คำตอบที่ 31
      

fiogf49gjkf0d

รถเกียร์ Auto ลองเปลี่ยนหม้อพักเป็นไส้ตรงทุกลูก ผลคือ เวลาออกตัวแย่กว่าเดิมมากแต่พอรถลอยตัวดีแล้ววิ่งดีกว่าเดิม

รถเกียร์กระปุกลองเปลี่ยนหม้อพักเป็นไส้ตรงทุกลูก ผลคือ เวลาออกตัวจะแย่กว่าเดิมนิดหน่อยแต่หลังจากนั้นจะพุ่งกว่าเดิมมากๆ

รถเกียร์ Auto หลังจากทำเป็นไส้ตรงกลับเปลี่ยนใจกลับมาใช้หม้อพักแบบไส้เยื้อง ผลคือ ออกตัวจะใกล้เคียงของเดิมแต่ช่วงรอบกลางพุ่งดีกว่าของเดิมโรงงาน พอเข้าช่วงรอบสูงจะไหลช้ากว่าที่เป็นไส้ตรงทุกลูกบ้าง

รถเกียร์กระปุกลองเปลี่ยนหม้อพักเป็นไส้เยื้องบ้าง จะออกตัวดีกว่าที่เป็นไส้ตรงทุกลูกเล็กน้อย รอบกลางใกล้เคียงตอนเป็นไส้ตรงแต่รอบสูงจะแย่กว่าที่เป็นไส้ตรงบ้าง

จะเห็นว่าทั้งเกียร์ Auto และเกียร์กระปุกช่วงออกตัวถ้าท่อไอเสียโล่งมากจะไม่ดี Auto ที่ค่อนข้างอืดอยู่แล้วจะอืดมากขึ้น กระปุกที่ไม่อืดเท่าไหร่ก็อืดอยู่นิดหน่อย สำหรับช่วงรอบสูงระดับ 130 ขึ้นไปถ้ากดยาวไม่ยกระบบท่อไอเสียที่โล่งมากจะดีที่สุดไม่ว่าเกียร์ Auto หรือเกียร์กระปุก

ส่วนท่อไอเสีย VCE จะออกแบบมาด้วยหลักการณ์ที่เหนือชั้นมากๆ (ไม่ได้พูดถึงงานผลิต) เนื่องจากมันเป็นหนึ่งเดียวที่ใช้ระบบลิ้นทำงานแบบแปรผัน แปรผันยังไง? แปรผันตามรอบของเครื่องยนต์ รอบต่ำช่วงออกตัวลิ้นมันหรี่ลงมาทำให้รูท่อไอเสียเล็กลงมาก (ประมาณน้อยกว่าครึ่งของท่อเดิมๆ) รอบกลางปรับขนาดรูท่อได้เหมาะสมตามรอบทำให้ไอเสียพุ่งออกเร็วกว่าแทนที่จะให้ปล่อยออกแบบรูท่อใหญ่ไปเลย ส่วนรอบสูงซึ่งไอเสียพุ่งเร็วอยู่แล้วลิ้นในท่อไอเสีย VCE จะเปิดกว้างเต็มที่ให้ไอเสียพุ่งออกได้ปริมาณมากๆ

ดังนั้นท่อไอเสีย VCE จึงทำให้รถพุ่งกว่าเดิม (ไม่ว่ากับระบบท่อไอเสียต่างๆ ที่ยังเป็นของโรงงานหรือได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว) ทั้งช่วงรอบต้นตอนออกตัว แม้แต่รอบกลาง (ซึ่งหม้อพักต่างๆ ที่ว่าใช้สูตรก็คือค่าเฉลี่ยค่าเดียวไม่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดรูท่อได้) และแม้แต่รอบสูง รถจะพุ่งกว่า เหยียบคันเร่งน้อยกว่าเดิม แรงกว่า ขึ้นทางชันไม่ว่าที่ความเร็วระดับกลางๆ หรือเร่งเต็มที่กำลังจะตกน้อยกว่าเดิม ยกคันเร่งกดต่อเรียกกำลังมาได้ไวกว่าเดิมและแรงกว่าเดิมทุกช่วงความเร็ว (หม้อพักต่างๆ จะทำได้ดีบางช่วง--ส่วนมากจะที่รอบเครื่องสูงๆ หรือรอบกลางๆ พอถึงบางความเร็วจะรอรอบ)

ท่อไอเสีย VCE นั้นให้ข้อดีครอบคลุมแทบทุกด้านและเหนือชั้นกว่าราคาก็จะสูงกว่าหม้อพักทั่วๆ ไปบ้างในขณะที่งานการผลิตอาจจะไม่สวยงามเท่าไหร่อาจจะดูไม่สมราคา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 32
      

fiogf49gjkf0d

ท่อไอเสีย VCE รุ่นใหม่ลักษณะจะเป็นแบบนี้

คลิ๊ปถ่ายเล่นๆ การทดสอบท่อไอเสีย VCE (เสียงท่อในคลิปที่ดังเกิดจากปลายท่อใหญ่ถ้าใช้งานกับรถท่อสแตนดาร์ดเสียงมันจะเงียบกว่าเสียงท่อเดิมสแตนดาร์ด โดยจะเงียบลงไปอีกเล็กน้อยถ้าขับที่ความเร็วตั้งแต่ประมาณ 100 หรือ 110 กม/ชมลงมา)

ผลการทดสอบด้วยรถใช้เครื่องยนต์ 1500CC เป็นเครื่องยนต์รุ่นเก่าใช้แก๊ส LPG ระบบฟิกซ์มิกซ์ปิดแอร์ขณะทดสอบวิ่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม.

ใช้ท่อไอเสีย VCE ได้ 18 วิ
http://www.youtube.com/watch?v=psdn5IRsB2A

ใช้ท่อไอเสีย VCE ได้ 18 วิอีกครั้ง
http://www.youtube.com/watch?v=dZ_sVvSth8o


ไม่ใช้ท่อไอเสีย VCE ได้ 20วิ (ช้ากว่า 2 วิ)
http://www.youtube.com/watch?v=Qlwh-vahhXU

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 33
      

fiogf49gjkf0d

ท่อไอเสีย VCE มีลิ้นปรับขนาดรูท่อไอเสียหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ใช้เทคนิคนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 34
      

fiogf49gjkf0d

http://www.weekendhobby.com/thai2market/Question.asp?ID=10064&group=jeep

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 35
      

fiogf49gjkf0d

มันอาจจะไม่สวย (เอาไว้ใต้ท้องรถก็ไม่เห็นแล้ว) แต่สมรรถนะไม่ใช่ว่าไม่เป็นสองรองใคร

