WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


" การเตือนภัย และการเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติ ในอนาคต... "
005
จาก BoyDogtag,TTC-005
IP:115.87.62.36

ศุกร์ที่ , 25/11/2554
เวลา : 21:12

อ่านแล้ว = 80162 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      


fiogf49gjkf0d
ยืนยันจากผู้มีประสบการณ
จาก : คนเดือน10(คนเดือน10) 12/12/2554 10:29:32 [124.122.29.171]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 8 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

คำตอบที่ 211
      

fiogf49gjkf0d
โบราณเชื่อกันว่า ถ้าท้องฟ้ากลายเป็นสีเหลืองเข้มออกแดงแบบที่เรียกว่าอุกาฟ้าเหลือง จะเกิดมหันตภัยทางธรรมชาติในเร็ววัน ชาวทะเลจะไม่มีวันยอมออกเรือเลย เพราะกลัวพายุใหญ่และมรสุม สัญญาณเตือนภัยโบราณนี้มีคำอธิบายเพิ่มเติมที่เป็นวิทยาศาสตร์บ้างไหม? หรือเป็นเพียงความเชื่อที่เล่าสืบต่อกันมา

สิ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า อุกาฟ้าเหลือง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งจะเกิดเมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนอง ในเวลาอย่างนั้นท้องฟ้าจะมีเฆมชั้นต่ำมาก เมฆชั้นต่ำจะมีไอน้ำมาเกาะอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้เกิดความชื้นสูง เมื่อพระอาทิตย์ส่องแสงกระทบละอองไอน้ำเหล่านี้มาสู่ตาเรา ละอองน้ำจะหักเหแสงสีแดงสู่ระบบการมองเห็นของเรา ท้องฟ้าก็กลายเป็นสีแดงส้ม อุกาฟ้าเหลืองที่แท้จึง ไม่ใช่สีเหลือง แต่เป็นสีแดงส้มมากกว่า

ชาวเรือที่ใช้การสังเกตอุกาฟ้าเหลืองเป็นหลักในการออกเรือ โดยเฉพาะในเรื่องพายุ ก็ยังใช้ได้ โดยสังเกตว่าเกิดสภาพนี้ขึ้นในเวลาใด เกิดตอนเช้าหรือหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ถ้าท้องฟ้ามีสีแดงส้มในเวลาเช้าหรือหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วก็จะไม่ออกเรือ เพราะเป็นสัญญาณเตือนว่าจะมีพายุและลมแรง แต่ถ้าท้องฟ้ามีสีส้มแดงในช่วงตอนโพล้เพล้หรือระหว่างพระอาทิตย์ตกดิน แสดงว่ารุ่งขึ้นอากาศจะดี

ความเชื่อที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านหรือภูมิปัญญาท้องถิ่นหลายอย่างมีประโยชน์จริงๆ เราจึงนำมารวมไว้ในที่นี้ด้วยความเคารพเพียงเติมข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์เล็กน้อยเท่านั้นเอง

อ้างอิง : http://knowledgesharing.thaiportal.net/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1/tabid/93/articleType/ArticleView/articleId/336/Default.aspx






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.15.172 พุธ, 11/4/2555 เวลา : 01:12  IP : 124.121.15.172   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115895

คำตอบที่ 212
      

fiogf49gjkf0d
เมื่อ 10 นาทีที่แล้ว... เกิดแผ่นดินไหวที่เหนือเกาะสุมาตราเหนือ 8.9
ที่สำนักงานใหญ่การบินไทย ชั้น 21 ... สามารถรู้สึกได้ถึงความสั่นไหว..



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พุธ, 11/4/2555 เวลา : 16:11  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115900

คำตอบที่ 213
      

fiogf49gjkf0d
(11 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. เกิดแผ่นดินไหวบริเวณเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย รายงานระบุวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.9 ริกเตอร์ ทั้งนี้ชาวเน็ตในโซเชียลเน็ตเวิร์กได้โพสต์ข้อความรายงานบริเวณตึกแกรมมี่ ถ.สุขุมวิท ตึกชาญอิสระ ถ.เพชรบุรี ตึกสูงแถว บนถ.ชิดลม สามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนดังกล่าว

ทั้งนี้ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ประกาศเตือนสึนามิ

ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติประกาศ!! 16:50 สึนามิสูง 3-4 เมตร อาจถึงภูเก็ต 17:00 อาจถึงพังงา 17:58 อาจถึงกระบี่ #thaipbs

ดร.เสรี เตือน ปชช.ให้ระวังเหตุสึนามิ โดยคลื่นสึนามิจะถึงไทย 16:48 เริ่มที่ภูเก็ต พังงา กระบี่






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พุธ, 11/4/2555 เวลา : 16:37  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115901

คำตอบที่ 214
      

fiogf49gjkf0d
ผมเองพอจะทราบว่าจะเกิดจากได้อ่านวิธีสังเกตุ จากเวปของฝรั่ง ให้สังเกตุก้อนเมฆจะก่อตัวเป็นก้อนๆเต็มไปหมด เมื่อคืนประมาณ 4 ทุ่ม สูบบุหรี่ก็ชอบมองท้องฟ้าทุกๆวันทุกคืน ก็เข้ามาบอกครอบครัวว่า เมฆก่อตัวอีกและ เช้ามาทำงานเมียบอกที่ท่าขี้เหล็กไหว 4 รอกเตอร์ พอเที่ยงผมบอกที่ทำงานขอลากลับพักผ่อน ตื่นมา 16.30 มาดูเวปโอ้โหใกล้จุดเดิมสึนามิ รีบโทรหาญาติที่เขาหลักทำรีสอร์ตอยู่ก่อนเลย งานเข้าแน่ๆ



fiogf49gjkf0d
พม่าจงระวังเกิดตรงจุดใกล้ๆเมือง เย ที่เราเคยไปกันมาละพระเจ้าก็ช่วยไม่ได้
จาก : TTC077(TTC077) 11/4/2555 19:48:54 [124.120.66.17]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

TTC077 จาก TTC-077oTAKOBo 124.120.66.17 พุธ, 11/4/2555 เวลา : 16:50  IP : 124.120.66.17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115902

คำตอบที่ 215
      

fiogf49gjkf0d
เครื่องเรือครับ ใหม่ๆแต่เรือไฟเบอร์เก่า มีพวงมลัย นั่งใด้ 4-5คน จาก ญป ราคาไม่แม่นนะณครับ ประมาณ ห้าหมื่น มี 2-4.5.6ลำเอาใว้หนีน้ำ เอารูปเครื่องไปดูก่อน กำละงหารูปเรือ ...ครับ





fiogf49gjkf0d
ผมมีเรือยางกับพาย2 อันฮิๆยังไม่เคยโดนน้ำ555แถมเครื่อง3in1 สูบน้ำตัดหญ้ากับใส่ใบพักเรือ555
จาก : TTC077(TTC077) 11/4/2555 20:22:15 [124.120.66.17]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047Mr.RAYฅนบางกอก 115.87.74.7 พุธ, 11/4/2555 เวลา : 19:05  IP : 115.87.74.7   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115903

คำตอบที่ 216
      

fiogf49gjkf0d
วันนี้หน้ากัลวมากครับ ดีที่ไม่เกิดอะไรขึ้น



fiogf49gjkf0d
ใช่ครับขออย่าให้เกิดขึ้นเลยทะเลแถวฝั่งพม่าครับ
จาก : TTC077(TTC077) 11/4/2555 20:17:47 [124.120.66.17]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลมหนาว จาก ลมหนาว 118.173.87.167 พุธ, 11/4/2555 เวลา : 20:02  IP : 118.173.87.167   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115905

คำตอบที่ 217
      

fiogf49gjkf0d
" นักวิชาการชี้ แผ่นดินไหวครั้งนี้แปลก เพราะห่างจากครั้งก่อนแค่ 8 ปี "

นักวิชาการจุฬาฯ ยืนยันข้อมูลนักวิชาการแผ่นดินไหวญี่ปุ่น ว่า แผ่นดินไหวใกล้อาเจะห์ครั้งนี้ เกิดจากแนวเลื่อนซ้าย-ขวา ที่ไม่ทำให้เกิดสึนามิใหญ่ แต่ยังมี 2 เรื่องที่น่าห่วง คือ ยังไม่แน่ชัดว่าจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงกว่าอีกหรือไม่ หลังจากได้รับบทเรียนที่ญี่ปุ่น ซึ่งเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงกว่าตามมาภายหลัง อีกทั้งยังห่วงว่าจะกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่อื่นที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุงพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อมูลสารสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ว่า แผ่นดินไหว 8.3 ริกเตอร์ บริเวณใกล้เกาะสุมาตรานั้น ทาง มิชิโอะ ฮาชิซูเมะ (Michio Hashizumi) ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวชาวญี่ปุ่นประจำหน่วยศึกษาพิบัติภัย ยืนยันว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจากการเลื่อนในแนวซ้าย-ขวาของรอยเลื่อนแปรสภาพขนาดใหญ่ (transform fault) ซึ่งการเกิดแผ่นดินไหวลักษณะนี้ ไม่มีโอกาสเกิดสึนามิขนาดใหญ่

อย่างไรก็ดี แม้จะปลอดภัยจากสึนามิขนาดใหญ่ แต่ ศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าวว่า ยังมีเรื่องน่าห่วงคือ ต้องจับตาดูว่าจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่กว่าตามมาหรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น เมื่อปีที่แล้ว ทำให้เห็นว่า แม้จะเกิดแผ่นดินไหว 7.2-7.3 ริกเตอร์ ที่เชื่อว่า เป็นแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ (Main Shock) แต่อีกวันก็เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงกว่าถึง 9 ริกเตอร์ตามมา ซึ่งเป็นรูปแบบแปลกๆ และยังทำให้เกิดแผ่นดินไหวตามมาเป็นชุด ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ

ส่วนในกรณีแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตราครั้งนี้ ก็นับว่าแปลก เพราะเกิดขึ้นใกล้เคียงกับเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี 2547 มาก โดยห่างกันเพียง 8 ปี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับแผ่นดินไหวใหญ่ๆ ที่อื่นแล้ว ศ.ดร.ธนวัฒน์ ยกกรณีแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น เมื่อปีที่่ผ่านมานั้น เกิดห่างจากแผ่นดินไหวรุนแรงก่อนหน้าถึง 150 ปี นอกจากนี้ ยังห่วงว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวในบริเวณที่ไม่เคยเกิดนานแล้วอย่างที่นิโคบาร์ หรือบริเวณเหนือพม่า ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะทำให้เกิด 6 จังหวัดภาคใต้ในฝั่งอันดามันได้รับผลกระทบจากสึนามิโดยตรง

ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (US Geological Survey: USGS) ระบุว่าแผ่นดินไหวครั้งแรกบริเวณเกาะสุมาตรานี้ เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 8.6 ริกเตอร์ โดยมีศูนย์กลางอยู่ลึกลงไป 33 กิโลเมตร และห่างจากเมืองบันดาอาเจะห์ ประมาณ 495 กิโลเมตร (ห่างจากชายฝั่งอันดามันประมาณ 1,000 กิโลเมตร - ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ) นอกจากนี้ ทางหน่วยงานธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซีย ยังแจ้งว่า ได้เกิดแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อก (After Shock) ตามมา 8.3 ริกเตอร์

Ref. : http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9550000045780>



fiogf49gjkf0d
สำหรับผมเองนั้น.. มันคือ จุดเริ่มต้นของยกต่อไป ระฆังได้ถูกตีดังขึ้นมาแล้วครับ..!!!
จาก : 005 (005 ) 11/4/2555 22:29:17 [124.121.1.148]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.1.148 พุธ, 11/4/2555 เวลา : 22:25  IP : 124.121.1.148   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115906

คำตอบที่ 218
      

fiogf49gjkf0d
เมื่อตอนบ่าย 3 กว่าๆ บังเอิญได้คุยกับคนตกปลา ที่มาตกปลาหน้าร้านเป็นประจำ ที่เกิดขึ้นมาด้วยอาการเซ็ง เนื่องจากไม่ได้ปลาเลย (นั่งตก 10 โมงเช้า - บ่าย 3) ว่าง่ายๆ ปลาไม่กินเหยื่อเลย ผมถามว่าทำไม่ ทั้งๆที่ทุกวันได้ไม่ต่ำกว่า 10 โล คนตกปลาเลยเล่าให้ฟังว่า วันนี้แปลก ปลาไม่ขึ้นใกล้ฝั่งอย่างที่เคย แต่กลับไปรวมตัวกันอยู่กลางน้ำ ขึ้นฮุบตลอดเวลา เหมือนหนีอะไรใต้น้ำขึ้นมาหายใจข้างบน ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร สักพักจึงรู้ว่าเกิดแผ่นดินไหว เมื่อมาคำนวณเวลาดู เฮ้ย.. มันตรงกับเวลาที่คนตกปลาพูดเลย นี่แสดงให้เห็นว่าปลารับรู้การสั่นสะเทือนก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวเสียอีก และถ้านำปรากฏการณ์ที่ว่านี้มาคิดความสัมพันธ์กับการยุบตัวที่แยกมาบุญครอง ก็จะเป็นภาพใหญ่ คือแผ่นดินมันเคลื่อนตัว หรือขยับตัวแนวเฉียง จึงทำให้ถนนทรุดตัวลง และจะมีหลายจุดครับ เป็นห่วงจริงๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kosol จาก 083 180.180.149.93 พฤหัสบดี, 12/4/2555 เวลา : 00:05  IP : 180.180.149.93   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115907

คำตอบที่ 219
      

fiogf49gjkf0d
สรุปแผ่นดินไหวทั้งวัน 11 เมษายน 55 รวม 18 ครั้ง เริ่มตั้งแต่เวลา 02.45 น. สิ้นสุดเมื่อเวลา 23.04 น. ส่วนวันต่อไปจะไหวกันอีกสักกี่ครั้ง/วัน แต่ที่รู้ทุกครั้งที่แผ่นดินไหว แผ่นดินจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเสมอ และต้องตามกันอย่างใกล้ชิดเพราะนักวิชาการบางท่านบอกว่ามันยังไม่ใช่แผ่นดินไหวจริงๆ ยังมีแรงกว่านี้อีก นี่เป็นแค่การเตือนเฉยๆ โดยเปรียบเทียบกับญี่ปุ่น





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kosol จาก 083 180.180.146.32 พฤหัสบดี, 12/4/2555 เวลา : 00:56  IP : 180.180.146.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115908

คำตอบที่ 220
      

fiogf49gjkf0d

http://www.youtube.com/watch?v=oO0PkhFI7YY&feature=player_embedded#!

