WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


อยากให้ดูเป็นความบันเทิงและสังเกตเครื่องมือในการสร้างงาน
chotikan14
จาก Tik
IP:58.10.219.85

อังคารที่ , 5/7/2559
เวลา : 11:31

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      
เป็นความพร้อมระดับสูงในทุกด้าน....หากคิดตาม(ประสาคนชอบรถ) อาจพบว่า ไม่มีช่องว่างใดที่(เราคือผมหรือท่าน) จะเข้าไปร่วมงานกับเขาได้เลย แม้แต่จะไปเช็ดรถก็คงต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องทำความสะอาด..หรือแม้แต่สร้างเป็นสารคดีเพื่อให้คนอื่นดูแล้วเข้าใจ.. ทุกวินาทีเป็นเรื่องของมืออาชีพแท้จริง...การเทียบเคียงนี้เองอาจทำให้เข้าใจภาวะมากขึ้น เพื่อให้รู้จักวางตนเองได้เหมาะสมครับ...

http://สารคดีภาคไทย.blogspot.com/2014/06/22-bugatti-veyron.html#!http://xn--42ca1cn7bob9c1de5a7p.blogspot.com/2014/06/22-bugatti-veyron.html



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  

คำตอบที่ 121
      
-สิ่งที่นำมาเล่าในกระทู้นี้ เป็นเรื่องที่พบเห็นทั่วไปจากหลายๆที่ ..ความสำคัญเกิดขึ้นเมื่อนำเรื่องต่างที่มาวางใกล้ๆกัน การเปรียบเทียบคือเรื่องใหม่ ที่อาจควรรู้ไว้ด้วย หมายถึงเป็นผลในองศาอื่นๆจากเรื่องเดียวกัน...อาจเปรียบคล้ายน้ำผลไม้ปั่น ก็พอได้ครับ...

-เรา(คือผมหรือท่าน) เข้าใจว่าอะไหล่เซียงกง คือชิ้นส่วนรถเลิกใช้ของญี่ปุ่น ถูกแยกร่างมาจากรถที่ยังสภาพดีก็มีบ่อย แต่ญี่ปุ่นเขาให้นำส่งออกในรูปอะไหล่เก่าเท่านั้น ไม่อนุญาตให้มาทั้งคัน จึงบังคับให้ตัดโครงหลักเช่นบอดี้และแชสซี ทำให้กลายเป็นรถเสีย จึงให้นำออกจากญี่ปุ่นได้...รถจดประกอบในไทยบางคันอ้างมาทั้งคันไม่ได้ประกอบใหม่ ถ้าไม่ใช่โม้ ก็ หลบซ่อนมาเหมือนคนพม่าหลบหนีเข้าไทยในแต่ก่อน...คือผิดกฏระเบียบ มาถึงไทยได้เพราะรอดตาด่านตวรจสอบ เป็นช่องทางอีกแบบนอกระบบครับ...

-การขายอะไหล่ถอดลงจากรถซ่อมในไทย(ไม่ใช่ของเซียงกง) ซึ่งมีปัญหาบ่อยมากคือ เอาของชำรุดมาขายเป็นของมือสองสภาพดีปนกับของเซียงกงครับ...

-ถ้านำสองเรื่องมาวางใกล้กัน จะพบว่าคนไทยทำดีโดยการถูกบังคับ ถ้าอิสระ ก็ทำแบบเถื่อนครับ...

-คิดตามสักนิด...ถ้าเข้าใจ..ผลนั้นจะหาวิธีให้เรา(คือผมหรือท่าน)เดินอย่างไรให้ดีขึ้นในต่อไปได้ครับ...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อาทิตย์, 25/9/2559 เวลา : 09:23  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78251

คำตอบที่ 122
      
-(ความเห็นส่วนตัวของผม) ..ที่ผ่านมา ป.ไทยเต็มไปด้วยเรื่องเท็จ เพื่อเอาตัวรอดโดยความจำเป็นเช่นยากจน/รับผิดชอบไม่ไหว/ทนอดอยากไม่ไหว ..และกลายเป็นพิมพ์นิสัยอย่างไม่รู้ตัว...ปัจจุบันป.ไทยกำลังเจริญ ความสุขสบายมากกว่าเมื่อ 50 ปีที่แล้วอย่างมาก..แวดล้อมเปลี่ยนไป แต่นิสัยเอาตัวรอดและไม่เชื่อถือผู้อื่น(ปกครองยาก) ยังไม่เปลี่ยน คือสิ่งที่ต้องช่วยกันเตือนให้รู้ตัวครับ...

-สิ่งที่เคยทำ แต่ถึงเวลาไม่สมควรทำอีกต่อไปแล้ว คือบัญญัติใหม่ที่ควรยอมรับ เพื่อก้าวตามให้ทันโลกออนไลน์ หากยังใช้นิสัยโบราณไปสู่โลกกว้าง สักวัน จะถูกตัดสินได้ครับ...

-เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา เหล้าและบุหรี่ ก็มีขายเหมือนในปัจจุบัน แต่การโฆษณา เป็นตรงกันข้ามเลยครับ..

-แต่ก่อนคือชวนเชิญให้ลองดู(แล้วจะติดใจ) ...ปัจจุบัน เป็นคำเตือนระดับอันตรายพิมพ์ไว้ในบรรจุภัณฑ์สินค้าเลย ดังนั้นที่ผ่านมา ไม่ได้หมายความว่าถูก เพียงแต่ทำได้ในแวดล้อมแบบนั้น ซึ่งไม่ใช่แบบในตอนนี้ครับ...

-การสูบบุหรี่ก็เช่นกัน...แต่ก่อนคือเด็กแอบสูบบุหรี่ ไม่ให้ผู้ใหญ่เห็น โตแล้วจึงทำได้...แต่ปัจจุบัน ผู้ใหญ่(ต้อง)แอบสูบบุหรี่ ไม่ให้เด็กเห็น เพื่อไม่เป็นตัวอย่างนำ ซึ่งหมายถึงผู้รู้ตัวเองแล้ว...ส่วนผู้ที่ยังสูบแบบเปิดเผย คือผู้ที่ไม่รู้ตัว/หน้าที่ในสังคมที่เจริญขึ้น...ดังนั้น การลดกระจกรถยนต์หรูลงเพื่อสูบบุหรี่ในรถส่วนตัว คือภาพที่ทำได้ แต่หมายถึงไม่ใช่เรื่องถูก และไม่ใช่ความเหมาะสม(ที่จะมีรถยนต์ใช้ส่วนตัวด้วย) คือเป็นตัวถ่วงความเจริญของสังคม...แต่คำนี้จะอยู่ในอนาคต...เหมือนคำเตือนระดับอันตรายในสินค้าเสพติดในตอนนี้ครับ.....

-ดังนั้นการเป็นตัวอย่างหลงทาง ก็เป็นภาระกิจที่ต้องเริ่มช่วยกันหยุด สำหรับการ"คิดได้เอง" หรือรอทางการ"บังคับ"ในอนาคตก็ได้ แต่คนระดับใดที่จะต้องถูกบังคับจึงทำตามระเบียบ...การอยู่บ้านหรู รถยนต์คันงาม ไม่น่าเหมาะหรือใช่กับคนระดับนั้นครับ....

-นี่คือคำเตือน ให้รอบคอบกว่าที่ผ่านมา ตอนนี้หากมิตซูบิชิ นำA70 มาลงสนามแข่งแรลลี่อีกครั้ง ทำเหมือนตอนที่ได้เป็นแชมป์ในยุค70...เชื่อว่า.. ใครก็ทายผลล่วงหน้าได้ครับ....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อาทิตย์, 25/9/2559 เวลา : 13:57  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78252

คำตอบที่ 123
       -คำว่า "ผู้ผลิต" / "ผู้ใช้"..(พ่อค้า/ลูกค้า) หรือ ญี่ปุ่น /ไทย ณ ที่นี้...มีเรื่องเปรียบเทียบให้พิจารณาดูครับ...

-ยุค 70 สปอร์ตคาร์ของนิสสัน คือแฟร์เลดี้รุ่นแรก มีขายในไทยด้วยครับ..

-ขอเดาอย่างไม่ค้นคว้า(ขอให้ถือว่าจับความหมายกว้างๆ) คือก้าวแรกของญี่ปุ่นในแบบรถสปอร์ต..ซึ่งสมัยนั้น รถรุ่นสำคัญ ญี่ปุนจ้าง(ฝรั่ง)ออกแบบบอดี้ให้ เครื่องยนต์บางรุ่นก็ใช่ด้วยครับ...

-รถแฟร์เลดี้ดำรงถึงปัจจุบันในหมวดรถคลาสสิค จึงมีเบื้องหลังอยู่ ไม่เหมือนรถตอนนี้ครับ..

-หมายถึงปัจจุบัน ออกแบบเองแล้ว คือความก้าวหน้าของผู้ผลิตที่ตั้งค่าไว้ก่อนครับ...

-ในฐานะผู้ใช้ คือไทย คือผมเองเป็นตัวเปรียบไปก่อน อย่างน้อย ก็โดยภูมิของคนชอบในยนตรกรรมเกินปกติใช้งานครับ

-ในปี 1995 ที่ผมซื้อรถ HONDA CIVIC CBU... เป็นครั้งแรกที่ได้เริ่มรู้ตัวว่าถูกมองหรือจัดให้เกรดสินค้าด้อยกว่า ตามที่เล่าไปแล้วครับ..

- เห็นแฟร์เลดี้ ตั้งแต่ยุค 70 แต่เริ่มสังเกตและรู้ว่ารถประกอบนอก/ใน แตกต่างกัน ในอีก 25 ปีต่อมาอย่างบังเอิญด้วยครับ(ไม่ใช่การค้นคว้า)

-ปีปัจจุบัน นิสสันแฟร์เลดี้รุ่นล่าสุด ถูกนำไปเทียบ(ข่ม)สมรรถนะกับรถสปอร์ต จากัวร์ ของอังกฤษ หมายถึง ทางเทคนิค ญี่ปุนทำเครื่องแรงกว่าอังกฤษแล้ว โดยยุค60-70 นิสสันยังจ้าง(ออสติน/อังกฤษ)ออกแบบเครื่องยนต์ในรถปิคอัพให้(ระดับเครื่องยนต์พื้นฐานใช้งาน)

-ป.ไทยปิดกั้นเรื่องของฟุ่มเฟือย แต่หากค้นคว้าจะพบรถต้นแบบในอนาคตที่ญี่ปุนทำโมเดลไว้ ห่างไกลกับไทยมากแม้แต่ในการแค่มองผลงานตามครับ..

-กลับไปที่ยุค 70 อีกครั้ง รถปิคอัพญี่ปุน ออกจากห้าง ไม่เกิน 3 ปี ต้องตัดผุ เป็นสมการทั่วไป ใกล้ทะเลน้อยกว่านั้น ไกลจากภาคกลาง ดีกว่านั้นอีกหน่อยครับ...

-จนยุค 80 นิสสันจึงเริ่มขบวนการป้องกันสนิมในสีรองพื้นเรียก EDP คือชุบรองพื้นทั้งคันในถังที่มีประจุไฟฟ้า ในรถ 720 คือเริ่มแรกครับ..

-สมการ 3 ปี ตัดผุก็ยืดออกไปกว่าเดิมมากครับ...

-ปีปัจจบัน...ไทยในฐานะผู้ใช้รถยนต์ รู้จักออฟชั่นหลายอย่างแล้ว เช่นเฟืองท้ายแบบดิฟท์ล็อค/แอร์ล็อค แต่รู้จักไม่ใช่ความเข้าใจ เช่นการนำอะไหล่เก่าเซียงกงมาวางในรถออฟโรดเอง จะมีเงื่อนไขการใช้ต้องระวัง(สูง) / ความเข้าใจในผลของเทอร์โบรู้กันทั่วนานแล้ว แต่รู้ระดับปรับแต่งได้อยู่ในกลุ่มเล็ก ไม่ใช่รู้ทั่วไป /รอบเดินเบาของเครื่อง J ที่นำมาแปลงวางในรถอื่น และความเข้าใจในเซนเซอร์ของกล่องคุมเครื่อง ยังอยู่ในสีสายไฟเหมือนเดิม(มานานแล้ว) หมายถึงรอบเดินเบาสูง/ซดน้ำมัน มากกว่ารถที่วางเครื่อง J มาจากโรงงานหรือประจำในรถรุ่นนั้น...ซึ่งหมายถึง ระดับช่างยนต์ไทย ก็ยังแก้ปัญหาเรื่องให้เครื่องให้ผลครบ ไม่ทั่วไป รู้แค่บางส่วน/คน...คิดตามก็อาจเริ่มกังวล แต่พอมองรสนิยมซึ่งตามทัน/ชิด...ผมเอง รู้สึกหนาวใจครับ...

-ย้อนกลับไป ราวๆ 20 ปี การประกอบคอมพิวเตอร์ใช้ประจำบ้าน ก็ยังอยู่ในวงแคบ แต่ปัจจุบันอยู่ในวงกว้าง ผู้ที่สนใจมากกว่าระดับใช้งานปกติ หรือนักแสวงหาความก้าวหน้าใหม่หรืออัพเกรดเรื่อยๆ ก็เห็นเรื่องประกอบเป็นขนมแล้ว..แต่ยังไปไม่ถึงระดับออกแบบหรือรู้เท่าทันการออกแบบครับ

-มองกลับไปที่รถยนต์ หรือเครื่องมือที่มีการแบ่งเกรดมากกว่าเครื่องมืออื่น มีส่วนที่ขาดหายไป ไม่เชื่อมต่อให้เป็นเหตุผล เช่นการมีรถส่วนตัวอย่างหรูก่อนขับรถเป็น หรือก่อนมีความชำนาญขับ ความเข้าใจในปัญหาพื้นฐานของรถ(โดยไม่ถาม GOOGLE)...มีแบบนั้นจริงๆในไทยครับ....

-อะไร.. คือต้นเหตุของการเรียนรู้ช้าในเรื่องชอบของไทย แค่มองญี่ปุนเดิน ยังไม่ทัน แล้วเขาจะให้เกียรติเรา(คือผมหรือท่าน)ในระดับ "เพื่อน"ได้เปล่า(หนอ)..อยากขอให้คิดตามดูครับ

-----------------------------------------------------

-ลิ้งค์การเปรียบความเร็วให้ดูใน youtube ไม่สำเร็จ หากต้องการลองเข้าไปพิมพ์หาดูครับ...

Nissan GT-R versus Jaguar F-Type R AWD Coupé

 แก้ไขเมื่อ : 26/9/2559 8:12:44

 แก้ไขเมื่อ : 26/9/2559 8:21:51

 แก้ไขเมื่อ : 26/9/2559 9:52:35

 แก้ไขเมื่อ : 26/9/2559 9:55:34

 แก้ไขเมื่อ : 26/9/2559 9:58:52





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 จันทร์, 26/9/2559 เวลา : 08:06  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78253

คำตอบที่ 124
       - "อัญมณี"เป็นเครื่องประดับที่สวยงาม คุณค่าเริ่มตั้งแต่ปลอมไปถึงแท้ ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปเกินหลักล้าน..ความหมายคือคุณค่ากว้างมาก และมีปลอมด้วย ซึ่ง"ความรัก"ก็เหมือนอัญมณีครับ...

-การรู้ตัวเองว่าเป็นผู้ตาม การแสดงความรู้สึกใดๆให้คนในสังคมชั้นสูงกว่าเห็น จึงใช้ควรระวังกำกับด้วย การใช้สิทธิเท่าเทียม อาจหมายถึงการ"ท้าทาย"ครับ...

-เพราะการตามคือทางรอดเดียวป.นี้ ...หากไม่มีการ"รอ" จะไม่เห็นสิ่งที่ต้องตาม(เพื่อให้รอด)อย่างแน่นอน ...การรู้ตัวว่า"ตาม" กำหนดให้ระวังเป้าหมายหนีไปด้วยครับ...

