คำตอบที่ 10
-VX 80 จริงๆมีอะไหล่มือสองเยอะ น่าจะไม่แพง แต่ที่ราคายังสูงเพราะคนขายแบ่งเป็นเกรดไว้ อย่างอะไหล่เซิร์ฟ ต้องลดเกรดมาขายให้รถกระบะ(ได้) แต่ VX80 ก็ต้องเพื่อรถรุ่นเดียวกัน รถและอะไหล่จึงยังแพง ทั้งๆที่คานหน้าโดนกระบะคว้าไปใส่กันเยอะ อะไหล่บอดี้น่าจะเหลือเป็นภูเขาน้อยๆได้แล้ว แต่ก็ยังเห็นแพงอยู่ดีครับ...
-รถแต่งใหญ่ดูสวยงามแต่ มีความขมขื่นแอบแฝงอยู่ เช่นขับแล้วเท่ห์แต่นั่งไม่สบายครับ
-vx80 เป็นรถที่อยู่ในหลักคิดได้ เพราะมีอะไหล่และของแต่งขาย ..การBuildใหญ่ ก็เป็นแผนที่ดี แต่คำว่าได้ดังใจหรือไม่ เป็นปัญหาที่พบกันบ่อยกับรถเก่า หมายถึงเอาแน่นอนไม่ได้อยู่ที่โชคว่าเจอช่างชำนาญงาน +ใส่ใจผลงาน ก็มีโอกาสสมหวังหรือตามคาด...ในส่วนตัวผมโชคไม่ค่อยดี(เสมอ)ในเรื่องแบบนี้ เหนื่อยจนยอมแพ้แล้วครับ...
---------------------------------------------------------------------------------------
-รถไฟฟ้าเริ่มแล้วที่กรุงเทพฯ ความทันสมัยนี้เป็นความหวังของรัฐบาล ไม่ใช่ความหวังของคนกรุงเทพฯ เพราะคนไทยจ้องแต่จะซื้อ/แต่งรถเป็นส่วนตัว จนเป็นพันธุกรรมไปแล้ว รถไฟฟ้าจึงเป็นความหวังของรัฐบาล ที่จะเปลี่ยน DNA ของคนไทย เพราะเป็นการคิดที่ต้องการใช้ถนนอย่างเดียว และการตกแต่งคือเติมสายสัมพันธ์ให้ไม่ยอมทิ้งกัน ยิ่งเพื่มพูนเหมือนรองน้ำใส่ตุ่มที่ไม่มีก๊อกระบายทิ้ง รถมากมายทั้งเก่าใหม่ หรือทุกรูปแบบของการมีครอบครอง....
-ในหนึ่งปีที่ผ่านมา ผมได้ขับรถวีออส หลายครั้ง รถ city car หรือกระป๋องเบาๆ ก็วิ่งข้ามจังหวัดได้ ไม่ได้รีบไปไหนสักครั้ง แต่โดนใบสั่งพร้อมรูปถ่ายและความเร็วส่งถึงบ้าน หลายใบแล้วครับ....ผมหมายถึงรถที่พอใช้งานจนโดนใบสั่งในเวลาไม่รีบ นั้นห่างไกลกับที่กำลังพิมพ์คุยกันอยู่มากมาย
-ประสพการณ์ในน้ำท่วมปี54 ที่กรุงเทพฯ ที่เห็นด้วยตาในเส้นทางเพขรเกษม ในช่วงน้ำท่วมเต็มที่ ไม่เห็นแลนด์ครุยเซอร์วิ่งในเส้นทางน้ำท่วม และได้เห็น VX80 บางคันที่บ้านอยู่ริมถนน ยกจอดบนก้อนอิฐ หรือไม่วิ่ง...คอนน้ำเริ่มลดแล้ว แต่ก็ยังมีบางจุดที่50-60ซม.อยู่ รถตรวจการณ์ที่ผมเห็นออกมาวิ่งลุยน้ำมากคือฟอร์จูนเนอร์ ... เรื่องนี้มีเหคุผลที่ค่าซ่อมหลังลุยน้ำครับ เป็นอีกเหตุผลที่คนไทยเลือกซื้อใช้แต่ไม่ได้ใช้ ส่วนฟอร์จูนเนอร์เป็นรถใหม่มีอะไหล่และศูนย์บริการรองรับ คนใช้จึงกล้า/ห้าวกว่าหน่อย ...ผมอ่านเป็นแบบนั้นครับ
-พอผ่านไปแล้วหนึ่งปี ผมจึงเริ่มบอกทุกคนที่รับฟังผม ว่าผมจะเปลี่ยนนิสัย วาระต่อไปของผมจะเป็นรถใหม่ /รถไฟฟ้า และจะไม่แต่งรถอีกเพื่อไม่ให้เกิดความผูกพันทางใจอีกต่อไป จะใช้รถเป็นเครื่องมือเดินทาง ขออนุญาตแจ้งว่าคิดแบบนั้น เป็นความรู้สึกแบบสารภาพ...เผื่อเป็นข้อคิดได้บ้างครับ...
-----------------------------------------------
-ขอวางข้อความเพิ่มเพื่อเป็นตัวอย่างคิดให้กว้างขึ้นอีกดังนี้ครับ
-คนไทยมีความเห็นเรื่องรถเสมอ แม้แต่แม้ค้าขายกล้วยทอดก็ยังมีความเห็นในเรื่องนี้ พิสูจน์ด้วยตัวเองได้...
-ผมได้สนทนากับท่านหนึ่ง ซึ่งจอดรถในลานจอดรวมด้วยกัน เขาใช้ฟอร์จูนเนอร์เบนซิน 2.7 ลิตร เป็นรถประจำตำแหน่งของหน่วยงาน และมีรถเก๋งซีดานเครื่อง 1.8 ลิตร เป็นส่วนตัวอีกคันใช้สลับกัน ท่านนี้ขับรถเข้าซองจอด / ตำแหน่งแม่นยำ/ครั้งเดียว หมายถึงขับรถเก่ง ผมเคยถามเขาว่ารถเก๋งที่ใช้ ทำไมไม่เลือกรุ่น 2.0 ลิตร และถามเรื่องฟอร์จูนเนอร์หรือคุยกันทั่วๆไป คำตอบที่จับใจความได้ชัดคือรถ ฟอร์จูนเนอร์ 2.7 ลิตร / ซีวิค 1.8 ลิตร คือ ซด / เซฟ ....เขาตอบสรุปรถไว้แค่นั้น ไม่พูดถึงส่วนอื่นเลย....
-ขับ(รถ)ดี/เก่ง เงินเดือนเป็นแสนบาท ให้ความเห็นว่าฟอร์จูนเนอร์ก็อยู่ในโซลซดแล้ว ถ้าถามเรื่องแลนด์ครุยเซอร์4.5,4.7ลิตร เข้าใจว่าคงไม่ตอบครับ
-คนระดับผู้บริหาร ของหน่วยงานมาตราฐาน รายได้ดี ลักษณะขับรถเก่งด้วย หมายถึงมีรสนิยมเรื่องรถแน่นอน แต่มองรถที่ความประหยัดน้ำมัน/ใหม่...เป็นจุดเลือก ผมจึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
แก้ไขเมื่อ : 27/9/2556 6:03:52
แก้ไขเมื่อ : 27/9/2556 9:17:47
แก้ไขเมื่อ : 4/10/2556 6:21:03