แต่..ช่วงออกตัวเหนือกว่าหม้อพักที่ว่าดีที่สุดแน่นอน (ใครจะทำรูท่อหม้อพักให้เล็กเพื่อจะดีที่รอบต่ำแล้วรอบสูงไม่เสียได้เล่า)
และ..รอบกลางพุ่งกว่าหม้อพักที่บอกว่าโล่งๆ (เพราะลิ้นในท่อไอเสีย VCE ปรับขนาดรูท่อให้ไอเสียพุ่งออกเร็วกว่าทุกช่วงความเร็ว)

และ..รอบสูงก็ขึ้นไวและไปถึงความเร็วสูงสุดได้ก่อนใครอื่น หนีความวุ่นวายให้เกาะกลุ่มกันอยู่ข้างหลัง (เพื่อความปลอดภัยเพราะไม่มีรถคันอื่นมาอยู่ใกล้ๆ)

และเวลาขับมาเร็วๆ เหยียบเบรคลงไปเต็มเท้าไม่ว่าความเร็วรถตกไปอยู่ช่วงไหนเมื่อมี VCE แล้วจะพุ่งขึ้นไวเสมอกันหมด (กดเบรครถยุบตัวลงเพื่อจะหยุดพอปล่อยเบรคยังไม่ทันได้แตะคันเร่งรถก็พุ่งต่อไปแล้ว ยังไม่ได้ทำท่าเลยแต่พุ่งต่อทันที) ลองดูเดิมๆ ไปก่อน (ที่ยังไม่ได้ใช้ VCE) รับรองว่าคุณจะเจออยู่ช่วงความเร็วหนึ่งที่มันรอรอบ

มี VCE เปลี่ยนสไตล์จากเดิมให้ความรู้สึกสปอร์ตมากขึ้นปรู๊ดปร๊าดขึ้นทุกช่วงความเร็ว


และ..บนท้องถนนมันมีทางลาดทางชันไม่ได้ราบเรียบตลอด เอาแค่ทางลาดชันไม่มากนักถ้าเดิมรถแรงบิดไม่ค่อยดีนักจะพบความเปลี่ยนแปลงชัดเวลาวิ่งทางที่สูงๆ ต่ำๆ แต่เมื่อมี VCE อยู่ในระบบท่อไอเสียของท่านซึ่งสามารถเพิ่มแรงบิดได้ต่อเนื่องที่เนินสูงๆ ต่ำๆ ลักษณะเดียวกันมันจะวิ่งยังกะวิ่งทางราบ (สามารถแซงคันอื่นได้อีกแถวกลางๆ เนินนั่นแหละไม่ต้องลุ้น)


เวลาขับรถทางไกลลองสังเกตซิครับว่าพอวิ่งทางยาวๆ หลายร้อยกิโลเมตรติดต่อกันถึงช่วงท้ายๆ รถจะเริ่มอืดลง แต่ถ้ามี VCE กลับตรงข้าม..มันยังแรงได้ต่อเนื่อง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 36
      

fiogf49gjkf0d

ท่อไอเสีย VCE มันจะดูเรียบง่ายไม่ได้ไฮเทคสุดขีดแต่มันก็แตกต่างจากหม้อพักที่มีอยู่ตอนนี้อย่างแน่นอนเนื่องจากมันมีลิ้นอยู่ภายในท่อไอเสียซึ่งไม่มีหม้อพักใดๆ ทำแบบนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 37
      

fiogf49gjkf0d

http://www.weekendhobby.com/thai2market/Question.asp?ID=15197&group=offroad

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 38
      

fiogf49gjkf0d

ท่อไอเสีย VCE ระบบลิ้นแปรผันยื่นจดลิขสิทธิ์เมือต้นปี 52 และยื่นจดลิขสิทธิ์ตัวควบคุมเมื่อกลางปี 52 (ใช้ตัวควบคุมแบบนี้เพียงหนึ่งเดียวในโลก)

ความแตกต่าง.....
ลิ้นในท่อไอเสีย VCE ไม่ได้มีลักษณะเหมือนลิ้นปีกผีเสื้อ
ลิ้นปีกผีเสื้อเป็นแผ่นเรียบแต่ลิ้นในท่อไอเสีย VCE มันจะโค้งสอดรับกับรูท่อไอเสียทำให้ไอเสียพุ่งออกได้เต็มที่

ท่อไอเสีย VCE ลิ้นถูกออกแบบมาเฉพาะซีซี 3000 ซีซีใช้ปนกับ 3200 ซีซีได้แต่ประสิทธิภาพไม่เท่ากัน


ตัวควบคุมของท่อไอเสีย VCE ถูกออกแบบให้ที่รอบต่ำสุดทำให้ไอเสียต้านการเปิดสูงสุดพอรอบสูงขึ้นการต้านของลิ้นจะลดไปเรื่อยๆ ตามรอบที่สูงขึ้นจะเห็นว่ามันทำงานตรงกันข้ามกับสปริงที่จะต้านสูงสุดที่รอบสูงมากที่สุดแต่ต้านน้อยสุดที่รอบต่ำสุด

ถ้าใช้สปริงแรงต้านที่รอบต่ำสุดจะน้อยสุดน้อยกว่ารอบที่สูงขึ้นแต่จะเพิ่มแรงต้านมากขึ้นตามรอบที่สูงขึ้นและต้านสูงสุดที่รอบสูงสุด

เพราะฉะนั้นเมื่อรอบสูงขึ้นลิ้นในท่อไอเสีย VCE ก็จะเปิดลิ้นได้สัมพันธ์กับความต้องการขนาดรูท่อที่ใหญ่ขึ้นได้ดีกว่า ไม่ต้านเลยที่รอบสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่รอบสูงมาก ต้านมากที่สุดที่รอบต่ำ ต้านน้อยลงไปที่รอบกลางต่ำ ต้านน้อยลงไปอีกที่รอบกลาง และ ต้านน้อยลงไปอีกมากที่รอบกลางสูง จึงวิ่งขึ้นดีเยี่ยมที่รอบต่ำและรอบกลาง (พุ่งเร็วแตกต่างเลย) และวิ่งพุ่งตลอดอย่างต่อเนื่องไปรอบสูง จึงเหนือชั้นกว่า

แต่ถ้าใช้สปริงดึงไว้รอบต่ำสุดจะดึงลิ้นไว้น้อยพอง้างให้ลิ้นเปิดกว้างขึ้นก็ต้องใช้แรงเพิ่มขึ้นซึ่งถ้าต้องการให้ที่รอบต่ำลิ้นไม่เปิดกว้างเกินไปก็ต้องกำหนดขนาดความยาวของสปริงหรือความแข็งของสปริงไว้ค่าหนึ่งซึ่งจะต้านการเปิดของลิ้นไว้จำนวนหนึ่งพอแรงดันไอเสียแรงพอเพราะรอบเครื่องสูงขึ้นเอาชนะแรงสปริงได้ก็จะดันให้ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ (แต่ไม่แน่ใจว่าความแรงของแรงดันในท่อไอเสียยกตัวอย่างเช่น รอบที่ 2000 กับ 2500 ความแรงที่แตกต่างกันดังกล่าวจะสัมพันธ์กับความแข็งของสปริงพอดีหรือไม่ มีการอั้นเกิดขึ้นหรือไม่ระหว่างจะเอาชนะความแข็งของสปริงและจะมีผลให้ทันกับการต้องการคายไอเสียอย่างรวดเร็วหรือไม่ที่รอบสูงซึ่งจะต่างจากตัวควบคุมของท่อไอเสีย VCE ซึ่งที่รอบที่สูงขึ้นแรงต้านจะยิ่งลดลงจะยิ่งทำตัวให้โล่งยิ่งขึ้นได้ดีกว่า)