-เป็นความคิดที่เข้าใจว่าถูกต้อง แต่จะทำได้ดีพอหรือไม่ ...คิด/ทำ ..เป็นคนละส่วนกันครับ..

- G7 คือเป้าหมายให้วิ่งตาม เขามี"ความรู้และเครื่องมือ"พอจะแบ่งขายให้เรา(คือผมหรือท่าน)ตามความต้องการ/รสนิยม...ส่วนเรา(คือผมหรือท่าน)มี " LOCAL" ที่เขาสนใจบ้าง....การค้าขาย ความพอใจคือความยุติธรรม...

-การแลกเปลี่ยนค้าขายอย่างพอใจ คือวิธี "ดำรง" โอกาสซึ่งเป็นความสำคัญที่หมายถึงความอยู่รอดของส่วนรวมไทยด้วย...

-ดังนั้นการตามก็คือหน้าที่ หากไม่สมัครใจตาม ต้องเริ่มด้วยการทำลายบัตรประชาชน(ไทย)ก่อน แล้วเริ่มหาวิธีเดินทางไปยังที่ซึ่งชอบอย่างนั้นครับ...

-ด้วยคำว่า "หน้าที่" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ และทำให้ได้ผลดีด้วย โดยเป็นคนละส่วนกับอยากทำหรือไม่ครับ...

-กลับมาที่ "ความรัก" ยิ่งรู้ค่า ก็คือราคาของผู้ครอบครองเอง ในสายตาผู้พบเห็น เช่นผู้เลี้ยงหมาพันทางจนดูดีมาก ไม่ใช่ด้วยการประกาศตนว่าเป็นแบบนั้น...เพราะมีของปลอมปนอยู่จริง มีการระวังอยู่แล้วครับ....

-สำหรับตัวผมเอง ความรัก เป็นเรื่องคุณค่าสูง ให้..เยินยอ/ภาคภูมิใจ /แสดงออก ฯลฯ แต่ไม่ใช่ไว้เขี่ยเล่น....เพราะคำตัดสินอยู่ที่คนดู ประกาศผลตัวเองไม่ได้ครับ..

-ผมสมัครใจจะเขียนข้อความไม่ปกติ แต่ขอให้สังเกต ความเข้มข้นของสิ่งที่ผมนำเสนอ มีการเอ่ยหรืออ้างถึง"ความรัก" น้อยมากๆ...เพียงอยากให้เข้าใจว่า เป็นการระวังสิ่งที่มีค่ายิ่ง ไม่เขี่ยเล่นโดยเด็ดขาด ไมใช่ไม่มีสิ่งนั้น หรือปากหนักพูดคำนั้นไม่เป็น ...อยากขอให้คิดตามด้วยครับ....

 แก้ไขเมื่อ : 29/9/2559 6:09:02





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 จันทร์, 26/9/2559 เวลา : 20:18  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78255

คำตอบที่ 125
       -ขออนุญาตต่ออีกหนึ่งบทครับ...

-ความรัก(ของมนุษย์) เป็นสิ่งเดียวในโลกที่เท่าเทียมกันได้ทั่วโลก...

-มีนิยายเทศเรื่องหนึ่งสร้างเป็น(หนัง)ด้วย กล่าวถึงชายกับหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งมีความรักซึ่งกันและกัน อย่างลึกซึ้ง และถูกสาปให้ทุกข์ทรมานใจ โดยกลายเป็นร่างเดียวกัน ผู้ชายกลางวัน พอถึงกลางคืนก็กลายเป็นหญิง ไม่ได้เจอกันอีกทั้งที่อยู่ในที่เดียวกัน ต่างฝ่ายถามถึงอีกฝ่ายต่อผู้ที่พบเห็นเขาทั้งกลางวัน/กลางคืน ...เป็นเรื่องเศร้ากินใจครับ...

-สมมุติว่าความรู้สึกสงสารในความรักแบบนั้นยังคงอยู่(เช่นเพิ่งดูหนังจบ) และก็เปิดเวปพบข้อความคนสนทนาด้วยการพิมพ์ถึงรถออฟโรดที่ใช้ และมีฝ่ายหนึ่งบอกว่า รถคันนั้นเพิ่งได้มา หามานาน"รักมาก" คงพอฟังได้อย่างไม่ใส่ใจถือสาการใช้คำนี้นัก...และต่อมาอีก 2 เดือนก็เห็นแจ้งขายในเวปเดียวกัน...คำถามคือรู้สึกอย่างไรบ้างครับ...

-ในคต.แรกเรื่องรถ A31 พกม้าหนึ่งพันตัวใต้ฝากระโปรงรถ วิ่งควอเตอร์ไมล์ที่นครชัยศรีเกิน 10 วินาที ตอนดูจบก็ไม่ได้รู้เรื่องว่าแรงม้าหรือแรงโม้ แค่เริ่มสงสัย และเมื่อดูสารคดี BUGATTI VEYRON การเทียบเคียงจึงได้คำตัดสินว่าคงเป็นแรงโม้แน่นอน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเรื่องราวใดๆย่อมกระจ่างได้ "ช้าหรือเร็วเท่านั้น"...ครับ

-ในคต.ก่อนผมบอกว่าระวังการใช้ความหมายความรักอย่างมาก ด้วยเคารพในคำนี้ ส่วนคต.นี้ก็บอกเพิ่มว่า อยากชวนให้ท่านที่อ่านตามมา เคารพในสิ่งที่มีอำนาจหรือศักยภาพเท่ากันทั่วโลก เพราะหากเรา(คือผมและท่าน) ไม่รู้ค่าความรัก ก็จะไม่มีค่าที่เทียบเท่า G7 ได้อีกเลย สิ่งเดียวนี้ที่ทำให้เดินไปกับเขาได้(อยู่) เมื่อท่านสามารถเคารพความรัก เรื่องรักมากแต่ 2 เดือนขายต่อ คือปัญหาที่ต้องจัดการในต่อไปครับ(ช้าหรือเร็วเท่านั้น)....

----------------------------------------

-รูปแนบคต.นี้ เครื่องยนต์เฟอรารี F360 กำลัง 400 ม้า ขนาดเท่าที่เห็น... A31 ห้องเครื่องเล็กกว่านี้ ยัดเครื่อง 1000 ม้าลงไปได้จริงหรือครับ.....

 แก้ไขเมื่อ : 28/9/2559 13:53:56





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อังคาร, 27/9/2559 เวลา : 17:34  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78257

คำตอบที่ 126
       -การชี้เรื่องสวยงามให้เป็นน้ำหนัก เป็นสิ่งควรทำ อาจเป็นตัวช่วยให้ใช้รถยาวนานขึ้น...แต่การชี้ว่าต้องสวยงามอย่างไร เป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องบอกกันตามโอกาสเท่านั้น หากวางความเห็นไว้เป็นหลักชี้เป็นสากล เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน คุณค่าของวิธีที่กำหนดนั้นอาจไม่คงที่ เพราะเป็นแฟชั่นหรือความนิยม สิ่งที่เคยดูหรูจะกลายเป็นเพี้ยน..ได้ครับ...

-เช่นภาพวาดของจิตรกรเอกของโลก ซึ่งดำรงคุณค่าสูงมาก จะพบว่าบางรูปเป็นรูป nood ของผู้หญิงอ้วน(สำหรับปัจจุบัน) ซึ่งเป็นนางแบบในยุคนั้น...หมายถึงหญิงอวบอ้วนคือความนิยมในตอนนั้นครับ...

- การตกแต่งรถที่ดี คือต้องไม่ทำให้ความเป็นเครื่องมือลดลง...แต่สวยคุ้มค่า เป็นทางเลือกก้าวเพิ่มจากเดิม จะตั้งหัวข้อใหม่ที่ไม่ใช่สแตนดาร์ด เช่น TRD / Rally Art / Hamann / AMG ฯ... ดังนั้นการตกแต่งคือทางแยก ไม่ใช่ทางลัดสู้ความสำเร็จตามที่ไทยเข้าใจครับ...

-การแต่งสะดุดตา คือสิ่งที่คว้ากันเป็นประจำ โดยลืมว่า การตัดสินภาพ ทำกันในระยะใกล้ ไม่ใช่ตัดสินงานตกแต่งในระยะไกลๆ....นี่ก็คือสิ่งที่เข้าใจผิดอีกเช่นกันครับ...

-ศัลยกรรมทำให้ สวยขึ้น/พัง ได้แล้วแต่ผลกระทำ รถยนต์ก็หลักเดียวกัน แต่มีเงื่อนไขมากกว่าที่ยังต้องทำหน้าที่เครื่องมือเหมือนเดิม...ที่ด้อยลงเหมือนผู้หญิงใส่รองเท้าส้นสูง เป็นสิ่งเปรียบไม่ได้ เพราะคนไม่มีหน้าที่เหมือนรถยนต์ครับ...

-ดังนั้นก้าวแรกของความชอบรถยนต์เกินปกติ ควร(ชี้)ที่ความสะอาด/ประณีต ก่อน... การพลิกโฉม เหมาะกับผู้ต้องการอีกระดับหนึ่ง หรือง่ายๆคือ ขอให้เปลี่ยนความคิดเรื่องสะดุดตาระยะไกล ไปเป็นหัวข้อท้ายๆ เพราะเป็นจุดเด่นที่มีเงื่อนไข...ซึ่งหมายถึงรถที่แต่งให้แปลกหรือเกินไป ไม่ควรชอบทิศทางแบบนั้น...สังเกตได้จากการขายรถมือสองที่ใส่เครื่องเสียงมากๆ หรือเปลี่ยนสีภายในฉูดฉาด หรือภายนอกลายที่ดูแปลกตาในครั้งแรก และดูเปรอะในต่อมาและตลอดไป จะถูกกดราคา หมายถึงความจริงคือไม่มีราคา(ในหลักสากล) ที่คิดว่า"แต่งเต็ม" มีราคา คือคิดไปเองครับ.....

 แก้ไขเมื่อ : 30/9/2559 7:34:44





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พฤหัสบดี, 29/9/2559 เวลา : 06:57  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78258

คำตอบที่ 127
       -ขออนุญาตวางข้อความต่อ...เป็นเรื่องที่อยากเตือนผู้ที่ชอบรถเกินปกติ หรือนอกจากเลือกคุณสมบัติที่ดี ยังต้องถูกกับรสนิยมหรือความชอบ จึงจะซื้อครับ...

-ในตลาดรถ มีแจ้งประกาศขายรถนำเข้า ฟอร์ด มัสแตง รุ่นใหม่แนวเดิม ซึ่งรุ่นบุกเบิกเป็นขวัญใจคนอเมริกันมาตลอดกาล...

-รถมีกำลังราวๆ 230L./310 ม้า ราคารถใหม่คงต่ำกว่าสิบล้านบาท ก็สวยมากครับ....

-สิ่งที่ได้สังเกตเห็นคือ รถที่แจ้งขายมือสองรุ่นเดียวกัน มีทั้งพ.ซ้าย และพ.ขวา ทั้งสองอย่าง ผมอ่านเป็นเรื่องผิดปกติ คือถ้ารถรุ่นนี้มีพ.ซ้ายอย่างเดียว ใครที่หลงไหลก็ต้องปรับตัวเองให้รับได้อย่างนั้น แต่ถ้ามีพ.ขวาแล้ว ท่านไปซื้อพ.ซ้าย มาซึ่งรถใหม่ราคาคงไม่แตกต่างกันมาก แต่พอเป็นมือสองจะห่างกันมากครับ....

-เมื่อนึกถึงคำว่า ซ้ายแท้ๆ....ในขณะที่มีขวาให้ซื้อด้วย...อาจหมายถึงมีเงินอย่างเดียวไม่พอ(ต้องโงด้วย)... เคยเห็นคนรวยคุยว่าลูกเก่งสอบติดเองไม่ได้ยัดหรือวิ่ง แต่ อ.แอบบอกว่าเป็นวิธีคุยแบบหนึ่ง หมายถึงฉลาดเองสมระดับฐานะ...คือตัวอย่างเทียบให้คิดคนที่วางตัวเหนือกว่าปกติครับ...

-ท่านที่ชอบรถเกินปกติ อย่าหาช่องทางหรือแหล่งซื้อของแบบไม่ปกติ เรื่องแบบนี้มีมากในไทย(ข้อความที่ครบจะยาว)ครับ

-หากพึ่งเริ่มต้น ควรเล่นรถที่มีอะไหล่ เพื่อให้สุขภาพสมบูรณ์มีราคา รถขาดอะไหล่คือรถอมโรค...และควรซื้อรถที่เป็นรุ่นที่มีโชว์รูมหรือตัวแทน/ศูนย์บริการ ซึ่งอาจมองเห็นว่ามีรถให้เลือกน้อยรุ่น/แพงอีกต่างหาก...ขอให้เข้าใจว่าทุกอย่างมีผู้ฉลาดจริงกำหนดวิธีเดินไว้ล่วงหน้าแล้ว ทันเกมตอนนี้(แย่งกันขายด้วยของแถม) หรือรอคู่แข่งป่วยตายไปเอง(ไม่มีศูนย์บริการรองรับ) และความมาตราฐานในการประกอบ ...เจอกันที่ปลายทาง....

-ไม่ว่าท่านจะหาข้อมูลเพื่อเลือกให้รู้สึกว่าพิเศษกว่า ผลรวมที่สุดจะไม่จริงตามที่คาด เพราะการเล่นรถ เป็นเกมที่มีมานาน ผู้ขายเห็นคนซื้อมากกว่าคนซื้อเห็นคนขาย วิธีสำเร็จหรือรู้อนาคต ย่อมอยู่กับผู้ชำนาญครับ...

-การซื้อรถราคาแพง พ.ซ้าย ในขณะที่มีพ.ขวาให้ซื้อ(ที่อื่น)ด้วย คือความผิดพลาดในการเลือก เข้าลักษณะเสียรู้ครับ

-การเล่นรถแบบกึ่งสะสม ใช้เวลาพิสูจน์นาน ระยะปลายคือผลแท้จริง มีรถ2 รุ่นให้เป็นตัวอย่างคิดตามคือ รถโตโยต้า เซริก้า ขับหลัง กับมาสด้า 323 ไฟป็อบอัพ ตัวหลังมี 323 คัลเล่อร์คีย์ที่ทำระดับความนิยมไว้ดีก่อน และเมื่อมีรุ่นใหม่เครื่องแรงกว่าเดิม ไฟป็อบอัพแบบรถสปอร์ต ยอดจองในงานเปิดตัวสูงมากครับ..

-แต่รถทั้ง 2 รุ่นผ่านเวลามาคงเหลือผล ต่างกันอย่างมากครับ...แอสทิน่าคาดหวังว่าจะเป็นมินิดรีมคาร์ กลายเป็น การ์ตูนคาร์ หมายถึงผิดคาดและจำนวนไม่น้อยด้วยครับ..

-เล่าถึงความฉลาดที่ไม่จริงของผู้บริโภคซึ่งศึกษารสนิยมมาอย่างดี โดยลืมไปว่าในวงการรถยนต์ มีเจ้ามือใหญ่(มาก) เขาร่างขอบเขตไว้แล้ว การผิดพลาดของแผนอยู่ที่คู่ต่อสู้ ไม่ใช่ผู้อุดหนุนหรอกครับ....

 แก้ไขเมื่อ : 30/9/2559 6:17:26

 แก้ไขเมื่อ : 30/9/2559 12:32:59

 แก้ไขเมื่อ : 30/9/2559 12:36:46





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พฤหัสบดี, 29/9/2559 เวลา : 18:58  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78260

คำตอบที่ 128
      
-รถแบบกึ่งสะสม คือระดับเล่นรถในไทย ก็คือพิเศษกว่าทั่วไปนิดๆครับ...

