คำตอบที่ 1
       สมัยก่อนแถวบ้านชอบโหลดรถกัน เอาไมตี้มาโหลด อมล้อ สวยๆ ... เบรคดี ล้อหลังล๊อค จะลงข้างทางกันเป็นแถว

เพราะมันมี lspv โหลดแล้วไม่ยอมปรับให้พอดี ผมเลยคิดว่าน่าจะเป็นแบบนี้หรือไม่ที่เค๊าบอก ชอบลงข้างทาง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ผมใช้มา 2 คันแล้วนะครับ ยังไม่เคยหมุน นะครับ

เรีองการวาง 3S นั้น ผมเห็นว่าไม่ควรไปแปลงอุปกรณ์ที่ตัวเครื่องครับ เช่นอยากได้สัญญาณไมล์ความเร็วก็ต่อสัญญาณที่ตัวเครื่องมีอยู่แล้วแปลงขึ้นไปจะเหมาะสมกว่า ผมเองก็ใช้แบบนี้ปัญหาไม่เกิดครับ

เรื่อง กระจกไฟฟ้านั้นผมไม่สันทัดรอผู้รู้

 แก้ไขเมื่อ : 2/9/2554 18:42:59

 แก้ไขเมื่อ : 2/9/2554 18:44:10

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ใช่ครับทีถามพวกผมสมัยก่อนตอนเรียนบ้าพลัง เพือนๆใช้ไมตี้โหลดเป็นแถวๆลงทุกคัน J , G , SR , ดีเซลบุท 40 เมื่อ10กว่าปีที่แล้ว พอมาทำงานอยู่ TOYOTA เมื่อ 2 ปีก่อนยังได้ยินชื่อระบบ LSPV อยู่เลย
อยากได้ MTX 4 door มายกแต่งเหมือน 106 ขับเล่นถ้ายกสูงจะมีปัญหาอีกไหมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       จากประสพการณ์จริงนะครับครั้งแรกหลุดโค้งตกเขาที่ปางสีดา ปราจีนบุรี บาดเจ็บพอสมควรไม่มาก ครั้งที่ 2 คนละคันกันวิ่งมาแค่100เศษๆโค้งนิดๆที่นํ้าตกตาดโตน หมุน3รอบเจ็บสาหัษ4คนตาย1คนส่วนผมกับแฟนเจ็บเล็กน้อยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
      
เอาอย่างนี้ละกันครับ ก่อนที่เราจะว่า ร่อน หมุน หลุดโค้ง จริงหรือไม่ หรือแค่เป็นข้อกล่าวหา

.เรามาพิจารณาดูพื้นฐานของ รถ MTX กันก่อนว่าเป็นอย่างไรดีไหมครับ แล้วค่อยสรุป ตามวิสัยนักคิด คิดอย่างมีเหตุผลเสียก่อน แล้วค่อยเชื่อ ....
เอา Body ก่อน ....body ของ MTX นั้น เน้นที่ความกว้างของระที่ค่อนข้างน้อย ...และ ยาว เพื่อที่จะพยายามลดความต่างในการข้ามมาขับรถปิคอัพ จากรถเก๋ง ...ผลคือ Body ของ MTX ค่อนข้างจะแคบ และยาว เพื่อเพิ่ม พื้นที่บรรทุกแทน ...การพยายามที่จะเพิ่มความกว้างขวางของห้องโดยสาร โดยการพยายามดันเครื่องยนต์ออกไปทางหน้ารถมากขึ้น สังเกตุได้จาก ความแบนของคานหน้า ขนาดหนม้น้ำ การวางอุปกรณ์หน้าเครื่องของ MTX ที่หยายมบีบให้แบนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ...หากเทียบกับ ปิคอัพในยุคเดียวกันจะเห็นความแตกต่างกันมากๆ ...

หากมองถึง บอดี้ของ MTX อย่างที่ว่ามาแล้ว จะเห็นภาพพจน์ กับนิสัยมัยนออกเลาๆ ว่า รคแคบ และยาว วิ่งทางตรงดีแน่ แต่ปฎิกิริยาในโค้งจะแย่ไปด้วยเป็นเงาตามตัว เพราะมุม Roll มันน้อย .... นี่ 1 เรื่อง

