทดเฟืองท้ายหลังใหม่ เป็นอัตราทดที่สูงขึ้น (จาก 10.43 เป็น 9.43 หรือไม่ก็ 8.39 ครับ) วิธีนี้ก็จะเช่นเดียวกันกับรถกระบะที่ชอบบรรทุกของน้ำหนักเป็นตันๆแบบว่าใช้เกินคุ้มอะไรทำนองนี้ วิธีนี้ก็น่าจะประหยัดงบประมาณมากที่สุด และก็ไม่ต้องทำการดัดแปลงอะไรมากมายด้วยครับ แต่เวลาวิ่งตัวรถเปล่าก็จะวิ่งได้ไม่เร็วนะครับ (เสียอย่างได้อย่างครับ) นอกซะจากหาเพลาอีกชุดหนึ่งไว้คอยเปลี่ยนใส่เวลาไม่ได้ใช้บรรทุกน้ำยางครับ วิ่งถนนดำก็จะได้วิ่งได้เหมือนเดิม (งบประมาณก็น่าจะหมื่นกว่าบาท)

2. คันเกียร์สโลว์สามารถต่อไปโผล่ตรงคันเกียร์เดิมได้หรือเปล่าครับ โดยเอาฝาครอบเกียร์ของ 4*4 มาใส่แทนของเดิม
ปล. ไมตี้เครื่อง 2L เฟืองท้าย 10/43 ยาง 235/70/15

ตอบ ถ้าเอาเกียร์สโลว์คาริเบี้ยนมาใส่แล้วจะให้คันเกียร์ไปโผล่ตรงคันเกียร์เดิมเพื่อที่จะให้เป็นแบบเกียร์ 4wd แท้ๆใช่ไหมครับ ไม่ต้องไปเจาะตัวรถ ผมว่าน่าจะทำค่อนข้างยากนะครับ เพราะเกียร์เป็นแบบแยกและก็จะต้องเผื่อเนื้อที่เอาไว้สำหรับตัวสวมท้ายเกียร์ที่จะวิ่งไปชนหน้าแปลนเกียร์สโลว์ด้วย
สรุปว่า คงไม่น่าจะทำได้ครับ พอรวมกับปัญหาจากข้อ 1 ด้วยแล้ว ยิ่งทำยากเข้าไปกันใหญ่ครับ

คำตอบที่ 182
       ถึงคุณ สอนะครับ รายงานผลการเปลี่ยนยาง จาก33 เป็นยาง 35 ตะขาบ ซิลเวอร์นะครับ รถวิ่งดีขึ้นค่อนข้างมาก เกียร์ 5 ไหลไปเกือบ 100 ครับ ออกตัวปรู๊ดปร๊าดดีกว่าเดิมไม่ค่อยอั้น ครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำที่ดีๆครับ

คำตอบที่ 183
       มีเรื่องอยากจะถามคุณสออีกนิดนึงครับ คานหน้าผมเฟืองมันไม่ได้กระดกรับกับเพลากลางครับ มันอยู่ในลักษณะ ค่อนข้างตรง เวลาขับในป่านี่ก็ไม่ดังเท่าไหร่ครับ เเต่ 4H นี่ลั่นทุ่งเลยครับ

ผมอยากจะลองคานให้มันกระดกรับกับเพลากลางดู ลองหาข้อมูลจากในเน็ตดู

1.ผมต้องรื้อเต้าวางเเหนบใหม่ใช่ไหมครับ ให้เฟืองมันทำองศากระดกรับ

2. พอทำขั้นตอนในข้อ 1. เสร็จเเล้ว ตรงลูกปืนจี๋ล้อมันจะอยู่ไม่ใช่ลักษณะเป็นเเนวดิ่ง ซึ่งลูกปืนตัวนี้มันต้องเป็นเเนวดิ่งใช่ไหมครับ การตั้งลูกปืนจี๋ล้อเนี่ยเราตั้งยังไงหรอครับ ผมเห็นมีตัวบนกับตัวล่างน๊อตอย่างละ 4 ตัว ทั้ง 2 ข้าง เราต้องถอดทั้งหมด ข้างละ2 ตัว ทั้งล้อซ้ายเเละขวาหมดเลยรึปล่าวครับ

3.เเล้วมีจุดอื่นๆที่เราต้องปรับปรุง หรือต้องระวังเพิ่มเติมรึปล่าวครับ

อยากลองทำเองดูครับ

คำตอบที่ 184
      
เดี๋ยวเข้ามาตอบให้อีกทีนะครับ

คำตอบที่ 185
       1.ผมต้องรื้อเต้าวางเเหนบใหม่ใช่ไหมครับ ให้เฟืองมันทำองศากระดกรับ
ตอบ ถ้ารื้อทำใหม่ได้ก็ดีครับ แต่ก็จะยุ่งยากนิดนึงเพราะต้องทำการเลาะอานเดิมออกมาอีก แต่ถ้าเอาง่ายๆหน่อยก็หาลิ่มปรับมุมเพลาใส่เข้าไปแทนก็ได้ครับ