-ขอยกบางตัวอย่างให้ผู้ที่กำลังเลือกรถ/รสนิยม/กำลังตนเอง ซึ่งผมเห็นว่าควรเล่นรถโชว์รูม และรักษาสภาพด้วยอะไหล่...การใช้นาน จะมีแต่ผลดี ถูกใจมาก/นอย คือสิ่งที่ต้องหาคำตอบต่อไปครับ....

-ผมได้ประสบการณ์ใช้รถ106ซึ่งก็เป็นรถกึ่งสะสมในเวลานี้ ..ข้อเสียคือในวัยทำงานของรถกระบะ 4WD จะถูกใช้งานหนัก เมื่อได้รับความนิยมในภาพรวมคือผลต่อมา ก็มีหลายคนสนใจ แต่รถสภาพดี มีจำนวนน้อย หรือไม่เป็นหลักครับ...

-นี่คือที่มาของการดัดแปลงหลายแบบในรถรุ่นนี้ และบังเอิญที่มีญาติศักดิ์สูงกว่าพลีชีพเป็นอะไหล่ให้(sulf130) จึงเริ่มมีแววดีครับ...

-อยากบอกว่า ..หลายคนไม่กลัวการถือรถรุ่นนี้ เพราะรู้ว่ายังซ่อมได้อยู่...เงื่อนไขการหาอยู่ที่ราคาซื้อเข้า / สภาพพอใจ ซึ่งลงเอยน้อย ต่างกับจำนวนสายตาสนใจครับ...

-ผมสนทนากับท่านหนึ่ง ผมบอกว่าวันหนึ่งผมคงขายรถ106 อาจตั้งราคาสูงถึง 4แสนบาท ...ถ้าไม่ไปก็ลดเหลือ 3.5แสน ...ถ้ายังไม่ไปก็ลดอีกเป็น 3 แสนบาท ...ถ้ายังไม่ไปก็ลดอีกเหลือ 2.5 แสนบาท ถึงตรงนี้คนฟังเขาคั่นผมว่าราคาเท่านี้ก็คงไล่ตะตรุบกันแล้ว....หมายถึงคงไม่ต่ำกว่านั้น คุยกันหลายปีแล้ว เวลานี้ค่าตัวอาจลงอีกครับ...

-ผมไม่กล่าวถึงความสวยงาม เพราะรถใดๆก็สวยขึ้นกว่าเดิมได้ ถ้ามีของแต่ง(ของผู้ผลิตมืออาชีพ) หมายถึงเรื่องแต่งขึ้นง่ายก็คือข้อดีย่อยที่จะไปอยู่ในภาพรวมภายหลังครับ....

- สำหรับรถที่ไม่เหมือนใคร มีน้อย/สวยถูกใจ แต่เป็นรถจดประกอบ หรือมีเงื่อนไขหลายข้อ...ปลายทางจะเหนื่อย และอาจเริ่มนิสัยเปลี่ยนเพราะแวดล้อมพาไป(เข้าข้างรถที่ไม่สมบูรณ์)...และที่สำคัญ...การเล่นรถที่จริงจังมาก อาจสะเทือนถึงครอบครัว หรือการงานได้ด้วยครับ...

-คือสิ่งที่อยากให้ทราบ เพื่อออกแบบเส้นทางให้พอเหมาะ ก็คือดีต่อท่านนั่นเอง ถ้าดีกว่านั้นอาจไม่เหมาะกับท่าน (คือความสำคัญ)

- หลายๆท่านอยากก้าวจาก106ไปแลนด์ครุยเซอร์ ผมก็สนใจแต่คิดว่าภาพรวมในตอนที่ใช้แลนด์ครุยเซอร์ คงไม่ทำให้รู้สึกว่าดีกว่าใช้106มาก แต่รายจ่ายและเงื่อนไขใช้งาน จะกว่ามากครับ

-เป็นตัวอย่างคิด(เฉยๆ)ครับ......

 แก้ไขเมื่อ : 30/9/2559 6:33:17





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พฤหัสบดี, 29/9/2559 เวลา : 21:07  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78261

คำตอบที่ 129
       -รถยนต์กึ่งสปอร์ตโตโยต้า เซริก้า ขับหลัง(TA27-40)มีขายในไทยจากโชว์รูม ในอดีต(ราวๆ 40 ปีขึ้น)ครับ....

-ต่อจากนั้นก็เป็นขับล้อหน้า และที่เห็นในขณะนี้หลายๆรุ่นต่อมา คือรถที่เข้ามาในป.ไทย แบบนอกระบบโชว์รูมใหญ่ อยากขอให้สังเกตราคาในตลาดรถมือสองดูครับ

-จะพบว่ารถจากโชว์รูมใหญ่ จะราคาดีมาก(กว่า) เป็นเรโทร์เต็มตัวกว่าก็คือเหตุผลด้วย ปลายทางใช้ภาพรวมหลายข้อเช่นกันครับ...

-เป็นตัวอย่างผลปลายทางระยะยาว เพื่อบอกในการหารถในปัจจุบัน ตามเหตุผลในคต.ที่ผ่านมาคือเลือกรถใช้งานของโชว์รูม การเล่นรถแบบพิเศษ หมายถึงฐานะต้องพร้อมๆหมายถึงไม่แคร์การขาดทุนยับ นั้นคือเล่นแท้จริงเช่นกันครับ

-หากท่านห่วงรถราคาเสีย หรือเป็นผู้ตั้งราคารถมือสองเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ หมายถึงท่านไม่ชอบขาดทุนมาก หรือเป็นนักเกร็งกำไรแบบหนึ่ง... ถ้าเลือกรถเพียบพร้อมตอนใหม่ราคาสูงมาก/มีเงื่อนไขติดตัวในตอนขายต่อราคาถูก.... คือแนวของเศรษฐีผู้ต้องการความสำเร็จแบบปกติ.... หากท่านมีทุนถึงแต่ใจไม่ถึง ก็จะเป็นภาพคล้ายคือ... เลือกรถเพียบพร้อมตอนใหม่หรือมือสองใหม่มากราคาสูง/มีเงื่อนไขติดตัวในตอนขายราคาสูง หมายถึงท่านต้องเติมเรื่องปิดบังหรือให้ข้อมูลสภาพเท็จต่อผู้ซื้อรายต่อไป...

-หมายถึงการรอดโดยเปลี่ยนนิสัย หรือใช้นิสัยลับที่ปกปิดไว้ เพราะใครๆก็รู้ว่าเป็นนิสัยไม่สมฐานะ แปสดงว่ารวยมาเพราะโชค ไม่ใช่ผู้รู้คุณค่าความสำเร็จ ซึ่งกล้าได้/กล้าเสีย ในวิถีชีวิตเสมอครับ

-ผมชี้นำว่า เศรษฐีที่ดีไม่ควรใช้นิสัยอย่างนั้น หากไม่แน่ใจว่าจะควบคุมตัวเองได้ เพราะ"ใครๆก็เอาตัวรอดกันทั้งนั้น" หรือก็ทำเป็นเหมือนกัน ...การเดินทางด้วยวัยวุฒิ จะเป็นเรื่องลวงโลก พลาดถูกจับได้เมื่อใด หมดความนับถือไปทันที คือสิ่งที่ลืมกันว่า หลายๆคนยอมจ่าย ยอมโกง เพื่อซื้อความนับถือ เช่นการซื้อเสียงเลือกตั้งครับ...

ทั้งหมดคือตัวอย่างคิดสำหรับผู้ที่กำลังมองๆเส้นทางเล่นรถในไทยอย่างสนใจ อยากขอให้ช่วยจำหลักการณ์ว่า เคยมีผู้เสียชื่อในเส้นทางนี้ ทั้งๆที่ฐานะดี(มีบริจาคเสมอมา) เหมือนคำคมที่"แพรเยื่อไม้"กล่าวไว้ครับ....

-ไม่แน่ใจก็อย่าก้าวเข้าไป สนใจ(เฉยๆ) จนลืมความอยากได้ไปเอง...แต่ส่วนใหญ่สนใจไม่เฉย โดนฉุดไปจนได้....ดังนั้นท่านควรต้องรู่้จักตนเองก่อนรู้จักรถแบบพิเศษครับ...

--------------------------------

-วัยวุฒิลวงโลก หมายถึงดีปลอม ถ้าคนอื่นเข้าใจด้วย จะยิ่งแย่ เช่นหากท่านสูงวัยแล้ว และอยู่ตามลำพังกับสาวรุ่นลูกหลาน แล้วไม่มีใครไว้ใจ ต้องเข้ามาคอยระวัง/กันไว้ เป็นความแก่เฒ่าที่ไร้ค่ามาก....เป็นตัวอย่างคิดครับ

 แก้ไขเมื่อ : 2/10/2559 7:54:19





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.229.62.252 อาทิตย์, 2/10/2559 เวลา : 06:16  IP : 49.229.62.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78262

คำตอบที่ 130
      
-ข้อความในกระทู้นี้ เป็นการวางเรื่องในอดีตให้คิดตาม ไม่ใช่คำว่าถูก/ผิด และไม่ใช่ผลงานของผมๆเพียงนำมาจากหลักหรือการเปรียบเทียบ เพื่อให้เกิดการเลือกในสิ่งที่เข้าใจ/ต้องการ...คำว่าเหมาะสมคือการปรับใช้ เพราะการเลียนแบบที่ไม่เข้าใจก็มีเยอะ(มาก)ครับ.....

-หมายถึงหากข้อความที่นำเสนอน่าสนใจ แต่กระทบหลายอย่าง ...อยากขอให้ทำความเข้าใจใหม่ครับ....

-ว่าศาตร์หรือหลักสากล ไม่ใช่นิยามเฉพาะตัวบุคคล....ดังนั้น หากสิ่งที่ผมกล่าวนับเป็นหลักได้ สิ่งที่กระทบ ก็คือสิ่งที่เอียงเข้ามาหาเส้นกลางเอง(ต่างหาก) ผมเพียงแต่สะท้อนให้คนที่จะเดินทางต่อไป เข้าใจเส้นกลางที่ต้องตามไป อย่าเข้าใจว่าบุคคลเป็นเส้นกลางนั้น(ความรู้/ความเจริญ) อย่าดูการวางตัวผู้นำหน้าไปก่อน ที่หลายๆคนเข้าใจว่าการทำตามศาสตร์ หมายถึงเป็นเจ้าของศาสตร์ ...และไม่เข้าใจว่า ทรัพยากรของโลกเป็นของมนุษย์ทุกคน เช่นอากาศ ไม่ใช่สิทธิ์ส่วนตัวของใคร / เครื่องมือของโลก ไม่ว่าที่ใดๆในโลก และถูกวางกติการใช้/รักษาไว้ เพื่อไม่ให้ตัวอย่างนั้นบิดเบี้ยวในสายตาผู้อื่นที่กำลังก้าวตามต่อไปครับ

-เช่นซื้อรถระกระบะ มาเปลี่ยนสภาพเป็นรถแข่งออฟโรด หรือเป็นรถลุยป่า ทำได้ เพื่อเหมาะกับการใช้งานเฉพาะแบบของท่านเป็นส่วนตัว แต่นำหลักนี้ไปดัดแปลงภาษาที่ใช้ ให้เกิดความแปลกใหม่ สะดุดหูเหมือนมีเอกลักษณ์ คงไม่ได้ครับ...

-ถ้าคิดว่าได้ แสดงว่าจำมาผิด การแก้ไขไม่ได้หมายถึงทำลาย แต่เพียงทำให้เข้าใจความหมาย...ปัญญาคือเดิมพัน เพราะผู้ที่ก้าวตามเป็น จะมีทิศทางในการเดินหน้า ผู้ที่ไม่มองอะไรเลย กะๆเอาและ คิดว่าคือส่วนตัว คือผู้ไม่เข้าใจคำว่าอพยพ หรือเดินหน้า ซึ่งหมายถึงกลุ่ม การดัดแปลงกฏระเบียบสังคมเอง คือสติแตก เป็นมุขแบบวินาที่ให้ขำได้ แต่แสดงเป็นแบบอย่างไม่ได้ อาจทำให้กลุ่มหลัง เกิดการหลงทางไปครับ...

-ตังอย่างคิด...เทศกาลภาพยนต์ของโลกประจำปีที่เมืองคานต์...คือการรวมผลงานจากทั่วโลกไว้ให้วิเคราะห์/เปรียบ/ซื้อ...เป็นงานแสดงสินค้าก้าวหน้ามีระดับชั้น เหมือนคนที่ไปด้วยครับ....

-หมายถึง...ถ้ามีเศรษฐีไทยผู้กำวงการละคร/ภาพยนต์ในไทย ขึ้นเครื่องเดินทางจากสนามบินไทย อย่างโอ่อ่า มีนักข่าวรอสัมภาษณ์ความตั้งใจปีนี้...และก้าวลงปลายทางที่เมืองคานต์ เดินปะปนผู้คนจากทั่วโลกในเทศกาลนี้ ตามทางเท้า อาจซื้อไอศกรีมโคนกินแก้เหงาได้ด้วย นั่นคือภาพในส่วนรวมจริงของไทย(ชั้นนำ)ครับ...

-สิ่งที่ชี้คือ...สื่อหรือนักข่าวก่อนขึ้นเครื่องหรือรอรับลงจากเครื่อง เข้าใจภาพสากลที่จะนำไปทำเป็นข่าว(หรือแบบอย่าง)ให้สังคมไทยรู้(ตาม)แบบนั้นเปล่า โดยคิดว่าไปร่วมประชุมระดับผู้ผลิตของโลกอย่างนั้นหรือ...และความสำคัญคือ นำข่าวไปทำผลอะไร....อยากขอให้คิดตามเรื่องน่ากลัวรูปแบบหนึ่งครับ.....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อังคาร, 4/10/2559 เวลา : 06:42  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78271

คำตอบที่ 131
      
-ผมได้ดูสารคดี เรืองการทำพิธีศพให้ผู้ตายด้วยโรคติดต่อ(ได้)...บนหลังคาโลก(ยอดเขาซึ่งไม่มีต้นไม้ใดๆ)...เป็นชีวิตกันดารมาก ที่ต้องทำความเข้าใจพวกเขาในวิถีที่เขาเลือกเป็นพิธีกรรม เพราะมีเหตุผลอ้างจำเป็นได้ การทำศพแบบนี้เป็นวิธีพิเศษ ที่มีมานานเป็นพันปี...และเมื่อดูในแบบสารคดี(ไม่ใช่แบบเห็นในงานศพจริง) สิ่งหนึ่งที่คิดคือ (เหมือน)ยังคงใช้รูปแบบดั้งเดิม หรือ(เหมือน)ไม่มีการเพิ่ม/เปลี่ยน/หรือประยุกต์ตามกาลเวลา (เหมือน)เป็นประเพณีที่ยอมรับกันคือ เคารพแต่ไม่เข้าใจ ทำนองนั้นครับ...

-ผมคงไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ เรื่องนำเสนอที่กำกับว่าต้องทำความเข้าใจพวกเขา เพียงแต่คิดถึงบางแวดล้อมบนพื้นโลก ที่มีการสืบทอดการดำเนินชีวิต(สไตล์)ที่ไม่เคยเปลี่ยน โดยไม่มีคำว่าต้องเข้าใจคนกลุ่มนี้ ไม่มีความจำเป็นใดๆ และอยู่ในแวดล้อมที่เปลี่ยนเดินหน้าไปตามความเจริญตลอดเวลา...คือนิสัยไทยขายของมือสอง ซึ่งทิ้งรอย/มีปัญหาเสมอ และไม่เคยเปลี่ยนอย่างยาวนาน...

-บนหลังคาโลก ไม่มีแบบอย่างอื่นใด นอกจากความอยู่รอดได้แบบเดิมๆ.....

-ญี่ปุ่น ลบคำว่า ยากูซ่า/อาชญากรสงคราม ออกจากความคิดคนชาติอื่นได้ หรือเปลี่ยนแปลงไปมาก...ตามโลกที่เจริญขึ้นมากมาย...