มาดูช่วงล่างกัน ....
ด้านหน้า ใช้ Macpherson strut & Torsion Beam จุดดีของระบบนี้ คือ สามารถที่จะลดความสูงของช่วงล่างลงได้ โดยที่ใช้พื้นที่ในการทำงานน้อยมาก ...จึงค่อนข้างเหมาะกับรถที่มีพื้นที่น้อยๆ อย่างรถเครื่องวางหน้าที่ใช้เครื่องดีเซล ที่มีขนาดเครื่องค่อนข้างเขื่อง และที่สำคัญ คือ มันถูก !! ...หากไม่นับแง่ทนทาน ...แต่ข้อเสียสุดร้ายแรงของมัน คือ ค่า Spring Stiffness ของ torsion Beam นั้น ไม่คงที่ครับ คือ ยิ่งองศาในการบิดตัวของ Torsion Beam ยิ่งมาก ค่า K ยิ่งสูงตามไปด้วย ดังนั้น ช่วงล่างยิ่งยุบมาก ค่า K ยิ่งแข็งขึ้น ...ซึ่งไม่เป็นผลดีหากช่วงล่างต่องขยับตัวคตลอดเวลาในขณะเข้าโค้ง เพราะนั่นหมายถึงว่า ช่วงล่างหน้ามันมีโอกาศดีดดิ้น ด้วยกำลังในการรับแรงด้วยค่า K ที่ผกผันตลอดเวลา...

และ หลายๆ ท่านอ่านมาถึงตอนนี้ ก็เริ่มเถียง ....ค่ายอื่นก็ใช้ ไม่ไม่เป็นไรฟร่ะ KZ Wanzer ว่า เค้าข้างเดียวป่ะเนี่ย.... 5 5 5 +++

ผมแถลงอย่างนี้ครับ ก็ torsion Beam ของ MTX น่ะ ทั้ง สั้น ทั้งเล็กกว่า ของชาวบ้าน เหตุเพราะคานขวางใต้ห้องโดยสาร มันโดนร่นไปด้านหน้า เพื่อเพิ่มขนาดห้องโดยสารตาม idea การออกแบบ บอดี้ อย่างที่กล่าวมาแล้ว ...นั่นคือ หากยุบน้อยๆ เราๆ จะเห็นว่า MTX เป็นรถที่นิ่มมาก ...นิ่มกว่า ปิคอัพ ในยุคเทียบๆ กันเลย ...แต่พอเอามันไปลงหลุม หรือ ปีนรอยปะไวๆ สิครับ MTX กลายเป็นรถหน้าดีดไปผโดยปริยาย ใครเคยขับ MTX ไวๆ เข้ารอยปะถนนบ้านเรานะครับ ต้องตั้งใจเลี้ยงพวงมาลัยกันเลยทีเดียว... รึใครจะเถียงผม !!

ด้านหลัง ใช้ แหนบ และ ช็อคไขว้ ...แบบ เพลาหามแหนบ ...อืมมมมมม ชาวบ้านก็ใช้ๆ กันนะครับ ไม่มีอะไรแปลก ?? ...ระลึกความหลังกันดีๆ ที่ Toyota ออกปากโฆษณา ช่วงล่างหลังอันโด่งดังของตน คือ ....... (ใครนึกออกบ้างครับ..... 5555+++)

ครับ .....นั่น คือ Mighty Berlin Eyes ไงครับ....!!

อ้าววว ...นั่น ไม่ดีหรอกรึ ?? ...ผมบอกได้เลยการ เอา คำว่า Berlin Eye มาใช้นั้น เพื่อการโปรโมทล้วนๆ !! ...เนื่องด้วย Berlin eye นั้น ไม่ใช่ระบบใหม่อะไร โดยส่วนตัวผมว่ามัน โบราณเสียด้วยซ้ำ เพราะมันถูกใช้มาตั้งแต่สมัยสงครามโลกโน่น... โดยการวางแนว Leaf spring หรือแหนบ ในแนว ที่ symmestry โดนวาง Center Pin กลางแนวแหนบ และ แขวนเพลากลางแหนบ ...หากพิจารราในแง่รับแรง และ สมดุล ในการรับน้ำหหนัก ...ถือว่าทำได้ดี ...แต่ไม่นับตอนวิ่งนะครับ นั่นคืออะไร เพราตอนวิ่ง น้ำหนักรถ และ Moment มันทอ้งลงหน้ารถครับ และโดยเฉพาะขณะทำหารถ่านน้ำหนักตอนเข้าโค้ง จริงๆ แล้ว แหนบจุใช้ครึ่งหน้ามากกว่าครึ่งหลังขณะทำงาน เพราะอิทธิพลจากโตงเตงแหนบด้านท้าย ...ดังนั้น พื้นที่รับแรงของแหนบควรที่จะตกมาค่อนด้านหน้ามากกว่า ด้านหลัง ...ดังนั้น MTX ขณะเข้าโค้ง จะเกิดอาการท้ายเบา เพราะน้ำหนักมันถูกเทไปหน้าแหนบไงครับ ....อีกทั้ง การวาง Center pin แบบ symmestry นั้น ยังเป็นกาเพิ่มวามยาวแหนบส่วนหน้า พอเบรคซ้ำเข้าไปด้วย แหนบก็เรอิ่มย่น ..อย่าว่านะครับ เห็นเหล็กแข็งๆ มันไม่ได้เป็น Homogenous isentropic ที่ไม่มีการเปลี่ยนรุปร่างสัยที่ไหน ...ลัเอาแหนบ 2 ข้างมาพิจารณา ขณะทำงานตอนเข้าโค้งไม่เท่ากัน ...ก็มีผลให้เพลาหลัง ไม่ได้ตั้งฉากกับรัศมีโค้ง นั่นคือ เพลาหลังขินโค้ง นั่นเอง.... !!

ดังนั้น แหนบแบบ Berlin Eye ...สมัยนี้ไม่มีใครใช้หรอกครับ เดี๋ยวนี้ ครึ่งแหนบหน้า ไปหา Center Pin และครึ่งแหนบหลัง มันถูกขึ้นด้วย รัศมีไม่เท่ากันเสียทั้งนั้น และ Center Pin ที่วาง สมัยนี้ ค่อนหน้า และ ล้มแหนบ หรือ เทแหบไปทางด้านหน้ารถเสียสิ้น !! ....

และเบรคหลังที่มี LSPV นั่นแหล่ะครับ ....เจ้าตัวคดี!
ดีน่ะมันดีครับ ...แต่หากไม่ได้รับการดูแล รักษา หรือ ปรับตั้งเลย มันจะเกิดอาการที่เบรคจับไม่ถูกระยะ โดยเฉพาะ ไอ้ LSPV นั้น ...มันทำงานตามเงื่อนไข ความสูงของรถ ..ดังนั้น เบรค LSPV ระหว่าง รถเปล่า กับ รถบรรทุก จะคนละอาการ ...ใครเคยใช้ MTX รถเปล่า กับ บรรทุก มันเบรคคนละอาการนะครับ โดยเฉพาะเบรคแกเฉินตอนฝนตก ! ....ผมทราบว่าหลายๆ ท่านที่เคยใช้ มันมาในเงื่อนไขฝนตก มีอาการ บรื๋ออออ ....มาแล้ว !

พอเอาทุกอย่างมาประกอบกัน ....สรุปง่ายๆ ว่า MTX เป็นรถที่ปฎิกิริยาในโค้ง ...ไม่ค่อยจะดี (...ผมไม่ได้บอกว่า แย่นะครับ 55++)
ที่เหลือก็ฟังประสบการณ์จากหลายๆ ท่านเองนะครับ ....หุ หุ

...... วิธีการแก้ไข ....ปรับที่ตัวคนขับเองครับ ...อย่าหวังพึ่งรถเลยครับ เพราะ มันมีขีดจำกัดของมันอยู่ อย่างที่ผมกล่าวมาแล้ว ...แต่งให้ดีขึ้นได้บ้าง แต่มันก็ไม่ได้เป็นทุกอย่างหรอกครับ....

โดยส่วนตัว แล้ว ...ผมใค่อยชอบการทำงานของช่วงล่างของค่ายเอียโตนักสักเท่าไหร่หรอกครับ ...เพราะรุ่นไหน รุ่นนั้น ออกมา ท้ายเบา เบรคยากคุมโค้งยากทั้งนั้น (ไม่ได้บ่นทุกรุ่นนะครับ อย่าง Land Cruiser นั่นก็เทพเอาเรื่องอยู่ 55)..... หากไม่ใช่เพราะ ที่นั่ง 5+2 แอร์ แถว 3 ระบบขับเคลื่อน 4x4 และความกว้างขวางของแถว 2 และราคามีปัญญา ...สงสัยผมคงไม่ได้ใช้ SPRD เป็นแน่แท้ 5 5 5 +++

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ผมชอบประโยคนี้นะครับ
...... วิธีการแก้ไข ....ปรับที่ตัวคนขับเองครับ ...อย่าหวังพึ่งรถเลยครับ เพราะ มันมีขีดจำกัดของมันอยู่ อย่างที่ผมกล่าวมาแล้ว ...แต่งให้ดีขึ้นได้บ้าง แต่มันก็ไม่ได้เป็นทุกอย่างหรอกครับ....

ผมรัก MTX มากๆนะครับ และยังไม่มีควมคิดจะใช้รถ รุ่นอื่น จึงทำตามข้อความด้านบนเสมอมา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
      
ไมล์ตี้ กลัวฝนครับ เจอฝน ไม่ได้เลย ต้องชลอ...ความเร็ว แบบแทบจะจอดเลย

เคยเจอฝนมาข้างหน้า.....แค่ถอนคันเร่ง...แตะเบรคเบาๆๆๆ ก็หมุนแล้ว

ดีนะที่ไม่ตกถนน....ขยาดกับไมล์ตี้เลย เปลี่ยนเป็นรถอื่นไม่เป็นครับ

ซักประมาณ 20 ที่แล้ว.... หน้าฝน ไมล์ตี้ ลงข้างทางเยอะกว่าคนแบบอื่นมากหลายเท่า..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       กระผมใช้ไมตี้มา 3 คัน ซื้อตั้งแต่ป้ายแดง (ปัจจุบันเหลือไว้ใช้เองคันเดียว) ขับมา 17 ปีก็ยังไม่เคยปัดซักคัน

เห็นด้วยครับพี่ ขับรถได้อย่างเดียวไม่พอ / ต้องรู้จักประเมิณความเสี่ยงด้วยแล้ว ปัญหามันจะไม่เกิดครับ จาก : yud(yud) 5/9/2554 17:21:14 [192.208.44.88]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ผมเองก๊มี TIGER D4D ใช้อยู่คันนึงนะครับรู้ว่าแรงดี ไม่เคยหมุน มีแต่มิดตูดชาวบ้านเบรคไม่อยู่ที่ ถ. พระราม2 ถนนปราบเซียนกรุงเทพ แต่ไม่เคยหมุนช่วงล่างเดียวกันหรือเปล่าครับ แต่รู้สึกได้ตอนขับทันทีว่าไม่เกาะเหมือน CAMEO ของผมแน่นอนคนละเรื่องเลย
การปรับมนุษย์ เข้าหาเครื่องจักรมีมานานมากแล้ว ดั่งนั้นการปรับแต่งให้เหมาะกับภูมิประเทศ และนิสัยคนไทย ที่น่าทำมีอะไรบ้างครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       MTX ผมใช้มาตั้งแต่รุ่นแรก/รุ่นสอง/และรุ่น2800พลัส ไม่เคยเจอปัญหาหลุดโค้ง หรือหมุน อย่างที่พี่พี่เล่ามาเลย
มีอยู่แต่เบรคไม่ค่อยจ๊าบ จะมุดท้ายชาวบ้านอยู่เรื่อย (แต่ไม่เคยมุดนะครับ..แค่จะ..)
ถ้ามีน้ำหนักที่ท้านซัก 100 กิโลกรัม รับรองว่านิ่งสุดๆ ท้ายเบานะฟังได้อยู่..แต่ว่าหมุน หรือหลุดโค้ง ฟังไม่ขึ้นเลยครับ ผมขับรถมาเป็นล้าน กิโลเมตรแล้ว เหนือ/อิสาน/ตะวันออก/ตะวันตก/ใต้ ไปมาแล้วทุกจังหวัดครับ ขับรถมาแล้วมากกว่า 30 ปี

ข้อสำคัญ ต้องรู้ทุกอย่างครับ
1.ต้องรู้จักรถที่ใช้ให้ดีพอ ว่าสมรรถนะเป็นอย่างไร รถมีความสามารถแค่ไหน
2.ต้องรู้จักรสภาพถนนที่เดินทาง ทางลาด/ทางชัน/ทางเอียง/ลักษณะโค้ง ต้องประกอบกับความเร็วและการใช้เกียรที่เหมาะสม
3.ต้องรู้จักรตัวเองว่ามีความสามารถบังคับ/ควบคุมรถได้ดีแค่ไหน สภาพร่างกายยิ่งสำคัญครับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายด้วยยิ่งดี สมอง
/สติ ต้องมีตลอดเวลา การตัดสินใจสำคัญที่สุดครับ

ถ้ารู้แต่ว่ารถคือรถ / ถนนคือทางที่ให้รถวิ่ง / ขับแค่เป็นแต่ขาดความชำนาญ...รับรองว่า มีเท่าไรก็เจ้งครับ หมุน/หลุดโค้ง/อุบัติเหตุ และอื่นๆอีกมากมันจะตามมา

แสดงความคิดเห็นย่อย