คลิปน้ำกระเพื่อมจากแผ่นดินไหวเมื่อวานนี้ครับ

จุดเกิดเหตุ: สระว่ายน้ำราชตฤณมัยสมาคม
183 ถนนพิษณุโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Nui_TERR_II จาก NuiTERRANO(TTC-132) 58.9.13.59 พฤหัสบดี, 12/4/2555 เวลา : 12:08  IP : 58.9.13.59   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115916

คำตอบที่ 221
      

fiogf49gjkf0d
0001 น. วันนี้ขึ้นปีใหม่ไทย ขอให้คำทำนาย ดช.ปลาบู่ผิด



fiogf49gjkf0d
นักวิชาการญี่ปุ่นออกความเห็นระวังแถวๆพม่าเช่นกันอาจจะหายแล้วเกิดเกาะใหม่ๆมาแทนเวนละ
จาก : TTC077(TTC077) 12/4/2555 18:00:25 [124.122.251.109]
เมื่อสักครู่ท้องฟ้าฝั่งตะวันตกดูแล้วน่ากลัวเมฆก้อนเล็กเต็มท้องฟ้าเหลืองๆไม่เกิน 1 วันแน่ๆ
จาก : TTC077(TTC077) 12/4/2555 19:19:37 [110.169.206.91]
เท่าที่สังเกตุแผ่นดินไหวช่วงนี้ตาบอยกำลังงัดเปลือกโลกอยู่ 555w,ไม่ไหวก็ต้องไหวละวะ 555
จาก : TTC077(TTC077) 13/4/2555 10:20:52 [124.122.161.83]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

puky จาก Puky(TTC111) 119.46.218.1 พฤหัสบดี, 12/4/2555 เวลา : 12:55  IP : 119.46.218.1   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115918

คำตอบที่ 222
      

fiogf49gjkf0d
อ้างอิงจากคุณ 431240 : คำทำนายของเด็กชายปลาบู่ ไม่ใช่ไม่จริง แต่รอเวลาว่าจะเกิดตอนไหนเท่านั้น ระวังธรรมชาติทำให้ตายใจ

Ref. : http://board.palungjit.com/f178/ภัยพิับัติ-55-จะแรงแค่ไหน-320025-24.html

สำหรับผมเองนะครับ คุณ Puky..
มีพี่ท่านหนึงที่รู้จักสนิทกัน.. เล่าให้ฟังว่า ทั้งตัวเขาเองและเพื่อนๆในกลุ่มของเขา ที่ชอบปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ.. บอกว่า ก็เห็นภาพๆเดียวกับที่พี่ปลาบู่เห็นเช่นกันครับ..
fiogf49gjkf0d


 แก้ไขเมื่อ : 13/4/2555 14:01:36



fiogf49gjkf0d
ช่วงนี้ภัยธรรมชาติถี่ขึ้นเรื่อยๆ...ครับ น่าห่วงจริงๆ
จาก : cowboyttc076(cowboyttc076) 13/4/2555 14:31:04 [182.53.111.67]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.107.74 ศุกร์, 13/4/2555 เวลา : 13:56  IP : 124.121.107.74   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115938

คำตอบที่ 223
      

fiogf49gjkf0d
สำหรับผม.. เหรียญมีตั้ง 3 ด้าน
เราจะเห็นได้มากสุด.. ก็แค่ 2 ด้านเท่านั้น..

งั้นเรามาดู ด้านที่ 3 ของเหรียญกันบ้างดีกว่าครับ..

" มนุษย์ต่างดาวรู้เรื่องภัยพิบัติได้อย่างไร? "


การติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว ของกลุ่มเขากะลา(เดิม) นั้น ก็เริ่มต้นจากจ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน เป็นบุคคลแรก เพราะท่านเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมและทำสมาธิมาตั้งแต่สมัยยังเป็นสามเณร จนบวชเป็นพระภิกษุ และเมื่อท่านเป็นทหารท่านก็ยังคงทำสมาธิ ปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องตลอดมา

- ดังนั้นการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวทางด้านจิต จึงทำได้ง่าย เพราะความนิ่งของสมาธิจิต ท่านสามารถแยกข้อมูลได้สามารถแปลข้อความออกมาถูกต้องตรงตามการสื่อสาร ที่เราบอกว่าถูกต้องตรงเพราะอะไรเพราะมีหลายครั้งที่มนุษย์ต่างดาวสื่อสารผ่านร่างบุคคลอื่นไม่มีใครรู้ว่าจะทำอย่างไร ต้องตาม จ.ส.อ.เชิด มาช่วยแปลจึงจะรู้เรื่องราวที่เขาสื่อสารมาว่า มาเพื่ออะไรและเมื่อคลื่นจากต่างดาวผ่านออกไปแล้ว บุคคลที่รับคลื่นนั้นมาแม้ขณะคลื่นต่างดาวผ่าน เขาจะพูดเป็นภาษาอื่นออกมา แต่ภายในสมองของบุคคลนั้นจะมีความเข้าใจในความหมายของข้อความที่สื่อผ่านมาแม้คำที่พูดออกมาจะเป็นภาษาอื่นก็ตามซึ่งสิ่งที่ติดตั้งในตัวบุคคลท่านนั้นเป็นอุปกรณ์สำหรับแปลภาษาที่ติดตั้งไว้สำหรับแปลภาษาที่รับมานั้นเอง เราเรียกว่าอุปกรณ์เทคโนโลยีของต่างดาว และผู้รับข้อความยังบอกว่า จ.ส.อ.เชิดแปลถูกต้องทุกประโยค ในสิ่งที่ได้ถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาอื่น

- สิ่งเหล่านี้มิใช่เรื่องแปลกเพราะเราจะเห็นว่าในสมัยก่อน ผู้ที่นับถือพุทธศาสนา จึงมุ่งศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรมฝึกสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน จะกระทำกันอย่างจริงจังมุ่งหาทางหลุดพ้นตามแนวทางที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสสอนไว้แม้จะมีการทำมาหากินกันตามปกติ แต่ก็จะไม่มีความโลภ โกรธ หลง มากนักเพราะเหตุปัจจัย หรือสิ่งเย้ายวนต่าง ๆ มันยังน้อยและก็ยังไม่ละทิ้งการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง

- แต่เมื่อมามองในยุคนี้ จะเห็นว่าบุคคลที่จะตั้งใจศึกษา และปฏิบัติธรรม ลดน้อยลงเพราะมีความเจริญทางด้านวัตถุเข้ามามากขึ้น ผู้คนเริ่มมากขึ้นความแก่งแย่งในการทำมาหากินจึงมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจุดมุ่งหมายจึงเปลี่ยนจากมุ่งเน้นพัฒนาจิตใจ ไปเป็นพัฒนาวัตถุแทนและคนที่เกิดมาในรุ่นยุควัตถุนิยม ก็จะหันไปให้ความสนใจกับวัตถุกันเป็นหลักแก่งแย่งกันเรียน แก่งแย่งกันหางานทำ จนไม่มีเวลาที่จะหันไปให้ความสนใจที่จะพัฒนาจิตของตนเอง

- ที่กล่าวมานี้ มุ่งหมายที่จะให้เห็นว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา ของความเจริญและความเสื่อมไปตามยุคตามสมัย เมื่อมีความเจริญทางจิตมากธรรมชาติก็ให้ความร่มเย็นเป็นสุข เมื่อมีความเจริญทางวัตถุแต่เสื่อมทางจิตมากธรรมชาติก็ให้โทษเป็นเรื่องธรรมดา นี่เป็นกลไกธรรมชาติซึ่งมีการวนเวียนเช่นนี้หลายยุคหลายสมัย ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น

- ดังนั้น เรื่องของภัยพิบัติ ก็ย่อมมีเหตุปัจจัยที่สะสมมามันจึงต้องเกิดไปตามกลไกของธรรมชาติ

- แต่สิ่งที่กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) จะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นทำไมผู้ปฏิบัติทางจิตจำนวนมากจึงสามารถรู้
- ล่วงหน้าก่อนเหตุการณ์จะเกิดได้ ทำไมมนุษย์ต่างดาวจากโลกอื่น ๆจึงรู้ได้ จนต้องมาเตรียมการช่วยเหลือมนุษย์โลกนี้สิ่งเหล่านี้มนุษย์ต่างดาวกล่าวว่า จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะมันเป็นหลักการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ ที่ถูกต้องแม่นยำ ซึ่งมีอยู่ในธรรมชาติผู้ใดที่ต่อเชื่อมกับธรรมชาติได้ ก็รับรู้ได้เช่นกันแต่อธิบายไปมนุษย์อาจไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็ยกตัวอย่างว่าบางครั้งมนุษย์ก็ยังมีการคำนวณได้ล่วงหน้าหลายปี ว่าวันที่นี้ เดือนนี้ ปีนี้เวลานี้ จะเกิดสุริยุปราคา จะเกิดฝนดาวตก จะเกิดพายุ หรือแม้กระทั่งวิชาโหราศาสตร์ที่แม่นยำ ยังสามารถรู้ล่วงหน้าได้ ว่าปีไหนจะเกิดอะไรกับประเทศนี้ กับคนนี้ และเมื่อเวลาผ่านไปมันเกิดขึ้นจริงตามนั้นเคยสงสัยไหมว่า เขารู้ล่วงหน้าก่อนเกิดได้อย่างไร ซึ่งก็มาจากหลักการคำนวณนั่นเองซึ่งมันมีอยู่แล้วในธรรมชาติ เพียงแต่ว่าการคำนวณเรื่องภัยพิบัติ อาจมีเหตุปัจจัยหรือกลไกซับซ้อนกว่าเท่านั้น

- หลักการคำนวณ มันมีอยู่แล้วในธรรมชาติ เมื่อมีเหตุปัจจัยเช่นนี้ ก็จะเกิดสิ่งนี้เวลานี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ดังนั้น มนุษย์ต่างดาวที่มีความเจริญเขาจึงสามารถคำนวณได้ว่า ในช่วงเวลานี้ จะเกิดอะไรกับดาวดวงไหนในช่วงเวลานี้จะเกิดกับดาวดวงไหนและในช่วงเวลานี้จะเกิดกับดาวอะไร?


เพราะมนุษย์ต่างดาวกล่าวว่าไม่ใช่ดาวดวงนี้เท่านั้น ที่เขาต้องมาให้ความช่วยเหลือเมื่อจะเกิดภัยพิบัติมีดวงดาวอีกมากมายที่ต้องให้ความช่วยเหลือเหมือนกันเพราะดาวแต่ละดวงจะมีปัญหาไม่เหมือนกัน


- มนุษย์ต่างดาว มีการรวมกันจากหลายดวงดาวขึ้นเป็น สมาชิกกลุ่มสากล ทำหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือดวงดาวต่าง ๆที่ประสบความวิกฤตในแต่ละด้าน ซึ่งเขายกตัวอย่างว่า เปรียบเสมือนสหประชาชาติบนโลกนี้ ที่แต่ละประเทศจะเข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติและประเทศที่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ในประเทศใดประเทศหนึ่งแล้วจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือ ประเทศสมาชิก ก็จะส่งทหารเข้าร่วมปฏิบัติการซึ่งปัญหาของแต่ละประเทศบนโลกมนุษย์ก็ยังไม่เหมือนกัน บางประเทศขาดแคลนอาหารบางประเทศ เกิดสงคราม บางประเทศเกิดอุทกภัย บางประเทศเกิดโรคระบาด ซึ่งสหประชาชาติก็จะส่งความช่วยเหลือไปตามความจำเป็นของประเทศนั้น ๆ ขาดแคลนอาหาร ก็ส่งอาหารส่งหมอ เกิดอุทกภัย ก็จัดส่งอุปกรณ์ยังชีพ หน่วยกู้ภัย และยารักษาโรคซึ่งสมาชิกของสหประชาชาติแต่ละประเทศก็จะส่งทหารที่มีความเชี่ยวชาญแต่ละงานไปทำหน้าที่นั้น ๆ เช่นประเทศไทยอาจจะส่งแพทย์ไปช่วย สหรัฐอาจจะส่งอุปกรณ์เทคโนโลยี หรือประเทศญี่ปุ่นอาจจะส่งเงินส่งอาหาร แล้วแต่ประเทศไหนมีความพร้อม หรือมีความชำนาญในแต่ละด้านไม่เท่ากัน


- ซึ่งมนุษย์ต่างดาวในแต่ละดวงดาว ก็มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านไม่เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อดาวดวงใด ประสบกับวิกฤตการณ์ด้านไหนก็จะระดมแต่ละดวงดาวที่มีความเชี่ยวชาญไปช่วยแต่ละดาวดวงนั้น เช่นบางดาวเชี่ยวชาญด้านสร้างพลังงานคุ้มกันรังสีบางดาวเชี่ยวชาญด้านผลิตอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือมนุษย์บางดาวเชี่ยวชาญด้านสร้างเครื่องมือในการรักษาชีวิตบางดาวเชี่ยวชาญสร้างอุปกรณ์เพื่อสื่อสารกับมนุษย์ และบางดาวเชี่ยวชาญด้านชีวภาพจึงมิใช่เราเป็นดาวดวงแรกที่มีมนุษย์ต่างดาวมาให้ความ
- ช่วยเหลือ จริง ๆแล้วโลกของเรา เขาก็ให้การช่วยเหลือ มาหลายครั้ง หลายหนในอดีตในการเกิดวิกฤตการณ์ในแต่ละยุค แต่ละสมัย


