คำตอบที่ 1
       ถอดพัดลมมาเช็คกับไฟแบ็ตฯหมุนปกติครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       จากนั้นจึงรื้อตู้แอร์ออกมา โอ้แม่เจ้า...เหมือนแช่ไว้ในท้องร่องเลยครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ล้างๆๆๆๆให้ออก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ไม่ออกง่ายๆครับ...ต้องราดกรดทิ้งไว้..แล้วค่อยฉีดล้างใหม่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ทีนี้ก็ถึงคิงรังผึ้งด้านหน้า ต้องฉีดน้ำอย่างแรง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       เปลี่ยนไดร์เออร์อีก1ตัว เป็นอันจบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ประกอบเข้าที่เดิม...อีก10ปีเจอกันใหม่...ถ้าจะให้ดีให้ตลอดอายุการใช้งานได้ยิ่งดีขอรับ...บ้ายบาย...ปู๊นๆ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ตู้แอร์ใบแรกของผม ล้างแล้วรั่วเลย...มันถูกพอกไว้จนกร่อน
โดนไปทั้งตู้หน้าและตู้หลัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       สภาพแบบบนี้น่าจะเปลี่ยนใหม่ครับ แท้ 2 พันกว่าเอง
ล้างแบบนี้ไม่นานครับ ผุรั่ว รื้ออีกรอบ ไม่กี่เดือนหรืออาจจะไม่ถึง
แล้วเรื่องระบบพัดลมที่ว่า อาการถ่านน่าจะใกล้หมดมากกว่า ไม่มีระบบที่ว่าเด็ดขาด
แต่เรื่องระบบคอมตัดนั้น เซ็นเชอร์ในตู้แอร์มันเย็นก็ตัด แต่ไม่มีลมออกมาเพราะมันตัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       โอ้แม่เจ้า...ฟังท่านโอแมนแล้วรู้สึกเสียวกระเป๋าตังขึ้นมาทันทีเลยครับ..ไม่รู้ว่าอุปทานรึเปล่า?...หลังจากฟังท่านแล้วเลยปิดวิทยุขับรถ รู้สึกเหมือนว่าพัดลมมันยังมีเสียงวู่ๆอยู่
แถมเมื่อวาน(หลังจากทำมาแล้ว1วัน)เปิดแอร์พัดลมไม่ทำงาน(ต้องเอามือตบไปที่ช่องเก็บของทีนึงถึงติด)นึกว่าซวยซ้ำซากแล้วดีที่ยังติดเลยรอดไป..แฮะๆๆ....นึกว่ารอดแล้ว
สงสัยหนีเสือปะจรเข้แน่เลย..งานนี้โดนไปสามพพันไม่ได้โม้....คงจะเป็นหนังชีวิตอีกแล้วงานนี้...ฮื่อๆๆๆๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย