คำตอบที่ 62
      

fiogf49gjkf0d

ได้ความรู้เยอะเลย ...พลังงานทางเลือก ..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 63
      

fiogf49gjkf0d

แก้ไขข้อความไม่ได้ขอพิมพ์ใหม่นะครับ

(แถมๆ)

ค่าความร้อนของเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ

E85 = 220 'c
95/91 = 280 'c
LPG = 450 'c
NGV = 600 'c

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 64
      

fiogf49gjkf0d

ขอบคุณมากเลยครับคุณหนุ่ย ทางประหยัดคือทางรอดของพวกเรา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 65
      

fiogf49gjkf0d

ถ้าอยากลองใช้จริงๆ ก็เติมผสมกัน 50:50 ดูก่อนก็ได้นะครับ
แต่ถ้าเป็นพวกชอบลองของ (แบบผม) และอยากเห็นความแตกต่างแบบชัดเจนก็จัดเต็มไปเลย 555+

ความต่างที่รู้สึกเป็นอย่างแรกคือ กลิ่นไอเสีย ไม่เหม็นฉุน จะคล้ายๆ กลิ่นเซี่ยงชุนอ่อนๆ
และถ้าใช้คอยล์แยก ปรับไฟให้สูงอีกนิดจะขับมันส์ขึ้นมากเลย เพราะ E85 มันออกเทน 100 กว่าๆ

fiogf49gjkf0d เจ๋ง....ไว้LPGโดนลอยแพ เอ๊ยลอยตัวเมื่อไหร่คงได้ลองแน่ๆ โดยเฉพาะกล่องอะไรนั่น จาก : ttc051(ttc051) 9/9/2554 20:27:53 [58.9.11.54] e85 พวกจูนแข่งเห้นทำแรงม้าได้ 800 กว่า จูนให้ดี ขับสนุกครับ จาก : puky(puky) 9/9/2554 22:43:41 [1.46.113.17]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 66
      

fiogf49gjkf0d

หน่วยกล้าตายตามคุณหนุ่ย ไปอีกคน แต่จะลอง E85 แบบ 50/50 ก่อนแรงบิดน่าจะดีกว่า NGV เยอะอยู่มากโข คือว่าผมใช้ NGV อยู่ นานมากแล้วตั้งแต่รุ่นแรก พบปัญหามาก็แก้ไขกันไป แต่ปีหน้า NGV จะขึ้นราคา อีกเดือนละ 50 สตางค์/กก. รวมทั้งปีก็ 6 บาท ใกล้เคียงกับ E85 แต่คิดแล้ว ผมไม่มีอะไรจะเสีย เครื่องไม่พังแน่นอน เพราะค่าความร้อน ของNGV มากกว่าเยอะ จะมีปัญหาตรงท่อส่งน้ำมัน ปั้มติ๊ก เรกกูเรเตอร์ เป็นห่วงตรง หัวฉีดน้ำนั้นนี้แหละ แต่จากหน่วยกล้าตายคนแรก ฟังแล้วก็มีแนวโน้มที่ดีกว่าเสียครับ
ขอเสียงหน่วยกล้าตายคนแรกหน่อยครับ ก่อนตัดสินใจตามไปอีกคน

fiogf49gjkf0d จัดไปเลยครับ.. ได้เป็นข้อมูลให้กับท่านอื่นๆที่สนใจในอนาคต.. ดีครับ.. จาก : 005(005) 16/12/2554 16:31:39 [202.122.130.31] เริ่มใช้มาตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. 53 ระยะทางมากกว่า 20,000 ไมล์ ยังปกติดีครับ จาก : TTC-132(Nui_Terr_II) 16/12/2554 16:35:31 [58.9.59.184] ค่าเฉลี่ยตอนนี้ ในเมือง 5.5-6 กม./ลิตร นอกเมือง (ประมาณ 60 ml/h) 8 กม,/ลิตร จาก : TTC-132(Nui_Terr_II) 16/12/2554 16:39:45 [58.9.59.184]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 67
      

fiogf49gjkf0d

E85 ต่างจังหวัดไม่มีให้ลอง....

fiogf49gjkf0d คุณหนุ่มครับ .. ในตัวเมืองโคราชมีตั้ง 2 ปั๊ม เวลาผมไปทางอีสานก็แวะเติมประจำ จาก : TTC-132(Nui_Terr_II) 19/12/2554 10:51:44 [58.9.101.175] ปากช่องก็ยังมีแต่ NGV อยู่ปั๊มเดียว อิจฉาชาวสระบุรีจัง จาก : ttc009(ttc009) 20/12/2554 18:24:27 [223.207.174.140]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 68
      

fiogf49gjkf0d

ลองเติมแล้วครับ แบบ 50:50 อัตราเร่งก็ดี ไม่อืดครับ แต่แค่ถังแรกยังไม่เห็นผลเท่าไหร่
ลองแบบไม่มี ชุดคิด E85 ด้วย คือเติมมันไปดื่อๆนั้นแหละ ไม่มีการเปลี่ยนสายยางใดๆทั้งสิ้น
เพราะยังไม่ว่างเปลี่ยน คือ แบบว่าขอดูผลตอบสนองก่อน แต่รู้สึกมันจะกินน้ำมันมากกว่าเดิมหน่อย
แต่ผมว่าอัตราเร่งก็ดีกว่า NGV เยอะเลย จ่ายแพงกว่าหน่อย แต่ตอนนี้ NGV ยังไม่ขึ้นราคา ก็เลยจ่ายแพงกว่า มากหน่อย แต่ก็น่าสนใจมาก
ความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่า น่าจะดีกว่าใช้NGV ไม่ต้องรอนาน อัตราเร่งดี เครื่องไม่ช้ำ ลงทุนน้อยมกว่า ติดตั้งNGV เยอะเลย แต่ผมติดตั้ง NGV ใช้อยู่นานแล้ว ก็เลยใช้มันทั้ง 2 อย่างนั้นเหละ ไปเลื่อยๆ ก็ใช้ NGV อย่างแรงขึ้นมาอีกหน่อยก็ E85 อันไหนแพงก็เปลี่ยนไปใช้อีกอย่าง ไม่ต้องคิดมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 69
      

fiogf49gjkf0d

E85 จะสิ้นเปลืองกว่าประมาณ 20% ถ้าเทียบกับเบนซิน 95
แต่ถ้าเทียบราคาต่อหน่วยกับเบนซินแล้วจะถูกกว่ามากๆ ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 70
      

fiogf49gjkf0d

คุณหนุ่ยครับ ตั้งแต่ใช้ E85 มาเคยเปลี่ยน เรกกุเรเตอร์ หรือยังครับ
ถ้าเคยเปลี่ยนไปแล้วใช้ของรุ่นไหนอยู่ครับ
ผมคิดเล่นๆ นะครับ ถ้าเราเอาของพวกรุ่นใหม่ๆ มาเปลี่ยนดู เช่น ของ Tida March พวกที่ทน E20 ได้จะได้อยู่กับเรานานๆหน่อย จะได้ไหมเพราะตัวนี้หน้าที่ของมันสำคัญมาก
มีหน้าที่คล้ายๆ กับโฮโมน อินซูลิน ในร่างกายของเรา คือมันคุมระดับแรงดันในลางหัวฉีดถ้ามันทำหน้าที่ไม่ดีหรือแรงดันต่ำ จะทำให้รถวิ่งไม่ออก กินน้ำมันมาก และมีอาการตามมาหลายอย่าง

fiogf49gjkf0d ยังไม่เคยเปลี่ยน แต่มีสำรองไว้อันนึงครับ จาก : TTC-132(Nui_Terr_II) 19/12/2554 16:29:28 [115.87.169.166] ส่วนของ TIIDA ถ้าจุดยึดตรงกันก็น่าสนใจครับ จาก : TTC-132(Nui_Terr_II) 19/12/2554 16:30:18 [115.87.169.166]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 71
      

fiogf49gjkf0d

ขอตอบอีกทีนะครับ
(ย้ำว่า ผมไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกเลย ตอบในฐานะ User ประเภทขับเป็นอย่างเดียว แต่ชอบจับผิดอาการรถ)


สมมุติว่า ตอนนี้ เครื่อง KA24E ใช้ E85 ได้ก็แล้วกันนะครับ
ผมเริ่มใช้หลังบอลโลก ปี 2010 จบไปไม่นาน
ต้องตามดูต่อไปว่า ถึงบอลโลก ปี 2014 เครื่องในของเจ้ามอมแมม 132 จะมีสภาพเป็นยังไง

สำหรับท่านที่อยากลองใช้ ผมอยากให้เห็นความสำคัญของ Conversion Kit (CK)
จริงอยู่ที่ไม่ค่อยรู้สึกแตกต่างในการใช้งาน เพราะ ECU อาจจะมีการชดเชยส่วนผสมเผื่อให้แล้ว

แต่นั่นเป็นเพียงการทดสอบและเปรียบเทียบด้วยความรู้สึกจากการขับขี่ ซึ่งเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล
ถ้าต้องการรู้ข้อเท็จจริงก็คงต้องหาเครื่อง OBD มาวัดส่วนผสมของเชื้อเพลิงกับอากาศ (Lamda) ถึงจะรู้ว่า เครื่องยนต์จะมีปัญหาเรื่องส่วนผสมบางเกินไปหรือเปล่า

และอย่างที่ผมบอกไป ถ้าไม่ติด CK รถก็ยังวิ่งได้ แต่อัตราเร่งอาจจะไม่ค่อยดีนัก ซึ่งก็น่าจะมาจากส่วนผสมบางเกินไป (มั้ง)
แต่จากที่ผมทดลองแบบไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากสาย CK หลุด แล้วขับใช้งานโดยไม่รู้ตัว (คล้ายๆ การทดสอบแบบสุ่ม หรือที่เรียกว่า blind test)
ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่า มันต่างกับตอนใช้ เบนซิน 95 มากนัก แต่อัตราเร่งมันจะฝืดๆ หน่อย
ส่วนการวิ่งทางไกลก็ไปได้เรื่อยๆ ไม่มีปัญหาอะไร และอุณหภูมิเครื่องยนต์ก็ปกติ

