คำตอบที่ 231
fiogf49gjkf0d ท้องฟ้าเย็นๆฝั่งตะวันตกมีสีสวยงามบ่อยๆ แถวๆระนองก็บอกอุกาฟ้าสาง อะไรเกิดก็เกิดเราตั่งรับเตรียมไว้นะครับ
ขอเพิ่มมาดูเวปสนุกมาเจอข่าว ที่ผมไปสวนสยามแล้วท้องฟ้ามีสีตามภาพ เกิดเหตุอย่างที่คิดตามภาพเลย
ความคืบหน้าล่าสุด สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรุมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เมื่อเวลา 16.44 น. เกิดเหตุแผ่นดินไหวบนเกาะภูเก็ต ขนาด 4.3 ริกเตอร์ ที่ อ.ถลาง บริเวณรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุแผ่นดินไหว 5.3 ริกเตอร์ที่ประเทศอินโดนีเซีย เพียง 2 นาที ทำให้ประชาชนใน จ.ภูเก็ต สามารถรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ชัดเจน จนชาวท้องถิ่นบางรายระบุว่าเหมือนเกิดขึ้นอยู่บนเกาะภูเก็ตเอง เป็นเหตุทำให้ทางสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว้เกิดความสับสนทางข้อมูล ส่วนทางด้าน ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ได้ออกมายืนยันข้อมูลเดียวกันว่า 16.44 น. เกิดแผ่นดินไหวบนบกขนาด 4.3 ริกเตอร์ที่ จ.ภูเก็ต
ขณะที่คนในโลกโชเชียลเน็ตเวิร์ก ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ในกรณีดังกล่าวว่า ระบบการเฝ้าระวังเตือนภัยของไทยยังไม่มีประสิทธิภาพพอ
เมื่อเวลาประมาณ 16.46 น. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ตรวจพบแผ่นดินไหวขนาดประมาณ 5.5 ริกเตอร์ บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ถึงภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะที่ จ.ภูเก็ต บริเวณแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หาดป่าตอง หาดกมลา อำเภอเมืองภูเก็ต ประชาชนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน พากันวิ่งหนีแตกตื่นออกจากบ้านเรือนและอาคารสูงกันวุ่นวาย รวมทั้งมีรายงานว่าระบบการสื่อสารในพื้นที่ขัดข้องไปในชั่วขณะ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดรายงานว่าจาก สำนักแผ่นดินไหวสหรัฐฯ หรือ USGS ได้ระบุว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.3 ริกเตอร์ ลึกจากพื้นดินประมาณ 14.7 กิโลเมตร บริเวณใกล้เคียงกับจุดที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา เบื้องต้นคาดว่าเป็นเพียงอาฟเตอร์ช็อก และไม่น่าจะเกื้อหนุนให้เกิดคลื่นสึนามิตามมาแต่อย่างใด
fiogf49gjkf0d พี่กบ55555555สิ้นไรก็สิ้น ไม่มีวันสิ้นจ้าวโลก 55555555555555555 จาก : TTC077(TTC077) 16/4/2555 19:16:55 [124.120.183.22] |
55555... จาก : puky(puky) 17/4/2555 0:18:32 [119.46.218.1] |
แสดงความคิดเห็นย่อย
|
|
|
จาก TTC-077oTAKOBo
124.120.183.22
จันทร์, 16/4/2555 เวลา : 19:02 IP : 124.120.183.22
|
แก้ไขคำตอบ ลบคำตอบ 115998
|
|
คำตอบที่ 232
fiogf49gjkf0d วันนี้ ไหว แบบงง ครับ เมือครั้งก่อนไหนแบบเวียนหัว ครั้นนี้ แรงๆๆๆๆๆ มากๆๆ ครับ รู้สึกกันทั้งบ้านเลย
|
|
จาก ลมหนาว
118.173.74.233
จันทร์, 16/4/2555 เวลา : 21:43 IP : 118.173.74.233
|
แก้ไขคำตอบ ลบคำตอบ 116001
|
|
คำตอบที่ 233
fiogf49gjkf0d ประกาศ...
สำหรับท่านที่ตระหนักถึงภัยพิบัติที่คาดว่าจะได้ประสพเร็วๆนี้...
ขอให้ท่านเตรียมเป้ฉุกเฉินและเป้ยังชีพได้แล้วครับ.. เต็มอัตราศึก
สิ่งของมีค่า สิ่งที่ท่านรู้สึกว่าขาดไม่ได้เตรียมไว้ในเป้ได้เลย..
เงินสดที่พร้อมจะใช้จ่าย.. น้ำมันให้เต็มถังไว้เสมอ..
ปืนผาหน้าไม้.. อาวุธปืนเครื่องกระสุนเตรียมให้พร้อมรับมือภัยจากคน..
เส้นทางสำหรับหนีออกนอกเขตกรุงเทพและปริมณฑล.. คิดวางแผนไว้ได้เลยครับ
fiogf49gjkf0d ฟันธงได้เลยฝั่งพม่าล้านเปอร์เซ็นเตรียมไว้ก่อนเลยครับตรงไหนของพม่าก็แถวๆเมืองเย จาก : TTC077(TTC077) 17/4/2555 17:45:12 [124.122.102.50] |
มีรถหลายๆคันก็ทยอยๆ เอาไปจอดที่อื่นได้เลยนะคับ .... อิอิ จาก : ttc009(ttc009) 17/4/2555 19:21:59 [49.48.102.135] |
เตรียมเล็งหาที่จอดไว้แล้วครับคุณหนุ่ม.. กำลังเล็งหาที่ขนของไปเก็บเช่นกัน จาก : 005 (005 ) 17/4/2555 21:04:11 [110.168.11.6] |
โซนพม่า.. อันดามัน.. ไม่เหลืออยู่แล้วครับพี่กบ... ที่ผมกลัวคือ.. อ่าวไทยครับ จาก : 005 (005 ) 17/4/2555 21:05:18 [110.168.11.6] |
แสดงความคิดเห็นย่อย
| |
|
จาก BoyDogtag,TTC-005
202.122.130.31
อังคาร, 17/4/2555 เวลา : 16:54 IP : 202.122.130.31
|
แก้ไขคำตอบ ลบคำตอบ 116009
|
|
คำตอบที่ 234
fiogf49gjkf0d Copy มาให้อ่านครับ..
