คำตอบที่ 1
เอาปัญหาก่อน.....
อย่างแรกขึ้นอยู่กับคนจูนเป็นหลัก หากจูนเนียน อาการที่เจอ จะน้อยมาก (...แต่ก็เจอแน่นอน โดยเฉพาะ ยิ่ง Mixed gas มากขนาดไหน ยิ่งจูนให้เนียนยากมากขึ้น ขนาดนั้น) และ รองลงมา คือ อัตรา Diesel ที่ผสมกับ Gas เช่น Diesel/Gas 70/30 หรือ 80/20 หรือ 90/10 ...ก็ว่ากันไป
แต่อย่างที่บอกครับ ยิ่ง mixed gas เข้าไปมากเท่าไหร่ อัตราการเกิดปัญหา และความเนียนในการจูนก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ..โดยปัญหาแรกๆ ของการจูนเลยก็คือ เครื่องจะเขก โดยเฉพาะรอบเครื่องเริ่มสูง หรือช่วงเปิดคันเร่ง เพื่อเรียกแรงบิดออกมาใช้งาน ..และ ผมยังไม่เคยเห็นว่า mixed gas ได้เกินกว่า 30% ต่อ Diesel 70% ได้เลยสักกะราย และมันก็เขกซะทุกทีไป....
ส่วนความประหยัด ....มาเทียบให้ได้อย่างนี้
ตอนนี้ Diesel ธรรมดา ตราลูกไฟ อยู่ที่ 30 บาท / ลิตร (..เอา ตัวเลขกลมๆ)
และ NGV อยู่ที่ 9 บาท / กก. แล้วกัน
หากวิ่งด้วยระยะทางเท่ากัน อนุมานเป็นว่า รถผม วิ่งได้ 10 กม./ลิตร
หาก Diesel เพียวๆ ..แสดงว่า ผมใช้ เงิน 30 บาท วิ่งได้ 10 กม. ตก กม. ละ 3 บาท
และ Diesel mixed gas NGV 70/30 ผมเอาว่าวิ่งได้เท่ากัน แสดงว่า ผมใช้ Diesel 0.7 x 30 บาท = 21 บาท และ NGV 0.3 x 9 บาท = 2.7 บาท ซึ่งหากวิ่ง 10 กม. จะใช้เงิน 21+2.7 บาท = 23.7 บาท ตก กม. ละ 2.37 บาท
อืมมมมม .....ประหยัดกว่า Diesel เพียว ตั้ง 3-2.37 = 0.63 บาท ต่อ 10 กม.
หากวิ่งต่อเดือน ที่ 2000 กม. จะมีส่วนต่างอยู่ที่ (2000 / 10 กม.) x 0.63 บาท = 126 บาท ต่อเดือน ...คิดเป็นต่อปีได้เป็น 126 บาท x 12 เดือน = 1512 บาท ต่อปี !!
การติดระบบ Mixed Gas ลงทุนเครื่องใหม่ประมาณ 35000 บาท ..ดังนั้น หากวิ่งเดือนละ 2000 กม. จะคุ้มทุนที่ 35000 / 1512 = 23.148 ปี หรือ 23 ปี 2 เดือน !! ....คุ้มไหมเนี่ย ....???
เอ้า ผมยังไม่ท้อ ....ผมเอาไปติดเพื่อวิ่งส่งของ ไป-กลับ เชียงใหม่ - กรุงเทพฯ ทุกเดือน เดือนละ 5 เที่ยว ได้ระยะทางต่อเดือน ที่ 8000 กม.
หากวิ่งต่อเดือน ที่ 8000 กม. จะมีส่วนต่างอยู่ที่ (8000 / 10 กม.) x 0.63 บาท = 504 บาท ต่อเดือน ...คิดเป็นต่อปีได้เป็น 504 บาท x 12 เดือน = 6048 บาท ต่อปี...
