คำตอบที่ 21
fiogf49gjkf0d
แทรกข้อมูลบ้างนะครับ
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ
ประวัติความเป็นมา
ในอดีตที่ผ่านมาป่า ทุ่งสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่ามากมายหลายชนิดอาศัยอยู่อย่างชุกชุม พรานป่าสมัยดั้งเดิม เช่น น้อย อินทนนท์ นพ.บุญส่ง เลขะกุล จะรู้จักป่าสลักพระได้เป็นอย่างดี ในบทประพันธ์มีเรื่องเกี่ยวกับการออกป่าล่าสัตว์ เกือบจะทุกเรื่องจะกล่าวขวัญถึงป่าสลักพระ มีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่อยู่ในเชิงเขาล้อมรอบ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยหญ้าและต้นไม้ที่ออกผล เป็นอาหารของสัตว์ป่าอยู่มากมาย เช่น มะขามป้อมไทย มะกอก สมอ ฯลฯ และยังมีโป่งดินเค็มจำนวนมากกว่า 100 แห่ง ซึ่งเป็นแหล่งแร่ธาตุของสัตว์ป่า ทุ่งสลักพระมีพื้นที่ประมาณ 20,000 23,000 ไร่ และยังมีทางติดต่อกับทุ่งหญ้ากว้างอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 10,000 ไร่ เรียกว่า ทุ่งนามอญ ซึ่งสัตว์ป่าสามารถหนีภัยข้ามไปมาได้ในป่าทุ่งสลักพระ ยังมีลำห้วยสำคัญไหลผ่านและมีน้ำตลอดปี คือ ห้วยสะด่อง หรือ ห้วยสลักพระ ซึ่งสัตว์ป่าได้อาศัยกิน
นอกจากนั้นบริเวณเขตติดต่อทุ่งสลักพระกับทุ่งนามอญ ยังมีน้ำตกสูงชันและสวยงาม ด้วยสภาพความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่าในป่าทุ่งสลักพระ ทำให้ถูกรบกวนจากพรานอาชีพและพรานสมัครเล่นมาเป็นเวลาช้านาน สัตว์ป่าซึ่งแต่เดิมมีอยู่มากมายเกือบจะไม่มีให้พบเห็น
ต่อมาทางราชการได้จัดตั้งขึ้นเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2508 มีเนื้อที่ประมาณ 936 ตารางกิโลเมตร หรือ 602,000 ไร่ นับเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2515 ได้มีการเพิกถอนบางส่วนเพื่อประโยชน์ในการให้ประทานบัตรทำเหมืองแร่ เหลือเนื้อที่ประมาณ 936.20 ตารางกิโลเมตร หรือ 585,125 ไร่
วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2520 ได้เพิกถอนบางส่วนเพื่อประโยชน์ในการก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์และใช้เป็นที่สำหรับอพยพราษฎรจากบริเวณน้ำท่วม เหลือเนื้อที่ประมาณ 536,594 ไร่ หรือ 858.55 ตารางกิโลเมตร
ที่มาครับ : http://www.seub.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=123:westforest&catid=34:17-&Itemid=41