-แต่มีอยู่สองอย่าง ที่เจอทุกวัน และไม่เคยเปลี่ยน คือคุณภาพละครไทยในทีวี / การเอาตัวรอดของพ่อค้าไทยแบบเหยียบเมฆสวยงาม

-ความดีถูกสมมุติเป็นเนื้อเรื่องสอนใจในความบันเทิงหลายรูปแบบ ดูจบก็เข้าใจๆแล้ววางไว้ที่เดิม...ผมก็ไม่เชื่อเรื่องคำสาป...จึงลองขัดใจกระแสเดิมๆ...ก็ยังไม่เห็นผลใดๆ ที่จะเบนทิศทางสืบทอดหลัก(มาร)ประจำชาตินี้ไปได้..

-แต่อย่างไรก็จะพยายามต่อ เพราะคำตัดสินว่าความ(เลว)คุ้มค่าที่จะทำกว่าความดี ยังไม่เคยเห็น หมายถึงอำนาจหรือหลักคิด ยังอยู่ในมือคนดีอยู่ จึงชี้แบบนั้นเป็นข้อกำหนดของสังคม...เพียงแต่ได้ความร่วมมือน้อย การบังคับในเวลาที่ผ่านมาได้ผลดีเป็นบางเรื่อง...แต่ขัดกับหลักเสรีภาพในการดำรงอยู่

-ทำไมแบบอย่างดีที่มีผู้ชี้ตลอดเวลาจึงจำยาก และทำไมกลยุทธเอาตัวรอดและเอาเปรียบ จึงดำรงได้โดยไม่มีโรงเรียนสอน....น่างงครับ...

-หากท่านทำสองมือป้องกันจะเกิดเงามืดใจกลางนั้น หรือปิดประตูห้องดับไฟฟ้าทุกดวง ก็จะเป็นความมืด...ถ้านี่คือสัจจธรรม ความป่าเถื่อนก็คือพื้นฐานหรือธรรมชาติของโลกใบนี้...การจุดไฟส่องสว่างทำตรงไหน เห็นภาพตรงนั้น คือความพยายามเอาชนะธรรมชาติ เอาชนะความเถื่อน เอาชนะความเลว..

-หากคิดตามท่านอาจรู้เพิ่มเองว่า การมีศาสนาจึงมีความหมายเป็นจุดประสงค์ต่อสู้ แต่ไม่ได้หมายถึงได้ผลเสมอไป...การดู(หนัง)เทศเรื่องดังๆ อาจมีคนหลายชาติได้ดูด้วย แต่ความเข้าใจในแบบอย่าง อาจมีเป็นส่วนน้อยกว่า ในเรื่องที่เห็นเหมือนกัน...

-เช่นชูแสงเทียนให้สว่างเป็นบางคน อีกหลายคนดูความสว่างแต่ไม่ถือเทียนด้วย..นานๆ ก็จะกลายเป็นคนละพวก...ทั้งๆที่ยืนอยู่ที่เดียวกัน..จะเป็นระเบิดเวลาตัดสินกันเองในที่สุด..หมายถึงเมื่อตกอยู่ในความลำบาก จะมีการซัดทอดกันเองให้เหลือน้อย เพราะความหวังยังอยู่ที่แสงสว่างเหมือนเดิม คือเรื่องชวนให้คิดตาม....ขอบคุณครับ....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อังคาร, 4/10/2559 เวลา : 23:46  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78273

คำตอบที่ 132
      
-ขออนุญาตชี้ไปที่การตัดสินใจแบบหนึ่ง หวังเป็นเพียงตัวอย่างคิดแบบไม่คุ้นเคย(ตัว) โดยเป็นการลองกระทำครับ...

-คือผมเล่าว่านำรถเก๋ง CBU ไป(ตี)ราคาแลกเปลี่ยนกับรถกระบะที่เต๊นท์รถมือสองแห่งหนึ่ง...และไม่ลงเอยกัน อยากขออธิบายวิธีคิดที่คงไม่คุ้นเคย เหมือนลองทำแล้วกันครับ

-เขาให้ราคารถเก๋งผมต่ำมาก คือกดราคา และเรียกค่าตัวรถกระบะมือสองสูงมาก คือโก่งราคา...ก็คือกลยุทธของเต๊นท์อันเป็นที่รังเกียจเสมอมา แต่สิ่งที่ทวนกระแสความรังเกียจคือ มีการใช้กลยุทธเดิมเรื่อยมา และผู้ใช้ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ...คือการชวนคิดเรื่องที่หนึ่งครับ..

-อาจหมายถึง เงินนั้นมีอำนาจมากเกินกว่าปกติในป.นี้ จึงเป็นสถานที่ๆเรื่องร้ายๆเติบโตได้ดี...ขอชี้นำแบบหนึ่งครับ...

-ผมบอกขายรถในราคาเท่าที่เต๊นท์ให้ต่อผู้ใช้ที่พอรู้จักกันในท้องถิ่น และผลเมื่อแล้วเสร็จคือพอใจด้วย....หมายถึงราคาขายที่ต่ำมากไม่ใช่ปัญหาในการทำธุรกิจของผมๆเพียงมีปัญหากับผู้ซื้อที่มีบทบาทโก่งและกดในคนเดียวกัน คือไม่เชื่อถือคนแบบนั้น จึงไม่อยากให้คนแบบนั้นทำงานสำเร็จ อย่างน้อยก็หนึ่งครั้ง....คือคำอธิบายความหมายการขายรถครั้งนั้น ไม่ได้หัวเสียอะไรเลยครับ.....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พุธ, 5/10/2559 เวลา : 20:13  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78274

คำตอบที่ 133
      
-ขอสานฝันอีกคต.ครับ...

-ในอดีตที่ผ่านมาก่อนที่คนพม่าจะมีเอกสารเพื่อทำงานในไทยได้อย่างถูกต้อง การเห็นคนงานพม่าในไทยคือเข้ามาไม่ถูกต้อง ตำรวจจะเรียกตรวจสอบด้วยการให้ร้องเพลงชาติไทย ถ้าร้องไม่ได้ก็จะจับกุมตัวไว้เพื่อส่งออกคืนไปครับ...

-ตอนนี้ผมจึงอยากเป็นตำรวจ สภ.อ.ทองผาภูมิ คือทำเลในฝัน(อ.สังขละไกลไป) อยากสานฝันที่ตั้งใจ คือจะดูตลาดรถมือสองทุกวัน ถ้าเจอข้อความ..เครื่องนิ่ม/ช่วงล่างแน่น ฯ จะติดต่อให้คู่หูวางมัดจำ แล้วให้ผู้ขายนำรถมาส่งมอบที่ทองผาภูมิ แสดงตัวเป็นตำรวจให้มั่นใจว่าไม่ได้ลวงมาฆ่าทิ้ง เมื่อพบกันก่อนทำสัญญาซื้อขาย ก็ขอให้อธิบายเครือ่งนิ่ม/ช่วงล่างแน่น... ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไร ก็ให้สงสัยว่าเป็นพม่า จับใส่กรงไว้ก่อน รอส่งออก ...

-ทำสักพักพอได้ผลงาน ก็โดนไล่ออก หรือไม่ก็ลาออก เพราะเรื่องดังกระฉ่อนวงการไปแล้ว จึงไม่มีใครหลงกลใช้คำว่า "เครื่องนิ่ม/ช่วงล่างแน่น" อีก...เป็นความนึกฝันที่อยากให้เป็นจริง เรื่องอื้อฉาวนี้คงเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมบ้าง...แต่โดนไล่ออกจะเรียกเสียสละ หรือเสียรู้ ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พุธ, 5/10/2559 เวลา : 21:22  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78276

คำตอบที่ 134
      
-การได้เห็นความเจริญเติบโตในป.นี้ มีเวลาและโชคเป็นทุนรอนแรมมาครับ...

-การเข้าลานหรือลู่วิ่งมาตราฐาน แล้วเดินแบบไม่สนใจเร่งรีบติดตาม ทำตัวสบายๆในแบบแผนของโลก มีความ"ชุ่ย" เป็นสาเหตุครับ...

-การรู้จักรสนิยมอย่างดีคือการตีตั๋ว เพื่อติดตามกลุ่มผู้นำหน้าของโลก หรือท้าทาย เป็นได้ทั้งสองแบบครับ...

-การซื้อเทคโนโลยี อย่างไม่รู้ทัน(สักที) คือการผลาญเวลาและทรัพยากร และยังละลายอุดมการณ์ หรือหลักเดิมของชีวิตไทยที่คนชาติอื่นรู้จักครับ..

-นึกข้อเสียที่ต้องแก้ไขได้เท่านี้ ยกมาเป็นจุดสังเกต หากตรงก็ไม่ได้หมายความว่าผมเป็นหมอดู...แต่หมายถึง ท่านกำลังทำตัวย้อนศรบนไฮเวย์ โอกาสเกิดอุบัติเหตุจะสูงกว่าปกติมาก และดูเถื่อนในสายตาจากนอกประเทศด้วยครับ.....

-แต่มีข้อดีที่ถ่วงดุลย์ เหมือนยาแก้ไข้(เฉพาะหน้า) ที่ทรงอาการป่วยให้รอดูต่อไปได้ คือการเทียบเคียงกับต้นตอเดิมและดีกว่านั้น คือเหตุผลจากภายนอกป. เช่นกัน รู้ไว้เพื่อเข้าใจผลการเดินในเส้นทางนี้องศาหนึ่ง แต่อย่าถือไว้ให้หนัก เพราะคนในอดีตที่ถูกเรียก เจ้ายศเจ้าอย่าง หรือประกาศเป็นผู้ดีแท้จริง ตอนนี้เปลี่ยนทีท่าเป็นเก็บตัวแทน แสดงออกในบางที่และโอกาส หรือกึ่งลับ...เพราะความมีค่าตัวสูงคืออันตรายอย่างหนึ่งในแวดล้อมที่ยังเถื่อนอยู่(มาก)ครับ....

-ตัวอย่างสิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม คำตอบอยู่ที่คนเชื้อชาติ จีน/ลาว/อินเดีย ในไทย ซึ่งเป็นคนไทยตามหลักฐานประชาชนแล้วครับ...

-คือเมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศคือป.ที่เคยเป็นต้นทาง เขาจะพบว่าเริ่มไม่เหมือนกันในหลายอย่าง เช่น ฐานะ/มารยาท/รสนิยม ก้าวหน้ากว่าในผลด้านบุคคล ต่อสายตาท้องถิ่นเดิมครับ...

-จีน/ลาวหรืออินเดียอพยพ ที่เข้ามาชุบตัวในไทย เป็นคนระดับล่างในชุมชนเดิม หรือเทียบระดับผู้ใช้แรงงานประมาณนั้นในตอนเริ่มต้นในป.นี้ครับ ..

-และเมื่อกลับไปเทียวหรือเทียบกับคนท้องถิ่นเดิมปัจจุบัน ผลจะอยู่ในใจของทั้งสองฝ่ายที่เจอกัน ...การอยู่เป็นไทยจึงเป็นความก้าวหน้าในภาพรวมบุคคล เป็นเส้นทางที่ ดีและถูกต้องแล้ว....เพียงแต่ "ยังดีไม่พอ"..เพื่อตามผู้ที่เหนือกว่า(มาก)ในโลกนี้....ขอบคุณครับ.....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พฤหัสบดี, 6/10/2559 เวลา : 06:27  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78277

คำตอบที่ 135
       -ขอวางตัวอย่างให้นึกถึงเรื่องจริงเรื่องหนึ่งซึ่งผ่านไปแล้ว...เพื่อเตือนใจ อย่าให้ใครไปเรียกแบบนั้นกลับมาอีก....

-เกือบ 20 ปีก่อน ป.ไทยเจอวิกฤตที่เข้าใจยาก รัฐบาลจึงสั่งลดค่าเงินบาทลง เป็นเหตุการณ์ใหญ่มากในประวัติศาสตร์ไทยครับ...

-การเข้าใจยาก จึงมีการกล่าวโทษสาเหตุไว้หลายแบบ การลดค่าเงินบาทเที่ยวนั้น ทำให้ผู้ที่รู้ตัวล่วงหน้าก่อน เปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐีใหม่ได้ แต่นั่นคือผลต่อคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งหาประโยชน์จากเหตุการณ์นั้นเป็น...แต่ไม่ใช่สาเหตุจริงหรอกครับ....

-นักวิชาการระดับสูงของไทย เรียกเหตุการณ์นั้นว่า "ทุบเอเชีย" ...เป็นการสั่งสอน/เตือน ให้ไทยรู้ตัวในระดับคนงาน(บักเสี่ยวของโลก) เป็นคำเปรียบให้เข้าใจง่ายของนักวิชาการ(ไม่ใช่ของผม)ว่าฝรั่งเขาเตือนให้อย่าลืมระดับตนเอง....ลำบากกันผ่านไปแล้ว ถึงเวลาขาขึ้นบ้าง....นำมาเล่าเตือนความจำว่า มีผู้ที่มีอำนาจในโลกนี้ เวลาจับมือกัน ทุบแผ่นดินเอเชีย ยุบ/สะเทือน เคยเป็นผลไปแล้ว...อย่าท้าทายให้เกิดแบบนั้นอีกครับ...

-ภาษิตของฝรั่งเอง เขาบอกว่าอย่าให้ใครรู้ว่า(เรา)ยังอ่อนแอ โดยอย่าให้เขาเห็นน้ำตาโดยเด็ดขาด....เขาจะไม่ทำอะไรจนกว่าจะอ่านสถานะคู่ต่อสู้ออก...ดังนั้นขอให้ผู้ที่คิดว่ามีเหตุผล เผยแพร่การวางตนที่เหมาะสมกับไทย...ไปให้ทั่วๆด้วย...ถือเป็นงานส่วนรวม..แบบว่าช่วยๆกันไปครับ.....

 แก้ไขเมื่อ : 6/10/2559 14:20:10





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พฤหัสบดี, 6/10/2559 เวลา : 08:14  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78278

คำตอบที่ 136
      
-ขอวางเรื่อง(จากความจำ)เกี่ยวกับ retro car ในแบบของฝรั่ง...งานระดับสากลยอมรับ เพราะเมื่อเสร็จรถถูกส่งเข้าประมูลราคาในตลาดนักสะสมคือผลสุดท้ายครับ...

-ขอสมมุติส่วนที่ขาดหายไป เพื่อให้ได้เห็นวิถีทำงานของฝรั่ง ซึ่งต่างกับบ้านเราคือไปไม่ถึงระดับนั้นครับ....

-ทีมงานนำรถ ( CHEVROLET CAMARO) ซึ่งเป็นดรีมคาร์ตัวหนึ่ง มาปั้นใหม่ จากซากเก่าผุพัง ซ่อมเปลี่ยนของใหม่เกือบทั้งคัน ถ่ายทำรายละเอียดการทำงานต่อชิ้นมากกว่าสารคดี BUGATTI VEYRON เหมือนสอนทำด้วยในตัว (แทนที่เวลาทดสอบต่างของ veyron เพราะเป็นรถเก่า)..

-เมื่อผลงานแล้วเสร็จ เจ้าของประเมินคุณค่างานระดับ 90% (มาตราฐานสากล อาจเทียบเท่า ล้านเปอร์เซนต์ของไทยที่พูดเบี้ยวทั่วไป)...

-เป็นงานที่สร้างแผนไว้ก่อน รวมถึงคาดการณ์ราคาเมื่อแล้วเสร็จด้วย และถ่ายทำเป็นสารคดีสมบูรณ์แบบครับ...

-สมมุติเขาตั้งราคาควรไปถีง 250,000 เหรียญUS ...เมื่อส่งรถเข้าสู่ขบวนการประมูล ผลที่ได้คือ 225,000 เหรียญ ต่ำกว่าที่คาดการไว้ ทีมเขาก็รับสภาพต่ำกว่าเป้าหมาย แต่เขามีเงินค่าสารคดีปั้นรถคันนี้ เป็นรายได้มาช่วยอีกตัวหนึ่ง...และเขาพูดถึงโครงการปั้นตัวต่อไปด้วยครับ...