คำตอบที่ 186
       2. พอทำขั้นตอนในข้อ 1. เสร็จเเล้ว ตรงลูกปืนจี๋ล้อมันจะอยู่ไม่ใช่ลักษณะเป็นเเนวดิ่ง ซึ่งลูกปืนตัวนี้มันต้องเป็นเเนวดิ่งใช่ไหมครับ การตั้งลูกปืนจี๋ล้อเนี่ยเราตั้งยังไงหรอครับ ผมเห็นมีตัวบนกับตัวล่างน๊อตอย่างละ 4 ตัว ทั้ง 2 ข้าง เราต้องถอดทั้งหมด ข้างละ2 ตัว ทั้งล้อซ้ายเเละขวาหมดเลยรึปล่าวครับ
ตอบ ใช่ครับ โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า การปรับมุมเพลาควรจะทำอยู่ในขอบเขตจำกัดครับ(ปรับได้นิดๆหน่อยๆเท่านั้น) จะต้องไม่ปรับมากจนเกินไป แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสูงของตัวรถด้วย โดยที่ความสูงของตัวรถก็เกี่ยวเนื่องไปถึงขนาดของยางที่ใส่อีก อย่างเช่น ถ้าใส่ยางซัก 34-35 นิ้ว ก็จะทำให้ต้องใส่แหนบที่โก่งมากๆ พอโก่งมากๆก็จะทำให้พวกเกียร์สโลว์สูงหนีขึ้นไปหมด ทำให้เพลากลางหักชันมาก สุดท้ายเราก็จะต้องทำปรับอานแหนบให้หมุนขึ้นไปรับกับเพลากลาง เพื่อที่จะได้ไม่ให้เพลาหักมุมมากไป แต่ถ้าปรับขึ้นไปมากๆจะมีผลตามมาก็คือ ลูกปืนจี๋ไม่อยู่ในแนวดิ่ง ส่วนผลเสียที่ตามมานั้นไม่ทราบเลยครับ
แต่ก็ยังมีวิธีอีก ที่จะทำการปรับมุมเพลาได้ แต่ไม่มีผลต่อลูกปืนจี๋ก็คือ การกระดกเสื้อเพลา (ปรับมุม Caster) ซึ่งจะต้องทำการกลึงล้างตรงบริเวณคอหัวกะโหลกเสื้อเพลาทั้ง 2 ข้างแล้วค่อยปรับหมุนให้ขึ้นไปรับ และก็เชื่อมกลับไป แต่ก็อาจจะเป็นจุดอ่อนจากรอยเชื่อมได้ และการที่เสื้อเพลากระดกขึ้นไปมากก็จะมีผลต่อรูเติมน้ำมันเฟืองท้ายที่จะเติมได้น้อยลง เพราะรูเติมจะคว่ำลงด้านหน้า ส่วนจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการปรับกระดกของเรา

จริงๆแล้ว วิธีที่น่าจะเหมาะสมที่สุด คือ อย่าพยายามให้ตัวรถสูงมากจนเกินไป แล้วปัญหาต่างๆที่มีผลต่อเนื่องมาก็จะมีไม่มากครับ ความสูงจริงๆแล้วแค่พอเพียงกับยางที่ยุบเข้ามาแล้วไม่ติดก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ
รถที่สูงมากๆจนเกินไปจะขับยากทั้งทางดำและทางออฟโรด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคว่ำง่ายเนินเอียงๆเนินชันๆ ควบคุมรถลำบาก เสียงต่างๆจากระบบยอยของเพลากลางที่ดังจนน่ารำคาญเวลาวิ่งทางดำ

ส่วนการตั้งลูกปืนจี๋ ก็จะต้องใช้แผ่นชิมเป็นตัวตั้งครับ ใช้มากหรือน้อยก็อยู่ที่ความเหมาะสมครับ แล้วเวลาตั้งก็อย่าให้ตึงแน่นจนฝืด หรือว่าหลวมมากจนเกินไปด้วยครับ

คำตอบที่ 187
       ใครหา คาน Rocky แหนบยก 3 นิ้ว พร้อมโตงเตง 4 ตัว กระปุ๊กพวงมาลัยคาริบเบี้ยนแท้ สเปเซอร์ 1 นิ้ว 5 รู ออก 5 รู ยางตะขาบ 32 พร้อมแม็ก OZ ติดต่อ 081-8498080 หรือสอบถามรายละเอียดจากคุณสอ ก็ได้ครับ

คำตอบที่ 188
       ขอถามคุณสอครับ
1. ถ้าผมต้องการวางเครื่องใหม่ (เบนซินเพื่อติดแก๊ส) เช่น 3s , sr มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร
2. เกียร์ควรใช้ของอะไร ( ไม่เอา auto )ออกกลาง หรือ ออกขวาดีกว่าครับ
3. คานใช้ของอะไร
4.ต้องการใส่ยาง 35" เฟืองอะไรเหมาะสม
5. ช่วยประมาณ ค่าใช้จ่ายให้หน่อยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

คำตอบที่ 189
       ขอบคุณมากครับคุณสอ เเต่คงไม่ทำเองเเล้วครับ เด๋วว่างๆเเวะไปให้คุณสอทำดีกว่าครับ 55555555555555+

คำตอบที่ 190
       (ตอบคุณปลวกครับ)
1. ถ้าผมต้องการวางเครื่องใหม่ (เบนซินเพื่อติดแก๊ส) เช่น 3s , sr มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร

ตอบ เครื่องจำพวก 3S กับ SR นั้นจัดว่าเป็นจำพวกเครื่องรอบ มีช่วงชักสั้น และเครื่องพวกนี้มักจะถูกประจำการอยู่ในรถเก๋ง และรถสปอร์ตต่างๆ ดังนั้นการที่จะนำมาวางลงไปในรถคาริเบี้ยนเพื่อที่จะนำไปใช้งานในรูปแบบรถออฟโรดลุยป่าจะไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ในความคิดของผม และยิ่งถ้านำไปใส่กับยางโตๆขนาด 35 นิ้วก็ยิ่งไปกันใหญ่ครับ

เครื่องจำพวกนี้เป็นเครื่องรอบและช่วงชักสั้น แรงบิดจะมีมากในรอบเครื่องที่สูง อย่างกรณี การขับปีนหินหรือเนินชันสั้นๆจะต้องทำการเรียกรอบให้สูงหรือไม่ก็เลี้ยงคลัชเพื่อที่จะเทคขึ้นเนิน (เพราะถ้าขับขึ้นช้าๆจะไม่มีแรงและเครื่องมักจะดับ) และเมื่อพอรอบเครื่องมาก็จะมาแบบเกินเลย เกินใช้งาน ควบคุมรถยาก ไปแบบไม่มีทิศทางอันตรายครับ (ยิ่งถ้าเป็นเครื่อง SR20Det ฝาดำหลังหัก กับตัว 3S เทอร์โบ ยิ่งไปกันใหญ่ครับ)

แต่ถ้าหากต้องการที่จะนำมาใส่จริงๆก็พอได้ครับ แต่ก็ต้องแก้ไขไล่ที่จุดอื่นเอา เช่น
- การทดเฟืองท้ายสูงๆ พวก 8.39 ขึ้นไป เพื่อเป็นการชดเชยกับเครื่องที่มีทอร์คที่ต่ำ ก็สามารถที่จะขับขึ้นเนินชันๆได้โดยไม่ต้องเรียกรอบมากจนเกินไป และก็ไม่ต้องเลี้ยงคลัชให้ไหม้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามก็จะมีปัญหาตามมาเวลาขับหลังถนน ก็คือ เวลาขับเร็วๆแล้วรอบจะสูงเนื่องจากการทดเฟืองท้ายที่มาก แล้วก็จะทำให้กินน้ำมัน กินแก๊ส และจะมีปัญหาความร้อนตามมา
- เปลี่ยนคลัชใหม่ อาจจะใช้คลัชที่มีแรงกดสูง หรือไม่ก็คลัชทองแดง แล้วก็ใช้เฟืองท้ายที่ทดระดับกลาง พวก 9.41(4.5) หรือ 9.43(4.6) ก็พอช่วยได้ เพื่อที่จะเอาไว้เลี้ยงหรือเบิ้ลคลัชเวลาเทคขึ้นเนินโดยเฉพาะ
- โมดิฟายเครื่องยนต์ ให้มีแรงมาสูงๆขึ้นไปอีก ใส่คลัชแรงกดสูงๆช่วย ปรับแต่งกล่อง ECU เปลี่ยนเทอร์โบ แล้วก็ใช้เฟืองท้ายที่ทดระดับกลางหรือเฟืองเร็ว พวก 10.43(4.3) หรือ 10.41(4.1) ก็สามารถที่จะเล่นเทคขึ้นเนินได้ และก็วิ่งทางไกลได้ดี แต่ก็จะมีปัญหาเช่น กินน้ำมัน เครื่องยนต์สึกหรอสูงอันเนื่องมาจากการปรับแต่งเครื่องยนต์ เป็นต้น
นอกจากนี้แล้ว ถ้าจะเอาเครื่องพวกนี้ลงแล้วให้ใช้งานได้ดีขึ้นไปอีก ผมว่าจะต้องมีหลายส่วนประกอบนอกเหนือจากการเซ็ตที่ระบบเครื่องและช่วงล่าง อย่างเช่น การทำตัวรถให้เบา(ยกตู้ปลาออก) บรรทุกของแต่สิ่งที่จำเป็น เอายางอะไหล่ออก เป็นต้น แต่ก็อาจทำให้รสชาติของการท่องเที่ยวแบบออฟโรดหายไป

(ดูไปดูมาแล้ว มันจะเข้าลักษณะบานปลายไปกันใหญ่อ่ะครับ)

คำตอบที่ 191
       ส่วนข้อดีข้อเสีย ผมตอบตามความคิดของผมนะครับ

ข้อดี
1. เครื่องเงียบ นิ่ง เพราะเป็นเครื่องเบนซิน
2. นำไปติดตั้งแก๊สได้
3. แรงม้าสูง

ข้อเสีย
1. แรงบิดน้อย ในรอบเครื่องที่ต่ำ
2. มากด้วยเซ็นเซอร์และระบบไฟ
3. กินน้ำมัน
4. เซ็ตให้จบค่อนข้างยาก อาจจะต้องลองผิดลองถูกหลายครั้งถึงจะลงตัว

ข้อมูลเครื่อง SR 20 DET
4 DOHC 16 V.
ความจุ 1998 ซีซี
กระบอกสูบxช่วงชัก 86x86
แรงม้า 205/6000 รอบ
แรงบิด 28/4000 รอบ

ข้อมูลเครื่อง 3S-GTE
4 DOHC 16 V.
กระบอกสูบxช่วงชัก 86x86
ความจุ 1998 ซีซี
แรงม้า 245/6000 รอบ
แรงบิด 31/4000 รอบ