- ในการที่จะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่บนดาวดวงนี้ อาจเป็นครั้งที่หนักหนาสาหัสพอสมควรเพราะการที่มนุษย์ต่างดาวระดมกำลังจากหลายดวงดาว มาเตรียมการทั่วโลกเพื่อรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้ มีการกระจายการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ไปทั่วโลกมีการนำ จานบิน มาปรากฏให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อทำความคุ้นเคยและจะไม่เกิดการช็อค เมื่อต้องเห็นเขาบินกันให้ว่อนในเวลาที่เกิดภัยพิบัติสิ่งเหล่านี้ มนุษย์ต่างดาว ได้มีการเตรียมการวางระบบการช่วยเหลือไว้ เป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้

- ก่อนเกิดภัยพิบัติ มาสำรวจ มาวางโครงการ นำจานบินมาปรากฏทั่วโลก เพื่อทำความคุ้นเคยมาสื่อสารกับมนุษย์เพื่อเตรียมช่องทางในการเตือนภัยและการช่วยเหลือในอนาคต

- ขณะเกิดภัยพิบัติ ให้การช่วยเหลือด้านต่างๆ ด้วยเทคโนโลยี ด้านอุปกรณ์ และด้านการรักษา และด้านอื่น ๆโดยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเหล่านั้นจะส่งจากเขาให้กับมนุษย์โลกได้ใช้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองผ่านช่องทางที่เตรียมไว้ เช่นกลุ่มผู้เตรียมการช่วยเหลือเรื่องภัยพิบัติกลุ่มผู้รับการสื่อสาร หรือกลุ่มผู้ปฏิบัติทางจิตที่มีกระจายอยู่ถึง 5000 คนทั่วโลก

- หลังเกิดภัยพิบัติ จะให้การช่วยเหลือเพื่อพื้นฟูด้วยเทคโนโลยีของเขาทั้งด้านที่อยู่อาศัย ด้านอาหาร และด้านการรักษาเพราะตอนนั้นโลกของเราไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ หลงเหลือให้มนุษย์ช่วยเหลือตัวเองได้และก่อนกลับ จะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีไว้ให้ และเขายังบอกอีกว่าเขาไม่สามารถอยู่ได้บนโลกของเรา เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ก็ต้องเดินทางกลับเพื่อช่วยเหลือดาวดวงอื่นต่อไป

- ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของธรรมชาติการช่วยเหลือกันตามกฎของธรรมชาติ ไม่ได้เป็นบุญคุณ หรือต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ

ดังนั้นตอนนี้อยู่ในขั้นตอนก่อนเกิดภัยพิบัติ ก็ยังอยู่ในขั้นตอนต้องสำรวจผลิตอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือ สื่อสารกับมนุษย์ และยังคงบินมาปรากฏให้เห็นทั่วโลกเพื่อทำความคุ้นเคยกับมนุษย์ และจะได้ไม่กลัวเขาในกาลข้างหน้า

- เป็นการสื่อสารข้อมูลผ่านกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เพื่อบอกถึงจุดประสงค์ที่มาโลกมนุษย์บอกถึงภารกิจที่มนุษย์ต่างดาว สมาชิกกลุ่มสากลของแต่ละดวงดาวกำลังดำเนินการอยู่บนโลกในขณะนี้




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.107.74 ศุกร์, 13/4/2555 เวลา : 19:59  IP : 124.121.107.74   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115941

คำตอบที่ 224
      

fiogf49gjkf0d
มารู้จักมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลากันเถอะ....
--------------------------------------------------------------------------------


- ในห้วงจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลมีดวงดาวนับล้านๆดวง จะมีเพียงดาวดวงนี้เท่านั้นหรือที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ยิ่งวิทยาศาสตร์มีความเจริญมากขึ้นเท่าใดความพยายามที่จะค้นหาในสิ่งที่กำลังสงสัยก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

- แต่สิ่งหนึ่งที่สวนทางกันกับความเจริญทางโลก ก็คือความเจริญทางจิตวิญญาณการเรียนรู้เพื่อให้เข้าถึงกฎของธรรมชาติ การเป็นผู้ให้ความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ซึ่งเริ่มลดน้อยถอยลงแต่อำนาจความโลภ ความโกรธความหลง ความมัวเมาในวัตถุ ความแก่งแย่งชิงดีที่ดูเหมือนจะเจริญงอกงามมากขึ้นทุกวันเป็นเงาตามตัว

- ถ้ามองจากด้านนอกเราจะเห็นโลกแคบแต่ถ้ามองจากด้านในเราจะเห็นโลกกว้าง

- คำๆนี้มีนัยสำคัญสำหรับผู้ปฏิบัติอย่างยิ่งเมื่อเราหมกมุ่นอยู่กับวัตถุสิ่งของภายนอก ความเจริญในด้านเทคโนโลยี่ต่างๆต่อให้พัฒนาไปสักแค่ไหนจะไม่มีคำว่าพอ จะต้องเสาะหาต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดเพราะความทะยานอยากเป็นตัวผลักดันนั่นเอง

- แต่เมื่อเรามองจากข้างในตัวเองมองเห็นความเกิดขึ้นของอารมณ์ ความคิด ความรู้สึก ความสุข ความทุกข์เรียนรู้ขันธ์ห้าให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับกฎของธรรมชาติแล้วเราจะเห็นโลกกว้างไกลเห็นทั่วทั้งอนันตจักรวาลเพราะทุกอย่างมีเพียงหนึ่งเดียวคือธรรมชาติและทุกสรรพสิ่งก็ดำเนินไปตามกฎของธรรมชาติเท่านั้น

- กฎของธรรมชาติ หรือกฎแห่งกรรมเป็นกฎอันเดียวกัน เพราะพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ในกฎของธรรมชาติดังนั้นกฎของธรรมชาตินี้จึงมีอยู่ทั่วไปในสากลจักรวาล


-แล้วโลกที่มีความเจริญทางจิตใจและทางวัตถุควบคู่กันไปเขาอยู่กันอย่างไร?


......มารู้จักมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลากันเถอะ.....


-มนุษย์ต่างดาวที่กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ติดต่อสื่อสารด้วยนั้นมี 2 ดวงดาว เป็นหลัก คือดาวโลกุกะตะปากะดิกอง และดาวพลูโต

-ดาวโลกุกะตาปากะดิกองเป็นดาวดวงหนึ่งที่อยู่คนละจักรวาลกับเรามีความเจริญทางจิตและวิทยาศาสตร์ควบคู่กันไป มีเทคโนโลยี่ที่ก้าวหน้าล้ำยุคเป็นมนุษย์ที่อยู่อีกจักรวาลหนึ่งเป็นโลกที่มีขนาดใหญ่เกือบ 3 เท่าของโลกเราโลกของเขาหมุนรอบตัวเองวันหนึ่ง 60 ชั่วโมง

- ภูมิประเทศ เป็นดาวที่อยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์อากาศหนาวเย็น มนุษย์จากดาวโลกุกะตาฯจึงต้องสวมใส่ชุดรัดรูปที่สามารถปรับอุณหภูมิได้อุณหภูมิภายในชุดที่สวมใส่จะปรับเองตามความสูงขึ้น หรือลดลงของอุณหภูมิภายนอกเพื่อคงสภาพอุณหภูมิภายในร่างกายให้คงที่

- บนดาวของเขา ก็มีภูมิประเทศคล้ายโลกเรามีภูเขา มีแม่น้ำ มีทะเลแต่เขา ไม่มีเรือ(ยานฯแล่นบนน้ำได้) ไม่มีรถยนต์ ไม่มีรถไฟดังนั้นโลกของเขาจึงไม่มีมลพิษ ไม่ต้องมีถนนตัดผ่านให้วุ่นวายแต่มีจุดจอดยานเป็นแห่งๆสำหรับขนส่งสิ่งของ



- ไม่มีทางเดินที่เป็นถนนสร้างยาวอย่างโลกของเราแต่เขามีทางกระโดดซึ่งอยู่ห่างเป็นจุดๆ เพราะโลกของเขามีแรงดึงดูดน้อยจะเดินไม่ได้เพราะตัวเบา จึงต้องกระโดด เขากระโดดได้ไกลประมาณ 5 – 6 เมตรจึงสร้างจุดรองรับเป็นช่วงๆระยะห่างประมาณ 5 เมตร

- ในโลกของเขา ก็มีการเกิดภัยพิบัติเหมือนกันในช่วงของการเกิดมรสุม มีการเกิดพายุอย่างหนัก แต่จะไม่เกิดความเสียหายกับทรัพย์สิน และชีวิตแต่เพราะเขาอยู่ในยานฯเมื่อเกิดพายุเขาก็จะนำยานฯไปลอยอยู่ข้างบนก่อน เมื่อสงบจึงกลับลงมาส่วนที่พักที่อยู่บนพื้นโลกจะสร้างเป็นเพียงฐานสี่เหลี่ยมเตี้ยๆโผล่ไว้เหนือพื้นดิน จึงไม่เกิดความเสียหาย และเป็นที่สำหรับนำยานลงจอดจะมีทางลงไปใต้ดินด้านล่างซึ่งเป็นที่สำหรับพักอาศัยภายในครอบครัวซึ่งแต่ละครอบครัวจะมีสมาชิกไม่เกิน 4 คน คือ พ่อ แม่ และมีลูกได้ไม่เกิน 2 คนถ้ามีเกินกว่านั้นก็จะผิดกฏต้องโดนไล่ออกจากจักรวาลนั้น

- มนุษย์ต่างดาวโลกุกะตาฯมีความเจริญทางจิตสูงมากรักษาศีลกันเป็นปกติ (เป็นแนวทางดำรงชีวิตประจำวัน)แต่ศีลของเขาจะไม่เหมือนกับของเราเพราะความแตกต่างในเรื่องความเข้าถึงกฏธรรมชาติไม่เหมือนกันเช่น

ศีลข้อ 1 การฆ่าสัตว์ เขาไม่มีเนื่องจากเขากินอาหารที่เป็นแคปซูล ทำจากต้นเคริปซึ่งเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งเป็นหลักวันละ 1 เม็ด เขาไม่มีระบบขับถ่ายเพราะจะย่อยสลายไปเอง เขาจึงไม่มีการเบียดเบียนกัน แต่สัตว์บนโลกเขาก็มีเขาบอกว่าปลาในน้ำก็มี สัตว์อื่นก็มีแต่ไม่มากมายเหมือนโลกเราและสัตว์ต่าง ๆก็อยู่ไปตามธรรมชาติ จนหมดอายุไปเอง

ศีลข้อ 2 การลักทรัพย์ ศีลข้อนี้ก็ไม่มีเพราะทุกอย่างที่มีเหมือนกันหมด และเป็นของรัฐบาลทั้งหมด ไม่มีการใช้เงินตราไม่มีการทำธุรกิจเพื่อแก่งแย่งกัน เพราะรัฐบาลจัดทำเอง จัดหาให้เองทั้งหมดทุกคนจึงไปทำงานตามหน้าที่ของตนเท่านั้น ดังนั้นความโลภในทรัพย์สินจึงไม่มีและไม่ต้องลักขโมยกัน

ศีลข้อมุสา ไม่ต้องมี เพราะเขาคุยกันทางจิต คิดสิ่งใดออกมาก็รู้กันหมดซี่งมนุษย์ต่างดาวที่มาสื่อสารตอนแรก ๆ ยังเคยกล่าวว่ามนุษย์โลกนี้ทำไมคิดอย่างหนึ่ง แล้วบอกอีกอย่างหนึ่ง ทำไมไม่บอกอย่างที่กำลังคิด (ตอนนั้นมนุษย์ต่างดาวคงยังไม่รู้ถึงความซับซ้อนในการกล่าวคำเท็จของมนุษย์โลก)มนุษย์ต่างดาวบอกว่า ทำไมเขาจึงรู้ว่ามนุษย์คนนั้นกำลังคิดอะไ รเพราะสิ่งที่มนุษย์คิดออกมานั้น มันเป็นระบบคลื่นที่ส่งออกมาจากสมองเมื่อมีเครื่องมือแปลสัญญาณคลื่นนั้น ก็มองเห็นว่ากำลังคิดอะไรซึ่งเขาก็ประดิษฐ์เครื่องแปลสัญญาณนั้นมาใช้บนโลก เขาบอกไม่ใช่เรื่องแปลกมันเป็นเทคโนโลยี เหมือนเรามีเครื่องรับแฟกซ์ ตอนเขาส่งมาจากต่างประเทศก็มาเป็นสัญญาณคลื่น เมื่อเรามีเครื่องรับแฟกซ์ก็สามารถรับสัญญาณคลื่นมาแปลเป็นข้อความ หรือภาพ ลงในแผ่นกระดาษได้และสามารถรับรู้ข้อความ หรือภาพต่าง ๆ ได้เหมือนกับที่เขาส่งมาเช่นกันเพียงแต่ตอนนี้มนุษย์ยังไม่สามารถสร้างเครื่องแปลคลื่นความคิดให้ออกมาเป็นข้อความได้ เราจึงคิดว่ามันเป็นเรื่องลึกลับว่าเขารู้ได้ยังไงว่าเราคิดอะไรอยู่?

