คำตอบที่ 1
       คุร Tik สงสัยอะไรหรือครับ


เรื่องอัตราประหยัดเชื้อเพลิงหรือครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       -วงกลมแรก จากอยุธยา-ตราด ปี 2548 ระยะทาง 384 กม. อีซุซุ ดีแมคซ์ 2500 ใช้น้ำมันไป 6.73 ลิตร หรือเท่ากับ 57.06กม./ลิตร

-วงกลมที่สอง ปี2556 ระยะทาง 1312กม. อีซุซุ วีครอส ใช้น้ำมัน 1 ถัง หรือผลเท่ากับ 18.29 กม./ลิตร

-วงกลมที่สาม รถมอเตอร์ไซค์ 2 ล้อ HONDA WAVE 125I (หัวฉีด) แจ้งอัตราการกินน้ำมัน 63.3กม./ลิตร

-หมายถึง ดีแมคซ์ 2500 กินน้ำมันใกล้เคียง WAVE 125 คือ 57:63 กม./ลิตร ..../ ...วีครอส กินน้ำมันมากกว่าดีแมคมาก(มหาศาล) 57:18 กม./ลิตร

-หรืออาจสรุปว่ารถปิคอัพดีแมคซ์ กินน้ำมันพอๆกับรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้า เวฟ... และเครื่องยนต์อีซุซุรุ่นเก่าประหยัดกว่ารุ่นใหม่มาก โดยการขับแบบแข่งขันประหยัดเช่นเดียวกัน....


-----------------------------------------------------------------------------------------

-ผมเคยเลี้ยงหมามาโดยตลอดชีวิต เพิ่งมาเปลี่ยนเป็นเลี้ยงแมวใน 10 ปีที่ผ่านนี้เอง หมารุ่นสุดท้ายที่ผมเลี้ยงเป็นหมาไทยหลังอาน ได้ความทรงจำที่ทำให้ผมสำนึกว่าตลอดมาผมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ไม่ดี เท่าที่มันดีต่อผม ..

-หมาไทยหลังอานตัวที่กล่าวถึงนี้ เป็นพันธ์ดีจากคอกเพาะเลี้ยงขาย เป็นอีกเหตุผลที่ปัจจุบัน ผมทำหมันสัตว์เลี้ยงทุกตัวที่เลี้ยงเอง เพราะได้ผลต่ำหรือได้พันธ์ไม่ดีเท่ามืออาชีพที่เขาเพาะเลี้ยงเพื่อจำหน่าย หรือหมายถึงซื้อที่พันธ์ดีมาเลี้ยงดีกว่าฟรีแบบพันธ?ทางนั่นเองครับ

-ตัวอย่างหนึ่งคือหมาไทยหลังอานตัวสุดท้ายนี้ กินมะละกอ,แตงโมได้(บ้าง) มันไม่ได้ชอบหรอกครับ เป็นเพราะผมหลอกให้มันกินตามผม คือกินให้เขาดู แล้วส่งให้ มันก้กินครับ แต่ถ้าไม่ยื่นให้ ก็ไม่เคยกินเอง ผมบอกผู้อื่นเสมอว่าเป็นเพราะหมาตัวนี้เชื่อใจเจ้าของ และเป็นเพราะเจ้าของหลอกมัน ...

-เรื่องหมาหลังอานกินมะละกอ แรกๆผมก็เล่าเป็นเรื่องโจ๊กให้คนอื่นฟัง แต่พอเวลาผ่านไปนาน ผมก็ยังเล่าถึงหมาตัวนี้ แต่เป็นแบบสำนึกว่ามันเป็นหมาที่ดีต่อเจ้าของมาก และเป็นผมเองที่ไม่ดีครับ....

 แก้ไขเมื่อ : 9/12/2556 15:59:25

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
      
-อีซุซุ เสียแชมป์ยอดขายรถกระบะเล็ก ตั้งแต่รุ่นดีแมคซ์ เป็นต้นมา โตโยต้าวีโก้ได้ครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดแทน ต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว

-ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพียงแต่มองดูเหตุผลน้อยเกินไป อยากให้เป็นเพราะผลแบบ 2548 ที่อ่านแล้วเข้าใจทันทีว่าบิดเบี้ยว ไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป ...

-แต่เมื่ออีซุซุสำนึกได้ว่าคนไทยรู้จักเหตุผลมากกว่าเดิม วีครอสจึงบริโภค 18 กม./ลิตร พอๆกับที่โตโยต้าแจ้งให้ผู้บริโภคทราบเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งกลายเป็นเหมือน(แค่)ผลบุญที่ส่งผลให้ยอดขายสูงสุดต่อเนื่องมาหลายปี เหตุผลหรือตอบแทนความจริงใจ(กว่า)เบาเหลือเกิน...

-เรื่องในวันนี้ไม่ได้อยู่ที่อีซุซุ ได้สำนึกในปีนี้(18กม./ลิตร คือบทสำนึก) เพราะประวัติศาสตร์ที่บันทึกผลไว้ยังอยู่ เมื่อค่ายมีผล(ทดสอบ/แข่ง)ใหม่ ผลหรือสถิติเดิมซึ่งบิดเบี้ยว จึงไปลงเอยที่ผู้แข่งขัน หรือคนไทยขี้โกงเอง...

-จึงขอฝากไว้เป็นบทเรียนต่อผู้ที่มุ่งมั่นเป็นสาวกที่ไม่มีค่าจ้าง ว่าควรเปลี่ยนทีท่าบ้างครับ...

- รูปแนบคต.นี้เป็นรายชื่อนักแข่งขันที่ไม่รูว่ารู้สึกอย่างไรในปีนี้ ที่ทำผ่านไปแล้ว...."จะเรียกว่าเป็นการเสียสละ หรือเสียรู้ ดีนะ"

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ก็ขายโฆษณา คนก็เชื่อ มันหลอกเรามานานแล้ว มาใช้จริง ไม่เคยถึงซะที 60 ก็แล้ว 80 ก็แล้ว ยังกินเท่ากับ 110-120 แล้วเราจะขับช้าอยู่ทำไม
ก็ในเมื่อมันก็กินเท่ากัน แถมยังมีข้อเสียมากกว่า เขม่าไอเสียสะสมที่ป่าวาล์ว ร่องแหวน หัวสูบ เครื่องเสื่อมเร็ว กว่ารถวิ่งไวอีก
ยิ่งรถวิ่งน้อย ใช้แต่ในเมือง เครื่องยนต์ เกียร์ เบรค โทรมไวกว่ารถใช้งานทางไกล หรือชั่วโมงการเดินเครื่องยนต์ไม่สัมพันกับระยะทาง
รถติดเครื่อง 3 ชม แต่วิ่งได้ 5 กมในเมือง ต่างจาก วิ่งทางไกล 250 กิโลเมตรใช้เวลา 3 ชมเท่ากัน จะเห็นได้ว่า ถ้าหลักกิโลเมตรเท่ากัน
เครื่องยนต์ตัวไหนเสื่อมเร็วกว่ากัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ข้อมูลสถิติที่เขาบันึกไว้จริง ไม่ได้หลอกลวงพราะมีพยานยืนยันและสื่อมวลชนอีกมากเป็นสักขีพยาน เพียงแต่ล่ะครั้งเขาไมได้บอกเงื่อนไขในการแข่งขันหรือบททดสอบเอาไว้ เพียงแต่ ISUZU เอาข้อมูลตัวเลขสูงสุดมาโฆษณาเฉย ๆ โดยไม่ได้บอกอะไรเลย
ช่วงหลายปีก่อนมีคนโดนโฆษณาชวนเชื่อพากันแห่ไปซื้อรถ ISUZU D-Max เพราะหวังว่ารถจะประหยัดเกิน 15 km/l และเชื่อมั่นว่ารถอีซูซุ คอมมอนเรล จะยังคงเป็นตำนานเหมือนรถ ISUZU TFR 2.5 DI มังกรทอง 90 แรงม้า โดยเชื่อมั่นว่าเครื่องดีเซลจะทนทานวิ่งเกิน 1 ล้านกิโลเมตร โดยไม่มีซ่อมจุกจิก ค่าบำรุงรักษาต่ำมากเหมือนรถสมัยอดีต .......... @'" ตอนนี้ลูกค้าคงรู้แล้วมั้งว่าคิดผิด "
ISUZU มีนโยบายไม่เหมือนใครในโลกนี้ คือไม่ปล่อยรถยนต์ให้สื่อมวลชนไปทดสอบ ไม่มีนโยบายเอารถให้ลูกค้าทดลองขับ ลูกค้าถ้าจะซื้อต้องดูข้อมูลจากตัวเลขในโบรชัวร์และยืนลูบคลำเอา จะตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อก้ได้ แต่ผู้ที่จงรักภักดีในแบรนด์ ISUZU ต้องซื้อเพราะตราสัญลักษณ์สินค้าเมื่อซื้อไปแล้วก็จะฝังใจว่า ISUZU นั้นดีความเชื่อมั่นจากรุ่นสู่รุ่นจะยังคงให้แบรนด์ทำตลาดต่อไปได้ และนโยบายการคัดกรองลูกค้าจากไฟแนนซ์ของ ISUZU ตรีเพชรที่เข้มงวดในเรื่องการปล่อยสินเชื่อ การไม่ปล่อยของแถม การให้ลูกค้าซื้อประกันชั้น 1 เอง รวมถึงการตั้งราคาขายรถป้ายแดงให้สูงกว่าคู่แข่งในทุกรุ่นถ้าเทียบกัน จะเป็นตัวชี้วัดคัดกรองลูกค้าเข้ามาอยู่ในมือของตรีเพชรจะเป็นลูกค้าที่ดี ประวัติเสียน้อยมาก หนี้เสียจึงน้อยตามไปด้วยถ้าเทียบกับคู่แข่งด้วยกัน กลยุทธ์การตลาดตรงนี้ทำให้ ISUZU มาตลอดใน 10 กว่าปีที่ผ่านมา

แต่มาระยะหลังช่วง 4-5 ปีมานี่ เทคโนโลยีของเครื่องดีเซลคอมมอนเรลล้ำหน้าไปไกล เครื่องยนต์ ISUZU มันจะถูกเซทไว้แบบเรียบ ๆ ไม่หวือหวา เพราะแรงก็ไม่ประหยัด ถ้าประหยัดก็ไม่แรง โดยเฉพาะเทอร์โบแปรผันถ้าผันมากก็แดกน้ำมันมากตามน้ำหนักเท้าที่เหยียบคันเร่งลงไป
การนำไปใช้งานจริง เทคโลยีของเครื่องดีเซลคอมมอนเรล + กับเกียร์ออโตที่ใช้กล่อง ECU ควบคุม ความประหยัดมันขึ้นกับวิธีการขับขี่มากกว่า รวมถึงสภาพการจราจร รถยี่ห้ออื่น ๆ ก็ทำได้ถ้ารู้จักวิธีการขับขี่ ดีเซลคอมมอนเรล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ISUZU All new ทำสถิติไว้ดีมากกับการที่สื่อมวลชนนำไปทดสอบตัวเลขการใช้งานจริงไม่อิงนิยาย อยู่ที่ 16.x km/l
ในขณะที่รถปิคอัพดีเซลคอมอมนเรลรุ่นอื่น ๆ ในปีเดียวกันที่เซทกล่องควบคุมออกมารับกับหัวฉีดคอมมอนเรลสมัยใหม่ในรุ่นปี 2012 ขึ้นมา ก็สามารถทำอัตราความประหยัดได้ใกล้เคียงกัน จนกระทั่ง Hilux Vigo champ 3.0 AT 5 speed ปี 2012 มาโค่นสถิติ ได้ด้วยความประหยัด 16.x km/l เฉือนชนะกันเล้กน้อย แต่กับการใช้งานจริงในลูกค้าบ้าน ๆ อย่างเรา ๆ ก็จะเห็นว่าประหยัดพอแล้วกับตัวเลขนี้และไม่ได้ยากเย็นอะไรกับการที่คนเราจะขับได้ 15-16 km/l แบบไม่ต้องไปหาข้อมูลอะไรกันอีก
( แต่โปรที่เขาทดสอบได้แจ้งไว้แล้วว่า รถปิคอัพ ISUZU เซทเกียร์ออโตชุดนี้ออกมาดีมาก ๆ จนดีกว่าเกียร์ธรรมดาไปแล้ว ทั้งในเรื่องอัตราเร่งและความประหยัด) แต่ลูกค้าบ้าน ๆ ทั่วไปจะเข้าใจได้แค่ไหนในเมือคนใช้ปิคอัพบ้าน ๆ ทั่วไปยังซื้อปิคอัพเกียร์ธรรมดามาวิ่งกันอยู่เลย แล้วมันจะได้ตามที่เขาทดสอบไหมเนี่ย ในขณะที่คู่แข่งเดียวกันอย่าง Hilux Vigo champ 3.0 AT 5 speed ปี 2012 ทำเกียร์ออโต + กล่อง ECU ขึ้นมาใหม่ปรับแต่ง VN Turbo อีกนิดได้ความประหยัดแบบน่าคบหามากเพราะถ้าขับดีดีถือว่าตัวเลขออกมาสวยเชียว
แต่เกียร์ออโต 5 speed ของโตโยต้าชุดนี้ ต้องใช้น้ำมันเกียร์ชนิดพิเศษของ โตโยต้า ATF -330 เวอร์ชั่นใหม่ของพี่โตเท่านั้น ที่ทำคุณสมบัติออกมาลื่นมากกว่าปกติกว่าเบอร์ทั่วไปตามท้องตลาด ความประหยัดจึงได้ออกมามากกว่า ISUZU ทำได้

*******************************************************************

จาก โอเเมน ณ. ป่ายิ้ม

นี่แหละช่างตัวจริง นับถือครับ
รถดีเซลคอมอมนเรลรวมถึงรถรุ่นใหม่ ๆ สมัยนี้ ต้องใช้มาก ใช้งานหนักบ่อย ๆ จึงจะดี ไม่งั้นข้อเสียจะมากกว่า หรือพูดง่ายๆ รถใช้น้อยจะพังมากกว่ารถใช้เยอะ มีผู้หญิงท่านนึงเคยโทรมาหาผมเมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อน ถามว่าทำไมรถ ISUZU D-Max 3.0 ที่ใช้อยู่มันเสียบ่อยจังเลย ล่าสุดกล่อง ECU พัง แล้วควรจะใช้รถปิคอัพยี่ห้ออะไรจึงจะดี ผมถามเขาว่ารถใช้น้อยมากใช้หรือไม่ คำตอบก็เป็นดังคิดคือรถใช้น้อยมันไม่มีทางหลีกเลี่ยงการพังได้หรอก เพราะรถคือเครื่องจักรที่มันหยุดการใช้งานไปก็ไม่ดี โดยเฉพาะรถสมัยนี้ถ้าวิ่งน้อยมันจะพังเร็วกว่าที่รถวิ่งเยอะ
มีข้อความตามโฆษณาสำหรับผู้ที่ขายรถมือ 2 ชอบเอามุกนี้มาใช้เสมอ ๆ ในการขายรถคือ รถใช้น้อย จอดมากกว่าใช้ หรือรถไม่เคยลุยออฟโรด รถวิ่งในเมือง และก็ยังมีคนจำนวนมากกว่า 80% ยังเชื่อมุกนี้อยู่เสมอ
ทั้งที่ความเป็นจริง รถวิ่งแต่ในเมืองรถติดบ่อย ๆ พังเร็วกว่ารถวิ่งนอกเมืองทางไกล ๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะรถถอยเข้าจอดที่แคบ ๆ เข้าซองที่จอดในเมือง หมุนหาที่จอดตามห้างใหญ่ ตัวการทำให้รถช่วงล่างพังทั้งนั้น รถวิ่งแต่ในเองตัวเครื่องจะโทรมเร็วกว่ารถวิ่งนอกเมืองโดยเฉพาะรถที่ไม่ได้วิ่งกันบ่อย ๆ แบบประจำทุกวันในเมือง อาการยิ่งออกมากกว่ารถที่วิ่งเยอะ


ผมยังเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ยังชวนให้คนเชื่อได้อีกมากว่ารถใช้น้อยสภาพดีกว่ารถใช้เยอะ รวมถึงสถิติการประหยัดของ ISUZU ที่คนจำนวนมากยังจะต้องเชื่อว่ารถปิคอัพ ISUZU จะประหยัดกว่ารถค่ายอื่น ๆ เพราะคนจำนวนมากยังตามเทคโนโลยีของโลกใบนี้ไม่ทันถ้าไมได้อยู่ในแวดวงเหล่านี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       -ได้คำตอบที่มีประโยชน์มา 2 คต. ขอขอบคุณมาก.......จุดประสงค์ของผมคือเตือนให้ระวังการซื้อ อ่านแวดล้อมให้ออก และรักษาความชอบ หรือนิยมไว้ให้น้อยกว่าความรัก เพื่อให้มีเหตุผลต่อวัตถุหรือเครื่องมือ ซึ่งเป็นเพียงทางผ่านของชีวิต...

-หากเราเคย(โง่) ให้คนอื่นเอาเปรียบ ก็ไม่ควร(โง่)ตลอดไป ไม่ต้องมองโลกในแง่ร้าย แต่ก็ไม่ควรเป็นคนช่าง(เพ้อ)ฝันจนเกินไปครับ....

-หนังเทศอิงประวัติศาสตร์ของแคนาดาเรื่องหนึ่ง เนื้อเรื่องบอกให้คนดูรู้ว่าแคนาดานั้นเคยเป็นแดนคนเถื่อนในสายตาของอังกฤษ,ฝรั่งเศส,สวิสเซอร์แลนด์ ล้าหลังและเคยตกเป็นเมืองขึ้นมาก่อน..... ทั้งที่เป็นชนชาติ(ฝรั่ง)เหมือนกัน .....แต่ปัจจุบันมหาเศรษฐีมีอันดับของโลกนี้มีคนแคนาดาอยู่ด้วยครับ และเป็นประเทศในกลุ่ม "GRAND"(ถ้าจำผิดขออภัย)ด้วย ไล่กันจนทัน จากชนขั้นเมืองขึ้น จนมาเป็นแถวหน้าของโลกนี้...

-ในหนังเทศเรื่องที่อ้างนี้ มีคำที่กินใจมาก ที่นางเอกบอกชายคนรักของเธอว่า เธอมีความรักต่อเขาอย่างมากมาย ทุกลมหายใจ(ผมจำไม่ได้เติมเอง) แต่เธอบอกเงื่อนไขชายคนรักก่อนว่า "แต่ฉันไม่สามารถ รักข้างเดียวได้"......เป็นหญิงชาวบ้านที่มีปรัชญาชีวิติที่ดี มาตั้งแต่แคนาดายังป่าเถื่อนอยู่เลยครับ...

-จึงหวังว่าไทยเรา คงได้ใช้คำๆนั้นบ้าง ช้ากว่า(มาก)ก็ยังดีกว่าไม่รู้จักคำนี้เลยครับ....



 แก้ไขเมื่อ : 21/12/2556 5:49:01

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
      
-เรื่องรอบเครื่องยนต์รถที่นำไปเป็นเรื่องมองต่างมุม(จนได้) ผมก็ไม่สามารถตัดสินได้ นอกจากเลือกในสิ่งที่ผมเชื่อ คือผมเชื่อว่าคนที่ค้นคิดหรืออยู่ในสายงานหรืออาชีพ เขาคิดจนครบแล้วเลือกจุดที่ดีที่สุดมาใช้งาน หากเรามาเลือกใหม่โดยคิดว่าวิศวกรเขาเลือกไม่เป็น(ท่า) ก็เสี่ยงเกินไปหน่อยครับ

-หลายวันก่อนบนถนนเพชรเกษมขาออกแถวๆนครปฐม เห็นสปอร์ตรถลัมโบกินี่ วิ่งเลนขวา(ว่าง) เร่งรอบสูงจนได้ยินเสียง แซงต่างเลนขึ้นหน้าไป เดาๆว่าเครื่องยนต์คงราวๆ5.5ลิตร/350ม้าขึ้นไป สิ่งที่เห็นขัดแย้งกับที่เคยอ่านพิมพ์สนทนากัน คือรถเครื่องยนต์ดีเซล120ม้ารอบเหลือ อยากทดเฟืองใหม่

-ผมไปสัตหีบ เข้าไปที่ร้านสวัสดิการทหารเรือเห็นองุ่นอบแห้งหรือที่เรียกว่าลูกเกต สีเหลือง บรรจุถุงละ 120 บาทคงราวๆเกือบครึ่งกก. สมาชิกในครอบครัวถามว่าชอบกิน? ผมบอกเปล่า แต่คิดว่าถูก เมื่อเทียบกับองุ่นเขียวไร้เมล็ดสด ซึ่งวางขายในราคากก.ละกว่า200บาทขึ้นไป องุ่นอบแห้งครึ่งกก. คงต้องใช้องุ่นสดมากกว่า 2 กก.มาทำ คิดว่าถูกจึงซื้อไว้ก่อน และก็สงสัยต่อไปว่าทำไมองุ่นเขียวไร้เมล็ดสดจึงแพงจนมาทำแห้งเองไม่ได้(แน่นอน) คำตอบคดเคี้ยวมาก จับเป็นสำนวนมาเขียนไม่ได้ จึงขอแจ้งเป็นแค่ข้อสังเกต ชีวิตคนไทยแบบรสนิยมสูงนั้นไม่อันตราย เพราะแค่จ่ายแพงกว่า แต่บางมุมมองอาจเป็นคำตอบที่รับไม่ได้เหมือนกันครับ....

- ผมชอบรถยนต์เครื่องดีเซล และชอบแบบไม่ต้องเผาหัว/ไม่มีสายพานไทมิ่ง ซึ่งอีซุซุมีเครื่องยนต์เงื่อนไขที่ผมชอบ เป็นหนึ่งในสอง(เท่านั้น)ในไทยที่มีในรถกระบะเล็กใหม่จำหน่าย เท่าที่รู้นะครับ บอดี้และแชสซีก็โอเค แต่ผมไม่เคยให้อภัยอีซุซุที่มองคนไทยเปรียบเหมือนหมาไทยหลังอานที่ผมกล่าวไว้.... จึงไม่อุดหนุนเพราะควบคุมความอยากได้ และคิดว่าหาทดแทนได้ ซึ่งหมายถึงไม่ว่าแบนด์ใดก็ตามที่ทำในแนวทางแบบนั้นครับ