สังเกตเห็นได้ว่า แรงบิดของเครื่องพวกนี้จะคุยกันระดับรอบเครื่องที่สูงๆทั้งนั้น ว่ากันตั้งแต่ 4000 รอบขึ้นไปเป็นขั้นต่ำ เพราะถ้าเอารอบเครื่องแค่ 2000 รอบมาคุยก็ไม่รู้ว่าแรงบิดพวกนี้จะเหลือซักเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังสังเกตได้จากปริมาตรของกระบอกสูบและช่วงชัก

ทีนี้ลองเปรียบเทียบกับพวกเครื่องดีเซลดูครับ
ข้อมูลเครื่อง TD 27 Turbo
4 OHV
ความจุ 2663 ซีซี
กระบอกสูบxช่วงชัก 96x92
แรงม้า 110/4000 รอบ
แรงบิด 24.7/2400 รอบ

ส่วนของเครื่อง 1KZ turbo
1KZ TE 4 OHC 16 V.
ความจุ 2982 ซีซี
กระบอกสูบxช่วงชัก 96x103
แรงม้า 145/3600 รอบ
แรงบิด 35/2000 รอบ

แรงบิดของเครื่องดีเซลมักจะให้มาในรอบเครื่องที่ต่ำ เพราะเครื่องมีซีซีที่สูงและช่วงชักที่ยาว ยิ่งถ้าหากรอบเครื่องสูงขึ้นไประดับ 4000 เหมือนกับพวกเครื่องเบนซินด้วยแล้วยิ่งจะทำให้เครื่องสามารถสร้างแรงบิดได้ขึ้นไปอีกมากมาย

คำตอบที่ 192
       แต่ประเด็นสำคัญของคุณปลวก คือ การติดตั้งระบบแก๊สใช่ไหมครับ จึงต้องการพวกเครื่องเบนซิน

โดยส่วนตัวแล้วพวกเครื่องเบนซินที่จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสำหรับรถออฟโรด ก็น่าจะเป็นพวกเครื่องที่มีช่วงชักยาว เริ่มไล่ตั้งแต่เครื่องยุคเก่าๆไปจนถึงยุคใหม่ ก็มีพวกเครื่อง 4 สูบตระกูล Y ของโตโยต้า ไม่ว่าจะเป็น 3Y(2000 ซีซี) 4Y(2200 ซีซี) ซึ่งมักจะประจำการอยู่ในรถ 4x4 หรือรถบรรทุกของแทบทั้งสิ้น เพราะเป็นรถที่เอาไว้ใช้งาน

หนักขึ้นไปอีกก็พวกเครื่อง 3RZ (2700 ซีซี) ซึ่งยังคงเป็น 4 สูบเรียงอีกเช่นกันสามารถที่จะนำมาวางในคาริเบี้ยนได้ไม่ยากนัก

ไล่ไปจนถึงเครื่องตระกูลเครื่องวี คือ 3VZ-FE (3000 ซีซี) หรือไม่ก็ 5VZ-FE (3400 ซีซี)ซึ่งเป็นเครื่อง 6 สูบ แต่เป็นเครื่อง สูบ v ที่แบ่งข้างละ 3 สูบ ก็ยังคงเหมาะกับมิติของรถคาริเบี้ยนอยู่

และสุดท้ายก็คือ 1UZ-FE(4000 ซีซี) ใส่ลงไปก็ได้ เพราะเป็นเครื่อง 8 สูบแบบสูบ V โดยแบ่งข้างละ 4 สูบ ก็ถือว่าเต็มกลืนแล้วกับรถคาริเบี้ยน และถือว่าเกินพอสำหรับการใช้งานอีกด้วย

ทุกเครื่องที่กล่าวมา น่าจะเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานแบบออฟโรด แต่ปัญหาก็จะมีคือ
1. ราคาเครื่องที่แพงถึงแพงมาก ณ ตอนนี้นะครับ (วันที่ 4 ก.ย. 2551) เช่น
- เครื่อง 3Y ณ ตอนนี้ อุปกรณ์ครบ อยู่ที่ 40,000 - 45,000 บาทครับ (รวมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเครื่อง หม้อกรอง กล่อง ปั๊มไฟฟ้าในถัง)
- เครื่อง 3RZ อุปกรณ์ครบอยู่ที่ประมาณ 70,000 บาท
- เครื่อง 1UZ อุปกรณ์ครบอยู่ที่ประมาณ 35,000 - 40,000 บาท
สมัยก่อนพวกเครื่อง 3RZ แทบจะไม่มีราคาครับ ประมาณ 15,000-18,000 บาท แต่พอติดแก๊สได้ บวกกับมิติของเครื่องวางลงไปได้แบบแทบจะไม่ต้องดัดแปลง(สำหรับรถกระบะทั่วไป) พวกก็เลยเล่นขึ้นราคากันไม่ยั้ง แถมหายากอีก

2. การติดตั้งระบบแก๊สแบบดูดธรรมดาที่เครื่องบางตัวอาจจะมีปัญหาและไม่มีประสิทธิผลเท่าที่ควร เช่น
- พวก VZ ที่อาจจะต้องติดแบบดูด+แลมด้า หรือไม่ก็หัวฉีดถึงจะดี ประสิทธิภาพถึงจะใกล้เคียงกับน้ำมัน แต่ต้องใช้ถึง 6 หัวฉีด ทำให้ราคาสูง
- 1UZ อาจจะต้องติดตั้งแก๊สด้วยระบบหัวฉีด ซึ่งปกติแล้วระบบหัวฉีดก็ราคาแพงอยู่แล้ว ยิ่งเจอแบบ 8 สูบ 8 หัวเข้าไปอีกก็ต้องใช้ทุนสูงครับ