ท่อไอเสีย VCE ไม่เน้นความสวยงามแต่เน้นประสิทธิภาพที่เหนือชั้นกว่า
วัสดุที่ใช้ป่องกลางเป็นสแตนเลสชิ้นส่วนเลือกใช้ตามความสำคัญเช่นบานพักใช้สแตนเลสอย่างหนา
ส่วนที่ไม่จำเป็นเช่นทางเข้าออกก็จะให้เป็นเหล็กให้เหมือนกับท่อไอเสียโรงงานที่เป็นเหล็ก (ราคาจะได้ไม่สูงเกินไป)

ท่อไอเสีย VCE ท่อป่องกลางกว้างถึง 3 นิ้ว เครื่อง 2.5 3.0 3.2 หรืออะไรก็แล้วแต่เวลาลิ้นในท่อไอเสีย VCE เปิดกว้างสุดจะกว้างถึงเกือบ 3 นิ้ว

มันอาจจะไม่สวยแต่ประสิทธิภาพสุดยอดแน่นอน (ความสุดยอดของประสิทธิภาพไม่ขึ้นอยู่กับว่าจะผลิตที่ไหน) ฝีมือการเชื่อมก็แน่นหนาเหล็กก็คือเหล็กสแตนเลสก็คือสแตนเลส (ความแตกต่างเล็ก ๆ น้อยๆ ไม่ถือเป็นสาระ) ผลิตในไทยหรืออเมริกาถ้าพิถีพิถันพอกันก็จะพอกันนอกเหนือจากนี้คือเทคโนโลยีที่ใช้

เมื่อมันไม่สวยก็แนะนำว่าให้เอาไว้ใต้ท้องรถครับ

ห้ามลอกเลียนแบบเรื่องลิ้นแปรผันในท่อไอเสีย VCE ขั้นต่ำปรับ 3 แสนบาทครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 39
      

fiogf49gjkf0d

ใช้งานท่อไอเสีย VCE ซึ่งช่วยเพิ่มแรงบิดตั้งแต่รอบต่ำตอนออกตัวและโดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบกลางๆ (ซึ่งเป็นรอบเครื่องที่ใช้งานส่วนใหญ่) มีผลให้ออกตัวมีกำลังมากกว่าเดิม ช่วงรอบเครื่องกลางๆ วิ่งดีขึ้นพุ่งไวกว่าเดิม รวมทั้งสามารถลากรอบได้สูงขึ้นมีกำลังที่ปลายของแต่ละเกียร์ดีกว่าเดิมก็ทำให้ขับรถสบายขึ้น (เพราะเครื่องมีแรงบิดเพิ่มขึ้น) และประหยัดขึ้น (ช่วงออกตัว เกียร์ 123) วิ่งทางไกลไหลดีกว่าเดิมมีกำลังต่อเนื่อง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 40
      

fiogf49gjkf0d

ใช้ท่อไอเสีย Vce (มีท่อไอเสีย Vce อยู่ในระบบท่อไอเสียของท่าน) รอบจะตกช้ากว่าเดิม เวลาบรรทุกหรือวิ่งขึ้นทางชันแรงจะตกน้อยกว่าเดิม วิ่งทางไกลๆ กำลังไม่ตกมีกำลังดีทุกสภาวะ เกียร์แมนนวลจะลากเกียร์ได้ยาวกว่าเกียร์ออร์โต้จะเป ลี่ยนไปเกียร์ต่อไปที่รอบต่ำกว่าเดิมใช้เวลาสั้นลงเว ลาคิ๊กดาวน์กำลังจะมาไวกว่า ขณะที่ขับมาเร็วถึงจังหวะเบรคจะไปต่อจะรอรอบน้อยกว่า เดิมและที่พิเศษมากๆ คือจะเป็นแบบนี้ทุกช่วงความเร็วไม่เลือกว่าอยู่ในช่ว งรอบสูงช่วงรอบกลางหรือช่วงรอบต่ำ

พร ท่อไอเสีย Vce ลิ้นแปรผัน 0851423903

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 41
      

fiogf49gjkf0d

http://www.souma88.com/

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 42
      

fiogf49gjkf0d

ที่มาของระบบท่อไอเสีย VCE ลิ้นแปรผัน

ท่อไอเสีย VCE ไม่ได้เกิดจากร้านท่อไอเสียร้านใดร้านหนึ่งคิดอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาได้แล้วผลิตขึ้นมา หรือผมซึ่งทำงานเกี่ยวกับหนังสือแล้วอยู่ดีๆ นึกสนุกขึ้นมาก็ทำท่อไอเสียขึ้นมา
แต่ได้เกิดจากผมทำท่อไอเสียไว้ใช้เองอันเนื่องจากหาซื้อตามที่ต้องการในท้องตลาดไม่ได้ ทีแรกทำเป็นไซเลนเซอร์มีรูพรุนรอบๆ แล้วก็มีใยแก้วยัดข้างๆ (ยังเก็บไว้อยู่เลย) จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการลดเสียงปลายท่อซึ่งปากกว้างใหญ่ 3.6 นิ้วให้มันเงียบๆ หน่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาอยู่ในรอบเดินเบาเสียงดังน่ารำคาญนี้ให้มันเงียบๆ หน่อย

ทีนี้ไหนๆ ก็จะทำแล้วลองทำให้มันมีวาวล์ข้างในดีไหม ทำแบบให้มันแปรผันไปตามรอบของเครื่องยนต์เลย รอบเครื่องต่ำๆ ให้มันเปิดน้อยๆ รอบสูงๆ ให้มันเปิดมาก รอบสูงมากให้มันเปิดสุดเลย