-เป็นวิธีของมืออาชีพ ซึ่งทุ่มเททั้งกายและใจ เหมือน(ซ่อม)งานศิลป ขึ้นมาขายในราคาที่โลกยอมรับ ไม่ใช่ตั้งราคาเอง เพราะเขาต้องการทราบระดับคุณค่างานที่ทำจริง ก็คือให้ตลาดสะสมด้านนี้โดยตรงเป็นตัวกำหนด และต้องยอมรับผลนั้น เพื่องานชิ้นต่อไปให้แม่นกว่าเดิม...ผมมองเป็นความเจริญระดับสูง ในไทยหัวข้อรถสะสมก็มี แต่เชื่อถือไม่ได้(เลย) ดังนั้น...จึงอยากนำมาเล่าเพื่อเป็นเป้าหมายให้ตามอย่างหนึ่งครับ.....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 พฤหัสบดี, 6/10/2559 เวลา : 20:43  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78279

คำตอบที่ 137
       -คนไทยเวลาขายสินค้า แบบไม่ประจำ/นานๆครั้ง...เช่นผลไม้จากสวนหรือในบ้านที่เหลือใช้/กินไม่ทัน ก็ตั้งโต๊ะหน้าบ้านวางผลไม้ไว้ และส่วนใหญ่ หรือเกือบทุกราย จะขายถูกกว่าตลาดทั่วไป/แถมง่ายอีกต่างหาก ...พบเห็นได้เรื่อยๆ แต่ไม่ประจำที่ใดที่หนึ่งครับ...

-และก็อาจเป็นบ้านเดียวกันที่เคยวางผลไม้ไว้ขายเฉพาะกิจ เวลาบอกขายรถ หลายๆรายก็ขายเองจอดหน้าบ้านเขียนป้ายไว้บนหลังคา และส่วนใหญ่ หรือเกือบทุกราย จะตั้งราคาแพงเท่าหรือกว่า เต๊นท์ระดับล่าง(ปนสภาพทั่วไป)...พบเห็นได้เรื่อยๆ แต่ไม่ประจำที่ใดที่หนึ่งครับ...

-มีความขัดแย้งในการขายของไม่ประจำ/นานๆครั้งในสองอย่างสมมุตินั้น คือสิ่งที่อยากให้สังเกต/หาคำตอบในใจดูครับ..

-ผมคิดเองว่าทุกอย่างเรียนรู้จากแวดล้อม ถ้าใช่หมายถึงตัวอย่างที่เกี่ยวกับวงจรของรถยนต์ มีตัวอย่างบิดเบี้ยวให้เรียนรู้/มองเห็น(ไว้ก่อนในใจก็คือใช่) ดังนั้นผมจึงระวัง และเตือนผู้อื่นเรื่องการเป็นตัวอย่างเสมอ เรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นสื่อทุกรายการทางทีวี จะระบุความเหมาะสมกับวัยที่สนใจดูให้ระวังด้วย ซึ่งแต่ก่อนไม่มี นั่นคือการเพิ่มการระวังตามความเจริญ เพื่อหลากหลายและรวดเร็ว จะไม่กลายเป็นการรับพิษมาด้วยครับ....

-ผมวางตัวอย่างหลายเรื่องเพราะเหตุนี้ เพื่อหักล้างตัวอย่างบิดเบี้ยวแต่นิยม "ใครๆก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้น"...เพราะวิธีรอดแบบอย่างนี้(ในไทย) คือรูปแบบที่จะถูกลงโทษในสากล...หากวันหนึ่งท่านมีความพร้อมที่จะส่งลูกหลานไปเรียนต่างประเทศ และในที่สุดก็ไปเสียชื่อที่นั่นเพราะเป็นคนไทย การมีเงินจึงไม่ใช่ความก้าวหน้าแท้จริงครับ....

---------------------------------------------

-ขอเพิ่มข้อความว่า...เมื่อหลักขายของไม่เป็นประจำตามตัวอย่างสมมุตินั้นขัดแย้งกัน....ผมเชื่อแน่นอนว่านิสัยหรือรูปแบบการขายผลไม้ คือเดิม หรือคือสิ่งที่เป็นสภาพจิตใจที่จริง ส่วนการขายรถ เป็นแบบอย่างใหม่ ซึ่งเลียนแบบมาจากแวดล้อม ขอใช้คำว่า โดยไม่เข้าใจ(ผลระยะยาว)ครับ....

 แก้ไขเมื่อ : 8/10/2559 8:50:28



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 เสาร์, 8/10/2559 เวลา : 07:13  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78280

คำตอบที่ 138
      
-ขออนุญาตวางข้อความ(หนัก)ต่อเนื่องเรื่องประวัติศาสตร์ไทย เพียงอยากขอให้ไม่ลืมนำมาเป็นบทเรียนสำหรับการก้าวเดินหน้าต่อไปครับ....

-ในตอนที่ไทยลดค่าเงินบาทลง ..ธุรกิจหลายอย่างพัง / ชะลอตัว ...ที่ยังประคองตัวอยู่ได้ ใช้วิธีลดเงินเดือนพนักงาน / งดขึ้นเงินเดือนประจำปี / งดโบนัสประจำปี....ส่วนที่ล้มกิจการ...ก็เจรจาขอจ่ายเงินชดเชยว่างงานให้ไม่ครบเช่นขอจ่ายเพียง 1-2 เดือน จากปกติคือ 3 เดือนขึ้นไป....อาจมองเห็นความลำบากทั่วไป แต่ไม่หมดทุกที่ ธุรกิจบางอย่างทรงตัวได้ เช่นสินค้าของกินของใช้ประจำวัน แต่ก็มีจำนวนมากที่ขอลดการจ่ายเงิน ตามกระแสในขณะนั้นด้วยครับ....

-เป็นเวลาเดียวกับที่ค่ายรถยนต์เยอรมัน เริ่มนำรถ SUV ระดับหรูเข้ามาขายในไทยอย่างเป็นทางการ....ผลคือมียอดสั่งซื้อจำนวนไม่น้อย และราคาก็ไม่น้อยเช่นกัน สมมุติว่าราวๆ 3.5-5.0 ล้านบาท / คัน....มีเจ้าของกิจการโรงงานระดับใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งปรับลดเงินเดือนพนักงาน และงดโบนัสประจำปี(โดยอ้างตามกระแสขณะนั้น)...ทนเรื่องแปลกใหม่ที่เพิ่งเข้ามาไม่ได้...ก็สั่งซื้อด้วย...โดยบอกลูกน้องระดับใกล้ตัวว่า..."เริ่มสนใจธรรมชาติ"...เป็นคำที่เสียดแทงใจ/ทำลายขวัญของผู้ไม่ได้รับโบนัสปีนั้น...เป็นเรื่องจริงที่ไม่ใช่ความผิด เพราะรวยมาก่อนตั้งโรงงานด้วยซ้ำ...เป็นเงินส่วนตัวที่ยอมจ่ายซื้อเรื่องที่เพิ่งสนใจ(แบบคล้อยตามวัตถุ/รถยนต์) / เงินส่วนรวมที่ไม่ยอมจ่ายโบนัส เป็นหลักการที่เกิดทั่วไป(คือส่วนที่กิจการควรได้บ้าง)....

-ก็สมเป็นนักธุรกิจ...ผมเล่าเพราะได้ฟังจากปากคนที่อยู่ในเหตูการณ์นั้น...รู้สึกสะเทือนใจ จึงไม่เคยลืม "เริ่มสนใจธรรมชาติ" และนำมาวางในกระทู้นี้เพื่อบอกว่า เป็นเรื่องของคนรวยที่ยอมปรับตัว เพื่อรถยนต์ที่อยากได้...หรือทาสค่านิยมนี้ มีผลรุนแรงในไทย ต่อคนทุกชั้นด้วย...และเหตุการณ์ก็บอกถึงคุณภาพผู้นำกิจการ แบบปลอมๆเช่นกัน จึงหมายถึงปลอมหมดสารพัดรูปแบบในไทยคือความจริงที่เกิดขึ้นไปแล้ว และหากไม่ให้เกิดขึ้นอีก ก็ต้องทำการบ้านกันแบบวิธีใหม่ๆ คือเอาคุณภาพเป็นหลักความสำเร็จ ให้เงินคือสิ่งที่ตามมาด้วยเอง คือถูกต้อง..กว่าตอนนี้(ยังป่าเถื่อนอย่างหัวสูง)อยู่ครับ....

-ช่วยกันระวัง...ไม่ต้องค้นหาวิธี...เพียงแต่อย่าลืมสิ่งที่เป็นบทเรียนที่เคยซื้อมาแล้วเท่านั้น วิธีเดินอย่างไรจะคิดได้เองครับ.....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 เสาร์, 8/10/2559 เวลา : 19:55  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78281

คำตอบที่ 139
      
-ผมยังใช้ประสบการณ์ชีวิต เล่าในแบบนิทานอยู่...ต่อเนื่องมายาว(เหลือเชื่อ) เจตนาวางไว้เฉยๆ ในยามที่อากาศของประเทศแปรปวน หมายถึงคงต้องอยู่บ้านรอผลธรรมชาติก่อน จะซักผ้า/แต่งตัวไปเที่ยวฯ....ครับ

-คำว่า "เข้าใจ"...คงคล้าย "อ่านขาด"(แสลง)...แต่น้ำหนักต่างกันอาจมากด้วย...เช่น เข้าใจระดับขั้นพื้นฐาน/ดี /เข้าใจจริงเปล่า ฯ ส่วนคำว่าอ่านขาด ใช้ตอนผลออกมาตามที่คิดไว้ก่อนแล้ว หมายถึง เข้าใจถูกต้อง/แน่นอน...ครับ

-คนไทยเดินเป๋ไปเป๋มาตามเป้าหมายที่มีแต่พวกเอาเปรียบและเห็นแก่ตัว และที่ป.นี้ การโน้มน้าว ใช้กันเป็นขนม/กระเทียมในอาหาร คือใช้อย่างพร่ำเพื่อ เรา(คือผมหรือท่าน) ไม่รู้สึกว่ากำลังโดนพิษ เพราะชินตา หรือมีอยู่ทั่วไปครับ...

-การเลียนแบบที่ไม่เข้าใจ ทำให้ผลงานระดับคุณค่าสูงไปไม่รอดในป.นี้ ไม่ใช่เพราะไม่มีฝีมือ แต่ไม่เข้าใจความหมายต้นแบบต่างหากคือต้นเหตุครับ...

-ตัวอย่างคือนิยายจีนเรื่อง "ฤทธิ์มีดสั้น" มีเนื้อเรื่องกินใจเกี่ยวกับการต่อสู้ ซึ่งไม่ใช่ผลแพ้ชนะอย่างเดียว เป็นนิยายคลาสสิคที่โดนอ้างถึงใน นิยายเรื่องต่อไปที่ไม่ใช่เรื่องเดิม...คือนิยมครับ...

มีแวดล้อมเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายอย่างๆหนึ่งคือ ผู้แปลเป็นไทย ให้ความเห็นตอนที่นิยายยังไม่ดังว่า เป็นเรื่องที่มีเค้าโครงเลียนแบบนิยายของฝรั่งมา..ดัดแปลงใหม่เป็นเรื่องใหม่ครับ...

-มีการสร้างเป็นภาพยนต์ ทั้งจอใหญ่และทีวี หลายๆครั้งเหมือน"บ้านทรายทอง"ของไทย และถูกผู้สร้างฯดัดแปลงจุดสนใจให้เหมาะกับการขายทำเงินหลายแบบเช่นกัน...ผมจึงได้ดูหลายแบบตามไปด้วย...ทั้งๆที่เรื่องจริงมีแบบเดียวครับ...

-เช่นลี้คิมฮวง มีมีดสั้นเป็นสิบ ปล่อยเข้าหาเป้าได้มากมาย บู๊ล้างผลาญ/เหนื่อยสาหัส ก็แบบหนึ่ง...ซึ่งตรงกันข้ามกับความหมายของนิยายลึกซึ้ง หมายถึง นำไปสร้างอย่างไม่เข้าใจครับ....

-ตอนสามารถ พยัคอรุณ ขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์มวยสากลครั้งสุดท้าย ได้ชกผู้ท้าชิงโดนนับในยกที่หนึ่ง และโดนน็อคเสียแชมป์ในยกต่อมา...

-มีคนดูอยู่หน้าจอทีวีถ่ายทอดสดทั่วป. ผมเดินผ่านกลุ่มหน้าจอตอนไทยแพ้ไปแล้ว...เสียงคนดูหน้าจอแก้วโวยวายกันใหญ่ว่า "ล้มมวย" บอกผมว่าชกผู้ท้าชิงนับไปก่อนแล้ว มากลับลำโดนน็อค....

-หากมีคนที่ติดตามผลแชมป์คนใหม่ ใช้เวลาอีกเป็นปี เขาก้าวรุ่นเล็กกว่าขึ้นมาชิงเข็มขัดสามารถ และข้ามรุ่นขึ้นไปอีกและอีก...ผมหมายถึงนักมวยคนนี้ ไม่ธรรมดา เขาเป็นนักมวยอัตรายระดับฮีโร่ แบบเดียวกับแมนนี่ ปาเกียว ในช่วงสุดฮิตที่พึ่งผ่านไปแล้วครับ....

-คุณสามารถ โดนด่าฟรี จากผู้รู้ข้างถนน แพร่ข่าวไปในวงการเชียร์มวยด้วย...ผมว่าอดีตแชมป์ชาวไทย ซวยที่เป็นไทยตรงนี้ครับ....

-ในปัจจุบัน มีคนนำประวัตินักมวยท่านนี้ ทำเป็นภาพยนต์ หมายถึงประวัติมีน้ำหนักพอจะทำเงินได้...ในที่สุดก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันครับ...

-แต่คนที่วิจารณ์ในวงกว้างซึ่งวางตัว"เข้าใจ"ในตอนนั้น คือผู้ไม่เข้าใจในที่สุด..มีมากมายจนเป็นธรรมดาของป.นี้ครับ...

-(เข้าใจจริงเปล่า)คือตัวอย่างคิดครับ...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อาทิตย์, 9/10/2559 เวลา : 07:28  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78285

คำตอบที่ 140
       -รูปในคต.ก่อน คือการนำ(ผ้าห่มขน) มาห่อสายนำสัญญาน เป็นเรื่องตามที่ไม่เข้าใจอีกเรื่อง ที่ไม่ได้มีผลแค่ความสบายใจ(นิดเดียว) แต่เป็นแบบอย่างหลงทาง ที่แจกฟรีเหมือนลูกกวาดที่ต้องแกะห่อ(ทิ้ง) มีหลักฐานเหมือนรอยชี้ต่อไปเรื่อย..เหมือน "เหล็กกันโคลง" ที่ชื่อใช่ แต่หน้าที่ไม่ใช่ ก็มีคนก้าวตามไป มองเป็นภาพเท่ห์ หรือน่าสมเพช ..อยู่ที่ใครมองครับ...

-รถยนต์คือเงื่อนไข ที่ต่างกับบ้าน ของที่ออกแบบมาใช้ในรถทั่วไปยันเครื่องบินจะต้องมีพื้นที่ช่องทางจำกัด และเหมือนๆกันทุกคัน ถ้าต้องมาแก้เพิ่ม ไม่ได้หมายถึงปรับปรุง แต่หมายถึงการไม่เชื่อใจว่าดีพอเป็นรูปแบบนิสัยรั้นหรือปกครองยาก ที่จะสะท้อนไปในหัวข้ออื่นด้วยครับ....

-ขอเปลี่ยนเรื่อง...มีความเชื่อ(ตามฝรั่ง) ว่าอาหารจีนอร่อย ติดระดับโลกโดยตลอดมา...เป็นเรื่องจริงครับ...