++++ บทความนี้ยาวมาก แต่ก็อยากให้อ่านกัน เพราะสักวันนึงมันอาจจำเป็นก็ได้ ++++
++++ บทความนี้ส่วนใหญ่ผมคัดลอกมากจากข้อมูลท้ายเล่มของหนังสือการ์ตูนที่ชื่อว่า 51 มหาวิบัติวันสิ้นโลก หรือในชื่อญี่ปุ่นว่า
Kanojo wo Mamoru 51 no Houhou ซึ่งเอื้อเฟื้อข้อมูลโดยคุณ มิโนรุ วาตานาเบะ นักเขียนประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันภัยพิบัติของประเทศญี่ปุ่น ++++
อนึ่ง บทความนี้เกืดขึ้นเนื่องจากเห็นหลายๆท่านตื่นตัวมากขึ้นกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นถี่เหลือเกินในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา
และล่าสุดวันนี้ก็เกิดแผ่นดินไหวและซึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น หลายท่านก็พากันใจหายไปตามๆกัน
ตัว ผมเองก็คุยผ่านเมลกับเพื่อนที่ไปทำงานที่นั่น และค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อยว่าคนที่นั่นแตกตื่นเพียงชั่วโมงแรกหลังจาก เกิดเหตุการณ์เท่านั้น
คำตอบที่ได้รับคือ ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติในประเทศนั้นถูกฝึกให้เตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติในรูปแบบต่างๆเป็นประจำอยู่แล้ว
ผมเลยมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ที่นานทีปีหนถึงจะเจอภัยธรรมชาติหนักๆสักครั้ง
แผ่นดินไหวนี่ไม่ต้องพูดถึง โอกาสเกิดต่ำมากเพราะไม่ได้อยู่ตรงรอยต่อของเปลือกโลก
แต่ อย่างว่าครับ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ผมจะขอนำเสนอข้อมูลวิธีป้องกันและช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่นเวลาที่เราประสบ ภัยแป่นดินไหวไว้ในนี้นะครับ
เพราะถ้ามันเกิดขึ้น คงไม่มีฮีโร่หรือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเราแน่ๆ
สิ่งที่จะช่วยเราได้คือ สติ การตัดสินใจและปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเท่านั้น จึงจะทำให้เราสามารถช่วยตัวเองและผู้อื่นให้รอดตายได้
จากผู้ที่เคยประสบแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เคยบอกว่า "เหมือนเข้าไปอยู่ในรถผสมปูน"
จง ลืมความเชื่อเก่าๆเสียที่ว่าเวลาเกิดแผ่นดินไหวให้หลบอยู่ใต้โต้ะ ความเป็นจริงถ้าเกิดแผ่นดินไหวขนาด6ริตเตอขึ้นไป ผู้ที่อยู่ในตึก อาคาร หรือบ้านเรือนจะอันตรายมาก
แรงสั่นสะเทือนจะทำให้ข้าวของและเฟอร์นิเจอร์ในบ้านกระเด็นไปมา บ้านอาจจะหลุดลอยออกจากฐานและพังทลาย
และ ระยะเวลาสั่นสะเทือนนั้นไม่แน่นอน อาจจะแค่10วินาทีหรือนานหลายนาที ซึ่งในตอนนั้นเราต้องรีบตัดสินใจทันทีว่าสั่นสะเทือนขนาดนี้เราควรอยู่ที่ ไหน
ถ้าสั่นแค่นิดหน่อยๆแค่น้ำในแก้วน้ำสั่นๆหรือเพียงมึนหัวนิดๆ ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรมาก
แต่ ถ้าสั่นหนักถึงขนาดหนังสือบนชั้นกระเด็นออกมา โคมไฟแกว่งเป็นวงกว้าง หรือโต้ะเคลื่อนที่ได้ รีบออกมาจากที่พักหรืออาคารเถอะครับ อยู่ต่อคุณอาจโดนฝังทั้งเป็นก็ได้
+++++++
ท่อใต้ดินลอย พื้นดินกลายเป็นคลอง
เป็น ที่ทราบกันว่าถนนหนทางบ้านเรานั้นดีเสียเหลือเกิน และพื้นที่ส่วนใหญ่ก็เป็นดินอ่อน ดังนั้นสิ่งที่คุณจะเจอแน่ๆหากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงนั่นคือ
ปรากฎการณ์ดินเหลวตัว โดยที่พื้นดินจะอุ้มน้ำใต้ดินจนทำให้ดินกลายสภาพเป็นโคลน
และท่อใต้ดินหรือท่อระบายน้ำที่ฝังตเวอยู่ก็จะลอยตัวขึ้นมา ทำให้ยากต่อการเดินทางและการคมนาคมในจุดเกิดเหตุจะเป็นอัมพาต
ที่ เลวร้ายกว่านั้นก็คือ การที่ดินเหลวตัวนั้นจะทำให้ฐานของตึกที่เป็นเสาฝังลงไปในพื้นดินอาจเกิดการ โยกตัวหรือหัก ทำให้ความสามารถในการรองรับหรือประคองตึกลดต่ำลง และพังทลายในที่สุด
จึงอย่างที่บอกไว้เบื้องต้นครับ ลืมความเชื่อเก่าๆเสียว่าอยู่แต่ในบ้าน/ตัวอาคารปลอดภัยที่สุด ถ้าเกิดแผ่นดินไหวระดับรุนแรง เราอาจถูกฝังทั้งเป็นก็ได้
+++++++
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าแผ่นดินไหวคือ อาฟเตอร์ช้อค
เมื่อเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง สิ่งที่ตามมาเสมอคืออาฟเตอร์ช้อค ระยะเวลาในการเกิดอาฟเตอร์ช้อคนั้นก็ไม่แน่นอน