*** ในกรณีอุณหภูมิเครื่องยนต์
ตามหลักแล้วถ้าส่วนผสมบางไปอุณหภูมิเผาไหม้น่าจะสูง
แต่รถผมในตอนนั้นก็ไม่มีปัญหาความร้อนขึ้นสูงเลย ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า ระบบระบายความร้อนยังดีอยู่


ทีนี้เจ้าเครื่อง CK มันสำคัญยังไง?
ในกรณีที่ยังหาอะไรมาวัด Lamda ไม่ได้ ก็คงต้องพึ่งเจ้าเครื่องนี้ไปก่อน (เพื่อความสบายใจ)
เพราะหน้าที่ของมันคือ หน่วงเวลาให้หัวฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเพิ่มเป็นการชดเชยส่วนผสมที่บางลงของ E85
และเป็นที่มาของการปรับการจ่ายเชื้อเพลิงเป็น 10-15% ของผม ซึ่งทำให้อัตราเร่งดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม .. ในกรณีหน่วงเวลาจ่ายเชื้อเพลิงเพิ่มก็มีคนมาแย้งเหมือนกันว่า
การหน่วงเวลาหัวฉีดให้จ่ายเชื้อเพลิงเพิ่ม แต่ไม่เปลี่ยนหัวฉีดให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แล้วจะจ่ายเชื้อเพลิงในระบบเพิ่มขึ้นจนเพียงพอกับการใช้งานได้ยังไง?

ผมขอเปรียบเทียบง่ายๆ กับการรองน้ำในถัง 20 ลิตร ซึ่งปกติเราจำเป็นต้องใช้น้ำแค่ครึ่งถัง
แต่ต่อไปนี้ต้องเพิ่มการใช้น้ำอีกหน่อย (อาจจะเป็นอีก 1 ขันหรือครึ่งขัน)

แน่นอนว่า การประปายังจ่ายน้ำด้วยแรงดันเท่าเดิม และถ้าเราใช้ก๊อกน้ำขนาดเดิมก็คงไม่พ้นต้องเพิ่มเวลารองน้ำให้นานขึ้น เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำที่จะใช้เพิ่ม

กลับมาที่เงื่อนไขคือ ด้วยภาชนะขนาดเดิม แรงดันน้ำประปาเท่าเดิม
ถ้าเรามีเวลาเท่าเดิม ก็ต้องหาปั๊มน้ำเข้ามาช่วย หรือไม่ก็ต้องเปลี่ยนก๊อกให้ใหญ่ขึ้น ใช่ไหมครับ

ดังนั้น ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่า ทำไมติด CK แล้วปรับไป 10-15% แล้วอัตราเร่งดีขึ้น
เหมือนกับว่า เครื่องยนต์ได้รับเชื้อเพลิงเพิ่มเข้าไปจนเพียงพอกับการทำงาน
เพราะหลักการของ CK คือ เข้าไปหน่วงเวลาหัวฉีด (รองน้ำให้นานขึ้น) ไม่ใช่เข้าไปเพิ่มแรงดันหัวฉีด (ติดปั๊มน้ำ)

หรือว่า จริงๆแล้วมันไม่ใช่ตัวหน่วงเวลา แต่เป็นต้วเพิ่มแรงดันหัวฉีด?


เขียนไปเขียนมาก็งงซะเอง
ใครพอบอกผมได้ว่า ที่เข้าใจอยู่มันผิดหรือถูกครับ???


(เพิ่มเติม)
ผมใช้ CK รุ่นโปร (ตามภาพด้านล่าง) ทำให้มีรีโมทปรับการจ่ายเชื้อเพลิงได้ตามต้องการ
ส่วนอีกรุ่นเป็นแบบ Auto จะจ่ายเชื้อเพลิงตายตัว

ตอนเครื่องยนต์ทำงานถ้าบิดไปเพิ่มการจ่ายเชื้อเพลิงรอบเดินเบาก็จะขึ้นตามเปอร์เซ็นต์ไปด้วย
เคยดูจากคอนเซาท์ รอบเดินเบาของรถผมจะอยู่ที่ 750 พอบิดไป 15% ก็จะขึ้นมาเป็น 850
แต่เสียดาย ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องอัตราส่วนผสม เลยลืมขอดู Lamda

ประโยชน์ของรีโมทแบบนี้ก็คือ ถ้าขับแบบรถติดในเมืองผมก็จะปรับเอาไว้แค่ 5-10% แต่ถ้าขับทางไกลก็จะปรับเอาไว้ที่ 15-18%
เพราะอย่างที่บอกไป ผมไม่รู้ว่า Lamda มันอยู่ที่เท่าไหร่ก้นแน่
เวลาต้องใช้รอบสูงๆ ต่อเนื่องอย่างการขับทางไกลก็เลยขอให้มันจ่ายน้ำมันเพิ่มเอาไว้ก่อน

ส่วนการขับในเมืองที่มีความเร็วต่ำก็ไม่น่าจะมีผลเรื่อง Lamda มากนัก
บางทีเจอทางโล่งๆ ก็เผลอกดไปเต็มที่โดยไม่ได้ปรับการจ่ายเชื้อเพลิงเพิ่ม ซึ่งรถก็ไปของมันได้โดยไม่สะดุด
ทั้งนี้ ถ้าส่วนผสมมันบางก็น่าจะมีปัญหาเรื่อง Back fire บ้าง
แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจอเลยนะครับ

และเคยอ่านที่เมืองนอกทดสอบกัน
ฝรั่งเขาบอกว่าการใช้ E85 + CK ในรถรุ่นเก่าเหมาะกับการขับแบบไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน
และความเร็วรอบเครื่องยนต์เฉลี่ยที่ 3,000 รอบ/นาที ครับ

fiogf49gjkf0d

 แก้ไขเมื่อ : 20/12/2554 15:27:07

fiogf49gjkf0d น่าสนใจเป็นที่สุดครับ สรุปคือติดเจ้า CK ตัวเดียวก็พอใช่มั้ยครับ ติดตั้งเองหรือต้องไปที่ร้านอะ จาก : kosol(kosol) 20/12/2554 23:00:19 [180.180.149.20] หากต้องการทราบว่าส่วนผสม หนา บาง เกจวัดที่เรียกว่า AF meter ช่วยได้ มีหลายยี้ห้อราคา 2-3 พันครับ จาก : puky(puky) 21/12/2554 0:22:31 [119.46.218.1] พี่โกศล .. ติดเองก็ได้ครับ ในเว็บจะมีวิธีบอกไว้ แต่เอาไปให้ตัวแทนฯติดตั้งให้ก็ง่ายดีเหมือนกัน จาก : TTC-132(Nui_Terr_II) 21/12/2554 10:10:28 [58.9.128.89] ขอบคุณที่ชี้ทางสว่างครับคุณปุ๊กกี้ .. จาก : TTC-132(Nui_Terr_II) 21/12/2554 10:14:13 [58.9.128.89]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 72
      

fiogf49gjkf0d

ตอบพี่โกศลอีกทีก็แล้วกันนะครับ

ข้อดีอีกอย่างของการใช้ Conversion Kit ก็คือ ถ้าเราหา E85 เติมไม่ได้ ก็เติมเบนซินธรรมดา หรือ E10/20 ไปก่อน
โดยปรับอัตราการจ่ายเชื้อเพลิงกลับมาที่ 0% เพื่อให้จ่ายเชื้อเพลิงตามปกติ และพอหา E85 เติมได้ก็ค่อยหมุนไป 10-15% เหมือนเดิม

ส่วนการติดตั้ง แนะนำให้ไปทำกับตัวแทนจำหน่ายดีกว่าครับ เพราะถึงจะติดไม่ยากและไม่ต้องรื้อรถ แต่ก็จะได้การรับประกันเต็มรูปแบบกว่าเอามาติดเอง
และถ้าเอาไปติดโดยตรงที่บริษัท คุณธีระซึ่งเป็นเจ้าของก็จะทำให้กับมือตัวเองทุกคันด้วยครับ

การดูแลหลังจากใช้ E85 ไม่ยุ่งยากอะไร
คือ หลังจากผ่านไป 2-3 ถัง หรือประมาณ 1 เดือน รถอาจจะมีอาการสตาร์ทยากในตอนเช้า
คือ จากบิดกุญแจสตาร์ชึ่งเดียวติด ก็จะกลายเป็นชึ่งแล้วเครื่องยนต์กระพือซักพักแล้วดับ และต้องสตาร์ทอีกทีค่อยติด
แสดงว่า กรองเบนซินอาจจะเริ่มตันแล้ว เนื่องจาก E85 จะเข้าไปชะล้างตะกอนต่างๆในระบบเชื้อเพลิงออกมา หรือไม่กรองก็อาจจะตันอยู่ก่อนแล้ว

วิธีแก้เบื้องต้นคือ ถอดกรองเบนซินออกมา แล้วเทน้ำมันย้อนกลับไปทางเข้าตัวกรอง จากนั้นก็เป่าลมย้อนกลับเหมือนกับการเป่ากรองอากาศ เพื่อไล่ตะกอนที่ติดกับตัวกรองออก
หรือจะเปลี่ยนกรองเบนซินตัวใหม่เลยก็ได้ ส่วนตัวเก่าก็เอามาเป่าแล้วเก็บไว้สลับใช้คราวหน้า
เนื่องจากยังต้องรบกันอีกหลายรอบกว่าตะกอนในระบบจะถูกล้างออกมาหมด
โดยจะสังเกตได้ว่า ระยะเวลาที่กรองเบนซินตันจะห่างออกไปเรื่อยๆ หรือน้ำมันที่เทออกมาจากกรองเบนซินจะใสขึ้นนั่นเอง
Note: ถ้าไม่เคยเปลี่ยนกรองเบนซินมาก่อนก็ถือโอกาสเปลี่ยนอันใหม่ไปเลยครับ