โดยส่วนตัวแล้วผมว่า ถ้าเบนซินติดแก๊สก็พวก 3RZ 2700 ซีซี น่าจะเหมาะสมนะครับ ทั้งแรงม้า และแรงบิด สามารถที่จะชนกับเกียร์ธรรมดาขับ 4 พวก 2l หรือ 3L ได้เลยไม่ยุ่งยาก
ส่วนพวกตระกูล Y อาจจะดูเรี่ยวแรงน้อยไป

(ลองดูนะครับ ดูจากหลายๆข้อมูล หรือเพื่อนๆท่านอื่นมีข้อมูลก็ลองแชร์กันได้นะครับ) เดี๋ยวข้อที่เหลือเดี๋ยวเข้ามาตอบให้อีกทีครับ

คำตอบที่ 193
       อันนี้หน้าตาเครื่อง 3RZ ครับ

คำตอบที่ 194
       อันนี้เครื่อง 5VZ ครับ

ข้อมูลครับ
5VZ FE V6 DOHC 24 V.
ความจุ 3378 ซีซี
กระบอกสูบxช่วงชัก 93.5x82
แรงม้า 185/4800 รอบ
แรงบิด 30/3600 รอบ

ผมว่า ยังไงแล้วมันก็น่าลง น่าใช้กว่าพวกเครื่อง SR กับ 3S นะครับ
(ลองดูนะครับ แต่ SR ถ้าจะใช้ก็ใช้ได้แหละครับ )

คำตอบที่ 195
       อันนี้เครื่อง 1UZ-FE ครับ

ข้อมูลเครื่อง
1UZ FE V8 DOHC 32 V.
ความจุ 3968 ซีซี
กระบอกสูบxช่วงชัก 87.5x82.5
แรงม้า 280/5400 รอบ
แรงบิด 41/4000 รอบ

เครื่องตัวนี้ผมว่า จะใหญ่เกินไปสำหรับคาริเบี้ยน เกินใช้งานครับ และหาเกียร์ที่จะเอามาชนที่เป็นเกียร์ธรรมดาค่อนข้างยุ่ง โดยมากที่ลงกันก็จะเป็นเกียร์ออโต้ซะส่วนใหญ่ อีกทั้งเครื่องมีซีซีที่สูง ทำให้ต้องหาเกียร์ที่ต้องไม่ห่างกันมากมาใช้ ถือว่าค่อนข้างลำบากและยุ่งยาก

คำตอบที่ 196
       แต่ถ้ายังต้องการแบบว่า ไม่ต้องดัดแปลงมาก และยังอยู่ในยี่ห้อซูซูกิอยู่ ก็ลองดูเครื่อง J20A ที่ใหญ่ในระดับ 2000 ซีซีดูครับ เครื่องตัวนี้อยู่ในรถ Grand VItara ครับ
(แต่ไม่แน่ใจว่า จะดัดแปลงชนกับเกียร์เดิม 1300 ได้หรือไม่) หรือไม่ก็ยกมาทั้งเครื่องทั้งเกียร์เลย สโลว์หน้าออกขวา หลังออกกลางครับ

ข้อมูล J20A ดังนี้
J 20 A 4 DOHC 16 V.
ความจุ 1995 ซีซี
กระบอกสูบxช่วงชัก 84x90
แรงม้า 140/6500 รอบ
แรงบิด 19/4400 รอบ

คำตอบที่ 197
       แต่ถ้าอยากได้ซีซีที่สูงขึ้นไปอีก และเป็นตระกูล V เล็ก ในซูซูกิ และก็ไม่ใหญ่จนเกินไป สัดส่วนเหมาะเจาะ ก็ลองดูที่ H25A ขนาด 2500 ซีซี เครื่อง V6 ก็ยกมาทั้งเครื่องทั้งเกียร์เลยเช่นกัน
เครื่องตัวนี้อยู่ในรถ ซูซูกิ Escudo

ข้อมูล H25A ดังนี้
เครื่อง V6 DOHC 24 V.
กระบอกสูบxช่วงชัก 84x75
ความจุ 2493 ซีซี
แรงม้า 160/6500 รอบ
แรงบิด 22.5/3500 รอบ

เครื่องพวกนี้เห็นว่า แรงม้าน้อยๆ แต่ผมว่าน่าใช้กว่าพวก SR นะครับ เพราะเป็นเครื่องที่ออกแบบมาสำหรับ 4x4 โดยเฉพาะ
(ลองตัดสินใจดูนะครับ)

คำตอบที่ 198
       ข้อมูลเยี่ยมมากเลยครับ คุณสอ

คำตอบที่ 199
       ขอบคุณครับ

ส่วนข้อดีข้อเสียระหว่าง 3S กับ SR ก็จะตอบตามความคิดเห็นของผม เท่าที่รู้ และก็เรื่องราวต่างๆที่ได้เคยสอบถามมาจากคนรอบข้างนะครับ