จากสถิติของศูนย์ควบคุมภัยพิบัติประเทศญี่ปุ่นบันทึกไว้ว่า อาฟเตอร์ช้อคที่เร็วที่สุดคือเกิดหลังจากแผ่นดินไหว 7นาที
และที่ร้ายกว่านั้นคือมีอาฟเตอร์ช้อคเกิดหลังอาฟเตอร์ช้อคอีกรอบหลังจากผ่านไป 40นาที
บางครั้งก็ต้องรอกันครึ่งวันเลยทีเดียว เช่นแผ่นดินไหวทางตอนบนของจังหวัดมิยางิในวันที่ 26 กค. 2003 เกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.5
หลังจากนั้นราว7ชั่วโมง ก็เกิดอาฟเตอร์ช้อคที่มีแรงสั่นสะเทือน 6.2
ดัง นั้นต่อให้เรารอดจากแผ่นดินไหวไปแล้วก็ตาม เราก็ยังต้องตื่นตัวเสมอเพื่อรับมือกับอาฟเตอร์ช้อคที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร และจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด
ถึงรอดจากแรงสั่นสะเทือน แต่ก็จงระวังตัวจากภัยระลอก2
อย่าง ที่เห็นในข่าวครับ ถ้าเกิดแผ่นดินไหวในทะเล สิ่งที่จะเกิดตามมาคือคลื่นยักษ์สึนามิ ซึ่งทั้ง2สิ่งนี้ทำให้ตึกรามบ้านช่อง ถนนหนทางและสะพานพังถล่ม
สิ่งเหล่านี้เราจะถือว่าเป็นภัยระลอกแรก
แต่ภัยระลอก2ก็คือ ไฟไหม้ น้ำหยุดเดิน ไฟฟ้าดับ ซึ่งเป็นการทำให้ผู้ประสบภัยต้องลำบากยิ่งกว่าเดิม
โดยเฉพาะไฟไหม้นั้นอันตรายมากหากคุณอาศัยอยู่ในเขตชุมชนแออัด หรืออาศัยอยู่ในตึกสูง
ดังนั้นจงระวังผลกระทบจากแผ่นดินไหวนี้ให้ดีๆนะครับ
+++++++
พายุหมุนไฟ เรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นจริง
เวลา ที่เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่หลังแผ่นดินไหว สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือเปลวเพลิงก่อตัวเป็นรูปร่าง ความร้อนทั้งหลายลอยตัวสู่ท้องฟ้าผสมกับมวลอากาศเย็น
และก่อตัวเป็น พายุหมุนในท้ายที่สุด ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้ง่ายในพื้นที่โล่งกว้าง พายุหมุนนี้จะแรงมากจนสามารถดูดคนที่อยู่แถวนั้นขึ้นไปได้
และเนื่องจากพายุลูกนี้มีส่วนประกอบของไฟและความร้อน ผู้ที่โดนดูดเข้าไปก็จะอยู่ในสภาพ ย่างสด ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่รอด
ที่ญี่ปุ่นเคยมีผู้เสียชีวิตเพราะพายุหมุนไฟนี้ถึง38000คน จากผู้ที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว40000คนเชียวนะครับ น่ากลัวมากๆ
+++++++
14 นาทีแห่งความเป็นและความตาย
จากสถิติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ โกเบ โอซาก้า และอาวาจิ จะมีผู้เสียชีวิตภายใน14นาทีหลังเกิดเหตุถึง 80%
และในพื้นที่ๆเกิดเหตุ หากเลย72ชั่วโมงไปแล้วอัตราการรอดชีวิตจะต่ำมาก และการช่วยชีวิตก็จะทำได้ยากขึ้น
ดังนั้น ในช่วงเวลาหลังเกิดเหตุมีแต่ผู้ที่รอดชีวิตเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตด้วยกันได้
หากไม่เหนือกว่าบ่าแรง ไม่จำเป็นต้องรอให้ ตำรวจ หน่วยพยาบาล หรือหน่วยกู้ภัยมาก็ได้ครับ พยายามช่วยเท่าที่จะช่วยได้ไปก่อน
อย่างน้อยก็จะสามารถยื้อชีวิตหรือบรรเทาอาการบาดเจ็บให้น้อยลงจนกว่าจะถึงมือหมอได้ครับ
4 สิ่งที่ต้องพกติดตัวยามเกิดภัยพิบัติ
1. โทรศัพท์มือถือ - ถือเป็นของสำคัญที่สุด เพื่อเอาไว้โทรบอกคนอื่นว่าเราปลอดภัยดีหรือไม่ ถึงแม้หลังเกิดเหตุจะใช้การไม่ได้ทันที
แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็จะใช้การได้ ดังนั้นอย่าลืมพกแบทสำรองหรือที่ชาจเอาไว้นะครับ
2. วิทยุ - เชื่อว่ายุคนี้ไม่มีใครพกวิทยุไปไหนมาไหนแน่ๆ แต่เมื่อถึงเวลาพยายามหาวิทยุเอาไว้จะเป็นการดีครับ เพื่อติดตามข่าวสารที่จำเป็นอย่างใกล้ชิด
และแน่นอนคือ อย่าลืมหาถ่านสำรองเอาไว้ด้วยล่ะ
3. น้ำดื่มใส่ขวด - หลังจากเกิดภัยพิบัติ น้ำดื่มที่เราพกติวตัวไว้นั่นแหละคือน้ำแห่งชีวิตองเราเลยล่ะ แต่อย่าดื่มรวดเดียวหมดล่ะครับ
ค่อยๆจิบทีละน้อยเพื่อให้หายคอแห้งเท่านั้น และที่สำคัญเก็บขวดเปล่าติดตัวเอาไว้ เพื่อเอาไว้เก็บน้ำจากแหล่งน้ำที่หาได้
น้ำยังสามารถใช้ล้างแผลได้อีกด้วย จำเป็นมากจริงๆครับ และหากหวังน้ำจากศูนย์ผู้ประสบภัย ให้คิดไว้เลยว่ามักจะใช้เวลา2-3วัน