จะคุ้มทุนที่ 35000 / 6048 = 5.78 ปี หรือ 5 ปี 9 เดือน !! ....อ้า เริ่มใกล้เคียง ดังนั้น ต้องวิ่งรถให้ได้เกิน 6 ปีขึ้นไป ถึงจะได้กำไร ในปีที่ 7 เป็นต้นไป
แต่ การประเมินค่าเสื่อม หากเอารถมาวิ่งเพื่อ ธุรกิจ ...จะต้องคุ้มทุนที่ 5 ปี หรือ 6 ปี เต็มที่ ....เพราะ หลังจากปีที่ 5 ค่าเสื่อม หรือ ค่าซ่อมบำรุง จะแพงเกินราคารถ ดังนั้น หากจะให้ได้กำไร เร็วขึ้น ...ต้องเพิ่มเที่ยว ต่อเดือน ..... เอ้า เพิ่มเที่ยว เว้ยยย ...หาตังค์ๆๆ !!
ผมคิดอีก ให้มันวิ่งไปกลับ กรุงเทพ-เชียงใหม่ เป็น 10 เที่ยว ต่อเดือน (....ไปกลับทุกๆ 3 วัน ...คนขับไหวป่าววะเนี่ย !! รึรถจะวิ่งไหวไหม??? ...ไม่รู้ ช่างมัน !!) ได้ระยะทางต่อเดือน ที่ 16000 กม.
หากวิ่งต่อเดือน ที่ 16000 กม. จะมีส่วนต่างอยู่ที่ (16000 / 10 กม.) x 0.63 บาท = 1008 บาท ต่อเดือน ...คิดเป็นต่อปีได้เป็น 1008 บาท x 12 เดือน = 12096 บาท ต่อปี...
จะคุ้มทุนที่ 35000 / 12096 = 2.89 ปี หรือ 2 ปี 11 เดือน !! ....เอ้อออ เว้ย ใช้ได้ๆดังนั้น ต้องวิ่งรถให้ได้ 10 เที่ยว กรุงเทพ-เชียงใหม่ คือ ไป-กลับ ทุกๆ 3วัน รวมวันเดินทาง ถึงจะคือทุนในปีที่ 3 ....โดยอีก 2-3 ปี เราปล่อยรถทิ้งแน่ๆ เพราะต้องการหนีค่าเสื่อม...
เราจะได้กำไร ตรงส่วนนี้ แค่ 12096 x 3 ปี = 36228 บาท (ผมคิดว่าผมจะใช้รถ 6 ปี แล้วปล่อย) เท่านั้น ...หากหักอัตราเงินเฟ้อต่อปีที่ 6.28% จะเหลือกำไร 36228 - (36228 x 6%) = 34050.72 บาท หรือ ได้กำไรแค่ 34000 - 35000 บาท โดยประมาณ เท่านั้น
..... อันนี้ ผมคิดในแง่ "ดี ทุกอย่าง" คือ คิดดว่า ติดแล้วเนียนกริป วิ่งได้เหมือนรถเดิมๆ แป๊ะ ไม่มีปัญหา และไม่ซ่อมบำรุงระบบ Mixed gas เลยตลอดระยะเวลาใช้งาน 6 ปี อ้อ ...ไม่มีค่าน้ำมันเครื่อง ค่า กรองน้ำมันเครื่อง ค่าสายพานไทมม์มิ่ง สายพานอื่นๆ น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย ....และ mixed ที่ 70/30 นะครับ หาก mixed น้อยกว่านี้ ...วานทวนกลับไปคิดตามข้างบนเอาเองอีกรอบ.....
ที่เหลือ คิดอเอาเองนะครับ ว่า ....ลงทุนในระบบ Mixed Gas ดีใหม??
ทิ้งท้าย.....
หากผมทำธุรกิจ ต้องวิ่งรถขนาดนี้ .....เป็นผม ผมเล่น NGV เพียวแน่นอนครับ !!! (.....หากใครเคยอ่านกระทู้ผมเมิ่อนานมาแล้ว ..ผมเคยเปรียบเทียบความคุ้มค่าไว้แล้ว.....)
ก้อว่ากันไป๊ .... !!!
แก้ไขเมื่อ : 20/1/2554 20:24:03
แก้ไขเมื่อ : 20/1/2554 20:25:11
แก้ไขเมื่อ : 20/1/2554 20:29:38