คำตอบที่ 22
-ไม่มีเครื่องยนต์ใดๆที่ให้ผลดีทุกย่านความเร็วและประหยัดด้วย เกิดมานานแล้ว ไม่เคยเจอจริงๆครับ(ยกเว้น WAVE 125) ...
-รถที่ต้องการความเร็วทั้งต้นและปลาย หรือที่เรียกว่า ต้นจัดปลายไหล(ทำนองนี้) ถ้าเป็น(รถ)ไทยเรา แถวๆ 2500ซีซี/ 100 ม้า ก็เคยได้ยินผลแบบนั้นแล้ว ส่วนใหญ่มา(โม้)ตอนบอกขายรถ...
-แต่ถ้าเป็นแบบสากลหรือของฝรั่ง ก็ 4000 ซ๊ซี / 200 ม้า ขึ้นไป เตี้ย/สปอร์ตไม่ต้านลมอีกต่างหาก โดยไปปูดผลเสียที่อัตราซดอย่างเดียว หรือไม่ประหยัด คือข้อเสียเดียวที่วิศวกรเขาเลือกให้เศรษฐีใช้งาน....
-รถผมหนัก 1.8 ตัน ม้า 129 ตัว ล้อประมาณ 35 นิ้ว ทดเฟืองไว้จัด ทางไกลรอบเหลือหรือรอบสูง แต่ในเมืองขับเบามากน่าพอใจ ผมก็ลังเลว่าจะเลือกในเมืองหรือนอกเมือง ถ้าให้รอบลดที่นอกเมือง คาดว่าในเมืองก็จะเริ่มอืดและกินน้ำมันมากขึ้น....ตอนนี้ก็ลดเพดานความเร็วนอกเมืองจากที่เคยวิ่งประจำลง เช่น เคยขับ 100 ลงมาเป็น 90 แทน เหตุผลคือวิ่งนอกเมืองน้อยกว่า แต่ก็ยังไม่ได้เลือกชัดเจน เพราะรอบเหลือแต่นอกเมืองวิ่ง 100กม./ชม. กิน 11กม.ลิตร และเร่งขึ้นเร็วครับ ...
-อยากขอร้องทุกท่าน ว่าไทยเราช้ามากแล้ว และเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อหาเงินซื้อเทคโนโลยีมาใช้ เวลาได้มาใช้ ก็อย่าเอาความรู้สึกหรือความเชื่อไปปน เพราะลูกหลานจะหลงทาง ไม่เข้าใจศาสตร์ต้องเริ่มต้นใหม่ด้วยการซื้อมาเรียนรู้เทคนิคในต่อไป และยิ่งต้องหาเงินมากขึ้น(เพราะคนขายรู้แล้วว่าคนซื้อไม่ฉลาด)เพราะของแพงขึ้นเรื่อยๆ... โดยที่ห่วงโซ่แรกของไทยเราคือข้าว,ประมง,เกษตรฯ ซึ่งมาจากการใช้แรงงานไปแลกจึงได้เงินมา ถ้าซื้อเทคโนฯมาเพื่อใช้แล้วไม่เข้าใจหรือใช้แล้วทิ้งแบบทิชชู่ จึงหมายถึงการทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ได้เงินมากพอไปซื้อต่อไปๆ...
-มีเรื่องเล่าครับ...
-ปัจจุบันนี้รถออฟโรดเป็นที่นิยม มีกิจกรรมเรื่อยๆและอุปกรณ์หรือชุดแต่งรถ ให้เห็นตลอดเวลา ก่อนหน้านี้เป็นเครื่องเสียงรถยนต์ ก่อนหน้าขึ้นไปอีกคือรถเรชซิ่ง/แรลลี่ หรือรถที่มีอุปกรณ์พิเศษเหนือรถทั่วไป
-ในช่วงเวลาที่รถเรชซิ่ง/แรลลี่ฮิต กิจกรรมแข่งมีเรื่อยๆต่อเนื่อง ,ข่าวสาร,รถที่แต่งตัวแนวนี้ และเรื่องแลกเปลี่ยนความเห็นกันเกี่ยวกับการแต่ง เหมือนออฟโรดตอนนี้ทุกอย่าง..
-ร้านประดับยนต์,อู่แต่งเครื่อง,ช่วงล่าง,ท่อไอเสีย/เทอร์โบ ฯคือแหล่งชุมนุม ก็เหมือนตอนนี้
-คนที่แต่งรถมีไอเดียที่ต่างกัน หรือมีหลายแบบ เมื่อผสมเติมความเชื่อมั่นในวิธีคิดของตน + อีกหลายอย่างฯผิดถูกยังไม่ชัด แต่มีความเห็นเป็นแม่บทไปก่อนแล้ว...
-ทั้งอู่(อยาก)ดัง,พวกมิจฉาความคิด ที่มาผสมโรงเพื่อหาเหยื่อ จึงมีเสรีภาพไปด้วย กับสื่อ(คุณภาพต่ำ) ของปลอมปนก็มีบทบาทมาก เพราะไม่มีใครตัดสินได้ คุย/โม้กันไปทั่ว ...
-ผลการแข่ง หรือกิจกรรม ทำให้เกิดอู่, นักซิ่ง ชื่อคุ้นหู วางตัวสูงมีความเห็นแบบชินแซ หรือผู้เชี่ยวชาญ...แต่เพราะเป็นเรื่องนิยม จึงมีคนฟัง และนำไปเป็นหลักคิดตาม...
-เชื่อมั่นมากเหมือนคนที่ทำวีดีโอเรื่องเปรต ที่บอกว่าเคยเสกเงินจากใบไม้ได้ พอเขาจับมาใส่กรงขัง ก็บอกว่าเสื่อมแล้วทำไม่ได้อีก แต่จริงๆ ไม่เคยทำได้หรอกครับ....คนที่เคยเชื่อเสียเวลา/เงินไปไม่น้อย ...
-ความเชื่อมั่นของอู่แต่งรถที่ให้สัมภาษณ์ทางสื่อเสมอๆ อ้างกลเม็ด/ทีเด็ดที่จะนำเสนอ เหมือนจะน้องๆผู้วิเศษ หรือวางตัวทำนองนั้น....จนถึงวันหนึ่งโดยใครไม่ทราบ จัดให้มีการแข่งทางเรียบเป็นรอบเหมือนที่สนามพัทยา แต่ครั้งนี้ที่ดอนเมือง ผมไม่ได้ไปดู แต่จำผลได้ 2 อย่าง
-ผู้ชนะคือนักขับจากชลบุรี ชื่อปรีชา ทรัพย์คง เป็นเศรษฐีที่รักความเร็ว ใช้รถโตโยต้า ทั้งรถและทีมช่าง มาจากญี่ปุ่น วิ่งไล่แซงอย่างเดียว ไม่มีลุ้นใกล้เคียง คุณภาพรถทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่าง เหนือกว่ารถที่แต่งในบ้านเรามาก ขนะแบบน็อครอบ หรือขาดลอยหายไปเลย...
-อย่างที่สองที่จำได้คือ เนื่องจากรถเครื่องพัง(หรือแกล้งพัง) หลายคันวิ่งไม่ครบรอบ มีรถที่ประคองแข่งจนครบรอบ ทั้งที่แพ้เป็นรอบ ผู้ขับคือปรีดา จุลมณฑล เป็นสปิริตนักกีฬาที่ดี...
-การแข่งครั้งนั้นเหมือนสายฟ้าฟาดลงมาในวงการแรลลี่ไทย หูตาสว่างกันในงานนี้นี่เองครับ....
-อู่ดังที่เคยคุย/แก้ตัว/ชี้อนาคตที่แมทซ์หน้า ....เงียบสนิทครับ..
-ผมจำเรื่องนี้ได้ดี เพราะผมถูกทาบทามขอรถ จากอู่ดัง หมายถึงจะนำรถผมไปเปลี่ยนเครื่อง/ช่วงล่างใหม่ทั้งคัน เพื่อลงแข่งรายการนี้ ทางอู่มีคนขับและทุกอย่างพร้อม ผมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ....จึงหมายถึงผมก็เป็นคนหนึ่งที่สนใจเรื่องแบบนี้ และมีรถรุ่นดังที่เขาชอบไปแต่งเพื่อแข่งกัน ...
-เมื่อนำอดีตนี้มาคิด ก็รู้สึกว่าดีแล้ว ที่ไม่ได้ให้รถไปร่วมแข่ง(ขายหน้า)ในครั้งนั้นครับ...
-หวังว่าออฟโรด คงจะไม่ซ้ำรอยแรลลี่และอีกหลายเรื่อง แบบนั้นอีกครับ..... ซึ่งหมายถึงซ้ำรอย สิ่งที่ควรจำ หรือไม่ได้ประโยชน์จากเรื่องที่ผ่านไปนั่นเองครับ...
-หากไทยเรารู้ตัวว่ากำลังก้าว โดยตามรอยผู้อื่น ไม่ได้คิดค้น หรือแกะรอยเอง การระวัง จะยังอยู่ และจะถ่อมตัวเป็น เรื่องเล่าที่ผ่านมา เป็นเรื่องจริงที่หมายถึงความประมาท และแอบอ้าง หรือของปลอม เมื่อเจอของจริง จึงกลายเป็นลิงไปเท่านั้นเองครับ..
-ที่เล่ามา แจ้งแล้วว่าอยู่ในแวดล้อมนั้น จึงร่วมเป็นกลุ่มลิงกับเขาไปด้วยคำที่ว่า "ซอยเดียวกัน"...เวลาผ่านมานานมากกว่า 30 ปี ...ตอนนี้มาอยู่ในซอยออฟโรด ดูรูปการณ์ไทยเรายังไม่ก้าวหน้าไปไหน ผม(จึง)มีโอกาสเป็นลิงด้วยอีกครั้งครับ....
-เรื่องที่มีเหตุผลเป็นสมการหรือทำซ้ำจะได้ผลเท่าเดิม หรือไม่ใช่ศิลป ที่เป็นงานมือ ทุกชิ้นงานถูกตั้งใจให้แตกต่างกันแม้จะหัวข้อหรือภาพเดียวกัน ...การหามุมมองและเติมแต่งสิ่งที่เป็นสมการเพื่อให้เหมาะกับเรา ไม่ผิดแปลกถ้าเพื่อให้เหมาะกับใช้งานเฉพาะแบบ เช่นรถที่ใช้ในเขตภูเขาถนนมีความลาด/ชัน แตกต่างจากที่อื่นๆ..
-แต่หากชี้นำในเชิงตัดสิน ผลพอใจส่วนตัวที่ไม่ใช่การค้นคว้า ถือเป็นการบิดเบี้ยวรูปแบบหนึ่งได้ครับ...
-เรามักมองเห็นป้าย "ห้ามกดเนื้อทุเรียน", "กรุณางดชิมสินค้า" ... นั่นเป็นเพราะมีคน(ไทย) ทำแบบนั้นมาก-บ่อย นั่นเองครับ....
http://www.youtube.com/watch?v=S5d3PHrQwVM
-ขอฝากไว้กันหาไม่เจอ ไม่มีความหมายใดๆครับ
แก้ไขเมื่อ : 30/10/2556 18:54:08
แก้ไขเมื่อ : 31/10/2556 21:23:23
แก้ไขเมื่อ : 3/11/2556 5:37:11