เอาแบบกว้างๆนะครับ
1. เครื่อง 3S อาจจะหาซื้อยากกว่า SR นิดหน่อย (แต่ตอนนี้ก็อาจจะใกล้เคียงกันครับ เพราะเครื่องเอาเข้ามาขายกันเยอะ)
2. เครื่อง 3S ส่วนใหญ่มักจะมีแต่เครื่องขับหน้า ส่วนเครื่องขับหลังจะเป็นตัว 3S Direct แต่จะหาค่อนข้างยากและจะไม่มีเทอร์โบ ถ้าจะเอาตัวขับหน้ามาแปลงเป็นขับหลังจะค่อนข้างยุ่งยากนิดหน่อย ส่วนเครื่อง SR จะหาที่เป็นขับหลังได้ค่อนข้างง่าย และก็สามารถเลือกได้ว่าจะเอาเป็นรุ่นเทอร์โบหรือไม่มีเทอร์โบ ฝาดำ ฝาแดง ฝาดำหลังหลัก(แรงที่สุด) ว่ากันไป
3. ตัวเครื่องยนต์ SR จะดูสวยกว่า เพราะฝาครอบวาล์วจะเก็บสายหัวเทียน แถมสีแดงอีกต่างหาก
4. บางคนมักจะบอกว่า เครื่อง 3S สามารถที่จะให้แรงบิดที่มากกว่าเครื่อง SR (ข้อนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ)
5. มิติของเครื่องน่าจะใกล้เคียงกัน เพียงแต่ว่า คนนิยมวาง SR กันมากกว่า 3S ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน(อาจเป็นเพราะมีเทอร์โบ มีของแต่งโมดิฟายเยอะ หรือไม่ก็ในสนามแข่งนิยมใช้กันเยอะก็เป็นได้)
6. ราคาเครื่องทั้ง 2 ตัวนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ต่างกันก็เรื่องเครื่องเทอร์โบที่จะมีราคาสูงกว่าอยู่หมื่นกว่าบาท

ส่วนเรื่องการติดตั้งแก๊สก็สามารถติดตั้งได้ทั้ง 2 ยี่ห้อเหมือนกัน เพียงแต่อาจจะมีรายละเอียดแตกต่างกันบ้างนิดหน่อยเกี่ยวกับเทอร์โบ แต่ว่าไม่ทราบครับ

คำตอบที่ 200
       ขอบคุณมากครับคุณ สอ ละเอียดดีมากครับ ถ้ามีข้อแนะนำเพิ่มเติมช่วยลงเพิ่มด้วยนะครับ
เพื่อนฝากถามครับ พอดีซื้อเครื่อง v6 มาจอดไว้นานแล้วมีครบครับทั้งกล่องและเกียร์ ยังหาที่ลงไม่ได้ ไม่ทราบว่าคุณสอพอวางได้ไหมครับ ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ครับ

คำตอบที่ 201
       อยากทราบอัตราการทดเกียร์ ไดฮัทสุร็อคกี้ครับ ไม่ทราบ
คุณสอ พอทราบไหมครับ

คำตอบที่ 202
       2. เกียร์ควรใช้ของอะไร ( ไม่เอา auto )ออกกลาง หรือ ออกขวาดีกว่าครับ
3. คานใช้ของอะไร
(ตอบรวมกันเลยนะครับ)

ตอบ เกียร์ธรรมดาที่จะสามารถนำมาชนกับเครื่อง SR ได้ก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็น 2L 3L 5L KZ(Surf) KZ(Prado) หรือเกียร์ Rocky เกียร์ทุกยี่ห้อที่กล่าวมาสามารถนำมาชนเครื่อง SR กับ 3S ได้ทั้งหมด โดยจะใช้วิธีหล่อหัวหมูหรือใช้อแดปเตอร์ก็ได้ เกียร์ต่างๆเหล่านี้ก็จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เช่น
- เกียร์ 2L น้ำหนักเบา แต่ราคาค่อนข้างแพง และถ้าจะนำไปใช้กับเครื่องที่ซีซีสูงขึ้นไปอีกในอนาคตเผื่ออยากจะเปลี่ยน อาจจะทำให้มีปัญหาได้
- เกียร์ 3L น้ำหนักเบา ราคาจะถูกลงมาหน่อยเมื่อเทียบกับ 2L สามารถที่จะนำมาใช้ได้กับเครื่องหลากหลายยี่ห้อทั้งเบนซินและดีเซล
- เกียร์ 5L ราคาค่อนข้างแพง ขนาดเกียร์ใกล้เคียงกับเกียร์ 3L และสามารถรองรับแรงบิดเครื่องได้ดี ชนกับเครื่องได้อย่างหลากหลายเช่นกัน
- เกียร์ KZ(surf) ราคาแพง น้ำหนักมาก มีความยาวมากกว่าเกียร์ L อยู่ประมาณเกือบๆ 1 คืบ แต่มีความทนทานมาก สามารถรองรับเครื่องที่มีแรงบิดสูงๆได้อย่างสบาย
- เกียร์ KZ(Prado) ราคาแพง น้ำหนักมาก ตัวเกียร์สั้นค่อนข้างเหมาะกับคาริเบี้ยนที่เป็นรถช่วงสั้น แต่อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับโปโลยิงลมซึ่งจะกินเนื้อที่กว้างจนอาจมาติดกับคัทซีคาริเบี้ยนด้านในได้ ทำให้เกิดความยุ่งยากถ้าดัดแปลงไม่ดี ส่วนตัวเกียร์ก็สามารถรองรับแรงบิดได้ค่อนข้างมาก
- เกียร์ Rocky ราคาค่อนข้างที่จะเริ่มแพง น้ำหนักมากที่สุด หนักมากกว่าเกียร์ KZ ส่วนตัวเกียร์สั้นมากที่สุดเหมาะกับคาริเบี้ยนเป็นอย่างยิ่ง สามารถรองรับแรงบิดได้ค่อนข้างมากเช่นกัน และเกียร์ Rocky มักจะมีคนบอกว่าอัตราทดเกียร์มีมากกว่าเกียร์ L ทั่วๆไปครับ