สำหรับการเปลี่ยนสายลำเลียงเชื้อเพลิงหรือสายน้ำมัน ตามหลักต้องใช้เกรด SAE30 R9 ซึ่งจะทนการกัดกร่อนได้ถึง E85
แต่ตอนที่ผมเอารถไปเปลี่ยนสายนี้ ช่างที่ทำรถหาเกรดที่ว่าไม่ได้ก็เลยหาสายยี่ห้อ NCR SAE30 R7 มาใส่แก้ขัดไปก่อน โดยที่สายก็มีข้อความระบุว่า รองรับ E10-E85
Note: ผมไม่เชื่อหรอกนะว่า สายอะไรมันจะสเป็คเทพขนาดนั้น แต่ก็ใช้มาปีกว่าแล้วยังไม่บวมหรือแตกลายงา

เรื่องสายเกรด R9 ผมมารู้ทีหลังว่า มีขายที่ร้านชัยชนะพาณิชย์ ถ.บำรุงเมือง (บ้านบาตร) ที่เดียว
จำราคาไม่ได้ว่าเมตรละเท่าไหร่ แต่น่าจะหลายร้อยบาท และคงต้องเปลี่ยนตามสเป็คในเร็วๆนี้เพื่อความสบายใจครับ

*** การถอดกรองเบนซินต้องจอดรถทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง เพื่อคลายแรงดันในระบบก่อน
ไม่งั้นถอดสายแล้วน้ำมันจะพุ่งใส่เป็นท่อแตกเลยครบ
สำหรับปลายสายที่ออกมาจากถังน้ำมันควรจะหาอะไรมาอุดเอาไว้ก่อน เพราะน้ำมันจะไหลออกมาเรื่อยๆตามแรงดึงดูดโลก
ส่วนปลายสายด้านที่มาจากเครื่องยนต์จะไหลอยู่แป๊บนึงก็หยุด (100-150cc.) ซึ่งผมจะเอาขวดน้ำพลาสติกมารองเอาไว้ครับ (เสียดาย)
Note: ถ้าอยากเห็นตะกอนที่ค้างอยู่ในกรองเบนซินก็ให้เทใส่ในขวดอีกใบ แต่ต้องเทย้อนออกตรงปากทางเข้าของกรองเบนซินนะครับ
(เทย้อนด้านลูกศรที่เขียนว่า Flow)


ตลอดปีกว่าผมทำมาก็มีเท่านี้แหละครับ

fiogf49gjkf0d กรอง bosch แบบนี้เท่าไรครับ ยี้ห้อน่าเชื่อถึอ จาก : puky(puky) 21/12/2554 12:53:42 [119.46.218.1] ลืมอีกอย่างต้องเบิกศูนย์หรือตามร้านก็มีขายง่ะคับ เคยซื้อแต่แบบธรรมดาสองร้อยก่าบาท thank.. จาก : puky(puky) 21/12/2554 12:55:28 [119.46.218.1] ถ้าจำไม่ผิด เคยเบิกศูนย์ ราคาประมาณ 500 กว่าบาทครับ จาก : TTC-132(Nui_Terr_II) 21/12/2554 13:15:37 [58.9.128.89] ใช้แล้วตันเร็วกว่าของเทียบ สงสัยจะกรองได้ละเอียดกว่ามั้งครับ จาก : TTC-132(Nui_Terr_II) 21/12/2554 13:17:24 [58.9.128.89]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 73
      

fiogf49gjkf0d

คุณหนุ่ยครับ ช่วยแจ้งรายละเอียดอุปกรณ์ที่จะต้องเปลี่ยนหรือติดตั้งเข้าไป และราคา ตลอดจนบริษัทที่รับติดตั้งครับ สนใจมากครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 74
      

fiogf49gjkf0d

รายละเอียดต่างๆ ของผู้ผลิตอยู่ในลิงค์นี้ครับ
http://www.flexfuelthailand.com

ถ้าคลิกดูรูปรถนิสสันที่ไปติดตั้งก็จะมีรถของผมอยู่ด้วย

ราคาอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง 7,900 บาท พร้อมรับประกัน 2 ปี
(ตอนที่ผมติดราคา 6,900 บาท ประกัน 3 ปี)


ส่วนอุปกรณ์ที่ต้องเปลี่ยนคือ
1. สายลำเลียงเชื้อเพลิงที่ทน E85 ยี่ห้อ NCR เกรด SAE30 R9
มีขายที่เดียวชื่อ ร้านชัยชนะพาณิชย์ ถ.บำรุงเมือง แขวงบ้านบาตร ใกล้ๆกับโรงเรียนสารพัดช่างพระนคร
โทร. 02-223-0165

ราคาที่เช็คล่าสุดรู้สึกจะ 580 บาท ความยาวเส้นละ 2 เมตร และไม่แบ่งขายด้วย
แต่ถ้าพี่โกศลยังไม่สะดวกก็ใช้ NCR เกรด SAE30 R7 แบบผมไปก่อนก็ได้ครับ ราคาเมตรละ 100 กว่าบาท
(ความยาวสายลำเลียงทั้งคันไม่น่าจะเกิน 2 เมตร)

2. กรองเบนซิน ใช้แบบท่อตรงของเซฟิโร่ (ตามภาพบน)
ส่วนของเดิมก็ทำความสะอาดแล้วเก็บไว้เป็นตัวสำรอง
ราคาของเทียบไม่เกิน 200 บาท ส่วนของแท้ (เบิกศูนย์) หลังหักส่วนลดแล้วน่าจะประมาณ 3-400 บาท