-เป็นตัวอย่างบางข้อ ที่เขาเคยกล่าวไว้ซึ่งกฎศีลธรรมบนโลกเขา ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง โลกของเขาจึงไม่มีการปกครองด้วยกฏหมายแต่มีกฎศีลธรรม หรือกฎของธรรมชาติ เป็นตัวกำกับหากผู้ใดละเมิดกฎศีลธรรมก็ต้องถูกลงโทษเช่นกัน

- เรื่องราวยังมีอีกมากมายและทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนที่นำมาเล่าให้ฟังและเป็นข้อความที่พี่สุดใจเก็บรวบรวมไว้ ทุกครั้งที่มีการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวและเมื่อมีข้อมูลผ่านมา จ.ส.อ.เชิด จะเป็นผู้แปลข้อมูลต่าง ๆและพี่จะเป็นคนบันทึกไว้แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกในโอกาสต่อไปนะคะ

อ้างอิง : http://board.palungjit.com/f6/รวมบทความ-ที่เป็นประโยชน์กับชีวิต-ของกลุ่มประสานงานฯ-เขากะลา-เพื่อออกจากทุกข์-ทำทันทีได้ทันที-162475.html



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.107.74 ศุกร์, 13/4/2555 เวลา : 20:01  IP : 124.121.107.74   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115942

คำตอบที่ 225
      

fiogf49gjkf0d
ภารกิจของดาวพลูโต คืออะไร?





--------------------------------------------------------------------------------


“ดาวพลูโต” เป็นดาวที่อยู่ในระบบสุริยะจักรวาลของเรา เป็นดาวที่อยู่ห่างไกลมากและมีอากาศที่หนาวเย็นติดลบหลายร้อยองศา

-มนุษย์ที่อยู่ดาวพลูโต มีอายุยืนหลายหมื่นปีมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของสมาธิมาก ซึ่งเขากล่าวว่า เพราะอายุยืนมากและอยู่กับสมาธิตลอดเวลา ก็ย่อมต้องเชี่ยวชาญเป็นธรรมดา ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

- มนุษย์ที่อยู่บนดาวพลูโตนั้นจะอยู่ในกันรูปแบบของพลังงานเป็นส่วนใหญ่ และทำสมาธิเป็นหลักจึงไม่ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่หนาวเย็น กายหยาบก็มี เป็นร่างสังเคราะห์เทียมสำหรับใช้ในการปฏิบัติภารกิจในแต่ละคราว เช่นเมื่อมาปฏิบัติภารกิจในโลกมนุษย์เพื่อช่วยเหลือเรื่องของภัยพิบัติก็จะใช้ร่างสังเคราะห์เทียมนี้มาร่วมปฏิบัติงาน

- “ ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต” เป็นผู้นำในการฝึกฯมุ่งเน้นเกี่ยวกับการยกระดับจิตใจของมนุษย์เป็นหลักทำการฝึกฯกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ให้รู้ระบบการทำงานกับมนุษย์ต่างดาว ให้เรียนรู้เรื่องเครื่องมือของมนุษย์ต่างดาวอุปกรณ์ที่จะนำมาช่วยเหลือมนุษย์ และมนุษย์จาก ดาวพลูโตเชี่ยวชาญในเรื่องของมิติมาก จะมีการเข้าออกมิติ เปิด ปิดมิติให้เห็นเป็นตัวอย่างอยู่เสมอและยังนำมนุษย์เข้าออกมิติโดยเราไม่รู้ตัวเลยมาแล้วหลายครั้ง (จะนำมาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป)


-มีการนำตัวอย่างเครื่องมือของมนุษย์ต่างดาว และอุปกรณ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยี มาให้เรียนรู้แต่จุดมุ่งหมายหลัก มุ่งเน้นการฝึกจิตเป็นสำคัญ ฝึกการปล่อยวางขันธ์ห้าเพื่อเข้าถึงกฏของธรรมชาติ สอนเรื่องทุกข์ การดับทุกข์ซึ่งเป็นการสอนในกฏของธรรมชาติ เช่นเดียวกับที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนแต่มีการนำอุปกรณ์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีมาประกอบการสอนจึงเป็นการสอนการปล่อยวางที่เข้าใจง่าย และเบื่อหน่ายขันธ์ห้าได้จริง กลุ่มผู้ฝึกฯได้มีโอกาสเรียนรู้ พบเห็นเทคโนโลยีของเขามามากมาย จนแน่ใจว่าเรื่องของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะต้องได้รับการช่วยเหลือด้วยเทคโนโลยีจากเขาแน่นอน

การเดินทางจากดาวพลูโตมายังโลก จึงมาได้ 2 ช่องทาง


- เดินทางด้วยยานอวกาศฯโดยผ่านมิติมา และนำร่างสังเคราะห์เทียม มาปฏิบัติภารกิจ ร่วมกับดวงดาวอื่น ๆบนโลกมนุษย์สามารถมองเห็นร่างสังเคราะห์เทียมได้ด้วยตาเปล่า

- เดินทางมาในรูปแบบพลังงานเป็นกลุ่มแสงขนาดใหญ่เกิดขึ้นก่อน แล้วจึงเป็นพลังงานลงมา มองไม่เห็นด้วยตาเปล่ามาปฏิบัติภารกิจ ที่ไม่ต้องอาศัยร่างสังเคราะห์เทียมดังนั้นแม้จะอยู่สถานที่เดียวกันก็มองไม่เห็นเขา

ผมคง copy ข้อตวาม.. มาให้ได้ลองอ่านดูเพียงเท่านี้น่ะครับ..
ท่านที่สนใจในเรื่องราว ต่างๆเหล่านี้.. สามารถศึกาหาข้อมูลเพิ่อมเติมได้ที่
http://board.palungjit.com/f6/รวมบทความ-ที่เป็นประโยชน์กับชีวิต-ของกลุ่มประสานงานฯ-เขากะลา-เพื่อออกจากทุกข์-ทำทันทีได้ทันที-162475.html

หมายเหตู : ในหนังสือ .."เรื่องจริงอิงนิทาน" ของหลวงพ่อฤษีลิงดำ ( จำไม่ได้ว่าเล่นไหน อาจจะเป้นเล่มที่ 3 มัยครับ.. คุ้นๆน่ครับ )
ได้กล่าวถึงเรื่อง.. มีผู้พบเห็น UFO ( ในสิงหาปี 2516 ) ซึ่งหลวงพ่อฟษีงนท่านเล่าว่า..
ท่านขึ้นไปข้างบน.. แล้วพบพระพุทธเจ้า ( จำไม่ได้ว่าเป้นพระองค์ไหน ) ได้ตอบข้อสง
สัยให้หลวงพ่อฤษีฯ ว่า... เป็นชาวต่างดาวมาจากดาว 2 ดวง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ดาวพลูโต..
เขามาเทียว.. เหมือนเราไปท่องเทียวตามที่ต่างๆเช่นกัน.. แต่มักจะไปอเมริกาบ่อยกว่าที่อื่น เพราะเขาเห้นว่า ทางอเมริกาส่งจรวดบ่อยๆ น่จะพอติดต่อสื่อสารกันได้.. ( พอดีผมจำเรื่องที่หลวงพ่อฤษีดำ ท่านเล่าไว้ในหนังสือครับ.. )



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.107.74 ศุกร์, 13/4/2555 เวลา : 20:16  IP : 124.121.107.74   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115943

คำตอบที่ 226
      

fiogf49gjkf0d
พี่กบ.. ผมมีข้มูลมาให้พี่กบ และญาติๆที่เขาหลักครับ..

อ่านเจอมาครับ..

" อ่านความเห็นของนักวิทยาศาสย์ นักธรณีวิทยามาเยอะแล้ว...ลองมาฟังอีกความเห็นหนึ่งของคนฝึกสมาธิบ้าง..ผมได้สนทนากับเขาวันนี้เกี่ยวกับภัยพิบัติ..ในนิมิตที่เขาเห็นตอนเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมา..เขาเล่าให้ฟังว่า..เห็นเป็นพญานาคใช้หางฟาดไปที่พื้นของมหาสมุทธ..และหางยังแช่อยู่ที่รอยแยกของพื้นนั้นแหละยังไม่ดึงออกมาเลย..เมื่อถึงเวลาที่พญานาคกระชาคหางขึ้นมาอีกรอบ..ก็ตัวใครตัวมันเลยแหละครับพี่น้อง..แผ่นดินจะไหวใหญ่อีกรอบ..และสึนามิขนาดใหญ่ก็จะตามมา..ภาพที่เขาเห็นมันเอน็จอนาจยิ่งนัก..ระเนระนาดกันไปเป็นแถบๆ..เขาบอกว่าให้เตือนพี่น้องด้วยว่าอย่าเดินทางไปแถบๆนั้น..(กรุณาใช้วิจารณญานในการอ่านครับ).. "

ขออนุญาตไม่เปิดเผยแหล่งข้อมูลแล้วกันน่ะครับ..
( แต่ผมก็รู้ว่า.. พี่กบหาได้อยู่แล้วว่า.. ต้นทางของข้อมูลนี้มาจากไหน... อิอิ )



fiogf49gjkf0d
ที่เห็นๆนะคงนึกว่าหาง้พราะพลังมันมากจนภาพที่ออกมาเป้นพลังมองดูคล้ายๆพญานาคแต่มันรู้สึกไงไม่รู้
จาก : TTC077(TTC077) 14/4/2555 0:19:47 [58.11.230.12]
แถวๆเมืองเยฝั่งอันดามันที่บอยบอกเรื่องต่างดาวแต่มองดูทุกวันมาหลายปีทุกคืนบางคืนเหมือนบางอย่างลอยๆอยู
จาก : TTC077(TTC077) 14/4/2555 0:21:35 [58.11.230.12]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 115.87.5.191 ศุกร์, 13/4/2555 เวลา : 22:39  IP : 115.87.5.191   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115951

คำตอบที่ 227
      

fiogf49gjkf0d
" โดยปกติธาตุ ที่เรารู้จักกันก็มี ดิน น้ำ ลม ไฟ ทั้ง 4 ธาตุนี้ เป็นองค์ประกอบของมนุษย์ และในขณะเดียวกันก็เป็นภัยทางธรรมชาติ ที่จะทำลายมนุษย์ และส่วนใหญ่จะไล่ลำดับกัน เมื่อดินไม่มีอะไรปรกคุม ดินก็แห้งแยกออกจากกัน ทำให้มนุษย์ปลูกพืชไม่ได้หรือแห้งตาย จากนั้นน้ำก็จะตามมา ทำให้ดินถล่มทลาย น้ำก็ท่วม น้ำยังไม่ทันลดลง ลมพายุก็จะพัดโหมกระหน่ำสร้างความเสียหายเข้าไปอีก ไม่นานความร้อนจากไฟก็จะลุกโชนเดือนพล่านใต้แผ่นดิน เกิดแผ่นดินไหว สร้างความเสียหายให้กับมนุษย์ชนิดไม่ทันตั้งตัว จากนั้นก็จะวนไปจุดเริ่มต้นอีก แผ่นดินก็ขยับ ทรุด และพักทลาย มันจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เพราะมันเป็นธรรมชาติที่ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่มนุษย์ต้องไม่ประมาท..." ข้อความบางตอนที่จำได้จากการสนทนากับพระ และผู้ปฏิบัติธรรม สายป่า ผมว่ามันก็จริงเช่นนั้น



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kosol จาก 083 180.180.145.241 ศุกร์, 13/4/2555 เวลา : 23:12  IP : 180.180.145.241   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115952

คำตอบที่ 228
      

fiogf49gjkf0d
พอดีผมอ่านหลายๆบทความ เพื่อเอาข้อมูลต่างๆมาประกอบในการวิเคราะห์ว่าต่อไป สิ่งที่เรากำลังจะเผชิญกับมันนั้น.. มันคืออะไร และขาดของมันใหญ่แค่ไหน ???

มีหลายบทความของคุณ somdul ซึ่งเป็นผู้รอบรู้เรื่องธรณีวิทยา
อ่านแล้ว.. ผมชอบจริงๆ

เลยคิดว่าขอลอง copy มาให้ท่านที่สนใจลองค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมดูครับ..

เป็นที่ทราบว่าทางนาซ่า.. เคยออกเอกสารแจ้งเตือนว่าพื้นที่ภาคกลางของไทยเรามีโอกาสจะจมลงไปในทะเลในไม่ช้านี้ เนื่องจากปรากฏการณ์โลกร้อน..

ทางสายพระ.. ท่านก็บอกว่า.. "อยู่ไม่ได้หรอก"

ทางสายพี่ๆที่สนิทรู้จักกันที่สมาธิแข็งๆ ก็บอกว่า.. "จะมีน้ำท่วมใหญ่" แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในกรุงเทพ.. ซึ่งเท่าที่ประมวลข้อมูลต่างๆจากทางสายนี้.. มันประมาณว่า จะเกิดแบบด่วนฉับพลันทันที
และกรณีเกี่ยวข้องกับอินโดนีเซียนี้.. สายนี้ก็บอกว่าจมแน่ๆอยู่แล้ว ถึงกับต้องไปอัญเชิญสิ่งสำคัญออกมาจากเจดีย์บูโรพุทโธ ก่อนที่จะสายเกินไป..

ของทางคุณ somdul นี้.. ก็ได้ข้อมูลหลักมาจากคุณ Zeta ที่ได้บอกเอาไว้
แล้วเอามาวิเคราะห์ เทียบกับสภาพการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน..
ก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจดีครับ.. ลองศึกษาดูครับ..

.....................................................................................

อ้างอิง : http://board.palungjit.com/f178/ประกาศข่าวแผ่นดินไหว-and-การคาดการณ์-51734-321.html

จากคลิปในกระทู้ที่ 6407

คลิปนี้ท่านที่ได้รับชมรับทราบการบรรยายของคุณ แนนซี่ แล้ว ลองขยายภาพที่ราบลุ่มเจ้าพระยา และทางชายฝั่งทะเลทั้งหมดที่จะได้รับผลกระทบ หลังจากอินโดนีเซียจะจมลง เต็มเกณฑ์ 80 ฟุต ที่คุณ Zeta คาดไว้

แล้วมาไล่ตามหาจุดวิกฤตของเวลา ที่อาจเกิดขึ้นกับ Sunda Plate แผ่น อินโด-ออสเตรเลีย จะปลดเบรคเมื่อไร...ในประเด็นนี้มีความหมายอย่างยิ่งต่อผู้ที่กำลังอยู่ในพื้นที่เสี่ยงทุกคน

เท่าที่ได้ตามหาจิ๊กซอร์ต่างๆ มาปีเศษ ที่คุณ Zeta กล่าวไว้ตรงโน้นที ตรงนั้นบ้างพอสรุปได้ดังนี้

1) สิ่งบอกเหตุก่อนการปลดเบรคของแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย นอกจากการเกิด Cluster ของแผ่นดินไหว ทางนอกเกาะสุมาตราเหนือแล้วมีดังนี้
2) แผ่นแปซิฟิก ที่กำลังมุดลงใต้บริเวณหมู่เกาะมาเรียน่ามากกว่า 200 กม.แล้วนั้น จะเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณนี้ถึง 7-8 ริกเตอร์ แล้ว
3) ส่งผลให้แผ่นฟิลิบปินส์เอียง และกดดันเกาะญี่ปุ่นใต้ มีแผ่นดินไหว เกิดภูเขาใหม่ใกล้ๆเขาฟูจี พร้อมเกิดสึนามิขึ้นที่นั่น
4) เสร็จจากเกาะใต้ ก็เคลื่อนไปที่เกาะเหนือ มีภูเขาไฟระเบิดรุนแรงขึ้นที่เกาะนี้ แผ่นดินไหวรุนแรง 8-9 ริกเตอร์ พร้อมสึนามิ คลื่นความสั่นสะเทือนจากเกาะเหนือนี้จะ
5) ส่งผลให้แผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ปลดเบรค เลื่อนมาซ้อนทับ พื้นที่ประเทศอินโดนีเซียบางส่วนจมลงถึง 80 ฟุต

ท่านที่สนใจในชะตากรรมของผู้ที่อยู่บนพื้นที่เสี่ยง ลองเฝ้าติดตามใกล้ชิดว่า อาการต่างๆล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาต่อไปนี้ จะทะยอยเกิดขึ้นตามมาหรือไม่ โดยยังไม่ต้องไปตั้งความหวังใดๆ รอดูต่อไป

หากทะยอยเกิดขึ้น เราก็เตรียมเลี่ยงไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัยเหนือระดับน้ำท่วม ให้ทันเวลา...หลวงปู่สรวง ท่านเคยเล่าให้หลวงปู่ละมัย เจ้าอาวาสที่จ.สุรินทร์ ฟัง...ก่อนแผ่นดิน กทม. จะจมลง 3 วัน นั้น เทวดาจะนำเอาน้ำทะเลมากมายขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศที่เย็นจัดกว่าลบ 50 องศาเซ็นเซียส ถล่มผู้ไม่มีบุญอุ้ม

อ้างอิง : กระทู้ที่ 6415 ของคุณ somdul เมื่อตอนเช้าของวันนี้..

" การแสดงออกของแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย "

--------------------------------------------------------------------------------

วันนี้แผ่น อินโด-ออสเตรเลีย กำลังเคลื่อนไหวหลายประการ

1) จุดแรกมาพิจารณาที่ บริเวณเหนือเกาะสุมาตรา ไหว 5 ริกเตอร์ เมื่อ 13 เม.ย.
2) ทะเลบันดาใต้ของอินโดนีเซีย ไหว 4.6 ริกเตอรื 12 เม.ย.
3) เกาะวานาตู ทางทิศตะวันออก ไหว 5 ริกเตอร์ 13 เม.ย.
4) ขอบแผ่นทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 4.8 ริกเตอร์ 12 เม.ย.
5) ขอบแผ่นทางทิศตะวันตกแนวละติจูดใกล้กับจุดไหวทางเหนือเกาะสุมาตรา 4.8 ริกเตอร์ 10 เม.ย.

รายการข้อ 4 และ 5 ที่รอดูว่าทำไมยังเงียบอยู่นั้นแสดงอาการออกมาแล้ว บอกว่า แผ่นอินโด-ออสเตรเลีย กำลังเคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันออกอย่างชัดเจนจนบริเวณขอบทางด้านทิศตะวันตกเริ่มแยกออกจากแผ่นทวีปอาฟริกา และแผ่นแอนตาร์กติค

ส่วนรายการที่ 2 และ 3 แสดงการยกตัวของขอบแผ่น ทางส่วนนี้ต่อเนื่อง

ส่วนที่รายการที่ 1 นั้น เพิ่มการกดดัน Sunda Plate ที่อินโดนีเซียตั้งอยู่ มาทางทิศตะวันออกรุนแรงต่อเนื่อง....กำลังบอกว่ากำลังรอการปลดเบรคของแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย นั้นใกล้เข้ามาแล้ว...อันจะทำให้ประเทศอินโดนีเซียจมลงเต็มพิกัดที่ 80 ฟุตนั่นเอง






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 115.87.5.191 เสาร์, 14/4/2555 เวลา : 10:36  IP : 115.87.5.191   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115963

คำตอบที่ 229
      

fiogf49gjkf0d
ลองเข้าไปดูครับ https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81-2012/118397021527281



fiogf49gjkf0d
ลบให้ผมด้วยครับ ใช้ไม่ได้
จาก : nissan16(nissan16) 14/4/2555 12:40:16 [171.7.151.224]
ใช้ได้นี่ครับพี่เอก แต่ต้องก๊อปลิงค์ไปให้หมดเลย
จาก : sailom_276(sailom_276) 16/4/2555 13:28:19 [171.4.108.136]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

nissan16 จาก เอกาTTC-123(NISSAN16) 171.7.151.224 เสาร์, 14/4/2555 เวลา : 12:37  IP : 171.7.151.224   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115965

คำตอบที่ 230
      

fiogf49gjkf0d
http://www.youtube.com/watch?v=3GGz2WuCsqU&feature=related พักนี้แผ่นดินไหวบ่อยจัง เอามาฝากลองเปิดดูครับ และยังมีอีกหลายคลิ๊บ ที่น่าสนใจ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047Mr.RAYฅนบางกอก 58.11.246.55 จันทร์, 16/4/2555 เวลา : 12:44  IP : 58.11.246.55   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115997



คำตอบที่ 231
      

fiogf49gjkf0d
ท้องฟ้าเย็นๆฝั่งตะวันตกมีสีสวยงามบ่อยๆ แถวๆระนองก็บอกอุกาฟ้าสาง อะไรเกิดก็เกิดเราตั่งรับเตรียมไว้นะครับ
ขอเพิ่มมาดูเวปสนุกมาเจอข่าว ที่ผมไปสวนสยามแล้วท้องฟ้ามีสีตามภาพ เกิดเหตุอย่างที่คิดตามภาพเลย
ความคืบหน้าล่าสุด สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรุมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เมื่อเวลา 16.44 น. เกิดเหตุแผ่นดินไหวบนเกาะภูเก็ต ขนาด 4.3 ริกเตอร์ ที่ อ.ถลาง บริเวณรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุแผ่นดินไหว 5.3 ริกเตอร์ที่ประเทศอินโดนีเซีย เพียง 2 นาที ทำให้ประชาชนใน จ.ภูเก็ต สามารถรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ชัดเจน จนชาวท้องถิ่นบางรายระบุว่าเหมือนเกิดขึ้นอยู่บนเกาะภูเก็ตเอง เป็นเหตุทำให้ทางสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว้เกิดความสับสนทางข้อมูล ส่วนทางด้าน ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ได้ออกมายืนยันข้อมูลเดียวกันว่า 16.44 น. เกิดแผ่นดินไหวบนบกขนาด 4.3 ริกเตอร์ที่ จ.ภูเก็ต
ขณะที่คนในโลกโชเชียลเน็ตเวิร์ก ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ในกรณีดังกล่าวว่า ระบบการเฝ้าระวังเตือนภัยของไทยยังไม่มีประสิทธิภาพพอ



เมื่อเวลาประมาณ 16.46 น. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ตรวจพบแผ่นดินไหวขนาดประมาณ 5.5 ริกเตอร์ บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ถึงภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะที่ จ.ภูเก็ต บริเวณแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หาดป่าตอง หาดกมลา อำเภอเมืองภูเก็ต ประชาชนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน พากันวิ่งหนีแตกตื่นออกจากบ้านเรือนและอาคารสูงกันวุ่นวาย รวมทั้งมีรายงานว่าระบบการสื่อสารในพื้นที่ขัดข้องไปในชั่วขณะ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดรายงานว่าจาก สำนักแผ่นดินไหวสหรัฐฯ หรือ USGS ได้ระบุว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.3 ริกเตอร์ ลึกจากพื้นดินประมาณ 14.7 กิโลเมตร บริเวณใกล้เคียงกับจุดที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา เบื้องต้นคาดว่าเป็นเพียงอาฟเตอร์ช็อก และไม่น่าจะเกื้อหนุนให้เกิดคลื่นสึนามิตามมาแต่อย่างใด







fiogf49gjkf0d
พี่กบ
55555555สิ้นไรก็สิ้น ไม่มีวันสิ้นจ้าวโลก 55555555555555555
จาก : TTC077(TTC077) 16/4/2555 19:16:55 [124.120.183.22]
55555...
จาก : puky(puky) 17/4/2555 0:18:32 [119.46.218.1]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

TTC077 จาก TTC-077oTAKOBo 124.120.183.22 จันทร์, 16/4/2555 เวลา : 19:02  IP : 124.120.183.22   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115998

คำตอบที่ 232
      

fiogf49gjkf0d
วันนี้ ไหว แบบงง ครับ เมือครั้งก่อนไหนแบบเวียนหัว ครั้นนี้ แรงๆๆๆๆๆ มากๆๆ ครับ รู้สึกกันทั้งบ้านเลย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลมหนาว จาก ลมหนาว 118.173.74.233 จันทร์, 16/4/2555 เวลา : 21:43  IP : 118.173.74.233   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 116001

คำตอบที่ 233
      

fiogf49gjkf0d
ประกาศ...

สำหรับท่านที่ตระหนักถึงภัยพิบัติที่คาดว่าจะได้ประสพเร็วๆนี้...
ขอให้ท่านเตรียมเป้ฉุกเฉินและเป้ยังชีพได้แล้วครับ.. เต็มอัตราศึก

สิ่งของมีค่า สิ่งที่ท่านรู้สึกว่าขาดไม่ได้เตรียมไว้ในเป้ได้เลย..
เงินสดที่พร้อมจะใช้จ่าย.. น้ำมันให้เต็มถังไว้เสมอ..

ปืนผาหน้าไม้.. อาวุธปืนเครื่องกระสุนเตรียมให้พร้อมรับมือภัยจากคน..
เส้นทางสำหรับหนีออกนอกเขตกรุงเทพและปริมณฑล.. คิดวางแผนไว้ได้เลยครับ



fiogf49gjkf0d
ฟันธงได้เลยฝั่งพม่าล้านเปอร์เซ็นเตรียมไว้ก่อนเลยครับตรงไหนของพม่าก็แถวๆเมืองเย
จาก : TTC077(TTC077) 17/4/2555 17:45:12 [124.122.102.50]
มีรถหลายๆคันก็ทยอยๆ เอาไปจอดที่อื่นได้เลยนะคับ .... อิอิ
จาก : ttc009(ttc009) 17/4/2555 19:21:59 [49.48.102.135]
เตรียมเล็งหาที่จอดไว้แล้วครับคุณหนุ่ม.. กำลังเล็งหาที่ขนของไปเก็บเช่นกัน
จาก : 005 (005 ) 17/4/2555 21:04:11 [110.168.11.6]
โซนพม่า.. อันดามัน.. ไม่เหลืออยู่แล้วครับพี่กบ... ที่ผมกลัวคือ.. อ่าวไทยครับ
จาก : 005 (005 ) 17/4/2555 21:05:18 [110.168.11.6]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 อังคาร, 17/4/2555 เวลา : 16:54  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 116009

คำตอบที่ 234
      

fiogf49gjkf0d
Copy มาให้อ่านครับ..