ส่วนจะให้เพลาออกกลางหรือเยื้องขวาก็ขึ้นอยู่กับคานที่เราจะเลือกใช้ อย่างเช่น
- เกียร์ 2L 3L KZ(surf) จะเป็นเกียร์ที่เพลาออกกลาง ก็จะต้องใช้คานหลัง LN
- เกียร์ KZ(prado) Rocky จะเป็นเกียร์ที่เพลากลางเยื้องขวา ก็จะต้องใช้คาน Prado

จริงๆแล้วถ้าหากงบประมาณจำกัด ก็อาจจะใช้วิธีวางเครื่อง SR หรือ 3S โดยใช้กับเกียร์เดิมๆติดเครื่องไปก่อน และยังคงใช้เกียร์สโลว์เดิมคาริเบี้ยนก็ได้ครับ เพราะอย่าลืมว่า ถ้าเรายังคงใช้สโลว์เดิมๆคาริเบื้ยนอยู่ มันก็ยังสามารถที่จะเป็นทางเลือกได้อีกช่องทางหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องของอัตราทดด้วย (เลือกเล่น 1300 1000 หรือ 650) และถ้าใช้สโลว์เดิมก็จะต้องใช้คาน Prado ด้วยนะครับ

คำตอบที่ 203
       ส่วนอัตราทดเกียร์ไดฮัทสุเดี๋ยวจะลองเช็คข้อมูลให้นะครับ

คำตอบที่ 204
       จริงๆแล้วถ้าหากงบประมาณจำกัด ก็อาจจะใช้วิธีวางเครื่อง SR หรือ 3S โดยใช้กับเกียร์เดิมๆติดเครื่องไปก่อน และยังคงใช้เกียร์สโลว์เดิมคาริเบี้ยนก็ได้ครับ เพราะอย่าลืมว่า ถ้าเรายังคงใช้สโลว์เดิมๆคาริเบื้ยนอยู่ มันก็ยังสามารถที่จะเป็นทางเลือกได้อีกช่องทางหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องของอัตราทดด้วย (เลือกเล่น 1300 1000 หรือ 650) และถ้าใช้สโลว์เดิมก็จะต้องใช้คาน Prado ด้วยนะครับ


คุณสอครับ ตามนี้ ถ้ารถเป็นคานจี๊ปใช้เครื่อง 3 s ได้ไหมครับ

คำตอบที่ 205
       เครื่องวิทาร่าพันหกหัวฉีดเกียร์พันเฟืองเดิมตะขาบ32 ไหวมั่นครับ

คำตอบที่ 206
       ตอบเเทนให้ข้างบนครับ

ข้อมูลใหม่ (หลังจากเปลี่ยนเครื่องใหม่)
เครื่อง 1600 Vitara เดิมๆจากโรงงานชนเกียร์หลักเดิม 1300
ยางขยับขึ้นมาเป็น 285/75R16 (ประมาณ 32.8 นิ้วหรือ 33 นิ้ว)
เฟืองท้ายเปลี่ยนกลับมาใช้เฟืองเดิม 11.43(3.9)
Slow 1000 (2.5 รอบเหมือนเดิม)
ลมยาง 28 ปอนด์
อัตราบริโภคน้ำมัน 11-12 กม./ลิตร ณ ระดับความเร็วเฉลี่ยที่ 120 กม./ชม.(วัดจาก GPS) รอบเครื่องสบายตัวครับ กดเร่งแซงสบายมาก ถือว่าประหยัดน้ำมันดีมากครับ ถือว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียวครับ

ก่อนเปลี่ยนเครื่องตอนแรกนึกในใจว่า กะแค่ 300 ซีซีที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่เป็น 1300 มันจะไปได้อะไรมามากมายนัก แต่พอเปลี่ยนแล้วดีขึ้นมามากแบบผิดหูผิดตาเหมือนกันครับ โอเคเลยครับ

แต่.........

จากการที่ได้เปลี่ยนเครื่องเป็น 1600 และเปลี่ยนเฟืองท้ายกลับมาเป็น 11.43 ผลที่ได้ในทางดำจะดีมาก การวิ่งทั้งตีนต้นและตีนปลายค่อนข้างสบาย แต่เมื่อนำไปใช้ในทางออฟโรดจะไม่สามารถใช้ 4H ได้เลย ใช้ได้แต่ 4L และเมื่อใช้แต่ 4L สำหรับทางชันๆนิดหน่อยยังต้องใช้เกียร์ 1 ตลอด เกียร์ 2-3 ใช้ไม่ได้ และอีกอย่าง Engine Brake แทบจะไม่มี (เหมือนขับรถเกียร์ Auto เวลายกคันเร่งแล้วเครื่องไม่ค่อยดึง) ต้องใช้การเลียเบรคอีก

ผลทั้งหมดนั้นน่าจะมาจากการที่เฟืองท้ายไม่เหมาะสมกัน นั่นก็คือ 11.43 น่าจะเหมาะกับการวิ่งถนนดำธรรมดาเท่านั้น เนื่องจากเป็นเฟืองที่ทดน้อย(เฟืองเร็ว)
ผลสุดท้ายกลับไปใส่เฟือง 8.41 เหมือนเดิมแทนครับ ซึ่งน่าจะเหมาะสมกับการใช้งานจริงๆมากกว่า

ข้อความของคุณสอครับ มาจากหน้า 4-5

คำตอบที่ 207
       จาก คต 181

โอเคครับ สรุปได้ว่า ถ้าต้องการใช้งานเหมือนเดิมและมีแรงฉุดลากต้องใส่เกียร์ขับสี่ของโตโยต้าทั้งลูก แต่ถ้าจะเล่นเฉพาะเกียร์สโลว์ก็ต้องเปลี่ยนเฟืองท้ายใหม่เป็นของ Prado ซึ่งค่าใช้จ่ายก็น่าจะสูสีกัน แต่แบบแรกจะลงตัวกว่า เพราะไม่ต้องดัดแปลงให้่ยุ่งยากใช่ไหมครับ

คำตอบที่ 208
       ผมทำอยู่คันนึงครับ วางเครื่อง SR ฝาเรียบสีอลูมิเนียม ไม่มีเทอร์โบ คานหน้า+หลัง 78 เฟือง 8-39 ยางตะขาบ 35" ใช้เกียรที่ติดกับเครื่อง SRมาเป็นเกียรธรรมดา slow 1300 เดิม วางเครื่องเสร็จแล้ว ตอนนี้ลากไปทำสีอยู่ครับ เสร็จแล้วถึงจะไปเดินสายไฟ ยังไม่เคยลองขับดูเลยกับเครื่องตัวนี้ เพิ่งจะมาเปิดอ่านเจอตรงนี้ก็วางเครื่องเสร็จไปแล้ว รบกวนช่วยวิจารณ์เป็นแนวทางหน่อยครับ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ

คำตอบที่ 209
       เอาข้อมูลมาให้ชมกันครับเกี่ยวกับ Daihatsu Rocky และอัตราทดของเกียร์

Engine: (HD-E) In-line 4 cylinder
SOHC 16 Valve EFI
Capacity: 1589 cc
Bore/Stroke: 76.0 x 87.6 mm
Comp Ratio: 9.5 : 1
Max Power: 70kW @ 5700 rpm
Max. Torque: 128 Nm @ 4800 rpm
Power to Weight Ratio: 18.9 kg/kW
Alternator: 50 Amps
Transmission: 5 speed manual ( plus reverse )single plate dry clutch
Tx Case: 2 speed Hi / Low manual free wheeling hubs
Gear Ratio's: ( Hi / Low overall reduction )
First: 3.752 ( 19.829 / 34.781 )
Second: 2.182 ( 11.532 / 20.227 )
Third: 1.428 ( 7.547 / 13.237 )
Fourth: 1.000 ( 5.285 / 9.270 )
Fifth: 0.865 ( 4.572 / 8.019 )
Reverse: 3.952 ( 20.834 / 36.542 )
Hi / Low Ratio: 1.000 / 1.754
Diff Ratio: 5.285 : 1

แต่ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นสเปคสำหรับเครื่องเบนซิน 1600 ซีซีนะครับ ซึ่งเกียร์ตัวที่ผมใช้อยู่จะเป็นสำหรับเครื่องดีเซล ก็เลยไม่ทราบว่า อัตราทดของเกียร์ 1-5 เหมือนกันหรือเปล่า ยังไงก็ลองเทียบเคียงดูก่อนครับ เนื่องจาก Rocky จะมีทั้งเครื่องเบนซิน 1600 และดีเซล 2800 ซีซีเทอร์โบ แบ่งกันไปตามรุ่นปีครับ
ในส่วนความคิดของผมอัตราทดของเกียร์อาจจะเหมือนกันก็ได้นะครับ(อันนี้ไม่แน่ใจนะครับ) เพราะว่ารุ่นที่เป็นเครื่องเบนซินจะมีอัตราทดเฟืองท้ายที่สูงถึง 5.285 ส่วนรุ่นเครื่องดีเซลจะมีอัตราทดเฟืองเป็นเฟืองเร็วอยู่ที่ 3.7 เหมือนกับว่าทำเพื่อชดเชยกันนะครับ เพื่อให้มีแรงบิดไว้ใช้งานในป่า

คำตอบที่ 210
       ส่วนอันนี้จะเป็นสเปคสำหรับเครื่องดีเซล แต่กลับไม่ได้บอกถึงอัตราทดของเกียร์แต่ละเกียร์

Engine: DL 2765cc diesel 4-cyls turbo-charger intercooler ohv
Bore: 92mm
Stroke: 104mm
Comp Ratio: 21.2 : 1
Power: 75kW at 3400rpm
Torque: 245Nm at 1900rpm
Transmission: 5m, 2 speed transfer case, part-time 4WD
Suspension: idependent torsion bar/live coil
Brakes ( front / rear ): disc / drum
Tires: 255/70R15
Fuel tank: 60 Liters