ปรากฏว่าได้ผล รอบเดินเบาเงียบลงแล้วรถวิ่งกว่าเดิมมาก (ออกตัวนี่ต่างจากเดิมเลยแล้วรอบกลางๆ จะวิ่งกว่าเดิมมากแถมช่วงปลายๆ ลากได้มีเรี่ยวแรงกว่าแต่ก่อน)
ก่อนนั้นเวลาออกตัวรถแก๊สฟิกซ์ 1500CC ที่ใช้ท่อใหญ่ตั้ง 2.2 ทั้งเส้นหม้อพักไส้ตรงหมดซึ่งแรงบิดและแรงม้าที่รอบเครื่องต่ำๆ จะค่อนข้างน้อยจะแย่มาก ต้องเร่งรอบสูงๆ คอยไว้ก่อนแล้วต้องเลียครัชช่วยด้วย (ตัวชดเชยรอบก็ไม่ปกติไม่เร่งรอบให้เวลาแอร์ทำงาน) ทำให้ขับยากบางทีลืม....ออกตัวเครื่องดับน่าเบื่อมาก

พอทำระบบท่อไอเสีย VCE สำเร็จรถเปลี่ยนฟิลลิ่งไปคนละคันเลย ตอนนี้วิ่งกว่าน้ำมันตอนนั้นมากๆ แรงกว่ากันเยอะ สามารถเร่งพุ่งจากความเร็วที่กำลังขับอยู่ในขณะนั้นได้ชนิดที่ว่าไม่น่าเชื่อว่ากำลังขับเครื่อง 1500cc ที่เคยอืดมากๆ มาก่อน

จากนั้นก็เปิดเวปทรัพย์สินทางปัญญาดูก็เห็นมีท่อไอเสียไปจดลิขสิทธิ์เหมือนกันแต่เป็นแบบรูท่อไอเสียที่คงที่และมีเทคนิคอย่างอื่น ดูของเมืองนอกที่เป็นวาวล์ก็ไม่ใช่แบบแปรผัน และส่วนใหญ่ใช้เพื่อจุดประสงค์อย่างอื่น ก็เลยขอจดลิขสิทธิ์จดสิทธิบัตรเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (คิดไว้และทำก่อนหน้านั้นไว้เป็นปี)

หลังจากทำรถตัวเองสำเร็จก็ไปลองกับรถดีเซล Vigo เครื่อง 3000cc ก็สำเร็จอีกรถที่วิ่งอยู่แล้วยังวิ่งกว่าตั้งแต่ช่วงออกตัวและช่วงตั้งแต่ 50 กม./ชม.ขึ้นไปวิ่งขึ้นอีกอย่างเห็นได้ชัด วันที่ลองวิ่งขึ้นถึง 120 กม./ชม.เร็วกว่าเดิมชัดเจนและเริ่มรู้สึกจะเอารถไม่ค่อยอยู่ก่อนนั้นมันจะเร่งขึ้นช้ากว่ากันไม่ค่อยรู้สึกรถเบาๆ เท่า ทีนี้ไปลองกับ Isuzu เครื่อง 3000cc รุ่น Di มีหลังคาด้วย ทีแรกไม่ได้ใส่ท่อ VCE ออกตัวสะอึกและค่อนข้างขึ้นช้าไม่น่าพอใจแต่พอรถถึงรอบกลางไปทางสูงแล้วก็วิ่งดีใช้ได้ จากนั้นมาใส่ท่อไอเสีย VCE ปรากฏว่าออกตัวดีกว่าเดิมมากอาการสะอึกน้อยลงไปมากแล้วรถวิ่งกว่าเดิมมากๆ (เกือบเท่า Vigo 3000 ก่อนใส่ VCE) รถวิ่งฉิวเลยกลายเป็นรถเบาๆ ไปเลยและควบคุมง่ายไป 120 แป๊บเดียวเช่นกันปราดเปรียวขึ้นเยอะเลยรู้สึกอยากได้ทั้งๆ ที่ทีแรกไม่ค่อยชอบรถมันขึ้นช้า


นั่นคือที่มาของระบบท่อไอเสีย VCE

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 43
      

fiogf49gjkf0d

อย่างที่ผมเคยบอกครับ หม้อพักไอเสียหรือเส้นท่อไอเสียที่ขนาดรูท่อเล็กๆ จะได้แรงบิดดีในช่วงต้นๆ แต่ตั้งแต่รอบเครื่องระดับกลางๆ ขึ้นไปจะไม่ดีและปลายจะอั้น แต่หม้อพักไอเสียหรือเส้นท่อไอเสียที่รูท่อใหญ่ต้นจะไม่ดีแต่กลางและช่วงปลายๆ จะดี (ถ้าเส้นท่อใหญ่มากเต็มที่ปลายก็ไม่ดีอีก)

เส้นท่อไอเสียที่ขนาดรูท่อเล็กจะไม่ค่อยรอรอบในรอบต่ำ เส้นท่อไอเสียขนาดใหญ่รูท่อไอเสียขนาดใหญ่จะไม่ค่อยรอรอบในรอบสูง

ซึ่งการรอรอบในรอบต่ำและรอบกลางช่วงต้นๆ ของเส้นท่อรูใหญ่จะรู้สึกว่าน่าเบื่อ พอๆ กับที่เวลาอั้นๆ ในรอบกลางและรอบสูงของรูท่อไอเสียขนาดเล็กๆ ก็น่าเบื่อเหมือนกัน

ทีนี้ผมก็ทำท่อไอเสีย VCE นี่ขึ้นมาให้มันทำตัวเป็นท่อไอเสียที่เล็กมากในรอบต่ำและขนาดใหญ่มากในรอบสูง ถ้าถามว่าทำยังไง ขอตอบว่าโดยการทำขนาดท่อไอเสีย VCE ให้ใหญ่ไว้ตั้งแต่แรก (หน้าตัดกว้าง 3 นิ้ว) แล้วทำให้ภายในท่อไอเสีย VCE มีลิ้นที่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดรูท่อไอเสียได้อย่างต่อเนื่องแถมยังมีตัวควบคุมภายนอก (ซึ่งไม่ได้เชื่อมต่อกับภายในไม่มีปัญหาไอเสียรั่วออกได้) คอยดึงลิ้นไว้ในรอบต่ำและกลางให้เปิดออกอย่างเหมาะสมพอดี (เกิดแรงบิดเต็มที่)

การปรับขนาดท่อไอเสียได้ต่อเนื่องดีกว่าอย่างไร

ขอตอบว่าทั้งในเรื่องท่อไอดีและท่อไอเสียล้วนต้องการขนาดรูท่อที่แปรผัน เรื่องนี้กาลเวลาจะพิสูจน์ให้เห็น ในทุกรอบของเครื่องยนต์ต้องการช่องทางเดินไอดีและช่องทางคายไอเสียที่เหมาะสม อั้นเกินไปไม่ได้โล่งเกินไปก็ไม่เหมาะ ต้องพอดี (ท่อไอเสีย VCE จึงมีของเฉพาะของแต่ละซีซีจะใช้แทนกันไม่ได้)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 44
      

fiogf49gjkf0d

Mu 7 สามารถติดตั้งได้บริเวณก่อนออกปลายท่อและช่วงก่อนเข้าพักกลาง (หลังแคท) สำหรับคันนี้ติดตั้งหลังแคทซึ่งมีไส้ตรงเกลียวแทนแคทติดตั้งอยู่ก่อนแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 45
      

fiogf49gjkf0d

ท่อไอเสีย VCE รวมข้อดีของท่อวน/ย้อน/เยื้องที่ทำงานได้ผลดีในรอบต่ำ (แต่ไม่เอาข้อเสียมาด้วยที่ไม่ค่อยดีในรอบสูง) และรวมเอาข้อดีของท่อไอเสียแบบไส้ตรง (ที่ไม่อั้นในรอบสูง) เพราะรอบสูงเปิดระบายไอเสียโล่งเต็มที่ ในขณะที่ไม่เอาข้อเสียของไส้ตรงที่ไม่ดีในรอบต่ำ (อืด/รอรอบในรอบต่ำ)