++++ บทความนี้ยาวมาก แต่ก็อยากให้อ่านกัน เพราะสักวันนึงมันอาจจำเป็นก็ได้ ++++

++++ บทความนี้ส่วนใหญ่ผมคัดลอกมากจากข้อมูลท้ายเล่มของหนังสือการ์ตูนที่ชื่อว่า 51 มหาวิบัติวันสิ้นโลก หรือในชื่อญี่ปุ่นว่า

Kanojo wo Mamoru 51 no Houhou ซึ่งเอื้อเฟื้อข้อมูลโดยคุณ มิโนรุ วาตานาเบะ นักเขียนประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันภัยพิบัติของประเทศญี่ปุ่น ++++

อนึ่ง บทความนี้เกืดขึ้นเนื่องจากเห็นหลายๆท่านตื่นตัวมากขึ้นกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นถี่เหลือเกินในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา

และล่าสุดวันนี้ก็เกิดแผ่นดินไหวและซึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น หลายท่านก็พากันใจหายไปตามๆกัน

ตัว ผมเองก็คุยผ่านเมลกับเพื่อนที่ไปทำงานที่นั่น และค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อยว่าคนที่นั่นแตกตื่นเพียงชั่วโมงแรกหลังจาก เกิดเหตุการณ์เท่านั้น

คำตอบที่ได้รับคือ ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติในประเทศนั้นถูกฝึกให้เตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติในรูปแบบต่างๆเป็นประจำอยู่แล้ว

ผมเลยมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ที่นานทีปีหนถึงจะเจอภัยธรรมชาติหนักๆสักครั้ง

แผ่นดินไหวนี่ไม่ต้องพูดถึง โอกาสเกิดต่ำมากเพราะไม่ได้อยู่ตรงรอยต่อของเปลือกโลก

แต่ อย่างว่าครับ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ผมจะขอนำเสนอข้อมูลวิธีป้องกันและช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่นเวลาที่เราประสบ ภัยแป่นดินไหวไว้ในนี้นะครับ

เพราะถ้ามันเกิดขึ้น คงไม่มีฮีโร่หรือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเราแน่ๆ

สิ่งที่จะช่วยเราได้คือ สติ การตัดสินใจและปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเท่านั้น จึงจะทำให้เราสามารถช่วยตัวเองและผู้อื่นให้รอดตายได้

จากผู้ที่เคยประสบแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เคยบอกว่า "เหมือนเข้าไปอยู่ในรถผสมปูน"

จง ลืมความเชื่อเก่าๆเสียที่ว่าเวลาเกิดแผ่นดินไหวให้หลบอยู่ใต้โต้ะ ความเป็นจริงถ้าเกิดแผ่นดินไหวขนาด6ริตเตอขึ้นไป ผู้ที่อยู่ในตึก อาคาร หรือบ้านเรือนจะอันตรายมาก

แรงสั่นสะเทือนจะทำให้ข้าวของและเฟอร์นิเจอร์ในบ้านกระเด็นไปมา บ้านอาจจะหลุดลอยออกจากฐานและพังทลาย

และ ระยะเวลาสั่นสะเทือนนั้นไม่แน่นอน อาจจะแค่10วินาทีหรือนานหลายนาที ซึ่งในตอนนั้นเราต้องรีบตัดสินใจทันทีว่าสั่นสะเทือนขนาดนี้เราควรอยู่ที่ ไหน

ถ้าสั่นแค่นิดหน่อยๆแค่น้ำในแก้วน้ำสั่นๆหรือเพียงมึนหัวนิดๆ ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรมาก

แต่ ถ้าสั่นหนักถึงขนาดหนังสือบนชั้นกระเด็นออกมา โคมไฟแกว่งเป็นวงกว้าง หรือโต้ะเคลื่อนที่ได้ รีบออกมาจากที่พักหรืออาคารเถอะครับ อยู่ต่อคุณอาจโดนฝังทั้งเป็นก็ได้

+++++++

ท่อใต้ดินลอย พื้นดินกลายเป็นคลอง

เป็น ที่ทราบกันว่าถนนหนทางบ้านเรานั้นดีเสียเหลือเกิน และพื้นที่ส่วนใหญ่ก็เป็นดินอ่อน ดังนั้นสิ่งที่คุณจะเจอแน่ๆหากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงนั่นคือ

ปรากฎการณ์ดินเหลวตัว โดยที่พื้นดินจะอุ้มน้ำใต้ดินจนทำให้ดินกลายสภาพเป็นโคลน

และท่อใต้ดินหรือท่อระบายน้ำที่ฝังตเวอยู่ก็จะลอยตัวขึ้นมา ทำให้ยากต่อการเดินทางและการคมนาคมในจุดเกิดเหตุจะเป็นอัมพาต

ที่ เลวร้ายกว่านั้นก็คือ การที่ดินเหลวตัวนั้นจะทำให้ฐานของตึกที่เป็นเสาฝังลงไปในพื้นดินอาจเกิดการ โยกตัวหรือหัก ทำให้ความสามารถในการรองรับหรือประคองตึกลดต่ำลง และพังทลายในที่สุด

จึงอย่างที่บอกไว้เบื้องต้นครับ ลืมความเชื่อเก่าๆเสียว่าอยู่แต่ในบ้าน/ตัวอาคารปลอดภัยที่สุด ถ้าเกิดแผ่นดินไหวระดับรุนแรง เราอาจถูกฝังทั้งเป็นก็ได้

+++++++

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าแผ่นดินไหวคือ อาฟเตอร์ช้อค

เมื่อเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง สิ่งที่ตามมาเสมอคืออาฟเตอร์ช้อค ระยะเวลาในการเกิดอาฟเตอร์ช้อคนั้นก็ไม่แน่นอน

จากสถิติของศูนย์ควบคุมภัยพิบัติประเทศญี่ปุ่นบันทึกไว้ว่า อาฟเตอร์ช้อคที่เร็วที่สุดคือเกิดหลังจากแผ่นดินไหว 7นาที

และที่ร้ายกว่านั้นคือมีอาฟเตอร์ช้อคเกิดหลังอาฟเตอร์ช้อคอีกรอบหลังจากผ่านไป 40นาที

บางครั้งก็ต้องรอกันครึ่งวันเลยทีเดียว เช่นแผ่นดินไหวทางตอนบนของจังหวัดมิยางิในวันที่ 26 กค. 2003 เกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.5

หลังจากนั้นราว7ชั่วโมง ก็เกิดอาฟเตอร์ช้อคที่มีแรงสั่นสะเทือน 6.2

ดัง นั้นต่อให้เรารอดจากแผ่นดินไหวไปแล้วก็ตาม เราก็ยังต้องตื่นตัวเสมอเพื่อรับมือกับอาฟเตอร์ช้อคที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร และจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด

ถึงรอดจากแรงสั่นสะเทือน แต่ก็จงระวังตัวจากภัยระลอก2

อย่าง ที่เห็นในข่าวครับ ถ้าเกิดแผ่นดินไหวในทะเล สิ่งที่จะเกิดตามมาคือคลื่นยักษ์สึนามิ ซึ่งทั้ง2สิ่งนี้ทำให้ตึกรามบ้านช่อง ถนนหนทางและสะพานพังถล่ม

สิ่งเหล่านี้เราจะถือว่าเป็นภัยระลอกแรก

แต่ภัยระลอก2ก็คือ ไฟไหม้ น้ำหยุดเดิน ไฟฟ้าดับ ซึ่งเป็นการทำให้ผู้ประสบภัยต้องลำบากยิ่งกว่าเดิม

โดยเฉพาะไฟไหม้นั้นอันตรายมากหากคุณอาศัยอยู่ในเขตชุมชนแออัด หรืออาศัยอยู่ในตึกสูง

ดังนั้นจงระวังผลกระทบจากแผ่นดินไหวนี้ให้ดีๆนะครับ

+++++++

พายุหมุนไฟ เรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นจริง

เวลา ที่เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่หลังแผ่นดินไหว สิ่งที่จะเกิดตามมาก็คือเปลวเพลิงก่อตัวเป็นรูปร่าง ความร้อนทั้งหลายลอยตัวสู่ท้องฟ้าผสมกับมวลอากาศเย็น

และก่อตัวเป็น พายุหมุนในท้ายที่สุด ซึ่งมักจะเกิดขึ้นได้ง่ายในพื้นที่โล่งกว้าง พายุหมุนนี้จะแรงมากจนสามารถดูดคนที่อยู่แถวนั้นขึ้นไปได้

และเนื่องจากพายุลูกนี้มีส่วนประกอบของไฟและความร้อน ผู้ที่โดนดูดเข้าไปก็จะอยู่ในสภาพ ย่างสด ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่รอด

ที่ญี่ปุ่นเคยมีผู้เสียชีวิตเพราะพายุหมุนไฟนี้ถึง38000คน จากผู้ที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว40000คนเชียวนะครับ น่ากลัวมากๆ

+++++++

14 นาทีแห่งความเป็นและความตาย

จากสถิติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ โกเบ โอซาก้า และอาวาจิ จะมีผู้เสียชีวิตภายใน14นาทีหลังเกิดเหตุถึง 80%

และในพื้นที่ๆเกิดเหตุ หากเลย72ชั่วโมงไปแล้วอัตราการรอดชีวิตจะต่ำมาก และการช่วยชีวิตก็จะทำได้ยากขึ้น

ดังนั้น ในช่วงเวลาหลังเกิดเหตุมีแต่ผู้ที่รอดชีวิตเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตด้วยกันได้

หากไม่เหนือกว่าบ่าแรง ไม่จำเป็นต้องรอให้ ตำรวจ หน่วยพยาบาล หรือหน่วยกู้ภัยมาก็ได้ครับ พยายามช่วยเท่าที่จะช่วยได้ไปก่อน

อย่างน้อยก็จะสามารถยื้อชีวิตหรือบรรเทาอาการบาดเจ็บให้น้อยลงจนกว่าจะถึงมือหมอได้ครับ

4 สิ่งที่ต้องพกติดตัวยามเกิดภัยพิบัติ

1. โทรศัพท์มือถือ - ถือเป็นของสำคัญที่สุด เพื่อเอาไว้โทรบอกคนอื่นว่าเราปลอดภัยดีหรือไม่ ถึงแม้หลังเกิดเหตุจะใช้การไม่ได้ทันที

แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็จะใช้การได้ ดังนั้นอย่าลืมพกแบทสำรองหรือที่ชาจเอาไว้นะครับ

2. วิทยุ - เชื่อว่ายุคนี้ไม่มีใครพกวิทยุไปไหนมาไหนแน่ๆ แต่เมื่อถึงเวลาพยายามหาวิทยุเอาไว้จะเป็นการดีครับ เพื่อติดตามข่าวสารที่จำเป็นอย่างใกล้ชิด

และแน่นอนคือ อย่าลืมหาถ่านสำรองเอาไว้ด้วยล่ะ

3. น้ำดื่มใส่ขวด - หลังจากเกิดภัยพิบัติ น้ำดื่มที่เราพกติวตัวไว้นั่นแหละคือน้ำแห่งชีวิตองเราเลยล่ะ แต่อย่าดื่มรวดเดียวหมดล่ะครับ

ค่อยๆจิบทีละน้อยเพื่อให้หายคอแห้งเท่านั้น และที่สำคัญเก็บขวดเปล่าติดตัวเอาไว้ เพื่อเอาไว้เก็บน้ำจากแหล่งน้ำที่หาได้

น้ำยังสามารถใช้ล้างแผลได้อีกด้วย จำเป็นมากจริงๆครับ และหากหวังน้ำจากศูนย์ผู้ประสบภัย ให้คิดไว้เลยว่ามักจะใช้เวลา2-3วัน

จึง จะมีการตั้งศูนย์ผู้ประสบภัยตามจุดต่างๆ และเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามีน้ำเหลือมาถึงเรา หรือมีน้ำในแท้งค์น้ำแต่ไม่มีขวดหรือภาชนะเพียงพอ

ดังนั้นเก็บขวดเปล่าไว้กับตัวจะดีที่สุดครับ

4. กระดาษชำระและผ้าเช็ดหน้า - คนเราต้องขับถ่ายกันอยู่แล้ว และในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ หลังจากท่านถ่ายหนักท่านจะใช้อะไรทำความสะอาดล่ะครับ

น้ำล้าง เหรอ...ไม่นะ สถานการณ์นั้นน้ำมีไว้กินและทำความสะอาดแผลเท่านั้น ใช้กระดาษชำระหรือเศษผ้าเท่านั้นครับ อย่าเอาน้ำไปเสียกับเรื่องไร้สาระแบบนั้น

และที่สำคัญ กระดาษชำระยังใช้ปฐมพยายามได้ด้วยนะ

+++++++

ผ้าอนามัยใช้ห้ามเลือดได้ดีนักแล

ยามใดที่เกิดแผ่นดินไหว ก็มักจะมีของหล่นลงมาหรือกระจกแตก เราอาจจะเห็นคนรอบตัวหัวแตกหรือบาดแผลอาบไปด้วยเลือดกันบ้าง

เมื่อ เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น สิ่งแรกที่เราต้องมองหาคือ กระดาษทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้า เพื่อใช้ในการเช็ดเลือดและมองหาปากแผลว่าหนักขนาดไหน

ในกรณีที่ เลือดไหลไม่หยุด การใช้ผ้าพันแผลไว้ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่จะดีที่สุดถ้าใช้ผ้าอนามัย เพราะมันมีคุณสมบัติในการซับเลือดได้ดี อีกทั้งยังสะอาดอีกด้วย

การห้ามเลือดนั้นก็ไม่ยาก ถ้าบาดแผลอยู่ที่แขนหรือขา ก็ให้เอาผ้าผูกเหนือแผลไว้เพื่อลดการไหลของเลือดไปยังแผล แล้วค่อยนำสิ่งที่จะใช้ห้ามเลือดกดปากแผลและผูกเอาไว้

สิ่งสุดท้าย ที่ห้ามลืมก็คือ การกุมมือผู้บาดเจ็บและพยายามพูดให้กำลังใจ เพราะเวลาที่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้มักจะทำให้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยิ่งตัวเองเป็นผู้บาดเจ็บด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่

การทำให้ผู้ป่วยครองสติเป็นปกติได้นั้นสำคัญไม่แพ้กันเลยนะครับ

+++++++

น้ำคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่กลับมาหลังสุด

เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นในเมืองใหญ่สาธารณูปโภคจะถูกตัดขาดในช่วงเวลาหนึ่ง

รัฐบาลญี่ปุ่นเคยคาดการณ์ไว้ว่าการฟื้นฟูสาธารณูปโภคหลักๆต้องใช้เวลาแตกต่างกันไปดังนี้

โทรศัพท์ 2 สัปดาห์ / ไฟฟ้า 6 วัน / น้ำประปา 1 เดือน

2อย่าง แรกอาจไม่หนักหนาเท่าไร แต่น่ำประปานี่สิครับ ขนาดประเทศไฮเทคอย่างญี่ปุ่นยังต้องใช้เวลาถึง1เดือนกว่าจะฟื้นฟูได้ แล้วประเทศเราจะขนาดไหนกันล่ะเนี่ย

สิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ ลืมเรื่องอาบน้ำไปซะ พยายามกักตุนน้ำให้ได้มากที่สุด ตัวเหม็นหัวเหนียว ก็ยังดีกว่าอดน้ำตายใช่ไหมครับ

คนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย อัตรารอดจะค่อนข้างต่ำ

เคยดูหนังจำพวกหนีตายอะไรพวกนี้ไหมครับ สังเกตุไหมครับว่าสิ่งที่พวกตัวเอกทำแทบทุกเรื่องคืออะไร?