-แต่ปัจจุบัน ผมถามนักท่องเที่ยวไทยเชื้อสายจีน ที่ไปเที่ยวต้นทางแหล่งอาหารจีนอร่อยมา....ได้คำตอบว่าวัตถุดิบในการทำอาหารดีกว่าคือใช่ แต่รสชาติแบบอาหารจีนในไทยถูกใจกว่า...

- คำตอบนี้ แยกอร่อยกับของดีออกจากกัน เป็นลางดีระดับประเทศเช่นเดียวกันครับ....

--------------------------------------------------

-ขอเพิ่มข้อความเรื่องผ้าหุ้มสายนำสัญญาน คือการอธิบายเหตุผลจะใช้ข้อความยาว แต่ติไว้อย่างเดียวก็กลัวไม่เกิดผลใดๆนอกจากยิ่งงง ก็ยิ่งบาปไปกันใหญ่.... ขอลองย่อที่สุดคือ...

-สายนำสัญญานถูกกำหนดให้มีอิมพิแดนซ์ตามการใช้งานเช่น75โอห์ม ในการรับ 50 โอห์มในการส่ง... ราคาเป็นตัวกำหนดคุณภาพหลายข้อเช่น เป็นสื่อดี/ทนหลายปีไม่เปลี่ยนค่า/แข็งแรงพอรับการกระทบเวลาติดตั้งในที่คับแคบ ฯ

-ผ้าขนที่นำมาหุ้ม ไม่ได้ช่วยอะไร และเก็บความชื้นได้ด้วย และหากใช้เป็นตัวป้องกันการกระทบสายนำ ขนาดที่โตขึ้นจะยิ่งเป็นผลลบมากกว่าบวก เช่นอยู่ใต้พรม จะโปนขึ้นมามากครับ

- สายนำมีข้อต่อที่เป็นจุดรั่วได้ เช่นใช้ของคุณภาพต่ำ(ราคาถูก) หรือสายถูกกดทับจนแบนหรือคอด ก็คือจุดที่อิมพิแดนซ์เปลี่ยน จะเป็นจุดขัดข้องได้ครับ...


-หากอยู่ดีๆมีคนให้(กล้วย) ท่านคงไม่ยอม เพราะเข้าใจว่าหยาบคาย/ล่วงเกิน แต่หากมีพระหรืออาจารย์ดัง ให้ท่านกราบไหว้ปลัดชลิก(ก็คือกล้วยนั่นเอง) ท่านทำไมจึงยอม เดาว่าเพราะไม่เข้าใจนั่นเอง...ให้ความร่วมมือแต่ไม่เข้าใจ และ+ความเชื่อถือผู้ให้ด้วย...

-การได้กล้วยมาทั้ง 2 แบบ ได้ผลลัพธ์ต่างกันมาก คนฉลาดเขารู้ และเขาอยากทำอะไรสักอย่างให้คนอื่นรู้ว่าเขาเหนือกว่าท่านได้ โดยการให้กราบไหว้ปลัดขิกหรือกล้วย เวลาเล่ากันลับหลังใครก็ต้องยอมรับเจ้าของอุบายนี้เหนือชั้นกว่า ฮากันตัวงอได้ อีกต่างหาก...

-การให้ความร่วมมือกับแฟชั่นแปลกๆ เกิดขึ้นเพราะความอยาก..ไปเจอกับเจ้าเล่ห์ จึงมีผล เรื่องเครื่องเสียงเป็นวิทยาศาสตร์ ผ้าหุ้มสายนำไม่มีในทฤษฎีที่เป็นสมการ แต่เป็นมุขของตลกได้เป็นครั้งคราว กับบางคน...เหตุผลง่ายๆคือสายนำสัญญาน ไม่ใช่สายไฟๆถ้าจำเป็นนำมาใช้เป็นสายนำชั่วคราว อาจได้โดยใช้กรรมวิธีบางอย่างช่วยให้เกิดอิมพิแดนซ์คงที่ ซึ่งอย่างไร ก็ไม่ใช่ผ้าขนซึ่งพันหนาบ้างบางบ้างอย่างแน่นอนครับ....

-เป็นการชี้เหวให้รายการหนึ่ง...ความอยาก/ความไม่เข้าใจ จะทำให้ท่านเป็นเหยื่อได้ แบบหน้าอายด้วย .. สายนำ 75 โอห์ม ราคาเมตรละ 10 บาทก็มี 1000 บาทก็มี สิ่งที่ดีคือสเถียรในภาวะต่างๆ เช่นค่าคงที่ยาวนาน ทนต่อความร้อน/ความชื้น ทนการกดทับ แข็งแรง/ทนทานนานหลายปี ฯ ยิ่งแพงก็ยิ่งสเถียร...แต่ก็ในค่าความต้านทาน 75 โอห์มเท่ากัน คือเหตุผลในช่องทางนี้ครับ.....




 แก้ไขเมื่อ : 10/10/2559 14:53:23





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 จันทร์, 10/10/2559 เวลา : 06:29  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78286

คำตอบที่ 141
      
-การเล่นรถในไทย หลายๆแบบ ก็หลายๆกลุ่มๆออฟโรดมองดูมีทักษะแบบ DIY สูงกว่ากลุ่มอื่น...เป็นส่วนที่ดีที่ควรรักษาเส้นทางปฏิบัติไว้ครับ..

-รูปแบบเรียบง่าย ดูน่าไว้ใจมากกว่าฉูดฉาดเข้ม คือผลของขอบเขตต่างขั้น...แต่เป็นที่น่าเสียใจ ที่กลุ่มที่ชอบยกมือเชียร์ เป็นกลุ่มจิตไม่ปรกติ ที่ยังไม่ถูกควบคุม อาจเพราะสังคมยังไม่สามารถพอจะแบ่งหรือกักหรือลงโทษ หรือตัดสินการเดินนอกทิศทางกำหนด...เมื่อทางกว้าง การแสดงออกจึงเป็นจุดเด่น และตัวอย่าง และสิ่งนี้คือข้อด้อยของกลุ่มออฟโรดที่ เกินร่องเกินรอย กว่ากลุ่มอื่น มาเป็นตัวถ่วงในภาพรวมครับ...

-เช่นระเบียบบังคับขนาดล้อเพื่อเข้าเขตป่าถูกกำหนดแล้ว แต่ควบคุมผลไม่ได้ รถล้อโตกว่าข้อบังคับ ยังเป็นภาพนำทางอยู่ ความหมายคือละเมิด ถ้าจำนวนน้อยเขาเรียกลักลอบ ถ้าจำนวนมากมากเขาเรียก "เถื่อน" ครับ...

-ตัวอย่างคือกฏหมายไม่มีความหมายต่อโจร...ในขณะที่ของหรูหรายังเป็นเป้าหมาย/ข่าว ให้ติดตาม...เตือนกันระยะใกล้ไม่ได้ยิน อาจมีเสียงเตือนระยะไกลมาในภาพรวม(โลก) เหมือนเรื่องเต่าทะเล ที่ไทยต้องลงทุนปฏิบัติให้เห็นภาพทำงาน เพื่อแลกกับการส่งออกกุ้ง....แลกกันแบบนี้ไม่ใช่คามร่วมมือ แต่เรียกว่าถูกบังคับ และชีวิตอะไรที่ต้องถูกบังคับ...ดังนั้นสิ่งที่ควรเข้าใจคือ ความเหนือชั้น หรือเทพทั้งหลาย ที่นอกระเบียบ ต้องเงียบครับ..(เหมือนนักเรียนวัยรุ่นที่เริ่มแต่งตัวผิดระเบียบ ก็หลบไปวันๆ ครับ...

-ความหมายคือ...อย่าทำให้คนต่างชาติ เห็นว่าไทยใช้เสรีภาพแบบเถื่อนหรือไม่ให้ความร่วมมือในส่วนรวม ...ถึงเวลาแล้วครับ...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 58.10.219.85 อังคาร, 11/10/2559 เวลา : 06:43  IP : 58.10.219.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78288

คำตอบที่ 142
      
-ขออนุญาตวางข้อคิดที่ไม่อยากให้ลืมความหมายในแบบออฟโรดครับ...

-คนไทยชอบแต่ง/สะสมรถทุกชนิด มีอันดับโลก....มีทั่วไป...โดยมีเรื่องทั้งจริง/ไม่จริง วางตัวไปด้วยกัน(เสมอ)การตลาดจึงมีผลเชื่อถือได้น้อย ไม่เหมือนการคลื่นไหวซึ่ง(คึกคัก) คือสิ่งที่อยากชี้ให้สนใจแคร์ผลนิยมนี้บ้างครับ...

-สมมุติมีการนำรถรุ่น..มีน้อย / หรือรถปั้นจนแปลกตา ลงรูประยะไกลให้ชม ผู้รับรู้ก็รีบชมและชื่นเป็นคำยอกลับทันที(ทักทาย) มองดูเป็นการให้กำพลังใจได้ครับ..

-หากเพิ่มเนื้อเรื่องให้ละเอียดเข้าไปในการโชว์นั้น(แนะนำ).... เช่นเพิ่มรูป และแจ้งรายการแต่ง/ปั้น เป็นรายการหรือหัวข้อ(นำเสนอ).....เฮกันไปเฮกันมาระหว่างแลกเรื่องราวกัน(เจตนาผลเช่นนั้น) ...หยุดเป็นความทรงจำสำหรับนักอ่านทุกคนที่พบข้อความและรูป(แบบอย่าง)......

-ต่อมาเพิ่มขยายเป็นบทวิเคราะห์ เพื่อคนกลุ่มอื่นด้วย เช่นรายละเอียดมากขึ้นในรอบด้าน(สากล) ความรู้สึกชื่นชมและยินดีและเออออ เปลี่ยนเป็นจุดสังเกต ไม่เหมือนเดิม(เหมือนรายงานหรือreport)...

-ความรู้สึกต่อเรื่องจะเริ่มถูกหักล้างกับของเดิม....เช่นรถสะสมบางรุ่น ที่ขาดอะไหล่ แต่โชว์ตัวในแบบปกติครบ(ปกปิดส่วนบกพร่อง) การนำเสนอหรือ ให้กำลังใจกันทันทีที่เห็นแบบไม่วิเคราะห์...ฝ่ายใดเป็นตัวทำผลปลอมขึ้นมาเป็นตัวอย่าง....และคำว่ารอยขัดแย้ง คือคำสบประมาทเรื่องส่วนตัวใช่เปล่า และคำถามที่สุดคือ กาละเทศะของเรื่องแบบนี้ผิดที่ใคร(ก่อน) และผสมโรง/โหมโรงไปเป็นเรื่องมีน้ำหนัก เป็นเจตนาของใคร และแก้ไขได้อย่างไร...อยากขอให้คิดตามครับ....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.199.222 อาทิตย์, 23/10/2559 เวลา : 06:29  IP : 49.48.199.222   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78325

คำตอบที่ 143
      
-ขอวางความเห็นสำคัญครับ...

-วันหยุดที่ผ่านมา ผมได้เจอสมาชิกในครอบครัวซึ่งไปทำงานที่กรุงเทพฯ..นำข่าวต่างประเทศทางทีวี มาเล่าว่าโลกภายนอกยกย่องในหลวงฯ ...

-(เรื่องเล่า)ช่วงเวลาคงราวๆลดค่าเงินบาทไทย มีเหรียญที่ระลึกของในหลวง ร.9 ผลิตเป็นเงินแท้ และมีขนาดเล็กผลิตจำหน่ายให้สะสม(เหมือนที่ผ่านมาแล้วหลายๆรุ่น/แบบ) ผมได้นำไปหุ้มกรอบและทำขอบทอง(เป็นงานสั่งทำแบบเรียบๆแต่ไม่ใช่ของสำเร็จรูป) และให้สมาชิกในครอบครัวไว้ คนละเหรียญ(พร้อมกันอาจเป็นวันปีใหม่)..และบอกว่า"สำคัญ"ในอนาคต..... ผมบอกว่าไทยเชิดชูบุคคลสำคัญในอดีต เช่นสะสมเหรียญที่ระลึก ร.5 /พระนเรศวร / พระเจ้าตากสิน ฯ และหยุดแค่นั้นตลอดมายังไม่มีเพิ่ม.....

-คั่นด้วยวิธีคิดมาจากการอ่านบทสัมภาษณ์เศรษฐีไทยท่านหนึ่ง เป็นความเห็นเรื่องการสะสมนาฬิกาของเขา(งบรวมในเรื่องนี้กว่าร้อยล้านบาทไทยในตอนนั้น)..หมายถึงความเห็นนักสะสมแนวหน้าของไทยท่านหนึ่งครับ...

-ท่านกล่าวถึงความหมายสำหรับท่านไม่ได้อยู่ที่เรื่องบอกเล่าจากอดีต หรือนาฬิกาเก่า แต่อยู่ในการเห็นเองคือรุ่นปัจจุบันตามยุคเวลาของท่านเอง ความพอใจต่อคุณค่าของนาฬิกาใหม่ในยุค(นี้) จะถูกยอมรับหรือไม่ ผลอยู่ในรุ่นถัดไป เมื่อเป็นของเก่าตกทอดสู่ลูกหลานท่านเอง ความหมายคือท่านเก็บของที่ได้เลือกคุณภาพดีด้วยตนเอง ไม่ใช่ด้วยคำบอกเล่าของคนในรุ่นก่อน...เป็นวิธีที่ผมเข้าใจในอีกหลายปีต่อมาครับ...

-การนำเหรียญที่ระลึก ร.9 ไปทำเป็น ของประดับ(ห้อยคอด้วยสร้อย) มาจากตัวอย่างนั้น ผมบอกสมาชิกว่า เรารับรู้ว่า ร.5 ท่านมีคุณต่อป.ไทย จากการบอกเล่าของคนรุ่นก่อน แต่เราเห็นคุณค่าของ ร.9 ด้วยตัวเราเอง คือเหตุผลครับ...

-จำได้ว่าบอกด้วยว่าวันหนึ่งข้างหน้า ร.9 ของชาวไทยจะ(ดัง)กว่า องค์อื่นในอดีตที่ผ่านมา...เรื่องนี้เกิดขึ้นในครอบครัวผมนานเกิน 15 ปีแล้ว เมื่อถึงเวลานี้ ผมจึงภูมิใจตนเองที่คิดถูก บอกสมาชิกในครัวเรือนว่า(ในเวลาปัจจุบัน) ว่า.... G7 (คือแกนหลักของโลก) รู้จักป.ไทยโดย ร.5 คือสัญญลักษณ์สำคัญของไทยในอดีต ...และยอมรับ ร.9 คืออำนาจ(ความรัก)ที่ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน "ยอมรับ" เหนือกว่า "รู้จัก".... เป็นความก้าวหน้า(แท้)ของคนไทยครับ...

-ดังนั้น(บอกสมาชิกในครอบครัวว่า) ไม่ต้องเล่าว่าต่างประเทศเขาสรรเสริญในหลวงอย่างไร เพราะเราคือไทยทุกคน ต้องรู้ดีกว่าเขา เพราะเห็นเองครับ..

-มีเรื่องขอร้องท่านที่ได้อ่านข้อความนี้ไว้ล่วงหน้าว่า...ประวัติศาสตร์ของไทยเรื่อง ร.9 นั้นดีจนคนทั่วไปยอมรับไปแล้วในระดับสากล...จึงขอให้ระวัง อย่าเติมเนื้อเรื่องจนเกินจริงเข้าไปบวกเพิ่มอีก(ตามสไตล์ไทย) เพราะจะควบคุมผลไม่ได้ อาจกลายเป็นเสียสิ่งที่เป็นเรื่องจริง(แท้)ไปด้วย ขอเพียงเข้าใจว่าผลสูง(สุด)อยู่แล้ว เพราะระดับสูงคือสากลยอมรับ ไม่ใช่แค่ไทยพอใจกันเอง(แบบไหนก็ได้) คุณค่านี้ขอให้ดำรง(แท้)คู่กับประวัติของ ร.9 เองตลอดไปครับ...