ท่อไอเสีย VCE จึงรวมเอาข้อดีของท่อไอเสียแต่ละแบบมาไว้ในขณะที่มีสมรรถนะสูงกว่าเพราะมันทำงานแบบแปรผันและมันทำงานตั้งแต่รอบเดินเบา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 46
      

fiogf49gjkf0d

เจ้าของ camry 2.4 คันนี้ก็คล้ายๆ หลายๆ คนที่เจอมาและมาหา หาทางทำให้รถวิ่งกว่าเดิมในช่วงออกตัวและรอบกลางๆ

คนนี้บอกว่ามีประสบการณ์เรื่องหม้อพักไอเสียมาเยอะ ได้มีโอกาสใช้งานหม้อพักไอเสีย (แต่ง) มาหลายๆ แบบแล้ว (แกมีรถวิ่งสนามปิ๊คอัพดีเซลด้วยแกเป็นทั้งเจ้าของและคนขับ) มีทั้งที่ได้ผลขึ้นมาบ้างและที่ไม่ค่อยเข้าท่าก็มี มาพบเห็นท่อไอเสีย VCE เป็นครั้งแรกก็ดูแกจะไม่ค่อยศรัทธาสักเท่าไหร่ (ดูจากสีหน้าของแกและคำพูดบางอย่าง ซึ่งก็ไปว่าแกไม่ได้หรอกถ้าเป็นผมเองเป็นลูกค้าก็คงจะทำนองเดียวกัน) ด้วยท่อไอเสีย VCE เหมือนไม่มีอะไร ภูมิหลังก็ไม่มีลูกค้ามาช่วยกันประโคมสักเท่าไหร่นัก พูดถึงก็ไม่มากและดูไม่ตื่นเต้นเร้าใจ ภายในเห็นไม่มีอะไรที่วิจิตรอะไรมากมายมีเพียงลิ้นที่เปิดกว้างได้ตามแรงดันไอเสีย (และตามการควบคุมบังคับของตัวควบคุมข้างนอก บางคนบอกว่าเอาออกได้ไหมตัวอะไรแปะติดมานี่ และบางคนถามว่าเอาไอ้แปะติดข้างๆ นี่ไว้ล่างสุดได้ไหม ผมรีบตอบเสียงหลงเลยว่าไม่ได้ไม่งั้นมันจะไม่ได้ผลเลยเหมือนติดท่อโล่งๆ ใช้การอะไรไม่ได้ ไอ้ที่แปะๆ นี่ต้องอยู่ด้านข้างสถานเดียวย้ายกลับข้างไม่ได้เลยแล้วเส้นลูกศรต้องอยู่ล่างสุดสถานเดียวด้วยครับ) ลิ้นที่เปิดได้ตามรอบของเครื่องยนต์รอบสูงไม่ขีดขวางทางเดินไอเสีย (เครื่องคุณมีแรงดันเท่าไหร่ดันไปเถอะเปิดได้กว้างเกือบ 3 นิ้วแหนะแล้วแรงดันไอเสียที่ช่วงรอบสูงถ้าจะมาใช้ดันลิ้นให้เปิดไปได้อีกในช่วงนั้นก็ต้องการกำลังแรงดันนิดเดียวเอง แค่ใช้มือสบัดแกว่งท่อไม่ต้องแรงมากลิ้นก็สะบัดขึ้นไปเปิดได้สุดแล้วแต่แรงดันไอเสียที่รอบสูงมีพลังมากกว่านั้นเยอะ)

ผมประทับใจคำพูดของคุณคนนี้คำหนึ่ง อืม...มันจะวิ่งได้ดีเหรอซึ่งใครๆ ก็คิดว่าท่อไอเสียแล้วมีอะไรมาขวางมันแล้วมันจะวิ่งขึ้นกว่าเดิมได้ยังไง (ที่รอบสูงลิ้นไม่ขวางทางเดินไอเสียนั้น OK มันทำให้ช่วงรอบสูงไม่อั้นอยู่แล้วที่รอบสูงคงจะไม่เป็นไร แต่ที่รอบต่ำๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบกลางๆ เอาอะไรไปขวางไปบังคับมันแล้วมันจะวิ่งขึ้นเหรอ...)

ผมบอก..เดี๋ยวก็ได้เห็นเองครับ ผมทดสอบมาแล้วทั้งรถเบนซิน/แก๊สระบบท่อไอเสียโล่งมากอืดฉิบกว่าจะได้ 120, 130 ลากแทบแย่และไปอีกไม่ค่อยไหว กับ Vigo ดีเซล 3000 เดิมๆ ทุกอย่างที่วิ่งอยู่แล้วเพียงแต่เพิ่มท่อไอเสีย VCE เข้าไปให้ลิ้นมันบริหารช่องทางเดินไอเสีย Dmax 3000di ซึ่งอืดในช่วงออกตัวและรอบต้นบรรทุกหลังคาไฟเบอร์อีกต่างหาก.....ลองมาแล้ววิ่งขึ้นทุกคันทั้งช่วงรอบต้นและโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่รอบกลางๆ ซึ่งคุณคิดว่าไม่น่าจะมีผล และ...รอบสูงยังลากได้ดีกว่าเดิมด้วย และเวลาขึ้นทางชันๆ สูงๆ ต่ำๆ คุณจะยิ่งเห็นสมรรถนะของท่อไอเสีย VCE ซึ่งดูเหมือนไม่มีอะไรนี่แหละครับให้มีอะไรยิ่งกว่าหม้อพักแต่งไอเสียที่คุณหรือหลายๆ คน..คิดว่ามันดี