3. ปั๊มติ๊กผมไม่ได้ยุ่งอะไรกับมัน เคยถอดออกมาดูกับคุณวีครั้งแรกเมื่อตอนต้นปีก็ดูปกติ แต่ผิวท่อยางเริ่มแตกลายงาบ้างแล้ว
ครั้งล่าสุดที่ถอดดูก็ประมาณ 5-6 เดือนก่อน สภาพยังปกติดี ส่วนรอยแตกลายงาก็ยังเหมือนเดิม
คาดว่า เป็นไปตามอายุการใช้งานน่ะครับ

4. เพรชเชอร์ เรคกูเรเตอร์ มีสำรองไว้ซักอันก็ดีครับ
หรือถ้าเป็นไปได้รบกวนพี่โกศลไปถามที่ศูนย์นิสสันว่า ใช้ของ TIIDA, MARCH หรือรุ่นอื่นที่ใช้กับ E20-E85 มาเทียบได้หรือเปล่า .. จะได้เปลี่ยนแล้วใช้กันยาวๆ ไปเลย

5. หัวเทียน ถ้าใช้มานานแล้วก็ถือโอกาสเปลี่ยนมันซะเลยก็ดีครับ

6. จานจ่าย ผมปรับให้ไฟแก่ขึ้นนิดนึงเพื่อรองรับกับออกเทนประมาณ 105
ส่วนรถพี่โกศลถ้าใช้แก๊สอยู่ก็คงไม่ต้องปรับเพิ่ม เพราะตอนจูนช่างก็น่าจะปรับไฟแก่ขึ้นอยู่แล้ว

7. สมัครสมาชิกแกสโซฮอล์คลับของบางจาก
สมัครแล้วจะได้สิทธิ์พิเศษหลายอย่าง เช่น คูปองส่วนลดตอนซื้อกาแฟอินทนินแก้วละ 5 บาท และ 1 แถม 1
มีบริการลากรถฟรีปีละ 1 ครั้ง และยังสะสมแต้มเอาไว้เป็นส่วนลดค่าน้ำมันได้ด้วยครับ (500 แต้ม ลด 100 บาท)

นึกออกเท่านี้แหละครับ

เอาเป็นว่า สงสัยอะไรอีกก็ถามมาได้ครับพี่โกศล หรือจะให้พาไปติดก็ได้
แถวๆบ้านผม (จ.นนท์) ก็มีตัวแทนจำหน่าย


(เพิ่มเติม)
ค่ามาตรฐานท่อน้ำมัน
- SAE30 R10 ใช้สำหรับในถังน้ำมัน แช่ จุ่ม ได้เลย ฟุตละพันกว่าบาท รองรับสูงสุด
- SAE30 R9 รองรับแก๊สโซฮอล E10, E20, E85 น้ำมันดีเซลและไบโอดีเซล
- SAE30 R7 รองรับน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน ที่มีส่วนผสมของเอททานอล (E10)
- SAE30 R6 อันนี้รุ่นเก่าใช้ได้แค่น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว น้ำมันดีเซล ไม่รองรับน้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมของเอททานอล และไบโอดีเซล (ที่รั่วแล้วไฟไหม้กันก็เพราะใช้สายเกรดนี้แหละครับ)

Note: R6, 7, 9 ใช้เป็นท่อลำเลียงน้ำมันเท่านั้น ห้ามแช่หรือจุ่มในถังน้ำมัน

fiogf49gjkf0d

 แก้ไขเมื่อ : 22/12/2554 0:27:01

fiogf49gjkf0d ขอบคุณครับ สุดยอดจริง ทางเลือกใหม่ จาก : kosol(kosol) 23/12/2554 0:13:31 [180.180.148.103]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 75
      

fiogf49gjkf0d

DIY A/F Meter http://www.cefiro-thailand.com/showthread.php?t=10920>

fiogf49gjkf0d ใครจะหาซื้อ เอาด้วย ตัวนึงนะ หายากซะด้วย จาก : จิรกิตติ(จิรกิตติ) 23/12/2554 10:02:41 [27.130.209.177] คุณปุ๊กกี้ขึ้นฝั่งวันไหนครับ มีเรื่องจะขอเสวนาด้วยซักหน่อย จาก : TTC-132(Nui_Terr_II) 23/12/2554 10:26:02 [58.9.38.232] สาสิ อะครับ 30-12-11ปลาบูบอก31 ตีสองเขื่อนแตกผมคงอยู่แถวพิดโลกพอดี แมวมาก็ได้จ๊ะakasak_v@hotmail.com จาก : puky(puky) 23/12/2554 11:55:12 [119.46.218.1]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 76
      

fiogf49gjkf0d

รุ่นข้างบนน่ะจะไม่มีขายแล้วครับพี่ เอ๋ ปัจจุบัน จะเป็นตัวนี้ เทอร์โบทามเมอร์ ของ Apexi มีขายแทบทุกร้านของแต่ง แต่ของปลอมเยอะมากๆ หากจะซื้อลอง google ดูครับ ว่าของแท้ดูไง ของปลอมจะอ่านค่า o2 ไม่ได้หรือไม่ก็อ่านไม่ตรง ตัวนี้จะเรียกติดปากเป็น ทามเมอร์ปากกา ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 77
      

fiogf49gjkf0d

รุ่นแรกสีเงิน รุ่นสองสีดำ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 78
      

fiogf49gjkf0d

อัพมาให้พี่โกศลและผู้สนใจครับ
แผนที่ปั๊ม E85 ทั่วไทย

เอาเมาส์คลิกที่ชื่อปั๊ม แล้ว Google map ก็จะบอกตำแหน่งให้เลยครับ
http://goo.gl/XYDRE