จึง จะมีการตั้งศูนย์ผู้ประสบภัยตามจุดต่างๆ และเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามีน้ำเหลือมาถึงเรา หรือมีน้ำในแท้งค์น้ำแต่ไม่มีขวดหรือภาชนะเพียงพอ
ดังนั้นเก็บขวดเปล่าไว้กับตัวจะดีที่สุดครับ
4. กระดาษชำระและผ้าเช็ดหน้า - คนเราต้องขับถ่ายกันอยู่แล้ว และในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ หลังจากท่านถ่ายหนักท่านจะใช้อะไรทำความสะอาดล่ะครับ
น้ำล้าง เหรอ...ไม่นะ สถานการณ์นั้นน้ำมีไว้กินและทำความสะอาดแผลเท่านั้น ใช้กระดาษชำระหรือเศษผ้าเท่านั้นครับ อย่าเอาน้ำไปเสียกับเรื่องไร้สาระแบบนั้น
และที่สำคัญ กระดาษชำระยังใช้ปฐมพยายามได้ด้วยนะ
+++++++
ผ้าอนามัยใช้ห้ามเลือดได้ดีนักแล
ยามใดที่เกิดแผ่นดินไหว ก็มักจะมีของหล่นลงมาหรือกระจกแตก เราอาจจะเห็นคนรอบตัวหัวแตกหรือบาดแผลอาบไปด้วยเลือดกันบ้าง
เมื่อ เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น สิ่งแรกที่เราต้องมองหาคือ กระดาษทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้า เพื่อใช้ในการเช็ดเลือดและมองหาปากแผลว่าหนักขนาดไหน
ในกรณีที่ เลือดไหลไม่หยุด การใช้ผ้าพันแผลไว้ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่จะดีที่สุดถ้าใช้ผ้าอนามัย เพราะมันมีคุณสมบัติในการซับเลือดได้ดี อีกทั้งยังสะอาดอีกด้วย
การห้ามเลือดนั้นก็ไม่ยาก ถ้าบาดแผลอยู่ที่แขนหรือขา ก็ให้เอาผ้าผูกเหนือแผลไว้เพื่อลดการไหลของเลือดไปยังแผล แล้วค่อยนำสิ่งที่จะใช้ห้ามเลือดกดปากแผลและผูกเอาไว้
สิ่งสุดท้าย ที่ห้ามลืมก็คือ การกุมมือผู้บาดเจ็บและพยายามพูดให้กำลังใจ เพราะเวลาที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้มักจะทำให้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยิ่งตัวเองเป็นผู้บาดเจ็บด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่
การทำให้ผู้ป่วยครองสติเป็นปกติได้นั้นสำคัญไม่แพ้กันเลยนะครับ
+++++++
น้ำคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่กลับมาหลังสุด
เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นในเมืองใหญ่สาธารณูปโภคจะถูกตัดขาดในช่วงเวลาหนึ่ง
รัฐบาลญี่ปุ่นเคยคาดการณ์ไว้ว่าการฟื้นฟูสาธารณูปโภคหลักๆต้องใช้เวลาแตกต่างกันไปดังนี้
โทรศัพท์ 2 สัปดาห์ / ไฟฟ้า 6 วัน / น้ำประปา 1 เดือน
2อย่าง แรกอาจไม่หนักหนาเท่าไร แต่น่ำประปานี่สิครับ ขนาดประเทศไฮเทคอย่างญี่ปุ่นยังต้องใช้เวลาถึง1เดือนกว่าจะฟื้นฟูได้ แล้วประเทศเราจะขนาดไหนกันล่ะเนี่ย
สิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ ลืมเรื่องอาบน้ำไปซะ พยายามกักตุนน้ำให้ได้มากที่สุด ตัวเหม็นหัวเหนียว ก็ยังดีกว่าอดน้ำตายใช่ไหมครับ
คนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย อัตรารอดจะค่อนข้างต่ำ
เคยดูหนังจำพวกหนีตายอะไรพวกนี้ไหมครับ สังเกตุไหมครับว่าสิ่งที่พวกตัวเอกทำแทบทุกเรื่องคืออะไร?
วิ่ง ปีน กระโดด ทำสิ่งใช้แรงและพลังงานทั้งหลาย เรื่องจริงก็เหมือนกันครับ ความฟิตของร่างกายก็เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการเอาตัวรอด
ใครจะรู้ว่าเมื่อไรคุณจะต้องวิ่งหนีคลื่นสึนามิ หรือของที่คลื่นพัดมาด้วยจำพวกรถหรือของใหญ่ต่างๆ
หรือแม้แต่เวลาไฟไหม้ หลังจากสำรวจควันและทิศทางลมแล้ว การวิ่งหนีให้พ้นจากต่ำแหน่งใต้ลม หรือการพาตัวเองออกจากควันไฟ
ล้วน แล้วใช้ความอึดทางร่างกายและจิตใจทั้งนั้นครับ คนที่ร่างกายอ่อนแอไม่ค่อยได้ออกกำลังกายจะอันตรายมากหากเข้าไปอยู่ใน สถานการณ์เช่นนี้
ดังนั้น มาออกกำลังกายกันไว้ก่อนดีกว่าครับ นอกจากทำให้สุขภาพดีและหุ่นดีแล้วมันอาจทำให้เรารอดตายยามเกิดเหตุฉุกเฉินก็ได้นะ
+++++++
นั่งลงแล้วตะโกนว่า "ใจเย็นๆ!"
เวลาที่เกิดแผ่นดินไหว ไม่ว่าใครก็ต้องตกใจและตื่นตระหนกด้วยกันทั้งนั้น ในสมองจะคิดอะไรไม่ออกและว่างเปล่า
สิ่งที่คนทั่วไปมักจะทำก็คือวิ่งๆๆแล้วก็วิ่ง แต่ถ้าอยู่ในซอยหรือถนนแคบๆ การที่ต่างคนต่างวิ่งจะทำให้เกิดการเหยียบกันตาย
ถ้าเป็นไปได้ สิ่งที่ควรทำคือสูดหายใจลึกๆแล้วตะโกนให้ดังที่สุดว่า "นั่งลง!! ใจเย็นๆ!!"