ส่วนภายในใจผมก็คิด ..มันก็คงยากที่จะทำให้หลายๆ คนมั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ในเมื่อรถเดิมๆ ของเขาสภาพมันเหมือนอั้นๆ วิ่งอืดๆ มากแล้วเพียงเพิ่มท่อไอเสีย VCE เข้าไปมันจะช่วยได้งั้นหรือ และ เย็นวันนั้นหลังจากติดตั้งท่อไอเสีย VCE ไปหรือรุ่งขึ้นอีกวันไม่แน่ใจ คุณคนนี้ก็โทรมา ดีครับพี่วิ่งดีขึ้นครับใช้ดีครับพี่..(นั่นเป็นความรู้สึกของคนขับรถแข่งแล้วมาขับรถอืดๆที่ได้ถูกปรับปรุงสมรรถนะให้สูงขึ้นโดยท่อไอเสีย VCE ครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 47
      

fiogf49gjkf0d

2.4LPG ก่อนมาติดตั้งบอกว่าขอรอบต้นครับอยากให้วิ่งดีขึ้นในช่วงนั้น (รอบปลายดีอยู่แล้ว) ผมบอกท่อไอเสีย VCE ซึ่งมีลิ้นทำงานแบบแปรผันอยู่ด้านในท่อจะได้ช่วงรอบต้นดีขึ้นและจะได้ช่วงรอบกลาง (ความเร็ว 50-100กม./ชม.) ดีขึ้นด้วยแม้ว่าของเดิมจะวิ่งดีในช่วงรอบกลางอยู่แล้วก็ตามก็จะดีขึ้นอีก หลังจากติดตั้งท่อไอเสีย VCE ไม่นานก็รีบโทรมารายงานว่า รถผมที่เคยอืดๆ ก็วิ่งดีขึ้นครับแบบรู้สึกได้ที่เกียร์ 1, 2, 3 ส่วนเกียร์ 4 กับ 5 ผมจะไม่รู้สึกเท่าไหร่ แต่ถ้าเกียร์ 5 เวลาเบรคแล้วเร่งไปใหม่จะวิ่งขึ้นดีกว่าของเดิมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 48
      

fiogf49gjkf0d

Toyota แลนครู๊ยเซอร์คันนี้ 4500CC มาติดท่อไอเสีย VCE ที่ปลายท่อ (ตรงอื่นไม่มีที่ว่างแล้ว)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 49
      

fiogf49gjkf0d

คันนี้เมื่อติดตั้งท่อไอเสีย VCE เพิ่มเข้าไปก็ทำให้ที่รอบเครื่อง 1500 ถึง 2000 รอบมีแรงบิดเพิ่มขึ้น เมื่อแรงบิดเพิ่มขึ้นก็หมายถึงมีกำลังฉุดเพิ่มขึ้นก็จะเร่งออกตัวได้ดีขึ้นเร่งขึ้นทันใจ ขับง่ายขึ้นไม่หงุดหงิดกับการรอรอบ


ท่อไอเสีย VCE เพิ่มแรงบิดในช่วงรอบต่ำและกลางรวมทั้งเพิ่มแรงม้าในรอบปลาย เมื่อแรงบิดเพิ่มในช่วงต้นก็จะมีพลังออกตัวพุ่งกว่าเดิม ในรอบกลางก็ทำให้เร่งแซงทันใจขึ้นไม่ต้องเชนเกียร์ปบ่อยๆ ก็ประหยัดขึ้นด้วย ในช่วงรอบปลายก็ลากได้ยาวขึ้นปลายไหล

การที่นำผลการวัดแรงม้ามาให้ดูก็เพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงเปรียบเทียบกับผลการใช้งาน

การวัดแรงม้าแรงบิดของท่อไอเสีย VCE จะเปรียบเทียบให้เห็นเพียงเพิ่มท่อไอเสีย VCEเข้าไปซึ่งถ้าเอาหม้อพักเพิ่มเข้าไปเฉยๆ แบบนี้ ถ้าทำให้รอบต้นดีขึ้นรอบปลายจะมีปัญหา (อั้น)อย่างแน่นอน 100%เพราะถ้าจะทำให้ต้นดีโดยปลายไม่อั้นนั้นไม่สามารถทำได้เพราะถ้ามีอะไรขวางอยู่จะมีปัญหาช่วงปลายอย่างแน่นอน เมื่อนำมาขึ้นไดโนปลายจะตกแน่นอน (เพราะมีอะไรไปขวางทางเดินไอเสียอยู่)

ผลการวัดแรงบิดแรงม้าท่อไอเสีย VCE กับรถที่ยังใช้ระบบท่อไอเสียเดิมๆ เห็นได้ชัดว่ามีแรงบิดและแรงม้าเพิ่มขึ้นหลายช่วง นั่นคือช่วงกลาง (ช่วงความเร็ว 50 ถึง 110 กม/ชม โดยประมาณ) และแม้แต่ช่วงปลายก็ไม่อั้นแถมลากได้ยาวกว่าและแรงม้าเพิ่มขึ้น

ในช่วงรอบต้น (ครั้งที่วัดที่ L Testcar ไม่ได้วัดมาถึงรอบต้นๆ ) แต่จากกราฟช่วงปลายทางด้านต่ำเมื่อใช้ท่อไอเสีย VCE ก็เห็นได้ชัดว่าก็มีแรงบิดแรงม้าเพิ่มหากวัดได้ต่ำลงมา ดูจากเส้นกราฟที่เริ่มตวัดสูงกว่า


ผลการวัดแรงม้าคือความเที่ยงตรงมากกว่าคำพูดซึ่งเอาแน่นอนไม่ค่อยจะได้ ผลการวัดแรงม้าแรงบิดคือการเปรียบเทียบให้เห็นว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร มีแนวโน้มเป็นอย่างไร (ความผิดพลาดอาจจะมีบ้างแต่ไม่มาก)

ผลการวัดแรงบิดแรงม้าของกรองไอดีแต่งอาจจะได้แรงบิดแรงม้าเพิ่ม 2 ถึง 3 แรงม้าแต่ก็จะเพิ่มในช่วงรอบกลางและโดยเฉพาะช่วงรอบสูงในขณะที่ช่วงรอบต่ำจะให้แรงบิดลดลง

ผลการวัดแรงม้าแรงบิดหม้อพักแต่งอาจจะได้แรงม้าเพิ่ม 3 ถึง 5แรงม้า อาจจะได้ถึง 7 แรงม้าแต่หม้อพักใดที่ทำได้อย่างนี้ช่วงรอบต้นก็จะไม่ดีหรอกจะแย่กว่าเดิมด้วยได้แต่ช่วงปลาย เพราะทำให้โล่งกว่าเก่าเปรียบเทียบกับหม้อพักเดิมที่อั้นๆ (วัดเปรียบเทียบโดยการใส่แทนซึ่งถ้าท่อไอเสีย VCE ใช้การวัดเทียบแบบนี้จะได้แรงม้าเพิ่มไม่น้อยกว่า 9 แรงม้าแถมได้เพิ่มทุกช่วงด้วย แม้กระทั่งที่รอบต่ำ)

ผลการวัดแรงม้าแรงบิดด้วยการเพิ่มเทอร์โบเข้าไปจะให้แรงม้าเพิ่มได้มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการปรับปรุงระบบท่อไอเสีย การทำท่อไอเสียให้โล่งมากขึ้นก็ทำให้ช่วงก่อนปลายสุดดีกว่าเดิมค่อนข้างมาก (แต่ต้นก็แย่กว่าเดิมก็หาทางปรับแก้ด้วยวิธีต่างๆ)

ผลการวัดแรงม้าแรงบิดระหว่างติดเทอร์โบเพิ่มนั้นไม่ควรใช้เปรียบเทียบกับการปรับปรุงระบบท่อไอเสีย (เพราะการติดเทอร์โบเพิ่มเท่ากับการอัดอากาศเพิ่ม ก็แรงขึ้นอยู่แล้ว อัดน้ำมันเพิ่มให้สัมพันธ์กันก็แรงขึ้นอีก อาจจะมีการปรับองศาไฟด้วย) ส่วนการปรับปรุงระบบท่อไอเสียเป็นการทำของเดิมให้ดีขึ้นโดยไม่ยุ่งกับระบบเครื่องยนต์ ไม่ยุ่งกับระบบน้ำมันและองศาไฟ


จุดประสงค์ของท่อไอเสีย VCE คือทำให้ต้นแรงขึ้นและได้ความแรงช่วงกลางเพิ่มขึ้นด้วยในขณะที่ปลายไม่อั้น ซึ่งการใช้งานจริงและผลการวัดแรงม้าแรงบิดก็บอกว่ามันทำได้อย่างนั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 50
      

fiogf49gjkf0d

คันนี้แต่งภายนอกเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อยก็ดูดีขึ้นเยอะ

เครื่องยนต์ 2.7 VVT-I ซึ่งเจ้าของรถแหย่ผมเล่นๆ (ด้วยท่าทีเป็นมิตร) ว่าระบบรถคันนี้ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยี่ช่วยทางด้านไอดีอยู่แล้ว ส่วนท่อไอเสีย VCE ทำให้ไอดีเข้าไปเผาไหม้ได้มากขึ้นในรอบเดินเบาและรอบกลาง มันทำได้เหรอแล้วจะไม่กวนกันเหรอ ผมตอบว่าไม่เป็นไร (คำตอบอาจจะดูไม่ถูกหลักการ ก็ไม่ได้อธิบายอะไร) แต่ ตรงนี้สำคัญมันช่วยได้ มันทำได้ ดีและแรงด้วย ทั้งรอบต้นที่ไม่ว่ารถคันไหน (มากกว่า 90% ในท้องตลาด ผมกล้าพูดอย่างนี้ ที่ยังให้รอบต้นไม่ได้เต็มที่ของมันจริงๆ )

ท่อไอเสีย VCE จะมาช่วยเพิ่มสมรรถนะตรงช่วงรอบต้นให้ดีขึ้น (ถึงแม้บางคันเช่นดีเซล จะดีอยู่แล้วในรอบต้น) ให้แรงขึ้นอีก รอบกลางซึ่งคุณอาจจะไม่คาดหวัง ให้แรงขึ้นได้ ทั้งๆ ที่ติดตั้งท่อไอเสีย VCE เพิ่มเข้าไปเฉยๆ ไม่ได้ไปเปลี่ยนแทนหม้อพักตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งหลายคนกังขามากว่ามันจะแรงขึ้นมาได้อย่างไร

คำอธิบายถูกหลักการอาจจะไม่มี และไม่จำเป็นตราบใดที่มันทำได้อย่างได้ผล (ผลการทำงานเกิดจากลิ้นในท่อไอเสีย VCE ปรับขนาดรูท่อสัมพันธ์กับรอบเครื่อง) และได้ผลมากด้วย อย่างรถที่ผมใช้งานอยู่ เกียร์ธรรมดามาสด้าสองรอบต่ำไม่ดีช่วงก่อนสองพันรอบจะไม่ดีแต่เลยจากนั้นจะยอดเยี่ยมมาก ก่อนติดตั้งท่อไอเสีย VCE เวลาผมออกตัวเกียร์ 1 ผมจะปล่อยครัชแบบเลียคันเร่งนิดๆ พร้อมกับเหยียบคันเร่งไปด้วยซึ่งก็ไม่อยากจะสมูทเลย (รู้สึกว่าขับลำบากในช่วงออกตัว)

ปัจจุบันใช้ท่อไอเสีย VCE อยู่ ช่วงรอบเครื่อง 1500-2000 จะมีแรงดึงเยอะกว่าเก่าชัดเจน ผมแค่ปล่อยครัชรถมันก็เริ่มเคลื่อนตัวแล้วหละผมแตะคันเร่งนิดเดียวรถก็พุ่งออกไปอย่างราบรื่นมาก ของเดิมถ้าทำแบบนี้จะกระตุกและมีสิทธิ์ดับ (เจอหลายครั้งตอนออกรถใหม่ๆ ยังไม่ได้ติดท่อไอเสีย VCE)

และเช่นกันถ้าผมเลียครัชและกระแทกคันเร่งแบบเก่ามาสด้าสอง MT ที่ออกตัวไม่ดีก็จะกระชากเวลาออกตัวเลยทีเดียว

เจ้าของ 2.7 VVT-I ก็พูดต่อว่าผมขอแค่ให้มันประหยัดขึ้นเวลาวิ่งรอบต่ำๆ แค่นั้น

ผมตอบว่า ไม่ใช่ได้ความประหยัดในช่วงรอบต่ำ แต่ได้ความประหยัดในช่วงรอบกลางด้วย

เจ้าของ 2.7 VVT-I ก็พูดว่าผมได้เฉลี่ย 9 กม/ล E85 (มีกล่องสำหรับ E85)

ผมตอบว่าของผม mazda 2 MT ไม่มีกล่อง ได้เฉลี่ย 11-12 E85 ลำลูกกา-พญาไท (ส่งลูกมาโรงเรียน) ถ้ารถติดมากก็ 10 ผมขับค่อนข้างเร็วนะ คือชอบกดไปเลยไม่ค่อยชอบเชนเกียร์เวลารถคันหน้าเบรคผมก็แตะเบรคไม่ต้องเกรงใจว่าเดี๋ยวเหยียบใหม่จะอืดเพราะพอถึงจังหวะเหยียบใหม่ก็มีแรงดึงพุ่งต่อได้ทันทีกดคันเร่งลักษณะเดิมไม่มีการกดลึกมีแรงเหลือๆ ของเดิมทำแบบนี้ไม่ได้ ต้องกดลึกก่อนจึงจะผ่อนได้ ต่างกัน ของเดิมขนาดที่กดคันเร่งลงไปแล้วรถยังเฉยอยู่เลยในบางช่วงรอบเครื่อง

(แต่การใช้ E85 กับมาสด้าสอง ผลเสียก็มีเหมือนกัน เช่น พอใช้งานถึงประมาณ 13000 กม เกย์น้ำมันจะเริ่มเพี้ยน หมายถึงเติมน้ำมันเต็มแต่ขีดน้ำมันจะขึ้นไม่หมด ค่อยๆ หายไปทีละเม็ดๆ แต่การใช้งานอืนๆ ก็ยังไม่พบอะไรให้น่าวิตก ตอนนี้เสียค่าน้ำมันตก 1.9-2-2.1 บาท/กิโลเมตรในขณะที่ขับค่อนข้างเร็วกว่าคันข้างๆ เล็กน้อยก็พอใจ)

สุดท้าย เจ้าของ 2.7 VVT-I ก็พูดต่อว่าคุณช่างต่อสู้มาก

ผมตอบว่า ใช่ ผมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์เยอะมาก (พัฒนาตรงไม่ให้มีเสียงในรอบเดินเบาซึ่งพัฒนาตรงจุดนี้สำเร็จมาได้ราวๆ หนึ่งปี) และก็ตอบกระทู้ที่จงใจจะให้ข้อมูลผิดๆ คล้ายๆ จะใช้วิธีเอาคนหมู่มากลากไปอย่างนั้นหรือ หรือทำขาวให้เป็นดำทำดำให้เป็นขาว เอาปลาเป็นไปคลุกปลาตาย

คนที่ไม่รู้จะคิดว่าผลิตภัณฑ์ของผมทำง่ายๆ ราคาแพงเกินเหตุ และดูแคลน ตอนรุ่นแรกๆ ที่เป็นเหล็กทั้งอันอันนี้ไม่สวยจริงมีทั้งคนติในเรื่องที่จริงบ้างไม่จริงบ้าง จริงคือมีเสียงในรอบเดินเบา ไม่จริงคือที่หาว่ามันไม่มีผลอะไรเลยทั้งๆ ที่ทดสอบง่ายมาก หาที่เป็นเนินนิดๆ ลองดูซิดีเซลที่ว่าออกตัวไม่ต้องแตะคันเร่งเอาแบบนั้นหาจนได้เนินที่ทำแบบนั้นแล้วออกตัวรถไม่ค่อยจะเคลื่อน (หมายถึงออกตัวพอไหวอยู่แต่ทำท่าจะไม่ไหวแล้ว)

ทีนี้ทำแบบเดียวกันแล้วติดท่อไอเสีย VCE เข้าไป รับรองว่าคราวนี้จะมีแรงออกตัวเยอะกว่าเก่าแน่ๆ ชัดๆ แรงกว่าและพุ่งกว่า ช่วงรอบกลาง 50-100 ดีกว่าเดิมแน่นอน และรอบปลายไม่อั้นด้วย คุณลองคิดดูว่ามีหม้อพักทีไหนทำได้อย่างนี้บ้าง (ได้ต้นแรงๆ แต่ปลายไม่อั้น) ไม่มีหรอกครับ มีแต่คำโฆษณาที่พอใช้งานจริงๆแล้วทำไม่ได้ ต้องเลือกเอาว่าจะเอาที่ทำได้จริงหรือที่คิดว่ามันทำได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 51
      

fiogf49gjkf0d

ลูกค้าท่อไอเสีย VCE ส่วนใหญ่จะไม่ได้เป็นสมาชิดเว็บใดๆ แต่

//////คราวนี้คัดมาจากความเห็นของเจ้าของรถโดยตรงที่ตอบลงใน Lancerclub ครับ//////

ตอบ #31 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2011, 02:51:46 pm

พี่พรอ้างถึงขนาดนี้ เลยต้องขอcommentกันหน่อยครับ

ผมไปติดVCEเมื่อวันศุกร์ก่อนไปแรลลี่ ก็ตั้งใจจะเอาไปลองวันที่เราแข่งแรลลี่กันนั่นแหละ เช้ามาก็ได้ลองเลย เพราะต้องทำเวลาพากรรมการเข้าประจำTC ก็ต้องบอกว่ารถวิ่งได้ดีขึ้น แต่ใจก็ยังพะวงเกี่ยวกับการแข่งขัน จึงยังไม่ได้จับอาการอะไรมากมาย เพียงแต่รู้สึกว่ารถวิ่งดีขึ้น แต่เช้าวันอาทิตย์พี่พรก็โทรมาหา ถามไถ่ว่าผลเป็นอย่างไรบ้าง ก็ได้แต่บอกพี่เค้าไปว่า เออ...มันวิ่งดีขึ้น

แต่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมไปแข่งแรลลี่ที่จัดโดยกรมประชาสัมพันธ์ จริงๆแล้วงานนี้ไม่ต้องทำเวลาอะไรมากมาย แต่ด้วยความอยากลอง ก็เลยลองจับดูว่าอาการรถจะเป็นอย่างไร ปรากฏว่า การที่รถวิ่งดีขึ้นที่ผมรู้สึกนั้น มาจากแรงบิดในรอบต่ำมาเร็วขึ้น (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เห็นชัดๆ /พี่พร) จะอยู่ในช่วงประมาณ 1800 RPM ไปจนถึง 2500RPM ซึ่งเป็นช่วงที่ชะลอหา รูป/ป้าย/RC แล้วออกตัว คราวนี้ก็มันส์ล่ะครับ เวลาเขาโค้ง หรือเวลาสาด แรงบิดมาต่อเนื่อง แล้วความเร็วในช่วง 80-110 กม./ชม. ที่ใช้ประจำมันมาเร็วขึ้น
(หมายถึงแรงขึ้น คือดึงแบบที่รู้สึกได้ในช่วงรอบเครื่องดังกล่าวที่เจ้าของรถพราโด้ 2.7LPG คันนั้นรู้สึก แต่จริงๆ แล้วรถจะเริ่มไหลคือแรงขึ้นตั้งแต่รอบเดินเบาเริ่มออกตัวแล้วละครับแต่เจ้าของรถเขาบรรยายความรู้สึกนั้นไม่ได้ คือเหยียบคันเร่งจมน้อยกว่าเก่าแต่รถวิ่งพุ่งขึ้นดังที่ต้องการได้ จะบรรยายได้ก็ต่อเมื่อดึงแบบที่เคยรู้สีกชัดเจนแบบก่อนหน้านั้นในช่วงรอบเครื่องที่สูงกว่านี้แต่คราวนี้มารู้สึกแบบนั้นที่รอบเครื่องที่ต่ำลง /พี่พร)

สรุปได้ว่า สำหรับผม ถือว่าได้ผลครับ แต่ต้องบอกว่า ที่เขียนมานี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับ ไม่ได้ขึ้นdynoที่ไหน (มีเหน็บพี่พรนิดหน่อยฮะฮ่า/พี่พร) แต่ถือว่าพอใจในระดับนึง /comment ของเจ้าของพราโด้ 2.7/lancerclub (คัดมาโดยพี่พร)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 52
      

fiogf49gjkf0d

แสดงความคิดเห็นย่อย