คำตอบที่ 2
....สาเหตุ...และปัจจัยหลัก...ที่ทำให้..เกียร์..Auto...ไป..ก่อนวัยอันควร...ก็น่าจะมาจาก...
1...เมื่อต้องใช้แรงบิดสูง...เป็นเวลาต่อเนื่องนานๆ...เช่น...ลากรถอีกคัน...ให้ใช้ความเร็วต่ำ...และเกียร์ลดลง1เกียร์เสมอ....
2...ขึ้นเขา-ลงเขาบ่อยๆ....น้ำมันเกียร์จะใหลไปกองที่ด้านหน้าและด้านหลัง ของห้องเกียร์.....ทำให้...แรงดันน้ำมันของชุดคลัทไม่คงที่......พอแก้ได้ คือ....น้ำมันเกียร์เพิ่มอีก 1 ลิตร....กันเหนียว....เพื่อให้แรงดันน้ำมันของชุดคลัทคงที่.....ไม่ให้แรง ดันต่ำจนคลัทลื่นและสีกันจนไหม้ในห้องเกียร์....
3....ขึ้นเขา-ลงเขา...ลากของ...บ่อยๆ....ล็อกอัพคลัท....ในลูกตุ้มทอร์ คคอนเวอร์เตอร์.....ต้องทำงานหนักกว่าปกติ...เป็นเวลานานถ้าเป็นของเก่าใช้ งานนานแล้ว.....ความหนาลดลง....ก็มีโอกาสไหม้ได้....ถ้าน้ำมันระบายความร้อน ไม่ดี.....ดังนั้นออยคูลเลอร์ของเกียร์ต้องใหญ่พอ......ที่จะรับมือควาร้อน มากกว่าปกติได้ ....พวกที่ชอบเอาออยคูลเลอร์ไปซุกใต้กันชนไม่รับลมปะทะรถมักจะเสร็จทุกราย ....ใช้งานหนักน้ำมันเกียร์ไหม้ดำปี๋....
4....ถ้าออยคูลเลอร์เป็นแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ....เวลาเครื่องร้อนจัด เพราะน้ำในหม้อน้ำแห้งเมื่อไร....ก็ตาม....น้ำมันเกียร์จะเสื่อมสภาพอย่าง รวดเร็ว.....แม้จะเพิ่งเปลี่ยนมาก็ไม่รอด.....ให้ถ่ายน้ำมันเกียร์ทิ้งทุก ครั้งที่เครื่องโอเวอร์ฮีต.....
5....ลุยน้ำสูงจนท่วมห้องเกียร์....เมื่อห้องเกียร์โดนน้ำ.....อากาศในห้อง เกียร์มันจะเย็นตัวอย่างรวดเร็ว....และดูดน้ำเข้าห้องเกียร์.....ต้อง เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกครั้ง.....ที่รถลุยน้ำมาทันที....เพราะน้ำเข้าแล้ว ชุดคลัทจะบวมและพังอย่างรวดเร็ว......แม้จะเข้าไม่มากก็สามารถพังได้ .....ไม่เหมือนเกียร์..M/T...ที่ยังใจเย็นได้ ถ้าน้ำเข้าน้อยๆขับไม่กี่สิบกิโลน้ำก็เดือดหายไปเอง.....ไม่ต้องเปลี่ยน น้ำมันให้เปลืองเงิน....
6....ขี้เหนียว....ไม่ยอมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมน้ำมันเกียร์....ทุกๆ...8,000-15,000 km.