คำตอบที่ 2
fiogf49gjkf0d
กราฟแสดงความสัมพันธ์ของความดันน้ำมันเชื้อเพลิง กับความดันอากาศ
ในท่อไอดี ซึ่งจะรักษา ความดัน น้ำมันให้มีค่าความแตกต่างเท่ากันตลอดเวลา
( Differential pressure)
ถ้าไม่เหยียบคันเร่ง ความดันในท่อไอดีจะต่ำ(เป็นสูญญากาศมาก) ความดันน้ำมันก็จะถูกควบคุมให้ต่ำลง
ถ้าเหยียบคันเร่ง ความดันในท่อไอดีจะสูง(เป็นสูญญากาศน้อย) ความดันน้ำมันก็จะถูกควบคุมให้สูงขึ้น
สรุปคือ
ความดันในท่อน้ำมันจะถูกรักษาให้มีความดันสูงๆ ต่ำๆ ตามความดันในท่อไอดี ซึ่งก็คือการเหยียบคันเร่งนั่นเอง
ถ้ารถวิ่งเร็วๆ
ความดันน้ำมันก็จะสูง (ซึ่งจะไม่เกิน 2.55 bar) ถ้ารถวิ่งช้า หรือเครื่องเดินเบา
ความดันของน้ำมันก็จะถูกควบคุมให้ต่ำลง (น้อยกว่า
2 bar)
ดังนั้น ขณะที่รถวิ่งด้วย GAS
ถ้าไม่ตัดปั้มติ๊ก ตัวควบคุมความดัน(Pressure regulator) ก็จะยังทำงานอยู่เหมือนเดิม
เพราะ เรายังเหยีบคันเร่งเหมือนเดิม
และความดันในท่อไอดีก็ยังมีเหมือนเดิม น้ำมันจากปั้มถูกปั้มมา และจะถูกควบคุมให้สูงๆต่ำๆ
เหมือนขณะที่ใช้น้ำมันทุกประการไม่ได้อยู่ที่ความดันสูงตลอดเวลาอย่างที่คิด น้ำมันก็จะไหลหมุนเวียนผ่าน
ปั้มติ๊ก, ท่อ, รางหัวฉีดน้ำมัน
และกลับถัง
ถ้าตัดปั้มติ๊ก ปั้มจะหยุดทำงานแต่น้ำมันจะถูกกักไว้ด้วย วาวล์กันกลับที่ตัวปั้ม แต่
ตัวควบคุมความดันก็ยังทำหน้าที่ มันเหมือนเดิม
คือเปิดให้น้ำมันไหลกลับถัง ถ้าความดันในท่อไอดีเปลี่ยนไป ทำให้ความดัน
ในรางหัวฉีดน้ำมันต่ำลง(เรื่อยๆ)เพราะปั้มถูกตัดไปแล้ว
ถ้าวิ่งระยะทางไกลๆทำให้ความร้อนในห้องเครื่องสูงขึ้น รางหัวฉีดน้ำมัน
ท่อน้ำมันในห้องเครื่อง(บางส่วน) มีความร้อนสูงขึ้น
น้ำมันบางส่วนที่ค้างอยู่ในท่อ ก็จะถูกต้มให้มีอุณหภูมิสูงขึ้น เพราะน้ำมันหยุดไหลจากความดันที่ลดต่ำลง
แต่จะไม่ทำให้ความดันสูงขึ้นได้
เพราะ ตัว ควบคุมความดันยังทำงานอยู่แต่สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้คือความร้อนที่สะสมอยู่กับรางหัวฉีด
และท่อน้ำมันบางส่วน ซึ่งจะมีน้ำมันร้อนๆ
ที่ค้างอยู่ข้างในนั่นเอง ซึ่งคงจะไม่ทำให้ท่ออ่อนแตกหรือแห้งกรอบได้
ดังนั้นไม่ว่าท่านใดจะตัดหรือไม่ตัดปั้มติ๊กก็ตาม คงไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ แต่ ถ้า
ท่อน้ำมัน,สายอ่อนน้ำมันที่เสื่อมตามสภาพและอายุการใช้งาน และขาดการบำรุงรักษาที่ดี
ขาการตรวจเช็ค(ด้วยตัวท่านเอง)อย่างสม่ำเสมอ
นั่นแหละท่านกำลังทำให้เกิดความเสี่ยงแล้ว
ท่านที่ตัดปั้มไปแล้วอย่างน้อยท่านก็ช่วยยืดอายุของปั้ม แต่อย่าตัดขาดครับ
ต้องใช้งานบ้างครับ ถ้าไม่ใช้งานเลยก็เสียครับ
ท่านที่ยังไม่ได้ตัดปั้ม อย่างน้อยท่านก็ยังไม่เสียเงินค่าแรงในการตัด
ข้อมูลทั้งหมดนี้หวังว่าคงเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะครับ ส่วนตัวผมเองไม่ตัดครับ
ให้มันทำงานของมันไป ไม่กลัวปั้มจะพังเร็ว
เพราะเชื่อการ design ว่าทำมาให้มั่นใจแล้วแต่ผมกลัวสิ่งที่คาดเดาได้ยากจากสิ่งที่นอกหนือการ
design อย่างน้อยขณะที่เราเปลี่ยนจาก
แก๊สเป็นน้ำมัน จะได้ smooth ครับ
ข้อมูล จากหนังสือ เครื่องยนต์หัวฉีด EFI โดย ....นพดล เวชวิฐาน