วิ่ง ปีน กระโดด ทำสิ่งใช้แรงและพลังงานทั้งหลาย เรื่องจริงก็เหมือนกันครับ ความฟิตของร่างกายก็เป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการเอาตัวรอด

ใครจะรู้ว่าเมื่อไรคุณจะต้องวิ่งหนีคลื่นสึนามิ หรือของที่คลื่นพัดมาด้วยจำพวกรถหรือของใหญ่ต่างๆ

หรือแม้แต่เวลาไฟไหม้ หลังจากสำรวจควันและทิศทางลมแล้ว การวิ่งหนีให้พ้นจากต่ำแหน่งใต้ลม หรือการพาตัวเองออกจากควันไฟ

ล้วน แล้วใช้ความอึดทางร่างกายและจิตใจทั้งนั้นครับ คนที่ร่างกายอ่อนแอไม่ค่อยได้ออกกำลังกายจะอันตรายมากหากเข้าไปอยู่ใน สถานการณ์เช่นนี้

ดังนั้น มาออกกำลังกายกันไว้ก่อนดีกว่าครับ นอกจากทำให้สุขภาพดีและหุ่นดีแล้วมันอาจทำให้เรารอดตายยามเกิดเหตุฉุกเฉินก็ได้นะ

+++++++

นั่งลงแล้วตะโกนว่า "ใจเย็นๆ!"

เวลาที่เกิดแผ่นดินไหว ไม่ว่าใครก็ต้องตกใจและตื่นตระหนกด้วยกันทั้งนั้น ในสมองจะคิดอะไรไม่ออกและว่างเปล่า

สิ่งที่คนทั่วไปมักจะทำก็คือวิ่งๆๆแล้วก็วิ่ง แต่ถ้าอยู่ในซอยหรือถนนแคบๆ การที่ต่างคนต่างวิ่งจะทำให้เกิดการเหยียบกันตาย

ถ้าเป็นไปได้ สิ่งที่ควรทำคือสูดหายใจลึกๆแล้วตะโกนให้ดังที่สุดว่า "นั่งลง!! ใจเย็นๆ!!"

การทำแบบนี้จะช่วยเรียกสติของผู้คนที่กำลังแตกตื่นให้กลับมาได้ไม่มากก็น้อย

ถือเป็นจิตวิทยามวลชนอย่างหนึ่งเอาไว้รับมือความวุ่นวายของฝูงชน เพราะไม่มีอะไรเท่าฝูงชนแตกตื่นขาดสติอีกแล้วนะครับ

+++++++

ส้นรองเท้าน่ะหักทิ้งไปซะ และอย่าสวมถุงน่องเด็ดขาด

2สิ่งนี้ไม่ได้ช่วยให้การเอาตัวรอดสูงขึ้นเลยครับ กลับกันจะต่ำลงด้วยซ้ำ

ส้น รองเท้าที่แหลมและสูง ทำให้หนีได้ช้าและลำบากต่อการเดินติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่หลายระดับ หารูหรือช่องเล็กๆ สอดส้นเข้าไปแล้วหักมันออกมาเลยครับ

เสียรองเท้าคู่โปรดก็ยังดีกว่าเสียชีวิตใช่ไหมล่ะครับ

ถุงน่อง จะอันตรายมากหากอยู่ในพื้นที่ไฟไหม้ เพราะถ้าถูกไฟลวกทั้งๆที่สวมถุงน่องอยู่ มันจะเป็นอะไรที่แย่สุดๆเลยล่ะครับ

ไนล่อนที่เหลวและร้อนเยิ้มติดแน่นกับขา มันทำให้ทรมาณสุดๆไปเลยนะ ถ้าเป็นไปได้ถอดเก็บไว้ก่อนเถอะครับ

+++++++

อาชญากรรมทางเพศ สาวๆจงพึงระวัง

ถึง จะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่นี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงที่มากับภัยแผ่นดินไหว หลังจากเกิดเหตุสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยส่วนมากจะดิ่งลงเหว

เพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่ซากปรักหักพังและความเสียหาย ใครจะรู้ครับว่าจะมีสวะสังคมบางกลุ่มที่จ้องจะหาประโยชน์จากเหตุการณ์ร้ายแรง

หรือแม้แต่คนธรรมดาแต่ศีลธรรมถูกทำลายสิ้นเพราะความสิ้นหวัง และที่ควรระวังที่สุดคือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล

เพราะมันอาจทำให้เกิดความสบายใจลืมทุกข์ แต่มันก็ทำให้สติหายไปด้วยเช่นกัน

เวลาปกติยังมีบ่อยไปครับเรื่องที่เมาเลยฉุดผู้หญิงข่มขืน แล้วนับประสาอะไรกับเวลาที่เลวร้ายชวนสิ้นหวังแบบนั้น

คุณมิโนรุ วาตานาเบ้ ผู้เอื้อเฟื้อข้อมูลเรื่องนี้ เคยไปทำข่าวแผ่นดินไหวที่โกเบในปี 1995 บอกว่าถึงแม้ไม่มีข้อมูลทางการออกมา

แต่จากการเข้าไปพบเจอกับผู้ประสบภัยในพื้นที่ก็พบว่ามีการข่มขืนเกิดขึ้นจริง

เช่น ผู้หญิงเข้าไปในที่ลับตาคนเพื่อปลดทุกข์ แล้วก็ถูกคนร้ายที่ซุ่มรออยู่จัดการก่อคดี หรือชวนเหยื่อไปทานอาหารในอาคารแล้วจัดการก่อคดี

หรือแม้แต่อาสาสมัครผู้หญิงที่ถูกล่อลวงให้ไปทำแผล และจากนั้นก็ถูกล่อลวงไปในที่ลับตาคนและก่อคดี

จุดร่วมสำคัญที่คุณวาตานาเบ้พบก็คือ "คนร้ายได้ดื่มเหล้าเข้าไปก่อนก่อเหตุ"

และอย่าได้หวังพึ่งตำรวจครับ เพราะเวลานั้นทุกคนต่างก็มีงานตึงมือกันอยู่แล้ว

ทางที่ดีผมขอแนะนำสาวๆทั้งหลาย หลังจากเกิดภัยพิบัติแล้ว เป็นไปได้หาอะไรมาปิดๆส่วนที่มันชะเวิบชะวาบไว้หน่อย

ล้างเครื่องสำอางออกซะ อย่าทำตัวให้เป็นที่ยั่วอารมณ์ของเพศตรงข้ามมากนัก พยายามหาเพื่อนผู้ชายที่ไว้ใจได้(ไว้ใจได้จริงๆน่ะ)

หรืออยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ๆไว้ก็จะดีมาก เพราะอย่างน้อยสาวๆกลุ่มใหญ่ก็คงพอช่วยกันพวกหื่นกามได้พอสมควร

เพราะผู้ชายเวลาขาดสติ หน้ามืด หื่นขึ้นสมองเนี่ย มันทำได้ทุกอย่างนะครับ

ตัวผมเองก็เป็นผู้ชาย และรู้ดีว่าเวลาหน้ามืดตามัวมันเป็นยังไง แหะๆๆ

ระบบการเรียงลำดับผู้บาดเจ็บของแพทย์กู้ภัย

การรักษาพยาบาลเวลาเกิดภัยพิบัติ ส่วนมากจะใช้ระบบ TRIAGE หรือการเรียงลำดับผู้บาดเจ็บ นั่นคือ "รักษาผู้ที่มีอาการสาหัสก่อน"

เนื่องจากการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงนั้นชั่วพริบตาก็จะมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก มิหนำซ้ำอุปกรณ์การแพทย์ทั้งหลายก็อาจได้รับความเสียหาย

ประกอบกับสาธารณูปโภคก็อาจเป็นอัมพาต เครื่องมือและบุคลากรก็มีจำกัด

หมอ จะละเลยผู้ที่มีอาการสาหัสที่อาจถึงแก่ชีวิตไม่ได้โดยเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้ผู้ที่อาการสาหัสและอาจเสียชีวิตหากไม่ได้้รับการรักษาก็จะถูกพา ตัวไปเข้ารับการรักษาก่อน

ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะมีผู้ประสบภัยแขนขาดขาหักอยู่ตรงหน้าก็ตาม แต่หากเห็นว่าไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตก็จะได้รับการรักษาทีหลัง

หรือแม้แต่ต่อให้สาหัส แต่ต่อให้เข้ารับการรักษาก็ไม่รอดอยู่ดี ก็จะถูกบอกปัดไม่ให้เข้ารับการรักษา

ระบบ นี้อาจดูโหดร้าย แต่ถ้าลองคิดดูดีๆแล้วถือว่าเป็นระบบที่เหมาะสมมาก หากมองในมุมที่ต้องการรักษาชีวิตผู้ประสบภัยไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ครับ

+++++++

จงเตรียมใจไว้ว่า จะไม่ได้กลับบ้านในเร็ววันแน่นอน

หลังจากที่เกิดภัยพิบัติร้ายแรงในเมืองใหญ่ แน่นอนว่าการคมนาคมจะเป็นอัมพาต

ถ้าบ้านอยู่ใกล้ๆและเดินกลับได้ก็ดีไป แต่ถ้าอยู่ไกลมากๆ และไม่น่าที่จะเดินไหว

สิ่งที่ต้องทำก็คือพยายามประคองสติเอาไว้ หาสิ่งยังชีพให้ได้มากที่สุด และค่อยๆเดินทางครับ

และอย่ารีบ ยิ่งรีบร้อน สภาพจิตของเราเองนั่นแหละที่จะยิ่งเตลิดจนอาจคุมไม่อยู่

เวลานั้นขอให้ยึดหลัก ช้าแต่ชัวร์ เอาไว้ดีกว่าครับ

สำหรับผู้ที่มาจากต่างจังหวัด ถ้าเป็นไปได้หากกลับไปยังที่พักไม่ได้ และติดต่อกับคนรู้จักไม่ได้

ก็อยู่แถวๆที่เกิดเหตุคอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยคนอื่นๆระหว่างที่รอความช่วยเหลือก็จะดีมากๆเลยครับ

+++++++

ป้องกันตัวเองจากข่าวลือที่เข้ามากระทบจิตใจ

เรื่องนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ เพราะนอกจากน้ำและอาหาร ข่าวสารก็เป็นสิ่งที่เราต้องติดตามตลอด

ซึ่งในช่วงนี้ข่าวลือจะมีเยอะมาก และต้องใช้วิจารณญาณการกรองข้อมูลให้ดีที่สุดนะครับ

เช่นว่ามีข่าวลือว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช้อคหรือคลื่นสึนามิกำลังพัดเข้ามา ข่าวลือพวกนี้จะทำให้เกิดความแตกตื่นและความวุ่นวายมาก

และที่แย่กว่านั้นก็คือ ข่าวลือเกี่ยวกับคน ในญี่ปุ่นช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งงใหญ่ในเขตคันโตก็มีข่าวลือว่า

ชาว ต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่นรวมตัวกันก่อความวุ่นวาย ทำให้เกิดจลาจลผู้ที่อยู่ในเขตประสบภัยไล่ทำร้ายฆ่าเข่นชาวต่างชาติที่ไม่ รู้อิโหน่อิเหน่ไปเป็นจำนวนมาก

ในบ้านเราที่ผมกลัวว่าจะเกิดขึ้นก็คือ ข่าวลือจำพวกว่า พวกเสื้อสีนั้นสีนี้ฉวยโอกาสก่อความวุ่นวายในพื้นที่อะไรทำนองนี้น่ะครับ

อย่างไรเสีย สิ่งที่ควรทำที่สุดก็คือฟังข่าวจากวิทยุหรือจากเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงไว้ จะเป็นการดีกว่าไปฟังจากปากต่อปากนะครับ

+++++++

บอร์ดฝากข้อความ

เคยเห็นในหนังประสบภัยที่ผู้คนพากันไปแปะกระดาษข้อความบอกถึงความเป็นไปของตัวเองหรือจุดนัดพบไหมครับ

หากเกิดขึ้นจริง การทำเช่นนี้นก็จะดีไม่น้อยในกรณีที่เราพลัดหลงกับกลุ่มเพื่อนหรือคนรู้จักและต้องการนัดหมายจุดนัดพบให้ไปเจอกัน

หรือการบอกว่าที่ไหนมีศูนย์ผู้ประสบภัย มีกี่จุด จุดไหนอยู่ตรงไหนบ้าง ห่างกี่เมตรกี่กิโลเมตร

ซึ่งจะสามารถช่วยผู้ประสบภัยที่จะผ่านมาทีหลังและไม่รู้เหนือรู้ใต้ว่าจะยังไงไปทางไหนดีได้มากทีเดียวครับ

+++++++

ผมหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับใครก็ตามที่ได้อ่านและต้องไปอยู่ในเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนั้นนะครับ

สำหรับ ผมนั้นจำเป็นมากๆเลยล่ะ เพราะผมคิดจะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ซึ่งคงไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้รึเปล่า ดูข่าววันนี้ก็เสียวใช่เล่นเลยครับ

และสำหรับผู้ที่อยู่ในไทย ถึงแม้ว่าประเทศเราค่อนข้างโชคดีที่ไม่ได้ตั้งอยู่ตรงรอยต่อของเปลืองโลก และระดับน้ำในอ่าวไทยค่อนข้างตื้น

ทำให้ยากต่อการเกิดสึนามิหลังแผ่นดินไหว แต่อย่างไรเสียกันไว้ดีกว่าแก้ครับ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม

หวังว่าถ้าวันนั้นมาถึง ข้อมูลนี้น่าจะช่วยพวกท่านได้ไม่มากก็น้อยครับผม

และสุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณ คุณมิโนรุ วาตานาเบ้ ผู้เอื้อเฟื้อข้อมูล และนักวาดการ์ตูนเรื่อง 51 มหาวิบัติวันสิ้นโลก คุณอุซามารุ ฟุรุยะ

ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความน่ากลัวและวิธีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้อย่างสนุกสนานและยอดเยี่ยมไว้ณ.ที่นี้ครับผม



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.168.11.6 อังคาร, 17/4/2555 เวลา : 22:25  IP : 110.168.11.6   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 116012

คำตอบที่ 235
      

fiogf49gjkf0d
เรื่องภัยพิบัติ... ตามที่ในหลวงบอกเมื่อต้นปี๒๕๕๕ โปรดฟังอีกครั้ง

ในหลวงพระราชทานพรปีใหม่ ๒๕๕๕ ไม่ประมาท มีสติปัญญารู้คิดตลอดเวลา

>>วันนี้ (31 ธ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพรปีใหม่แก่ประชาชนชาวไทยผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ มีใจความว่า>>

ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คนและขอขอบใจท่านเป็นอย่างมากที่ร่วมกันจัดงานฉลองอายุครบ 7 รอบให้อย่างเหมาะสมงดงามระหว่างปีที่แล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านเมืองนับว่าเป็นปรกติดีแต่พอเข้าปลายปีก็เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้ประชาชนหลายจังหวัดต้องประสบอันตรายและความเดือดร้อนลำบาก ความเสียหายครั้งนี้ดูจะร้ายแรงกว่าครั้งไหนๆ ที่ผ่านมา ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจอย่างสำคัญดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้หลายครั้งแล้วว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้น จะต้องมีทุกข์มีภัย มีอุปสรรค ผ่านเข้ามาเนืองๆ ไม่มีผู้ใดจะอยู่เป็นปรกติสุขอย่างเดียวได้

"ทุกคนจึงต้องเตรียมกาย เตรียมใจ และเตรียมการไว้ให้พร้อมเสมอ...
เพื่อเผชิญและป้องกันแก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อนต่างๆ ด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผลด้วยหลักวิชา และด้วยความสามัคคีธรรม"...

ในปีใหม่นี้จึงขอให้ประชาชนชาวไทยได้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทโดยมีสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดกำกับอยู่ตลอดเวลา ผู้ใดมีภาระหน้าที่อันใดก็เร่งกระทำให้สำเร็จลุล่วงไปให้ทันการณ์ทันเวลาผลงานทั้งนั้นจะได้ส่งเสริมให้แต่ละคนประสบแต่ความสุขความเจริญและทำให้ชาติบ้านเมืองดำรงมั่นคงและก้าวหน้าต่อไปด้วยความผาสุกสวัสดีขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้มีความสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีภัยตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.168.11.6 อังคาร, 17/4/2555 เวลา : 23:59  IP : 110.168.11.6   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 116014

คำตอบที่ 236
      

fiogf49gjkf0d
Copy มาให้ลองค้นคว้าดูครับ...

รวบรวมแนวคิด ที่ได้จากพระราชนิพนธ์เรื่อง "พระมหาชนก"

มาช่วยกันถอดรหัสกันว่าในหลวงท่าน มีพระราชประสงค์ที่จะสื่อสาร พระราชทานแนวคิดให้พสกนิกรของพระองค์อย่างไรบ้าง
http://board.palungjit.com/f178/ตามรอย-พระมหาชนก-248273.html

ดร.สมิทธ กล่าวถึงในหลวง ...
อันเกี่ยวเนื่องกับเรื่องภัยพิบัติของบ้านเรา...
http://www.youtube.com/watch?v=5K_AkC9jIkU







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.168.16.137 พฤหัสบดี, 19/4/2555 เวลา : 21:38  IP : 110.168.16.137   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 116026

คำตอบที่ 237
      

fiogf49gjkf0d
กรุงเทพฯ เหมือน “เม็กซิโกซิตี” ที่ราบคาบจากแผ่นดินไหว 27 ปีก่อน

นักวิชาการ ระบุ กรุงเทพฯ มีความเสี่ยงเหมือน “เม็กซิโกซิตี” ที่ราบคาบจากแผ่นดินไหว เมื่อ 27 ปีก่อน ทั้งๆ ที่จุดศูนย์กลางอยู่ไกลกว่า 350 กิโลเมตร เหตุเพราะอยู่บนพื้นที่ดินอ่อนเช่นเดียวกัน และไม่ได้ออกแบบอาคารรองรับแผ่นดินไหว แจงมี 3 รอยเลื่อนที่กำหนดความเสี่ยงเมืองกรุง คือ รอยเลื่อนในเมืองกาญจน์ พม่า และแนวมุดตัวทางฝั่งอันดามัน ชี้ ควรสร้างอาคารที่รองรับการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว

รศ.ดร.อมร พิมานมาศ จากสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประธานคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมโครงสร้างและสะพาน สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2554 มีความตื่นตัวในเรื่องแผ่นดินไหวกันมากขึ้น ซึ่งจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงทั้งในนิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จนถึงแผ่นดินไหวล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 เม.ย.55 นั้น อาคารสูงหลายแห่งในกรุงเทพฯ มีการสั่นไหวอย่างรุนแรง

เหตุที่อาคารสูงในกรุงเทพฯ สั่นไหวอย่างรุนแรง เนื่องจากตั้งอยู่บนพื้นที่ดินอ่อน หรือดินเลน เมื่อถูกกระตุ้น จึงขยายการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงได้ถึง 3 เท่า แม้เหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 26 ธ.ค.47 ที่เกาะสุมาตรา มีจุดศูนย์กลางอยู่ไกล 1,200 กิโลเมตร หรือแผ่นดินไหวในจีนที่อยู่ไกลออกไปถึง 2,600 กิโลเมตร ก็พบว่า มีการเขย่าของตึกสูงในกรุงเทพฯ แต่ รศ.ดร.อมร กล่าวว่า แม้อาคารสูงจะสั่นอย่างรุนแรง แต่ไม่ได้หมายความว่า จะต้องถล่มเสมอไป ส่วนหนึ่งเพราะอาคารสูงมักได้รับการออกแบบให้รองรับแรงลมระดับหนึ่งอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี ตึกสูงในกรุงเทพฯ ยังคงมีความเสี่ยงจากเหตุแผ่นดินไหวอยู่ดี โดย รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย จากคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) กล่าวว่า คลื่นสั่นสะเทือนจากพื้นดินมีความรุนแรงมากกว่าแรงลมอยู่มาก และแม้กรุงเทพฯ ไม่ได้ตั้งอยู่ในแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว แต่สภาพดินก็ขยายความรุนแรงได้ถึง 3 เท่า โดยเฉพาะความถี่ต่ำๆ จากแผ่นดินไหวจะถูกขยายความรุนแรงโดยอาคารสูงที่มีการโยกอย่างช้าๆ หรือมีความถี่ธรรมชาติที่ตรงกับคลื่นแผ่นดินไหว จึงเกิดการสั่นพ้อง หรือการกำทอนขึ้น

ทางด้าน รศ.ดร.อมร ได้เปรียบเทียบว่า กรุงเทพฯ มีความเสี่ยงจากแผ่นดินไหวเหมือนกรุงเม็กซิโกซิตี ของเม็กซิโก เนื่องจากมี 3 ปัจจัยคล้ายกัน คือ 1.ไม่มีรอยเลื่อนอยู่ใต้เมือง 2.ตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน และ 3.อาคารไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับแผ่นดินไหว ซึ่งเมื่อปี 2528 เกิดแผ่นดินไหว 8.5 ริกเตอร์ ห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตี ออกไป 350 กิโลเมตร ส่งผลให้อาคารต่างๆ ถล่มลงมา มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 10,000 คน

สำหรับเมืองไทยนั้น รศ.ดร.เป็นหนึ่ง กล่าวว่า มี 3 ปัจจัยที่กำหนดความเสี่ยงให้กรุงเทพฯ คือ รอยเลื่อนใน จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กิโลเมตร มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7-7.5 ริกเตอร์ รอยเลื่อนสะแกง หรือรอยเลื่อนสกายตามภาษาถิ่นในพม่าที่อยู่ห่างออกไป 400 กิโลเมตร มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ และแนวมุดตัวบริเวณเกาะนิโคบาร์ทางฝั่งอันดามัน (แนวเดียวกับที่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี 2547) ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 600 กิโลเมตร มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวถึง 8.5 ริกเตอร์

ทั้งนี้ รศ.ดร.อมร กล่าวว่า สำหรับกรุงเทพฯ นั้น ต้องใช้เม็กซิโกซิตีเป็นแบบจำลอง เพราะมีปัจจัยความเสี่ยงเหมือนกัน และแผ่นดินไหวเป็นเหตุการณ์ที่เตือนไม่ได้ ดังนั้น เราจำเป็นต้องอยู่บนอาคารที่ปลอดภัย ซึ่งทางวิศวกรรมสถานฯ ได้ศึกษาข้อมูลจนนำไปสู่การออก “กฎกระทรวง” ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ในปี 2550 สำหรับบังคับใช้ในการออกแบบอาคารต้านแผ่นดินไหวสำหรับพื้นที่เสี่ยง

กฎกระทรวงดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ 3 บริเวณ คือ บริเวณที่ 1 ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และ สมุทรสาคร บริเวณที่ 2 ได้แก่ กาญจนบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และ ลำพูน และบริเวณเฝ้าระวัง ได้แก่ กระบี่ ชุมพร พังงา ภูเก็ต ระนอง สงขลา และ สุราษฎร์ธานี หากแต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีความเสี่ยงและต้องปรับแก้กันต่อไป

สำหรับอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ได้ออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวนั้น รศ.ดร.อมร แนะนำให้เสริมความแข็งแรงด้วยแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ โดยใช้พันรอบเสาในในตำแหน่งที่จะเสียหายได้ง่าย เช่น โคนเสา เป็นต้น แต่วิธีนี้มีราคาประมาณ 200,000 บาท จึงมีอีกวิธีสำหรับอาคารที่ไม่สูงเกิน 6 ชั้น หรืออาคารตึกแถว ให้ใช้เหล็กปลอกพันรอบโคนเสาแล้วพันทับด้วยลวดกรงไก่จากนั้นฉาบปูนทับ ซึ่งจะได้เสาที่มีความแข็งแรงขึ้นในต้นทุนเสาละประมาณ 1,000 บาท

สาธิตการสั่นไหวของตึกสูง กลาง ต่ำ
http://www.youtube.com/watch?v=m70YPW_Q6ws&feature=player_embedded

อ้างอิง : http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9550000048942

ภาพ : กรุงเม็กซิโกซิตี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ปี 2528






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.168.16.137 พฤหัสบดี, 19/4/2555 เวลา : 23:42  IP : 110.168.16.137   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 116030

คำตอบที่ 238
      

fiogf49gjkf0d
สำหรับท่านสมาชิก TTC ที่อาจจะไปทำธุระที่แถวๆเดกาะภูเก็ด...

ถ้าไม่มีอะไรแล้ว.. ก็กรุณาออกมาจากเกาะนั้นเถอะครับ..
มีความเป็นไปได้สูงมาก.. ช่วงตั้งแต่วันนี้ถึงเสาร์หน้า..

จากข้อมูลที่ได้รับมา.. คืนนี้.. ก็อาจจะมีเรื่องตื่นเต้นสัก 4 กว่าๆซ้อมๆมือมาก่อนครับ..
เห็นใจคุณลมหนาวมากๆ เพราะว่าบ้านอยู่ที่ถลาง กลางพื้นที่เป้าหมายพอดีเลย..

จะอย่างไร.. คิดซะว่า.. พาครอบครัวออกมาเที่ยวต่างจังหวัดสักอาทิตย์น่าจะโอเคกว่านะครับ..

ปล. 1 : โปรดใช้วิจารณฌานในการรับฟังทุกข้อมูลครับ...

ปล. 2 : ตั้งแต่วันที่ 20 นี้เป็นต้นไป.. จะเป็นช่วงที่โลกเราได้รับพลังงานจากการระเบิดของดวงอาทิตย์ เมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมาครับ.. ซึ่งเป้นการระเบิดในระดับ M ( Class M )






fiogf49gjkf0d
ผมยังใช้หนี้ไม่หมดเลย
จาก : thebank44(thebank44) 20/4/2555 12:31:01 [202.183.235.61]
งั้นก็เป็นโชคดีของน้าแบงค์แล้วละซิ หนี้เก่าหายกันน้ะ 555 ผมนะซิหมดไปกับรถซะบานเลยจะได้ใช้มั้ยเนี่ย
จาก : ยะ101(ยะ101) 20/4/2555 17:39:03 [124.120.159.210]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 ศุกร์, 20/4/2555 เวลา : 11:56  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 116043

คำตอบที่ 239
      

fiogf49gjkf0d
ขอคุณพี่บอยครับทางผมเตรียมบ้างส่วนแล้วครับพี่แต่ก็กลัวๆ อ่ะพี่เอารูปมาให้ดุถ่ายเมือวานนี้





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลมหนาว จาก ลมหนาว 118.173.64.111 ศุกร์, 20/4/2555 เวลา : 13:06  IP : 118.173.64.111   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 116046

คำตอบที่ 240
      

fiogf49gjkf0d
18.45





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลมหนาว จาก ลมหนาว 118.173.64.111 ศุกร์, 20/4/2555 เวลา : 13:08  IP : 118.173.64.111   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 116047

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 8 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,9 มกราคม 2568 (Online 11743 คน)