อัพเดทล่าสุดมีที่บางจาก ถ.วิภาวดีขาเข้า ปากซอยวิภาวดี 60 (เลยจากสโสรตำรวจไปประมาณ 500 เมตร)

fiogf49gjkf0d ขอบคุณ คุณหนุ่ย ตามมาเก็บข้อมูล จาก : Prab 034(R20S034) 9/1/2555 10:14:45 [61.90.22.95]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 79
      

fiogf49gjkf0d

เจ้านี้ขาย A/F 600 ครับ น่าสนใจ
http://rcw.ms/forum/showthread.php/847491-A-F-meter-LED-Step

fiogf49gjkf0d น่าสนใจมั่กๆ จาก : TTC-132(Nui_TERR_II) 14/1/2555 22:14:01 [124.121.205.117]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 80
      

fiogf49gjkf0d

เอาภาพหัวเทียนมาให้ดูการเผาไหม้ครับ

เปลี่ยนตอนเริ่มใช้ E85 ผ่านการใช้งานถึงวันนี้เกือบ 40,000 กม.
เขี้ยวสึกไปพอสมควร (ระยะห่างประมาณ 1.2 มม.)

fiogf49gjkf0d ขอบคุณครับ.. จาก : 005(005) 2/3/2555 10:41:44 [202.122.130.31] ผ่านไปแล้วหนึ่งถัง ยังไม่ติดCK จับอาการด้วยความรู้สึกไม่ค่อยแตกต่างเท่าไร ใกล้เคียง91แต่ตอนสตาดต้องสองครั้ง จาก : Parb034(R20S034) 2/3/2555 12:47:47 [115.87.195.136]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 81
      

fiogf49gjkf0d

http://goo.gl/rAou9

เอามาฝากครับ เผื่อใครอยากจะเข้าไปลอง

ปั๊มน้ำมันบางจาก แบบบริการด้วยตัวเอง (Self Serve)
จะได้ส่วนลดจากราคาปกติ 30 สตางค์
และถ้ามีบัตรแก๊สโซฮอล์คลับก็บวกแต้มอีกลิตรละ 20 สตางค์

วิธีเข้าไปเติมก็ง่ายๆ ครับ
ขับรถเข้าไปจอดที่ตู้เติมน้ำมัน ดับเครื่องแล้วก็เดินลงไปที่ตู้พนักงานเก็บเงิน
จากนั้นก็แจ้งพนักงานว่าจะเติมน้ำมันอะไร เป็นเงินเท่าไหร่ แล้วก็จ่ายเงินครับ
บางปั๊มที่รับบัตรเครดิตก็เอาบัตรให้พนักงานแล้วแจ้งจำนวนเงิน

เสร็จขั้นตอนจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วเราก็เดินไปที่ตู้น้ำมัน ดึงหัวจ่ายออกมากดเติมที่รถเราได้เลย
พอเติมจนครบจำนวนเงินที่เราจ่ายหัวจ่ายก็จะตัดเอง เราก็เอาหัวจ่ายออกมาเก็บที่เดิม เป็นอันเสร็จกระบวนการแล้วก็ขับรถออกไปได้เลย
แต่ถ้าจ่ายด้วยบัตรเครดิตก็อย่าลืมไปเซ็นต์ชื่อในสลิปต์กับรับบัตรเครดิตคืนก่อนนะครับ

fiogf49gjkf0d โอ้ว.. ลดตั้ง 30 สต. เลย.... แถวบ้านผมเติมเอง ลดให้แค่ 20 สต.เองครับ.... จาก : 005 (005 ) 6/3/2555 20:51:21 [110.168.2.159] เอ่อ .. พิมพ์ผิดครับคุณบอย 20 สต. นั่นแหละ จาก : TTC-132(Nui_TERR_II) 6/3/2555 20:55:08 [61.90.143.146] ถังที่สองE-85 100% ตอนเช้าต้องสตาทเครื่องสองครั้ง เดินเบาสั่น ใช้ไปครึ่งถังล้างกรองมีสีสนิมจากถัง นม. จาก : R20S034(R20S034) 24/3/2555 10:14:47 [110.168.214.6] ไปติด KIT มาแล้ว ปรับรอบนิ่ง Temp เครื่องลดลง กะลังดูอัตราบริโภค จาก : R20S034(R20S034) 24/3/2555 10:22:35 [110.168.214.6]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 82
      

fiogf49gjkf0d

สืบเนื่องจากพี่สุภาพ (TTC-034) โทรมาถามเรื่องท่อยางที่อยู่กับปั๊มติ๊กในถังน้ำมันและวิธีถอด
ประกอบกับรถวิ่งไม่ค่อยออก อาการเหมือนกรองเบนซินตัน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็เลยจัดการซะ

อันดับแรกต้องทำความเคารพ TERRANO ของเราก่อน โดยการคุกเข่าที่ข้างประตูคนขับ จากนั้นก็พลิกตัวแล้วค่อยๆ มุดเข้าไปใต้ท้อง
เป้าหมายแรกของผมคือ กรองเบนซิน ซึ่งจะซ่อนตัวอยู่ใต้ที่นั่งคนขับตามภาพนี่แหละครับ


หมายเหตุ:
ก่อนจะไปยุ่งกับกรองเบนซินควรจะพักรถเอาไว้อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อลดแรงดันในระบบ
แต่ถ้าใจร้อนถอดตอนเพิ่งจะดับเครื่องน้ำมันเชื้อเพลิงจะพุ่งสวนออกมาเหมือนท่อประปาแตกเลยล่ะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 83
      

fiogf49gjkf0d

แนะนำให้ถอดสายด้านที่มาจากถังน้ำมันก่อนนะครับ
จากนั้นก็หาขวดเปล่ามารองน้ำมันที่ค้างท่อเอาไว้ หรือจะหาอะไรอุดไว้ก็ได้ (ผมใช้ Fuel Recgulator)

ส่วนสายด้านที่ออกมาจากตัวเครื่องยนต์จะมีน้ำมันค้างท่ออยู่นิดหน่อย แต่จะค้างอยู่ในกรองเบนซินเพียบ

และเมื่อเทน้ำมันที่กรองเบนซินดักเอาไว้ออกมาก็จะเห็นเหมือนในภาพนี้แหละครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 84
      

fiogf49gjkf0d

อันนี้เป็นภาพที่ตั้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 85
      

fiogf49gjkf0d

ด้วยความสงสัยเลยถอดท่อลำเลียงออกมาดูสภาพ เนื่องจากเป็นสายเกรด SAE 30E7 ซึ่งรองรับได้แค่ E20
แต่ท่อยางชุดนี้เป็นของ NCR ระบุไว้ครอบจักรวาลตั้งแต่ E10-85

สายชุดนี้ติดผมเปลี่ยนมาตั้งแต่เริ่มใช้ E85 ถึงตอนนี้ก็ 2 ปีกว่า กับอีก 40,000 กม. กว่าๆ
หลังจากถอดออกมาดูพบว่า สภาพทั่วไปยังดีอยู่ แต่บีบแล้วรู้สึกแข็งกว่าเมื่อก่อนนิดหน่อย

ท่อยางช่วงนี้จะมี 2 เส้น โดยมีกรองเบนซินคั่นกลางเอาไว้
ผมใช้คอตต้อนบรัชแหย่เข้าไปถูภายในท่อด้านที่เป็นทางออกไปห้องเครื่อง ซึ่งก็แน่นอนว่า ไม่มีอะไรติดออกมาเพราะกรองเบนซินดักเอาไว้
แต่ท่อที่อยู่ทางเข้ากรองเบนซินจะมีคราบสีดำติดออกมาด้วย


ส่วนในภาพเป็นการเปรียบเทียบสายเส้นเดิมที่ถอดออกมากับสายใหม่ที่ยังไม่เคยใช้งาน ยี่ห้อ GATES รองรับได้ถึง E100 (SAE 30R9)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 86
      

fiogf49gjkf0d

ภาพตัดขวางเปรียบเทียบกันระหว่างท่อยางเก่า(ซ้าย) กับใหม่(ขวา)

สรุปว่า ท่อลำเลียงไม่ได้เปื่อยอย่างที่สงสัยครับ และ NCR SAE 30R7 ทน E ได้ตามที่ระบุไว้ซะด้วย
แล้วผงสีดำมันมาจากไหนกันเนี่ย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 87
      

fiogf49gjkf0d

สายน้ำมันขนาดรูกี่ มม. ครับพี่.......

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 88
      

fiogf49gjkf0d

รหัสที่ท่อยางเลียงสำหรับ E100

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 89
      

fiogf49gjkf0d

8mm. ครับคุณแอ๊ด
ราคาล่าสุดที่เพิ่งไปซื้อให้พี่โกศล เมตรละ 615 บาท (11 ส.ค. 55)
ใช้ทั้งหมดประมาณ 1.20 เมตร

ส่วนแบบแช่ในถัง SAE 30R10 ฟุตละ 1,300 บาท
แต่เคยคุยกับพี่ไข่ (TTC-032) แกบอกว่า ใช้ของ Volvo หรือ BENZ ได้ ราคาหลักร้อย
ส่วนรายละเอียดให้ถามที่คุณเชษฐ์ (TTC-094) เพราะพี่ไข่เป็นคนแนะนำให้ไปซื้อครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 90
      

fiogf49gjkf0d

มาดูภารกิจของผมกันต่อครับ

ก่อนจะเข้าถึงเจ้าปั๊มติ๊กก็ต้องถอดน็อตที่อยู่ตรงท้ายรถออก
อย่าลืมหากระป๋องใส่ไว้ด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย