WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ก้าวตามอย่างเร็ว จนช้าเกินไป....
chotikan14
จาก Tik
IP:49.48.220.219

จันทร์ที่ , 17/2/2557
เวลา : 10:29

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      
" น้ำชาร้อนๆ...ในฤดูหนาว
หรือน้ำชาปนน้ำแข็ง...ในฤดูร้อน......ช่างมีค่าเหมาะสมต่อผู้กระหายอย่างยิ่ง

แต่หากว่า...ท่านต้องดื่มน้ำชาเย็นเยือก...ในความหนาว
หรือดื่มน้ำชาร้อนๆ....ในความอบอ้าว

ขอทายว่า....ท่านถูกบังคับ....
หรือไม่ก็...เป็นผู้เลียนแบบ...ที่ไม่เข้าใจ "

---------------------------------

-เจตนา.... อยากให้รู้คุณค่าของเงิน ที่พึ่งจะเริ่ม "หาไม่ยาก" ...

-โดยแต่ก่อน "เงินหายาก" ก็ใช้ทิ้งขว้าง คือได้ประโยชน์น้อย และไม่ก้าวหน้า...

-ขอให้ฝันร้าย หรือเส้นทางติดตามที่มีด ...หมดไปด้วยความเข้าใจและทักษะตั้งแต่นี้ไปครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  3  

คำตอบที่ 1
      
-ชื่อหรูไปทางวิศวกรรม เต็มขั้น ..... คิดตามกลไกที่เห็น ก็คิดไม่ออกว่าจะได้ประโยชน์อะไร..... และที่สำคัญ สิ่งนี้ไม่เน่าไม่บูด จึงถ่ายทอดเวียนเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ ....พอเข้าใจก็ ถอดขายต่อ เวียนไปเป็นความลับที่อื่นต่อไป และต่อไป ๆ......







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.220.219 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 12:20  IP : 49.48.220.219   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69229

คำตอบที่ 2
      
-กันเซ เป็นศัพธ์ที่ใช้เรียกแทนชื่อทางวิศวกรรม เหล็กซึ่งมีหน้าที่รั้งระบบช่วงล่างนี้ จะทำงานในรัศมีแคบๆ บังคับช่วงยุบ/ยืดของคานหลัง ให้ขึ้นลงในแนวดิ่งเป็นเส้นเกือบตรง เหล็กที่ทำหน้าที่นี้ จึงยุบยืดไม่ได้คือหลักทำงาน ..ดูกลไกตามรูป จึงไม่เข้าใจเหมือนเดิมว่าทำหน้าที่อะไร และไม่เข้าใจอย่างยิ่งว่าทำไมจึงเรียกกันเซ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.220.219 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 12:37  IP : 49.48.220.219   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69230

คำตอบที่ 3
      
-รถผมเองตอนเพิ่งซื้อมือสองมา กรอบสีแดงคือสคูปของโรงงานหรือเดิมของรถ ศรสีเขียวเป็นประดับยนต์ ที่เจ้าของคนก่อนใส่เข้าไป ด้วยความรักรถ.....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.220.219 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 12:51  IP : 49.48.220.219   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69231

คำตอบที่ 4
      
-เมื่อถอดออก ตรงวงด่างเหลืองเป็นรอยกาวสองหน้าที่ขัดไม่ออก....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.220.219 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 12:55  IP : 49.48.220.219   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69232

คำตอบที่ 5
      
กันเซ.........เหมาะใช้บนทางดำ.....เวลาทิ้งโค้ง...จะช่วยรั้งให้ไม่เซไปมาก โดดคอสะพาน ก็ช่วยได้

โช้คอัพ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็ช่วยได้ ผลดี.....บนทางดำมีมากกว่าผลเสีย

ทางออฟโรด ในป่า....ด้อยคุณค่าทันที...เพราะล้อหลังไม่สามารถยืดลงติดดินได้

ยิ่ง..ไม่มีอาวุธ ไปไม่เป็นเลย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

400 จาก R.400 49.48.0.45 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 13:58  IP : 49.48.0.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69235

คำตอบที่ 6
       ต่อครับ รอชมครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kc52 จาก ผอ. 118.173.79.0 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 14:16  IP : 118.173.79.0   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69238

คำตอบที่ 7
       รอชมด้วยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

boy toy จาก boy toy 113.53.243.210 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 14:47  IP : 113.53.243.210   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69239

คำตอบที่ 8
       -รูปแนบคต.นี้ ..บน...ศรแดงชี้กันเซของโรงงานรถยนต์ เป็นท่อนเหล็กที่ยืดหดไม่ได้ เพราะเป็นกลไกบังคับระยะ ทำศร 2 อันหมายถึงชี้ระดับตามมาตราฐานคือเอียงนิดเดียวตามรูป โดยออกแบบเอื้อไปในการยุบมากกว่ายืด... เพราะการยุบเเป็นอาการที่เป็น มากกว่ายืด..../ ศรสีเขียวชี้เหล็กกันโคลง เป็นกลไกในระบบเช่นเดียวกัน หน้าที่คือต่อต้านการเอียง กรอยสีแดงชี้จุดยึดหรือจับ ซึ่งให้ผลหรือกลไกจะเริ่มทำงานเมื่อสองจุดนี้มีระดับต่างกัน ในรูปบนและรูปล่างจะใช้หลักการเดียวกันคือให้จุดจับ ห่างกันมากที่สุด เพื่อผลที่ดีกว่า

-ขอให้สังเกต ความโตของเหล็กกันโคลงแบบสแตนดาร์รถแบบตรวจการณ์ บนคิดว่าเป็น (VX80) ส่วนล่าง Discovery น้ำหนักทั้งคันราวๆ 2.0-2.5 ตัน

 แก้ไขเมื่อ : 18/2/2557 5:24:16





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.220.219 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 19:49  IP : 49.48.220.219   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69249

คำตอบที่ 9
       -รูปแนบคต.นี้ ...บนคือ เหล็กกันโคลงหลังสำเร็จรูปสำหรับรถกระบะ ระยะจับคานตามรูป ขอให้สังเกตความโตของเหล็ก(สปริง)กันโคลง เพื่อเพียบกับสแตนดาร์ดรถ 2.0-2.5 ตัน รถกระบะมีน้ำหนักตัวเปล่า-บรรทุก ราวๆ 1.5-3.0 ตัน หมายถึงเบาหรือหนักกว่า ค่าความเป็นสปริงหรือขนาดที่กำหนดจะไม่สามารถครอบคลุมน้ำหนักจร ทั้งระยะได้ หมายถึงอาจได้ประโยชน์จากหลักการของกลไกนี้ ตามน้ำหนักที่กำหนดให้สัมพันธ์กัน ดังนั้นแบบรถที่มีน้ำหนักแปรผันมาก เหล็กกันโคลง ก็จะได้ผลดีไม่มากเท่ารถที่ไม่เปลี่ยนน้ำหนักมาก เช่น 2.0-2.5 ตัน

-ล่าง ....เคยเป็นรถผมเอง ติดเหล็กกันโคลงสำเร็จรูป เวลาติดตั้งจริง ติดขัดหลายอย่าง ได้จุดจับคือกรอบสีแดง L/R ซึ่งใกล้กันหรือระยะแคบมาก

-ความหมายคือ ขนาดเหล็กซึ่งเล็ก / ระยะจับที่ให้ผลระดับที่แตกต่างกันน้อยเมื่อคานเอียงเพราะทางโค้ง ทำให้ ได้ผลดี(จริง) ไม่เต็มที่ หรืออาจบอกได้ว่า ไม่ได้ผลก็ได้

-แต่ข้อเสียคือเสียงดัง เมื่อกลไกหรือลูกยางเริ่มหมดสภาพ ....เป็นระบบที่ได้ผลทางใจมากกว่า แต่มักจะลืมข้อเสีย ซึ่งหมายถึงวิสัยการใช้แบบเรียนรู้ ได้ขาดหายไปด้วยครับ

-ยกเรื่องเหล็กกันโคลง มาเพื่ออ้างหน้าที่หรือเป็นตัวช่วยการขับรถทางโค้ง ชุดสำเร็จรูปที่ขาย ใช้หลักมาตราฐาน แต่วัสดุ และการติดตั้งไม่เข้าหลักการมาตราฐาน ก็ได้ผลน้อย(มาก) หมายถึงได้ผลไม่เท่าชื่อของกลไกครับ.....

 แก้ไขเมื่อ : 18/2/2557 5:44:46





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.220.219 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 20:04  IP : 49.48.220.219   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69250

คำตอบที่ 10
       กระทู้ปริศนาธรรม มีประโยชน์ มาอีกแล้วครับต้องตามอ่าน อ่่านแล้วต้องคิดตามหลักความจริง อย่าให้คนขายหลอก และอย่าหลอกตัวเราถ้าเราติดอยู่ ทุกอย่างที่คุณ TIK ลงไว้มีอยู่หมดในรถพี่ชายผม และผมเป็นคนถอดมันออกกับมือทุกชิ้นครับ เพราะไร้ค่าไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

liquidman จาก liquidman 125.24.52.247 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 20:19  IP : 125.24.52.247   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69251

คำตอบที่ 11
       ขอเก็บข้อมูลครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Leo mobile จาก leo 101.109.30.67 จันทร์, 17/2/2557 เวลา : 20:41  IP : 101.109.30.67   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69252

คำตอบที่ 12
      
-รูปแนบคต.นี้ เป็นรถของท่านอื่น ผ่านเวลาไปหลายปีแล้ว จึงขอหยิบมาเป็นตัวอย่างหรีอแนวทางให้ท่านอื่น ซึ่งเป็นไทยด้วยกัน ดูเป็นข้อสังเกต เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเส้นทางใหม่ๆบ้างครับ

-บน....รถวางคานเองโดยยกชุดหน้าของ LJ78 มาวางลงในคาเมโอ ศรสีแดงชี้เหล็กกันเซ ศรสีเขียวชี้เหล็ก(ยัน)ฐานกันเซ เป็นชุดของโรงงาน ขอให้นึกตามด้วยครับ......ระดับกันเซตามศรแดงชี้ และฐานยึดกันเซกับแชสซีหลัก ไม่สูง แต่โรงงานก็เสริมเหล็กยันรับแรง กันฐานฉีก เป็นการคิดแบบวิศวกร เพราะในส่วนหน้า มีเหล็กกลไกอีกหลายชิ้นในระบบบังคับเลี้ยว การเติมเหล็กเสริมดังกล่าวเข้าไป หมายถึงใช้พื้นที่ซึ่งคับแคบอยู่แล้ว เป็นข้อสังเกตความสำคัญครับ....รถคันในรูปใส่ล้อหน้าได้ 35 นิ้ว...

-ล่าง รถวางคานเองอีกคันหนึ่ง ด้านหลัง ศรสีแดงชี้เหล็กกันเซ ศรสีเขียวชี้เหล็ก(ยัน)ฐานกันเซ ใช้หลักการเดียวกันกับรูปบน แต่ฐานห้อยตัวลงมามากกว่า เพื่อรักษาระดับเหล็กกันเซ..... นี่เป็นจุดอ่อนของช่วงล่างแบบสปริงด้านท้ายหรือหลัง ที่ต้องการยกสูง(มาก) หรือฐานรับเหล็กกันเซคือปัญหาใหญ่ข้อหนึ่ง กินพื้นที่มาก มองไม่สวย และยังเสี่ยงผลเรื่องแข็งแรงพอหรือไม่.....ทั้งหมดเพราะระดับกันเซ คือความสำคัญอย่างยิ่งครับ

-ฐานกันเซที่ยาวห้อยตัวลงมา เปรียบได้เหมือนด้ามค้อน หมายถึงเมื่อคานหลังกระดอนจากการกระแทกผิวถนนไม่เรียบ แรงถีบที่ปลายกันเซด้านจับเพลา(คาน) จะกลายเป็นแรงงัดที่โคนฐานกันเซที่ยึดแชสซี อาจมากพอทำให้แบะหรือถ่างได้ ตามระยะด้วยหลักกลศาสตร์ เหมือนด้ามค้อนนั่นเองครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.220.219 อังคาร, 18/2/2557 เวลา : 09:11  IP : 49.48.220.219   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69255

คำตอบที่ 13
      
-รูปแนบคต.นี้ ต้องสังเกตเอง การอธิบายปัญหา จะล้ำเข้าไปในการละเมิด จึงต้องให้เจ้าของสารภาพเอง จึงถูกต้อง...

- ผมเพียงขอมีความเห็นว่า ช่วงล่างคานแข็งแบบคอยล์สปริงในด้านท้ายหรือหลัง ปัญหามากเกินไป ในงานปั้นสร้างเอง หลีกเลี่ยงดีกว่า... ด้านหน้าทำได้ เพราะมีข้อดีกว่าบางข้อ ที่เป็นปัญหาของแบบแหนบ เป็นเดิมพันอยู่ครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.220.219 อังคาร, 18/2/2557 เวลา : 09:32  IP : 49.48.220.219   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69256

คำตอบที่ 14
       -รูปแนบคต.นี้ เป็นของสมาชิกท่านอื่นลงไว้ในเวปนี้นานแล้ว ...ผมขอเติมลูกศรเพื่อชี้เรียกให้เข้าใจง่ายขึ้นดังนี้ครับ...

-ศรสีขาวชี้เส้นทะแยงที่สมมุติเป็นเหล็กกันเซ รูปบนด้านซ้าย จะเอียงมากว่ารูปบนด้านขวา...

-รูปด้านล่าง ซ้าย/ขวา แสดงสมมุติว่าช่วงล่างยุบตัวลง เท่ากันทั้งซ้ายขวา...ศรสีเขียวชี้ระยะยุบตั้งชื่อเป็น H

-ศรสีฟ้าชี้ระยะหนีศูนย์ซึ่งตั้งชื่อว่า X ซึ่งรูปล่างซ้าย/ขวา มีค่า H หรือยุบเท่ากัน แต่ได้ผล X หรือค่าหนีศูนย์...ไม่เท่ากัน

-เมื่อคิดตามจะพบความสำคัญของระดับเอียงของกันเซครับ

-หรือรถช่วงล่างหลังแบบคอยล์สปริงที่ยกสูง และไม่แก้ระดับฐานยึดกันเซ จะเอียงมากกว่าปกติ มีผลคือเวลาตกหลุมหรือยุบ รถจะเลื้อยได้ง่ายกว่าเดิม เพราะล้อจะถูกผลักให้หนีศูนย์มากกว่ากำหนดครับ

-ปัญหาอีกอย่างคือ เสียงดังของสปริง โดยสปริงที่เลือกใส่กันเองมักไม่มีลูกยางตามรุ่นสปริง หรือหาตรงรุ่นยาก ผมไม่สามารถระบุความจำเป็น/ถูกต้องได้.... รู้แต่ว่ารถโรงงานเช่น SURF/TERRANO ซึ่งใช้ช่วงล่างหลังแบบที่กล่าวนี้ จะมียางรองสปริงเป็นข้อกำหนดทุกคันครับ

 แก้ไขเมื่อ : 18/2/2557 22:17:30





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.220.219 อังคาร, 18/2/2557 เวลา : 21:29  IP : 49.48.220.219   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69274

คำตอบที่ 15
      
-ขอคั่นโฆษณาความคิดนิดหนึ่งครับ.....

-คนไทย(เรา) ให้ความรู้สึกและแสดงออกกับรถมาก ..จนเกินระดับสิ่งของใช้งาน ...จนสูญเสียสภาพความเป็นเครื่องมือ...กลายเป็น..ลูก(บ้าง) ..เวทีแสดงสติ๊กเกอร์หยาบคาย(บ้าง)หรือสารพัดที่อยากโชว์แล้ววิ่งหนี...เป็นโรงแรม...เป็นถังขยะ หรือคลังสมบัติ...ฯลฯ

--นำมาบอกว่า...ผลระยะยาวที่ผ่านมา ทำให้ไทย(เรา)เป็นตลาดรถมีอันดับของโลกนี้ เป็นขุมทรัพย์มหาศาล หรือหมายถึง นักขุดทอง(ต่างชาติ)ก็อยากมาขายรถในไทย เพราะมีลูกค้ารอซื้อจำนวนมาก

-การใช้รถแบบไม่ตรงจุดประสงค์ตามลักษณะ ตามที่กล่าว ทำให้ตลาดรถระดับโลกนี้(ไทย) กลับเต็มไปด้วยคนที่ไม่เข้าใจรถยนต์ เรื่องหรือระบบง่ายๆ ก็จำไม่เข้าหัว......สาเหตุจากการมองการใช้อย่างผิดแนวทาง และจำมาเป็นแบบหรือแนวทาง...เป็นเรื่องเศร้ามากที่หากต้องยอมรับสภาพว่า รสนิยมเป็นเลิศ แบบโง้(เกือบ)ที่สุด เช่นรู้ทันทีว่าต้องแต่งรถอย่างไร แต่ไม่รู้ว่าต้องเติมลมล้อกี่ปอนด์...เป็นต้นครับ

-เป็นความจริง...ที่อยากให้ยอมรับ เพื่อให้ทราบสภาพหรือผลที่ผ่านมา เพื่อให้การแก้ไข เกิดขึ้น ในต่อไปครับ

-"รากลึก...จนหาต้นตอไม่เจอแล้ว"

-ผมรู้จัก(ท่าน)หนึ่ง วงเล็บเพราะจริงๆเป็นผู้หญิง บอกผมว่าแฟนเพิ่งซื้อรถมือสองคันแรกในชีวิต เป็นรถกระบะโตโยต้า หาซื้อแบบเดิมๆสภาพดีๆ พอได้มาก็เริ่ม(ทำให้ไม่เดิมอีกต่อไป)ทันทีคือโหลดเตี้ยนิดหน่อยราวๆ 2 นิ้ว เปลี่ยนล้อแมกซ์+ยาง ให้ดูเต็มๆซุ้มล้อ และติดสติ๊กเกอร์(จ้างตัด) ตัวใหญ่เกือบเต็มกระจกหลัง "ลูกแม่ค้า" ...(เธอ)แจ้งว่า แฟนบอกเพื่อรำลึกว่าเป็นลูกคนจนมาก่อน ไว้เตือนตัวเอง.....

-ผมเข้าใจว่าเป็นเรื่องจำสืบทอดกันมา หรือเป็นปลาย ไม่ใช่ต้นเหตุ ...ไม่อยากทำให้เขาเสียใจ แต่ก็ทำไปอย่างคือบอกผู้หญิงว่า ทำไมไม่ติด"ลูกแม่ค้า" เป็นแผ่นเล็กหน่อย ติดในห้องโดยสารรถจะได้เห็นเอง/เตือนใจเองตามคิด....จุดประสงค์ผมไม่ได้อยู่ที่ไปเบรคความคิดคนแต่งรถ แต่อยากบอกให้แฟนคนแต่งรถนั้นว่า กำลังคบหาคนที่มีความคิดบิดเบี้ยว และนั่นคือลางอันตราย รูปแบบหนึ่งสำหรับผู้หญิงที่เชื่อคนง่าย เพราะผมรู้จักเขา แต่ไม่อาจไปชี้สรุปได้...บอกลางสังหรณ์เฉยๆ

-ผมเคยพูดคุยกับคนที่บอกว่า ใช้รถเป็นโรงแรม "ตื่นเต้นดี"...จำได้ว่า 2-3 ราย...และเคยเจอที่บอกว่าเขาติดสติ๊กเกอร์ "เจียวหวาน" ตัวใหญ่ที่ประตู เป็นรายแรก(บอกเพราะเขาว่าคนที่เห็นในต่อมาเป็นเลียนแบบเขา ทำนองนั้น)...ผมถามเขา(ในใจ)ว่า ต้องการบอกคนอื่นว่าของๆนายเหมือนเด็กเหรอ....แต่ไม่ได้พูดจริงหรอก แต่ขอบอกว่า ทำให้ไม่อยากคบด้วยอีกต่อไป.....

-คำถามคือ ไปจำใครมา ต้นแบบหรือแหล่งเพาะ/แพร่เชื้ออยู่ที่ไหน...."รากลึก จนหาต้นตอไม่เจอแล้ว"...

-การแก้ไขในต่อไป จึงควรคิดว่าจะทำอย่างไรเท่านั้นดีกว่าครับ.....

-วันวานได้เห็นคนพากษ์"มวยปล้ำ" ชื่อ"น้าติง" ทางทีวีช่องหนึ่ง(ช่องของจานดาวเทียม) ผมไม่ได้ดูการแสดงมวยปล้ำนานแล้ว จำดาราดังก็ไม่ได้ เพราะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่จำคนพากษ์ได้ เพราะเขาพากษ์ดี(มาก) ที่ดีคือเขาจะคอยบอกคนดู ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย ว่า...นั่นเป็นการแสดงนะ, ท่านี้อย่าไปลองนะ อันตรายมาก คอหักได้,อันนี้ผิดคิว เป็นต้น โดยเป็นการสอดแทรก และการบรรยายก็สนุกดี จึงจำได้...... ผมคิดเองว่านั่นคือตัวอย่างผลงานที่ดีในสังคมไทย........ขอให้เขามีเงินใช้ตลอดไปแล้วกัน...

-------------------------------------------------

-รูปแนบคต.นี้ คือยางรองสปริง ตามที่โม้ไว้ในคต.ก่อน ขอให้ดูงาน เพื่ออ่านเจตนาผู้ผลิตว่า เป็นชิ้นส่วนอะไหล่ที่มาตราฐาน เพราะมีรูปร่างเฉพาะ และใช้วัสดุคงทน ลูกยางในรูปเป็นของ(เทอราโน่ วัน) อายุ เกิน 20 ปีแล้ว เนื้อยางยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ ความหมายคือ ราคาซื้อของใหม่ คงไม่ถูก ดังนั้นคงเป็นชิ้นส่วนสำคัญครับ.....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.223.157 พุธ, 19/2/2557 เวลา : 07:19  IP : 49.48.223.157   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69276

คำตอบที่ 16
      

-เหล็กกันโคลง ถ้าติดตั้งได้ระยะจับแคบ และเหล็กสปริงเส้นเล็กแบบนี้ คิดว่าไม่เกิดผลดีใดๆ... และส่วนใหญ่ก็จะติดตั้งจริงได้แบบนี้เหมือนรถ Big M ในคต.ก่อนครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 พุธ, 19/2/2557 เวลา : 21:06  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69289

คำตอบที่ 17
      
-ดูขนาดเหล็ก และระยะจับ ช่วงล่างโรงงานผลิตอีกครั้ง นำไปเทียบให้เกิดผลในใจครับ...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 พุธ, 19/2/2557 เวลา : 21:17  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69293

คำตอบที่ 18
      
-ขออนุญาตใช้รูปแนบคต.นี้ครับ.....

-ช่วงล่างรถโตโยต้าตามรูปนี้ เป็นคานแข็งที่วางโตงเตงไว้หน้า แหนบใต้เพลาหรือคาน เฟืองไม่ยกหรือไม่ได้กรีดคอปรับองศา...ไม่เป็นตามกระแสที่นิยมกัน ทุกรายการ....หรือหมายถึงคงไม่นำไปเป็นแบบอย่างวางคานเอง...หรือไม่ชอบแบบนี้...ใช่หรือไม่ครับ...ขอให้ตอบในใจไว้ก่อน...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 พุธ, 19/2/2557 เวลา : 21:40  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69294

คำตอบที่ 19
       -ขออนุญาตใช้รูปแนบคต.นี้....

-รถกระบะ 4WD แบบคานแข็ง ของโตโยต้า ตามรูปนี้ เป็นรถที่คนไทยยอมรับมาก ค่าตัวสูงมาก ถาม 10 คน ตอบว่าชอบ 9.5 คน หมายถึงมีลังเลคนเดียว....ไม่มีใครปฏิเสธรถคันในรูปนี้ ถ้ามีโอกาสและเอื้อมถึงไม่ติดขัดอะไร คงซื้อไว้ หรือชอบ ใช่หรือไม่ใช่ ตอบไว้ในใจครับ...

-และหากผมแจ้งเพิ่มว่ารูปในคต.ก่อนกับรูปในคต.นี้ เป็นรถคันเดียวกัน...และจะไม่มีใครซื้อมาแก้ไขช่วงล่างให้เหมือนตามที่นิยมด้วย เพราะรถแพงมาก

-คำถามที่ต้องตอบในใจอีกคือ เราให้ความสำคัญ หรือคุณค่ารถ หรือตั้งเงื่อนไขได้ถูกต้องหรือไม่ และเลือกเพราะอะไรเป็นหลัก และ"ทำไม"ครับ.......

- รถคันนี้เป็นรถกระบะ 4WD แบบคานแข็ง ถ้าวิเคราะห์ผล คือไทย(เรา)ใช้เหตุผลบิดเบี้ยวเป็นหลัก และใช้วิธีมองกันตลอดเวลาจึงพาหลงทางกันไปเรื่อย เหมือนไปตามป้ายบอกทางที่มีคน(แกล้ง)ชี้ผิดไว้ และมาสรุปหรือจนมุมที่เมื่อพบของจริงที่มีคุณค่า หมายถึงต้องยอมเปลี่ยน,กล้ำกลืน,ฝืน หรือละเว้นสิ่งที่กำหนดไว้เอง เพื่อเลือกงานมาตราฐานสูงซึ่งถูกต้อง

-คำถามจึงอยู่ที่ทำไม ไม่ลบเงื่อนไขที่ขีดไว้ ปล่อยเป็นเส้นทางวกวนเหมือนเดิม คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาก็ต้องเดินวน และลงเอยแบบเดียวกัน รุ่นแล้ว รุ่นเล่าอยู่อย่างนั้นครับ

-เจตนาเพียงชวนให้คิดเพื่อหาทางแก้ไขส่วนรวมครับ

 แก้ไขเมื่อ : 20/2/2557 5:59:54





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 พุธ, 19/2/2557 เวลา : 21:52  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69295

คำตอบที่ 20
      
-ขออนุญาตใช้รูปแนบคต.นี้ครับ....

-ค่าตัวแบบมือสอง ของรถในรูป ในป.ไทย คันศรสีแดง ราคาจะเป็น( 2 เท่า) ของคันที่ศรสีเขียวชี้....เช่น 4.5/9.0 แสน หรือถ้าอีกระดับเช่น 6.0/12.0 แสนบาท

-เวลาบ้านเราปั้นรถคานแข็งเอง จะทำตามแบบช่วงล่างคันศรสีเขียว เป็นพิมพ์นิยมหรือเป็นหลัก (เพิ่มเติม ถือเป็นรายการปลีกย่อย)

-เอาบอดี้ของรถคันศรสีแดงมาครอบแชสซีแบบคันศรสีเขียว ก็ไม่ยอมรับกัน

-รถทั้ง 2 รุ่นตามภาพนี้ เป็นที่นิยมทั้งคู่ ถ้าบอกขายพร้อมกัน และราคาถ้าคันศรสีแดงแพงกว่า 1 แสนบาท หรือแพงกว่าไม่มาก คันศรสีแดงไปก่อนแน่นอนครับ

-อ่านแล้วสับสนกับเงื่อนไขขัดแย้งกันเอง ที่ไทย(เรา)สร้างไว้หรือไม่ครับ

-มีสถาปนิกท่านหนึ่งบอกผมว่า งานออกแบบสิ่งก่อสร้างในไทยโดยสถาปนิกไทย ตัน หรือไม่ก้าวหน้า เพราะเต็มไปด้วยข้อกำหนดและเงื่อนไข คนเรียนมาเท่ากัน แต่ช่องทางแสดงความคิดที่นี่ไม่อิสระ เช่นจำนวนขั้นบันได,ประตูที่ต้องไม่ตรงกัน,ทิศหน้าบ้าน,ทิสหัวเตียงนอนฯลฯ...

-หรือมีช่องแค่พอรอดตัวกับงานซ้ำๆ(ซาก)อยู่อย่างนั้น ผลงานคิดที่ยิ่งใหญ่จึงไม่มี..... พออยากต้องใช้ระดับนั้น ก็ไปจ้างต่างประเทศมาเขียน เป็นจุดจนมุม.....

-ช่วยกันอ่านแวดล้อมที่ผ่านมาให้ออกก่อนนะครับ..... เพราะหนทางแก้ไข ต้องผ่านจุดนั้นก่อนครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 พฤหัสบดี, 20/2/2557 เวลา : 06:33  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69299

คำตอบที่ 21
      
-รถที่กล่าวไว้ในคต.ที่แล้ว คุณสมบัติจริง เหนือกว่ารหัส LNในบ้านเราด้วยเหตุผล ที่ไม่ใช่ความเชื่อหรือหายาก...

-แชสซีหลักแข็งแรงกว่า , เครื่องยนต์กำลังมากกว่า , บอดี้เป็นระบบน็อค ดาวน์ ถอดได้ทั้งคัน , ออฟชั่นสูงกว่า ..ฯ ได้รับฟังมาว่ารถรุ่นศรสีแดงชี้นี้ ใช้งานหนัก เช่นใช้ในเหมืองแร่ที่ออสเตรเลีย

-ยังมีข้อที่นำมาชี้ให้เห็นเป็นข้อแย้งกันเองกับความเชื่อในไทยได้อีก เช่น รถรหัสนี้มีช่วงล่างคานแข็งแบบ แหนบหน้า/หลัง และมีรุ่นคอยล์สปริงหน้า/แหนบหลัง อีกด้วย .....หาก 2 รุ่นในรหัสนี้มาจอดคู่กัน หลักที่คนไทยชี้ตัดสินรถรุ่นนี้ ก็ยิ่งสับสนขึ้นไปอีกครับ.

-สิ่งที่แจ้งเพิ่ม คือรถคันศรสีแดงชี้แพงกว่า รถคันศรสีเขียวที่เหตุผล เหมือนมวยคนละรุ่น คำถามคือ ที่คนไทยให้ราคาแพงกว่ากัน ผมคิดว่าไม่เหมือนฝรั่งเขาครับ

-และที่ต้องแก้ไขการใช้เหตุผล .....ก็ควรเป็นแก้ไขความคิดของคนไทยนั่นเองครับ......

-ข้อความสำคัญอีกข้อคือ รถรุ่นดังนี้ไม่มีรถใหม่จำหน่ายให้คนไทยใช้ ...เหตุผลเป็นคำตอบอยู่ในกระจกเงาครับ

-อยากให้ความเห็นส่วนตัวว่า ผู้ที่มีรถรุ่นนี้ไว้ในครอบครองนั้นมีจำนวนน้อย(มาก) ถือว่าเป็นผู้โชคดี/มือถึงก็ได้ ....หรือมองเป็นผู้มีความดัน(ทะ)ลุรังสูง หรือนักฝ่าฝืน ก็ได้เช่นกันครับ



ใช่ รถดีในบ้านเราไม่มีหรอก ส่งออกหมด คั้นจะเอาเข้ามา ภาษีก็บาน เหมื่อนไม่ให้ใช้ของดีๆ
จาก : โอแมน ณ ป่ายิ้ม(oman007) 20/2/2557 9:34:46 [182.53.119.56]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 พฤหัสบดี, 20/2/2557 เวลา : 08:54  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69303

คำตอบที่ 22
      
-กระบะแลนด์ครุยเซอร์ มีกำแพงเรื่องน้ำหนักเกิน 1600 กก.เป็นข้อกำหนดรถกระบะ 4WD ในบ้านเรา ซึ่งรัฐบาลโดยขนส่ง ลดหย่อนเรื่องภาษีให้ในฐานะรถใช้งาน หรือรถทำมาหากิน กฏระเบียบนี้ยังชอบอยู่ในแบบภาพรวม จึงไม่มีการขยายเพิ่มน้ำหนักให้

-รถแลนด์ครุยเซอร์แบบกระบะจึงใช้ป้ายอักษรฟ้า หรือรย.2 เป็นทางออก แต่ไม่ยอมใส่หลังคาและที่นั่ง 2 แถว เป็นการฝ่าฝืน ทำกันจนเป็นภาพทั่วไป ไม่ผิดประหลาด แต่ถ้าเห็นแลนด์ครุยเซอร์กระบะใส่หลังคาผ้าใบ+ที่นั่ง 2 แถว ซึ่งตามระเบียบเป็นเช่นนั้น คือความประหลาดบนท้องถนน(ไทย)

-กฏหมายนั้นมีอำนาจกำหนดวิธีดำเนินชีวิตของคน เมื่อกฏระเบียบไม่ปรับเปลี่ยน คนไทยจึงเป็นจอมฝ่าฝืน หรือจอมตุกติก ในสายตาคนภายนอก

-คำว่า "โจโฉ ไม่เคยตาย" ใช้กันอย่างเข้าใจว่าเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี เขี้ยว,หักหลัง ฯ ทำนองนั้น...

-หนังเทศ Twin peaks fire walk with me ฉายในไทยในชื่อ "ความชั่วไม่เคยตาย"

-ผมคิดเองว่า "เพราะโจโฉ ..เป็นมรดกโลก "......และ "เพราะตุกติก/ฝ่าฝืน.. เป็นมรดกไทย"

----------------------------------------------------------------------

-ผมพิมพ์ไว้ว่า "เงินพึ่งเริ่มหาไม่ยาก"....จากการเห็นคนใช้แรงงาน/ช่าง... ดื่มน้ำซื้อขวดใส,กินพิชซ่า,นั่งแท็กซี่ไปทำงาน...ผมลงขายของในหน้าซื้อ-ขาย ก็ไม่อยากขายแพง จึงพิมท์ว่า "ต่อรองได้" ขายได้บ้างหลายรายการ โดยไม่มีใครต่อรองเลย บางรายให้ค่าส่งเพิ่มด้วย ก็เป็นลางอีกแบบที่แสดงว่าคนไทยมองและใช้เหตุผลดีกว่าก่อนครับ....

-ผ่านความทุกข์ยากมากว่านี้มาแล้ว เวลาและโอกาสก้าวให้ทัดเทียม เริ่มมองเห็น จากการเทียบเคียงโดยโลกอินเตอร์เน็ต หรือเราหาเป้าหมายเปรียบเทียบได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ต้องรอคนไม่กี่คนไปดูงาน แล้วกลับมาเล่าแบบสร้างจินตนาการอีกแล้ว...หมายถึงทุกอย่างมีแววจะดีแล้ว แต่สัมภาระที่ติดตัวมาจากกาลก่อน ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องแบบเล่า/ลือ คือน้ำหนักถ่วงให้ช้า หากต้องการก้าวอย่างได้ผล ต้องมีความพร้อม เดิมพันคือความทัดเทียม และลบชื่อเสียในอดีต หรือคดีติดตัวในสายตาคนต่างชาติ ที่เราต้องพึ่งเทคโนโลยีของเขา....

-ในหน้าซื้อขาย มีแลนด์ครุยเซอร์กระบะ แจ้งขาย(2) คันๆหนึ่งแจ้งใช้ป้ายรย.2 เพราะน้ำหนักเกินจด รย.1 ไม่ได้ อีกคันป้ายรย.2เช่นกัน แต่ให้เหตุผลอีกแบบ ไม่เหมือนกัน ตรงนี้เป็นลางบอก ยังไม่เคลียร์ทั้งหมด ไล่ปรับเปลี่ยน/หลบหลีก กันต่อไป ...เรื่องยิ่งใหญ่ต้องใช้เวลาเป็นทุนครับ....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 พฤหัสบดี, 20/2/2557 เวลา : 10:27  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69308

คำตอบที่ 23
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kc52 จาก ผอ. 118.173.88.202 พฤหัสบดี, 20/2/2557 เวลา : 11:13  IP : 118.173.88.202   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69309

คำตอบที่ 24
      
-ถ้าไทย(เรา) เปลี่ยนรถกันบ่อยขึ้น เปรียบเหมือนกินอาหารถี่ขึ้น ไทย(เรา) ก็คือผู้ต้องดิ้นรน เพิ่ม....

-ถ้าไทย(เรา) เปลี่ยนรถห่าง หรือใช้นานกว่าเดิม .......ญี่ปุ่น ก็คือผู้ต้องดิ้นรน

-ผู้ผลิตดิ้นรน(ขาย) ผู้บริโภค ก็มีโอกาสได้ของดี.....ครับ

-อยากให้ไทย(เรา) เลือกรถใช้ อย่างมีเหตุผลเป็นหลัก และด้วยความเข้าใจใช้ด้วย.... เพื่อให้รถที่ถูกใจ/และเข้าใจนั้น ....ถูกใช้งานยาวนานอย่างคุ้มค่า(จริง) ไม่ใช่คุ้มปลอมๆที่มากับการอยากขาย ...

-ในไทย ดีไซน์สวยงาม เป็นหัวข้อใหญที่นิยม และเป็นหัวข้อที่ทำให้ถือไว้นานด้วย ผมคิดเองว่า เป็นเหตุผลได้ครับ....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 พฤหัสบดี, 20/2/2557 เวลา : 21:42  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69321

คำตอบที่ 25
       -ผมใช้รถ106 แบบ 4ป.ท้ายบรรทุก รถรุ่นนี้ก็เป็นรถลักษณะดีรุ่นหนึ่งที่นิยมกัน และเพราะมีดีไซน์ที่มีแววดี รถรุ่นนี้ จึงเติม/เปลี่ยนหลายอย่าง หรือออกนอกแบบแผนเดิม ขัดเกลา/เลือกด้วยกาลเวลายาวนานหลายปี ก็กลายเป็นทางเลือก เมื่อเทียบกับแบบเดิมๆหรือสแตนดาร์ด ซึ่งก็ยังทรงคุณค่า และมีแบบแผน ให้ง่ายต่อการดูแล เป็นแผนของผู้ผลิตต่อสินค้ามาตราฐานของเขาครับ....

-ในคต.ก่อนมีรูปรถที่ศรสีแดง,สีเขียวชี้ อยู่ที่เดียวกัน รูปนั้นไม่ใช่รถผม แต่ผมและรถรุ่น 4ป.ท้ายบรรทุกนั้น เคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนั้น คือไปจอดที่เดียวกัน(อู่) และก็ได้สนทนากับเจ้ารถด้วย เทียบเคียงกันทั้งรถ และความรู้สึกเจ้าของ...(ไม่ใช่คันในรูป)

-ก่อนหน้านั้นผมก็สนใจรถรุ่นนี้อยู่แล้วเหมือนคนอื่นทั่วไปในแนวออฟโรดนี้ครับ เป็นการมองระยะไกล

-วันที่ได้มองระยะใกล้ ทุกอย่างเป็นเหมือนรับรู้มา คือรถสวยมาก และทรงคุณค่ากว่าที่คิดอีกด้วย เพราะคนใช้(เล่น)รถรุ่นนี้ เติมแต่สิ่งที่ดีเพื่อผลสูงสุดอยู่เป็นหลัก หรือทำหรือใส่ของแพงทุกอย่าง ก็สมกับที่แพงกว่าเป็นเท่าตัวครับ...

-การได้เห็นภาพระยะใกล้ พร้อมข้อมูลจากเจ้าของ ทำให้เกิดผลตัดสินในใจผมคือ "ไม่อยากได้อีกต่อไป"ครับ

-เพราะรถรุ่นนั้นพิสูจน์ตัวเองในออสเตรเลียแบบ "โคตรทรหด" สภาพที่ส่งกลับมาไทยสุดบักโกรก หรือใช้คุ้มค่า(ไปแล้ว) คนไทย นำกลับมาในไทย และฟูมฟักใหม่อย่างดี(ยิ่ง) จนรถคืนชีวิตเหมือนหรือคล้ายรถใหม่ และเมื่อผมมองความสำเร็จนี้ มีความเห็นส่วนตัวว่า รถกลับมาในแบบแผนเดิม คือไม่เติมแต่งมาก รักษาลักษณะเดิม แต่ไปใช้ให้คุ้มค่าแบบเดิมไม่ได้ เพราะคนไทย/คนออสเตรเลีย มองความหมายของรถไม่เหมือนกัน

-ความหมายคือรถรุ่นนั้นกลับมาไทยในลักษณะรถสะสม มีเงื่อนไขการใช้งาน และผมสรุปให้ตนเองว่า ผมไม่เหมาะกับแบบแผนนั้น...ความอยากได้ จึงคลายลงอย่างตลอดไป และกลับรู้สึกว่ารถ4ป.ท้ายบรรทุก ที่เปลี่ยนแปลงไปมากมายหรือแต่งจนออกนอกแบบแผน คือถูกใจแล้ว ใช้งานในชีวืตประจำวันได้มากตามพอใจ มองอีกแว็ป ก็ว่าสวยพอไปได้ ก็ไม่ได้คิดค้นอะไรมากมาย จึงรู้สึกว่า รถรุ่นที่ผมใช้ มีลัษณะดีอยู่เป็นทุน คนรุ่นก่อนพาข้ามกาลเวลามาได้ดี เพราะถึงแม้จะไม่เดิม ก็ยอมรับและพอใจไปทั่ว หมายถึงขายต่อมีคนซื้อ ไม่รังเกียจ นั้นคือเหมาะกับผมแล้วครับ

-ยกมาเพื่อเป็นตัวอย่างคิด ไม่มีเจตนาอวด หรือประกาศจุดยืนใดๆครับ

 แก้ไขเมื่อ : 21/2/2557 6:12:23



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 ศุกร์, 21/2/2557 เวลา : 06:00  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69330

คำตอบที่ 26
      
-ขอฝากเรื่องจริงในไทย ที่ดีจนหายาก(มาก) หรือไม่ ต้องช่วยคิดตามในใจครับ....

-นานแล้ว...TOYOTA KE30 ตกรุ่นไปแล้ว และจอดแบบใช้สลับกับรถใหม่ในบ้านบ้างเป็นครั้งคราว ของครอบครัวหนึ่งที่กรุงเทพฯ ต่อมาอีกไม่นาน สมาชิกในบ้านก็เรียนจบ และได้บรรจุเป็นแพทย์ ประจำรพ.ระดับอำเภอ ต่างจหงหวัด.... ราว 20 ปีที่แล้วรถยังไม่หนาแน่นเท่าปัจจุบัน รถส่วนตัวมีช่องทางให้ใช้วิ่ง พ่อของหมอ(ใหม) จึงมอบรถ KE30 ให้ใช้ หมอเพิ่งจบ ก็ยังวัยรุ่นอยู่ เริ่มแต่งรถบ้านตามแวดล้อมและคำสนับสนุนของเพื่อนและพี่ๆ...

-คุณหมอเป็นหนุ่มลักษณะดี(มาก) หล่อและมารยาทดี ไลม่เคยเห็นแววหัวสูง เขาพ่นสี กระจังหน้า,กระจกมองข้าง,กันชนหน้า/หลัง เป็นสีเดียวกับรถ และพ่นเอง ฝีมือพอใช้ได้ ภายในก็ไปหาซื้อของมาติดแต่งเพิ่มบ้าง ด้วยตัวเองอีก ตอนผมมองเรื่องนี้ เหลือรายการล้อที่ยัง ผมเดาในภายหลังว่า เขาค่อยๆทำ หยั่งความรู้สึกเจ้าของรถเดิม คือพ่อของเขาด้วย หมายถึงกลับบ้านอาทิตย์ละครั้ง รถก็เริ่มเปลี่ยนไปตามใจวัยรุ่น...

-ผมเข้าไปรับรู้คือตอนที่เกิดปัญหาคือ คุณหมอไปบอกพ่อว่าจะเปลี่ยนล้อ จะออกเงินเอง พ่อไม่เห็นด้วย บอกกระทะเหล็กเดิมๆดีอยู่แล้ว วิศวกรเขากำหนดอย่างนั้น เรื่องชะงัก พี่ชายบอกให้ทำไปเถอะ พ่อบ่นๆ สักพักก็เงียบไปเอง รถก็ไม่ได้แบ่งกันใช้แล้ว เงินก็ไม่ได้รบกวน คุณหมอก็ยังลังเล ผมจึงได้ทราบเรื่องเพราะเหมือนขอคะแนนเสียง ผมไปบ้านนี้บ่อย เพราะเป็นเหมือนลูกน้องทำงานให้พ่อเขาเป็นคราวๆ ก็สนิทบ้างครับ

-ผมบอกว่ารถก็แต่งเดินหน้าไปเยอะแล้ว ก็น่าทำต่อให้เสร็จตามที่วางแผนไว้....

-อีกหลายเดือนต่อมา จึงได้เจอคุณหมออีกครั้ง ผมจึงถามเขาว่า เปลี่ยนเป็นแมกซ์ขนาดเท่าไรและเบอร์ยางเท่าไร....

-คุณหมอบอกตกลงไม่เปลี่ยน ....ผมถามว่าเพราะอะไร....หมอตอบว่า..."000 ไม่อยากทำให้พ่อเสียใจ" ....รู้สึกอึ้งกิมกี่ในตอนนั้น และรู้สึกผิดด้วยที่แนะนำเขาให้เดินหน้า และจำคำ ที่พูดง่ายแต่ทำยากนั้นมาตลอดชีวิต......

-กลับมาในเวลาปัจจุบัน ผมขับรถห่างจากบ้านไปราว 10 กม. ก็เห็นป้ายแสดงอักษรตัวใหญ่ ผูกอยู่หน้าร้านค้า...ข้างทาง..."พ่อผิดอะไร"...อยากรู้เหมือนกันว่าใครเป็นพ่อเขา ...แต่ลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี เกรงจะเจอพายุหมัด คงรับไม่ได้ เอาตัวรอดดีกว่า....

-"ลูกพ่อ"....เรื่องแรกกับเรื่องหลัง ผมรู้สึกว่าต่างกันราวกับหน้ามือกับหลังมือ คงเป็นเพราะผมรับเรื่องแรกมาแบบฝังใจแบบนั้น เห็นแบบหลังจึงไม่เข้าใจว่าทำไมแสดงออกอย่างนั้นครับ.....

-เหมือนสติ๊กเกอร์ "เจี๊ยบหวาน" ที่มีคนติดเพื่อให้คนอื่นรับรู้ ถ้าใครรู้จักเขาคนนั้น ลองแนะนำให้เขาใช้วิธีเดินไปบอกคนแปลกหน้าแทน ผลนั้นจะแท้จริงกว่า และอาจทำให้เขาเปลี่ยนใจได้ครับ...




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 ศุกร์, 21/2/2557 เวลา : 19:21  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69343

คำตอบที่ 27
      
-ขอนอกเรื่องเพื่อสร้างเกร็ด หรือแง่มุมให้คิด โดยหวังว่า อาจได้รับการสานต่อให้เป็นผลดีกว่าเดิมในเวลานี้บ้างในต่อไปครับ....

-ตำราความสามารถ และความเร็ว การรายงานผล หรือสถิติ ...เป็นข้อมูลหรือแนวทางการศึกษาพัฒนาได้ แต่การสนทนา ถ่ายทอดกันด้วยการเล่าสู่กันฟัง เป็นสิ่งที่ควรระวังอย่างยิ่ง เพราะมีเรื่องดีมากมาย มาบิดเบี้ยวจนกลายเป็นแบบอย่างเสียในขั้นตอนนี้ จึงกลายเป็นกับดักความเจริญ หรือสกัดความเจริญโดยไม่ตั้งใจ.....

- "แรงแบบ.. สั่งได้"...., "ออกตัว แตะเป็นโดด"....,"ยุบบบ./ยืดดด."...,"นุ่มม./หนึบบ.".....เป็นตัวอย่างพูด/โม้กัน โดยไม่มีใครมาสรุปว่าจริงหรือไม่ หัวข้อหรือคำก็จะค้างอยู่อย่างนั้น คนที่มั่นใจตนเอง(ไทย) และพร้อมเรียนรู้ ก็จะก้าวตาม แต่พอทราบผลที่ไม่เป็นอย่างที่พูดง่ายหรือไม่คุ้มกับข้อเสียที่แถมมาด้วย กลับไม่กล้าชี้ปิดทาง เงียบหายไปเฉยๆ....เป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ของไทยครับ

-หลายปีแล้วตั้งแต่นักแข่งรถยนต์ "ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ" ยังเป็นนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ ซุปเปอร์ไบค์ หรือก่อนเปลี่ยนมาแข่งรถยนต์ ก็เก่งพอจะไปมีผลงานในต่างประเทศโซนเอเชีย เช่นสิงคโปร์,ฮ่องกง เป็นต้น...มีการเชิญนักแข่งท่านนี้มาร่วมพากษ์ รายการแข่งใหญ๋รุ่น 500 ซีซี ซึ่งถือว่าฮิตที่สุด
มีการคุยหรือสอดแทรกความเห็นให้คนชมรายการแข่งด้วยครับ...

-เช่นขอให้ลบความเชื่อเรื่องเติมน้ำมันเครื่องลงในถังน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อป้องกันลูกสูบติด ซึ่งนักแข่งยืนยันว่าไม่มีผลดีเท่าผลเสีย ขอให้เลิกทั้งเติมเอง และเลิกแนะนำคนอื่นด้วย ....การคาดหวังกับความแรงของเครื่องยนต์ที่แต่งกันเอง พอได้สนุก แต่พูดเป็นหลักไม่ได้ เพราะในสนามแข่งรถ ที่ทำทุกหัวข้อเพื่อให้ชนะ ไม่มีหลักสูตรแบบชาวบ้านพูด/คุยกัน...

-รถมอเตอร์ไซค์ ที่คุณณัฐวุฒิขับในสนามแข่งในโซนเอเชีย มูลค่าประมาณ (11) ล้าน และแจ้งว่า ระดับแชมป์โลก 500 ซีซี รถที่ลงแข่งจะมีค่าตัวประมาณ 25 ล้านบาท ไม่รวมค่าทีมครับ...

-ผมเคยอยู่ในเส้น(หลง)ทาง อยากให้ความเห็นแบบคุณณัฐวุฒิบ้าง โดยหวังว่าจะเกิดผลดีกลับมาที่ครอบครัวผมบ้าง เป็นความตั้งใจครับ...

-ผมเองในแต่ก่อน ความชอบรถยนต์ ทำให้ตกแต่ง พอผ่านจุดนั้นก็อยากแสดงออก หรือลองเพื่อหาผลมาเล่าในวงเหล้าต่อไป...

-การขับรถไม่ได้จำว่าขับรถเร็วที่สุดความเร็วเท่าไรที่ถนนเส้นไหน สภาพถนน/อากาศอย่างไร .... จำแต่ว่าความเร็วออกจากถนนโค้งทางเรียบเท่าไร ตอนเข้าเท่าไรไม่สำคัญ นับผลตอนออกจากโค้ง การทำแบบนั้นอันตรายต่อผู้อื่นมาก เพราะเป็นการเสี่ยงบนทางหลวง ไม่ใช่สนามแข่งซึ่งวิ่งทางเดียว และไม่มีคนเข้าไปในเขตความเร็วนั้น...

-การขับแบบโดยรวม ก็ไม่ได้จำว่าใช้ความเร็วเท่าไร จำแต่ระยะทางที่มีทางโค้ง และการติดขัดแซงรวมอยู่ด้วย เป็นโจทย์ โดยสรุปว่าใช้เวลาเท่าไร

-ทั้งสองแบบตัวอย่างที่แจ้งนี้ มีต้นเหตุมาเริ่มจากการแต่งรถ และรับรู้เรื่องเก่ง(ไม่จริง) จากคนรุ่นก่อนที่บอกเล่า ทำให้สนใจลองแสดงออกบ้าง....ในปัจจุบันเป็นความเสียใจที่ได้ทำไปอย่างนั้น แม้ว่าผมจะไม่เคยมีอุบัติเหตุใหญ่ ที่ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือตาย แต่การเฉียดอุบัติเหตุ ก็ทำให้มีคนเดือดร้อน มีรายจ่าย และเป็นตัวอย่างไม่ดีต่อคนมองเห็น หรือต่อคนที่ได้เคยรับฟังแบบปรุงแต่งให้สนุก...หรือเป็นตัวแพร่เชื้อนั่นเองครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 เสาร์, 22/2/2557 เวลา : 06:29  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69350

คำตอบที่ 28
       -รูปแนบคต.นี้ ....รถคันในรูปเคยเป็นรถของผมเอง สภาพตามรูปคือตอนที่อยู่กับผม...

-รถผมก็ติดสติ๊กเกอร์ จุดประสงค์คงเหมือนทั่วๆไป คือเติมให้เป็นจุดเด่น หรือจุดสังเกต แต่อาจใช้หลักคิด ไม่เหมือนกันครับ...

-บน...ตอนยังไม่ได้ติด / ล่าง...ติดสติ๊กเกอร์ที่ประตู เพิ่มเข้าไป สติ๊กเกอร์ชิ้นนี้คงอยู่กับรถหลายปี ตอนที่เจ้าของใหม่ที่ซื้อรถจากผมไป บอกขายรถ สติ๊กเกอร์นี้ยังคงอยู่ หลังจากนั้นเจ้าของที่สามก็บอกขายรถอีก รูปที่ลงขาย สติ๊กเกอร์ชิ้นนี้ก็ยังคงอยู่กับรถครับ...

-ความหมายคือ สติ๊กเกอร์ชิ้นนี้ ไม่ถูกรังเกียจ อาจมีส่วนทำให้รถดูแปลกขึ้น จึงคงไว้...

-สติ๊กเกอร์ชิ้นตามในรูป เป็นการสั่งตัด สิ่งที่ต้องการในตอนนั้นคืออยากเติมแต่งให้ดูดี/แปลกตาขึ้น

-ผมใช้อักษร "GREENA" โดยใช้หลักที่ขนาดที่ต้องการ และคำที่ไม่มีความหมาย(ที่สุดที่คิดได้) หรือต้องการแต่ภาพ ไม่ต้องการความหมาย...

-การใช้อักษร เป็นการสร้างภาพไม่ซ้ำที่ง่ายที่สุดกว่าการใช้รูปภาพ

-"GREENA" จะคล้ายชื่อคน ที่ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร ความหมายลางๆ คงไม่เตะหรือสะกิดความรู้สึกใครๆ....คือหลักที่อาจไม่เหมือนกัน

-ผ่านกาลเวลามาแล้ว แม้แต่รูปก็ไม่ถูกไล่ลบ จึงคิดว่าคงใช้ได้(ดี)

-ในปัจจุบันผมเป็นหัวหน้าครอบครัว ผมใช้สิทธินี้ขีดเส้นหรือสั่งสมาชิกในครอบครัว .."ห้ามสร้างหรือคิดค้นคำสแลง,สำนวนยอกน้อน หรือมุข/มุม ทุกรูปแบบในภาษาไทย" ....โดยให้เหตุผลว่า "ภาษาไทย เสียหายมากเกินพอแล้ว สภาพรอการเยียวยา อย่าซ้ำเติมภาษาที่กำลังป่วย"

-เป็นการเล่า... เพื่ออยากให้ลองคิดตามดูบ้างเท่านั้นครับ

---------------------------------------------

-"ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" เป็นคำที่ดี แต่ต้องยอมรับว่า มีมิจฉาอาชีพ ที่ได้รับประโยชน์ โดยไปยืนใต้ร่มเงาคำๆนี้ กว่าจะจางไป ก็กอบโกยไปมากมายทั้งเงินและเวลาของคนไทย...

-"let it be"....ก็เป็นคำที่เป็นทางออกให้คนแบบหนึ่ง ใช้เป็นยันต์ไล่แมลงรำคาญ หรือเอาตัวรอด แบบมีระดับ ...

- ใช้ให้หมายถึง ช่างมัน..ฉันไม่แคร์ ...ก็พอได้ครับ เป๊นคำที่คนไทย ใช้แก้ตัว...ในเรื่องลักษณะปัดทิ้ง...

-ถ้าต้องการแก้ไขการใช้คำนี้เป็นทางออกอย่างผิดๆ คงต้องปรับปรุงความหมาย หรือแก้คำแปลใหม่ ....เป็น "ช่างมัน...ฉันหน้า(ด้าน)" ...คาดว่าจะเริ่มมีการระแวงใช้เกิดขึ้น อาจลดเส้นทางหลบหนีได้บ้างครับ

-"show must go on".....ก็ถูกอ้างบ่อยเช่นกัน ถ้าปรับปรุงใหม่เพื่อคนไทย คงต้องแปลว่าว่า ...เสียสละ ต้องเดินหน้าต่อไป...ครับ

-ทำได้นะครับ...เพราะ "left" แปลว่า...ซ้าย หรือ คงเหลือ ก็ได้

-สมมุติเช่น ..ในป.ไทยใช้ let it be = ช่างมัน ฉันหน้าด้าน ใช้กันเรื่อยๆสักพัก ประโยชน์อาจเกิดขึ้น(บ้าง) ดีกว่าเป็นโทษ ในความหมายเดิม สำหรับไทยนะครับ

-show must go on ......ถ้าไม่ใช่เสียสละจริง จะได้ไม่ต้องใช้ หรือใช้แล้วมีคนมองหน้า...ว่าไม่ใช่

-อาจมีอีกมากมาย.......ที่(ต้อง)ทำ เพื่อป้องกัน พวกหัวดี นำมาทำเป็นช่องทางให้ตนเองรอดไปวันๆ...

- โดยเสียหายที่ภาษาไทย คาดว่าไม่มากครับ

 แก้ไขเมื่อ : 22/2/2557 15:45:17

 แก้ไขเมื่อ : 23/2/2557 6:09:30

 แก้ไขเมื่อ : 24/2/2557 9:10:09

 แก้ไขเมื่อ : 24/2/2557 9:24:03

 แก้ไขเมื่อ : 24/2/2557 13:53:04





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 เสาร์, 22/2/2557 เวลา : 06:32  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69351

คำตอบที่ 29
       "ข้าพเจ้าพร่ำเอ่ยชื่อ(แลนด์ครุยเซอร์)... อย่างไม่รู้เบื่อ...
เงียบๆ...ในหัวใจ...ตามลำพัง...
คิดว่าคงมีเศษส่วน.....หนึ่งในพัน....
เล็ดลอดออกจากใจ....ไปสู่(โตโยต้า)..
ก้องกังวาลในโลกกว้าง..อย่างบ้าคลั่ง..
จน(โตโยต้า) รับทราบ....แล้วมอบความสังเวช ...กลับมา..."

-ต้นฉบับ ใช้คำว่า "เธอ" ไปแทนที่คำในวงเล็บ ลองดูได้ครับ...แล้วอ่านใหม่ ...เป็นอาการ "Falling in love" หรือ "ตกหลุมรัก" เหมือนกัน...
แต่ความรู้สึกต่อการรับรู้เรื่องราว คงไม่เหมือนกันครับ.....คำว่า"ควร" จึงมักเข้ามากำกับ เพื่ให้เกิดความเหมาะสม หรือ ขอบเขต เพื่อป้องกันอ้างเทียบเคียงกันครับ...

-ผมรู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นแฟนกับเพื่อนผม ....ลางรักของเธอ มองดูไม่ค่อยราบรื่น มีปัญหาหลายอย่าง เธอจะพยายามรักษาเส้นทาง แต่บอกผมไว้คือ... ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในวันหน้า อย่าได้มอบความสังเวชให้เธอเด็ดขาด.....เธอรู้ตัว ...เป็นหญิงไทย ที่มีความคิดฉลาดครับ.....

------------------------------------------------------

-รูปแนบคต.นี้ .....รถ / บ้านผมเอง ไม่ได้อวดฝีมือจอดรถ และไม่ได้แก้ตัวว่าจำเป็น อยากเพียงให้คิดตาม หนึ่งในแบบไทยๆ ที่อาจเป็นกันหลายๆคน....

-ผมก็ละอายใจอยู่เสมอ และหนาวๆร้อนๆ ไม่คลายกับผลงานของตนเอง ที่พยายามมี สิ่งที่เกินจำเป็นต้องมี....เป็นความหมายของผม...ซึ่งตรงนี้ อาจไม่เหมือนท่านอื่นๆ ในอาการเดียวกัน....

-ผมไม่ได้อวดการจอดรถ แต่อยากอวดว่า...ผมรู้ตัวแล้วครับ....

-อยากให้ลองคิดตามดูเท่านั้นครับ




 แก้ไขเมื่อ : 23/2/2557 21:22:48

 แก้ไขเมื่อ : 24/2/2557 5:49:24

 แก้ไขเมื่อ : 24/2/2557 5:53:15

 แก้ไขเมื่อ : 27/3/2557 5:33:56





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.23.41 อาทิตย์, 23/2/2557 เวลา : 21:19  IP : 223.207.23.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69389

คำตอบที่ 30
       -ผมใช้คำว่า "บิดเบี้ยว" บ่อยมาก ...เป็นความรู้สึกส่วนตัวต่อภาพที่เห็น เป็นการเตือนกัน เพื่อให้ระวังการก้าวตามของปลอมหรือของไม่มีราคา ใช้แล้วทิ้ง หรือการรับ/ไม่ถือสามารยาทไม่เหมาะสมของสื่อ โดยซึมซับไม่รู้ตัว.... ลองนึกถึงการกินอาหารในห้องโดยสารรถ ก็อร่อยดี/สะดวก แต่ภายหลังพบว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่ มีกลิ่นอาหารติด และรู้สึกรังเกียจด้วยตนเอง ...แต่การติดมารยาทแย่ ไม่มีกลิ่น และไปรู้ตัวที่คนอื่นตัดสินเรา ไม่ใช่พบและตัดสินเองเหมือนกลิ่นอาหาร.....

-ผมงดรับสื่อหลายอย่าง เป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยใช้ความเห็นส่วนตัวว่า "ขี้เกียจคัด" มองแววไม่มีดี หรือไม่ได้อะไรก็เปลี่ยน หรือ"หนีดีกว่า"....หลักนั้นครับ

-แต่ถ้าเป็นงาน หรือกิจจกรรม ที่เริ่มไปมีส่วนด้วย กลับตรงกันข้าม คือแม้เหตุการณ์ไม่ดี ก็พยายามอยู่จนเวลาในเรื่องนั้นหมด หรือผ่านไปเอง หรือพูดง่ายๆว่า เอาตัวรอดไม่เป็นครับ...

-เวลาของผม ว่างมากมาย และไม่มีค่า เพียงแต่ผมไม่อยากเก็บขยะไปสับสนในสมอง โดยเลือกเก็บ หรืออาจเพราะมีความด้อยเรื่องการจำก็เป็นได้ครับ

-ตอนเป็นเด็ก ไทยยังไม่เจริญเหมือนวันนี้ เล่นน้ำในคลอง ขยะตั้งแต่เศษผักไปยันหมาเน่า เดี๋ยวก็ลอยมาๆ หลบๆเลี่ยงแถวๆนั้น(ในน้ำ) พอซากเน่าผ่านไป ก็เล่นน้ำต่อ น้ำก็เข้าปากบ้าง เพราะเล่นไป คุยหรือหัวเราะกับเพื่อนไป ....

-กลับมานึกถึง ไม่รู้ทนผ่านไปได้อย่างไร ในตอนนี้ แม้ไม่มีหมาเน่าในคลองอีก แค่น้ำยังมีสีขุ่น ก็ยังไม่นึกอยากลงไปอีกอยู่ดีครับ...

-ความคิดเปลี่ยนเพราะเริ่มเข้าใจจนกลัว หรือความคิดตามวัยที่ทำให้เปลี่ยน....พอนึกถึงคนญี่ปุ่นที่อาบน้ำแร่ ตั้งแต่เด็กจนแก่ ก็ไม่เปลี่ยนนิสัยชอบ ก็สับสนครับ

-วันวานเห็นสื่อใส่แว่นดำ สัมภาษณ์เรื่องการเมือง ในห้องส่งแบบนั่งคุยกัน กับผู้ที่ถูกเชิญ หรือนัดกันมาออกอากาศ ผมเพียงเดินผ่านทีวี จึงบอกสมาชิกในบ้านว่า อย่าดูรายการแบบนี้ ลางบอกเป็นมาตราฐานต่ำมาก ได้คำตอบมาว่าเป็นทีวีเสรี ไม่ใช่สถานีโทรทัศน์.....ผมไม่มีความเห็นเรื่องอื่น จึงเดินผ่านไปครับ

-ตอนดูหนังเทศ อิงเรื่องจริงคือประวัติของ Mariah Carey นักร้องระดับอินเตอร์ของอังกฤษ ช่วงที่จำได้คือ ก่อนที่จะเริ่มดัง หรือเป็นก้าวแรกที่ค่ายเพลงสนใจ ให้บันทึกเสียง มีการจัดให้มี(มิวสิควีดีโอ) ผมเรียกไม่เป็นขอโทษด้วย คือเพลงประกอบลีลาเต้นและอื่นๆ โดยตามเนื้อเรื่อง โปรดิวเซอร์ส่วนเรื่องการแสดงนี้ เป็นชาวอินเดีย กำหนดท่าเต้น และเนื้อเรื่องประกอบเพลงสุด(สยิว) หรือลามกนั่นเอง ตอนถ่ายทำแฟนหนุ่มของนักร้อง(ในตอนนั้น) ไม่พอใจ และไม่ยอม จึงเกิดปัญหา จนถึงขั้นต้องตัดสินใจเลิกการแสดง พร้อมกับช่องทางของ Mariah Carey ด้วย แต่เมื่อรัศมีเธอไม่ดับ เพราะเกิดช่องทางอื่นมาแทนที่ และไปได้จนไปถึงระดับอินเตอร์ เมื่อมองกลับ แฟนหนุ่ม(ในตอนนั้น) จึงเป็นผู้ทำถูกต้อง ที่ไม่ยอมให้ Mariah เดินไปในแนวเนื้อหนัง....

-หลายปีก่อนตอนดูมิวสิควีดีโอของทาทา ยัง ไม่รู้ใช่ชุดล่าสุดหรือไม่ ก็สุดวาบหวิว เร้าใจ ได้ทราบต่อมาว่า โปรดิวเซอร์เรื่องการแสดง เป็นชาวอินเดีย(อีกแล้ว) คงจะคนละคนกับ Mariah Carey ยุคแรก....

-Mariah Carey ยังอยู่ด้วยผลงานที่ติดลมบนไปแล้ว ส่วนนักร้องไทย ตอนนี้ร่วงไปแล้ว พร้อมกับภาพลักษณ์จริงตอนนี้ ซึ่งไม่เหมือนกับรูปร่างในตอนถ่ายทำมิสิควีดีโอนั้นครับ...

-เป็นเรื่องคล้ายกันที่ผลไม่เหมือนกัน อยากให้รับรู้ไว้บ้างครับ....

 แก้ไขเมื่อ : 25/2/2557 7:26:22



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.16.160 อังคาร, 25/2/2557 เวลา : 07:12  IP : 223.207.16.160   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69423

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  3  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,21 พฤศจิกายน 2567 (Online 6692 คน)