การทำแบบนี้จะช่วยเรียกสติของผู้คนที่กำลังแตกตื่นให้กลับมาได้ไม่มากก็น้อย
ถือเป็นจิตวิทยามวลชนอย่างหนึ่งเอาไว้รับมือความวุ่นวายของฝูงชน เพราะไม่มีอะไรเท่าฝูงชนแตกตื่นขาดสติอีกแล้วนะครับ
+++++++
ส้นรองเท้าน่ะหักทิ้งไปซะ และอย่าสวมถุงน่องเด็ดขาด
2สิ่งนี้ไม่ได้ช่วยให้การเอาตัวรอดสูงขึ้นเลยครับ กลับกันจะต่ำลงด้วยซ้ำ
ส้น รองเท้าที่แหลมและสูง ทำให้หนีได้ช้าและลำบากต่อการเดินติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่หลายระดับ หารูหรือช่องเล็กๆ สอดส้นเข้าไปแล้วหักมันออกมาเลยครับ
เสียรองเท้าคู่โปรดก็ยังดีกว่าเสียชีวิตใช่ไหมล่ะครับ
ถุงน่อง จะอันตรายมากหากอยู่ในพื้นที่ไฟไหม้ เพราะถ้าถูกไฟลวกทั้งๆที่สวมถุงน่องอยู่ มันจะเป็นอะไรที่แย่สุดๆเลยล่ะครับ
ไนล่อนที่เหลวและร้อนเยิ้มติดแน่นกับขา มันทำให้ทรมาณสุดๆไปเลยนะ ถ้าเป็นไปได้ถอดเก็บไว้ก่อนเถอะครับ
+++++++
อาชญากรรมทางเพศ สาวๆจงพึงระวัง
ถึง จะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่นี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงที่มากับภัยแผ่นดินไหว หลังจากเกิดเหตุสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยส่วนมากจะดิ่งลงเหว
เพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่ซากปรักหักพังและความเสียหาย ใครจะรู้ครับว่าจะมีสวะสังคมบางกลุ่มที่จ้องจะหาประโยชน์จากเหตุการณ์ร้ายแรง
หรือแม้แต่คนธรรมดาแต่ศีลธรรมถูกทำลายสิ้นเพราะความสิ้นหวัง และที่ควรระวังที่สุดคือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล
เพราะมันอาจทำให้เกิดความสบายใจลืมทุกข์ แต่มันก็ทำให้สติหายไปด้วยเช่นกัน
เวลาปกติยังมีบ่อยไปครับเรื่องที่เมาเลยฉุดผู้หญิงข่มขืน แล้วนับประสาอะไรกับเวลาที่เลวร้ายชวนสิ้นหวังแบบนั้น
คุณมิโนรุ วาตานาเบ้ ผู้เอื้อเฟื้อข้อมูลเรื่องนี้ เคยไปทำข่าวแผ่นดินไหวที่โกเบในปี 1995 บอกว่าถึงแม้ไม่มีข้อมูลทางการออกมา
แต่จากการเข้าไปพบเจอกับผู้ประสบภัยในพื้นที่ก็พบว่ามีการข่มขืนเกิดขึ้นจริง
เช่น ผู้หญิงเข้าไปในที่ลับตาคนเพื่อปลดทุกข์ แล้วก็ถูกคนร้ายที่ซุ่มรออยู่จัดการก่อคดี หรือชวนเหยื่อไปทานอาหารในอาคารแล้วจัดการก่อคดี
หรือแม้แต่อาสาสมัครผู้หญิงที่ถูกล่อลวงให้ไปทำแผล และจากนั้นก็ถูกล่อลวงไปในที่ลับตาคนและก่อคดี
จุดร่วมสำคัญที่คุณวาตานาเบ้พบก็คือ "คนร้ายได้ดื่มเหล้าเข้าไปก่อนก่อเหตุ"
และอย่าได้หวังพึ่งตำรวจครับ เพราะเวลานั้นทุกคนต่างก็มีงานตึงมือกันอยู่แล้ว
ทางที่ดีผมขอแนะนำสาวๆทั้งหลาย หลังจากเกิดภัยพิบัติแล้ว เป็นไปได้หาอะไรมาปิดๆส่วนที่มันชะเวิบชะวาบไว้หน่อย
ล้างเครื่องสำอางออกซะ อย่าทำตัวให้เป็นที่ยั่วอารมณ์ของเพศตรงข้ามมากนัก พยายามหาเพื่อนผู้ชายที่ไว้ใจได้(ไว้ใจได้จริงๆน่ะ)
หรืออยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ๆไว้ก็จะดีมาก เพราะอย่างน้อยสาวๆกลุ่มใหญ่ก็คงพอช่วยกันพวกหื่นกามได้พอสมควร
เพราะผู้ชายเวลาขาดสติ หน้ามืด หื่นขึ้นสมองเนี่ย มันทำได้ทุกอย่างนะครับ
ตัวผมเองก็เป็นผู้ชาย และรู้ดีว่าเวลาหน้ามืดตามัวมันเป็นยังไง แหะๆๆ
ระบบการเรียงลำดับผู้บาดเจ็บของแพทย์กู้ภัย
การรักษาพยาบาลเวลาเกิดภัยพิบัติ ส่วนมากจะใช้ระบบ TRIAGE หรือการเรียงลำดับผู้บาดเจ็บ นั่นคือ "รักษาผู้ที่มีอาการสาหัสก่อน"
เนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงนั้นชั่วพริบตาก็จะมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก มิหนำซ้ำอุปกรณ์การแพทย์ทั้งหลายก็อาจได้รับความเสียหาย
ประกอบกับสาธารณูปโภคก็อาจเป็นอัมพาต เครื่องมือและบุคลากรก็มีจำกัด
หมอ จะละเลยผู้ที่มีอาการสาหัสที่อาจถึงแก่ชีวิตไม่ได้โดยเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้ผู้ที่อาการสาหัสและอาจเสียชีวิตหากไม่ได้้รับการรักษาก็จะถูกพา ตัวไปเข้ารับการรักษาก่อน
ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะมีผู้ประสบภัยแขนขาดขาหักอยู่ตรงหน้าก็ตาม แต่หากเห็นว่าไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตก็จะได้รับการรักษาทีหลัง
หรือแม้แต่ต่อให้สาหัส แต่ต่อให้เข้ารับการรักษาก็ไม่รอดอยู่ดี ก็จะถูกบอกปัดไม่ให้เข้ารับการรักษา
ระบบ นี้อาจดูโหดร้าย แต่ถ้าลองคิดดูดีๆแล้วถือว่าเป็นระบบที่เหมาะสมมาก หากมองในมุมที่ต้องการรักษาชีวิตผู้ประสบภัยไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ครับ
+++++++
จงเตรียมใจไว้ว่า จะไม่ได้กลับบ้านในเร็ววันแน่นอน
หลังจากที่เกิดภัยพิบัติร้ายแรงในเมืองใหญ่ แน่นอนว่าการคมนาคมจะเป็นอัมพาต
ถ้าบ้านอยู่ใกล้ๆและเดินกลับได้ก็ดีไป แต่ถ้าอยู่ไกลมากๆ และไม่น่าที่จะเดินไหว
สิ่งที่ต้องทำก็คือพยายามประคองสติเอาไว้ หาสิ่งยังชีพให้ได้มากที่สุด และค่อยๆเดินทางครับ