-ไม่ได้ต่อต้านอีซุซุ(ไทย) โดยเพียงระมัดระวังความเป็นคนไทยเท่านั้นครับ.....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       เรื่องจริงสำหรับค่ายนี้ครับ เขาให้ทดสอบในสิ่งที่เขาอยากให้ทดสอบ เขาอยากให้เห็นในสิ่งที่เขาอยากให้เห็น การปล่อยรถให้สื่อมวลชนเอาไปทดสอบไม่มีนโยบาย ผมทำงานเกี่ยวกับสื่อรถยนต์มา 14 ปี ไม่เคยได้มีโอกาสทดสอบรถของค่ายอีซูซุเลยสักครั้ง นอกจากเขาจะเชิืญไปในสนามทดสอบที่เขาจัดให้ไว้เท่านั้น ถ้ามีก็นอกจากสื่อคนนั้นเป็นสื่อที่เขาไว้ใจสกรีนแล้วปิดปากได้ พูดในสิ่งที่สร้างสรรค์สำหรับยอดขายเท่านั้นซืฃึ่งสามารถนับหัวได้เลยในสังคมสื่อรถยนต์เมืองไทย หลายอย่างเรารู้ว่ามันไม่ไดีแต่เราสื่อสารออกไปไม่ได้เพราะติดด้วยความข้องเกี่ยวด้านรายได้ค่าโฆษณาที่อาจจะถูกถอนออกไปจากสื่อนั้น ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       การทดสอบ mu-x ที่ประเทศญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ผมเคยถามแหย่หลายคนที่ใช้อีซูซุ ทั้งตัวเก่า ตัวใหม่ D-MAX หลายคนยังคงความเชื่อที่ถูกตอกย้ำมาแต่โบราณด้วยคำตอบที่ว่า ใช้เพราะมันประหยัดมาก ไม่จุกจิก ราคาขายต่อดีกว่ารถกระบะยี่ห้ออื่น ผเองก็รับไม่ได้กับระบบการทำตลาดรถค่ายนี้เหมือนคุณ TIK นั่นล่ะครับ เอาตัวอย่างง่าย ๆ รถอย่าง MU-7 ราคาล้านกว่าบาท ออกมาในยุคสมัยเดียวกับโตโยต้าสปอรต์ไรเดอร์ ที่ถูกเรียกว่ากระบะดัดแปลงคันละล้านสมัยนั้น ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบแหนบ MU-7 ยังดันทุรังขายมาจนหยดสุดท้าย ในขณะที่ค่ายอื่น ๆ นับเวลาเกิน 6 ปีขึ้นไปทำรถประเภทนี้ออกมาขายโดยใช้ระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่คอยสปริงออกมาขาย แต่คุณก็ยังให้ดิลเลอร์ลอกขายรถเทคโนโลยีเก่า ๆ กับคนที่ไม่รู้อยู่อีกต่อไปทั้งที่รถใหม่รุ่นนี้มันควรจะออกมาตั้งนานแล้ว การดึงเวลาเพื่อหวังระบายสต๊อครถเก่าของเหล่าดีลเลอร์ มันดูถูกผู้ซื้อเกินไป เอาแค่ก่อน MU-x จะเปิดตัวเป็นค่อนเดือนใครก็รู้ ผมแอบไปถามดีลเลอร์บางเจ้ามันยังบอกว่ามีที่ใหนพี่ ไม่มีหรอกอย่างน้อยก็อีกปีครึ่งตัวใหม่ถึงจะมา ดูมันพูดแล้วกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
      
-ผมขอวางข้อความเพิ่มอีกหน่อย ..จะพยายามหลีกเลี่ยงการชี้นำ ทั้งๆที่ก็อยากชี้เหมือนกัน เป็นหลายๆตอนที่อาจต้องตีความมารวมกัน ดังนี้ครับ...

-ในช่วงต้นปีนี้ทั้งเพื่อนและในครอบครัว ไปโชว์รูมรถใหม่หลายครั้งเพิ่อ"จะซื้อ"....ผมไปด้วยหลายครั้ง สิ่งหนึ่งซึ่งมาสรุปผลในตอนปลายปี คือได้รู้ก่อนล่วงหน้าว่ารถวีออส,อัลติส,ยาริส จะเปลี่ยนรุ่นใหม่ รู้ก่อนหลายเดือน เพราะเป็นเรื่องที่โตโยต้าเปิดเผย และมีทางเลือกให้ด้วยคือส่วนลดประมาณ 6หมื่น+ของแถมอื่นรวม = 1 แสนบาท ถ้าเลือกซื้อรถที่กำลังจะตกรุ่น ซึ่งเพื่อนและที่บ้านผมเลือกรถตกรุ่น อย่างสบายใจ เพราะรู้ตัว และเลือกเองที่จะรับส่วนลด....

-ผมพูดในครอบครัวว่าเป็นการตลาดที่เปลี่ยนไป และยุติธรรมดี ...

-ศูนย์บริการโตโยต้า ถ่ายน้ำมันเครื่องเสร็จล้างรถให้ด้วย ตอนรอก็มีม่าม่า,คุกกี้,กาแฟ,อินเตอร์เน็ตให้ กิน/ใช้ ฟรีด้วย...

-รถวีออสเป็น ซิตี้คาร์ แต่หากต้องการเปลี่ยนสีเบาะ จากผ้าสีเบจ เป็นไวนิลสีดำ ฝ่ายขายหลายแห่งทำให้ได้ไม่เพิ่มเงิน....ในขณะที่ผมเองไปดูฟอร์ด โฟกัส 4ป.ซีดาน ไม่ถูกใจเรื่องเบาะผ้าสีเบจ อยากได้ไวนิลสีดำบ้าง แต่บ.ฟอร์ดไม่มีทางเลือกรองรับเรื่องแบบนี้....ที่สุดก็ไม่ได้ซื้อครับ...

-นานหลายปีแล้ว ผมไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน ไปรถ 4 คัน เลือกที่พักจากโฆษณาในหนังสือท่องเที่ยว พอไปพักจริงไม่ถูกใจกันอย่างมาก วันรุ่งขึ้นจึงหาที่ใหม่ ตอนนั้นใช้ความเป็นนักวิทยุสอบถามคนท้องถิ่น ก็ได้ที่ใหม่ ก่อนหน้าเข้าพักก็ถามเรื่องร้านอาหาร พอไปถึงร้านที่นักวิทยุแนะนำ เป็นร้านเล็กๆไม่มีที่จอดรถหรือธรรมดาระดับร้านก๋วยเตี๋ยว คณะในรถก็แสดงความรู้สึกไม่ค่อยอยากลง(เพราะพึ่งเจอรีสอร์ทแย่ๆมา) แต่ผมตัดสินใจนำคณะลงรถเข้าร้าน เพราะไม่อยากให้คนแนะนำเสียความรู้สึก....ปรากฏว่าอาหารก็อร่อยดี สะอาด ไม่แพง และที่สุดคือความเป็นกันเองของคนขาย...ก็ประทับใจกัน

-วันรุ่งขึ้นคณะกลับเรียกร้องให้ไปทานอาหารที่เดิมอีกครั้ง...ผมหัวเราะ...ที่พักในคืนที่สองก็แบบเดียวกับร้านอากหาร คือสะอาด และเจ้าของรีสอร์ทเป็นกันเองมาก...สรุปคือดีครับ

-อยากไปแม่ฮ่องสอนอีก ไม่ได้มีที่ท่องเที่ยวเหนือกว่าที่อื่น เพียงแต่ติดใจน้ำใจคนที่นั่น เพราะไปเที่ยวที่นั่นแล้วสบายใจ..

-ผมว่าการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เป็นความสำคัญ และก็ถึงเวลาที่คนไทยต้องใช้เหตุผลในการเลือก ให้มากกว่าความเชื่อ(เฉยๆ) แล้วล่ะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ภาพสวยนะครับ คุณ liquidman สมเป็นนักข่าว
เรื่องจริงที่ค่าย ISUZU จะจัดรถไว้ให้ทดสอบเฉพาะสนามทดสอบที่ทาง ISUZU จัดไว้ให้เท่านั้น ตอนเปิดตัวรถ ISUZU V cross จัดอบรมขับเคลื่อน 4 ล้อก็จะเชิญไปทดสอบที่สนามที่ชลบุรีของ ISUZU เอง เป็นนโยบายของค่าย ISUZU มาตลอด
ซึ่งมันก็ทำให้คนส่วนนึง ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ที่เป็นลูกค้าของ ISUZU เองอยู่แล้ว มีความฝังใจในแบรนด์ตราสินค้า การเลือกซื้อรถครั้งต่อไปจะต้องเป็น ISUZU โดยที่ลูกค้าไม่มีโอกาสทดลองขับแต่อย่างใด แต่จะซื้อเพราะความเป็น ISUZU ]ลูกค้าก็จะฝังใจเชื่อยึดติดกับแนวคิดเดิม ๆ ภาพลักษณ์นั้นตลอดไป
****************************************************************************
ผมยกตัวอย่างดังนี้ ในรถที่ญาติภรรยาผมใช้

รถ ISUZU 2.5 Hilander MT ปี 2007 กินน้ำมัน 10-12 km/l
แล้วเอามาเปรียบกับ Hilux Vigo prerunner 3.0 ปี 2009-2010 รถกินน้ำมัน 12-13 km/l
หลังจากนั้นเปลี่ยนมาเป็น Hilux Vigo 3.0 4x4 MT ปี 2012 รถกินน้ำมัน 13-14 km/l ประหยัดกว่าใช้ ISUZU 2.5 2wd อีกน่ะ แถมยังประหยัดกว่ารถรุ่น Vigo เดียวกันที่เป็นขับ 2wd อีกต่างหาก
เพราะรถสมัยนี้มันขึ้นกับกล่อง ECU ในการเซทรถออกมาเป็นสำคัญ รวมถึงการเซท VN Turbo sensor ต่าง ๆ ที่ออกมาไม่เหมือนกันสเปกรถจึงต่างกัน

*****************************************************************
ผุ้บริโภคคนไทยถึงแม้วันนี้จะรอบรู้มากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าส่วนมากการตลาดแบบเดิมๆ ของค่ายรถยนต์ที่ทำกันอยู่มันทำให้รถขายออกไปได้ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก การซื้อรถทั้งที่ตัวเองยังไม่มีโอกาสทดลองขับ หรือไม่มีโอกาสได้ลองขับรถมากอย่างเพียงพอทำให้ลูกค้าหลายคนตัดสินใจผิดในการซื้อรถมาเยอะแล้ว แต่อาจเพราะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกซื้อรถไปแล้วเปลี่ยนก็ไม่ได้ ทำให้หลายคนยังคงต้องฝืนเป็นสาวกของยี่ห้อนั้น รุ่นนั้นไปก่อน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       อีกทั้งส่วนนึงผู้บริโภคคนไทยมีส่วนที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเอง เพราะค่ายรถยนต์เขาก็ศึกษาพฤติกรรมความต้องการของลูกค้าเอามาพัฒนารถของตัวเองให้ตรงกับคนไทยมากที่สุดเพราะตลาดปิคอัพ 1 ตันบ้านเราใหญ่เป็นที่ 1 ของโลก การทำรถยนต์มันต้องขายในไทยได้ด้วยและขายเมืองนอกได้ด้วย

ผมเคยอ่านรายงานวิจัยของลูกค้าที่มาตอบปัญหาจากการสุ่มสำรวจทางการตลาด อ่านแล้วทั้งขำทั้งปวดหัวบางทีก็อึดอัดเหลือเกิน คือมันตอบโดยไม่มีความรู้อะไรเลย อย่างเช่นระบบแอร์ Hilux Vigo บ้านเราไม่มี HEATER ซึ่งพฤติกรรมลูกค้าไม่ต้องการ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ระบบช่วยเหลือการลากจูง ระบบช่วยในการขึ้นทางลาดชัน ระบบการทรงตัว อื่นอีกมากมาย เอ่ยไปแต่ล่ะที ลูกค้าส่วนมากยังไม่รู้จัก หรือรู้จักแล้วแต่ไม่อยากได้ หรือรู้จักแล้วแต่ยังไม่มีความรู้
ส่วนคำตอบที่อยากได้มากของ Option รถก็คือ เบาะหนัง ถ้ารถราคาแพงถ้าไม่ได้เป็นเบาะหนัง (หนังเกรดห่วยๆ ) จะรู้สึกว่ารถเสียเกรดระดับราคา เครื่องเสียง ระบบ GPS นำทาง คำตอบแบบนี้ชอบตอบกันมากเหลือเกิน มาแนวนี้เกือบทั้งนั้น เบาะปรับไฟฟ้า ที่สำคัญแรงโม้ แรงม้าต้องมากหน่อย แต่รถต้องประหยัดน้ำมัน รถต้องสวย ล้อแม๊กต้องใหญ่ อย่างน้อย 16 นิ้ว แต่ต้องเป็นขับ 2wd น่ะ ไม่เอา 4wd เพราะกลัวเปลือง และคิดว่าเกินความจำเป็น ( อ้าว เมิงให้ใส่ ล้อ 17 แบบนี้มันไม่เกินความจำเป็นไปหน่อยเหรอว่ะ 5555 )


แต่ค่ายรถยนต์เขาก็ชอบคำตอบแบบนี้นะ เพราะเอาข้อมูลเหล่านี้ไปใส่ในรถรุ่นต่อไปกลับมาขายลูกค้า แล้วอัพราคาขายทำกำไรได้บาน เพราะพวกนี้ OPTION มันใส่ง่ายมาก ไม่ต้องมีรายงานการทดสอบข้อมูลเชิงเทคนิค แหกตากันง่าย ที่สำคัญไม่ต้องสต๊อกอะไหล่ในอนาคตให้สิ้นเปลือง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
      
-MU-7 รถราคาเป็นล้าน ใช้ช่วงล่างแบบเดียวกับรถกระบะ ลากยาวนานกว่าใคร / และกระบะแบบ open cab , แหนบเทิร์นเพลาในรถ 4WD ก็เพิ่งมีที่รุ่นวีครอสนี่เองครับ..... ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความล้าหลัง แต่อยู่ที่ทำไม? มากกว่าครับ...

-ผมเคยซื้อรถ ฮอนด้า ซีวิค รุ่นปี 1995 หรือโฉมเตารีด 2 คัน เป็นรถ CKD หรือประกอบในประเทศ และอีกคันเป็น CBU หรือประกอบนอก เมื่อมาอยู่ที่เดียวกัน ผมจึงได้เริ่มรู้ว่ารถรุ่นเดียวกัน แต่คนละมาตราฐานประกอบ รถประกอบนอกเหล็กตัวถังหนากว่า 1 เบอร์ ประตูและกันชนหน้า/หลัง มีคานเหล็กเสริม ส่วนรถประกอบในไม่มี อาจมีจุดอื่นๆอีกที่ไม่ได้ตรวจนับอย่างจริงจัง สิ่งที่ไม่เหมือน เป็นคำถามตนเองครั้งแรกว่า "ทำไม"

-กลับไปค้นคิดพบว่าเป็นทั่วไป มากหรือน้อยเท่านั้น ในรถ BMW โดยยนตรกิจ หนัก(หนา)ที่สุด หรือต่างกันมากมายกับรถประกอบนอก...

-คำตอบอยู่ในกระจกเงาครับ ....ความด้อยที่ได้รับ นั่นคือเขาคิดว่าเหมาะสมแล้วกับคนไทยแล้ว

-อีกหลายปีต่อมา ผมเห็นอีกัวน่า แห่งเกาะกาลาปากอส ในสารคดีของ Next step ที่มักจะพยัก/เชิดหน้าในฤดูเลือกคู่ ผมจึงเริ่มคิดว่าหากไทยเรายิ่งเลือกโดยที่ไม่มีภูมิเลือก จะยิ่งเข้าทาง พวกทำยนตรกรรมมาจำหน่าย เพราะเมื่อเขารู้ว่าเราหัวสูงเป็นอย่างเดียว อะไรก็ขายได้ ขอให้สวยถูกใจ ออฟชั่นมากๆ..
เป็นครั้งแรกที่ผมยอมรับว่า คงต้องแก้ไขตัวเองเพื่อให้ลูกหลานของผมถูกมองดีกว่าผมถูกมอง...นั่นคือที่มาของคำว่า "ทำไม" ซึ่งคำตอบอยู่ในกระจกเงาครับ...

-ผมจึงใช้ข้อความเตือนเสมอๆเรื่องการก้าวตาม เพื่อให้ระวัง และเร็วกว่าเดิมที่ผ่านมา....

-ในวัยเด็ก ผมได้เห็นนักกีฬาญี่ปุ่น,เกาหลี,มาเลเซียฯ ในเอเชี่ยนเกมส์ ปัจจุบันหลายๆประเทศหายไปเป็น "GRAND"หรือไม่ก็"Go Inter" และกำลังก้าวจะไปอีกก็มี เหลือที่กอดกันแน่น ไม่ก้าวไปไหน อยู่สี่พี่น้อง คือไทย,ลาว,พม่า,กัมพูชา

-คนไทยรสนิยมดี จึงเป็นพี่ใหญ่ คนฝั่งลาวถ้าเห็นสินค้าหรือของจากไทย คือของอย่างดี แต่เขาก็หัวเราะ(ในคลิปบั้งไฟพญานาค) ที่ลาวยิงปืนขึ้นฟ้า แล้วฝั่งไทย "เฮ" กันสนั่น หมายถึงลาวก็ยังเหนือกว่าไทยอยู่ในบางมุมมอง/เรื่อง....

-ความหมายจึงไม่ได้อยู่ที่ไปเรียกร้องอีซุซุและพวกพ้อง ให้เคารพลูกค้าอย่างไทยเราบ้าง แต่เป็นอยากเตือนทุกท่านให้รู้ตัวว่าไทยเราถูกมองอย่างไรมากกว่า เพราะถ้าเรารู้ตัว วิธีแก้ไขจะเกิดขึ้นเอง...ผมเชื่ออย่างนั้นครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
      
-"เรื่องจริงสำหรับค่ายนี้ครับ เขาให้ทดสอบในสิ่งที่เขาอยากให้ทดสอบ เขาอยากให้เห็นในสิ่งที่เขาอยากให้เห็น การปล่อยรถให้สื่อมวลชนเอาไปทดสอบไม่มีนโยบาย "

-ข้อความที่ copy ตัดมาวาง เพื่อนำเข้าสู่ความเห็นว่า ....

-ในหนังเทศเรื่อง "Lion for lambs" เป็นหนังที่สมมุติการสนทนาระดับชาญฉลาด ของบุคคลคุณภาพสูง หลายคู่ บทสนทนาคมเหมือนมีดและเร็วอย่างละเอียด เป็นการขัดเกลาจากนักเขียนที่จงใจแสดงเจตนาเนื้อเรื่อง เป็น(หนัง)ที่มีจุดเด่นคือบทพูด/การตัดสินใจของคนระดับคุณภาพสูง...

-คู่สนทนาหนึ่งในหลายคู่คือระหว่าง วุฒิสมาชิกผู้มีอนาคตก้าวไกล กับนักข่าวดีเด่น/อาวุโส บทสนทนาเหมือนเล่าเรื่องที่เราไม่รู้/โชว์ความสามารถคิด/การตั้งคำถามและตอบแบบทันกันตลอดเวลา....ในเนื้อเรื่องวุฒิสมาชิกมีความต้องการให้โลกรับรู้สิ่งที่เขาอยากให้รู้ เหมือนคำที่ตัดมาตอนต้นครับ

-สิ่งที่ประทับใจคือสัญชาตญาน หรือความเชี่ยวชาญของสื่อในเรื่องนี้ ...เนื้อเรื่องต่อคือ...หลังจากได้สัมภาษณ์วุฒิสมาชิกอย่างเป็นส่วนตัวและแบบพิเศษคือไม่จำกัดเวลาซักถาม นักข่าวหรือสื่อท่านนี้ก็กลับมาออฟฟิตเพื่อรายงานหัวหน้าหรือบรรณาธิการ ซึ่งเป็นเรื่องระดับใหญ่ที่รอกัน เมื่อนักข่าวรายงานจบ และแจ้งว่าสัญชาตญานบอกลางสังหรณ์ว่าอาจถูกหลอกใช้ จะขอไม่ให้ความร่วมมือ หรือจะไม่เขียนข่าวนี้ ซึ่งทำให้หัวหน้าหัวเสียต่อการพลาดโอกาสใหญ่นี้อย่างมาก ....แต่คนดู(หนัง)เป็นผู้ตัดสินไปอีกแบบ...

-สำหรับผมที่พิมพ์ตั้งแต่ขึ้นต้นว่า นักเขียนเรื่อง เขาเจตนาโชว์ความคิดของคนระดับคุณภาพ โดยไม่เกี่ยวกับศักยภาพ...และเหมือนประกาศแบบอย่างหรือระดับความคิดที่แตกต่างกับคนดูที่จับใจความแทบไม่ทัน....ผมหมายถึง หนทางของไทยสู่มาตราฐานหรือทัดเทียมเขาแบบนั้น ยังอีกไกล(มาก)ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       มาตรฐานการประกอบ ที่มันไม่เหมือนกัน เรื่องนี้ต้องอธิบายกันยาวครับคุณ Tik ต้องยกตัวอย่างกันหลายเรื่อง

มีเวลาเดี๋ยวมาเขียนใหม่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
      
-ถ้าพอไหวก็ช่วยพิมพ์ไว้อ่านกันได้หลายๆคน หรือกลับมาอ่านหลายๆครั้งก็ยังได้ ได้ประโยชน์กว่าบอกเล่ากันเป็นรายๆครับ....

-วันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมไปมหาชัย จากจุดท่าเรือคนข้ามไปท่าฉลอม เดินเลี้ยวซ้ายเป็นถนนวันเวย์ที่มีคนเดินเยอะ ของขายริมทางมากมาย อยากเล่าถึงวิถีคนไทยอย่างหนึ่งคือผม เดินมองหาปลาหมีกย่าง เป้าหมายเลือกคือต้องการเจ้าที่ย่างปลาหมึกตัวเล็ก หรือเนื้อบางๆ คือชอบและคิดว่าเป็นการเลือกที่ดีครับ เจออยู่เจ้าเดียว ก็แวะดูใกล้ๆให้แน่ใจ มีเสียงคนที่ซื้อเสร็จ กำลังจะเดินออกจากร้าน เขาบอก"ร้านนี้ทำน้ำจิ้มดีนะ" แล้วเขาก็จากไป ต้องรอย่างใหม่จึงจ่ายเงินแล้วไปซื้อส้มก่อน ส้มก็มีวิธีเลือก ก็ได้ผลอยู่บ้างครับ ...

-ผมซื้อส้มแล้วเดินกลับไปรับของที่สั่งไว้ ก้มีคนเข้ามาทักและถามว่าซื้อส้มร้านไหน ผมตอบร้านถัดไปหรือร้านที่สอง เขา(ผู้หญิง)ก็เดินจากไป คนเดินกันเยอะ มองไม่เห็นแล้ว สมาชิกในครอบครัวถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเล่าและบอกว่าแปลกที่เขาไม่ได้ถามว่าราคาเท่าไร....

-ปลาหมีกย่างเนื้อบางก็อร่อยดีตามคาดหมาย ส่วนส้มที่เลือก จริงๆก็ไม่แน่ใจหรอกครับ เพราะใครๆก็อ้างเป็นส้มบางมดทั้งนั้น จนถึงวันนี้จึงได้กินส้มที่ซื้อมาหลายวันแล้ว ผลคือดีครับ และมีรสชาตแบบส้มบางมดจริง สิ่งที่ต้องการเล่าคือ...คนที่ถามผมว่าซื้อร้านไหน โดยไม่ถามราคาซื้อด้วย เขาคงมองเห็นส้มที่ผมหิ้วถุงมา เขาคงดูส้มเป็นมากกว่าผมอีก และก็เป็นนักแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าตัวจริง เพราะถามที่หมายไม่ถามราคาซื้อเลย

-ผมนำมาเล่าเพราะรู้สึกดี ที่ได้บอกหรือได้ข้อคิดจากไทยด้วยกัน...ลืมแจ้งว่า ตอนกลับมารับปลาหมึกย่างต้องรออีกหน่อย แม่ค้าคุยขยายความเรื่องสูตรเด็ดใหญ่เลย ....อันนี้ไม่ชอบแต่ก็ต้องรับภาพรวมมาด้วยเช่นกันครับ....

-คนไทยโชคดีเรื่องการกิน เพราะไทยมีข้าวที่ดีที่สุดในโลก การประมงมีอันดับ อาหารรสชาตอร่อยติดอันดับโลก...ต่างขาติเช่นชาวสิงคโปร์ บินมากินผลไม้ไทย บอกนักข่าวว่า " ไอ ไล้ ไท แม้งโก้ เวรี่ มัช " ดังนั้นทุกอย่างที่เป็นสิ่งที่ดี ไทยกันเองก็ต้องยอมจ่ายแพงก่อน เพื่อหล่อเลี้ยงให้สิ่งที่ดีนี้ ดำรงอยู่ต่อไปได้ ไม่ร้าง เพราะไม่มีใครอยากทำในสิ่งที่ไม่คุ้ม....

-สมการเรื่องข้าวแกง ไปลงตัวที่ภาคใต้ ส้มตำที่ภาคกลาง แกงฮังเลของพม่าที่ภาคเหนือ กาละแม(มอญ)ที่อีสาน (ลงตัวคือเป็นรสชาตบรรทัดฐาน)

-มิเชล พลาตินี่ อดีตนักเตะ/กัปตันทีมทีมชาติผรั่งเศส และเป็นโค๊ชทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก หมายถึงคนสำคัญแน่นอน ก็เคยบินมากินอาหารไทย

-ดังนั้นศาสตร์เรื่องอาหารไทยควรมีค่า และควรดำรงต่อไป หากพบเห็นแพงขึ้น ก็ควรช่วยกันยอมรับครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
      
-" guilty "....บางครั้งก็มีคนแปลว่า สำนึกผิด / รู้สึกตัวว่าผิด......

-ข้อผิดพลาด เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และเกิดขึ้นได้เสมอๆ บทกำกับจึงมักผนวกคำว่าเจตนา เข้าไป เพื่อให้ผลชัดเจนในทางใดทางหนึ่ง...

-ผมคิดเองว่า บางครั้งการโกหก อาจเกิดจากความจำเป็น หรือเกิดจากการไม่แน่ใจผลความจริง ต้องมาตัดสินที่แก้ตัวหรือไม่ หากแก้ตัวหมายถึงยืนยันหรือเป็นเจตนา เพื่อตัดสินใจความเหมาะสมต่อเหตุการณ์นั้นๆ....มีตัวอย่างครับ

-อาณัติ รัตนพล เป็นนักวิ่งทีมชาติไทย สถิติ 100ม. คือ 10.5 วินาที แต่ในช่วงแรกก่อนดังมากเขาวิ่งในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่จำไม่ได้ ทำเวลา 10.1 วิ สถิตินี้ไม่ถูกบันทึก ผมก็ได้ดูครับ และหลังจากนั้น ก็มีรายการทีวีเชิญมาสัมภาษณ์เบื้องหลังเหรียญทอง ...คุณอาณัติเล่าว่ามีการนัดแนะเพื่อตุกติกให้ประโยขน์ต่อไทย(เจ้าภาพ)นิดหน่อย ไม่ได้โกงแค่ตุกติก การนัดแนะ "หมายถึงทำกันเป็นทีม" ตอนผมดูเขาบอกเรื่องนี้กับสื่อที่ไม่ได้สงสัยถาม ผมก็ไม่รู้ว่าเขาพูดทำไม แต่ต่อมาอีกนาน จึงได้รู้ว่านั่นคือสปิริตที่ดีของเขา สำหรับผมนักวิ่งท่านนี้ เป็นนักกีฬาไทยที่มาตราฐานสูงมาก การวิ่งท้ายๆก่อนเลิกเพราะอายุมาก มีการล้มที่เส้นชัย แต่การล้มนั้นคือสิ่งที่ทำให้เขาชนะแบบใช้ภาพตัดสิน หมายถึงประสพการณ์และการทุ่มเทยอดเยี่ยมครับ...เป็นตัวอย่างที่ดีที่จำได้ตลอดชีวิต....

-อีกเรื่องคือผมเอง....มีสมาชิกในเวปแจ้งว่าที่เซียงกงบางนากม.ยี่สิบกว่า มีบอดี้ 107 หัวนอกขายราคา 6 หมื่น ผมสนใจมากจึงขอทราบแผนที่และเดินทางไปดู ...พอไปถึงเจ้าของร้านก็ให้คนพาชี้ให้ดู ตอนเดินไปดูของเขาก็บอกว่าเป็นบอดี้ 107 เมื่อเห็นของผมบอกว่านี่เป็นบอดี้ไมตี้แบบหัวนอกของรถในบ้านเรายกลงนี่ เพราะกระบะยาวกว่า 10 ซม. คนพาไปดูบอกใช่ มีคนมาเทิร์นหัวนอกไป หัวนอกแท้แสนกว่าหายากอีกต่างหาก.....อ้าว...ผมกลับไปที่รถ ผิดหวังอย่างแรง เดินทางไป/กลับ 200+200กม. แต่ผมไม่ได้ต่อว่าเขาสักคำเดียว ไม่ได้กลัว แต่เป็นเพราะเขา ไม่แก้ตัว การใช้ชั้นเชิงตุกติก เป็นเรื่องที่พบเห็นบ่อยในบ้านเรา แต่เห็นการแก้ตัวด้วยในต่อมา นั่นหมายถึงเจตนาโกง ...รายการนี้ผมบอกเพื่อนที่เดินทางไปด้วยว่า "มืออาชีพ" โกหกแต่ไม่ยืนยัน จึงไม่รู้จะโกรธเขาได้อย่างไร เป็นเพราะผมเกิดความโลภด้วย คิดว่าโอกาสทองเป็นวาสนาเฉพาะตัว จึงต้องถือว่าเสมอกันไป.....นี่ขนาดลูกน้องนะ ตัวเจ้าของเซียงกงจะยอดขนาดไหน?.....

-สรุปที่เล่าเพราะ ไม่เห็นสปิริตของอีซุซุในการแข่งบิดเบี้ยวน้ำมันปี2548 ทั้งในเวาลา หรือหลังจากนั้น และโฆษณาในนสพ.ไทยรัฐ เต็มหน้าหลัง อีซุซุ(ไทย)เป็นผู้จ่าย วิศวกรประจำหน่วยงานเพื่อวิเคราะห์ผลก็มีอยู่แล้ว ผลลวงโลกแบบนี้จึงชี้ว่า "ทำกันเป็นทีม" และเป็นเจตนาด้วยครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       มาตรฐานรถยนต์ที่มันไม่เหมือนกัน มีเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้

1. กฎหมายแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน
2. มาตรฐานความพึงพอใจของลูกค้าแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน
3. การสำรวจความต้องการของลูกค้า
4. ลักษณะภูมิประเทศ
5.โครงสร้างกำแพงภาษี
********************************************************************

1. กฎหมายแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน มันเกี่ยวเนื่องทั้งเรื่องความปลอดภัย การบังคับใช้ชิ้นส่วน มาตรฐานการผลิต ระบบไอเสีย การออกแบบตัวรถ การบังคับใช้อุปกรณ์บางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น
***** 1.1 ระบบเบรค ABS ถ้าเป็นรถขนาดนี้ในบางประเทศจะมีทั้งถุงลมนิรภัย ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อย่างเช่น Hilux Vigo ส่งออกไปต่างประเทศรุ่นประหยัดตอนเดียวเกียร์ธรรมดา 2wd จะมีตัวนี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปกับรถอยู่แล้ว แต่ที่ประเทศไทยจะมีหรือไม่มีก็ได้แต่ส่วนใหญ่ไม่มีเพราะไม่มีกฎหมายบังคับใช้ บริษัทรถยนต์จะไม่ติดตั้งมาให้เพราะจะเพิ่มราคาเข้าไปในต้นทุนโดยไม่จำเป็น แต่ถ้าติดตั้งจะบวกราคาเพิ่มขึ้นให้ แต่กำไรต่อหน่วยต่อคันของรถยนต์ทางบริษัทจะคิดเท่าเดิมอยุ่แล้วไม่เกี่ยวกับราคารถ ที่สุงขึ้นหรือลดลงแต่อย่างใด
***** 1.2 กฎหมายบังคับเรื่องมาตรฐานไอเสีย ถ้าประเทศนี้มีข้อขับคับเยอะกรเซทเครื่องยนต์ การเซทเทอร์โบ การต่อระบบอากาศเครื่องยนต์จะต่างกันออกไป มา๖รฐานเครื่องยนต์จะมีแรงม้าต่างกันเพราะเหตุนี้ด้วย ถ้าประเทศที่ไม่มีเรื่องกฎหมายรองรับเรื่องนี้ ก็จะติดอุปกรณ์น้อยลงเพราะบริษัทรถยนต์จะไม่ใส่ เพิ่มเติมหรือพยายามสร้างแรงม้าที่มากเกินไปเพราะเกี่ยวข้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน
****** 1.3 กฎหมายในเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค อย่างเช่นบางประเทศมีกฎหมายการเรียกคืนรถค่อนข้างชัดเจนอันเกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณที่มีผลต่อความปลอดภัยของลูกค้า มาตรฐานการใช้ชิ้รส่วนการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มขึ้นเข้าไปในตัวรถเป็นสิ่งสำคัญ แต่ในประเทศที่ไม่มีกฎหมายตรงนี้รองรับ ทางบริษัทรถยนต์จะไม่ทำเช่นกันเพราะมันเกีก่ยวเนื่องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและการขออนุญาตในการผลิต

2. มาตรฐานความพึงพอใจของลูกค้าแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน อันนี้ต้องเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่กลุ่มลูกค้าแต่ละประเทศไม่เหมือนกันนั้นเอง อย่างเช่น
******** 2.1 ลูกค้ายยอมรับในตัวรถที่ด้อยกว่า เพราะต้องการ Option ที่น้อยกว่า หรือต้องการรถแค่พอใช้งานได้เท่านั้นเอง ไม่ได้ต้องการสิ่งอื่นสิ่งใด นอกจากความเป็นตัวรถของรถรุ่นนั้น แบ่งข้อย่อยดังนี้

********* 2.2 การตัดสินใจของลูกค้าเรื่องมาตรฐานรถยนต์ไม่เท่ากันของผู้ใช้ อย่างเช่นช่องว่างระยะห่างของ Matching ตัวรถ ลูกค้าในแต่ละประเทศมีมาตรฐานการตัดสินใจไม่เหมือนกัน ประเทศเราไม่เอา ประเทศอื่นแคนี้ก็ขายได้ลูกค้าไม่สนใจ ถ้าเป็นประเทศอื่นต้องแก้ไขใหม่
หรืออย่างเช่นเรื่องเสียงดังบ้านเรายอมรับได้ถ้ารถยนต์มีเสียงดัง ประเทศอื่นยอมรับไม่ได้ ประเทศที่ยอมรับได้ไม่ต้องแก้ไขหรือปรับปรุงเพราะมาตรฐานของลูกค้าอยู่แค่นี้ บริษัทรถยนต์จะไม่แก้ไขให้ผิดไปจากเดิมเพื่อนำมาสู่ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหรือต้นทุนที่ต้องเพิ่มขึ้นในการแก้ไข แต่ประเทศที่ลูกค้ามีมาตรฐานในการตัดสินใจยอมรับคุณภาพรถยนต์ที่สูงกว่า จะต้องนำไปแก้ไขใหม่


3.การสำรวจความต้องการของลูกค้า
******* 3.1 สมมุติ Hilux Vigo ตัวส่งนอกจะมี Heater ทำความร้อนทุกคันเพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในให้คงที่เพื่อไม่ให้ร้อนไปไม่หนาวเกินไป ในการใช้งานระบบปรับอากาศในทุกสภาวะ แต่ที่ประเทศไทยไม่มีลูกค้าต้องการ Option นี้ บริษัทรถยนต์ก็จะไม่ใส่มาให้เพื่อไม่ให้ต้นทุนนั้นสูงเกินไปและไม่ต้องสต๊อคอะไหล่ในเรื่องการซ่อมการจัดการเกี่ยวกับอะไหล่ที่ต้องเพิ่มขึ้นในประเทศแต่อย่างใด
******* 3.2 อย่างเช่น Fortuner รุ่นส่งนอกจะมี Diff lock ไฟฟ้าเป็น Option ให้ แต่ในเมืองไทยตัวที่ขายในประเทศจะไม่มี Option นี้เพราะลุกค้าไม่ต้องการ ลูกค้าไม่รู้จัก ทางบริษัทรถยนต์ก็จะไม่ใส่มาให้เพราะไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำให้เงื่อนไขต้นทุนและโครงสร้างมันเพิ่มขึ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       3.การสำรวจความต้องการของลูกค้า ต่อ

*****3.3 อย่างเช่น Fortuner จะมีรุ่น Top 3.0 V 4wd VSC TRC แต่จะมีรุ่นล่างสุดคือ 2.5G 2wd option อื่นน ๆ ไม่มีเลย ทำไมยังทำออกมาขาย ก็เพราะลูกค้ามีความต้องการซื้อไง แม้ลูกค้าจะรู้ว่า ตัว Top ให้อะไรมากกว่า ขับขี่ดีกว่า option มากกว่าแต่ลูกค้ามีความต้องการซื้อแค่รุ่น 2.5G เท่านั้น
***** 3.4 Hilux Vigo prerunner ในไทยจะมีรถประเภทนี้ขายอยู่ด้วย คือรถยกสูงขับ 2wd แต่ในเมืองนอกจะไม่มี สาเหตุเพราะในไทยลูกค้าต้องการรถลักษณะนี้ แม้รู้ดีว่ารถรุ่นนี้มีปัญหาฟังชั่นก์การขับขี่ ซึ่งสู้ตัว Top 3.0G 4wd ไม่ได้แต่ลูกค้าก็ยังต้องการรถ Hilux Vigo prerunner อยู่ดี


4. ลักษณะภูมิประเทศ ซึ่งในโลกนี้ไม่เหมือนกันการใช้งานอาจย่อมมีความแตกต่างกันด้วย
ถ้าจะให้อธิบายลงไปในรายละเอียด อย่างเช่นภูมิประเทศนี้เป็นเทือกเขาสูง มีหมอกปกคลุมหนามากตลอดทั้งปี การผลิตรถยนต์ในกลุ่มนี้ จะต้องมี Option สตาร์ทรถแล้วไฟหน้าเปิดขึ้นทันที เครื่องยนต์จะมีแรงม้ามากกว่าปกติที่ขายในประเทศอื่นน ระยะเบรคต้องสั้นกว่ารถที่ขายในประเทศอื่น คนใช้รถกันยาวนานรอหิมะหายไปแล้วทำความสะอาดกลับมาใช้ต่อ ด้วยลักษณะแบบนี้การใช้ชิ้นส่วน การกำหนดสเปกรถยนต์จะต้องสูงกว่าบางประเทศ คือใช้ชิ้นส่วนทนการกัดกร่อนขึ้นสนิมได้ดีกว่า เครื่องยนต์ปรับเสปกให้แรงขึ้น เพิ่มแรงในการเบรคเพื่อให้ระยะทางสั้นลง


5.โครงสร้างกำแพงภาษี มีส่วนในการกำหนดในสเปกรถยนต์รุ่นต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างมากมายในทุกประเทศ อย่างเช่น
********** 5.1 ในอินโดบ้านเขาจะนิยมรถ 7 ที่นั่ง โครงสร้างภาษีจะถูกในรถแบบนี้ แต่ถ้าเป็นรถแบบนี้บ้านเราจะเสียภาษีแพงกว่าเพราะเป็นรถฟุ่มเฟือยมากกว่า รถแบบนี้จึงไม่นิยมนำมาประกอบในบ้านเราที่ประกอบก็เลิกผลิตไปหมดแล้วเพราะโครงสร้างรถแบบนี้ราคาแพง บ้านเราเองก็ไม่นิยม
********** 5.2 รถสปอร์ต บ้านเรามีกำแพงภาษีรถแบบนี้แพง แน่นอนว่ามันไม่สามารถเกิดขึ้นในเมืองไทยได้ โดยเฉพาะรถเปิดประทุนเพราะถือว่าเป้นรถฟุ่มเฟือย แต่ในบางประเทศมันก็คือรถที่เป็นพาหนะคันนึงเท่านั้นเอง บ้านเราจึงมีคำว่า Mazda 2 รุ่นสปอร์ต , Hilux Vigo sport TRD หรือรถอื่น ๆ ที่เอาคำนิยามมาเรียกเป็นรถสปอร์ต ขนาดปิคอัพยังเอามาเรียกว่าเป็นปิคอัพสปอร์ตด้วยซ้ำ
*********** 5.3 ภาษีน้ำมัน ซึ่งแต่ละประเทศกำหนดไม่เหมือนกัน เป็นตัวการแบ่งแยกสเปกเครื่องยนต์ที่ผลิตออกไปสู่ประเทศต่าง ๆ อย่างเช่นรถปิคอัพในไทยจะเป็นดีเซล ในเมืองนอกอีกหลายประเทศจะเป็นรุ่นเบนซิน เพราะโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศนั้น ๆ จะเป็นผุ้กำหนดความนิยมของเครื่องยนต์ รวมถึงขนาดเครื่องยนต์จะขึ้นกับกำแพงภาษีที่รัฐบาลออกกฎหมายมา อย่างเช่นบ้านเรา รถซีซ๊ใหญ่กว่า 2500 ษีก็จะแพงมากขึ้นตามไปด้วย รถแรงม้ามากภาจะมากขึ้น ทำให้บ้านเรามีข้อจำกัดในเรื่องขนาดและชนิดเครื่องยนต์ อย่างเช่นครั้งปิคอัพเมืองไทยห่างหายจากการผลิตปิคอัพเบนซินเพื่อจำหน่ายในบ้านเราไปนานมากกว่า 18 ปี
************ ภาษีตัวรถ การเก็บภาษีตัวรถของแต่ล่ะประเทศต่างกัน ความนิยมรถจึงต่างกันด้วย อย่างเช่น SUV PPV ในเมืองนอกเก็บภาษีเท่ารถยนต์ทั่วไป แต่บ้านเราอาจจะเก็บแพงกว่าที่ 35%
*********** ชนิดของการใช้น้ำมัน อย่างเช่นแก๊สโซฮอล ไบโอดีเซล ก๊าซ
การใช้เชื้อเพลิงแต่ละประเทศต่างกัน ทางบริษัทรถยนต์จะต้องปรับเสปกเครื่องยนต์ให้ต่างกันด้วย อันจะเป็นผลให้ความแรงและการกินน้ำมันของรถแต่ละรุ่นจะต่างกันไปด้วย อย่างเช่นอย่างเช่นรถคันนี้ส่งขายในไทย เครื่องเบนซินน่ะครับ
กล่อง ECU จะถูกเซทจากโรงงานผลิตมาแล้วให้รับแก๊สโซฮอล E10 ได้ ฝาถังน้ำมันแปะสติกเกอร์ E10
แต่รถที่ส่งออกไปยุโรป กล่องจะใช้ กล่อง ECU คนล่ะตัวไม่ได้เซทค่าไว้รองรับ E10 แต่จะไปเติมน้ำมัน 95 แทน รถพวกนั้นจะแรงกว่าและประหยัดน้ำมันกว่ารถที่ใช้ในบ้านเรา เพราะรถมันถูกเซทมาไม่เหมือนกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       -ขอบคุณคุณ Auto มากครับ...ข้อมูลละเอียด อย่างนี้เรียกว่า "เปิดเผยความรู้" ถ้ามีที่เปิดเผยได้อีกและพิมพ์ไหว ก็ชอบที่จะรับต่ออีกครับ....

-เรื่องในกระทู้นี้ จริงๆเป็นเรื่องร้ายแรงในแบบผมคิด เพียงแต่ คนไทยไม่มีช่องทางไปต่อว่า,ต่อสู้หรือต่อรองได้ ...สิ่งที่ทำได้ คือหนีให้ไกล อย่าเข้าใกล้สารบบแบบนี้ เพราะแม้ไม่อันตรายระดับชีวิต แต่สวนทางกับความเจริญที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ณ เวลานี้ หรือหมายความว่า วงจรแบบนี้คือตัวทำลาย หรือถ่วงรั้งความเจริญก็กล่าวได้...

-ในกระทู้อื่นผมเล่าถึงเศรษฐีนักแข่งรถชาวชลบุรี นำรถและทีมช่างญี่ปุ่น มาทำให้วงการรถไทยหูตาสว่าง ก้าวออกหรือเดินหน้า นั้นคือคนไทยดึงเทคโนฯจริงมาทำประโยขน์ให้คนไทย ซึ่งตอนนั้นมีกลุ่มที่ทำให้เกิดการเดินวนเป็นวงกลม หรือไม่ก้าวหน้า....

-ในการบิดเบี้ยวที่อีซุซุทำไว้ในปี 2548 ถือเป็นตรงกันข้าม จึงต้องถือว่ารุนแรงมากครับ...

-คำว่า "TRUST" แปลว่าความเชื่อถือ เป็นคำที่มีความหมายในเหตุการณ์สำคัญเสมอ หมายถึงวิถีที่ยังไม่เป็นผลบรรลุ ต้องมีสิ่งนี้เป็นเครื่องนำทาง....

-ข้อความของผม เพียงพยายามชี้ว่าอีซุซุ(ไทย)มองคนไทยอย่างไร ถึงทำอย่างนั้น ถ้าเป็น หนัง/ละคร โม้ไร้สาระอย่างนี้ เขามักใช้คำว่า"ดูถูกคนดู" ...ท่านใดอ่านข้อความกระทู้นี้แล้วยังอดทนในรักข้างเดียวได้ ก็ไม่ว่ากันครับ....

-----------------------------------------------------

-ชวนคิดในท้ายสุดนี้ คืออยุธยา-ตราด 384 กม. หากสมมุติมีรถนำขบวนวิ่งนำหน้าให้คือไม่ติดขัดใดๆเลย ความเร็ว 70-80กม./ชม. ในเกียร์ 5 ตลอดระยะทาง คาดว่าจะใช้เวลาขับราว 5 ชม. ๆ ใช้น้ำมันไป 6.7 หรือ say 7 ลิตร เพื่อให้ง่าย..

-ลองดูได้โดยนำรถรุ่นที่แข่งขันคือ 2500 หรือตัวใดก็ได้ที่ประหยัดสุด เติมน้ำมันให้เต็ม แล้วจอดติดเครื่อง เดินรอบเบา ไม่ต้องเปิดแอร์ ไม่ต้องวิ่ง ทิ้งไว้ 5 ชม. ดับเครื่อง เติมน้ำมันให้เต็มอีกครั้ง ถ้าได้ 7 ลิตรเต็มเหมือนเดิม ก็หมายถึง 1/3 ที่อาจเป็นไปได้.... แค่นึกตามก็ยังนึกไม่ออกว่าจะเป็นไปได้ยังไงเลยครับ

---------------------------------------

-"ทาสรัก" เชื่อว่ามีทุกประเทศและทุกภาษา บรรยายเป็นเพลง,บทกวี,นิยามฯ ....มีคนค้นใช้/คิดใหม่ตลอดเวลา เป็นทั้งคุณและโทษที่เข้าใจกัน ...

-"ทาสรถ"...ก่อตัวในไทยนานแล้ว หากวันหนึ่งกลายเป็นบทเพลง,บทกวี,นิยาม หมายถึงคนไทย...อาจต้องเสียใจกันตลอดไปได้ครับ....

-"มหากาพย์"รถยนต์ เกิดขึ้นแล้วในไทย ...แนวทางแบบนี้ อาจชี้นำเป็นเส้นทางไปอีกไกลได้.. และหากในที่สุดบาน,เพี้ยนหรือเข้าใจผิดกลายเป็น "หามากราบ" จะแก้ไขไล่ลบความเห็น จะยากเหมือนไล่เก็บปุยนุ่นที่ฟุ้งไปในอากาศแล้วครับ....

-------------------------------------

" ไกลจากที่นี่มาก......
กันดารและดงดิบ จนไม่มีพริกและกระเทียมในอาหาร.......
ผู้คนที่นั่นดูไม่เสียใจ ที่ไม่มีสิ่งนั้นกิน เพราะไม่รู้จัก....
ตราบจนกระทั่ง เมื่อเราให้เขากิน แล้วจากมา......"

-อาหาร คือปัจจัยที่หนึ่ง รถยนต์ก็มีการยอมรับ(แล้ว)ว่าเป็นปัจจัยที่ห้า

-เครื่องเทศ การปรุงแต่งอาหาร เป็นวัฒนธรรม ที่แสดงถึงความเจริญและการคิดค้นสิ่งที่ดี เป็นสากล

-การแต่งรถ ไม่ใช่วัฒนธรรม และเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับทุกคน เป็นกิจกรรมของคนกลุ่มน้อย ที่รวมทั้งที่มีความพร้อม และไม่พร้อมฟุ่มเฟือย ผลงานเป็นศิลปคุณค่าน้อย ที่จะไม่เป็นแบบอย่างต่อประวัติศาสตร์ใดๆได้ ....เป็นเพียงเสรีภาพที่ผู้เสพและชวนเสพ ควรกระทำในวงจำกัด

-วรรณกรรม ที่กล่าวเรียกเป็น "มหากาพย์" เป็นการให้ผลจากผู้อ่านกำหนด จึงเป็นระดับที่ทั่วไปยอมรับ และเป็นลิขสิทธิ์ไปในตัว หมายถึงเป็นแบบอย่างที่กำหนดทั้งลักษณะและเจ้าของผลงาน...

-มหากาพย์แบบคนเขียน แต่งตั้งหรือยกระดับเอง ซึ่งเป็นการจำเรื่องมาเล่า/เรียบเรียง สามารถเพี้ยนได้จากการเล่าต่อ ไม่เป็นสิทธิใดๆและเมื่อมี 1 ก็มี 2 หรือต่อๆไปได้หรือเป็นโหลได้ นับเป็นงานปลอมหรือแบบอย่างเสีย รูปแบบหนึ่ง ซึ่งเกิดมากในป.ไทย...ในภาพรวมคือเป็นสังคมที่เชื่อถือแน่นอนไม่ได้ เพราะเกิดหรือตั้งกันเองตามใจชอบครับ...





 แก้ไขเมื่อ : 13/12/2556 22:17:54

 แก้ไขเมื่อ : 17/12/2556 7:36:32

 แก้ไขเมื่อ : 21/12/2556 9:36:54

 แก้ไขเมื่อ : 2/1/2557 4:35:43

 แก้ไขเมื่อ : 7/1/2557 10:17:30

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       -มีช่วงเวลาอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งผู้ค้ารถระดับดีเล่อร์ ให้สัมภาษณ์ถึงการแข่งขันขายรถใหม่ในไทยขณะนั้นว่ารุนแรงขนาด เอา"MARGIN" เฉือนมาลดเพื่อจูงใจลูกค้าให้ซื้อ จำปีพ.ศ. ไม่ได้ แต่เป็นหลังจากที่เปิดให้รถ CBU เข้ามาขายในประเทศแล้ว หลังจากที่ห้ามมานาน ตั้งแต่ราวๆก่อนปีค.ศ.1980 เป็นต้นมา...

-ช่วงเวลาที่ผู้ซื้อได้เปรียบ สั้นหรือไม่นาน อำนาจก็กลับไปเป็นของผู้ผลิตขายเหมือนเดิม ....สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นแผนของภาครัฐที่มีผลดีต่อผู้บริโภค....อยากบันทึกคำว่า"เสียดาย"ในความเป็นต่อนั้นครับ...

-คนไทยเรียนรู้เรื่องที่เป็นรสนิยมทุกอย่าง และพยายามสร้างปุ่มปมจากการเลียนแบบเรื่องนั้นๆ เติมให้เป็นของตนเอง ทุกเรื่องจนแม้กระทั่งเรื่องอินเดียนแดง....ก็เคยเห็นสปอร์ตผุดขึ้นมาเสนอ "อินเดียนไทย"...แต่ไม่รู้หายไปไหนแล้ว ถือเป็นโชคดีมากที่ไม่มีวิบัตินั้นครับ...

-หากท่านใดมีครอบครัว และห่วงใยต่อลูกหลานในฐานะไทย คงต้องเริ่มมองหาวิธีป้องกันภัยที่มากับความเจริญ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะใดๆล้วนมาเป็นคู่ คือมีทั้งคุณและโทษ แต่ในมุมมองหนึ่งผมคิดเองว่า คนไทยเสพความเจริญแบบไม่มีหลักหรือผิดแบบแผน ได้รับโทษมากว่าคุณครับ....

 แก้ไขเมื่อ : 18/12/2556 18:36:08

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
      
-อยากขอให้คนไทยใช้เงินที่หามาเองซื้อรถมาใช้แบบ"ผู้บริโภค" ฉลาด-อิสระในการเลือกซื้อ เพื่อประโยชน์ต่อครอบครัวตนเอง อย่าก้าวล้ำเข้าไปในความงมงาย เพราะไทยเราจะถูกตัดสินด้วยสายตาของคนนอกได้...

-อยากให้ช่างเลือก และรู้จักคุณค่าทั้งสิ่งของและเงิน และคิดว่าเสมอว่า ถูกจับตาอยู่ เพื่อเป็นแบบอย่าง ต่อคนไทยรุ่นต่อไป หรือเพื่อเป็นบทสรุปคุณภาพคนไทย จากคนต่างประเทศ...

-ลองดูคลิปนี้(ขอให้ดูจนจบ) หากท่านดูแล้วมีคำตัดสินบ้าง สู่บ้าน สู่ตำบล สู่อำเภอ สู่ทั่วทั้งประเทศ หรืออาจคุยผลนี้ไปได้ทั่วเท่าที่เป็นภาษาเดียวกัน "นักมวยไทย สมเป็นนักกีฬา,คุณภาพดี" หมายถึงคงต้องยอมรับว่าคนดู คือคนให้คะแนนตัวจริงครับ...

-ดังนั้นควรระวัง อย่าให้คนต่างประเทศตัดสินความเป็นสาวกรถยนต์ ของไทยด้วยเช่นกันครับ

http://www.youtube.com/watch?v=1mS1w_cBoBs

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       ช่วงเวลาเทศกาลปีใหม่ 2557 ที่เพิ่งผ่านไป ผมได้ยิน report 2 เรื่องอยากนำมาให้ชวนคิดตามด้วยครับ

1. กรุงเทพฯ - เพชรบูรณ์ เดินทางขับรถส่วนตัวใช้เวลา 16 ชม.

2. รถ ECO Car บรรทุกครอบครัวเล็กๆ พ่อแม่ลูก 4 คน จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ไปเพื่อเที่ยว ไม่ได้แจ้งผลการขับทางไกล บอกแต่เพียงไปถึงได้ และพอไปถึงเชียงใหม่ ก็เหมาะสมกับเมืองรถมากเหมือนกรุงเทพฯ หรือได้ยินว่า รถECO วิ่งข้ามจังหวัดได้ครับ

-ปัจจุบัน ผมขับรถช้ากว่าเดิม ด้วยหลายเหตุผล.... อายุ / ราคาน้ำมัน / ใบสั่งความเร็ว / กลัวความรับผิดชอบ ...ไม่ทราบสมาชิกท่านอื่นเจอแวดล้อมคล้ายผมหรือไม่ การขับเร็วในแต่ก่อน ต้องมีความระวังสูง และเหตุผลต่อคนอื่นด้วยว่าทำไมต้องรีบ หรือทำไมต้องแสดงออกบนทางหลวง.....ฯ

-ความหมายคือหลายสิ่งอย่างของคนไทยเปลี่ยนไปมาก รวมถึงความเชื่อที่มีเหตุผลน้อย และการคิดดีต่อผู้อื่น ผลคงมาจากความทัดเทียมมากขึ้น หรือระยะเลื่อมล้ำน้อยลง มีผลเสียที่ปริมาณและผลข้างเคียงบางอย่างยังควบคุมไม่ได้ แต่ผมคิดเองว่าไทยกำลังมีโอกาสก้าวหน้า เพราะการศึกษา และโลกอินเตอร์เน็ต ทำให้รู้สถานะเปรียบเทียบ การแก้ไขคุณภาพคนไทย คือกำจัดการยึดติด และลดความเชื่อมั่นตนเองเกินไป ของคนรุ่นก่อน/รุ่นใหม่ ถ้าแชร์หรือยอมมองกันบ่อยๆ การปรับลด จะเกิดขึ้นเองครับ

-ขอให้มีผลต่อคนรุ่นถัดไปอีก คือถ้าตอนนี้เข้าใจว่าเคยเสียเปรียบต่างชาติอยู่มาก หากรุ่นต่อไปฉลาดจนรู้ทัน ก็ควรจะเสียเปรียบน้อยลง

-แต่หากยังเพิ่มอัตราเสียเปรียบมากขึ้นกว่าปัจจุบันนี้ ก็คงต้องโทษคน ณ เวลาปัจจุบันนี้ ที่นำหลงทางไปแบบนั้นครับ

-------------------------------------------

-รูปแนบคต.นี้ ...." จะเรียกว่า เสียสละ หรือเสียรู้...ดีนะ "

 แก้ไขเมื่อ : 6/1/2557 19:08:00

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       รถ Ecocar ขับขึ้นดอยก้ได้ ขับข้ามจังหวัดก็ได้ ซื้อมาแล้วก็ใช้ไปเถอะ มันก็ใช้ได้
แต่รถ Ecocar ชื่อมันก็บอกมาแล้วว่าเป็นรถแนวประหยัด เน้นการขับในเมือง
แต่ไม่วายมีคนบอกว่ารถ Ecocar แท้จริงแล้วมัน.....เป็นภาษาอังกฤษอะไรซักอย่างที่ไม่ใช่นิยามนี้ แล้วไปอ้างข้อมูลรถเล็กในต่างประเทศ

แต่ที่จริงก็รู้กันอยู่ว่ารถ Ecocar เฉพาะบ้านเรา เป็นรถออกแบบมาแนวประหยัด ลดต้นทุน เน้นขับในเมือง
วัสดุต่าง ๆ ลดต้นทุนลงไป ใช้อะไหล่จากจีน เวียดนามมากขึ้น ให้ดูสวยงามราคาถูก คุณภาพก็ตามนั้น เหล็กกันโคลงหน้าหลังบางยี่ห้อบ้านเราไม่ได้ใส่มาให้เลย บางยี่ห้อใส่แต่ด้านหน้า รถเล็กแบบนี้ชนทีแทบขาด 2 ท่อน น้ำหนักรถแค่ 1000 kg + - นิดหน่อย เบามากเอามือเข็ญมือเดียวยังไหวเลย เพราะเขาเอาไว้วิ่งในเมืองเป็นหลักความเร็วไม่สูง เกียร์ cvt ออกมาเน้นราคารถถูกสุดท้ายตั้งราคาแพงเท่ากับ 1.5 วีออส


แต่รถเล็กในต่างประเทศ มันไม่ใช่นิยามการออกแบบรถแบบนี้ รถมันเล็กก็จริงแต่มีความทนทานสูง วิ่งดีกว่า เกาะถนนบึกบึนกว่า ความหนาของเหล็กต่างกัน Option ต่างกันเพียบ อย่างเช่น Nissan March ผลิตในโรงงานบ้านเราที่ถนนบางนาตราด กม. 22 ตัวส่งออกไปญี่ปุ่น ม่านถุงลมนิรภัยรอบคัน แล้วตัวรถยังเป็นรุ่น 4wd อีกต่างหาก บ้านเรารถเก๋งที่เป็น 4wd แทบไม่มีแล้ว เพราะอย่าหวังเลยว่าลูกค้าจะซื้อหรือจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เพื่อซื้อ Option เพิ่ม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       -ได้รู้เรื่องเบื้องหลังของรถ ECO cars บ้างก็เป็นประโยชน์ดีครับ จะได้ไม่ต้องไว้ใจมาก...ความแรงของเครื่องสมัยใหม่+ฐานล้อกว้าง จะทำให้เท้าหนักจนเกินขอบเขตรถที่ผลิตแบบบอบบาง และเหล็กกันโคลง เป็นชิ้นส่วนสำคัญของช่วงล่าง ต้องตรวจดูกันก่อนซื้อแล้ว.....ขอบคุณมากครับ...

-ได้ข้อมูลเพิ่มว่าครอบครัวที่ไปเที่ยวเหนือ ด้วยรถ ECO car กลับมาทำงานแล้ว คือปลอดภัย เห็นบอกย่อๆว่าไปทั่ว..ถึงแม่ฮ่องสอนด้วย และ(มันส์)หรือแฮปปี้ ผมมองแต่ว่า 1200 ซีซี จะให้ผลได้อย่างไร ....ผมเคยไปแม่ฮ่องสอนด้วยรถเก๋ง 2300ซีซี บรรทุกคน+สัมภาระเต็มคัน จึงมีผลเทียบเคียงในใจระดับลางๆครับ

-ผมใช้ที่จอดรถรวมกับหลายๆท่าน วันวาน เห็นยาริสใหม่จอดอยู่ข้างแจ๊สในลานจอด มองขนาดไม่แตกต่างกัน แจ๊สอยู้ที่ระดับ City cars มองเห็นวิ่งมาหลายปีแล้ว ยาริสใหม่ลดกำลังลง เหลือ 1200 CC ในระดับ ECO car ผมคิดว่าถ้าความแข็งแรงพอหรือเท่า City cars แรงน้อยลงก็น่าจะควบคุมง่ายขึ้น..

-เหตุผลมาจากปี 2556 ที่ผ่านมาผมขับ VIOS ไปเที่ยวนอกเมืองหลายครั้ง ผมว่า 1500 ซีซี ยังแรงเกินช่วงล่าง คิดว่าวิ่งเกิน 150 กม./ชม.แน่นอน ต้องระวัง เพราะรถรุ่นใหม่ๆจะสูงขึ้นกว่ารถรุ่นเก่า เวลาเจอลมแรงเช่นบนทางยกระดับ โดยสวนทางกับแวดล้อม คือไม่มีต้นไม้ให้สังเกตว่ามีลม ,ความเงียบ(ขึ้น)ของห้องโดยสาร และพวงมาลัยที่ทดไว้เหมาะกับการขับในเมืองหรือไว จึงทำให้ต้องเตือนให้ระวังเวลาใช้ความเร็วเกิน 120 กม./ชม

-กว่า 35 ปีที่แล้ว รถยนต์สแตนดาร์ดขนาด 1300 ซีซี ของญี่ปุน ไม่มีรุ่นใดวิ่งถึง 150 กม./ชม มีแต่รถยุโรปที่ทำได้ในช่วงเวลานั้น เช่น Alfasud ....

-ตอนนี้ความเร็วเป็นเรื่องขนมไปหมดแล้ว แต่ไม่พูดถึงช่วงล่าง จึงเป็นข้อคิดว่าจะเป็นหนูตะเภาลองยาหรือไม่ครับ...

-ในกาลก่อนคงได้ยินคำบอกเล่าว่า รถยุโรปเกาะถนนดีกว่ารถญี่ปุ่น เป็นเรื่องจริงที่มาสรุปกันที่ผู้ผลิต ไม่ได้ชี้ว่าระบบเป็นความหมาย...

-ฐานล้อกว้างกว่า / ระบบรองรับน้ำหนักส่วนหลังแบบสปริงที่มีเหล็กกันโคลง ของรถุยุโรปคือเหตุผลเรื่องนุ่มหนึบกว่ารถญี่ปุ่นซึ่งใช้แหนบ(หลัง)

-แบบแหนบนั้นหนึบได้ ก็ต้องแข็ง ถ้าจะให้นุ่มก็ขับ(ย้วย) แต่ที่นิยมในรถแรลลี่สมัยก่อนเพราะยกความสูงง่าย+เลือกหนึบไม่เกี่ยงกระด้างในภาวะแข่งขัน และต้นทุนถูกกว่า

-มีเหตุผลที่ระบบรองรับน้ำหนักต่างแบบ ซึ่งให้คุณต่างภาวะใช้งาน อธิบายจะยาวมาก ปัจจุบันในบททดสอบรถของ(ฝรั่ง)ในสนามมาตราฐาน รถโรเวอร์มินิ ตัวใหญ่ ยังได้ผลแฮนด์ลิ่งต่ำกว่า ฮอนด้า ซีวิค(Type R) ในช่วงล่างหลังระบบเดียวกัน หมายถึงจะดีกว่ากันในแบบเดียวกัน ยังต้องส่วนประกอบอีกหลายอย่างเพื่อได้ผลที่ดีกว่า เป็นการค้นคว้าระดับวิศวกร/วิศวกร

-บ้านเราเก่งได้ง่ายกว่านั้นมากครับ............


-แผนใหม่...ของเทศกาลปีใหม่อย่างหนึ่งคือนิยาม " ให้เหล้า = แช่ง " .....

- สำหรับผม....ใครบอก" แหนบนุ่ม-หนึบ = แช่ง " ครับ ( คนละความหมายกับนุ่มกว่า/หนึบกว่า เพราะหมายถึงคุณภาพของที่ต่างเกรดกันในระบบเดียวกัน)

--------------------------------------------

-รูปแนบคต.นี้ ...

-ซ้าย โรเวอร์ 2200 ซีซี ปี1996....ขวา วีออส 1500 ซีซี ปี 2012

-เวลาได้เปลี่ยนขนาดและความสูง เพื่อสะดวกสบายขึ้น ส่วนข้อจำกัดหรือเงื่อนไขก็มีด้วย ควรทำความเข้าใจในระดับหรือหมวดหมู่รถเพื่อใช้อย่างมีขอบเขต....

-กฏหมายกำหนดความเร็วบนทางหลวงไว้ City cars ที่ฝีเท้าจัด เป็นข้อกำหนดใช้เพื่อความคล่องตัวในเมือง ช่วงล่างหรือตัวถังบอบบาง จึงยังเป็นข้ออ้างหรือเลี่ยงได้ ของผู้ผลิต หรือหมายถึงผู้ใช้งานต้องรับผิดชอบเองครับ...

-

 แก้ไขเมื่อ : 7/1/2557 9:04:18

 แก้ไขเมื่อ : 12/1/2557 8:54:55

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       --ขอแจ้งเรื่องเพิ่มนิด คือไม่อยากให้ท่านที่ไม่ได้ฟังบทสัมภาษณ์นักวิ่งในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ไปตีความหมายเองากการบอกเล่าของผมครับ...

-ในการแข่งวิ่ง 100 ม. ในครั้งนั้น การตุกติกนิดหน่อย คือมีการนัดหมายให้นักวิ่งไทยรู้ตัวก่อนว่า การสตาร์ทครั้งแรก จะฟาวล์...ขอให้นักวิ่งไทยพร้อมในครั้งที่ 2. เป็นเรื่องตุกติกนิดหน่อยแต่ไม่ได้โกง สิ่งที่เล่าสู่กันฟังนี้มาจากปากนักวิ่งเอง ถ้ามีส่วนอื่นที่มากกว่ารายการสตาร์ท ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะสถิติไม่ถูกบันทึก ก็เป็นจุดสังเกตอย่างหนึ่ง ....และ 10.1วิ/100ม. คือครั้งนั้นครั้งเดียวครับ. แต่ในส่วนตัวผมเชื่อว่า10.1จริง เพราะตอนนั้นนักวิ่งไทยท่านนี้ร่างกายสมบูรณหรือสดตามวัย...

-แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปินส์ ในตอนที่ฮิตที่สุดหรือข้ามรุ่นขึ้นไปชนะ นักวิจารณ์มวยให้ความหมายว่า "ปาเกียว แกร่ง(เหลือเกิน)" ไม่ได้วิจารณ์ว่าเชิงชกดี หรือชกเก่ง ผมจึงเข้าใจว่าคุณสมบัติของนักกีฬาระดับแนวหน้า เหลือส่วนที่เหนือกันได้คือร่างกายที่พร้อมกว่ากันนั่นเองครับ

-โปรโมเตอร์มวยดัง ให้สัมภาษณ์ว่าตอนพาแชมป์โลกชาวไทยไปชกป้องกันตำแหน่ง แจ้งว่าได้เห็นผู้ท้าชิงซ้อม เห็นเม็ดเหงื่อ แล้วกลับมาบอกคณะว่า คงต้องทิ้งเข็มขัดแชมป์ไว้ที่นี่ ....และก็เป็นตามที่คาดครับ....

-ขอโทษด้วยครับที่นอกเรื่อง ผมเพียงพยายามสร้างข้อคิดตามบ้าง เพราะชีวิตคนเรา ก็เหมือนผัดกระเพรา คือซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้นถ้าใครมีความรู้(จัก)สิ่งต้องผ่านเป็นพื้นฐาน ความเสี่ยงล้มเหลวก็จะลดลงบ้างครับ....

-ที่สุดอีกครั้ง ก็ขอออกความเห็นว่า วีครอส สถิติ 18กม./ลิตร ใกล้เคียงเป็นไปได้ จึงน่าสนใจ เพราะรถเป็นเครื่องมือ ต้องมีข้อมูลจริงประดับตัว ถ้ามีข้อลือ คงไม่ใช่เครื่องมือ กลายเป็นพระเครื่องหรือของวิเศษ ก็คงเปลี่ยนหมวดสนทนา หรือไปวางขายแถวท่าพระจันทร์แทนแล้วกัน

-แต่ถ้านึกถึงว่าต้องพัวพันกับศูนย์บริการรถของค่ายนั้นหลังการซื้อ ก็ต้องมาคิดต่อว่าจะเสี่ยงหรือไม่ เช่นร้านทำไส้กรอก ที่เป็นของมาเฟีย นั้นน่าห่วงเหลือเกิน ว่าลูกค้าอาจต้องกินมนุษย์แปรรูปเป็นไส้กรอกหรือไม่ครับ

-ดังนั้นผู้ค้ารถยนต์ ต้องทำให้ผู้บริโภคเชื่อถือ หรือทำตนเองดีๆ ถ้าไม่ดีก็ต้องช่วยกันคัดทิ้ง ให้ไปขายเต้าฮวยแทน เหมาะสมที่สุดครับ

-ที่"ต้อง" เพราะการค้ารถยนต์เป็นการค้าระดับใหญ่ ทำเงินมหาศาล ก็ต้องมีเหตุผลที่ได้แตะวงเงินสูงระดับนั้น และเป็นสิทธิ์ที่คนซื้อ จะถี่ถ้วนในการซื้อ ดังนั้นคนไทยควรรู้ตัวก่อนว่าเงินของไทยเรามีความหมาย ควรจ่ายอย่างมีเหตุผลครับ....

-โลกใบนี้ ยังไม่สามารถ เจริญอย่างยุติธรรมได้ภายในวันเดียว หลายสิ่งที่เข้าใจแล้ว ว่าดีหรือตรงกันข้าม ....ก็มีสิทธิเลือกหลีกเลี่ยงเท่านั้น ไปลงโทษตามใจนึกไม่ได้ แต่แบบไทยๆก็พอมีแบบอย่าง คือใครดีก็อวยพรให้ "รวย" เพื่อให้เด่นดัง กลับมาทำประโยชน์ให้สังคมส่วนรวมได้ ด้วยความดีของเขา แต่ใครไม่ดี ก็ขอให้สิ้นหนทางไปอยู่เงียบๆแล้วกัน....ดีไหมครับ

----------------------------------------

-อีซุซุ ....คือความหมายแห่งชีวิต(ข้าพเจ้า,สตรอง วงษ์,สมศักดิ์ อู่,สมเจตน์ สมัน,มานพ หมื่น,ฯ )

-ไม่มีอีซุซุ.....ชีวิตก็ไร้ความหมาย...

-ข้าพเจ้าพร้อมแล้วที่จะ(ผ่อน,โกง)......เพื่อติดตามอีซุซุตลอดไป

-สิ่งที่ทำ...ไม่ใช่ความโง่....

-เพราะ"คนโง่"นั้น......(ผ่อน,โกง)ไม่เป็น.

--------------------------------

-ขอประนามให้เป็นบทเรียน ไว้สอนใจคนไทยรุ่นต่อไป อย่าได้นำไปเป็นแบบอย่างอีก......



 แก้ไขเมื่อ : 17/2/2557 9:51:55

แสดงความคิดเห็นย่อย