-หมายถึง(ช่วยกันดูแลเรื่องจริงให้ดีเท่านั้น ไม่ต้องแต่งเติมเสริมอิทธิฤทธิ์เข้าไปเหมือนเคยผ่านมา)....ขอบคุณครับ




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.199.222 อังคาร, 25/10/2559 เวลา : 06:45  IP : 49.48.199.222   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78332

คำตอบที่ 144
      
-หลังการสูญเสียสิ่งดีงามที่โลกยอมรับ ...สิ่งที่ชาวไทยควรรู้ตัวด้วยคือ การยอมรับบุคคลระดับยิ่งใหญ่ เป็นผลเฉพาะ ที่ผ่านมาคือใต้ร่มเงาผู้เป็นหลักที่โลกยอมรับ...ซึ่งจากไปแล้ว...ชาวไทยที่เหลืออยู่ไม่ใช่ผู้ที่ G7 ยอมรับ และนี่คือโอกาสอย่างหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อเขามากขึ้นกว่าที่ผ่านมาครับ..

-การแทรกแซงและเอาเปรียบแบบใส่สูทปล้น คือชนวนความเกลียดที่มีผลในปัจจุบันในที่อื่นๆ ...ที่ยังควบคุมได้ เพราะ 2 ขั้ว ไม่คู่ควรเปิดศึกกลางแจ้งกันได้ คือเหนือกว่ากันมาก การลอบก่อวินาศภัย คือคำเตือนในความแค้นของผู้ที่เคยถูกทำให้แค้น...ในอดีต แต่เส้นทางอำนาจ เป็นรูปแบบอย่างนั้น เป็นยุทธวิธีเย็นเยือกโหดเหี้ยม แบบใหม่ที่ไม่เหมือนสงครามล่าอาณานิคมในยุคโบราณ แต่ผลก็ไม่ต่างกัน...หรือจุดประสงค์คล้ายกัน แต่รูปแบบเปลี่ยนไป ซับซ้อนขึ้นมาก เพื่อให้การบันทึกประวัติศาสตร์จะสับสนหรือตามไม่ทัน หรือมีฉบับสมบูรณ์ในมือคนที่กำหนดการหมุนของโลก ส่วนที่อยู่ในมือผู้ที่หาอ่านได้ทั่วไป เป็นฉับตกหล่นหรือไม่ครบจนเนื้อเรื่องเปลี่ยนไปเอง เท็จที่เหมือนจริง คือการพัฒนา(บทบาทร้าย)ของผู้นำของโลกนี้ครับ...

-เช่น...มีแต่ผู้ที่สมควรตาย แต่ไม่มีผู้ตัดสินให้ตายคือ...กลยุทธแบบใหม่นั่นเอง...

-ในขณะที่เทคโนโลยีไหลเข้ามาในประเทศที่ด้อยกว่าคือไทย ..ถูกชี้ให้เป็นความสำคัญที่ต้องตามเช่นตำราภาษาอังกฤษเป็นหลักศึกษาทฤษฎี ...มีสินค้า/ผลงานเป็นรูปกระทำของตำรา...แต่ถูกคั่นด้วยการปลอมปน ในมือแรกๆที่ได้ของ คนที่เรียนรู้ท่องสูตรนอก/มองของปลอม/ปนในไทย ...ตามเท่าไรๆก็ไม่เคยทัน จนวันหนึ่งได้พบกับต้นแบบเจ้าของสูตร/ตำรา จึงปรากฏว่าเรียนรู้มาไปคุยต่อกับเขาไม่ได้...เพี้ยนจนเขาไม่อยากคุยด้วย ชี้ให้มีล่ามหรือหัวหน้าคนงานไปพูดกับเขา เวลาทั้งหมดในการติดตามเทคโนโลยี จึงสูญเปล่า พร้อมรางวัลเรียนซ้ำชั้นทั้งชาติอยู่อย่างนั้น....นี่คือความหมายหรือผลที่แท้จริงของการปลอมปน ที่ไม่ใช่การยักยอกเงินส่วนหนึ่งเท่านั้น...การเห็นแก่ตัว(เท่านั้น)+ เคารพความรู้น้อยกว่าเงินหรือประโยชน์ชั่ววูบ...ทิศทางเปลี่ยนไปทั้งโขยงเลยครับ...

-วันนี้ไม่มีร่มเงาระดับสากลอีกแล้ว (อาจ)เดือดร้อนได้ง่ายกว่าเดิมมาก...คือสิ่งที่อยากให้ช่วยเตือนกันให้รู้ตัวครับ....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.194.136 อังคาร, 25/10/2559 เวลา : 21:23  IP : 49.48.194.136   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78333

คำตอบที่ 145
      
-ผมลืมยกตัวอย่างชัดเจนให้เข้าใจง่ายว่าสิ่งปลอมปนในไทยคือหรือเช่น...สภาพดีคือ 70%สากล ไทยหมานเรียก 90 % /สภาพ 80%สากล ไทยหมานเรียกสภาพเทพ 99.99% เหนือกว่านั้นไทยหมานเรียกล้านเปอร์เซนต์...ที่นี่..จึงมีแต่ของแท้ให้ซื้อใช้ในวงแคบๆลับๆ(ไฮโซ) และ ไม่มีวันที่จะผลิตของแท้หรือเทียบเท่าของแท้ได้ เพราะหน่วยเรียกไม่มี(ตัวตน) จึงมองไม่เคยเห็นว่าเป็นอย่างไรครับ...

-ตัวอย่างคือสารคดีในกระทู้นี้....ยนตรกรรมระดับ BUGATTI VEYRON มีวิ่งในไทยได้(อย่างน้อยมีแล้ว 1 คัน) แต่ไม่มีโรงงานในนามของไทย หรืออู่ระดับใดในประเทศที่เป็นของไทย จะสร้างงานระดับนั้นได้...ซื้อมาวิ่งได้ แต่ผลิต(ไม่มีทางทำ)ได้...คือสมควรหรือไม่ครับ...

-ขอให้เริ่มจากไทยหมานทั้งหลาย ทิ้ง(น้ำ)ลายบ้าง เลิกวาดลวดลายด้วยปาก แล้วเริ่มต้นใช้มือเหมือนชาวโลกทั่วไป ผลงานที่เหมือนจริง หรือทัดเทียม จะเริ่มมีโอกาสได้เกิดขึ้นบ้าง ..หรือไม่ก็ต้องหยุดขยายพันธ์ ตามที่รัฐบาลไทยวางแนวทางที่ไทยควรเป็น...ถึงเวลาเลือกแล้วครับ...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.194.136 อังคาร, 25/10/2559 เวลา : 22:47  IP : 49.48.194.136   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78334

คำตอบที่ 146
      
-บทสัมภาษณ์ของผู้มีส่วนกำชะตากรรมวงการละครไทยทางทีวีต่อนักข่าวไทยก่อนขึ้นเครื่อง เรื่องไม่พลาดเทศกาลภาพยนต์ที่เมืองคานต์ เป็นสิ่งที่ยังจำได้ดีครับ.... ซึ่งคำตอบเหมือนติดตามความก้าวหน้าของโลกอยู่ไม่ห่าง...แต่คุณภาพละครไทยในทีวี ไม่มีความก้าวหน้า(เลย)มานานมาก อยู่ระดับใดก็ระดับนั้นตลอดมาคือความจริงครับ.....

-เมื่อมองความเห็นของวิศวกรในทีมสร้าง BUGATTI VEYRON ในสารคดี เหมือนพบแพทย์เฉพาะทาง ให้เหตุผลเป็นส่วนๆ อย่างน่าเชื่อถือ แม้จะดูซ้ำหลายรอบ ก็ยังนำคำอธิบายนั้นมาเป็นความรู้(จริง)ได้บ้าง หมายถึงมีหลักเทียบให้เห็นทั้งในเนื้อเรื่องและกับแวดล้อมอื่นในใจที่มีอยู่แต่เดิม...เป็นสารคดีระดับสากล ที่สร้างความหมายหลายอย่าง เป็นความเหนือชั้นในส่วนประกอบของความสำเร็จของงานสร้าง VEYRON ด้วยครับ...

-นำความเห็นต่อเรื่องที่ทำ..จากหนึ่งในทีมวิศวกรสร้างของโฟล์ค สวาเก้น ไปเทียบกับความเห็นเศรษฐีไทยผู้บริหารวงการภาพยนต์ ความรู้สึกผมเหมือนผลทางความเชื่อถือ ต่างกันมาก(มาย) เมื่อนำไปคิดกับแวดล้อมอื่นๆ อาจเห็นภาพลางๆของศักยภาพที่ต่างกัน แต่วางตัวเท่ากันได้ง่ายขึ้น เหมือนป.โทไทยทำงานในระดับเดียว ม.ปลายของคนยุโรป...เหมือนความลวงโลกจะเติบโตได้ดีในป.นี้ครับ....

-ขอตอกย้ำให้เข้าใจสถานะตนเองอีกครั้ง เพื่อให้มองหาวิธีก้าวออกจากจุดยืนอันตรายนี้ หากไม่ใช่เพื่อตัวท่านเอง ก็เพื่อคนที่ท่านต้องรับผิดชอบเขาในตอนนี้ ในผลของอนาคตของเขาบ้าง....ขอบคุณครับ.....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.194.136 พุธ, 26/10/2559 เวลา : 05:48  IP : 49.48.194.136   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78335

คำตอบที่ 147
      
-ขออนุญาตเพิ่มความเห็นต่อ อดทนอ่านมายาวนาน อีกนิดเดียวคง(ตัน)แล้วครับ....

-ผมเขียนเรื่องป้าย"ห้ามเข้าทรง" ที่จุดสักการะกรมหลวงชุมพรฯไปแล้วในคต.ก่อน.. อยากขอย้ำเตือนความสำคัญ(ยิ่ง)ว่า นั่นคือเจตนาแท้ของบริวารใกล้ชิดของท่านฯ หมายถึงรู้จุดประสงค์ของกรมหลวงชุมพร จึงทำป้ายห้ามเข้าทรงในนามกรมหลวงเสด็จมา ง่ายๆคือเกิดของปลอม/อ้างเบื้องสูง และมีเพียงไม่กี่สถานที่ ซึ่งต่อต้านเรื่องนี้ได้จากคำว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" อ้างคำนี้แล้วกิจการเข้าทรงรุ่งเรืองเลยครับ.....

-ความหมายคือกรมหลวงชุมพรฯ ท่านไม่ได้ทำหรือต้องการแบบนั้น แต่เหตุการณ์พาไปแบบเข้าข้างกลโกง น้องๆเลือกตั้งซื้อเสียง ได้ผีดูดเลือดเป็นตัวแทนราษฎร...ทำนองเดียวกันครับ...

-จึงขอร้องซ้ำว่า ร.9 ท่านคงคิดแบบเดียวกับกรมหลวงชุมพรฯ(ซึ่งห้ามปรามมุขนี้ไม่อยู่) ขอให้นับความเห็นสากล หรือกรรมการตัวจริงเป็นสำคัญอย่างนั้น หากรักในหลวงจริง อย่าแต่งเติมเรื่องทำให้ท่านเสียหายด้วยแบบอย่างที่เคยเกิดไปแล้วครับ....



-เมื่อท่านเดินทางเข้าสู่อาณาเขตของสำนักสงฆ์ ในแดนทุรกันดาร ท่านอาจต้องการคนนำทางบอกวิธีปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับสถานที่แห่งนั้น หมายถึงเคารพแต่ไม่แน่ใจวิธี ณ สถานที่เฉพาะกิจสงฆ์แบบหนึ่ง(ถ้าใช่ เก็บคำตอบไว้ในใจก่อน)....

-เมื่อท่านเดินทางเข้าสู่วัดทีมีสิ่งก่อสร้างแบบอย่างมั่นคงและสวยงาม อาจทำให้เกิดศรัทธาในการสร้างผลงานนั้นเพราะเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยครับ...

-ในสถานที่แบบนี้ (ผมเชื่อว่า)ท่านไม่ต้องถามธรรมเนียมปฏิบัติต่อใคร หมายถึงรู้วิธีวางตนอย่างไร และบริจาคได้ที่ตรงไหน ตามกาลเทศะของสถานที่นั้น...นำผลของสองสถานที่ไปเปรียบเทียบหาคำตอบว่าวิธีใดคือแบบอย่างที่มั่นคง(กว่า)ได้ในเวลาต่อๆไป....เป็นเรื่องที่อยากชวนคิดในใจครับ...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.194.136 พุธ, 26/10/2559 เวลา : 20:03  IP : 49.48.194.136   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78336

คำตอบที่ 148
       -...ถามคำ-ตอบคำ...คือ(แค่)รักษามารยาท... / ถามคำ-ตอบสองคำ...คือเต็มใจ-เป็นห่วง... / ถามคำ-ตอบหลายคำ มีใจชอบหรือมีเจตนาอย่างใดอย่างหนึ่ง.....

-ตอนเป็นนักวิทยุสมัครเล่น หากกลุ่มสนทนาในความถี่ ใช้คำแสลงเช่น จ๊าบเลย/ เนียนๆ / ฯ ผมจะไม่ห้าม แต่จะไม่พูดตาม หรืออาจตอบสั้นลงเพื่อให้การสนทนาไม่ไปไกล หมายถึงฟังได้แต่ไม่คล้อยตาม ถ้าการแสดงคำแสลงนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ(แฟชั่นวิธีพูดอย่างหนึ่ง) ผมจะแจ้งลงจากความถี่หรืออ้างมีธุระขอหมดข้อความ โดยไม่ว่าใคร(เอาแต่ตัวเองตัวรอด)...

-กฏนักวิทยุสมัครเล่นห้ามติดต่อสื่อสารกับนักวิทยุนอกระบบ.. อย่างไรก็มีหลงเข้ามาทักทายหรือหยอกล้อ หรืออวดภูมิ ฯ อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ ...ซึ่งถ้าเป็นเหตุการณ์ของผมๆจะตอบแบบรักษามารยาท คือถามคำ-ตอบคำ...แต่หากเป็นการถามข้อมูล ถามคำ-ผมตอบสองคำ ไม่มีกันเองกว่านั้นในสถานการณ์เพิ่งรู้จักนั้น ความหมายคือในหน้าที่นักวิทยุฯ ได้ฝ่าฝืนกฏห้ามติดต่อกับนอกระบบระยะสั้นๆ ไม่หยุดทันที เพราะไม่ต้องการสร้างปรปักษ์ต่อระบบที่ใช้อยู่..คือไม่สามารถรังเกียจใครๆที่ใช้ภาษาเดียวกันในการสื่อสาร...ยกเว้น....การโกหก เช่นเมื่อเขาถามข้อมูลสถานี ผมจะตอบตรงความจริงเพื่อนำไปก่อน และถามเขากลับ ซึ่งส่วนใหญ่จะโกหก มากกว่าปฏิเสธให้ข้อมูล เมื่อผมรู้ว่าการถาม-ตอบ คือ..จริงไป-โกหกกลับมา...ตรงนั้นก็จะตำหนิบอกเป็นการเอาเปรียบแลกเปลี่ยนข้อมูล แจ้งหยุดข้อความ...คือวิธีปฏิบัติตลอดมา และคิดว่าเหมาะสมแล้วในสังคมแบบนั้นคือ ไม่ตัดสินใครจนกว่าจะพบเหตุ คือทางออกที่จะรังเกียจกัน ไม่ใช่ด้วยตามหลักการหรือระเบียบนักวิทยุฯ ที่ให้หยุดทันทีครับ..

-นำเรื่องนี้มาเป็นตัวอย่างว่า ผมไม่พิมพ์ตอบหรือว่าใครที่ใช้คำผิด เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ดูแล...แต่ผมอาจจะไม่ปล่อยให้คำแสลงนั้นสร้างรูปแบบหรือตัวอย่าง โดยเริ่มรับคำถามคำ-ตอบคำ(เมื่อได้อ่านคำตอบที่มีคำแสลง) ถ้ามองดูว่าผมเป็นตัวละครร่วมในการสร้างผลงานให้คำแสลงนั้น ได้แสดงนำ ก็จะหยุดข้อความ ใช้หลักว่าตบมือข้างเดียวไม่ดังครับ....