และอย่ารีบ ยิ่งรีบร้อน สภาพจิตของเราเองนั่นแหละที่จะยิ่งเตลิดจนอาจคุมไม่อยู่
เวลานั้นขอให้ยึดหลัก ช้าแต่ชัวร์ เอาไว้ดีกว่าครับ
สำหรับผู้ที่มาจากต่างจังหวัด ถ้าเป็นไปได้หากกลับไปยังที่พักไม่ได้ และติดต่อกับคนรู้จักไม่ได้
ก็อยู่แถวๆที่เกิดเหตุคอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยคนอื่นๆระหว่างที่รอความช่วยเหลือก็จะดีมากๆเลยครับ
+++++++
ป้องกันตัวเองจากข่าวลือที่เข้ามากระทบจิตใจ
เรื่องนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ เพราะนอกจากน้ำและอาหาร ข่าวสารก็เป็นสิ่งที่เราต้องติดตามตลอด
ซึ่งในช่วงนี้ข่าวลือจะมีเยอะมาก และต้องใช้วิจารณญาณการกรองข้อมูลให้ดีที่สุดนะครับ
เช่นว่ามีข่าวลือว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช้อคหรือคลื่นสึนามิกำลังพัดเข้ามา ข่าวลือพวกนี้จะทำให้เกิดความแตกตื่นและความวุ่นวายมาก
และที่แย่กว่านั้นก็คือ ข่าวลือเกี่ยวกับคน ในญี่ปุ่นช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งงใหญ่ในเขตคันโตก็มีข่าวลือว่า
ชาว ต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่นรวมตัวกันก่อความวุ่นวาย ทำให้เกิดจลาจลผู้ที่อยู่ในเขตประสบภัยไล่ทำร้ายฆ่าเข่นชาวต่างชาติที่ไม่ รู้อิโหน่อิเหน่ไปเป็นจำนวนมาก
ในบ้านเราที่ผมกลัวว่าจะเกิดขึ้นก็คือ ข่าวลือจำพวกว่า พวกเสื้อสีนั้นสีนี้ฉวยโอกาสก่อความวุ่นวายในพื้นที่อะไรทำนองนี้น่ะครับ
อย่างไรเสีย สิ่งที่ควรทำที่สุดก็คือฟังข่าวจากวิทยุหรือจากเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงไว้ จะเป็นการดีกว่าไปฟังจากปากต่อปากนะครับ
+++++++
บอร์ดฝากข้อความ
เคยเห็นในหนังประสบภัยที่ผู้คนพากันไปแปะกระดาษข้อความบอกถึงความเป็นไปของตัวเองหรือจุดนัดพบไหมครับ
หากเกิดขึ้นจริง การทำเช่นนี้นก็จะดีไม่น้อยในกรณีที่เราพลัดหลงกับกลุ่มเพื่อนหรือคนรู้จักและต้องการนัดหมายจุดนัดพบให้ไปเจอกัน
หรือการบอกว่าที่ไหนมีศูนย์ผู้ประสบภัย มีกี่จุด จุดไหนอยู่ตรงไหนบ้าง ห่างกี่เมตรกี่กิโลเมตร
ซึ่งจะสามารถช่วยผู้ประสบภัยที่จะผ่านมาทีหลังและไม่รู้เหนือรู้ใต้ว่าจะยังไงไปทางไหนดีได้มากทีเดียวครับ
+++++++
ผมหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับใครก็ตามที่ได้อ่านและต้องไปอยู่ในเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนั้นนะครับ
สำหรับ ผมนั้นจำเป็นมากๆเลยล่ะ เพราะผมคิดจะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ซึ่งคงไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้รึเปล่า ดูข่าววันนี้ก็เสียวใช่เล่นเลยครับ
และสำหรับผู้ที่อยู่ในไทย ถึงแม้ว่าประเทศเราค่อนข้างโชคดีที่ไม่ได้ตั้งอยู่ตรงรอยต่อของเปลืองโลก และระดับน้ำในอ่าวไทยค่อนข้างตื้น
ทำให้ยากต่อการเกิดสึนามิหลังแผ่นดินไหว แต่อย่างไรเสียกันไว้ดีกว่าแก้ครับ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม
หวังว่าถ้าวันนั้นมาถึง ข้อมูลนี้น่าจะช่วยพวกท่านได้ไม่มากก็น้อยครับผม
และสุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณ คุณมิโนรุ วาตานาเบ้ ผู้เอื้อเฟื้อข้อมูล และนักวาดการ์ตูนเรื่อง 51 มหาวิบัติวันสิ้นโลก คุณอุซามารุ ฟุรุยะ
ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความน่ากลัวและวิธีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้อย่างสนุกสนานและยอดเยี่ยมไว้ณ.ที่นี้ครับผม
|
|
จาก BoyDogtag,TTC-005
110.168.11.6
อังคาร, 17/4/2555 เวลา : 22:25 IP : 110.168.11.6
|
แก้ไขคำตอบ ลบคำตอบ 116012
|
|
คำตอบที่ 235
fiogf49gjkf0d เรื่องภัยพิบัติ... ตามที่ในหลวงบอกเมื่อต้นปี๒๕๕๕ โปรดฟังอีกครั้ง
ในหลวงพระราชทานพรปีใหม่ ๒๕๕๕ ไม่ประมาท มีสติปัญญารู้คิดตลอดเวลา
>>วันนี้ (31 ธ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพรปีใหม่แก่ประชาชนชาวไทยผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ มีใจความว่า>>
ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คนและขอขอบใจท่านเป็นอย่างมากที่ร่วมกันจัดงานฉลองอายุครบ 7 รอบให้อย่างเหมาะสมงดงามระหว่างปีที่แล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านเมืองนับว่าเป็นปรกติดีแต่พอเข้าปลายปีก็เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้ประชาชนหลายจังหวัดต้องประสบอันตรายและความเดือดร้อนลำบาก ความเสียหายครั้งนี้ดูจะร้ายแรงกว่าครั้งไหนๆ ที่ผ่านมา ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจอย่างสำคัญดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้หลายครั้งแล้วว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้น จะต้องมีทุกข์มีภัย มีอุปสรรค ผ่านเข้ามาเนืองๆ ไม่มีผู้ใดจะอยู่เป็นปรกติสุขอย่างเดียวได้
"ทุกคนจึงต้องเตรียมกาย เตรียมใจ และเตรียมการไว้ให้พร้อมเสมอ...
เพื่อเผชิญและป้องกันแก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อนต่างๆ ด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผลด้วยหลักวิชา และด้วยความสามัคคีธรรม"...
ในปีใหม่นี้จึงขอให้ประชาชนชาวไทยได้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทโดยมีสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดกำกับอยู่ตลอดเวลา ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใดก็เร่งกระทำให้สำเร็จลุล่วงไปให้ทันการณ์ทันเวลาผลงานทั้งนั้นจะได้ส่งเสริมให้แต่ละคนประสบแต่ความสุขความเจริญและทำให้ชาติบ้านเมืองดำรงมั่นคงและก้าวหน้าต่อไปด้วยความผาสุกสวัสดีขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้มีความสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีภัยตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน
|
|
จาก BoyDogtag,TTC-005
110.168.11.6
อังคาร, 17/4/2555 เวลา : 23:59 IP : 110.168.11.6
|
แก้ไขคำตอบ ลบคำตอบ 116014
|
|
คำตอบที่ 236
fiogf49gjkf0d Copy มาให้ลองค้นคว้าดูครับ...
รวบรวมแนวคิด ที่ได้จากพระราชนิพนธ์เรื่อง "พระมหาชนก"
มาช่วยกันถอดรหัสกันว่าในหลวงท่าน มีพระราชประสงค์ที่จะสื่อสาร พระราชทานแนวคิดให้พสกนิกรของพระองค์อย่างไรบ้าง
http://board.palungjit.com/f178/ตามรอย-พระมหาชนก-248273.html
ดร.สมิทธ กล่าวถึงในหลวง ...
อันเกี่ยวเนื่องกับเรื่องภัยพิบัติของบ้านเรา...
http://www.youtube.com/watch?v=5K_AkC9jIkU
|
|
จาก BoyDogtag,TTC-005
110.168.16.137
พฤหัสบดี, 19/4/2555 เวลา : 21:38 IP : 110.168.16.137
|
แก้ไขคำตอบ ลบคำตอบ 116026
|
|
คำตอบที่ 237
fiogf49gjkf0d กรุงเทพฯ เหมือน เม็กซิโกซิตี ที่ราบคาบจากแผ่นดินไหว 27 ปีก่อน
นักวิชาการ ระบุ กรุงเทพฯ มีความเสี่ยงเหมือน เม็กซิโกซิตี ที่ราบคาบจากแผ่นดินไหว เมื่อ 27 ปีก่อน ทั้งๆ ที่จุดศูนย์กลางอยู่ไกลกว่า 350 กิโลเมตร เหตุเพราะอยู่บนพื้นที่ดินอ่อนเช่นเดียวกัน และไม่ได้ออกแบบอาคารรองรับแผ่นดินไหว แจงมี 3 รอยเลื่อนที่กำหนดความเสี่ยงเมืองกรุง คือ รอยเลื่อนในเมืองกาญจน์ พม่า และแนวมุดตัวทางฝั่งอันดามัน ชี้ ควรสร้างอาคารที่รองรับการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว
รศ.ดร.อมร พิมานมาศ จากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประธานคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมโครงสร้างและสะพาน สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2554 มีความตื่นตัวในเรื่องแผ่นดินไหวกันมากขึ้น ซึ่งจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงทั้งในนิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จนถึงแผ่นดินไหวล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 เม.ย.55 นั้น อาคารสูงหลายแห่งในกรุงเทพฯ มีการสั่นไหวอย่างรุนแรง
เหตุที่อาคารสูงในกรุงเทพฯ สั่นไหวอย่างรุนแรง เนื่องจากตั้งอยู่บนพื้นที่ดินอ่อน หรือดินเลน เมื่อถูกกระตุ้น จึงขยายการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงได้ถึง 3 เท่า แม้เหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 26 ธ.ค.47 ที่เกาะสุมาตรา มีจุดศูนย์กลางอยู่ไกล 1,200 กิโลเมตร หรือแผ่นดินไหวในจีนที่อยู่ไกลออกไปถึง 2,600 กิโลเมตร ก็พบว่า มีการเขย่าของตึกสูงในกรุงเทพฯ แต่ รศ.ดร.อมร กล่าวว่า แม้อาคารสูงจะสั่นอย่างรุนแรง แต่ไม่ได้หมายความว่า จะต้องถล่มเสมอไป ส่วนหนึ่งเพราะอาคารสูงมักได้รับการออกแบบให้รองรับแรงลมระดับหนึ่งอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี ตึกสูงในกรุงเทพฯ ยังคงมีความเสี่ยงจากเหตุแผ่นดินไหวอยู่ดี โดย รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย จากคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) กล่าวว่า คลื่นสั่นสะเทือนจากพื้นดินมีความรุนแรงมากกว่าแรงลมอยู่มาก และแม้กรุงเทพฯ ไม่ได้ตั้งอยู่ในแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว แต่สภาพดินก็ขยายความรุนแรงได้ถึง 3 เท่า โดยเฉพาะความถี่ต่ำๆ จากแผ่นดินไหวจะถูกขยายความรุนแรงโดยอาคารสูงที่มีการโยกอย่างช้าๆ หรือมีความถี่ธรรมชาติที่ตรงกับคลื่นแผ่นดินไหว จึงเกิดการสั่นพ้อง หรือการกำทอนขึ้น
ทางด้าน รศ.ดร.อมร ได้เปรียบเทียบว่า กรุงเทพฯ มีความเสี่ยงจากแผ่นดินไหวเหมือนกรุงเม็กซิโกซิตี ของเม็กซิโก เนื่องจากมี 3 ปัจจัยคล้ายกัน คือ 1.ไม่มีรอยเลื่อนอยู่ใต้เมือง 2.ตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน และ 3.อาคารไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับแผ่นดินไหว ซึ่งเมื่อปี 2528 เกิดแผ่นดินไหว 8.5 ริกเตอร์ ห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตี ออกไป 350 กิโลเมตร ส่งผลให้อาคารต่างๆ ถล่มลงมา มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 10,000 คน
สำหรับเมืองไทยนั้น รศ.ดร.เป็นหนึ่ง กล่าวว่า มี 3 ปัจจัยที่กำหนดความเสี่ยงให้กรุงเทพฯ คือ รอยเลื่อนใน จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กิโลเมตร มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7-7.5 ริกเตอร์ รอยเลื่อนสะแกง หรือรอยเลื่อนสกายตามภาษาถิ่นในพม่าที่อยู่ห่างออกไป 400 กิโลเมตร มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ และแนวมุดตัวบริเวณเกาะนิโคบาร์ทางฝั่งอันดามัน (แนวเดียวกับที่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี 2547) ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 600 กิโลเมตร มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวถึง 8.5 ริกเตอร์
ทั้งนี้ รศ.ดร.อมร กล่าวว่า สำหรับกรุงเทพฯ นั้น ต้องใช้เม็กซิโกซิตีเป็นแบบจำลอง เพราะมีปัจจัยความเสี่ยงเหมือนกัน และแผ่นดินไหวเป็นเหตุการณ์ที่เตือนไม่ได้ ดังนั้น เราจำเป็นต้องอยู่บนอาคารที่ปลอดภัย ซึ่งทางวิศวกรรมสถานฯ ได้ศึกษาข้อมูลจนนำไปสู่การออก กฎกระทรวง ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ในปี 2550 สำหรับบังคับใช้ในการออกแบบอาคารต้านแผ่นดินไหวสำหรับพื้นที่เสี่ยง
กฎกระทรวงดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ 3 บริเวณ คือ บริเวณที่ 1 ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และ สมุทรสาคร บริเวณที่ 2 ได้แก่ กาญจนบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และ ลำพูน และบริเวณเฝ้าระวัง ได้แก่ กระบี่ ชุมพร พังงา ภูเก็ต ระนอง สงขลา และ สุราษฎร์ธานี หากแต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีความเสี่ยงและต้องปรับแก้กันต่อไป
สำหรับอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ได้ออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวนั้น รศ.ดร.อมร แนะนำให้เสริมความแข็งแรงด้วยแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ โดยใช้พันรอบเสาในในตำแหน่งที่จะเสียหายได้ง่าย เช่น โคนเสา เป็นต้น แต่วิธีนี้มีราคาประมาณ 200,000 บาท จึงมีอีกวิธีสำหรับอาคารที่ไม่สูงเกิน 6 ชั้น หรืออาคารตึกแถว ให้ใช้เหล็กปลอกพันรอบโคนเสาแล้วพันทับด้วยลวดกรงไก่จากนั้นฉาบปูนทับ ซึ่งจะได้เสาที่มีความแข็งแรงขึ้นในต้นทุนเสาละประมาณ 1,000 บาท
สาธิตการสั่นไหวของตึกสูง กลาง ต่ำ
http://www.youtube.com/watch?v=m70YPW_Q6ws&feature=player_embedded
อ้างอิง : http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9550000048942
ภาพ : กรุงเม็กซิโกซิตี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ปี 2528
|
|
จาก BoyDogtag,TTC-005
110.168.16.137
พฤหัสบดี, 19/4/2555 เวลา : 23:42 IP : 110.168.16.137
|
แก้ไขคำตอบ ลบคำตอบ 116030
|
|
คำตอบที่ 238
fiogf49gjkf0d สำหรับท่านสมาชิก TTC ที่อาจจะไปทำธุระที่แถวๆเดกาะภูเก็ด...
ถ้าไม่มีอะไรแล้ว.. ก็กรุณาออกมาจากเกาะนั้นเถอะครับ..
มีความเป็นไปได้สูงมาก.. ช่วงตั้งแต่วันนี้ถึงเสาร์หน้า..
จากข้อมูลที่ได้รับมา.. คืนนี้.. ก็อาจจะมีเรื่องตื่นเต้นสัก 4 กว่าๆซ้อมๆมือมาก่อนครับ..
เห็นใจคุณลมหนาวมากๆ เพราะว่าบ้านอยู่ที่ถลาง กลางพื้นที่เป้าหมายพอดีเลย..
จะอย่างไร.. คิดซะว่า.. พาครอบครัวออกมาเที่ยวต่างจังหวัดสักอาทิตย์น่าจะโอเคกว่านะครับ..
ปล. 1 : โปรดใช้วิจารณฌานในการรับฟังทุกข้อมูลครับ...
ปล. 2 : ตั้งแต่วันที่ 20 นี้เป็นต้นไป.. จะเป็นช่วงที่โลกเราได้รับพลังงานจากการระเบิดของดวงอาทิตย์ เมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมาครับ.. ซึ่งเป้นการระเบิดในระดับ M ( Class M )
fiogf49gjkf0d ผมยังใช้หนี้ไม่หมดเลย จาก : thebank44(thebank44) 20/4/2555 12:31:01 [202.183.235.61] |
งั้นก็เป็นโชคดีของน้าแบงค์แล้วละซิ หนี้เก่าหายกันน้ะ 555 ผมนะซิหมดไปกับรถซะบานเลยจะได้ใช้มั้ยเนี่ย จาก : ยะ101(ยะ101) 20/4/2555 17:39:03 [124.120.159.210] |
แสดงความคิดเห็นย่อย
| |
|
จาก BoyDogtag,TTC-005
202.122.130.31
ศุกร์, 20/4/2555 เวลา : 11:56 IP : 202.122.130.31
|
แก้ไขคำตอบ ลบคำตอบ 116043
|
|
คำตอบที่ 239
fiogf49gjkf0d ขอคุณพี่บอยครับทางผมเตรียมบ้างส่วนแล้วครับพี่แต่ก็กลัวๆ อ่ะพี่เอารูปมาให้ดุถ่ายเมือวานนี้
|
|
จาก ลมหนาว
118.173.64.111
ศุกร์, 20/4/2555 เวลา : 13:06 IP : 118.173.64.111
|
แก้ไขคำตอบ ลบคำตอบ 116046
|
|
คำตอบที่ 240
fiogf49gjkf0d 18.45
|
|
จาก ลมหนาว
118.173.64.111
ศุกร์, 20/4/2555 เวลา : 13:08 IP : 118.173.64.111
|
แก้ไขคำตอบ ลบคำตอบ 116047
|
|
website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์ เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่
|
|
Since 22, Feb 2001
View My Stats
Truehits.net
วันพฤหัสบดี,9 มกราคม 2568
(Online 11743 คน)
|
|