-หลายสิบปีก่อน สิ่งที่อาจเจอได้ทั่วไปในที่สาธารณะเช่น ทางเดิน /ถนน/สวน คือ(อึ)หมา พลาดเหยียบก็คือเหตุที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ...เดี๋ยวนี้เกือบจะไม่มีแล้วครับ...เป็นการพัฒนาตามรูปแบบสังคม นำเข้าเช่นกัน...ผลก็ทำให้แวดล้อมดีขึ้น หรือทุเลาเรื่องได้มาก โดยไม่ใช่คิดเองหรอกครับ...

-ทั้งหมดเป็นตัวอย่างวิธีที่เคยใช้งานและคิดเองว่า อย่างน้อยก็คือการระวัง หรือการคิดก่อนพิมพ์ /พูด...คือหน้าที่ของคนในสังคมครับ....

-การออกอากาศด้วยคำแสลงเพื่อโชว์แนวคิดโหลให้โดดเด่นเหมือนชาวบ้าน มีผลไม่มากเกินควบคุม เพราะเป็นแฟชั่นที่ไม่มีเงินมาเกี่ยว แต่คำแสลงในวงการรถยนต์ มีผลประโยชน์เงินปนอยู่ด้วย หรือใช้เพื่อให้เกิดผลการ(หลอก)ขายหรือ แสดงความเป็นจุดเด่น หรือตัวเร้งเร้าครับ...

-ขอให้สังเกตว่า การอธิบาย คือการหวังให้เข้าใจ ไม่ใช่หน้าที่เพราะไม่ได้เงินจ้าง สมัครใจระดับ "ห่วง" โรคติดต่อขยายตัวเท่านั้น ไม่ใช่หมอรักษาหรือช่างแก้ไข/ซ่อม ...ซึ่งเป็นหน้าที่ในอนาคตของใครสักคนที่ได้อำนาจพอจัดการเรื่องนี้....ตอนนี้ผมเพียงยกตัวอย่างให้มีน้ำหนัก และเพียงขอความร่วมมือครับ....


 แก้ไขเมื่อ : 29/10/2559 5:50:27





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.194.136 พฤหัสบดี, 27/10/2559 เวลา : 06:58  IP : 49.48.194.136   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78337

คำตอบที่ 149
       -เวปวีคเอนด์ตรงนี้ กับตีนโตตรงโน้น มองดูมีสมาชิกส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มเดียวกัน กระโดดไปกระโดดมา ผมก็เลยด้วย(สนุกดีเหมือนกัน) อย่างน้อยก็ได้เห็นสินค้าเพิ่ม และนำผลมาเทียบเคียงได้ด้วยครับ

-วีคเอนด์ ฮอบบี้ ตรงนี้ สุภาพขึ้นกว่าในอดีตเยอะ เห็นง่ายๆคือการชิม/ดม/ล้อ/เชียร์ /แช่ง..ฯ ..หายไปเยอะ และสงบหรือวางเฉยมากกว่าเดิม(มาก) ..

-และมากกว่าเวปตีนโตในตอนนี้เช่นกัน (เพื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกัน)...ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงทีตรงนี้ จึงไปในทางพัฒนาเพื่อเป็นกลาง(ที่ดี/ถูกต้อง) หากปล่อยให้เอนไปทางเอื้อต่อกลุ่มแนวใดแนวหนึ่ง ก็จะเหมือนประสบการณ์ตอนหนึ่งของนักวิทยุสมัครเล่น ซึ่งพัง/ไม่นิยมอีกต่อไป เพราะขาดความเป็นกลาง จึงเป็นทางออกหรือช่องแสดงตนของใครก็ได้ ที่จับกลุ่มได้จำนวนมาก...เรื่องเศร้าคือ ในช่องทางสากล(HAM) จึงเหมือนส่งหวีให้ลิงเล่นจนเลอะเสียของไปเลย...ทำนองนั้นครับ...

-ผู้ที่กระโดดไปมา 2 เวป.. คงเข้าใจสิ่งที่ผมอธิบาย หากเปรียบเทียบคุณภาพ ก็ต้องทราบระดับที่มาตราฐานกว่าในฐานะเป็นสื่อตามเจตนารมณ์กว่ากัน... อย่างน้อยงานแบบสากล ก็เคยพิสูจน์ระดับผลให้นักวิทยุฯไทยที่ผ่านเวลามาถึงตอนนี้ทราบว่า เหมือนลิงในภาพรวมจริงหรือไม่(ขอคำตอบในใจ) และนีคือคำเตือนเส้นทาง ที่พิมท์ที่เวปตีนโต(โดยตรง)ไม่ได้ครับ...

-หมายเหตุว่า นักวิทยุฯไทย คงเคยได้รับข่าวสารตีพิมพ์ในสมัยก่อน คงเคยเห็นเด็กวัยม.ต้นของญี่ปุ่น (มีสิทธิ)ใช้เครื่องBASEได้ในแอคชั่น.. และคงเคยอ่านเรื่อง EME ของชาวอิตาลี ใช้กำลังส่งเป็นกิโลวัตต์อย่างเสรี(ของไทยอนุญาต 10 วัตต์ไว้แค่สูดดม ..แต่คุย/วางตัวเท่าเขา เหมือนทิ้งรอยไว้ให้คนทั่วไปเห็นวิธีของไทย) หลังน้ำท่วมใหญ่ สถานี HS0AC ของชาวต่างชาติที่มาเปิดสถานีให้บริการแบบศูนย์ควบคุมค่ายประจำหวัดต่างๆ(ใบอนุญาตมีใช้ เดิมคือให้สูงได้ 60 เมตร เครื่องBASE รุ่นเดียว) ซากเครื่องมือที่พังเพราะจมน้ำที่สถานี HS0AC หลายรุ่นและสถานีสูงกว่า 60 เมตร ตามข่าว ผมจึงทราบความเป็นลิงตั้งแต่ตอนนั้นเอง ท่านอื่นคงในที่สุดก็รู้เหมือนกัน ช้าหรือเร็วเท่านั้นครับ...

 แก้ไขเมื่อ : 29/10/2559 5:34:19





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.194.136 ศุกร์, 28/10/2559 เวลา : 18:50  IP : 49.48.194.136   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78340

คำตอบที่ 150
       -ตั้งใจที่จะหมดข้อความในคต.นี้แล้วครับ...

-เมื่อดูสารคดี BUGGATI VEYRON ขออนุญาตชี้นำว่า...ทีมสร้าง VEYRON ที่มีบทพูดแสดงความเห็นในแต่ละตอน คือเป้าหมายตามครับ..

-คือการมีส่วนร่วม(ทีม)สร้างผลงานระดับโลก เป็นเกียรติระดับสูงของอาชีพนั้นๆ ส่วนตำแหน่งที่ได้รับเลือกเป็นทีม คือพื้นฐานเดิมก่อนได้โอกาสสำคัญ หมายถึงเป็นคนพิเศษที่ถูกเลือกมาปฏิบัติการ โครงการท้าทายตำแหน่งหนึ่งของโลกครับ..

-ในข้อความตอนหนึ่ง ผมชี้ว่าเงินมีค่าเกินกว่าคุณค่าผลงานในไทย หมายถึงการ(ย้ง)เลือกเป้าหมายต่ำ(อยู่) คือผิดต่อความตั้งใจก้าวหน้าครับ....

-กว่า 30 ปีที่แล้ว รพ.ประจำจังหวัดที่ผมอยู่ มีผลงานบริการเทียบเคียงต่ำกว่ารพ.ของเอกชนทั่วไป เป็นคำกล่าวให้ทำใจก่อนก้าวเข้ารับบริการ เป็นเรื่องที่ต้องรับให้ได้(ทน) เพราะช่องทางจ่ายน้อยมีแค่นั้นครับ...

-ในปัจจุบัน รพ.ประจำจังหวัดที่ผมอยู่ เปลี่ยนไปมาก ดีขึ้นอย่างมากในทุกๆด้าน และดีกว่ารพ.เอกชน ร่วมสมัยเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบคุณภาพหรือผลงาน หมายถึงมีสิ่งหนึ่งก้าวหน้า และอีกสิ่งย่ำอยู่กับที่..โชคดีของคนไทยส่วนใหญ่ที่แขวนสุขภาพไว้กับสิ่งที่ก้าวหน้านั้นครับ

-คงเหมือนโครงการ VEYRON ชึ่งเป็นทีมบุคคลสำคัญ ซึ่งหากค้นคว้า ก็คงหารายชื่อผู้อยู่เบื้องหลังในระยะก่อตัว/แก้ไขใหม่ได้ครับ...

-ตำแหน่ง/หน้าที่เกี่ยวช้อง ก็หลักการเดียวกันตลอดมา แต่ผลงานคือความสำเร็จ... ผมเห็นภาพขนาดใหญ่สูงเท่าผนังตึกอาคารสูงหลายชั้น เป็นรูปของพระสังฆราช ญาณสังวรณ์ฯ เป็นรูปยกย่อง จึงคิดว่าเป็นท่านนั่นเองในห่วงโซ่บนๆของงานพัฒนานี้ ก็ดีใจมากที่ได้เห็นบทบาทอย่างนี้ เพราะเป็นแรงทางอ้อม ที่พิเศษ คือยาก เพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรง หากมีกำลังช่วยผลักดันได้ ต้องหมายถึงความตั้งใจและบารมี(ไม่ใช่ตำแหน่ง)สูงรองรับ ซึ่งไม่เท่ากันในบุคคลระดับเดียวกันหรือทั่วไปครับ..

-.. ที่สุดก็ได้พิมพ์ชื่อพระสำคัญท่านนี้ ..ขอบคุณครับ....

------------------------------------------------

-นานแล้วในตอนที่ผมยังเด็ก แวดล้อมสอนให้สนใจการตกปลา ..การมองหาทำเล และดูรุ่นใหญ่ตกปลาและ(วิดปลา)คือดูเพื่อจำแบบอย่าง สิ่งหนึ่งที่จำได้ไม่ลืมคือ "ปลาก้าง" ซึ่งคล้ายปลาช่อน แต่ครีบปลายหางสีแดง เป็นปลา(ตะกละ) กินเหยื่อง่าย และมีอยู่ทั่วไป ไมถูกนำมาเป็นอาหาร...เวลารุ่นใหญ่ตก/จับปลาก้างได้ เขาจะหักคอแล้วโยนทิ้งบนบกให้มดจัดการ เพราะทำให้เขาเสียเวลางานหาปลา ผมยังเด็กไม่กล้าทำ ตกได้ก็โยนคืนน้ำไปครับ..

-ปัจจุบัน..ไม่รู้ยังมีปลาก้างเหลืออยู่ในแหล่งน้ำทั่วไปอีกหรือเปล่า คือไม่เห็นหรือมีใครพูดถึง...ในสังคมทั่วไปอีกครับ..

-การเลือกวิธีดำเนินขีวิต หาก(แคร์)ในประวัติศาสตร์ (เราคือผมหรือท่าน)ก็มีเป้าหมาย และเชื่อว่า ในเกือบทั้งหมดเริ่มต้นคิดในทางที่ดี..(แต่ความจริงของไทยคือ)..."ทุกคนอยากเป็นคนดี แต่การเป็นคนดีเขาเป็นกันอย่างไร"...คือปัญหาเหมือนที่ปลาก้างไม่รู้ตัวครับ....

----------------------------------

-เพิ่มข้อความว่า...ปลาช่อนจะหลบทันทีที่เห็นคน และกินเหยื่อไม่ง่าย บางที่รู้ว่ามีปลาช่อนเคยลอยตัวให้เห็นแวบๆ แต่ปลาไม่กินเบ็ดสักทีก็มี...ส่วนปลาก้างจะกลับกันคือไม่หลบเมื่อมีคนมาแอบมอง กินเหยื่อง่าย บางทีปั้นดินเหนียวยังหุบเหยื่อก่อน(คายทีหลัง)...คล้ายแถวๆนี้เปล่า(หนอ)...

-คิดถึงชาวญี่ปุ่น 2 คนที่มาทำงานคุมงานสร้างเขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง (คำประพันธ์ของนักเขียน "ช่อลัดดา")..ชื่อคล้ายกันคือ.."มิโต มิก้าโช"...และ..."โตมิโต กูโชดะ"...คล้ายแถวๆนี้เหมือนกันเปล่า(หนอ)..

------------------------------------------

-ขอเพิ่มข้อความสำคัญอีกท่อนหนึ่งครับ...

-วงดนตรี "คาราบาว" คือทีมงานที่สร้างสถิติใหม่หรือลบสถิติเก่า หลายหัวข้อ ผมคิดเองว่าระดับงานและความเป็นไปของทีม คล้าย THE EAGLE วงระดับโลก...ซึ่งมีนักดนตรีเก่งรวมตัวกัน/จับมือกันได้นาน สร้างผลงานและอยู่ในความนิยมนาน(มาก) มองว่าแนวทางคล้ายกันครับ...

-เป็นความสามารถของพวกเขา และเป็นความโชคดีของคนไทยที่มีวงดนตรีแบอย่าง/ระดับนี้เกิดขึ้นในไทย..เป็นความสำคัญอย่างหนึ่งในประวัติศาสตร์ของไทยครับ...

-แต่ที่สำคัญที่สุด เท่าที่เคยมีมา คือผู้นำประเทศ ที่ทรงอำนาจหาใครเทียบไม่ได้ในเส้นทางทำงาน และจับมือกันลงตัว/ยาวนาน เป็นความโชคดีของผม ที่เห็นของมีค่าท่ามกลางของปลอมในไทยมาตลอดชีวิต ผมอยากนำความเห็นของผม มาวางให้ท่านอื่นๆลองคิดตามดู เผื่อจะนิยมเหมือนผมแต่ลืมๆ ให้ระดับคุณค่า(ทีสุด)...

-ทั้งสามแท้(จริง) อยู่ช่วงชีวิตที่ผมเห็น และได้เอ่ยตำแหน่ง/นามท่านไว้ในกระทู้นี้ด้วย ก็ด้วยความเต็มใจ อยากเพียงชี้ให้ท่านลองคิดตามดูด้วยเท่านั้นครับ...

-สองท่านได้จากคนไทยไปแล้วอย่างอาลัยยิ่ง เหลือหลักที่สาม ก็คงปลายทางของหน้าที่ต่อชาติเช่นกัน..เป็นผู้ลบสถิติบารมีและอำนาจด้วยความรับผิดชอบที่เหนือกว่าใครๆทำผลงานไว้ (ในภูมิยศที่ต่ำกว่า) ทำให้อำน่ว่าตือระดับสากลได้อีกขั้วหนึ่งได้(ไม่ใช่แบบเช่น ป.โทไทยเท่ากับมัธยมปลายนอก)...เป็นผู้ที่ปรับแก้คำขวัญวันเด็กไทยในปีหนึ่ง อย่างรู้จักอนาคต เพราะเหมาะเป็นเป้าหมายให้คนไทยในเวลานี้อย่างยิ่งครับ....

-คาราบาว คือตำนาน(จริง)ของไทย ...เป็นความสำคัญหนึ่ง ..ดังนั้น (ทุกคน)ก็ไม่ควรลืม "สำคัญที่สุด"(เท่าที่เคยมีมา) ด้วยครับ......

 แก้ไขเมื่อ : 3/11/2559 3:41:49

 แก้ไขเมื่อ : 3/11/2559 6:50:12

 แก้ไขเมื่อ : 4/11/2559 3:36:17



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.194.136 เสาร์, 29/10/2559 เวลา : 06:37  IP : 49.48.194.136   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 78341

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพุธ,4 ธันวาคม 2567 (Online 7273 คน)